แชร์

บทที่ 7

ผู้เขียน: ซินต้งหรูสุ่ย
ฮูหยินใหญ่เห็นดังนั้นก็คิดจะปราดเข้าไปขวางตรงหน้าฉู่จวินสิง

นั่นคือลูกชายคนเล็กของนาง ยามนี้ถูกฮ่องเต้ทำร้ายจนถึงขนาดนี้แล้ว

ตอนนี้แม้แต่หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ก็ยังไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา

ช่างเหมือนดังคำกล่าวที่ว่าเสือตกที่นั่งลำบากยังถูกสุนัขรังแกโดยแท้

ตอนนี้ถึงต้องแลกด้วยชีวิต นางก็จะไม่ปล่อยให้พวกเขาทำร้ายลูกชายนางเด็ดขาด

เจี่ยนอันอันเห็นฮูหยินใหญ่จะพุ่งเข้าไปก็รีบดึงตัวอีกฝ่ายไว้

“ฮูหยินใหญ่เจ้าคะ อย่าเพิ่งหุนหันพลันแล่นเจ้าค่ะ” เจี่ยนอันอันกระซิบข้างหูฮูหยินใหญ่

ฮูหยินใหญ่หันกลับมามองเจี่ยนอันอัน ไม่เข้าใจว่าเหตุใดอีกฝ่ายจึงขัดขวางตนเอง

ขณะที่เจี่ยนอันอันกำลังพูดอยู่นั้นก็ตั้งท่าเตรียมจะซัดเข็มเงินอีกเล่มใส่หัวหน้าทหารรักษาพระองค์

เข็มเงินในมือนางเล่มนี้เคลือบยาพิษเอาไว้ พอทิ่มแทงลงไปก็จะทำให้หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ผู้นี้เป็นอัมพาตทั่วร่างทันที

ถึงตอนนั้นนางก็สามารถใช้หัวหน้าทหารรักษาพระองค์มาบีบบังคับทหารรักษาพระองค์เหล่านี้ได้

หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ในยามนั้นเห็นว่ายังคงไม่มีใครก้าวออกมา

เขาเงื้อดาบในมือขึ้นแล้วฟันลงบนร่างฉู่จวินสิงทันที

เห็นกับตาว่าคมดาบกำลังจะฟันลงบนลำคอของฉู่จวินสิงแล้ว

ขณะที่เจี่ยนอันอันกำลังจะดีดเข็มเงินในมือออกไป เสียงทุ้มต่ำเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นเสียก่อน

“ใครกล้าแตะต้องน้องรองของข้า ข้าจะให้มันผู้นั้นชดใช้ด้วยเลือด!”

สายตาทุกคนกวาดไปทางต้นเสียงก็เห็นฉู่จวินหลุนพี่ชายคนโตนั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็นไม้ด้วยสีหน้าเย่อหยิ่งเย็นชา

เขาหมุนล้อรถเข็นตรงมาหยุดอยู่ตรงหน้าหัวหน้าทหารรักษาพระองค์

เมื่อหัวหน้าทหารรักษาพระองค์เห็นว่าผู้พูดคือฉู่จวินหลุนจึงยอมหยุดมือ

แม้ฉู่จวินหลุนจะถูกเนรเทศไปยังถิ่นทุรกันดารเช่นกัน แต่เขาเป็นผู้มีพระคุณที่เคยช่วยชีวิตหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ไว้

เห็นฉู่จวินหลุนออกหน้า หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ก็ไม่กล้ากำเริบเสิบสานอีก

ฉู่จวินหลุนกล่าวกับหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ว่า “เข็มเล่มเมื่อครู่นี้ข้าเป็นคนซัดมาเอง เจ้าจะฆ่าก็ฆ่าข้าสิ”

หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ได้ยินดังนั้นก็จำต้องเก็บดาบในมือเข้าที่เดิม

เขาประสานมือกล่าวกับฉู่จวินหลุน “ปีนั้นจิ้นอ๋องมีบุญคุณช่วยชีวิตข้าไว้ วันนี้ข้าจะปล่อยครอบครัวของพวกท่านไป บุญคุณระหว่างท่านกับข้าให้สิ้นสุดลงแต่เพียงเท่านี้”

เขาพูดจบก็ก้าวยาว ๆ จากไป ไม่ได้ทำร้ายฉู่จวินสิงอีก

เจี่ยนอันอันเห็นเช่นนั้นก็เก็บเข็มเงินในมือกลับอย่างเงียบ ๆ

ในความทรงจำ ชายที่นั่งรถเข็นไม้ผู้นี้คือจิ้นอ๋องที่ทรงอำนาจบารมีในอดีต

ภายหลังเนื่องจากได้รับบาดเจ็บสาหัสระหว่างออกรบ จึงทิ้งต้นตอของโรคร้ายไว้ เป็นเหตุให้สองขาพิการ

เจี่ยนอันอันจ้องฉู่จวินหลุนแน่วนิ่ง แต่กลับเห็นเขาหันมามองตนเองด้วยแววตาลึกล้ำ

สายตาของเขาคมกริบ ราวกับว่าสามารถมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างได้ทะลุปรุโปร่ง

เจี่ยนอันอันนึกกลัวอยู่บ้าง นางรู้สึกว่าฉู่จวินหลุนคล้ายจะมองอะไรออก

นางรีบเบนสายตาไปทางอื่น ไม่กล้าสบตากับเขาอีก

เมื่อถึงเวลา เหล่าทหารรักษาพระองค์ก็ควบคุมทุกคนออกไปจากจวนเยียนอ๋อง

ขณะที่ทุกคนก้าวเท้าออกไปจากจวนเยียนอ๋องก็หันกลับไปมองอย่างห้ามใจไม่อยู่

เห็นประตูใหญ่จวนเยียนอ๋องถูกปิดลง ทหารรักษาพระองค์สองนายใช้กระดาษสีขาวปิดผนึกประตู

หัวใจของคนในตระกูลพลอยหลั่งเลือดตาม

พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มานานหลายปี บัดนี้กลับถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏขายชาติ

นับแต่นี้พวกเขาจำต้องลาจากที่นี่ไปยังดินแดนรกร้างทางตะวันตกเฉียงเหนือที่แสนห่างไกล

เจี่ยนอันอันประคองฮูหยินใหญ่ เดินนำอยู่ด้านหน้าสุดอย่างอกผายไหล่ผึ่ง

ฉู่จวินสิงที่ยังสลบไสลถูกฉู่อันเจ๋อน้องชายต่างมารดาแบกไว้บนหลัง เดินตามอยู่ด้านหลังคนทั้งคู่

บริเวณนอกจวนเยียนอ๋องในขณะนี้เต็มไปด้วยชาวบ้านที่มามุงดูเรื่องของผู้อื่น

เห็นคนของจวนเยียนอ๋องออกมาแล้ว ก็มีคนขว้างปาไข่เน่าและใบผักเน่าที่เตรียมมาล่วงหน้าใส่ใบหน้าและร่างกายของพวกเขาโดยพลัน

คนเหล่านั้นร่ำร้องเสียงดัง “โจรกบฏขายชาติอย่างพวกเจ้าจงไสหัวออกไปจากแคว้นไท่ยวนเดี๋ยวนี้!”

สิ้นเสียง ไข่เน่าฟองหนึ่งก็ขว้างมาใส่ศีรษะของเจี่ยนอันอัน

หลังศีรษะของเจี่ยนอันอันราวกับมีดวงตางอกออกมากระนั้น นางเพียงเบี่ยงศีรษะเล็กน้อย ไข่เน่าฟองนั้นก็ลอยผ่านข้างหูนางไป

ไข่เน่าฟองนั้นลอยหวือไปถูกหลังศีรษะหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ที่นำขบวนอยู่หน้าสุดอย่างจัง

ไข่เหลวๆ หยดย้อยเข้าไปในคอเสื้อ

หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ชักดาบออกจากหว่างเอวด้วยความเดือดดาล หันกลับมามองเจี่ยนอันอันอย่างโกรธเกรี้ยว

เจี่ยนอันอันผายมือยักไหล่ ตีหน้าซื่อกล่าวกับหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ว่า “ข้าไม่ได้เป็นคนทำนะ ในมือข้าไม่มีไข่เน่าเสียหน่อย”

แววตาของหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ดุดันมาก เขากวาดสายตาไปทางฝั่งชาวบ้าน

คนที่ปาไข่เน่ามาเมื่อครู่นี้เห็นอย่างนั้นก็ตกใจจนรีบหดคอเดินเบียดเข้าไปในฝูงชน

พวกเขารับเงินมาที่นี่เพื่อทำลายชื่อเสียงของเยียนอ๋อง

พวกเขาไม่ได้อยากล่วงเกินทหารรักษาพระองค์ เพราะนั่นถึงขั้นหัวหลุดออกจากบ่าได้เลย

เนื่องจากเมื่อครู่นี้มีคนปาไข่เน่าไปถูกศีรษะหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ กลุ่มคนที่ปะปนอยู่ในหมู่ชาวบ้านลอบโยนผักปาไข่เน่ามาเหล่านั้นจึงเพลามือลงบ้าง
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
อาชีพหลัก คือนักอ่าน
คนเลว ต่อไปต้องเอาคืนให้หมด
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 917

    ดีที่กู้มั่วหลีแค่ยืนอยู่ที่ดาดฟ้าเรือ หันหน้าไปทางสายน้ำ แทบไม่ชายตามองดูเขาแม้แต่น้อยฉู่เทียนหัวแอบคิดในใจ ป้ายประกาศิตนั้นเป็นสิ่งของที่อดีตฮ่องเต้ทรงประทานให้แก่เขาถ้าเจี่ยนอันอันสามารถงมขึ้นมาได้จริง เขาก็ย่อมต้องดูแลเอง ไม่มอบให้ผู้อื่นโดยเด็ดขาดแต่ฉู่เทียนหัวไม่รู้ว่า เจี่ยนอันอันก็มีความคิดเช่นเดียวกับเขานางดูออกนานแล้วว่า วรยุทธ์ของฉู่เทียนหัวเทียบกับฉู่จวินสิงแล้ว ต่างกันราวฟ้ากับดินหากนางต้องการจะได้ป้ายประกาศิตสวรรค์ ก็แค่ให้ฉู่จวินสิงมารับมือก็เพียงพออีกทั้งปัจจุบันฉู่เทียนหัวเป็นรัชทายาทที่ถูกถอดถอนแล้ว ไม่มีอำนาจทางทหารอีกหากมอบป้ายประกาศิตให้เขาไป ไม่แน่เขาอาจรวบรวมไพร่พลในแคว้นหนิงชวนได้อย่างรวดเร็ว แล้วกลับไปก่อกบฏที่เมืองจิงโจวถึงตอนนั้นเมื่อใด ประโยชน์ของป้ายประกาศิตสวรรค์ก็จะลดน้อยลงไปมากอย่าว่าแต่โค่นล้มราชวงศ์ของฉู่ชางเหยียนเลย แม้แต่เจ้าตัวฉู่เทียนหัวเอง ก็อาจถูกจับไปจองจำอีกครั้งก็เป็นได้เจี่ยนอันอันไม่ต้องการให้ฉู่เทียนหัวทำเรื่องโง่ๆ เช่นนี้นางกับฉู่จวินสิงจึงวางแผนไว้แต่แรก ว่าจะต้องเอาป้ายประกาศิตนี้มาให้จงได้มีแต่อยู่ในมือพวกเขาเท่า

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 916

    เพียงแต่การเปลี่ยนแปลงเร็วกว่าแผนที่วางไว้ ในเมื่อเจี่ยนอันอันมาถึง เขาก็ควรต้องต้อนรับให้ดี“เจี่ยนอันอัน ข้าเคยบอกแล้วว่า เรื่องป้ายประกาศิตจะนำไปมอบให้แก่เจ้าเอง เหตุใดยังมาถึงที่นี่อีก”กู้มั่วหลีเสแสร้งทำเป็นไม่รู้ความ ริมฝีปากเหยียดขึ้นเล็กน้อยพองามเจี่ยนอันอันทำตาขวางใส่เขา “ข้ากลัวเจ้าจะฆ่ารัชทายาทเสียก่อน แล้วฮุบเอาป้ายประกาศิตไปเสียเอง”กู้มั่วหลีหาได้โกรธเคืองคำพูดของนางไม่ กลับมองว่าการยอกย้อนของเจี่ยนอันอัน เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งมากกว่าแต่ในเมื่อเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิงออกจากเมืองอินเป่ยมาได้ เกรงว่าทหารเฝ้าเมืองเหล่านั้น อาจถูกพิษของเขาจนเสียชีวิตไปหมดแล้วกู้มั่วหลีหารู้ไม่ว่า เจี่ยนอันอันได้รักษาทหารเหล่านั้นจนหายดีแล้วต่างหากอีกทั้งได้รับความเคารพจากเหล่าทหาร ที่นางกับฉู่จวินสิงออกมาได้ ก็เพราะเหล่าทหารต่างยินยอมพร้อมใจที่จะเปิดประตูเมืองให้แก่พวกเขาฉู่จวินสิงมิได้สนใจกู้มั่วหลี กลับกล่าวต่อฉู่เทียนหัว “รัชทายาท ป้ายประกาศิตของท่านทิ้งไปในแม่น้ำสายนี้ใช่หรือไม่?”มองดูสายน้ำที่ไหลเชี่ยว ฉู่เทียนหัวพยักหน้า “ถูกต้อง ก็คือแม่น้ำสายนี้”ฉู่จวินสิงมองไปยังสายน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 915

    พวกเขางมหากล่องไม้ไม่เจอก็จริง แต่พวกเขาก็ลงน้ำไปแล้ว ทั้งยังดำน้ำอยู่นานปานนั้นยามนี้แม่น้ำเชี่ยวกรากปานนี้ พวกเขาต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อลงไปงมกล่องมาให้กู้มั่วหลีเชียวนะถึงไม่มีความชอบก็มีความเหนื่อยยากมาพูดว่าคืนเงินก็ให้คืนเงินได้อย่างไร แบบนี้มีเหตุผลงั้นรึเว่ยติงอดพูดขึ้นไม่ได้ “ข้าว่านะคุณชายท่านนี้ พวกเราเสี่ยงอันตรายถึงแก่ชีวิตเพื่อลงไปงมกล่องให้ท่านเชียวนะ”“ท่านจะมาทำไร้เหตุผลเช่นนี้ไม่ได้”เว่ยเจี่ยก็กล่าวสมทบมาว่า “น้องรองข้าพูดถูก พวกเราตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ให้เงินก่อนค่อยงมกล่องไม้ขึ้นมา”“ถึงงมขึ้นมาไม่ได้ ท่านก็ไม่สามารถทวงเงินที่ให้พวกข้ามาแล้วกลับคืนไปอยู่ดี”กู้มั่วหลีเห็นสองคนนี้ทำท่าจะไม่ยอมคืนเงิน เขาแค่นหัวเราะ ชักกระบี่อ่อนตรงหว่างเอวออกมา“พวกเจ้าเลือกเอาระหว่างลงน้ำไปงมกล่องไม้มาให้ข้า หรือจะตายอยู่ตรงหน้าข้า”เว่ยติงและเว่ยเจี่ยเห็นว่าในมือกู้มั่วหลีมีอาวุธ คนทั้งสองตกใจจนหนังศีรษะชาวาบพวกเขาไม่คิดจะเอาชีวิตน้อยๆ ของตนเองมาทิ้งไว้ที่นี่เพียงเพราะเงินห้าสิบตำลึงนี้หรอกนะคนทั้งสองรีบล้วงเงินออกมาจากชุดชั้นนอกแล้วคืนให้กู้มั่วหลี“พวกข้าไม่รับเง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 914

    หลังจากคนทั้งสามขึ้นรถม้าเรียบร้อยก็มุ่งหน้าตรงไปทางเมืองอินเป่ยราชาวานรเห็นรถม้าจากไปไกลแล้วค่อยพาพวกพ้องย้อนกลับมาพวกมันลากพวกลิงที่ถูกพิษกลับไปยังเขตแดนของตนเองครึ่งชั่วยามผ่านไป ในที่สุดพวกลิงที่ถูกพิษเหล่านั้นก็สามารถเคลื่อนไหวได้ตามปกติพวกมันรีบกระโดดขึ้นไปบนต้นไม้ทันที ไม่กล้าลงมาอีกรถม้าวิ่งไปถึงหอประตูเมืองอินเป่ย แต่กลับไม่ได้หยุดลงยามนี้พวกเขาจำต้องเร่งเดินทางไปให้ถึงแคว้นหนิงชวนก่อนที่กู้มั่วหลีจะได้ป้ายประกาศิตสวรรค์ไป……กู้มั่วหลีมาถึงเขตแดนแคว้นหนิงชวนแล้ว ประตูใหญ่เมืองติ้งอันเปิดกว้าง ผู้สัญจรไปมาสามารถเข้าออกได้อย่างอิสระแม้เขาจะไม่ใช่แคว้นหนิงชวน แต่เขาก็ไม่ถูกทหารที่เฝ้าประตูเมืองติ้งอันขัดขวางเขาควบม้าเดินอาดๆ เข้าไปในเมืองติ้งอันกู้มั่วหลีเคยมาเมืองติ้งอัน เขาคุ้นเคยกับสิ่งต่างๆ ในสถานที่แห่งนี้ยิ่งนักสิ่งก่อสร้างของที่นี่ผ่านมาหลายปีแล้วก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงอ้างอิงจากคำพูดของฉู่เทียนหัว กู้มั่วหลีเร่งม้าที่ควบอยู่ใต้ร่าง มุ่งหน้าไปยังแม่น้ำใหญ่ของเมืองติ้งอันสายนั้นเดินทางมาได้ครึ่งชั่วยาม ในที่สุดก็มาถึงริมแม่น้ำที่นี่ทิวทัศน์งดงาม ลำน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 913

    ฉู่จวินสิงกำลังบังคับรถม้าเร่งรุดเดินทาง ทันใดนั้นก็มีลิงหลายตัวกระโดดลงมาจากเหนือศีรษะพวกมันโจมตีคนบนรถม้าเหมือนได้พบศัตรูที่สังหารบิดาก็ไม่ปานฉู่จวินสิงรีบหยุดรถม้า ชักกระบี่เฝินเทียนออกมาแทงไปยังลิงที่จู่โจมเข้ามาหาฉู่เทียนหัวก็ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวแล้วเช่นกันจึงรีบแหวกผ้าม่านออก แต่ไม่คิดเลยว่ากรงเล็บข้างหนึ่งจะฉกเข้ามาหาใบหน้าของเขาฉู่เทียนหัวรีบถอยหลังไปจึงหลบการโจมตีของกรงเล็บลิงได้อย่างหวุดหวิด“เกิดอะไรขึ้น?” ฉู่เทียนหัวลอบคิดในใจเสียงเอะอะข้างนอกทำให้เจี่ยนอันอันตื่นขึ้นมาเจี่ยนอันอันเข้าใจว่าคนชุดดำมาลอบสังหารอีกแล้ว ดวงตาพลันลืมขึ้นในบบัดดลแต่นางกลับไม่เห็นคนชุดดำอันใดทั้งสิ้น แต่เห็นว่าผ้าม่านรถม้าถูกกรงเล็บลิงกรีดขาดลิงสองตัวเข้ามาข้างในผ่านทางหน้าต่าง โจมตีเข้าหาคนสองคนที่อยู่ในรถม้าแม้จะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เจี่ยนอันอันก็ยังสามารถหลบการโจมตีของลิงได้อย่างคล่องแคล่วกริชเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นในมือนาง แทงเข้าไปที่ร่างลิงอย่างรวดเร็วกริชกรีดหนังท้องลิง เลือดสดๆ พุ่งออกมาในชั่วพริบตาลิงตัวนั้นยังไม่ทันได้ดิ้นรนก็ล้มลงในรถม้าหมดลมหายใจไปเสียแล้

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 912

    เพื่อไม่ให้หน้าเป็นแผลเป็น เขารีบหยิบขวดกระเบื้องเคลือบใบหนึ่งออกมาจากในอกเสื้อ เทผงออกมาเล็กน้อยแล้วถูทาใบหน้าความแสบชำแรกหัวใจถาโถมเข้ามาระลอกหนึ่ง กู้มั่วหลีกัดฟันอดทนต่อความเจ็บปวดนั้น“พวกลิงป่าที่สมควรตายพวกนี้ ถึงกับกล้าทำหน้าข้าเป็นแผล”กู้มั่วหลีกัดฟันกรอดด้วยความโมโหถ้าไม่ใช่เพราะยาพิษที่เขาพกมาด้วยมีไม่มาก เขาคงวางยาพิษสังหารลิงพวกนี้ไปแต่แรกแล้ว ไม่เหลือไว้แม้แต่ตัวเดียวหลังจากขี่ม้าไปได้สักระยะ ในที่สุดกู้มั่วหลีก็ทนความง่วงไม่ไหวเขาหยุดม้าลงตรงพื้นที่ว่างบริเวณหนึ่ง ที่นี่รอบด้านไม่มีต้นไม้ใหญ่ มีเพียงก้อนหินแปลกประหลาดกองเดียวเขาพิงก้อนหินหลับตาพักผ่อนท้องฟ้าเพิ่งสว่าง กู้มั่วหลีก็รู้สึกตัวตื่นเขารีบขึ้นม้าแล้วเร่งเดินทางต่อในไม่ช้า เขาก็มาถึงชายแดนเมืองอินเป่ย สามารถมองเห็นกำแพงสูงสิบกว่าชั้นได้จากไกลๆถ้ายังไม่ได้ป้ายประกาศิตสวรรค์ เขาไม่มีทางกลับไปที่เมืองอินเป่ยในเมื่อเขาพูดไว้แล้วว่าจะนำป้ายประกาศิตสวรรค์มามอบเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ให้กับเจี่ยนอันอันเขาก็จะต้องทำให้ได้อย่างที่พูดกู้มั่วหลีสะบัดแส้กระตุ้นม้า มุ่งหน้าไปทางแคว้นหนิงชวน……เวลานั้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status