Share

9

Author: RainyStarSea
last update Last Updated: 2025-11-02 01:03:25

วินาทีที่อวิ๋นซินเยว่เอ่ยพระนามอวี้เหยียนออกมานั้น แรงบดขยี้ที่บ่าของนางนั้นแข็งกร้าวราวกับคีมเหล็ก แต่แรงสั่นเทาที่ปลายนิ้วของเขา รุนแรงยิ่งกว่าอาการประชวรใด ๆ ดวงเนตรคมกริบของจักรพรรดิอวี้เหยียนเบิกกว้างด้วยความตกตะลึงจนสุดขีด ภาพในอดีตฉายวาบเข้ามาในห้วงความคิด มีเพียงสตรีผู้เดียวในชีวิตที่เคยกล้าเรียกชื่อเขาตรง ๆ เช่นนี้…และสตรีผู้นั้นก็เคยนำหายนะมาสู่ชีวิตเขา

“หยุดเดี๋ยวนี้!” เขาตะคอกใส่ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดที่แฝงไว้ด้วยความสับสนอย่างรุนแรง อวิ๋นซินเยว่ไม่ถอยหนี เธอสบตาเขาอย่างแน่วแน่ ไม่ใช่ด้วยความรักแบบชู้สาว…แต่ด้วยความสงสารและความเข้าใจอย่างบริสุทธิ์ใจ เธอไม่ได้กลัวความโกรธของเขา…แต่กลัวการที่เขาจะปิดกั้นตัวเองอีกครั้ง

“หม่อมฉัน…หม่อมฉันเพียงแค่” เธอพยายามเอ่ยต่อ

“พอแล้ว!” อวี้เหยียนปล่อยมือจากบ่าของเธออย่างกะทันหัน แรงผลักนั้นทำให้ร่างบางซวนเซไปเล็กน้อยเขาหันหลังให้เธออย่างรวดเร็ว มือทั้งสองข้างกำแน่นจนเส้นเอ็นปูดโปน แผ่นหลังกว้างในชุดมังกรทองดูแข็งกระด้างและโดดเดี่ยวอีกครั้ง กำแพงน้ำแข็งที่เพิ่งจะปริร้าว…ถูกสร้างขึ้นอย่างเร่งด่วนที่สุดเพื่อปกป้องความอ่อนแอที่เพิ่งถูกเปิดเผย

“ออกไปจากที่นี่ซะ!” พระสุรเสียงทุ้มต่ำนั้นเย็นชาดุจน้ำแข็งจากหุบเขาลึก “อย่าได้นำสิ่งใด...ที่ไม่ใช่หน้าที่ของเจ้าเข้ามาในตำหนักนี้อีก!”

อวิ๋นซินเยว่ค้อมกายคารวะแผ่นหลังนั้นอย่างเงียบเชียบ ก่อนจะเดินออกจากตำหนักเฉียนชิงไป โดยไม่หันกลับมามองอีกแม้แต่ครั้งเดียว เธอปล่อยให้ชัยชนะครั้งนี้เป็นความเงียบงัน...ที่เต็มไปด้วยความหวัง

[ติ๊ง! อัปเดตคลื่นหัวใจฝ่าบาท: ดิ่งลงอย่างรวดเร็ว -10 องศา!สถานะ: พยายามสร้างกำแพงป้องกันตนเองซ้ำ (Self-Defense Protocol)

แต่อัตราการเต้นของหัวใจยังสูงกว่าปกติ 20%!]

อวิ๋นซินเยว่กลับมายังตำหนักคุนหนิงด้วยความเหนื่อยล้าทางจิตใจ เธอตัดสินใจเด็ดขาด หากความรักคือความอ่อนแอที่เขากลัว…เธอก็จะมอบความอ่อนโยนที่สม่ำเสมอให้เขาอย่างไม่คาดหวังสิ่งใด

ตลอดสัปดาห์ต่อมา หลินซินเยว่เริ่มต้นกลยุทธ์ใหม่ เธอใช้สกิล ‘ข้าวกล่องฮองเฮา’ ทำอาหารง่าย ๆ และบำรุงกำลัง (เช่น ซุปไก่ตุ๋นโสม ไก่ทอดกรอบสูตรวังหลวง หรือ หมั่นโถวน้ำผึ้ง) และส่งไปให้จักรพรรดิที่ตำหนักเฉียนชิงอย่างเงียบ ๆ โดยไม่มีการแนบสาส์น หรือคำพูดใด ๆ!

นี่คือการให้โดยที่ไม่เรียกร้องความสนใจ เป็นการยื่นความอบอุ่นให้เขาโดยไม่ทำให้เขารู้สึกว่าต้องตอบแทน ซึ่งเป็นสิ่งที่อวี้เหยียนไม่เคยได้รับจากใครเลย

[ผลลัพธ์จากระบบ]:สถานะ: อาหารถูกฝ่าบาทเสวยจนหมดเกลี้ยง7วันติดต่อกัน!

ความก้าวหน้า: อุณหภูมิหัวใจเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 0.5 องศาต่อวัน(สถิติสูงสุด!)

ข้อสังเกต: ฝ่าบาททรงมีท่าทีหงุดหงิดทุกครั้งที่กล่องอาหารว่างเปล่า!

ดูเหมือนว่าทรงกำลังติดรสชาติอาหารที่หม่าม๊ามอบให้แล้วนะคร้าบ!]

"จริงเหรอ อย่างน้อยฉันก็ทำให้เขายิ้มได้บ้างล่ะนะ" เธอพึมพำกับตัวเองก่อนจะยิ้มกว้างอย่างพอใจ

.......

ในขณะที่ความสัมพันธ์กำลังคืบหน้าอย่างช้า ๆ... หลินซินเยว่ได้รับคำสั่งเรียกเข้าเฝ้าไทเฮาฉงฮวาที่ตำหนักฉือหนิง

ตำหนักฉือหนิงปกคลุมไปด้วยความเคร่งขรึมและกลิ่นหอมของกำยาน ไทเฮานั่งสง่างามอยู่บนเก้าอี้หยก ดวงตาของนางเฉียบคมและเต็มไปด้วยความรู้ทันโลก

“ฮองเฮา…ช่วงนี้เจ้าดูผอมลงไปมาก” ไทเฮาเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแต่แฝงไว้ด้วยอำนาจที่ยากจะปฏิเสธ “ข้าทราบเรื่องความวุ่นวายที่ตำหนักคุนหนิง และเรื่องที่เจ้าลงมือทำอาหารให้ฝ่าบาทเสวยเอง มันเป็นความตั้งใจที่ดี แต่ข้าไม่อยากให้เจ้ากังวลใจ ความสงบสุขของวังหลัง...คือความสงบสุขของแคว้นอวี้”

“หม่อมฉันน้อมรับพระบัญชาเพคะ”

“ดี…หน้าที่ของเจ้ามิใช่การเป็นแม่ครัวหลวง” ไทเฮาตรัสต่อ รอยยิ้มของนางดูเมตตา แต่ดวงตาของนางกลับไม่ได้ยิ้มตามไปด้วย “หน้าที่ของเจ้าคือการรักษาเกียรติยศของตระกูลอวิ๋นและรักษาหน้าราชวงศ์ และที่สำคัญที่สุด…คือการประสูติองค์รัชทายาท อวี้เหยียนเป็นบุตรบุญธรรมที่ข้ารักและฟูมฟักยิ่งกว่าชีวิต ข้ารับเขามาเลี้ยงดูหลังจาก…มารดาแท้ ๆ ของเขาจากไปด้วยอาการป่วยที่น่าเวทนา”คำพูดนั้นทำให้ซินซินสะท้านวาบเธอรู้ว่าไทเฮาโกหกจากการที่เสี่ยวหลิงบอกเธอด้วยตัวอักษรเรืองแสงที่ปรากฎตรงหน้า

“ข้าเลี้ยงดูเขาอย่างดีมาตลอด เขาต้องก้าวขึ้นเป็นจักรพรรดิ และข้าก็ช่วยให้เขาได้ครองบัลลังก์อย่างราบรื่น แต่ความมั่นคงของบัลลังก์...จะพังทลายลง หากไม่มีทายาทสายตรง การกระทำที่ผิดแปลกไปของเจ้าในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงตลกต่อหน้าฝ่าบาท หรือการเสี่ยงชีวิตทำอาหาร ล้วนเป็นการกระทำที่ ‘ไม่เหมาะสม’ กับตำแหน่งฮองเฮา จงจำไว้...ตำแหน่งของเจ้ามั่นคงเพราะตระกูลของเจ้า มิใช่เพราะ...ความหลงใหลชั่วครู่ของบุรุษเพศ!” ไทเฮาตรัสด้วยรอยยิ้ม แต่เธอกลับรู้สึกขนลุก

“ฮองเฮา…จงดูแลตัวเองให้ดี จงทำหน้าที่ของเจ้าให้สมบูรณ์ อย่าให้ความพยายามของข้าและอวี้เหยียนต้องสูญเปล่าเพราะเรื่องไร้สาระ!”

คำพูดของไทเฮาเป็นเหมือนการตบหน้าเธอเบา ๆ เป็นการตอกย้ำว่าในวังหลวงแห่งนี้ ทุกการกระทำล้วนมีผลทางการเมือง และความรักแบบโรแมนติกเป็นสิ่งไร้ค่า และยิ่งไปกว่านั้น…ไทเฮากำลังส่งสัญญาณว่า ‘ข้ารู้ทุกอย่างที่เจ้าทำ!’

.......

เมื่อหลินซินเยว่กลับมาถึงตำหนักคุนหนิงด้วยความรู้สึกหดหู่ ก็พบว่าที่ลานหินอ่อนมี ซูกุ้ยเฟย นั่งรออยู่ก่อนแล้ว ความงามของนางโดดเด่น แต่สายตาของนางเต็มไปด้วยความชิงชังที่ถูกกดไว้

“ถวายพระพรฮองเฮาเพคะ” ซูกุ้ยเฟยคารวะอย่างงดงาม “หม่อมฉันมาเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจเพคะ หวังว่าเหตุการณ์ร้าย ๆ ที่ตำหนักของท่านจะผ่านพ้นไปได้โดยเร็ว เพราะหากเกิดเรื่องน่าอับอายเช่นนั้นอีก…วังหลวงคงรับไม่ไหวเพคะ”

คำว่า ‘เหตุการณ์ร้าย ๆ’ ของนาง…คือการพยายามลอบสังหารฮองเฮาโดยฝูซินที่นางส่งมานั่นเอง!

“ขอบใจกุ้ยเฟยที่อุตส่าห์เป็นห่วง” หลินซินเยว่ตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนที่สุด แต่แฝงไว้ด้วยความเหี้ยมหาญ “ข้าสบายดีแล้วเพคะ และหลังจากนี้…ความปลอดภัยของตำหนักคุนหนิงก็แข็งแกร่งกว่ากำแพงเหล็กเสียอีก เพราะมีฝ่าบาททรงดูแลด้วยพระองค์เอง” ซูกุ้ยเฟยชะงักไปเล็กน้อย แววตาของนางสั่นไหวอย่างเห็นได้ชัด คำพูดนั้นเป็นการตอกย้ำถึงความพ่ายแพ้ของแผนการลอบสังหาร

“แน่นอนเพคะ…ฝ่าบาทย่อมเป็นห่วงฮองเฮาเสมอ” นางตอบด้วยรอยยิ้มที่ฝืนทน “แต่ฮองเฮาเพคะ…หม่อมฉันได้ยินมาว่าช่วงนี้ฝ่าบาททรงโปรดปรานอาหารจากตำหนักของท่านมาก หม่อมฉันจึงอยากขอให้ท่าน… มอบความโปรดปรานนี้แก่ตำหนักของหม่อมฉันบ้างเพคะ เพื่อที่ฝ่าบาทจะได้ไม่ทรงลำเอียงนัก”

นี่คือการท้าทายอย่างโจ่งแจ้ง เป็นการเรียกร้องให้หลินซินเยว่แบ่งปันความสนใจของจักรพรรดิ

“กุ้ยเฟย…” หลินซินเยว่ก้าวเข้าหานางช้า ๆ ดวงตาของเธอเปล่งประกายด้วยความเชื่อมั่นที่กุ้ยเฟยไม่เคยเห็นในตัวฮองเฮาคนเก่า “เจ้าเข้าใจผิดแล้ว สิ่งที่ข้าถวายไป…มิใช่ความโปรดปราน แต่มันคือ หน้าที่ของภรรยาที่ดี และหน้าที่ที่สำคัญที่สุดของข้า…คือการดูแลพระวรกายของฝ่าบาทเพียงผู้เดียว”

“ท่านพูดเช่นนี้…หมายความว่าท่านต้องการที่จะ ‘ครอบครอง’ องค์จักรพรรดิเพียงผู้เดียวอย่างนั้นหรือเพคะ!?” กุ้ยเฟยเอ่ยเสียงดัง รอยยิ้มหวานหายไปแล้ว เผยให้เห็นความไม่พอใจที่แท้จริง

การกระทำของฮองเฮานี้กำลังทำลายอำนาจคานที่นางสร้างมาให้ทำลายฮองเฮา! แต่ทำไมครั้งนี้จึงไม่ได้ผล!

หลินซินเยว่ยังคงยิ้ม รอยยิ้มของเธอบริสุทธิ์…แต่คมกริบกว่าดาบใด ๆ เธอใช้คำจากโลกปัจจุบันที่แสนอันตรายในวังหลังแห่งนี้“ครอบครอง…อาจไม่ใช่คำที่ถูกต้องนัก” เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล แต่ทุกพยางค์ล้วนเด็ดขาด

“ฝ่าบาทเพิ่งมีพระราชโองการลับ ให้ข้า...เป็นผู้ดูแลพระวรกายและอาหารทุกมื้อเป็นการพิเศษ ดังนั้น...นับจากนี้ไป...เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการแบ่งปันความโปรดปรานอีกแล้ว”

“เพราะสำหรับฝ่าบาทแล้ว…ตอนนี้มีแต่เพียงฮองเฮาเช่นข้าเท่านั้นที่สำคัญที่สุด! อำนาจคานใด ๆ…ได้ถูกทำลายลงไปแล้ว” กุ้ยเฟยยืนแข็งทื่อ ใบหน้าของนางซีดเผือดลงทันตาเห็น พระราชโองการลับ? การดูแลพิเศษ? การทำลายอำนาจที่ตระกูลของนางคาดหวัง? ทุกอย่างที่นางได้ยินในวันนี้ เป็นการประกาศสงครามอย่างโจ่งแจ้ง…และเป็นชัยชนะที่นางไม่อาจยอมรับได้! นางกำมือแน่นจนเล็บจิกลงบนฝ่ามือ ความริษยาเปลี่ยนเป็นความแค้นอย่างรุนแรง

[ติ๊ง! มิชชันใหม่เปิดใช้งาน: เปิดโปงความจริงเบื้องหลัง (Expose the Truth)

รายละเอียด: สืบหาความจริงเบื้องหลังการสิ้นชีวิตของพระมารดาแท้ของฝ่าบาทและเปิดโปงแผนการของไทเฮาฉงฮวา!

รางวัล: ปลดล็อกฉากลับลำดับที่ 2 (ความจริงแห่งการทรยศ) +100คะแนนความอบอุ่น!

ความเสี่ยง: ระดับสูงสุด! การกระทำผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจนำไปสู่‘ความตาย’หรือ‘โทษทัณฑ์ถึงตระกูล’

คำเตือน: ไทเฮาฉงฮวาเป็นภัยคุกคามสูงสุดต่อภารกิจกู้โลก!

หลินซินเยว่เหงื่อกาฬแตกพลั่ก เธอเพิ่งจะเอาชนะศึกเล็ก ๆ กับซูกุ้ยเฟยมาได้ แต่ตอนนี้ ‘เสี่ยวหลิง’ กลับพาเธอเข้าสู่สนามรบแห่งความตายกับ ‘บอสลับ’ ที่อันตรายที่สุดในวังหลวงแห่งนี้!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   64

    คุกใต้ดินหลวง ยามค่ำ ความเย็นยะเยือกของอิฐหินที่เปียกชื้นซึมผ่านอาภรณ์หรูหราของฮองเฮาจนถึงผิวหนัง อวิ๋นซินเยว่ ถูกจองจำอยู่ในห้องขังลึกที่สุดของวังหลวง ที่นี่ไม่มีแสงตะวัน มีเพียงเสียงหยดน้ำที่กระทบพื้นหินสม่ำเสมอรราวกับเสียงเข็มนาฬิกาที่นับถอยหลังสู่ความตาย นางนั่งนิ่งอยู่บนกองฟางแห้ง ดวงตาเรียบเฉยแต่สมองกลับทำงานอย่างรวดเร็วราวกับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ “เสี่ยวหลิง... รายงานสถานะปัจจุบันของฝ่าบาทและกองทัพชายแดน!” [ติ๊ง! รายงานสถานะครับหม่าม๊า! สัญญาณชีพของฝ่าบาทเริ่มอ่อนแรงลง 5%... สารประกอบหญ้าลืมอายุ ในยาที่ซูกุ้ยเฟยป้อนซ้ำเข้าไปกำลังเริ่มเผาผลาญพลังชีวิตสำรองของพระองค์ ส่วนทางชายแดน... กองทัพแคว้นเยี่ยนปะทะกับหน่วยกักกันโรคของแม่ทัพเฉินหรงแล้ว!สถานการณ์ตึงเครียดมากครับ ถ้าภายใน 24 ชั่วโมงนี้ไม่มีคำสั่งเด็ดขาดจากส่วนกลาง ป้อมหิมะขาวอาจจะแตก!] อวิ๋นซินเยว่กำหมัดแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในฝ่ามือ ความเจ็บปวดทางกายเทียบไม่ได้เลยกับความเดือดดาลในใจ “ซูกุ้ยเฟยคิดว่าขังฉันไว้ที่นี่แล้วจะจบเรื่องงั้นเหรอ นางคงลืมไปว่าในยุคที่ฉันจากมา... การสื่อสารไม่ได้จำกัดอยู่แค่ปากต่อปาก!” นางดึงปิ่นป

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   63

    ตำหนักบรรทมส่วนพระองค์ ยามวิกาลที่มืดมิดที่สุดกลิ่นกำยานหอมอ่อน ๆ ที่เคยทำให้จิตใจสงบ บัดนี้กลับถูกกลบด้วยกลิ่นขื่นปร่าของสมุนไพรเคี่ยวเข้มข้นที่ลอยอบอวลไปทั่วห้องบรรทม แสงเทียนวูบไหวสะท้อนเงาของร่างสูงสง่าบนเตียงมังกรที่บัดนี้ดูเปราะบางราวกระเบื้องเคลือบที่พร้อมจะแตกสลาย องค์จักรพรรดิอวี้เหยียน ทรงบรรทมสนิท ลมหายใจแผ่วเบาจนน่าใจหาย พระพักตร์ที่เคยคมคายและเปี่ยมด้วยอำนาจ บัดนี้ซีดเผือดราวกับคนหลงทางในม่านหมอกอวิ๋นซินเยว่ นั่งอยู่ข้างเตียง มือเรียวบางกุมพระหัตถ์ที่เย็นเฉียบของเขาไว้แน่น นางไม่ได้หลับมาสามวันสามคืนแล้ว ขอบตาที่รื้นแดงไม่ได้เกิดจากความอ่อนล้า แต่เกิดจากความวิตกกังวลที่อัดแน่นอยู่ในอก“เสี่ยวหลิง... เริ่มการสแกนขั้นสูงอีกครั้ง ฉันต้องการผลวิเคราะห์ที่แม่นยำ 100% ห้ามมีความผิดพลาดแม้แต่มิลลิกรัมเดียว!”[ติ๊ง!ระบบกำลังวิเคราะห์องค์ประกอบของยาถอนพิษชุดล่าสุด...ประมวลผลเสร็จสิ้น98 เปอร์เซ็นต์] หน้าจอเสมือนสีฟ้าใสที่เห็นได้เพียงนางคนเดียวปรากฏขึ้นเบื้องหน้า ข้อมูลโครงสร้างทางเคมีของสมุนไพรโบราณถูกจำแนกออกมาเป็นตัวเลขและกราฟที่น่าสะพรึงกลัว[ผลการวิเคราะห์พบสารสกัดจาก‘หญ้าล

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   62

    ตำหนักบรรทมส่วนพระองค์สามวันหลังจากการแต่งตั้งกุ้ยเฟยบรรยากาศในตำหนักดูเคร่งเครียดกว่าปกติ องค์จักรพรรดิอวี้เหยียน กำลังเข้าสู่ช่วง วิกฤตการรักษาตามที่ ซูกุ้ยเฟย ได้เตือนไว้ พระวรกายของพระองค์ซูบผอมลงอย่างเห็นได้ชัด ไข้สูงกลับมาเป็นระยะ และทรงหลับลึกกว่าปกติ... ราวกับสลบไป!อวิ๋นซินเยว่ เฝ้าดูแลอยู่ไม่ห่าง นางยังคงใช้ศาสตร์ทางการแพทย์จากโลกปัจจุบันผสมผสานกับความรู้จากซูกุ้ยเฟยผ่านตำราที่ไทเฮาเก็บรักษาไว้ เพื่อประคองชีพพระองค์ไว้!ซูกุ้ยเฟย เข้ามาตรวจดูอาการทุกวัน นางปฏิบัติต่อองค์จักรพรรดิอย่างเคร่งครัดและเป็นมืออาชีพ แต่สายตาที่มองมายังฮองเฮายังคงเต็มไปด้วยความเย็นชาและความไม่ไว้วางใจ!“ฮองเฮา! พระอาการของฝ่าบาทเป็นไปตามที่ตำราระบุ! ในช่วงเจ็ดวันต่อจากนี้... พิษเก่ากำลังถูกกำจัดอย่างรุนแรง! พระองค์จะไม่สามารถทรงงานได้เลยแม้แต่น้อย! หากมีความผิดพลาดในการรักษาแม้เพียงเล็กน้อย... พระวรกายอาจจะไม่อาจฟื้นคืนมาได้อีก!”“กุ้ยเฟย! ข้าทราบดี! ข้าในฐานะฮองเฮา จะไม่อนุญาตให้ใครเข้ามารบกวนฝ่าบาทในช่วงวิกฤตนี้! เจ้าจงดูแลการจัดหาตัวยาทั้งหมดให้ถูกต้องตามตำราที่ไทเฮาเก็บไว้! ถ้ามีสมุนไพรใดขาดไป..

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   61

    ท้องพระโรงลับ ยามอรุณรุ่งพิธีการสถาปนา สนมซูเหมยเยว่ ขึ้นเป็น กุ้ยเฟย ถูกจัดขึ้นอย่างเร่งด่วนในท้องพระโรงส่วนพระองค์ มีเพียงไทเฮา เสนาบดีซู และขุนนางคนสำคัญที่วางใจได้เท่านั้นที่เข้าร่วมพิธี เพื่อป้องกันมิให้ข่าวการประชวรของจักรพรรดิรั่วไหลองค์จักรพรรดิอวี้เหยียน ประทับอยู่บนบัลลังก์ด้วยสีหน้าซีดเซียว ยาถอนพิษชุดแรกทำให้พระวรกายอ่อนล้าอย่างหนัก แต่ดวงตาของพระองค์ยังคงเปี่ยมด้วยอำนาจ ข้างกายของพระองค์คือ อวิ๋นซินเยว่ ในชุดฮองเฮาเต็มยศ... นางยืนอย่างมั่นคงราวกับเสาหลักของบัลลังก์!“สนมซูเหมยเยว่! เจ้าได้แสดงความซื่อสัตย์ต่อแคว้นอวี้... และต่อชีวิตของข้า! บัดนี้ข้าขอแต่งตั้งเจ้าขึ้นเป็น ‘กุ้ยเฟย’ ผู้ซึ่งมีศักดิ์สูงสุดรองจากฮองเฮา! และขอพระราชทาน ‘ตราเหยี่ยวเงิน’ ให้แก่เจ้า! ตรานี้จะมอบอำนาจในการดูแลพิธีการทั้งหมดในวังหลวง... และควบคุมพระราชทรัพย์ส่วนหนึ่งที่สำคัญในการดูแลพระวรกายของข้า! ขอให้เจ้าจงภักดีต่อข้า... และต่อแคว้นอวี้ไปชั่วชีวิต!” สนมซูเหมยเยว่ คุกเข่ารับตำแหน่งด้วยใบหน้าเปี่ยมด้วยเกียรติยศ แต่นางยังคงมองไปยัง อวิ๋นซินเยว่ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความระแวง! นางรู้ดีว่าอำนาจที่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   60

    ตำหนักบรรทมส่วนพระองค์ ยามสาย หลังจากที่ พระสนมซูเหมยเยว่ ยื่นข้อเสนอที่สะเทือนขวัญ องค์จักรพรรดิอวี้เหยียน ก็สั่งให้ทุกคนออกไปจากห้อง เหลือไว้เพียงเขาและฮองเฮา อวิ๋นซินเยว่ผู้ซึ่งยังคงถือตราพระราชลัญจกรไว้ในมือ ใบหน้าของ อวี้เหยียน ซีดเซียวลงด้วยความเหนื่อยล้าและข้อเท็จจริงที่เจ็บปวด เขาเป็นกษัตริย์ที่ถูกอำนาจที่แท้จริงรัดคออย่างไม่สามารถต่อต้านได้! “ซินเยว่! เจ้าได้ยินทั้งหมดแล้ว! หากสิ่งที่สนมซูพูดเป็นความจริง... พิษร้ายได้ถูกสะสมในตัวข้ามานานปี! และหากข้าใช้กำลังแม้แต่น้อยในการข่มขู่ตระกูลซู... ยาถอนพิษก็จะหายไปตลอดกาล! ข้า... ข้าคือราชาที่ตกอยู่ในความเมตตาของตระกูลขุนนางเสียแล้ว!” พระองค์มองไปยัง อวิ๋นซินเยว่ ด้วยความเจ็บปวดและแววตาที่สับสน เขาต้องการให้นางปฏิเสธ... แต่เขามีหน้าที่ที่ต้องมีชีวิตอยู่เพื่อบัลลังก์! “เจ้า... เจ้าคิดว่าข้าควรจะทำอย่างไร! ข้าพร้อมที่จะสละทุกอย่าง! แม้แต่ อำนาจในฝ่ายในของเจ้า! ตราบใดที่ข้ายังสามารถมีชีวิตอยู่เพื่อปกป้องแคว้นอวี้ได้! ข้าไม่ต้องการให้เจ้าต้องเสี่ยงชีวิตเพราะความเห็นแก่ตัวของข้า!” อวิ๋นซินเยว่ กำมือแน่น หัวใจของนางเย็นเยียบด้วยความตร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   59

    ตำหนักบรรทมส่วนพระองค์ ยามรุ่งสางแสงแดดยามเช้ายังมิอาจสาดส่องเข้ามาในตำหนักบรรทมได้ บรรยากาศยังคงสลัวและเต็มไปด้วยกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของสมุนไพร องค์จักรพรรดิอวี้เหยียน เพิ่งเข้าสู่ห้วงนิทราที่สงบที่สุดหลังจากผ่านพ้นพิษไข้มาแล้ว อวิ๋นซินเยว่ นั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียง ความอ่อนล้าจากการดูแลเขาตลอดคืนมิอาจบดบังความแหลมคมในดวงตาของนางได้เลยทันใดนั้น... เสียงฝีเท้าที่เร่งรีบและเต็มไปด้วยอำนาจก็ดังขึ้น ขันทีและนางกำนัลคนสนิทของสนมซูเหมยเยว่ ที่ได้รับการสนับสนุนจากเสนาบดีซูได้ถือม้วนพระราชโองการ เข้ามาในห้องอย่างไม่เกรงกลัวหัวหน้าขันทีผู้หยิ่งผยอง นามว่า หลิ่วจิ้น ได้ก้าวเข้ามาพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความชอบธรรม เขาตั้งใจจะใช้ความป่วยไข้ของจักรพรรดิเป็นโอกาสในการกำจัดฮองเฮาผู้นี้!หลิ่วจิ้นส่งเสียงดังอย่างจงใจ “ฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ! โปรดทรงสดับรับพระราชโองการจากเบื้องบน! ฝ่าบาททรงมีรับสั่งให้ย้ายพระองค์ออกจากตำหนักบรรทมทันที! เนื่องจากพระองค์ละเลยหน้าที่จนทำให้พระวรกายของฝ่าบาททรุดโทรมลงอย่างรวดเร็ว! พระองค์ไม่คู่ควรที่จะอยู่ใกล้ชิดพระองค์ในยามนี้!”อวิ๋นซินเยว่ ลุกขึ้นยืนอย่างเชื่องช้า ใบหน้าของนาง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status