ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ในจวนเยียนอ๋อง พวกเขาค้นไม่เจอทรัพย์สมบัติเลยสักชิ้นตอนไปรายงานผลการปฏิบัติหน้าที่ เขาจะต้องถูกฮ่องเต้ลงโทษอย่างแน่นอนหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ผูกใจเจ็บคนในครอบครัวเยียนอ๋องเพราะเรื่องนี้เองเดิมนั้นพวกเขานำชุดผ้าป่านเนื้อหยาบสำหรับให้คนในตระกูลเยียนอ๋องผลัดเปลี่ยนมาด้วยแต่ตอนริบทรัพย์กลับค้นไม่เจออะไร หัวหน้าทหารรักษาพระองค์จึงเปลี่ยนใจเขาจะปล่อยให้คนในตระกูลเหล่านี้ถูกเนรเทศทั้งที่ยังสวมชุดหรูหราเช่นนี้แหละเขาต้องการให้ทุกคนได้เห็นว่าคนที่ถูกเนรเทศเหล่านี้ล้วนแต่เป็นเชื้อพระวงศ์ทั้งสิ้นดีที่สุดคือเจอโจรดักปล้นระหว่างทาง ถึงตอนนั้นเขาก็มีเรื่องสนุกให้ดูแล้วอย่างไรเสียฮ่องเต้ก็บัญชาไว้แล้วว่าพวกเขาแค่คุมคนไปส่งก็พอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างทาง พวกเขาไม่จำเป็นต้องออกโรงปกป้องรอจนไปถึงเมืองร้าง เขาค่อยให้คนเหล่านี้เปลี่ยนไปใส่ชุดผ้าป่านเนื้อหยาบให้พวกเขาใช้ชีวิตอันแสนลำเค็ญในถิ่นทุรกันดารไปเถอะในไม่ช้าเหล่าทหารรักษาพระองค์ก็เริ่มย่างเนื้อสุนัขกลิ่นหอมของเนื้อโชยมาเป็นระลอก ลอยมาเข้าจมูกของคนในตระกูลเยียนอ๋องพวกเขาเห็นทหารรักษาพระองค์กินเนื้อย่า
ฉู่จวินสิงในตอนนี้ราวกับศพศพหนึ่ง ทำได้เพียงปล่อยให้มือของเจี่ยนอันอันเคลื่อนไหวตามอำเภอใจไปบนร่างกายของตนเองหลังเจี่ยนอันอันทายาให้ฉู่จวินสิงอย่างรวดเร็วจนเสร็จ ก็นำยาแก้ปวดมาบดเป็นผงนางง้างปากฉู่จวินสิง เทผงยาแก้ปวดใส่ปากเขาฉู่จวินสิงอยากถ่มยาในปากทิ้งไป แต่กลับพบว่าการเคลื่อนไหวแค่นี้ยังกลายเป็นความยากเย็นแสนเข็ญสมองของเขาทำงานเร็วจี๋ สตรีผู้นี้ต้องการทำอันใดกันแน่ นางต้องการวางยาพิษเขาเช่นนั้นหรือ?หากเป็นเช่นนั้นจริง ถึงเขากลายเป็นผีก็จะไม่ยอมปล่อยนางไปแน่ขณะที่ฉู่จวินสิงคิดเหลวไหลอยู่ ก็เห็นว่ามือฉู่อันเจ๋อกำลังถือน้ำขวดหนึ่งเขากรอกน้ำในขวดใส่ปากฉู่จวินสิงน้ำและยาไหลผ่านลำคอลงไปในท้องของฉู่จวินสิงฉู่จวินสิงหรี่ตามองฉู่อันเจ๋อไม่เข้าใจว่าเหตุใดอีกฝ่ายจึงร่วมมือกับสตรีผู้นี้มากรอกยาพิษให้เขาคนทั้งสองจดจ่ออยู่กับการป้อนยาให้ฉู่จวินสิงจนไม่ได้สังเกตว่าฉู่จวินสิงในตอนนี้ได้สติแล้ว ทั้งยังกำลังมองพวกตนอยู่หลังทำทั้งหมดนั้นเสร็จ เจี่ยนอันอันก็กล่าวกับฉู่อันเจ๋อว่า “เจ้าเฝ้าเขาไว้ให้ดี ไม่ว่าเขามีอาการอย่างไร เจ้าก็ต้องมาบอกข้าทันที”ฉู่อันเจ๋อพยักหน้าน้อย ๆ “ข้าเ
ภาพเหล่านี้ปรากฏเพียงไม่นานก็หายไปเจี่ยนอันอันรู้ว่านี่คือความสามารถในการล่วงรู้อนาคตของร่างเดิมตอนนี้นางทะลุมิติมาอยู่ในร่างนี้ ยังได้รับสืบทอดพลังของร่างเดิมแต่ความสามารถในการล่วงรู้อนาคตของร่างเดิมมีขีดจำกัด รู้ได้เพียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในสามวันข้างหน้าเท่านั้นภาพเมื่อครู่ทำให้เจี่ยนอันอันรู้ว่ากลุ่มคนชุดดำจะปรากฏตัวในค่ำคืนนี้แม้นางจะไม่รู้ว่าผู้ใดเป็นคนส่งกลุ่มคนชุดดำนี้มา แต่พวกเขาต้องมีความเกี่ยวข้องกับทหารรักษาพระองค์พวกนี้แน่นอนหึ ทหารรักษาพระองค์พวกนี้ชอบแสร้งตายกันนักใช่หรือไม่ถ้าเช่นนั้นก็ให้พวกเขาได้ลิ้มรสความทรมานก่อนก็แล้วกันเจี่ยนอันอันแยกจากฮูหยินใหญ่แล้วมายังมุมที่ค่อนข้างมืดมุมหนึ่งครั้นเห็นว่าไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นตัวเอง เจี่ยนอันอันก็รำพึงในใจเงียบ ๆ ว่า ‘หายตัว’วินาทีถัดมานางก็หายไปแล้วเจี่ยนอันอันมายังกองทหารรักษาพระองค์ จากนั้นนำผงยาถ่ายออกมาจากช่องมิตินี่เป็นสิ่งที่นางใช้กับฮ่องเต้สุนัขไปเมื่อก่อนหน้านี้เดิมทีนางยังคิดระหว่างทางที่มาที่นี่อยู่เลยว่าจะอยู่ร่วมกับทหารรักษาพระองค์เหล่านี้แต่โดยดีทว่าดูจากตอนนี้คงไม่จำเป็นแล้วนางโรย
หากพวกผู้ใต้บังคับบัญชาพวกนั้นรู้เรื่องนี้เข้า วันหน้าเขาจะเป็นผู้นำของพวกเขาต่อไปได้อย่างไรเรื่องนี้จะกลายเป็นหัวข้อสนทนาในยามว่างอย่างไม่ต้องสงสัยเกรงว่าแม้แต่ตอนนอนก็อาจสะดุ้งตื่นเพราะเสียงหัวเราะครั้นเห็นเหล่าทหารรักษาพระองค์วิ่งมาทางนี้ หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ก็ต้องรีบโบกมือไล่โดยพลัน“ไปทำธุระกันที่อื่น อย่ามารบกวนข้า!”ทหารรักษาพระองค์คนอื่น ๆ ไม่ได้รู้ว่าหัวหน้าของตัวเองถ่ายราดกางเกงและไม่คิดจะสงสัยเช่นกัน พวกเขาพากันวิ่งไปปลดทุกข์ที่อีกฝั่งของป่ารกร้างไม่นานก็เกิดเสียงผายลมสะเทือนฟ้าสะเทือนดินขึ้นในป่ารกร้างแห่งนี้ หลังจากที่หัวหน้าทหารรักษาพระองค์จัดการธุระเสร็จ เขากลับมีเรื่องกลัดกลุ้มใจตามมาเขาจะกลับไปอย่างไรดี จะให้สวมกางเกงที่มี ‘คราบทองคำ’ เปรอะเปื้อนก็คงไม่ใช่ทหารรักษาพระองค์คนอื่นๆ เสร็จธุระแล้วสวมกางเกงเพื่อเตรียมจะกลับไปทว่าพวกเขายังไม่ได้ทันจะได้เยื้องย่าง ท้องก็เริ่มปวดบิดขึ้นมาอีกครั้ง“ข้าไม่ไหวแล้ว ข้าต้องทำธุระต่อ พวกเจ้ากลับไปเฝ้ายามก่อนเถอะ”“ข้านั่งจนขาชาไปหมดแล้ว แต่ท้องก็ยังไม่หายปวดสักที”“มันเพราะอะไรกันแน่ หรือว่าเนื้อสุนัขตัวนั้นจะ
เจี่ยนอันอันตอบหลังจากที่ป้อนน้ำตาลกลูโคสให้ฉู่จวินสิงเสร็จเรียบร้อย “บาดแผลของพี่รองเจ้าค่อนข้างสาหัส อวัยวะภายในได้รับความเสียหาย กระดูกซี่โครงหักไปสี่ซี่”“หลังจากคืนนี้จะฟื้นหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตาแล้ว”ถ้อยคำของเจี่ยนอันอันทำให้ฉู่อันเจ๋อกังวลในทันที“ท่านหมายความว่าพี่รองกำลังจะตายหรือ?” ฉู่อันเจ๋อคว้าแขนของเจี่ยนอันอันอย่างตื่นตระหนก “พี่สะใภ้รอง ในเมื่อท่านเป็นคนสกุลฉู่ของเราแล้ว ข้าขอร้องท่านให้ช่วยพี่รองด้วยเถิด”เจี่ยนอันอันชักแขนออก และทำท่าทางพร้อมทำสียง “ชู่ว” เพื่อให้ฉู่อันเจ๋อใจเย็นลงเมื่อครู่นี้เขาพูดเสียงดังปานนั้น หากถูกฮูหยินใหญ่ได้ยินเข้าคงตกใจกลัวเป็นแน่แท้เจี่ยนอันอันกล่าวปลอบว่า “เจ้าวางใจเถิด มีข้าอยู่ทั้งคน ข้าจะไม่ให้เขาตายไวขนาดนั้นแน่ แต่อาการบาดเจ็บของเขารุนแรงไม่น้อยเลย ต้องขึ้นอยู่กับแรงใจของเขาด้วย หากเขามีแรงใจที่เข้มแข็ง พรุ่งนี้เช้าก็จะฟื้น หรือมิเช่นนั้นก็จะหลับใหลไปตลอดกาล”ฉู่อันเจ๋อเบาใจลงเมื่อได้ยินเจี่ยนอันอันบอกว่าพี่รองจะไม่ตาย อย่างมากสุดก็แค่หลับไม่ฟื้นขอเพียงพี่รองยังมีชีวิตอยู่ เช่นนั้นก็ต้องมีหนทางรักษาเขาให้หายดีแน่นอน
เจี่ยนอันอันดีใจเป็นลิงโลดเมื่อเห็นมิติร้านค้าภายในมิติมีเงินตั้งมากมายถึงเพียงนั้น นางสามารถนำมาซื้อของในร้านค้าได้หลังจากนี้จะได้กินหลัวซือเฝิ่น[1]กับขนมให้สาแก่ใจได้แล้วไม่นึกเลยว่านางจะจับพลัดจับผลูทำเสร็จไปอีกภารกิจเจี่ยนอันอันมีความสุขจนเผลอยกยิ้มและฮัมเพลงออกมาโดยไม่รู้ตัวในยามนี้เอง ทหารรักษาพระองค์พวกนั้นก็ทยอยกันกลับมาเมื่อครู่นี้พวกเขาไปทำธุระมาอีกรอบ ยามนี้ท้องไส้จึงรู้สึกสงบลงในที่สุดพวกเขากลับมายังหน้ากองไฟและเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าไม่มีพวกเขาคนใดอยู่เฝ้าที่นี่แม้แต่คนเดียวโชคดีที่คนของจวนเยียนอ๋องต่างก็นั่งอยู่ที่นี่ มิมีผู้ใดเล็ดลอดหนีไปมิเช่นนั้นหากมีคนหนีไป พวกเขาคงกลับไปรายงานผลการปฏิบัติภารกิจไม่ได้เหล่าทหารรักษาพระองค์ต่างนึกกลัวผลที่จะตามมาพวกเขารอแล้วรอเล่า หัวหน้าก็ไม่กลับมาสักทีทหารที่มีความสัมพันธ์ค่อนข้างดีกับหัวหน้าทหารรักษาพระองค์นายหนึ่งเห็นว่าหัวหน้าไม่กลับมาสักที ก็ลุกขึ้นยืนอย่างสุดจะทนในท้ายที่สุดเขาบอกกับทหารรักษาพระองค์คนอื่น ๆ “พวกเจ้าเฝ้าคนพวกนี้ให้ดี ข้าจะไปหาท่านหัวหน้า”ทหารนายนี้ว่าจบก็วิ่งเข้าไปในป่าครั้นเจี่ยนอันอันเ
ทหารนายนั้นวิ่งกลับไปหัวหน้าทหารรักษาพระองค์แล้วดึงแขนของอีกฝ่ายเพื่อประคองให้ลุกขึ้น“เบาหน่อย ขาข้าชาจนไม่มีความรู้สึกแล้ว”หัวหน้าทหารองครักษ์ต้องพักอยู่นานจึงจะเปลี่ยนกางเกงชั้นในจากนั้นทหารนายนี้จึงประคองเขากลับไปยังจุดพักผ่อนอย่างเชื่องช้าเมื่อเจี่ยนอันอันเห็นหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ ในที่สุดนางก็หัวเราะ “พรืด” ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ตวาด “หัวเราะอะไร อย่าคิดว่าเจ้าเป็นคุณหนูใหญ่แห่งจวนกั๋วกงแล้วข้าจะไม่กล้าทำอะไรนะ” “ยามนี้เจ้าเป็นผู้ถูกเนรเทศ ต่อให้ตายระหว่างทางก็คงไม่มีผู้ใดช่วยเก็บศพ”หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ทึกทักเอาเองว่าถ้อยคำของตัวเองจะทำให้เจี่ยนอันอันหวาดกลัวเจี่ยนอันอันเพียงแค่นเสียงแผ่วเบา ไม่ได้สนใจอีกฝ่ายนางคร้านจะเสวนากับเขา อย่างไรเสีย การยั่วโมโหอีกฝ่ายก็รังแต่จะทำให้นำปัญหาที่ไม่จำเป็นมาให้คนในตระกูลเปล่า ๆนางไม่อยากสร้างปัญหาให้ผู้อื่นเพราะตัวนางเองเจี่ยนอันอันหันไปมองฉู่จวินสิงที่ยังคงหมดสติปราดหนึ่งที่นี่มีฉู่อันเจ๋อดูแลอยู่ นางต้องไปปกป้องฮูหยินใหญ่ให้ปลอดภัยเจี่ยนอันอันกล่าวกับหลี่อันเจ๋อ “จงฟังให้ดี ประเดี๋ยวจะมีกล
เจี่ยนอันอันเห็นดังนั้นจึงไม่รอช้า รีบหยิบเข็มเงินออกมาจากมิติและซัดไปยังชายชุดดำผู้นั้นทันทีเข็มเงินปักเข้าที่ลำคอของชายชุดดำ ก่อนที่เขาจะได้ตอบสนอง ร่างก็ล้มลงกับพื้นและสิ้นใจในทันทีเมื่อเสียงการต่อสู้ดังขึ้น เหล่าคนในตระกูลต่างก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นพวกเขาลืมตาขึ้นมาก็เห็นกลุ่มคนชุดดำโผล่มาอย่างไม่คาดคิดเมื่อเห็นชายชุดดำคนหนึ่งตายอยู่ตรงหน้า บางคนก็ตกใจกลัวจนร้องไห้ออกมาทันทีชายชุดดำคนอื่น ๆ ที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็ชะงักไปพวกเขาเห็นใบหน้าสหายของตนกลับกลายเป็นสีม่วงคล้ำไปแล้วเลือดสีดำไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ดของเขากลุ่มชายชุดดำรู้สึกตกใจอย่างมาก ไม่คาดคิดว่าเข็มเงินที่ปักอยู่บนลำคอของสหายนั้นจะถูกอาบด้วยยาพิษแม้แต่ทหารรักษาพระองค์ก็ยังตกใจกับเข็มเงินของเจี่ยนอันอันทุกคนหันสายตามองมาทางเจี่ยนอันอันอย่างพร้อมเพรียงฉู่จวินสิงเห็นว่าที่มุมปากของเจี่ยนอันอันยกขึ้นเล็กน้อยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความกระหายเลือดและความโหดร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนางหัวใจของฉู่จวินสิงถึงกับสั่นสะท้านสิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ ในยุคปัจจุบัน เจี่ยนอันอันชอบใช้เข็มเงินเป็นลูกดอกเล่นสนุกอยู่แล้วนางย
และไม่นานเขาก็รู้สึกถึงความผิดปกติ ร่างกายเริ่มมีอาการสะบัดร้อนสะบัดหนาว กระดูกและข้อต่อค่อยทวีความเจ็บปวดรุนแรงขึ้นเสียงร้องของเขาดังยิ่งกว่าเมื่อครู่หลายเท่าตัว แต่หัวหน้าผู้คุมและลูกน้องต่างไม่เห็นยาพิษที่เจี่ยนอันอันโยนออกไป จึงเห็นการกู่ร้องของเฝิงซานกวงเป็นเพียงการขัดขืนครั้งสุดท้ายเท่านั้นแม้พวกเราจะรู้ดีว่า เฝิงซานกวงเป็นญาติกับเจ้าเมืองตานแต่เมื่อท่านเจ้าเมืองออกคำสั่งมาแล้ว พวกเขาก็ย่อมต้องปฏิบัติตามพวกเขาคุมตัวเฝิงซานกวงไปยังห้องลงทัณฑ์ พร้อมจับมัดไว้กับม้านั่งตัวหนึ่งผู้คุมสองคนยกไม้พลองขึ้น พร้อมฟาดลงที่สะโพกเฝิงซานกวงอย่างแรง“อ๊าก โอ๊ย โอ๊ย!”เดิมทีร่างกายก็เจ็บปวดอยู่แล้ว ยังมาถูกโบยซ้ำอีกเฝิงซานกวงเจ็บเสียจนเสียงร้องโหยหวนราวกับหมูโดนเชือดไม่นานก็โบยครบยี่สิบไม้ พร้อมกับสะโพกเฝินซานกวงซึ่งยับเยินไม่เป็นชิ้นดีเลือดไหลซึมออกมาจนเปื้อนเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นเจี่ยนอันอันตามมายังห้องลงทัณฑ์ มองลอดหน้าต่างเห็นทุกอย่างอยู่ในสายตาและบัดนี้เฝิงซานกวงได้หมดสติไปแล้ว เสื้อผ้ายังเปื้อนด้วยเหงื่อเย็นที่โซมกายนางพอใจเป็นอย่างมากที่ผลออกมาเช่นนี้ จึงได้กล่าวต่อเจ้
เฝิงซานกวงถลึงตาใส่เจี่ยนอันอัน พลางกล่าวแก้ตัว “ท่านอารอง ข้าไม่เห็นว่าแร่หินจะมีปัญหาอันใด”“หากแร่เหล่านี้มีพิษจริง แล้วข้าจะอยู่รอดปลอดภัยมาได้อย่างไร?”คำกล่าวนี้ย่อมทำให้เจ้าเมืองตานเกิดความกังขาเช่นกัน จึงมองไปยังฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอัน รู้สึกว่าคำพูดของสองคนนี้ ดูจะไม่ชอบมาพากลนักเจี่ยนอันอันยิ้มหยันพลางกล่าว “ท่านย่อมจะปลอดภัยแน่นอน เพราะรู้แต่แรกแล้วว่าแร่หินมีพิษ จึงกินยาป้องกันไว้ก่อนล่วงหน้า”เฝินซานกวงแอบสะดุ้งในใจ แต่ยังไม่คิดยอมรับว่าแร่หินมีพิษจริงจึงได้กล่าวแก้ตัวอีกครั้ง “เจ้าอย่าได้กล่าวเหลวไหล ข้าเคยกินยาถอนพิษเมื่อไหร่กัน”นี่ล้วนเป็นสิ่งที่เจ้าคิดเองเออเองทั้งเพ หวังนำมาซ้ำเติมให้ข้ามีโทษหนักมากขึ้น”เจี่ยนอันอันพอดูออกว่า เจ้าเมืองตานเริ่มคล้อยตามคำพูดเฝิงซานกวงบ้างแล้วนางจึงกล่าวต่อเจ้าเมืองตานว่า “หากท่านเจ้าเมืองไม่เชื่อคำพูดของข้า ก็ให้ส่งคนไปตรวจสอบที่เหมืองแร่ได้ เพื่อดูว่าข้าพูดถูก หรือเฝิงซานกวงพูดถูกกันแน่”เจ้าเมืองตานจึงรีบเรียกทหารในจวนมา พร้อมสั่งให้ไปตรวจสอบที่เหมืองแร่ไม่นานทหารผู้นั้นก็ได้กลับมา พร้อมรายงานว่าคนงานที่อยู่ในเหมือง ล
ครั้นเจ้าเมืองตานได้ยินว่าฉู่จวินสิงมา หัวใจก็พลันหนักอึ้งเขาสาวเท้าออกไปจากคุกในทันที “รีบเชิญพวกเขาเข้ามา”องครักษ์ได้ยินเจ้าเมืองตานใช้คำว่าเชิญ ในใจก็คิดว่าฉู่จวินสิงจะต้องเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งเป็นแน่เขาไม่กล้าชักช้าจึงย้อนกลับไปโดยพลันเขากล่าวกับฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันอย่างนอบน้อม “ใต้เท้าของข้าเชิญพวกท่านเข้าไปข้างใน”ฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันสาวเท้าเข้าไปในจวน โดยมีองครักษ์นำทางไปยังโถงใหญ่คนทั้งสองมาถึงบริเวณนอกโถงใหญ่ก็เห็นว่าเจ้าเมืองตานรออยู่ข้างในแล้วเจ้าเมืองตานรีบออกมาต้อนรับ เขาประสานมือกล่าว “ทั้งสองท่านมาที่จวนข้าได้อย่างไร เหมืองนั่นเกิดเรื่องอันใดขึ้นอีกอย่างนั้นรึ?”“เจ้าเมืองตานกล่าวไม่ผิด เหมืองนั่นเกิดเรื่องขึ้นแล้วจริงๆ”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้สองมือของเจ้าเมืองตานกำแน่นเขานึกแล้วเชียวว่าจะต้องเป็นเรื่องดีๆ ที่เฝิงซานกวงทำอีกแล้วเป็นแน่เจี่ยนอันอันบอกเรื่องที่แร่ในเหมืองมีพิษออกมาเจ้าเมืองตานได้ยินแล้วก็ยิ่งโมโหอย่างหนักเขามีหลานแบบนี้ได้อย่างไรกันนะ ถึงกับให้คนเหล่านั้นขุดแร่มีพิษเลยหรือนี่ถ้าไม่ใช่เพราะเฝิงซานกวงเป็นหลานของเขา เขาคงส
พวกลูกน้องต่างมองหน้ากัน ความงุนงงฉายเกลื่อนใบหน้าพวกเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุใดตนเองจึงไม่ถูกพิษหากไม่ใช่เพราะเจี่ยนอันอันเพิ่งพูดออกมาว่าแร่ของที่นี่มีพิษ พวกเขาก็คงยังไม่รู้เรื่องนี้ด้วยซ้ำลูกน้องคนหนึ่งในจำนวนนั้นเอ่ยขึ้น “พวกข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ แต่ตอนแรกที่พวกข้ามาที่นี่เคยได้กินน้ำแกงปลาจี้ที่เจ้าเหมืองเฝิงทำ”“หรือจะเป็นเพราะน้ำแกงนั่น พวกข้าถึงได้ไม่ถูกพิษ?”ลูกน้องคนอื่นๆ ก็รีบร้อนพยักหน้าด้วยเช่นกัน“ใช่แล้ว วันแรกที่พวกข้ามาที่นี่ล้วนแต่ได้ดื่มน้ำแกงปลาจี้ไปหนึ่งถ้วย”“ข้าคิดออกแล้วเหมือนกัน ตอนที่ข้าซดน้ำแกงปลาจี้นั่นยังคิดอยู่เลยว่าเจ้าเหมืองเฝิงช่างใจกว้างนัก เพิ่งมาถึงก็ให้พวกข้าดื่มน้ำแกงปลาจี้ที่สดใหม่เช่นนี้ อาศัยน้ำแกงปลาจี้นี้ ข้าก็จะตั้งใจทำงานให้เขา”เจี่ยนอันอันมุ่นคิ้ว เมื่อครู่นางดมดูแล้ว พิษในแร่นั่นไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถถอนพิษได้ด้วยน้ำแกงปลาจี้ถ้วยเดียวเห็นทีเรื่องนี้คงต้องไปถามเฝิงซานกวงถึงจะรู้เรื่องในเมื่อแร่มีพิษ แต่เฝิงซานกวงและพวกลูกน้องล้วนแต่ปลอดภัยไม่ได้รับผลกระทบ แสดงว่าเขาจะต้องมีวิธีแก้พิษอยู่อย่างแน่นอนนา
เจี่ยนอันอันขมวดคิ้วมุ่น นางมองไปทางซ่งไหล “ท่านเล่า จำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร บ้านอยู่ที่ไหนด้วยเหมือนกันรึ?”ซ่งไหลส่ายหน้าเบาๆ “จำไม่ได้”เจี่ยนอันอันคว้าข้อมือซ่งไหลขึ้นมาจับชีพจรให้เขาในไม่ช้านางก็ได้ข้อสรุปคนเหล่านี้ทุกคนล้วนถูกพิษ ขณะที่พิษประเภทนี้จะทำให้คนที่ถูกพิษสูญเสียความทรงจำไปในชั่วพริบตาหลังจากที่นางปล่อยมือซ่งไหลก็สุ่มหยิบแร่ก้อนหนึ่งบนพื้นขึ้นมานางนำมาจ่อใต้จมูกดมดูก็ได้กลิ่นสกปรกจางๆ ที่แผ่ซ่านออกมาจากก้อนแร่ได้ในทันทีนางกล่าวกับฉู่จวินสิง “ถ้าข้าเดาไม่ผิด แร่ในเหมืองนี้ล้วนแต่มีพิษ”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้ทุกคนบริเวณนั้นล้วนสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวจากก้นบึ้งหัวใจที่พวกเขาจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร เป็นเพราะต้องพิษจากแร่พวกนี้อย่างนั้นหรือ?“พวกข้าควรทำอย่างไรดี ข้าไม่อยากตาย!”“ข้าก็ไม่อยากตายเหมือนกัน ข้าอยากไปจากที่นี่”“แม่นางได้โปรดปล่อยพวกข้าไปเถอะ ให้พวกข้าไปจากที่นี่เถอะนะ”คนงานเหมืองเหล่านั้นขอร้องเจี่ยนอันอันเสียงระงม หวังว่านางจะสามารถปล่อยพวกเขาไปซ่งไหลก็หวาดกลัวมากเช่นกัน เขาอยากไปจากที่นี่ ไม่อยากตายอยู่ในสถานที่แห่งนี้เจี่ยนอันอัน
ฉู่จวินสิงและซ่งไหลที่รออยู่ด้านนอกล้วนร้อนใจอย่างยิ่งโชคดีที่เจี่ยนอันอันออกมาอย่างรวดเร็ว ทั้งยังพาเด็กชายหนึ่งคนออกมาด้วยซ่งไหลรีบอุ้มเด็กชายออกมาข้างนอกเขากระซิบเรียกชื่อเด็กชายเบาๆ “หวายหมิง เจ้าฟื้นเร็วเข้า”เจี่ยนอันอันเห็นว่าซ่งไหลมีท่าทางเป็นกังวลอย่างมาก นางจึงบอกเสียงเบาว่า “เขาแค่สลบไปเท่านั้น ไม่ได้เป็นอันใดมาก”หลังจากที่นางพูดจบก็มุดเข้าไปในถ้ำอีกครั้งรอจนถึงตอนที่นางพาเด็กชายคนที่สองออกมาก็ถอดแว่นสายตากลางคืนออกแล้วนางกล่าวกับฉู่จวินสิงว่า “พวกเราออกไปจากที่นี่ก่อนค่อยคุยกัน”ฉู่จวินสิงพยักหน้าน้อยๆ แล้วอุ้มเด็กชายอีกคนขึ้นมาซ่งไหลอุ้มหวายหมิงตามเจี่ยนอันอันออกไปจากในเหมืองด้วยเช่นกันคนที่รออยู่ด้านนอกล้วนแต่ร้อนใจเป็นที่ยิ่งไม่รู้ว่าข้างในเป็นอย่างไรบ้างแล้วเมื่อพวกเขาเห็นพวกเจี่ยนอันอันออกมาก็พากันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเจี่ยนอันอันให้พวกเขาวางเด็กชายทั้งสองลงบนพื้นที่ว่าง นางหยิบถุงเข็มเงินออกมาจากในมิติแล้วฝังเข็มให้เด็กชายสองคนนั้นผ่านไปไม่นาน ในที่สุดเด็กชายทั้งสองก็ค่อยๆ ฟื้นขึ้นมาซ่งไหลเห็นว่าน้องชายทั้งสองของตนเองฟื้นแล้วก็คุกเข่าล
แต่ไม่ว่าเขาออกแรงมากเท่าไรก็ไม่อาจผลักหินยักษ์ออกไปได้ก่อนหน้านี้ที่นี่ก็เคยเกิดการถล่มมาก่อน แต่ไม่ได้หนักหนาเท่าครั้งนี้หากยังไม่ช่วยคนข้างในออกมา เกรงว่าเด็กสองคนนั้นคงต้องจบชีวิตลงที่นี่จริงๆ แล้วเจี่ยนอันอันขมวดคิ้วมุ่น นางพลันก้าวออกมาบริเวณหน้าถ้ำแล้วออกแรงผลักหินยักษ์ก้อนนั้นแต่หินยักษ์หนักเกินไป นางผลักอยู่หลายทีแต่ก็ไม่สามารถทำให้หินยักษ์นั้นขยับเขยื้อนได้เลยฉู่จวินสิงก็รีบเดินเข้ามาหา เขาให้เจี่ยนอันอันถอยออกไปแล้วรวบรวมกำลังภายในฟาดฝ่ามือใส่หินยักษ์ก้อนนั้นอย่างหนักหน่วงครั้นฝ่ามือนั้นฟาดลงไป หินยักษ์ก้อนนั้นเพียงสั่นคลอนไม่กี่ที แต่ก็ไม่ได้ถูกกำลังภายในทะลวงไปได้ขณะที่ทุกคนไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดีนั่นเอง เจี่ยนอันอันพลันกวาดตามองคลังอาวุธในมิติครุ่นคิดว่าสามารถหยิบระเบิดออกมาจากในนั้นสักลูกได้หรือไม่โชคดีที่ตอนที่นางช่วยสองแม่ลูกสกุลเฉียวต่อกรกับเฝิงซานกวงก่อนหน้านี้ คลังอาวุธได้เลื่อนขั้นอย่างเงียบๆคำประกาศปรากฏขึ้นในมิติ : [ระดับคลังอาวุธ 50 สามารถหยิบอาวุธได้สองชนิด]เจี่ยนอันอันนึกยินดี นางรีบบอกให้ทุกคนหลบไปนอกเหมือง แม้แต่ฉู่จวินสิงก็ให้ออกไปจากตร
เจ้าเมืองตานประสานมือต่อเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิง “เรื่องราวได้จบลงแล้ว ข้าน้อยคงต้องขอกลับจวนไปไต่สวนเรื่องนี้ต่อ ขอลาแต่เพียงเท่านี้”เจี่ยนอันอันประสานมือตอบเช่นกัน “ท่านค่อยๆ เดิน ไม่ส่งแล้ว อย่างไรคงต้องรบกวนท่านให้ความเป็นธรรมแก่เรื่องนี้”“ข้าน้อยทราบดี” เจ้าเมืองตานกล่าวพลางขึ้นรถม้าไปพร้อมกับถอนหายใจหนักหน่วงอีกครั้งเหตุใดเขาจึงมีหลานชายที่ชอบก่อเรื่องนี้เช่นนี้หนอ? ช่างไม่ยอมปล่อยให้เขาได้อยู่สบายบ้างเลยรอจนเจ้าเมืองตานจากไปแล้ว เจี่ยนอันอันจึงหันมามองเหล่าบริวารของเฝิงซานกวงอีกครั้งซึ่งทุกคนต่างก็รู้ว่า ยามนี้ในเหมืองได้เปลี่ยนเจ้าของใหม่แล้วพวกเขาจึงไม่กล้าทำส่งเดชอีก ได้แต่ก้มหน้าก้มตายืนนิ่งอยู่เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเย็นชา “พวกเจ้ามัวยืนเซ่อหาอันใดอีก ที่นี่ไม่ใช่ถิ่นของเฝิงซานกวงอีกแล้ว แต่ละคนจงรีบไสหัวไปให้พ้น”“หากวันหน้าข้าได้รู้ว่า พวกเจ้ากลับมาก่อเรื่องที่นี่อีก ข้าจะให้มีจุดจบเช่นเดียวกับเฝิงซานกวง”บรรดาลูกน้องเฝิงซานกวงเห็นว่าบัดนี้คงได้ตกงานเป็นแน่แท้ต่อไปจะรับเงินใต้โต๊ะคงไม่มี ยิ่งอย่าหมายว่าคิดลักขโมยแร่หินในเหมืองออกไปขายบ้างจึงต่างพากัน
แต่เรื่องนี้หากจะว่าไป ก็ล้วนเป็นความผิดของเฝิงซานกวงหากเขามิได้แอบใช้แรงงานเด็ก เจี่ยนอันอันก็ไม่อาจใช้เพียงหนึ่งร้อยตำลึง มาซื้อเหมืองแร่แห่งนี้ได้ไม่ทันรอให้เจ้าเมืองตานได้กล่าวตอบ เฝิงซานกวงกลับโมโหขึ้นก่อน “นังตัวดี อย่าถือว่าเคยเป็นอดีตชายาเยียนอ๋องมาก่อน ก็จะใช้เงินเพียงหนึ่งร้อยตำลึงมาซื้อเหมืองของข้าได้”“ขอบอกให้รู้ เหมืองแห่งนี้ข้าเป็นคนขุดขึ้นเอง จะไม่มีวันยอมขายให้เจ้าเด็ดขาด”เจี่ยนอันอันมองหน้าเฝิงซานกวงด้วยแววตาดูหมิ่น สีหน้าเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน“ฟังนะเฝิงซานกวง บัดนี้เจ้ากลายเป็นนักโทษแล้ว มีสิทธิ์อันใดมาเพ้อเจ้อไร้สาระกับข้าอีก”เฝิงซานกวงโกรธจนสุดจะทนไหว พลันกระอักโลหิตออกจากปากทันทีพร้อมพาเอาฟันหน้าสองซี่ที่ถูกต่อยร่วงเมื่อครู่นี้ออกมาด้วยเจ้าเมืองตานรู้ดีว่าไม่อาจสู้เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงได้ อีกทั้งเรื่องนี้ก็เป็นความผิดของเฝิงซานกวงจริงว่าตามกฎหมายแล้ว เมื่อเฝิงซานกวงทำผิดเช่นนี้ เหมืองของเขาก็ควรจะถูกทางการยึดคืนดังนั้นเจี่ยนอันอันจึงได้มาพูดกับเขา ว่าจะขอซื้อเหมืองแห่งนี้ไว้เองอีกทั้งเฝิงซานกวงก็ไม่มีสิทธิ์ชอบธรรม ที่จะยับยั้งการซื้อขายของ