Share

8

Author: RainyStarSea
last update Last Updated: 2025-08-25 01:43:40

เสียงหัวเราะทุ้มต่ำของอวี้เหยียนสะท้อนก้องไปทั่วห้อง อวิ๋นซินเยว่เงยหน้าขึ้น ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความสับสนและตื่นตระหนก

ฝ่าบาทมาถึงหน้าประตูแล้ว แต่เหตุใดมิมีผู้ใดรายงาน! อวิ๋นซินเยว่ตื่นตระหนกแล้ว!

"ถวายบังคมฝ่าบาทเพคะ" เธอย่อตัวลง ก่อนที่ร่างสูงโปร่งนั้นจะเดินผ่านหน้าไป ก่อนจะนั่งลงที่เตียงของเธอ

"มาเถิด" สีหน้าเรียบนิ่งขององค์จักรพรรดิทำให้อวิ๋นซินเยว่ไม่อาจคาดเดาได้ว่าเขาอยู่ในอารมณ์ไหน หญิงสาวกวาดสายตามองหาเสี่ยวหลิง แต่เจ้าระบบตัวดีกลับไม่อยู่ให้เห็น

'ดีนี่ เสี่ยวหลง! เวลาสำคัญแบบนี้กลับหายหัว ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ ' เธอคิดในใจ

ร่างบางเดินเข้าไปหาก่อนจะนั่งลงข้างกายเจ้าแผ่นดิน อวิ๋นซินเยว่ไม่กล้าสบสายตา แต่เธอรู้สึกได้ว่าคนข้างกายตอนนี้กำลังต้องมองนางอยู่

'โอ๊ย อึดอัดชะมัด จะจ้องเงียบ ๆ อีกนานมั้ยเนี่ย' อวิ๋นซินเยว่ตัดสินใจเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ

“ฝ่าบาท…เมื่อครู่ทรงหัวเราะสิ่งใดหรือเพคะ?”

แววตาคมเข้มตวัดลงมาสบกับนาง ริมพระโอษฐ์ยกขึ้นน้อย ๆ คล้ายจะขบขัน คล้ายจะเย้า สายตาของเธอที่เผลอเหลือบมอง เมื่อเห็นเช่นนั้นยิ่งชวนให้หัวใจเธอเต้นแรงจนแทบหลุดออกมานอกอก

“เปล่า” พระสุรเสียงทุ้มกังวานดังขึ้นเบา ๆ “เพียงนึกถึง…สิ่งที่เจ้าเผลอพูดเมื่อคืนนี้”

ร่างบางสะดุ้งเฮือกทันที หัวใจเหมือนถูกบีบรัดแน่น ภาพจำเมื่อคืนคลุมเครือเลือนราง เธอพยายามนึกแต่กลับเหมือนคว้าหมอกมาไว้ในมือ มีเพียงเงาเลือนราง ว่าฝูซินอยู่เคียงข้างก่อนสติจะดับวูบไป

“เมื่อคืน…หม่อมฉัน…พูดอะไรหรือเพคะ?” เสียงเธอสั่นพร่าอย่างควบคุมไม่อยู่

อวี้เหยียนโน้มพระวรกายเข้ามาใกล้ ปลายนิ้วแตะเบา ๆ ที่พวงแก้มร้อนจัดของเธอ แววตาลึกซึ้ง “สิ่งที่เจ้าพูด…ข้าได้ยินชัดทุกถ้อยคำแล้ว”

คำตอบนั้นเหมือนสายฟ้าฟาดกลางใจ อวิ๋นซินเยว่รีบเบือนหน้าหนี ใบหน้าร้อนเห่อจนแทบมอดไหม้ แต่ยิ่งเธอหลบ แววตาของเขาก็ยิ่งฉายประกายพอใจ

"เอ่อ...หม่อมฉันนึกขึ้นได้ว่ามีธุระ ขอตัวก่อนนะเพคะ"

ทันใดนั้น ร่างบางกลับเซล้มเพราะปลายเท้าสะดุดพรม ขณะกำลังจะหงายหลังล้มตึง ก็มีท่อนแขนแข็งแกร่งดุงนะ้งนางเข้าหาตัว นางโผเข้าซบอกกว้างเต็มแรง คราวนี้เสียงหัวเราะของจักรพรรดิหลุดออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

“ฮองเฮา…เจ้านี่ช่างทำให้วังนี้ครึกครื้นนัก”

“ฝะ…ฝ่าบาท!” เธอร้องอย่างตกใจ รีบผละตัวออกจากอ้อมแขนของพระองค์ด้วยสีหน้าแดงจัด หัวใจเต้นรัวไม่เป็นส่ำ ก่อนจะหมุนกายวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว ราวกับเกรงว่าหากอยู่ต่ออีกเพียงลมหายใจเดียว ความลับในใจจะถูกเขาแง้มออกจนหมดสิ้น

ทิ้งไว้เพียงเสียงหัวเราะทุ้มต่ำของจักรพรรดิที่ยังดังก้องอยู่ภายในตำหนัก…

........

เสียงฝีเท้าของขันทีเฒ่าดังขึ้นเบา ๆ ในความเงียบสงัด เขาก้าวเข้ามาหยุดตรงหน้าตำหนักคุนหนิง เหลือบเห็นรอยยิ้มบางที่ยังติดอยู่บนพระพักตร์ของจักรพรรดิอวี้เหยียน ใบหน้าเปี่ยมด้วยความสง่างามที่ปกติแลดูเย็นเยียบและเฉยชามาตลอดกลับฉายแววอารมณ์ดีจนผิดสังเกต

“กระหม่อม…แปลกใจนักพ่ะย่ะค่ะ” ขันทีเอ่ยออกมาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ “ในรอบหลายปี กระหม่อมยังไม่เคยเห็นฝ่าบาททรง…เบิกบานถึงเพียงนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ” คำพูดนั้นเหมือนคมมีดบางที่สะกิดบางอย่างในใจพระองค์

อวี้เหยียนนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนริมพระโอษฐ์ที่เคยโค้งขึ้นจะค่อย ๆ คลายลง แววตาที่เคยอ่อนโยนเมื่อครู่กลับคมกริบเย็นชาอีกครั้ง ความทรงจำเมื่อคืนหวนคืน… เสียงพร่ำเพ้อที่หลุดออกจากริมฝีปากเล็ก ๆ ของอวิ๋นซินเยว่ดังสะท้อนขึ้นมา แต่เขากลับหัวเราะในลำคอแผ่วเบา ดวงตาทอแสงเยียบเย็น

“หึ…หรือว่ามันเป็นเพียง ‘กลยุทธ์’ ของนาง?” เสียงนั้นเบาราวเสียงกระซิบ แต่กลับทำให้ขันทีเฒ่าก้มหน้าต่ำลงทันที ไม่กล้าเอ่ยสิ่งใดต่อ

อวี้เหยียนก้าวเดินไปข้างหน้า สายตาแข็งกร้าวเฉกเช่นเดิม พระพักตร์ไร้ซึ่งร่องรอยความอบอุ่นเมื่อครู่ราวกับไม่เคยปรากฏ ความลังเลผุดขึ้นในใจ นางจะจริงใจต่อเขาหรือเพียงแค่ใช้เล่ห์เหลี่ยมสตรีกันแน่?

“ต่อให้เป็นฮองเฮา…ข้าก็ไม่อาจปล่อยให้ใครเล่นตลกกับหัวใจข้าได้” พระสุรเสียงแผ่วต่ำ แต่เด็ดขาด

ขันทีคนสนิทก้มหน้าลงต่ำกว่าเดิม รับรู้ว่าลมพายุในพระทัยขององค์เหนือหัวได้กลับมาแล้ว…

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   13

    เสียงหัวเราะชื่นชมจากบรรดาสนมดังระงมไปทั่วลาน เมื่อ ซูกุ้ยเฟย ยกกลอนที่เพิ่งแต่งเสร็จขึ้นถวายไทเฮา ท่วงทำนองอ่อนหวาน เปรียบดอกโบตั๋นเป็นสัญลักษณ์แห่งเกียรติยศ สละสลวยจนแม้แต่ขุนนางฝ่ายในที่นั่งอยู่ด้วยยังพยักหน้ารับ ซูกุ้ยเฟยยกยิ้มบาง ก่อนหันไปทางซินเยว่พลางเอื้อนเอ่ยเสียงใส “กลอนของหม่อมฉันหาได้พิเศษอันใดไม่… ผู้ที่มีความสามารถแท้จริงด้านบทกวีคือฮองเฮาต่างหากเพคะ” ทันใดนั้นสายตาทุกคู่ก็หันมาจับจ้องยัง อวิ๋นซินเยว่ หัวใจเธอกระตุก เพราะตัวเองแต่งกลอนไม่เป็นแม้แต่นิดเดียว! [ติ๊ง! สถานการณ์อันตรายระดับ 95%! หากตอบไม่ได้ = ค่าศักดิ์ศรีฮองเฮาลดฮวบ! ถูกผู้คนหัวเราะเยาะทั้งงาน และไทเฮาจะผิดหวังในตัวท่านมากขอรับ] “เอ่อ…หม่อมฉันกลัวว่า หากแต่งกลอนออกมา…จะไปไม่ถึงครึ่งของกุ้ยเฟยเพคะ” เสียงกระซิบดังระงม หลายคนชะงักนึกว่าฮองเฮาจะถอยหนี แต่เธอกลับหันไปยิ้มกว้างต่อหน้าทุกคน ไทเฮาเลิกพระขนงเล็กน้อย คล้ายสนใจอยากฟัง อวิ๋นซินเยว่สูดหายใจลึก แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงใส “ดอกไม้อาจงดงามเพราะฤดูกาล แต่ก็เหี่ยวเฉาไปเพราะฤดูกาลผันผ่านเช่นกัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   12

    และแล้ววันจัดงานชมบุปผาก็มาถึง เสียงกลองเบา ๆ จากเหล่านักดนตรีด้านนอกดังมาเป็นสัญญาณ งานเลี้ยงชมบุปผาที่ทุกคนรอคอยกำลังจะเริ่มขึ้น ภายในตำหนักคุนหนิง อวิ๋นซินเยว่แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง นางกำนัลนับสิบต่างรุมล้อม ใส่เสื้อคลุมชั้นแล้วชั้นเล่า สีสันสดใสราวท้องฟ้ายามรุ่งอรุณกับกลีบกุหลาบแรกแย้ม ชุดปักดิ้นเงินลายหงส์สยายปีกโอบล้อมไปทั่วร่าง ผมดำถูกรวบขึ้นอย่างประณีต ประดับปิ่นหยกมรกตระยิบระยับ เมื่อเครื่องประดับชิ้นสุดท้ายถูกเสียบลง เธอถูกดันให้นั่งต่อหน้ากระจกทองเหลืองบานใหญ่ ภาพสะท้อนเบื้องหน้าทำให้เธอถึงกับตะลึง “นี่…คือข้าจริง ๆ หรือ?” อวิ๋นซินเยว่อ้าปากค้างเล็กน้อย กะพริบตาปริบ ๆ เหมือนมองคนแปลกหน้า ผิวที่ปกติซีดขาวบัดนี้เจือสีแดงนวลอย่างสุขภาพดี ริมฝีปากทาด้วยชาดสีแดงอ่อนดูงามละมุน สายตาที่เคยสดใสราวเด็กสาวกลับกลายเป็นวาววับดั่งหญิงสูงศักดิ์ที่พร้อมจะสะกดทุกสายตาแต่แววซุกซนยังไม่หายไป ทำให้ความสง่างามนั้นยิ่งมีเสน่ห์มากกว่าใคร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   11

    ลมฤดูใบไม้ผลิพัดกลีบดอกเหมยปลิวเข้ามาในตำหนักคุนหนิง อวิ๋นซินเยว่นั่งอยู่ท่ามกลางกองบันทึกพิธีและตำรามารยาทสูงเป็นตั้ง ดวงตาคมกวาดมองทีละบรรทัดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม นางพึมพำเบา ๆ “งานชมดอกไม้… มิใช่เพียงเรื่องความงาม หากแต่สะท้อนศักดิ์ศรีของฮองเฮา หากข้าพลาดเพียงนิดเดียว ซูกุ้ยเฟยจะต้องใช้เป็นข้ออ้างโจมตีข้าแน่” ทันใดนั้น แสงสีฟ้าใสสว่างวาบขึ้นกลางอากาศ เสี่ยวหลิง ระบบเอไออัจฉริยะปรากฏร่างจำลองขึ้นมาพร้อมเสียงแจ่มใสที่ตัดกับบรรยากาศตึงเครียด “หม่าม๊า อย่ากังวลไปเลย ข้าได้สแกนบันทึกงานราชพิธีเก่า ๆ ทั้งหมดแล้ว พบว่ามีจุดอ่อนอยู่หลายอย่างที่สามารถพลิกสถานการณ์ให้ท่านได้เปรียบ!” อวิ๋นซินเยว่เงยหน้ามองด้วยสายตาวาบประกายความหวัง “เจ้ามีแผนอะไรหรือ เสี่ยวหลิง?” ภาพเสมือนคล้ายแผนผังสามมิติถูกฉายขึ้นกลางห้อง แสดงการจัดวางตำแหน่งโต๊ะสำรับ น้ำชา ดนตรี และตำแหน่งดอกไม้ในสวน เสี่ยวหลิงเอ่ยเสียงกระตือรือร้น “หากท่านเลือกพันธุ์ดอกไม้ที่ยังไม่เบ่งบานเต็มที่ พอถึงวันงานมันจะผลิบานพร้อมกันพอดี สร้างความประทับใจได้มากกว่าซูกุ้ยเฟยที่มัวแต่เน้นความหรูหราเกินจำเป็น” นางพยักหน้าอย่างครุ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   10

    เสียงฆ้องเบา ๆ ดังขึ้นสามครั้ง ก่อนที่ม่านกำมะหยี่สีแดงขลิบทองในห้องโถงของตำหนักคุนหนิงจะถูกเลิกขึ้นอย่างช้า ๆ แสงแดดยามสายส่องลอดเข้ามาตกต้องกับอาภรณ์สีม่วงทองระยับตา ไทเฮาปรากฏกายอย่างสง่างามเรือนพระเกศาที่ขาวแซมเพียงเล็กน้อยถูกเกล้าอย่างประณีต ประดับปิ่นหยกชั้นสูง สายตาคมกริบของนางกวาดมองเหล่าสนมและพระสนมชั้นสูงที่คุกเข่าลงและนั่งเรียงรายอยู่เบื้องหน้า ทันใดนั้น บรรยากาศทั้งตำหนักอี้คุนก็เหมือนถูกตรึงด้วยไอเย็นแห่งอำนาจของสตรีที่เคยได้ชื่อว่ามีอำนาจที่สุดในวังหลังของจักรพรรดิองค์ก่อนเสียงขันทีขานพระนามกังวานก้อง “ไทเฮาเสด็จ”เหล่าสตรีในวังหลังที่มียศต่ำต่างหมอบลงจนหน้าผากแตะพื้น อวิ๋นซินเยว่เองก็ยืนขึ้นเช่นกัน เพียงประสานมือค้อมตัวลงต่ำอย่างนอบน้อม แต่ในใจกลับรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาลที่กำลังกดทับมาบนบ่าไทเฮา ก้าวลงจากบัลลังก์ย่อม ๆ แท่นสูง เสียงรองเท้าปักมุกกระทบพื้นไม้ดังก้องอย่างสง่างามนางทอดพระเนตรมายังอวิ๋นซินเยว่ ริมฝีปากโค้งเพียงน้อย แต่เต็มไปด้วยนัยลึกล้ำ “ฮองเฮา… อีกเจ็ดวันจะมีงานเลี้ยงชมบุปผา เจ้าคงรู้ดีว่า นี่ไม่ใช่เพียงงานรื่นเริง แต่เป็นงานที่แสดงเกียรติยศและเป็

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   9

    รุ่งอรุณสาดแสงสีทองผ่านม่านบาง ๆ ของตำหนักคุนหนิง อวิ๋นซินเยว่ลุกขึ้นด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจจะทำสิ่งใดสักอย่างเพื่อตอบแทนพระเมตตาเมื่อคืนที่ผ่านมา จากที่ได้ฟังเรื่องราวที่เสี่ยวหลิงเล่าให้ฟัง ประกอบกับคำพูดของนางกำนัลถึงสิ่งที่ฝ่าบาททำให้ แม้จะไม่รู้ว่าคืนนั้นฝ่าบาทได้ยินอะไรไปบ้าง แต่หัวใจของนางก็เต็มไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่อธิบายไม่ได้ “เตรียมสมุนไพรบำรุงร่างกาย ข้าจะลงมือทำซุปด้วยตัวเอง” นางสั่งเสียงหนักแน่น ไม่นาน กลิ่นหอมละมุนของซุปสมุนไพรค่อย ๆ ลอยอบอวลไปทั่วตำหนัก มือเรียวเล็กยกถาดทองเหลืองขึ้นมั่นคง มุ่งตรงไปยังตำหนักหยางซิน ที่พำนักขององค์จักรพรรดิอวี้เหยียน ภายในท้องพระโรง อวี้เหยียนประทับบนบัลลังก์มังกรสูงสง่า แววตาคมคายยังเย็นเฉียบไม่ต่างจากผืนน้ำแข็งพันปี เมื่อเห็นฮองเฮาก้าวเข้ามาพร้อมถาดในมือ พระเนตรหรี่ลงแวบหนึ่ง “หม่อมฉัน…ทำซุปบำรุงมาถวายเพคะ” อวิ๋นซินเยว่เอ่ยเสียงอ่อนโยน แววตาเปี่ยมความจริงใจ ขันทีข้างพระวรกายรีบรับถาดมาวางตรงหน้าพระอง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   8

    เสียงหัวเราะทุ้มต่ำของอวี้เหยียนสะท้อนก้องไปทั่วห้อง อวิ๋นซินเยว่เงยหน้าขึ้น ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความสับสนและตื่นตระหนก ฝ่าบาทมาถึงหน้าประตูแล้ว แต่เหตุใดมิมีผู้ใดรายงาน! อวิ๋นซินเยว่ตื่นตระหนกแล้ว! "ถวายบังคมฝ่าบาทเพคะ" เธอย่อตัวลง ก่อนที่ร่างสูงโปร่งนั้นจะเดินผ่านหน้าไป ก่อนจะนั่งลงที่เตียงของเธอ "มาเถิด" สีหน้าเรียบนิ่งขององค์จักรพรรดิทำให้อวิ๋นซินเยว่ไม่อาจคาดเดาได้ว่าเขาอยู่ในอารมณ์ไหน หญิงสาวกวาดสายตามองหาเสี่ยวหลิง แต่เจ้าระบบตัวดีกลับไม่อยู่ให้เห็น 'ดีนี่ เสี่ยวหลง! เวลาสำคัญแบบนี้กลับหายหัว ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ ' เธอคิดในใจ ร่างบางเดินเข้าไปหาก่อนจะนั่งลงข้างกายเจ้าแผ่นดิน อวิ๋นซินเยว่ไม่กล้าสบสายตา แต่เธอรู้สึกได้ว่าคนข้างกายตอนนี้กำลังต้องมองนางอยู่ 'โอ๊ย อึดอัดชะมัด จะจ้องเงียบ ๆ อีกนานมั้ยเนี่ย' อวิ๋นซินเยว่ตัดสินใจเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ “ฝ่าบาท…เมื่อครู่ทรงหัวเราะสิ่งใดหรือเพคะ?” แววตาคมเข้มตวัดลงมาสบกับนาง ริมพระโอษฐ์ยกขึ้นน้อย ๆ คล้ายจะขบขัน คล้ายจะเย้า สายตาของเธอที่เผลอเหลือบมอง เมื่อเห็นเช่นนั้นยิ่งชวนให้หัวใจเธอเต้นแรงจนแทบหลุดออกมานอกอก “เปล่า”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status