อุ๊บ! โอ๊กกกก! แหวะ
เสียงอาเจียนของคริมาดังอยู่ในห้องน้ำชั้นล่างของตัวบ้าน สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของการสอบแล้วหลังจากนั้นก็ปิดเทอม จู่ๆ เธอก็รู้สึกหน้ามืดขึ้นมาหลังจากที่ตื่นนอนตอนเช้า จากนั้นเริ่มรู้สึกเวียนหัวและอยากจะอาเจียน จนสุดท้ายทนไม่ไหวต้องลุกไปอาเจียนในห้องน้ำ สงสัยจะเครียดเรื่องสอบมากไปหน่อย ช่วงนี้เธอเองก็ทานข้าวไม่ค่อยตรงเวลา บวกกับมีเรื่องของอนาคินให้คิดเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มห่างหาย ขาดการติดต่อไปโดยปริยาย หลังจากออกมาจากห้องน้ำ เธอหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับอาการที่เธอเป็น ยิ่งอ่านหัวใจของเธอยิ่งสั่นไหว เพราะอาการที่เธอเป็นนั้นบ่งบอกว่าเธออาจจะกำลังตั้งครรภ์ มันก็อาจจะเป็นไปได้ วันนั้นที่ทะเล เธอจำได้ว่าอนาคินไม่ได้สวมถุงยางอนามัยเพื่อป้องกัน และเธอก็ลืมเรื่องนี้ไปสนิท ไม่รอช้า คริมารีบอาบน้ำแต่งตัวไปสอบที่มหาวิทยาลัย วันนี้เธอมีสอบแค่วิชาเดียวในช่วงเช้า หลังจากสอบเสร็จ หญิงสาวตรงไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจให้แน่ใจว่าเธอป่วยเป็นอะไรกันแน่ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง “ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ..คนไข้กำลังตั้งครรภ์ได้สิบสองสัปดาห์แล้วค่ะ คนไข้จะฝากครรภ์เลยมั้ยคะ?” สิ้นเสียงของคุณหมอ เหมือนโสตประสาทของคริมาไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว ท้อง! เธอท้อง! นี่เธอกำลังท้องจริงๆ ใช่มั้ย? ในท้องของเธอมีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าลูกของเธอกับอนาคินอยู่ หญิงสาวรู้สึกสับสนไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อไป เธอเองยังเรียนไม่จบด้วยซ้ำ ไหนจะบิดาของเธออีกล่ะ.. “เอ่อ..ถ้าคนไข้ยังไม่พร้อมจะฝากครรภ์ เอาไว้รอบหน้าก็ได้ค่ะ พาคุณพ่อมาด้วยนะคะ” เสียงของคุณหมอเรียกสติหญิงสาวให้กลับมาอีกครั้ง “อ่อค่ะ..ขอบคุณคุณหมอมากๆ นะคะ” “ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวหมอจะจัดยาบำรุงครรภ์ให้นะคะ” “ค่ะ” หลังจากที่คริมาออกมาจากโรงพยาบาล หญิงสาวไม่รู้จะไปที่ไหน เธอเดินไปเรื่อยๆ จนมาหยุดที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง มีผู้ปกครองพาบุตรหลานตัวน้อยๆ มาเดินเล่นที่สวนสาธารณะ บ้างก็มานั่งปูเสื่อรับประทานอาหารกัน เธอนั่งอยู่ที่เก้าอี้ยาวใต้ต้นไม่ใหญ่ ข้างๆ กันมีพ่อแม่ลูกสาวตัวน้อยนั่งคุยเล่นกันอย่างสนุกสนาน ทำให้เธอจินตนาการถึงครอบครัวของเธอกับ อนาคินที่มีลูกน้อยเป็นโซ่ทองคล้องใจ ชีวิตของเธอคงจะมีความสุขมากๆ ที่ได้อยู่กับคนที่เธอรัก แต่ทว่า..อนาคินจะต้องการเธอกับลูกหรือไม่? เธอต้องบอกให้เขารับรู้..ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร เธอก็คงต้องยอมรับมันให้ได้ ความผิดพลาดนี้มันไม่ได้เกิดจากเธอคนเดียวเพราะฉะนั้นเขาต้องรับผิดชอบการกระทำนี้ร่วมกัน คิดได้ดังนั้น คริมาจึงเดินทางกลับไปมหาวิทยาลัยอีกครั้ง ตึกคณะบริหาร “ไงมึง! ฟันน้องเค้าแล้วทิ้งเลยเหรอวะ?” คีตะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสะใจ ตอนเขาไปจีบดีๆ ไม่ชอบ ถ้าเธอยอมคบกับเขารับรองว่าเขาจะดูแลคริมาเป็นอย่างดี เปย์ให้ทุกอย่าง แต่ในเมื่อหล่อนปฏิเสธ หล่อนก็ต้องเจอแบบนี้ คนอย่างอนาคิน เพื่อนรักของเขาใช้ผู้หญิงเปลืองอย่างกับกระดาษทิชชู และไม่เคยนอนกับผู้หญิงคนไหนซ้ำเป็นครั้งที่สอง เรียกง่ายๆ ว่าไม่ต้องการมีแฟน หรือมีภาระผูกพัน อนาคินจะนอนกับผู้หญิงเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศเท่านั้น เสร็จกิจต่างคนก็ต่างแยกย้าย ส่วนตัวเขานั้นถ้าถูกใจก็ได้หมดจนกว่าเขาจะเบื่อ “โคตรน่ารำคาญ..ทั้งโทรหา ทั้งส่งข้อความมาทั้งวันจนกูต้องปิดเสียงโทรศัพท์ ไหนจะตามหึงตามหวงกูอีก โคตรงี่เง่า ใครมันจะไปเอาวะแบบนี้” “ก็มึงได้เค้าแล้วนิ..ผู้หญิงก็แบบนี้แหละ เวลาที่ได้ตกเป็นของผู้ชายคนไหนก็จะรักผู้ชายคนนั้นมากขึ้นกว่าเดิม” ธาวินทร์เอ่ยออกมาตามความรู้สึก “กูทำขนาดนี้แม่ง! ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอวะ? ว่าโดนกูฟันแล้วทิ้ง” “มึงนี่ก็เก่งนะ..ทำให้น้องครีมผู้แสนเย่อหยิ่ง ตกหลุมพรางรักมึงจนหัวปักหัวปำได้ นี่ถ้าน้องเค้ารู้ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นแค่เกมการพนัน น้องเค้าจะยังรักมึงอยู่มั้ยวะ?” เสียงของคีตะเอ่ยขึ้น “นั่นสิ! กูก็อยากรู้ว่าถ้าน้องเค้ารู้ว่ามึงไปหลอกเค้า มึงไม่ได้รักเค้าจริงแต่เพราะมึงพนันกับไอ้คีไว้ว่าถ้ามึงชนะมึงจะได้เงินหนึ่งล้านแต่ถ้ามึงแพ้มึงต้องเป็นเบ๊ให้ไอ้คีหนึ่งเดือน กูอยากรู้ว่าน้องเค้าจะทำยังไงกับมึง” ครานี้เป็นเสียงของอาทิตย์วรา ข้างๆ ตึกของคณะ มีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังร้องไห้แทบขาดใจ น้ำตาไหลรินออกมาไม่ขาดสาย มือเรียวยกขึ้นมาปิดปากตัวเองไว้แน่นด้วยกลัวว่าเสียงจะเล็ดลอดออกไป ร่างบางทรุดลงกับพื้น ทุกอย่างที่ผ่านมา..มันคือการหลอกลวง ทุกอย่างที่เกิดขึ้น..มันคือเกมพนัน มันคือการเดิมพันที่พวกเขาสร้างขึ้นมา ทุกคนรวมหัวกันหลอกเธอ..มันคงเป็นเรื่องสนุกมากสินะ..ที่ล้อเล่นกับความรู้สึกของผู้หญิงคนหนึ่ง เธอไปทำอะไรให้เขาเจ็บช้ำน้ำใจอย่างนั้นหรือ..พวกเขาเหล่านั้นถึงทำร้ายเธอได้ถึงเพียงนี้.. “ครีมก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าพวกพี่ทำแบบนี้กับครีมทำไม?” สิ้นเสียงของหญิงสาวที่พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา พร้อมกับก้าวขาออกมาจากข้างตึกใกล้ๆ กับที่พวกเขานั่งกันอยู่ที่โต๊ะหินอ่อน ทุกคนต่างตกใจ โดยเฉพาะ อนาคิน ที่หน้าซีดราวกับเห็นผี แต่สักพักชายหนุ่มก็ปรับสีหน้าเป็นเรียบเฉยและเย็นชาราวกับว่าไม่รู้สึกรู้สาในเรื่องเลวๆ ที่เขาได้กระทำลงไป แม้วูบหนึ่งจะรู้สึกผิดอยู่ภายในใจ แต่ในเมื่อเขาคือผู้ชนะในเกมนี้ เขาจะมาสงสารหรือเห็นอกเห็นใจเหยื่ออย่างเธอไม่ได้ ต่อหน้าเพื่อนจะเสียอะไรก็เสียได้แต่..เสียหน้า ไม่ได้อย่างแน่นอน “เหอะ! รู้ตัวสักทีนะ..โง่อยู่ตั้งนาน” อนาคินพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนเยาะเย้ย ไหนจะสีหน้าเยือกเย็นไม่สะทกสะท้านนั่นอีก คริมาไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือคำพูดที่ออกมาจากปากของอนาคิน คนที่เธอเคยรู้จัก มันช่างต่างกันราวฟ้ากับเหวทั้งๆ ที่เป็นคนๆ เดียวกัน ประโยคนั้นเป็นเหมือนปลายมีดแหลมคมที่กรีดลงบนหัวใจคนฟังซ้ำแล้วซ้ำเล่า หญิงสาวกำมือแน่นจนรู้สึกถึงความเจ็บที่ฝ่ามือ เธอโกรธจนหน้าแดงก่ำ หญิงสาวลำคอตีบตันรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอ เธอระบายลมหายใจออกมาเบาๆ ข่มกลั้นความรู้สึกอยากร้องไห้เอาไว้ ดวงตาคู่นั้นมองลึกลงไปในตาเขา พยายามสะกดกลั้นความขมขื่นในหัวใจ นัยน์ตาของหญิงสาวเต็มไปด้วยความชอกช้ำ เธอกัดริมฝีปากกลั้นใจพูดออกไป “ที่ผ่านมาพี่คินเคยรักครีมบ้างมั้ย?” “ไม่” น้ำเสียงที่เขาเอ่ยออกมาช่างเย็นชาเสียจริง “ถ้าไม่รักแล้วจะมาหลอกกันทำไม ครีมไปทำอะไรให้พวกพี่เหรอ..พวกพี่เอาความรู้สึกของคนมาเล่นแบบนี้ได้ยังไง” “ก็ใครใช้ให้เธอหยิ่งล่ะ..เธอจำฉันได้มั้ย? ฉันที่เคยเดินตามเธอ แต่เธอไม่สนใจเอาแต่เดินหนี ทีนี้เป็นยังไงล่ะ..ผู้หญิงที่เย่อหยิ่งอย่างเธอควรต้องเจอแบบนี้แหละ เธอคิดว่าตัวเองสวยนักหรือยังไง สุดท้ายก็โดนหลอกฟันง่ายๆ” คำพูดพรั่งพรูออกมาจากปากของคีตะ เขามองหญิงสาวด้วยสายตาเหยียดหยาม “ที่แท้..เรื่องมันก็เป็นแบบนี้สินะ พี่คีโกรธที่ครีมเดินหนีพี่ แล้วพี่ก็ไปท้าพี่คินให้มาหลอกให้ครีมรักอย่างนั้นใช่มั้ย?” “ไหนๆ เธอก็รู้ความจริงแล้ว..รู้อีกสักเรื่องจะเป็นไรไป ฉันท้าพนันไอ้คินว่าถ้ามันส่งรูปเธอนอนอยู่กับมันบนเตียงเข้ามาในกลุ่ม เงินหนึ่งล้านจะถูกโอนเข้าบัญชีไอ้คินทันที” คริมาเค่นเสียงเหอะอยู่ในลำคอ ตัวเธอมีค่าตั้งหนึ่งล้านบาท น่าภูมิใจชะมัด ชาตินี้คนอย่างเธอคงไม่มีวาสนาได้จับเงินล้าน แต่อนาวินแค่ทำให้เธอตกหลุมรักและยอมมีสัมพันธ์ด้วย แค่นี้เขาก็ได้เงินหนึ่งล้านแล้ว “สะใจพวกพี่แล้วใช่มั้ย? ที่ทำลายชีวิตผู้หญิงคนหนึ่งได้ขนาดนี้” หญิงสาวพูดพร้อมกับเอามือทาบไปที่หน้าท้องเบาๆ ไม่รู้น้ำตามันแห้งเหือดไปตอนไหน ตอนนี้มีแต่ความโกรธเกลียด ความชิงชัง ผู้ชายเลวๆ กลุ่มนี้ ในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้ คนอย่างอนาคินคงไม่มีวันยอมรับลูกในท้องของเธออย่างแน่นอน ดีไม่ดีเขาคงจะให้เธอไปทำแท้ง หรือไม่ก็โยนเศษเงินมาให้เธอตามวิถีของคนรวย ลูกจ๋า..แม่ขอโทษนะที่ทำให้ลูกต้องกำพร้าพ่อตั้งแต่ยังไม่ลืมตาดูโลก คนเลวๆ อย่างอนาคินไม่สมควรเป็นพ่อของลูกในท้องเธอ “พี่คิน..ครีมขออะไรอย่างหนึ่งได้มั้ยคะ?” หญิงสาวเงยหน้าถามออกไป “อะไร?” เพี้ยะ! สิ้นเสียงพูดห้วนๆ ของอนาคิน เสียงฝ่ามือเล็กก็กระทบกับแก้มสากอย่างแรงจนชายหนุ่มหน้าหันไปตามแรงตบ ชายหนุ่มดันลิ้นไปที่มุมปากลิ้มรสกลิ่นคาวเลือดที่ไหลออกมา จากนั้นคริมาก็พากายที่บอบช้ำทั้งตัวและหัวใจหันหลังเดินจากไปจากตรงนั้นโดยไม่หวนกลับมามองอีกเลย ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าตบเขา แต่ครั้งนี้เขาจะไม่ถือสา คิดเสียว่าหายกันกับที่เขาหลอกเธอสองปีต่อมาคริมาท้องอีกครั้ง เธอตั้งใจว่าหลังจากคลอดลูกคนนี้แล้วเธอจะทำหมัน เพราะมีลูกสามคนก็เพียงพอแล้วสำหรับเธอ แต่อนาคินอยากมีลูกสี่คน ในที่สุดสวรรค์ก็เข้าข้างชายหนุ่มใช่! เธอท้องลูกแฝดและเป็นฝาแฝดชายหญิงเสียด้วยอนาคินดีอกดีใจจนออกนอกหน้า ส่วนคริมานั้นก็ดีใจ แต่ลึกๆ เธอก็กังวลเล็กน้อย เพราะแค่เลี้ยงลูกน้อยคนเดียวก็เหนื่อยแล้ว นี่เธอต้องเหนื่อยคูณสอง แต่เธอก็ไม่กลัวเพราะมีอนาคินคอยช่วยเลี้ยง ในเมื่อเขาอยากได้ลูกมากนักเธอก็จะให้เขาเลี้ยงซะให้เข็ด จะได้รู้ว่าเลี้ยงลูกไม่ได้สบายอย่างที่ผู้ชายหลายๆ คนคิดหลังจากที่คริมาคลอดลูกแฝดแล้ว อนาคินก็พาครอบครัวย้ายถิ่นฐานมาอาศัยอยู่ที่ไร่พรรณิภา เพราะพ่อเลี้ยงพัฒน์ธนานั้นตอนนี้ก็แก่ชรามากแล้ว ไม่สามารถดูแลไร่ได้เหมือนเดิม เขาจึงตกเป็นผู้สืบทอดกิจการของพ่อเลี้ยงไปโดยปริยาย ส่วนอนามิกา พี่สาวของเขานั้นก็ดูแลในส่วนของบริษัทผลิตเครื่องดื่มแบรนด์ดังที่สุดทั้งในประเทศและต่างประเทศ และแน่นอนว่าไวน์ที่อนาคินคิดค้นผลิตขึ้นมานั้นกลายเป็นไวน์แบรนด์ดังที่ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เพราะรสชาติของไวน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เหมือนกับไวน์ทั่วๆ ไป ส่งผลให้อ
หนึ่งปีต่อมาวันนี้อนาคินพาคริมาและลูกน้อยทั้งสองคนมาเที่ยวพักผ่อนที่ไร่พรรณิภา คนงานในไร่ต่างพากันดีอกดีใจที่ได้เจอคริมากับลูกของเธออีกครั้ง และโดยเฉพาะพ่อเลี้ยงพัฒน์ธนาที่ตอนนี้กลายเป็นคุณปู่ทวดไปแล้ว ชายชราดีใจที่ลูกหลานมาเยี่ยมเยือน พ่อเลี้ยงจึงสั่งให้มีการจัดงานเลี้ยงพิเศษขึ้นในค่ำคืนนี้ และให้คนงานทุกคนมาร่วมดื่มกินสังสรรค์กันให้เต็มที่เพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุด“พ่อเลี้ยงไม่บอกก่อน ครีมไม่มีชุดสวยๆ ติดมาเลยค่ะ” คริมายังคงเรียกคุณตาของอนาคินว่าพ่อเลี้ยง เพราะความเคยชิน“ไม่ต้องห่วง..พี่เตรียมไว้ให้หมดแล้ว ทั้งของครีมกับของลูกๆ”“จริงเหรอคะ..พี่คินไปเตรียมตอนไหน ครีมไม่เห็นรู้เลย”“ไม่บอก..แต่พี่รับรองว่าครีมต้องชอบแน่ๆ”“พี่คินคิดจะทำอะไรกันแน่ บอกครีมมาเดี๋ยวนี้เลยนะ” คริมาหันไปทำเสียงดุใส่สามี“เปล่า..ไม่ได้จะทำอะไร ก็พอดีพี่บอกกับคุณตาว่าพวกเราจะมา คุณตาก็เลยจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับพวกเรา เพียงแต่พี่ไม่ได้บอกครีมเท่านั้นเอง”“จริงนะคะ”“จริงที่สุดครับ” อนาคินยิ้มอย่างมีเลศนัยและในค่ำคืนที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง อนาคินส่งตัวลูกสาวกับลูกชายให้ป้าสายช่วยจัดการอาบน้ำแต่งตัวให้ และเขาก็บอก
สามวันผ่านไปอนาคินออกจากโรงพยาบาลหลังจากที่อาการดีขึ้นมากแล้ว เพราะได้พยาบาลส่วนตัวดูแลเป็นอย่างดี รวมไปถึงกำลังใจจากคนรอบข้าง ทำให้เขาแข็งแรงขึ้นในเร็ววัน“ครีมมีนัดตรวจครรภ์อีกเมื่อไหร่” อนาคินเอ่ยถามคนรักในขณะที่เขากำลังนั่งเอามือลูบท้องของเธออยู่“วันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ค่ะ..อุ้ย!” คริมาคลี่ยิ้มก่อนจะอุทานออกมาเพราะลูกน้อยในท้องดิ้นแรงเหลือเกิน“ลูกดิ้นเหรอ?” อนาคินถามเพราะเขาก็รู้สึกได้ว่าลูกน้อยกำลังดิ้น“ค่ะ”“เราจะได้รู้แล้วใช่มั้ยว่าจะได้ลูกสาวหรือลูกชาย”“จริงๆ รู้ได้ตั้งแต่เดือนก่อนแล้วค่ะ แต่ลูกคงจะอายหนีบไว้ไม่ยอมให้เห็น”“พี่ตื่นเต้นจัง..อยากรู้ว่าได้ผู้หญิงหรือผู้ชาย”“วันอาทิตย์นี้น่าจะรู้นะคะ..ถ้าลูกไม่แอบอีก”“เรานอนกันเถอะครับ..ดึกแล้ว”“ค่ะ..ฝันดีนะคะ”“ฝันดีเหมือนกันครับ” จากนั้นทั้งสองก็นอนหลับอยู่ในอ้อมกอดของกันและกันจนถึงเช้าวันอาทิตย์วันที่คริมากับอนาคินรอคอยก็มาถึง เมื่อเขาพาเธอมาหาหมอเพื่อตรวจครรภ์ตามนัด อนาคินตื่นเต้นที่ได้เห็นลูกน้อยบนหน้าจอเป็นครั้งแรก ภาพของลูกน้อยที่ดิ้นอยู่ในครรภ์ทำให้เขาน้ำตาซึมออกมา มันเป็นความรู้สึกตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก เขาพลาดโอ
อนาคินที่แกล้งนอนหลับ อมยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อได้ยินคริมาพูดความในใจกับเขา คริมานั่งบนเก้าอี้เธอจับมือข้างหนึ่งของเขามาแนบกับแก้มของเธอ เธอพูดออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินลดมือเขา อนาคินอดใจไม่ไหวอยากจะดึงเธอเข้ามากอดปลอบเสียเดี๋ยวนี้เขาพึ่งรู้ว่าการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้มันช่างดีเหลือเกิน เพราะมันทำให้คริมาหายโกรธเขาและให้โอกาสเขาอีกครั้ง เหมือนเป็นการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส และครั้งนี้เขาจะไม่ทำให้เธอต้องเสียใจอีกเด็ดขาด อนาคินสัญญากับตัวเอง เขาจะดูแลคริมากับลูกให้ดีที่สุด เขาจะทำให้เธอเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในที่สุดอนาคินก็ทนไม่ไหว ลืมตาขึ้นมา“ครีมพูดจริงใช่ไหม?” เขาถามออกไปพร้อมยิ้มอย่างดีใจ“จริงค่ะ ครีมพูดจริงๆ” คริมาตอบก่อนจะตกใจที่ได้ยินเสียงของเขา เธอเงยหน้ามองเขา อนาคินฟื้นเเล้ว แถมยังยิ้มหน้าแป้นใส่เธออีกนี่เธอโดนเขาหลอกอีกแล้วเหรอ..“นี่พี่คินฟื้นแล้วเหรอคะ? แล้วไม่เห็นมีใครบอกครีมเลย” คริมาหันมาถามเพื่อนๆ ของเขาเธอดีใจที่เขาฟื้น..แต่ก็เสียใจที่โดนหลอก“ก็น้องครีมไม่ได้ถามนี่นา..” เป็นเสียงของธาวินทร์เอ่ยออกมาเบาๆ“ต้องโทษไอ้คีเลย มันเป็นคนวางแผนทั้งหมด” อาทิ
หลังจากที่อนาคินขับรถออกมาจากบ้านของคีตะได้สักพัก เขามุ่งหน้าไปยังผับแห่งหนึ่ง ตอนนี้เขาต้องการตัวช่วยให้ตัวเองหายเครียดอนาคินนั่งดื่มเหล้าอยู่คนเดียวโดยไม่สนสายตาของใครต่อใครที่มองเข้ามา โดยเฉพาะสาวๆ ที่ต่างก็อยากจะเข้ามาทักทายเขา แต่หลังจากที่สาวๆ เหล่านั้นเห็นสายตาที่แข็งกร้าวของเขา พวกหล่อนต่างก็พากันล่าถอยไม่ย่างกรายมาใกล้เขาอีกเลยในขณะที่เขานั่งดื่มอยู่ประมาณหนึ่งชั่วโมงผ่านไปแล้ว ใบหน้าเล็กๆ น่ารักเหมือนตุ๊กตาก็ลอยเข้ามาในหัว ใช่! ลูกสาวของเขาเอง ป่านนี้ลูกคงจะรอเขาไปอ่านนิทานให้ฟังก่อนนอนเป็นแน่..ตอนนี้ลูกสาวติดเขามากจนเขาไม่สามารถจะไปไหนได้เลย อนาคินคิดได้ดังนั้นจึงลุกขึ้นและก้าวเท้ายาวๆ ออกจากผับไปทันทีสติสัมปชัญญะของเขาตอนนี้อาจจะไม่เต็มร้อยนัก แต่เขารู้ตัวว่าตัวเองไม่ได้เมาถึงขนาดขับรถไม่ได้ เขาแค่รู้สึกมึนๆ นิดหน่อย ในระหว่างทางกลับบ้านซึ่งเป็นถนนสี่เลน เขาเห็นรถสิบล้อคันหนึ่งพุ่งข้ามฝั่งมาทางที่เขากำลังขับรถ อนาคินเห็นท่าไม่ดีรีบหักหลบรถสิบล้อคันนั้น ก่อนที่รถของเขาจะเสียหลักไปพุ่งชนกับเสาไฟฟ้าข้างทางโครม!จากแรงกระแทกอย่างแรงของการขับไปชนเสาไฟฟ้าทำให้สติของเขาดับไปใ
คริมาลืมตาตื่นขึ้นมาในช่วงเย็นของวันนั้น เธอพยายามนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น“เป็นยังไงบ้างครีม” คีตะเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าคริมาฟื้นแล้ว“ลูก..พี่คี ลูกของครีมล่ะคะ?” คริมาถามออกไปด้วยความกลัว“ลูกของครีมปลอดภัย แต่ครีมต้องนอนอยู่บนเตียงห้ามขยับจนกว่าหมอจะอนุญาต”“ลูกครีมไม่เป็นอะไรจริงๆ ใช่มั้ยคะ?”“จริงสิ..ไม่ต้องกังวล เดี๋ยวพี่เรียกหมอก่อนนะ”จากนั้นหมอและพยาบาลก็เข้ามาตรวจอาการของหญิงสาว เบื้องต้นไม่มีอะไรผิดปกติ คุณหมอบอกให้เธอพักผ่อนให้มากๆ“พี่คีคะ..แล้ว เอ่อ”“ไอ้คินมันไม่อยู่หรอก พอดีน้องเค้กไม่สบาย มันก็เลยต้องรีบกลับไปดูลูก”“ตายจริง! แล้วน้องเค้กเป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ?” คริมาอุทานออกมาด้วยความตกใจ“เห็นบอกว่าตัวร้อน แต่ครีมไม่ต้องเป็นห่วงนะ ไอ้คินมันพาน้องเค้กไปโรงพยาบาลแล้ว ตอนนี้ครีมต้องทำใจให้สบาย อย่าเครียด เดี๋ยวจะส่งผลถึงเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในท้อง”“ค่ะ”ค่ำคืนนั้นกว่าคริมาจะหลับลงก็กินเวลาไปเกือบเที่ยงคืน เพราะเป็นห่วงลูกสาวเช้าวันต่อมา / โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังในกรุงเทพฯตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้อนาคินยังไม่ได้นอน เมื่อวานเขาพาเด็กหญิงเค้กมาหาหมอที่โรงพยาบาล หมอบอกว่าติ