หน้าหลัก / รักโบราณ / ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน! / ตอนที่10 อาหารเริสรสเหมาะกับคนหน้าตาดีเท่านั้น

แชร์

ตอนที่10 อาหารเริสรสเหมาะกับคนหน้าตาดีเท่านั้น

ผู้เขียน: จันทร์ส่องแสง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-11 13:32:39

” หากบิดาเจ้ารู้ว่าเจ้าขโมยสุราจะไม่ถูกตำหนิหรือไร “

” แค่สุราร้อยปี ที่บ้านโจวของเรามีสุราพันปี หมื่นปีมากมายเหลือคณานับ อีกอย่างข้าหยิบมาแค่ไหเดียวไม่มีใครรู้หรอกฮ่าฮ่าฮ่า “

เสี่ยวอี้ถือไหสุราเข้ามาในครัวส่งให้เสี่ยวหนี่หมักปลาด้วยสุราร้อยปี เกลือ และพริกไทยเล็กน้อย

"ปลาต้องทอดให้ผิวนอกกรอบ เนื้อในยังนุ่ม" เสี่ยวหนี่กล่าว

เสี่ยวหนี่ใช้ผ้าป่านซับปลาให้แห้ง ก่อนคลุกแป้งที่ทำจากข้าวสาลีบาง ๆ แล้วนำลงทอดในน้ำมันร้อนจัด เสียงน้ำมันแตกดัง "ฉ่า"อีกครั้ง ไม่นานต่อจากนั้น ปลาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง กลิ่นหอมลอยเตะจมูก เมื่อเสี่ยวหนี่ตักปลาขึ้นมาพักไว้ ผิวนอกกรอบกรุบ แต่เนื้อข้างในยังดูฉ่ำขาว

คราวนี้เสี่ยวอี้ถึงกลับลอบกลืนน้ำลายและสองคนแม่ลูกข้าวจี่พากันย้ายก้นเข้ามาในครัวคงได้กลิ่นหอมของปลาทอด

“ปลาทอดหรอกรึ วันนี้เจ้าทำปลาทอดหรอกรึ” ฮูหยินโจวพูดขึ้น

“ไม่ใช่สำหรับพวกท่านและนี่คือปลาสามรสแบบโบราณ และข้าไม่ได้ทำเพื่อท่านนี้สำรับท่านพ่อและข้ากับเสี่ยวอี้ที่ไปตกปลามาเท่านั้น” จี้เหวินกัดฟันแน่น

เสี่ยวหนียิ้มของดีดีเหมาะกับคนที่ควรคู่เท่านั้น และคนที่ควรคู่หรือไมเสี่ยวหนี่เป็นคนคัดสรร

“เจ้าไม่ให้เรากินแต่ให้คนเร่ร่อนคนนี้ได้ชิมอย่างนั้นหรือ” ตงเจี้ยนขยับตัวด้วยความอึดอัด

“เขาคือแขกของข้า ถอยไปหน่อย จวนจะได้เวลาอาหารของท่านพ่อแล้วข้าจะปรุงซอสสำหรับราดบนเนื้อปลาทอด พวกท่านหากอยากลองชิมก็ควรพูดกับข้าดีๆ ไหม” ตงเจี้ยนถอนหายใจรู้สึกขอบคุณเสี่ยวหนีที่เห็นเขาเป็นแขกและปกป้องเขา

ฮูหยินโจวกัดฟันแน่น

“ข้าเป็นแม่ใหญ่ของเจ้าและนี่คือพี่สาวเจ้า เป็นเจ้าที่ต้องวปฏิบัติกับเราดีดหน่อยมิใช่หรือ” เสี่ยวหนี่ส่ายหน้าไปมา

“นั่นมันปัญหาของท่านข้าไม่ได้อยากจะให้ท่านทำอะไรให้ข้ากินเสียหน่อย จำเป็นด้วยหรือ” เสี่ยวเหวินมองสบตากับมารดาสายตาแค้นเคือง

เสี่ยวหนี่ที่ตอนนี้ใช้สมาธิและจดจ่ออยู่กับการทำอาหาร ตั้งกระทะใหม่ ใส่น้ำมันเล็กน้อย ลงมือผัดขิงและกระเทียมให้หอม จากนั้นเติมน้ำตาลกรวด ซีอิ๊วขาว น้ำส้มสายชูดำ และน้ำซุปเล็กน้อย เคี่ยวจนน้ำซอสเริ่มข้นเหนียว

"สีเข้มสวยกำลังดี" เสี่ยวหนี่พยักหน้าก่อนนำปลาที่ทอดแล้วลงไปคลุกเคล้ากับซอส ให้ซอสเคลือบทั่วตัวปลา

"สุดท้าย โรยต้นหอมและพริกชี้ฟ้าแดงหั่นเส้น ทาด๊า! “

ปลาสามรสราดซอสเปรี้ยวหวานในจานสวยไม่ใช่แค่รสชาติหน้าตาของอาหารก็สำคัญ จี้เหวินกลืนน้ำลายลงคอเอือกใหญ่ก็ทั้งรูปรสกลิ่นเสียงยั่วน้ำลายสิ้นดี แต่ต้องทำใบหน้าเชิดหยิ่งและเดินออกจากห้องครัวทั้งแม่ทั้งลูก

“ข้าจะไม่ทนกับนางลูกอนุคนนี้อีกแล้ว” ฮูหยินโจวที่พูดขึ้นก่อนทั้งๆ ที่จี้เหวินอยากจะพูดประโยคนี้ก่อนด้วยซ้ำ

“รอโอกาสงามๆ เราค่อยจัดการนางเสีย ตอนนี้รอให้ท่านพ่อตายใจ” สองแม่ลูกจากไปแล้วพร้อมกับความแค้นแคือง

เสี่ยวหนี่หันหน้ามาดูเสี่ยวอี้ที่รับหน้าที่เคี้ยวน้ำซุปแทนมาตลอด เห็นน้ำซุปค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีขาวข้นเหมือนน้ำนมอย่างที่ตั้งใจ

เสี่ยวหนี่ยิ้มแป้นจากนั้นจึงใส่เต้าหู้ขาวที่เสี้ยวอี้หั่นเต๋าเตรียมไว้ลงไป เคี่ยวต่อให้เต้าหู้ดูดซับรสชาติของน้ำซุปในเนื้อ สุดท้ายเติมเกลือและพริกไทยขาวเล็กน้อย ก่อนโรยหน้าด้วยต้นหอมซอยเพื่อตกแต่งสีสันเหมือนเดิม

"เสร็จแล้ว ซุปนี้ช่วยบำรุงกำลังและอบอุ่นร่างกาย ท่านพ่อต้องชอบแน่" เสี่ยวอี้ยกนิ้วให้ ส่วนตงเจี้ยนเข้ามาชะโงกมองน้ำซุปปลาน้ำนมสีขาวขุ่นเหมือนน้ำนมแต่ไร้กลิ่นคาวแล้วยังหอมยั่วน้ำลายอย่างประหลาด อีกจานคือปลาสามรสที่เนื้อปลาทอดสีเหลืองทองที่ถูกคลุกเคล้าด้วยซอสที่เคี่ยวจนเข้มข้น ทั้งกลิ่นหอมและหน้าตาอาหารชวนลิ้มลอง หันไปวางสำหรับที่จัดเตรียมไว้สำหรับคนสามคนนั้นคือตัวเองเสี่ยวอี้และตงเจี้ยน

“ท่านคนเร่ร่อนรอข้าที่นี่เราจะได้กินพร้อมกันอย่าแอบชิมก่อนน้า ข้าจะมาเมื่อเสิร์ฟสำหรับอาหารให้กับท่านพ่อเรียบร้อยแล้ว” พูดยิ้มๆ พยักหน้ากับเสี่ยวอี้ยกสำรับอาหารยังห้องนอนของโจวหลิวเยว่

ตงเจี้ยนกอดอกหลับตาคาดเดารสชาติอาหารว่าจะรสดีเพียงใดในเมื่อหน้าตาของอาหารและกลิ่นหอมของอาหารที่วางข้างหน้าช่างยั่วใจ ราวกับว่าเสี่ยวหนี่เดาใจเขาถูกนางจึงปรามเขาทีเล่นทีจริงว่าไม่ให้แอบชิม

ที่โต๊ะอาหารเสี่ยวหนี่และเสี่ยวอี้จัดสำรับอาหารวางบนโต๊ะให้เรียบร้อย ซุปปลาน้ำนมในถ้วยเคลือบขาวไอร้อนสีขาวขุ่นลอยอ้อยอิ่งขึ้นจากถ้วยเคลือบงาม น้ำซุปข้นดุจน้ำนม กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของขิงลอยแตะปลายจมูก เต้าหู้ขาวนวลเนียนลอยเด่น ตัดกับสีเขียวของต้นหอมที่โรยประดับอย่างลงตัว

:transparent;color:#000000;">และยังมีปลาสามรสโบราณในจานลายมังกร ปลาทอดตัวใหญ่ทอดจนเหลืองทอง เนื้อกรอบนอกนุ่มในที่ถูกชโลมด้วยซอสสีอำพันข้นเหนียวจนเนื้อปลาขึ้นเงาราวกับหยาดน้ำผึ้งต้องแสงอาทิตย์ กลิ่นหอมของซีอิ๊วและน้ำส้มสายชูดำผสมกันอย่างลงตัว ท่านพ่อยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นอาหารตรงหน้าทั้งยังมีอาหารเครื่องเคียงอื่นๆ อีกมาก พยุงโจวหลิวเยว่ยังโต๊ะอาหารที่จัดวางไว้แล้ว

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่11 หิวเมื่อไหร่ก็แวะมา

    "มื้อนี้ก็เป็นเจ้าเป็นคนทำเองหรือ? หนี่เอ่อร์" ท่านพ่อถามขึ้น เสี่ยวหนี่หัวเราะเบา ๆ ก่อนตอบว่า"จะว่าคนเดียวก็ไม่ถูกนักมีเสี่ยวอี้ช่วยเป็นลูกมือข้าเจ้าค่ะ ข้าไปตกปลากับเสี่ยวอี้ได้ปลาตะเพียนตัวใหญ่เพื่อให้ท่านพ่อได้กินอาหารอร่อยๆ และดีต่อสุขภาพด้วย “เมื่อโจวหลิวเยว่ได้จ้วงช้อนลงไปตักเต้าหู้ขึ้นมาพร้อมน้ำซุปร้อนๆ เนื้อเต้าหู้อ่อนนุ่มจนแทบจะละลายในปาก เมื่อได้ซดน้ำซุปข้นๆ ที่หอมขิงอ่อนๆ ตามไปคิ้วที่ขมวดกลับคลายออก "น้ำซุปข้นกำลังดี เนื้อเต้าหู้อ่อนนุ่มข้างในยังเข้มด้วยรสชาติหวานหอมไร้กลิ่นคาว “รสหวานนั้นได้มาจากการเคี่ยวหัวปลาและดึงความหอมหวานส่งต่อเข้าไปในเนื้อเต้าหู้ รสชาติเต้าหู้จึงหอมหวานกลมกล่อม ขิงช่วยทำให้กลิ่นคาวหายไปส่วนปลาสามรส เมื่อโจวหลิวเยว่ใช้ตะเกียบฉีกเนื้อปลาออก กลิ่นหอมยิ่งแตะจมูกเนื้อข้างในฟูขาวแต่ข้างนอกกรอบเหลืองสวยกำลังดี เพียงกัดไปคำเดียวก็พยักหน้าซอสรสหวานเปรี้ยวและเค็มและเผ็ดนิดๆ ที่ซึมเข้าสู่เนื้อปลาทุกอณู กลายเป็นรสชาติที่ผสานกันอย่างลงตัว"รสชาตินี้ยากจะมีใครเหมือน"เสี่ยวหนี่ยิ้มกว้าง แม้ว่าจะยังไม่ได้เป็นแม่ครัวที่เก่งกาจนัก แต่การได้เห็นคนสำคัญของตนมีค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-11
  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่12มีไหมคนที่ทำของอร่อยถูกใจ

    กระทั่งฟ้ามืดหัวหน้าองครักษ์ตงเจี้ยนกลับมาถึงค่ายพักช้ากว่ากำหนดเล็กน้อย ร่างสูงในชุดดำเดินผ่านแนวทหารเวรยามอย่างเงียบขรึม ในมือยังถือกล่องไม้ชั้นเดียวสำหรับใส่อาหาร หากกลิ่นหอมของข้าวและปลาสามรสภายในกลับลอยแตะจมูกแม้ผ่านกล่องไม้หยางลี่ก็นั่งอยู่ใต้ต้นดอกเหมยข้างกระโจมใหญ่เหมือนกันกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ดวงตาคู่คมทอดมองตงเจี้ยนที่เดินเข้ามาหาเงียบๆ โดยไม่กล่าวทักทาย “ถวายพระพรฝ่าบาท”หยางลี่เลิกคิ้วเล็กน้อยแต่ไม่ใช่เพราะตัวตงเจี้ยนหากแต่เป็นกล่องไม้ในมือของตงเจี้ยน มองย่างพินิจพิเคราะห์ถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย“เจ้าไปเจออะไรน่าสนใจมาหรือ” น้ำเสียงเรียบเย็นของหยางลี่เอ่ยถามขึ้นขณะมองตรงไปยังกล่องอาหารตงเจี้ยนประสานมือ “ของฝากพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท… แม่นางน้อยผู้หนึ่งจากตระกูลโจวให้ข้ามา นางกลัวว่าข้าจะหิวระหว่างทาง”คำตอบนั้นทำให้หยางลี่นิ่งไปครู่หนึ่ง ดวงตาคล้ายมีรอยครุ่นคิด หยางลี่หลุบตาลงช้าๆ คิดถึงเสี่ยวหนี่ขึ้นมาคำพูดของเสี่ยวหนี่ที่กลัวว่าเขาจะหิวระหว่างทาง ใบหน้าเปื้อนยิ้ม เสียงหัวเราะและถ้อยคำแปลกหูของจอมยุทธน้อยที่ยังรู้สึกประทับใจ แต่กลับเป็นอีกคนที่แนะนำตัวอย่างชัดเจนว่าเป็นบุ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-12
  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่13เขาคือฮ่องเต้

    เมืองโจวเมืองโจวในหุบเขาตะวันตกเป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ ที่ไร้ชื่อเสียงในแผนที่ของแคว้น แต่กลับมีเสน่ห์เกินใคร ผืนไร่ชาที่ไล่เรียงลดหลั่นตามแนวเนินเขา กลิ่นหอมของใบชาที่เพิ่งเด็ดสด ๆ คลุ้งไปกับลมเย็นจากป่าเขาที่โอบล้อมอยู่รอบเมืองลำธารใสไหลผ่านกลางหมู่บ้าน เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วแว่วอยู่เหนือยอดไม้ และทุกยามเช้า ชาวบ้านก็จะสวมหมวกฟาง เดินเข้าสวนชา หรือออกไปเก็บสมุนไพรและเครื่องเทศตามฤดูกาล บรรยากาศสงบสุข ราวกับโลกภายนอกไม่เคยแตะต้องณ กลางเมืองนั้นเอง คือคฤหาสน์ตระกูลโจว เรือนไม้หลังใหญ่ราวกับจวนอ๋องกระนั้นที่ทอดยาวลึกเข้าไปจนสุดเนินเขา ล้อมรอบด้วยสวนหิน ธารน้ำพุร้อนไหลผ่าน และซุ้มดอกไม้ กลิ่นหอมของบุปผาและเครื่องเทศอบอวลในอากาศไม่เคยจางในสวนหลังบ้าน ตรงเรือนพักกลางที่ล้อมด้วยเถาองุ่น จ้าวบ้านใหญ่ของเมือง—โจวหลิวเยว่ กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ไผ่ ดื่มน้ำชาร้อนจากถ้วยแก้วบาง แม้สีหน้าจะอ่อนล้า แต่ดวงตาของเขากลับอ่อนโยนขณะมองดูบุตรสาวคนเล็กที่กำลังรดน้ำผักริมรั้วไม้เตี้ยๆ ร้องเพลงดังของลิซ่าแบล็กพิงค์อย่างสนุกสนานหลายวันมานี่โจวหลินเยว่กลับรู้สึกว่าบุตรีคนรองที่เคยเงียบขรึมอาจจะเพราะนางถูก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-12
  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่14ถนัดด้านการขาย

    เสี่ยวหนี่หรือ "ข้าวนึ่ง"ของเรา ที่ข้ามภพมาไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ กับบทสนทนาวุ่นวายเมื่อครู่ทำเพียงแค่หยิบเมล็ดฟักทองขึ้นมาอีกเม็ด แกะเปลือกอย่างใจเย็นแล้วส่งเข้าปากเคี้ยวงับๆ“เอ๊ะ…นี่มันเข้าวังจริงเหรอ? ไม่ใช่ไปขายขนมหน้าวังใช่มั้ย จริงสินะ หากเป็นแค่การขาย….ทุกการขายรวมทั้งขายหน้าคุณหนูใหญ่จี้เหวินทำได้ดีอยู่แล้ว” เสี่ยวหนี่พูดขำๆ แววตายังระยิบระยับอย่างขี้เล่น ไม่ต้องเล่าซ้ำเพราะเสี่ยวหนี่ตะแคงหูฟังจนหูหางได้ยินชัดทุกคำ ว่าแต่มีฮ่องเต้มาบ้านทำไม่เสี่ยวหนี่ไม่รู้ หน้าตาจะเป็นแบบไหนนะฮ่องเต้คนนั้น“ข้าเห็นในละครเวลาใครเข้าวังแล้วมักไม่ได้กลับออกมาแบบครบสามสิบสองอะไรงี้... แต่ก็เอาเถอะ อย่างน้อยก็มีของกินทุกวันเนอะ แล้วอย่าลืมไปขาย….หน้าเอาผ้ารอดเอ๊ยขายผ้าเอาหน้ารอดเอ๊ย ขายหน้าเอ๊ยถูกแล้ว”“เสี่ยวหนี่…” ท่านโจวพูดเบาๆ เสียงเขาแผ่วลงราวกับลมผ่านต้นชาบนไหล่เขา “ข้ารู้ว่าข้า... ผิด ข้าไม่ควรปล่อยให้เจ้าถูกเข้าใจผิด ไม่ควรให้ใครแย่งความดีความชอบไปจากเจ้า และไม่ควรให้เจ้าเข้าไปพัวพันกับเรื่องในวังเลย”เขาหยุดไปชั่วครู่ ลมหายใจหนักหน่วงสะท้อนถึงความรู้สึกผิดที่อัดแน่นอยู่ภายใน“แต่ข้ากลัว…ข้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-12
  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่15 บ้านทรายทอง

    วังหลวงเดือนเมษายนปีถังเจี้ยนที่24เสี่ยวหนี่ในชุดนางในใหม่เอี่ยมยืนยืดอกตรงหน้าประตูวังหลวงที่สูงตระหง่านเงยหน้ามองประตูวังหลวงที่ใหญ่โตโอ่อ่าแลดูขึงขังเหมือนจะเข้าไปลุยสนามรบกระนั้น“นี่คือสถาน~ แห่งบ้านทรายทอง~ โห ยิ่งใหญ่ไปไหมอ่า ““คุณหนู!เบาๆ หน่อยเพคะ คุณหนู...ไม่กลัวหรือเพคะ”เสี้ยวอี้ที่ยืนอยู่ข้างๆ เหลือบมอง เสี่ยวหนี่หัวเราะเบาๆ พลางแกล้งสะบัดชายเสื้อ“กลัวไปก็เท่านั้น เรามาแล้วก็แค่ตั้งใจทำหน้าที่ให้ดีที่สุด”เสียงฝีเท้าของขันทีน้อยคนหนึ่งขัดจังหวะบทสนทนา “เรียนคุณหนูทั้งสาม เชิญทางนี้ขอรับ ข้าน้อยจะนำไปยังตำหนักฝึกหัดฝ่ายห้องเครื่อง ซึ่งในด่านแรกจะต้องพบกันเรือนพักพวกท่าน ของใช้ส่วนตัวที่นำมาไปเก็บๆ ไว้ที่นั่นได้เลย”เสี่ยวหนี่พยักหน้าเบาๆ พลางเดินออกหน้าตามขันทีไปอย่างสงบเรียบร้อย โดยมีจี้เหวินเดินตามหลังมาเงียบๆ แม้สีหน้าจะไม่พอใจที่ต้องมาร่วมทางด้วยกัน แต่ก็ไม่กล้าก่อความวุ่นวายกลางวังหลวงเส้นทางเดินปูหินเรียบทอดยาวผ่านสวนไผ่และแปลงสมุนไพร กลิ่นหอมของใบมินต์และขิงลอยอ่อนๆ ตามสายลม เรือนไม้ที่ประดับกระดิ่งลมขนาดเล็กตั้งเรียงรายดูอบอุ่นเป็นกันเอง จนไม่รู้สึกว่ากำลังเดิน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-13
  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่16 เพื่อน(ร่วมงาน)

    “ไปที่ลานฝึกเถอะ มีนางในฝึกหัดเช่นเดียวกับพวกเจ้ารออยู่ด้านในจะได้ทำความรู้จักเพราะต่อไปข้างหน้าพวกเจ้าจะได้พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน”เมื่อก้าวเข้าสู่เรือน เสียงจอแจและกลิ่นของอาหารหลากชนิดก็ประดังเข้ามาทันที อบเชย ขิงสด และผักสดหลากชนิดลอยอบอวลในอากาศ บรรยากาศภายในเรือนนั้นคึกคัก เต็มไปด้วยหญิงสาวในชุดผ้ากันเปื้อนหลากสี ต่างกำลังสับเนื้อ ล้างผัก บดเครื่อง หรือจดสูตรลงสมุดกันอย่างขะมักเขม้น“พวกเจ้ามากันใหม่สินะ” สาวร่างสูงหน้าคมนามว่า “หลิงเชียว” ท่าทางมั่นใจจนเกือบดูอวดดี กล่าวขึ้นก่อนใครเพื่อน“ข้า หลิงเชียว ถนัดอาหารทะเลจากชายฝั่งตะวันออก ไม่ได้โม้นะ แต่ข้าเคยเป็นแม่ครัวงานเลี้ยงระดับอ๋องมาแล้ว”“คนนี้ชื่อ ‘เฟิ่งหราน’ มาจากแคว้นใต้ ถนัดทำอาหารเผ็ดแรง พริกแห้งสามกำมือยังถือว่าน้อย” หลิงเชียวแนะนำหญิงสาวหน้าตาโฉบเฉี่ยวที่กำลังสับพริกเสียงดังอีกมุมหนึ่ง หญิงสาวร่างเล็ก ผิวขาวซีด กำลังนั่งบดเมล็ดงาเงียบๆ เหมือนอยู่ในโลกของตัวเอง ส่งเสียงแผ่วเบา“ข้า...ชื่อเซี่ยหยาเจ้าค่ะ ข้าถนัดทำของหวานนิดหน่อย..อาจจะไม่ดีที่สุดแต่ก็เป็นสิ่งเดียวที่ข้าพอทำได้.”“เซี่ยหยา ท่าทางเจ้าดูอ่อนโยนนุ่มนวลเห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-14
  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่17 ไข่เจียวหมูสับระดับเสี่ยวนึ่ง

    แม่ครัวเหม่ยซูเดินผ่านแต่ละโต๊ะอย่างตั้งใจ ให้คำแนะนำและหยุดชิมเล็กน้อย พยักหน้าให้บางคนเพื่อกำลังใจ เมื่อมาถึงโต๊ะของเสี่ยวหนี่ นางชะงักนิดหน่อยมองจานทั้งสอง“อาหารสองชนิดนี้เหมาะจะกินร่วมกัน”“เราสองคนถนัดในด้านนี้ อยู่ที่บ้านข้ามักจะปรุงจานหลักส่วนนางก็เป็นลูกมือปรุงจานรองเพื่อท่านพ่อ ครั้งนี้เราสองพี่น้องจึงอยากแสดงความตั้งใจเจ้าค่ะ เลยช่วยกันทำคนละจานเพื่อให้ท่านพิจารณา” จี้เหวินรีบพูดพร้อมกับยิ้มหวาน ก็มารดานางสั่งสอนมาให้รู้จักเลือกว่าจะเอาใจใครและคนฐานะใดที่ควรจะได้รับการปฏิบัติที่ดีจากจี้เหวินเสี่ยวหนี่ยิ้มมุมปากไม่พูดอะไร แม่ครัวเหม่ยซูเพียงพยักหน้า ไม่แสดงความเห็นก่อนตักไข่เจียวหมูสับขึ้นมาชิมเล็กน้อย ก่อนจะเปลี่ยนไปลองไก่ผัดพริก ริมฝีปากขยับเบาๆ ราวกับรับรสอย่างละเอียด“รสมือมั่นคง...เข้าใจอุณหภูมิไฟดี” นางกล่าวเรียบๆ แล้วเดินผ่านไปยังโต๊ะถัดไปเสี่ยวหนี่เพียงก้มหน้าหลบคำชมโดยไม่แสดงท่าทีมากนัก ส่วนเซี่ยหยาก็แอบส่งสายตาให้กำลังใจเล็กๆ จากอีกโต๊ะ ยิ้มดีใจด้วยที่เสี่ยวหนี่ได้รับคำชม“ขอบคุณอีกครั้งนะ เซี่ยหยา”เสี่ยวหนี่ขยับตัวเข้าหาเซี่ยหยากล่าวขอบคุณยิ้มๆ เซี่ยหยาหน้าแดงเล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-15
  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่18ไข่เจียวหมูสับกับไก่ผัดพริกน้ำมันงา

    จ้าวหลานเจียวถอยหลังไปเงียบๆ ขันทีกวงซุนเป็นคนจัดเรียงจานด้วยตัวเอง ลงมือทดสอบพิษและเลื่อนจานไปตรงหน้าหยางลี่ ตาคมเหลือบตามองจานไก่ผัดพริกหอมกับน้ำมันงาและไข่เจียวหมูสับที่กลิ่นหอมโชยแตะจมูก ส่วนของหยางซินอวี้ที่เป็นเต้าหู้ทอดผัดกับซอสเผ็ดวางอยู่ตรงหน้า หยางลี่ฮ่องเต้ก็ชะงักเพียงนิดสนใจในไก่ผัดผริกหอมกับน้ำมันงาเพราะกลิ่นหอมของพริกและน้ำมันงาที่ปนกันโชยออกมา“จานนี้…ฝีมือของใคร?”“สองจานนี้มาจากคุณหนูโจวเพคะ” จ้าวหลานเจียวตอบ “คุณหนูโจว?นางมาถึงก็ลงมือปรุงอาหารเลยหรือ”น้ำเสียงแสดงความประหลาดใจ“เพคะ”จ้าวหลานเจียวเพียงแค่ตอบรับ“ตระกูลโจวส่งบุตรีมาฝึกงานในห้องเครื่องสองคนพ่ะย่ะค่ะ ทั้งสองล้วนเป็นธิดาของเจ้าเมืองโจวที่มีชื่อเสียงด้านเครื่องเทศจากทางใต้” กวงซุนเสริมด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “อืม...” หยางลี่หยิบตะเกียบขึ้นโดยไม่พูดอะไรต่อ ก่อนจะคีบไก่ผัดเข้าปากคำหนึ่ง...แล้วชะงักกลิ่นเผ็ดหอมของพริกแห้งปนกระเทียมเจียวและรสกลมกล่อมจากซอสหมักที่แทรกซึมเข้าไปในเนื้อไก่นุ่มกำลังดี กลิ่นน้ำมันงาที่ขึ้นจมูกยามที่เคีัยวเนื้อไก่ก็หอมละมุนทำให้คิ้วเข้มขมวดแน่นค่อยๆคลายออกช้าๆ“นี่มัน...” แม้จะบอกว่าร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-16

บทล่าสุด

  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่29 พักดื่มชา

    จังหวะนั้นเอง เสียงฝีเท้าดังมาเร็วๆ จากข้างใน แล้วร่างสูงโปร่งในชุดองครักษ์ก็ปรากฏตัวออกมาจากเงามืด ท่าทางรีบร้อน ใบหน้าเปื้อนยิ้ม ว่าแล้วเชียวทำไมท่านตงเจี้ยนจึงให้เอาเงินไปให้ที่โรงเตี๊ยมอวี้ฮวาถังที่แท้ก็เอาไปเลี้ยงหญิงงามนี่เอง“อ้าวพี่ตง! ท่านกลับมาแล้วรึ ข้า... เป็นห่วงแทบแย่! ได้ข่าวว่าท่านออกเวรกลางคืนแล้วหายไปนาน! ดูสิกลิ่นสุราหึ่งเลยทำไมท่านไม่เอากลับมาฝากข้าบ้างเล่า อ้อ ข้าจำได้แล้วแม่นางน้อยจากนางในห้องเครื่องฝึกหัดนี่เอง แหม๋มมม ช่างร้ายจริงๆนะ ข้าบอกปุ๊บท่านก็ไปพานางมาปั๊บ ไม่ต้องห่วงๆ ข้าจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ เฉิงอวี้ผู้นี้เก็บความลับเก่งที่สุด”เสียงเฟิงอวี้เฉิงดังลั่น ราวกับเด็กน้อยที่ดีใจเห็นพี่ชายกลับมาจากเดินป่า ตงเจี้ยนยิ้มเจื่อนๆ เฟิงอวี้เฉิงรู้ โลกรู้ ส่งซิกด้วยสายตา จ้องตาเฟิงอวี้เฉิงและยกมือขึ้นลูบจมูกสองครั้งเป็นการส่งสัญญาณว่า….หุบปาก….ที่รู้กันเฉพาะตงเจี้ยนกับเฟิงเฉิงอวี้เฟิงอวี้เฉิงรับรู้ทันที พยักหน้าหงึกๆ แล้วลดเสียงลงเล็กน้อย หันมาเห็นหยางลี่ฮ่องเต้ก็หน้าซีดไปแวบหนึ่งรีบกล่าวกับหยางลี่อย่างนอบน้อม“ท่าน...แขกของพี่ตงหรือขอรับ? ขออภัยที่ข้าเสียงดั

  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่28 ก็แค่บุตรีบ้านโจว

    ยามชวีคล้อยไปแล้ว ดวงจันทร์สูงลิบเหนือฟ้า เรือนพักของนางในฝึกหัดสกุลโจวตั้งอยู่ชานพระตำหนักด้านในสุดเงียบงัน ไม่มีเสียงขานรับ ไม่มีแสงไฟใดเล็ดลอดออกมา นอกจากแสงตะเกียงเล่มน้อยในมือของหรูซินสาวใช้คนสนิทของกุ้ยเฟยชวีหยา“เงียบเกินไปไม่แน่ว่าจะมีคนหรืออาจ…กำลังกกกอดกันอยู่” ชวีหยาพูดเบาๆ พลางทอดสายตามองแสงเงาของต้นหม่อนที่ทอดทับบนพื้นอิฐสะกดอารมณ์ขุ่นมัวในใจ“ไปเคาะประตู” นางเอ่ยเสียงนุ่มสาวใช้เดินเข้าไปเคาะเบา ๆ ที่ประตูไม้ก๊อก ๆ ๆสักพักเสียงฝีเท้าแผ่วเบาก็ใกล้เข้ามา บานประตูเปิดออกอย่างระวัง เผยให้เห็นจี้เหวินในชุดนอนบางเบา ใบหน้าไร้เครื่องสำอางแต่งแต้มแต่กระนั้นก็งดงามสดใสมีส่วนคล้ายเสี่ยวหนี่ไม่น้อย ดวงตายังพร่ามัวเล็กน้อยจากการถูกปลุกจากการหลับใหลกะทันหัน“ท่านเป็นใคร...? มาเคาะประตูอยู่ได้ไม่รู้หรืออย่างไรว่านี่คือเรือนพักของนางในฝึกหัดยามนอนห้ามใครรบกวน” จี้เหวินเอ่ยถามอย่างงุนงง ก่อนที่สายตาจะเหลือบเห็นเครื่องประดับมุกทองบนศีรษะของอีกฝ่าย สีหน้าก็เปลี่ยนวูบ ร่างกายรีบโค้งต่ำแทบจะคุกเข่า“ขะ…ขอประทานอภัยเพคะกุ้ยเฟย ข้าน้อยไม่ทราบว่าท่านจะแวะมาในยามดึกดื่นเช่นนี้”“ยามชวี” ชวีหย

  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่27 ตัวประหลาด

    ตงเจี้ยนยิ้มเจื่อนๆ เมื่อครู่ก็ต้องให้อวี้เฉิงเป็นคนจัดการเรื่องค่าอาหารและเครื่องดื่มหากมาบ่อยๆ เขาคงตัวเบาลงเพราะจน “ถ้ายังจะกลับไปเรือนห้องเครื่องตอนนี้ คงลำบากมากแน่” หยางลี่เอ่ยเรียบ ๆตงเจี้ยนพยักหน้าขึ้นลง“ใกล้สุดน่าจะเป็นเรือนอารักขาของข้าน้อย พักได้สะดวกกว่า อีกอย่าง... ขืนพาไปวังในตอนนี้ คงวุ่นวายยิ่งกว่าเดิม”"ไม่หรอกน่าท่านป้าเหม่ยซูใจดีที่สุด"หยางลี่หันมาทางเสี่ยวอี้ที่ประคองเสี่ยวหนี่อยู่ พร้อมกับส่ายหน้าไปมา“ให้พวกเจ้าพักที่เรือนอารักขาก่อนเถอะ พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”“เรือน...อารักขา เรือนอารักขา เรือนอารัก ….ขาเหมือนขาหมูไหมฮ่าาาาา” เสี่ยวอี้ถอนหายใจกับเสียงเจื้อยแจ้วของหนี่ฮวา ตงเจี้ยนเองถอนใจเบา ๆ ก่อนจะพูดเสียงเรียบ “ข้าทำหน้าที่องครักษ์ถวายอารักขาโดยตรง พอดีช่วงนี้ได้รับมอบหมายให้ตรวจตราความสงบในเมือง...”“แอบหนีไปเที่ยวยังกล้าบอกว่าตรวจตราฮ่าาาา” เสี่ยวหนี่ที่เพิ่งเงยหน้าจากอาการมึนงงเบิกตากว้าง “เงียบๆ ไว้อย่าแพร่งพรายเชียว ข้าจะไม่ได้ออกไปร่ำสุรากับเจ้าอีกหากมีคนรู้ความลับนี้”“โอเคๆๆ” เสี่ยวหนี่ตอบพร้อมกับยิ้มตาหยี“แล้วท่านล่ะ? อย่าบอกนะว่าเป็นแม่ทัพ เป็นทูต

  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่26สหาย

    “ท่านรู้ไหม…” เสี่ยวหนี่เริ่มพูดด้วยน้ำเสียงเลื่อนลอยแต่ร่าเริง “บ้านเกิดของข้า… มีร้านขนมตั้งหลายร้าน! เดินไปนิดเดียวก็เจอร้านบะหมี่ ร้านข้าวหน้าเป็ด ข้าวมันไก่! แล้วข้างบ้านข้าก็มีร้านขายชาไข่มุก…เจ้าเคยกินไหม?”“ชา…ไข่มุก? คงเป็นอาหารที่สูงส่งสินะไข่มุกนำมาทำชาน่าทึ่งจริงๆ” ตงเจี้ยนทวนเสียงเบา ๆ พลางขมวดคิ้วงุนงง“ใช่! เป็นชาใส่นม แล้วก็มีลูกกลม ๆ ดำ ๆ อยู่ข้างใน มันเด้ง ๆ เคี้ยวเพลินมากเลยล่ะ!ไม่ใช่ไข่มุกจริงๆ หรอกน่าเขาแค่เปรียบเปรย” เสี่ยวหนี่อธิบายเสียงดังฟังชัด มือก็วาดภาพกลางอากาศประกอบ“มีร้านชื่ออะไรน้า… โอ้! ใช่แล้ว! มีร้านชื่อเสี่ยวฉุนอวี้ อร่อยสุดๆ แต่เชื่อไหมร้านนั้นนะน่ะชื่อเป็นจีนแต่เมนูส้มตำอร่อยสุดยอดไปเลย ถ้าข้าได้กลับไปนะ จะพาท่านสองคนไปกิน!ทั้งส้มตำและชาไข่มุก”หยางลี่ยิ้มบาง ๆ เขายกจอกสุราขึ้นจิบอีกครั้ง “เจ้าคงคิดถึงบ้านมากเลยสินะ”“ใช่…คิดถึงชาไข่มุกด้วย” เสียงของเสี่ยวหนี่เบาลงชั่วขณะ ดวงตาวูบไหว แต่เพียงครู่เดียวก็ยิ้มกว้างอีกครั้ง “แต่ตอนนี้…ข้ามีพวกท่านแล้วนี่! ข้ามีเพื่อน!ไม่สิสหายจอมยุทธ์ แน่จริงก็เข้ามา คารวะท่านผู้อาวุโส เว่ยเส้าเทียนคือพ่อของเจ้า ซ

  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่25คนอะไรเมาแล้วน่าร้ากกกก

    “ข้าขอตัว” เดินลงมาด้านล่างสั่งคนลากรถให้กลับไปที่จวนอารักขานำเงินจาก อวี้เฉิงมาเพิ่ม สองคนนั้นกินเหมือนงานเลี้ยงฉลองรับตำแหน่งใหม่ทั้งๆ ที่ผ่านมื้อเย็นมาแล้วไม่ใช่เหรอทำราวกับล้างท้องมากระนั้น…ท่านน้าเหม่ยซูเข้มงวดจนพวกนางต้องอดอยากเพียงนี้เชียวหรือมองภาพฝ่าบาทที่ยกสุราให้เสี่ยวหนี่ตรงหน้า แล้วหัวเราะเบา ๆ อย่างอารมณ์ดี ตงเจี้ยนก็ได้แต่ถอนใจเงียบ ๆ อีกครั้ง ฝ่าบาทผู้ไม่พกเงินพรุ่งนี้เขาจะกล้าไปทวงเงินที่ต้องจ่ายวันนี้ไหม คงต้องคุยกับกรมคลังขอเบิกงบสำหรับสนับสนุนด้านนันทนาการกับฝ่าบาทเสียแล้วอาหารทยอยมาเสิร์ฟบนโต๊ะในถาดไม้ กลิ่นหอมของอาหารจาง ๆ ลอยมาพร้อมกับไอร้อนจากซุปกระดูกไก่ ขนมจีบเป๋าฮื้อถูกวางลงในเข่งไม้ไผ่ร้อน ๆ ด้านบนมีน้ำซุปรสกลมกล่อมซึมซาบถึงใจปลาหิมะย่างใบเก๋ากี้มีกลิ่นหอมของชาไหม้จางๆ จากถ่านชา เนื้อปลาสีขาวนวลทาเคลือบด้วยซอสใสหวานเค็ม เนื้อวัวตุ๋นถูกวางบนถาดเหล็กร้อนฉ่า กลิ่นพริกหอมผสมพุทราเคี่ยวส่งกลิ่นหอมจนน้ำลายสอ ทำให้จินตนาการรสชาติว่าคงหวานหอมเนื้อวัวตุ๋นก็คงนุ่มจนละลายในปากเสี่ยวหนี่กัดคำแรกของเกี๊ยวทอดไส้ปู แล้วตาโต“อืมมม! ไส้แน่นมากกกก กลิ่นปูชัด ซอสไข่เค็มเค

  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่24ข้าเปย์นาง แต่เงินท่านตงเจี้ยน

    “วันนี้ข้าจะเลี้ยงนางเอง แต่ตอนนี้ข้าไม่มีได้พกเงินปกติทุกครั้งไปไหนจะมีขันทีกวงซุนคอยจ่ายให้ เจ้าพกเงินมาไหม เอาเงินของเจ้าเลี้ยงนางแต่บอกว่าข้าเลี้ยงจะได้หรือเปล่า”ตงเจี้ยนยิ้มเจื่อนๆจะบอกว่าไม่ได้ก็จะได้หรือบัญชาฝ่าบาท“พ่ะย่ะค่ะ”“พาไปที่ร้านประจำของข้าที่เมืองหลวง… เจ้ารู้ใช่ไหม ร้านที่อยู่ฝั่งทิศใต้ตรงข้ามโรงเตี๊ยมสกุลหลิน”“แน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”ตงเจี้ยนยิ้มมุมปาก“เจ้าสองคนนี่แปลกจริง ๆ หายไปทีเดียวสองคน นึกว่าจะลุกไปหนีหนี้เสียแล้วหรือว่าแอบไปนินทาข้า” เสี่ยวหนี่ว่าพลางกระดกถ้วยสุรา สองข้างแก้มแดงระเรื่อจากแอลกอฮอล์อ่อน ๆ หยางลี่เดินเข้ามาพลางส่งสายตาขำ ๆ“ถ้าเราจะหนีหนี้ คงไม่ชวนเจ้าไปกินอาหารที่แพงกว่านี้หรอก”ทั้งสองคนอมยิ้มพร้อมกัน“พวกท่านจะเลี้ยงข้าหรือแหมลาภปากใจดีที่สุดสหายร้ากกกกก” เสี่ยวหนี่ทำตาโต “คืนนี้…ร้านที่เราจะไป เป็นร้านที่คนธรรมดายังต้องจองล่วงหน้าหลายวันนะ” ตงเจี้ยนยิ้ม “จริงรึ อย่างนั้นเราก็คนพิเศษสินะ ข้าไป! สุราดี ๆ กับอาหารเลิศรส ข้าไม่เคยปฏิเสธหรอก” เสี่ยวหนี่แทบลุกพรวดทันที “คุณหนูเจ้าขาไหนบอกว่าออกมาไม่นานเจ้าค่ะ” เสี่ยวอี้ท้วง“น่าไม่เป็นไรหรอก ข้าด

  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่23พบกันอีกครั้งกับคนจรและคนเร่ร่อน

    เสี่ยวอี้ยิ้มแห้งๆ“ไปก็ไป แต่คุณหนูสัญญานะเจ้าค่ะว่าจะรีบกลับและจะไม่สร้างเรื่องวุ่นวาย” เสี่ยวหนี่เขย่ามือเสี่ยวอี้อย่างแรง“ข้าสัญญา”ไม่นานนัก ร่างสองร่างก็แอบลอบลอดเงาไม้อาศัยเงามืดพรางตัว พ้นจากเรือนฝึกหัดออกมาได้อย่างคล่องแคล่วประหนึ่งมืออาชีพวังหลวงกลางคืนแม้จะสงบ แต่ตรอกเล็กข้างนอกก็ยังมีแสงไฟสลัว ๆ ลอดออกมาจากร้านรวง พ่อค้าบางเจ้ายังไม่ยอมเก็บร้าน กลิ่นหอมของหมูย่าง น้ำซุปเคี่ยว เครื่องเทศอบอวลผสมกลิ่นสุราอุ่น ๆ ลอยเข้าจมูก“อือหือ… กลิ่นนี้! สวรรค์บนดินชัด ๆ” เสี่ยวหนี่ทำตาโต“คุณหนูเจ้าขามื้อเย็นก็กินไม่น้อยมาถึงตอนนี้ยังกินได้อีกหรือเจ้าค่ะ” เสี่ยวอี้อดบ่นไม่ได้ เสี่ยวหนี่ถอนหายใจปกติแล้วยามเลิกงานจากร้านอาหารเสี่ยวหนี่มักจะออกมาหาอะไรกินกับเพื่อนและพี่ที่ทำงานจนกลายเป็นเคยตัวทั้งกินทั้งดื่มแล้วกลับไปนอนทั้งสองเดินดุ่มเข้าไปในร้านแผงลอยที่ตั้งเรียงกันใกล้ทางสี่แยกเล็ก ๆ มีทั้งซาลาเปาสอดไส้หอมกรุ่นไอร้อนยังลอยวน บะหมี่สดต้มในน้ำซุปกระดูกไก่ใส่หัวไช้เท้า ต้มจนน้ำใสเส้นบะหมี่เองก็ใสแจ๋ว ข้าวต้มปลา และขาหมูทอดราดน้ำซอสปรุงหวานเค็มแต่ก่อนที่เสี่ยวหนี่จะทันนั่งลง ร่างของคนสอง

  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   องค์หญิงสิบสี่อันหรู

    ใต้ต้นหลิวอีกฝั่งหนึ่ง ไม่ไกลจากแสงไฟนัก เงาร่างระหงของหญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งยืนสงบเงียบเหม่ยซู หัวหน้าผู้ฝึกสอนประจำตำหนักห้องเครื่อง สวมชุดคลุมผ้าสีทึบทาบทับด้วยผ้าคลุมไหล่สีเดียวกัน นางยืนพิงต้นหลิวแสงจันทร์ยามค่ำเสียงลมเย็นพัดผ่าน.สายตาของเหม่ยซูทอดมองไปยังโต๊ะอาหารใต้แสงไฟตรงกลางลาน หญิงงามวัยแรกรุ่นเจ็ดคนล้อมวงอย่างอบอุ่น เสียงหัวเราะสลับกับเสียงตะเกียบกระทบชามดังเป็นจังหวะเบา ๆ ปะปนไปกับกลิ่นหอมของอาหารที่โชยมาเป็นระยะ เมื่อสายตาของเหม่ยซู่ตกมายังร่างเล็กที่กำลังยิ้มกว้างขณะคีบข้าวให้เพื่อน คือ เสี่ยวหนี่ เหม่ยซูก็เผลอยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยเรือนอารักขาตงเจี้ยนนั่งจิบชาเดินหมากกับองค์หญิงสิบสี่ถังเจี้ยนอันหรู ที่สวมอาภรณ์ราวกับบุรุษ อีกทั้งผมที่รวบเหล้าไว้กลางหัวก็ยังเกล้าจนสูงข้างกายมีกระบี่ที่ประทานให้ด้วยมือของหยางลี่ฮ่องเต้“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ข้าชนะแล้ว องค์หญิงเลิกกวนใจข้าได้แล้ว ท่านต้องไปเสียที ข้าชนะถึงสามตารวดตามที่สัญญาแล้วข้ามีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่าการฝึกขี่ม้าให้ทำมากมายไม่มีเวลาเล่นสนุกกับท่านหรอก” อันหรูทำหน้าเง้าดวงตากลมโตมีแววตาสลดลง“ท่านขี้โกงนี่ คนเช่นไรจึงเดินหม

  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่21ซ่อนมีดสั้น

    ข้างหน้านั้น ไก่ผัดพริกสดสไตล์ใต้ของเฟิงหราน เมื่อเสี่ยวหนี่ใช้ตะเกียบในมือคีบเนื้อไก่ขึ้นมาเคี้ยว เสี่ยวหนี่ก็ต้องซดน้ำซุปตามทันทีด้วยความเผ็ดร้อนของพริกแกงจากแดนใต้“โอ๊ย! เผ็ดแสบปลายลิ้น!”“นี่ข้ายังใช้พริกแค่ครึ่งกำมือเองนะ ถ้ากินที่บ้านข้า ต้องเหงื่อตกตลอดมื้อ นี่ข้าลดจำนวนพริกลงไปบ้างเพราะรู้ว่าพวงเจ้าอ่อนหัดยังไงล่ะ” เฟิงหรานหัวเราะเบาๆ “รสจัดจ้านจริงๆ! แต่ก็อร่อยแบบแปลกใหม่… มีกลิ่นหอมของอะไรบางอย่างที่ไม่คุ้น”“พริกเขียวดองกับถั่วหมัก ข้าใส่ผสมเข้าไปด้วย” เฟิงหรานตอบเรียบๆ ขณะตักข้าวเข้าปากไม่หยุดหยางชินอวี้ยื่นชามเล็กใส่ เต้าหู้สอดไส้หมูสับกับเห็ดหอม มาให้อย่างมีมารยาท เสี่ยวหนี่รับด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะลองชิมอย่างช้าๆ เพื่อซึมซับเอารสชาติให้ได้มากที่สุดเพราะเป็นอาหารรสอ่อนเนื้อเต้าหู้เนียนนุ่มละลายในปากจริงอย่างนางว่าเลย กลิ่นหมูสับละเอียดผสมเห็ดหอม เมื่อกินพร้อมซอสราดบางๆ ที่มีกลิ่นน้ำมันงา กลับให้รสหรูหรานุ่มนวล “เหมือนกินอาหารเปิดงานในงานเลี้ยงเลย… มีกลิ่นแบบพิเศษที่อบอุ่นดี”“เต้าหู้ชั้นยอดก็ต้องอร่อยเป็นธรรมดา วัตถุดิบพวกนี้ข้านำมาจากบ้านหยางเป็นมรดกตกทอดของเรา หากไม่ใช

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status