หลังจากที่ดื่มกันจนคลับปิดแล้ว เอวาก็ชวนเธอและทุกคนบนโต๊ะไปกินข้าวต้มร้านประจำ มิเกลเลยได้นั่งรถมากับจีโน่ แต่ก่อนขึ้นรถกลับรู้สึกถึงสายตาคมๆ ที่มันจ้องราวกับจะหั่นร่างเธอออกเป็นชิ้นๆ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสายตาคู่นั้นมันเป็นของใคร
ติ้ง!!
คิมหันต์:อย่าแม้แต่จะคิดทำอะไรกับมันในรถนะ
เสียงข้อความเด้งขึ้นเมื่อเธอเข้ามานั่งในรถกับจีโน่เป็นที่เรียบร้อย
มิเกล:นี่เพื่อนฉันนะ
คิมหันต์: เพื่อนบ้าอะไร ดูสายตามันไม่ออกหรือไง อย่าโง่ให้มาก!!
จิ๊!!
เธอจิ๊ปากกับข้อความที่ส่งมาด้วยความหงุดหงิดจนร่างสูงข้างๆ ต้องหันมาถามอย่างสงสัย
"หงุดหงิดอะไรของแก"
"เปล่า!"
"อย่าไปวุ่นวายกับพวกนั้นนะเข้าใจไหม มันอันตราย"จีโน่เอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วง และอีกแล้วที่ทำให้ใจเต้นแรงด้วยคำพูดไม่กี่คำของเขา แล้วแบบนี้เธอจะห้ามใจตัวเองได้ยังไงกัน
คิมหันต์:ซื้อรถให้ทำไมไม่ขับ มากับมันทำไม?
ข้อความยังคงเด้งเข้ามาเรื่อยๆ แต่เธอจ้องมองแค่หน้าจอ ไม่ได้กดเข้าไปอ่าน
"ใครทักมาบ่อยจัง...มีแฟนแล้วไม่บอกเพื่อนหรอ?"จีโน่แซว
"บะ...บ้าหรอ...ไม่มี"
"ฉันโคตรไม่ชอบหน้าไอ้ซันกับคนที่ชื่อคิมหันต์เลย ขี้เก๊กฉิบหาย ไม่รู้เอวาทนคนแบบนั้นได้ไง"
"เขาเป็นรุ่นพี่เรานะ แกไปพูดแบบนั้นได้ไง?"
"ต้องให้เกียรติคนแบบนั้นด้วยหรอ?"
"ไม่มีอะไรหรอก พี่ซันก็ดูรักเอวาดีออก"มิเกลกล่าว เพื่อให้จีโน่ตัดใจ เผื่อเขาจะได้หันมาชอบเธอสักที
"รักหรือหวังเรื่องอย่างว่า ดูหน้าแต่ละคนดิ แม่งไว้ใจได้ที่ไหน กะล่อนขนาดนั้น!!"จีโนเริ่มใส่อารมณ์
"..."
"หรือแกสนใจใคร?"
"บะ...บ้า..."
"แล้วไป..."
ไม่นานรถของจีโน่ก็มาถึงร้านข้าวต้ม ร้านประจำของกลุ่มเขา ตอนเรียนอยู่ปีหนึ่งทั้งสามคนแวะมากินร้านนี้กันแทบจะทุกคืนหลังออกจากร้านเหล้า แต่ช่วงหลังๆ มานี้ต่างคนก็ต่างจะต้องไปฝึกงานแถมยังต้องทำโปรเจคจบอีก เลยไม่ค่อยได้มาพบปะกันสักเท่าไหร่
"สั่งเลยนะเดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง"ถึงปากจะพูดแบบนั้นแต่สายตาก็มองไปรอบอย่างระแวง เพราะปกติแล้วพวกเขาไม่ค่อยชอบกินอะไรข้างทางแบบนี้ ไม่ใช่แค่ซันเท่านั้น แต่ปราณและคิมหันต์ก็ด้วยเช่นกัน
ตื้อดึ่ง!!
คิมหันต์:เชี้ย พวกมึงพากันมากินอะไรวะเนี้ย ยุงเยอะฉิบหาย
คิมหันต์เริ่มเปิดบทสนทนาในกลุ่ม
ซัน:ไอ้เชี้ยจีโน่เลยตัวชวน กูล่ะอยากซัดหน้าแม่ง หมั่นไส้มันโคตร
ปราณ: เอาหน่าเอาใจสาวๆ ก่อน
คิมหันต์:กูก็ไม่ชอบหน้าแม่ง มั่นหน้า หน้าแม่งกวนส้นตีนฉิบหาย ลอยหน้าลอยตาอยุ่ได้
ซัน:ถ้าไม่ติดที่เมียกูอยู่ด้วยนะ กูใส่มันแล้ว
ปราณ:พวกมึงเป็นอะไรกันวะ จะรังแกเด็ก?
คิมหันต์:ก็เด็กมันกวนตีน
"พี่ซันคะ"เอวาเรียกซัน
"ครับ?"ซันตอบเอวาเสียงหวาน
"พี่ซันจะกินอะไรคะ"เสียงใสถามขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มหวานๆ ทำเอาผู้ชายบนโต๊ะทั้งหลายถึงกับหลงใหลกับรอยยิ้มของเธอ ไม่เว้นแม้แต่โต๊ะข้างๆ
ซัน:เอาแล้วไงพวกมึง กูไม่รู้ต้องตอบอะไรเลยกูไม่เคยกิน
คิมหันต์:ยำมึง ตอบไปเลย
คิมหันต์ช่วยคิด
ปราณ:ต้มโคล้ง
"ยำสามกรอบกับต้มโคล้งก็ได้ครับ จริงๆ เอวาสั่งอะไรมาพี่ก็กินได้หมดครับ สั่งมาเลย"
"หึ!"เสียงเย้ยหยันในลำคอของจีโน่ ทำเอาซันถึงกับฉุน
"เดี๋ยว-มึง-เจอ"ซันไม่พูดออกเสียง แต่จ้องหน้าจีโน่แล้วพูดให้เขาอ่านปากแทน ไร้ซึ่งการตอบโต้ มีเพียงใบหน้าที่ยกยิ้มกวนๆ พร้อมกับยักคิ้วให้เขาเท่านั้น ยิ่งทำให้ไฟในกายของเขาสุมกองใหญ่เข้าไปอีก ไอ้เด็กนี่มันน่าซัดให้หงายจริงๆ มันวอนแล้ว เขาคิดในใจ แอบคาดโทษเอาไว้ภายในใจ
"เอวาฉันว่าเอาหมึกผัดไข่เค็มดีไหม ของโปรดแกอะ ต้มซุปเปอร์ ผัดหอยลาย ผัดยอดฟักแม้ว อ้อมิเกล...ไก่ผัดเม็ดมะม่วงของโปรดแกนี่ เอาไหม"จีโน่ทำการสั่งอาหารจานโปรดของสาวๆ อย่างรู้ใจ
ซัน:มึงดูความมั่นหน้าของมันนะ
คิมหันต์:มันเรียกร้องความสนใจหรอวะซัน ดูมันทำหน้าดิแม่ง
ปราณ:เอาหน่า พวกมึงก็ดูเชิงไปก่อน แล้วไอ้คิมมึงไปเกี่ยวอะไรกับเขา??
จบบทสนทนา พร้อมกับคิมหันต์ที่ทำท่าทางเลิ่กลั่ก
จากนั้นไม่นานอาหารหลากหลายเมนูก็ถูกจัดเสิร์ฟบนโต๊ะ สายตาของสาวๆ ตาลุกวาวกับเมนูอาหารสุดโปรดที่นานๆ ครั้งถึงจะได้แวะมากิน
"คิดถึงสุดๆเลย ไม่ได้มากินนานมาก"มิเกลกล่าวพร้อมกับคีบไก่ผัดเม็ดมะม่วงเข้าปากไปเคี้ยวตุ้ยๆ อย่างเอร็ดอร่อย มันทำให้คิมหันต์ที่ลอบมองอยู่ถึงกับอมยิ้มเล็กๆ กับท่าทางของเธอ
"ใช่ ไม่ได้กินนานมาก นี่ก็ไม่รู้ว่าจะได้กลับมากินอีกเมื่อไหร่ เดี๋ยวก็ต่างแยกย้ายกันไปทำงานแล้ว คงไม่ได้รวมตัวแบบนี้อีก"เอวาเสริม
"ทำไมเราไม่ไปทำงานที่เดียวกันล่ะ เลิกงานค่อยมากินด้วยกันก็ได้"จีโน่ออกอุบาย
"คงไม่ได้หรอก ฉันต้องไปทำงานกับพี่ซัน" คำตอบของเธอ ทำเอาซันกระตุกยิ้มใส่จีโน่อย่างผู้ชนะ บ่งบอกว่าเขาเหนือกว่าเห็นๆ
"แล้วมิเกลล่ะครับ สนใจไปทำงานที่โรงพยาบาลไหม เดี๋ยวพี่ฝากให้"ปราณเอ่ยถามหญิงสาวอีกคนข้างๆ เอวา
"เกลไม่ได้เรียนหมอค่ะพี่ปราณ เกลเรียนบริหารมา"ครั้งนี้เป็นคิมหันต์ที่ยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจ อย่างน้อยปราณก็ไม่สมปรารถนาแล้ว
"ไม่เห็นเป็นไรเลย ฝ่ายการเงิน ฝ่ายเอกสารก็มี พี่เป็นเจ้าของโรงพยาบาลถ้ามิเกลสนใจพี่ก็ฝากให้ได้"ปราณยังคงไม่ล้มเลิกความพยายาม ยังคงหว่านล้อมสาวสวยไปทำงานด้วย จริงๆ เขาไม่ได้สนใจสาวสวยตรงหน้าหรอก เขาแค่อยากปั่นเพื่อนก็เท่านั้น เพราะเพื่อนคนนี้มันดูมีลับลมคมในเสียเหลือเกิน แถมเก็บเงียบอีก
"ไว้เกลจะลองคิดดูอีกทีนะคะ"เธอยิ้มส่งให้ปราณ ทำเอาคิมหันต์ที่นั่งมองถึงกับตาขวางใส่
"นี่ครับ นามบัตร"
หมับ!!
ยังไม่ทันที่มิเกลจะได้แตะนามบัตรของปราณ คิมหันต์ก็คว้ามาถือไว้ซะก่อน
"มึงเปลี่ยนแบบใหม่หรอปราณ ทำไมนามบัตรอันนี้สวยจัง มึงสั่งทำร้านไหน กูจะเอาไปทำบ้าง"
"เดี๋ยวกูส่งร้านให้ในแชทและกัน อันนี้ของน้องมิเกล...ถ้าอยากมาทำงานกับพี่ติดต่อพี่ได้เลยนะครับ"จากนั้นปราณก็แย่งนามบัตรคืนมาแล้วส่งให้มิเกลอีกครั้ง
ผ่านไปไม่นาน อาหารบนโต๊ะก็ถูกกวาดเรียบโดนเอวาและมิเกลเป็นส่วนใหญ่"อิ่มกันแล้วใช่ป้ะ"ซันเอ่ยถามขึ้น
"ค่ะ"
"เฮียครับเช็กบิลครับ"ร่างสูงเอ่ย จากนั้นไม่นานเจ้าของร้านก็เดินมาคิดคำนวณราคาอาหารบนโต๊ะ
"ทั้งหมด890บาท"
"นี่ครับ"ซันยื่นบัตรเครดิตแบล็กการ์ดให้เจ้าของร้าน
"เอ่อ...ลื้อตลกหรอพ่อหนุ่ม เอาบัตรเครดิตให้อั้ว จะให้อั้วไปรูดตรงไหน?"
"หึๆ หน้าโง่ฉิบหาย"แม้จะเป็นคำพูดเบาๆ แต่ซันกลับได้ยิน
"ขอโทษครับเฮียผมไม่มีเงินสด...ไอ้คิมไอ้ปราณเอาเงินสดมายืมดิ"แม้จะหน้าเสียไปบ้าง แต่ก็ยังหันไปยืมเพื่อนทั้งสอง
"พวกกูไม่พกเงินสด มีแต่บัตรเหมือนมึงนั่นแหละ"คิมหันต์กล่าว
"เดี๋ยวเอวาจ่ายเองค่ะพี่ซัน!"สาวสวยข้างกายกล่าวด้วยรอยยิ้ม แม้จะเอ็นดูในความป๋าที่ไม่ถูกสถานที่ของเขาก็เถอะ แต่เธอก็ไม่ถือสา
"นี่ครับเฮีย ไม่ต้องทอน"จีโน่ยื่นแบงก์พันให้เจ้าของร้านก่อนจะหันมายกยิ้มอย่างผู้ที่เหนือกว่าให้ซัน และที่เขาชวนมาร้านนี้ก็เพราะอยากหักหน้าคนรวยแบบเขานั่นแหละ ก็เพราะเขาคิดแล้วว่าพวกนี้คงไม่มีเงินสด เขาก็เลยกลายเป็นฮีโร่ของสาวๆ ไปโดยปริยาย
ซัน:มึงดูมันทำหน้าทำตาดิ เอาแม่งสักหมัดดีไหมเนี้ย กูล่ะหมั่นไส้มันจริงๆ
ปราณ:ใจเย็นไอ้เสือ เดี๋ยวได้แก้แค้น ทำดีเอาหน้าไปก่อน พอได้โอกาสเหมาะๆ ค่อยจัด...ไอ้คิมมึงสั่งการ์ดมึงไปจัดดิ
คิมหันต์:ไม่ต้องบอกกูก็ทำ พรุ่งนี้เช้ารอฟังข่าวดีเลย หยอดข้าวต้มแน่นอน!!
จบการสนทนา
หลังจากที่ดื่มกันจนคลับปิดแล้ว เอวาก็ชวนเธอและทุกคนบนโต๊ะไปกินข้าวต้มร้านประจำ มิเกลเลยได้นั่งรถมากับจีโน่ แต่ก่อนขึ้นรถกลับรู้สึกถึงสายตาคมๆ ที่มันจ้องราวกับจะหั่นร่างเธอออกเป็นชิ้นๆ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสายตาคู่นั้นมันเป็นของใครติ้ง!!คิมหันต์:อย่าแม้แต่จะคิดทำอะไรกับมันในรถนะเสียงข้อความเด้งขึ้นเมื่อเธอเข้ามานั่งในรถกับจีโน่เป็นที่เรียบร้อยมิเกล:นี่เพื่อนฉันนะคิมหันต์: เพื่อนบ้าอะไร ดูสายตามันไม่ออกหรือไง อย่าโง่ให้มาก!!จิ๊!!เธอจิ๊ปากกับข้อความที่ส่งมาด้วยความหงุดหงิดจนร่างสูงข้างๆ ต้องหันมาถามอย่างสงสัย"หงุดหงิดอะไรของแก""เปล่า!""อย่าไปวุ่นวายกับพวกนั้นนะเข้าใจไหม มันอันตราย"จีโน่เอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วง และอีกแล้วที่ทำให้ใจเต้นแรงด้วยคำพูดไม่กี่คำของเขา แล้วแบบนี้เธอจะห้ามใจตัวเองได้ยังไงกันคิมหันต์:ซื้อรถให้ทำไมไม่ขับ มากับมันทำไม?ข้อความยังคงเด้งเข้ามาเรื่อยๆ แต่เธอจ้องมองแค่หน้าจอ ไม่ได้กดเข้าไปอ่าน"ใครทักมาบ่อยจัง...มีแฟนแล้วไม่บอกเพื่อนหรอ?"จีโน่แซว"บะ...บ้าหรอ...ไม่มี""ฉันโคตรไม่ชอบหน้าไอ้ซันกับคนที่ชื่อคิมหันต์เลย ขี้เก๊กฉิบหาย ไม่รู้เอวาทนคนแบบนั้นได้ไง""เขาเป
หลายวันต่อมา...หลังจากที่คิมหันต์ซื้อรถให้เธอวันนั้นเธอก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็ไม่กล้าขับรถที่เขาซื้อให้อยู่ดี ราคาแพงขนาดนั้นไม่กล้าแม้แต่จะแตะมันเลย ไม่รู้ว่านายนั่นจะมาไม้ไหน เผื่อมีแผนพิเรนๆ แล้วเธอรับมือไม่ได้แย่กันพอดี~เสียงโทรศัพท์~'เอวา'"อื้มว่าไงแก"[มิเกล ฉันทำโปรเจคผ่านแล้ว!!"]ทันทีที่เธอกดรับ เอวาก็ตะโกนลั่นโทรศัพท์ ด้วยความดีใจ ทำให้เธอรีบเอาเครื่องสี่เหลี่ยมนั้นออกห่างจากหู เพราะเสียงของเธอดังจนหูแทบแตก"จริงเหรอ!!..” ดีใจด้วยแก...ผ่านสักทีนะ"เตอบกลับด้วยน้ำเสียงดีใจกับเพื่อน[คืนนี้ไปฉลองกัน...พี่ซันเลี้ยง]เสียงใสเอ่ยชวน"ได้เสมอ ที่เดิมเหรอ?"อย่างน้อยก็คลายเหงาได้ อยู่คอนโดแบบนี้ทั้งวันเบื่อจะแย่[ใช่ ชวนโน่แล้วมันบอกจะไปรับแก]"อื้ม...ได้ๆ"[ไว้เจอกันแก]3ทุ่ม..."รอนานไหมโน่"มิเกลเอ่ยถามจีโน่ที่นั่งรอเธออยู่ที่ล็อบบี้คอนโดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม"หืม...ใส่สั้นอีกแล้วนะแก...บอกกี่ครั้งแล้วเนี้ย"คำพูดของเขาทำให้คนใขบางอย่างเธอใจเต้นแรงไม่เป็นส่ำเลย พอคิดว่าเขาหวงเธอมันก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก"หวงหรอ""หวงดิ...แกเป็นเพื่อนฉันนะ"แต่พอจะยิ้มก็
วันต่อมา~เสียงโทรศัพท์ของมิเกล~'คิมหันต์'"โทรมาทำไมนักหนาเนี้ย"เธอสบถออกมาด้วยความรำคาญ ก็เพราะเบอร์นี้โทรเข้ามาเป็น10สายแล้วน่ะสิ ตั้งแต่รู้ว่านายนี่เป็นใครเธอก็ไม่อยากติดต่อหรือวุ่นวายด้วยอีกเลย รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างบอกไม่ถูกติ้ง!!'ถ้าไม่รับสายจะบุกไปที่ห้อง'แต่อยู่ๆ ข้อความก็เด้งขึ้นมา ทำเอาเจ้าของโทรศัพท์นั้นถึงกับขนลุกวาบไปทั้งตัว~เสียงโทรศัพท์~'คิมหันต์'"จะโทรมาทำไมนักหนา"[จะพาไปดูรถใหม่]"ฉันไม่เอา รวยมากหรือไง?"ทั้งที่ควรจะดีใจด้วยซ้ำ แต่ไม่เลย ตอนนี้ต้องการอย่างเดียวคืนเลี่ยงจากเขาให้มากที่สุด[พอเห็นหน้าฉัน ก็พูดเสียงห้วนเลยนะ]"คุณตั้งใจชนรถฉันใช่ไหม...คุณต้องการอะไรกันแน่?"เธอถามด้วยความไม่เข้าใจ[ก็บอกว่าไม่ได้ตั้งใจ]"ถ้าตั้งใจคงเหลือแต่ซากรถใช่ไหม"ประชดประชันเสียงห้วน[ลงมาข้างล่าง]กดเสียงต่ำออกคำสั่ง"ไม่!!"[ดี!!]"..."ฉีกยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าปลายสายเหมือนจะยอมแพ้ เพราะเธอเกลียดที่สุดนั่นก็คือการถูกบังคับนี่แหละ[งั้นฉันขึ้นไปหาเอง]"ดะ...เดี๋ยว...ไม่ต้อง...ไม่ต้องขึ้นมานะ"ไอ้บ้านี่มันไม่ยอมเลิกว่ะ ผิดคาดไปได้ยังไง ให้มันได้อย่างนี
วันต่อมา...'คุณคิมหันต์'"ค่ะ..."[ผมรออยู่ล็อบบี้คอนโดคุณนะครับ]"อ้อ...ค่ะเดี๋ยวฉันลงไป"จากนั้นมิเกลก็หยิบๆ เอกสารเกี่ยวกับรถยนต์ลงไปด้วยเผื่อได้ใช้ แต่สภาพรถของเธอมันดูไม่น่าจะซ่อมได้ แค่คิดก็กุมขมับรอแล้ว ส่งงวดรถยังไม่หมดเลย นี่มันวันซวยอะไรของเธอกันนะ โชคยังดีที่เขานั้นรับผิดชอบไม่งั้นคงต้องได้โทรไปรบกวนแม่ที่เชียงใหม่ให้เอารถคันใหม่มาให้ใช้แน่ๆเลย"แล้วฉันจะรู้ไหมว่าใครคือคิมหันต์ นั่งหน้าสลอนกันเยอะขนาด...เอ๊ะ!...นั่นมันผู้ชายคนนั้นนี่!!"ระหว่างที่เธอสอดส่ายสายตาหาคนที่ชื่อว่าคิมหันต์ สายตาก็สะดุดเข้ากับผู้ชายคนแรกของเธอ "แย่แล้ว...เอาไงดีนะมิเกล...เขามาทำอะไรที่นี่วะ..."เธออุทานก่อนจะเดินหลบไปอีกมุมหนึ่งของคอนโด~เสียงโทรศัพท์ของมิเกล~'คิมหันต์'[คุณลงมาหรือยังครับ ผมรออยู่]"เอ่อ...คุณคิมหันต์คะ...เดี๋ยวฉันไปรอที่รถนะคะ"เอ่ยบอกปลายสาย ก่อนที่เธอจะยกกระเป๋าขึ้นมาปิดหน้าแล้ววิ่งลงไปที่ชั้นจอดรถทันที"สวัสดีครับคุณมิเกล""0.0"แต่ระหว่างที่เธอเดินวนดูรอยกระแทกรอบๆรถ เสียงทุ้มๆ ก็เอ่ยทักขึ้น เมื่อสบสายตากับเจ้าของเสียงก็ถึงกับตกใจจนหน้าแทบหงาย ไม่นะ ไม่จริงใช่ไหม? เธอคิด"อ่ะ..
"อร่อยไหม...นี่ของโปรดแก...กินเยอะๆนะ"จีคลับคล้ายคลับคลาตักไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ให้มิเกล การกระทำที่ใส่ใจแบบนี้ทำเอาคนตัวเล็กนั้นใจสั่นทุกครั้ง เขาจะชอบเธอบ้างไหมน้า เธอแอบคิดในใจ สักนิดก็ไม่เลยหรอ?"ขอบใจมากแก...""แกว่าเอวาจะชอบ ฉันบ้างปะ...ฉันควรสารภาพบอกเอวาไปตรงๆ ดีไหม...ใกล้จะเรียบจบแล้วด้วยหาจังหวะไม่ได้เลย"และทุกครั้งที่เธอคิดเข้าข้างตัวเอง จากที่ลอยขึ้นไปที่สูง ก็ตกลงมากะทันหันแบบนี้ทุกที พอแล้วล่ะ ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่เห็นค่าหรอก เธอควรที่จะถอยออกมาได้แล้ว เธอคิด ขนาดรู้อยู่เต็มอกว่าเอวามีคู่หมั้นที่ทางครอบครัวจัดหามาให้แล้ว ก็ยังจะดื้อด้านรอ"เอวามันยุ่งๆ เรื่องโปรเจคอะ...ไว้ยังไงแกก็ค่อยคุยกับมันตอนโปรเจคเสร็จแล้วกัน...ฉันอิ่มแล้วขอตัวนะ"พูดจบมิเกลก็คว้ากระเป๋า แล้วเดินจ้ำอ้าวออกจากร้านไป มันน่าหงุดหงิดนัก ก็รู้แหละว่าชอบเอวาแต่ก็ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้มั้ง ถ้าเป็นไปได้ เธอก็ไม่ได้อยากจะชอบเขาเลย ไม่ชอบที่ตัวเองต้องเป็นแบบนี้ด้วยซ้ำ"เอ้ามิเกลเพิ่งกินไม่กี่คำเอง...แล้วนั่นจะกลับยังไง?"จีโน่ตะโกนไล่หลัง ทำเอาคนในร้านหันมามองเป็นตาเดียว"ฉันจะกลับแท็กซี่...""นี่ตังค่าอาหารครั
@คริสตัลมอลมิเกลเดินเข้ามาดูเสื้อผ้าในห้างด้วยความเบื่อหน่าย อาจจะเพราะใกล้จะเรียนจบละมั้ง พักหลังๆมานี้ก็ไม่ค่อยมีเรียนสักเท่าไหร่ เลยทำให้เธอว่าง นานๆทีก็จะเจอเพื่อนที แถมเพื่อนของเธออย่างเอวาก็ยุ่งๆ กับเรื่องแต่งงานที่พ่อแม่จับให้แต่งอีกด้วย เลยทำให้เธอจำต้องใช้ชีวิตสันโดษอยู่แบบนี้"เบื่อชะมัดเลย..."ปากก็บ่นแต่สายตาก็มองๆ หาชุดที่แขวนอยู่บนราว พร้อมกับใช้มือเลื่อนๆ ไม้แขวนดูชุดไปเรื่อยๆหวังแก้เซ็งหมับ!!มือเล็กของเธอแตะเข้ากับมือนุ่มๆของใครอีกคน โดยจุดมุ่งหมายคือชุดเดรสสีชมพูบนราวที่เธอดันสะดุดตาเช่นกัน"อุ๊ย...ขอโทษค่ะ"หญิงสาวดวงหน้าจิ้มลิ้มเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมกับชักมือออกจากชุดที่เธอจับทันที โค้งตัวให้เธอเล็กน้อยด้วยทีท่าถ่อมตนสุดๆ"เอ่อ...คุณเอาไปก่อนเลยค่ะ..."มิเกลกล่าวด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะผายมือให้เธอเอาชุดนั้นไป "มันเหมาะกับคุณมากกว่าฉันค่ะ...""อะ...เอ่อ...ขอบคุณนะคะ...งั้น...คุณเลือกมาสักชุดสิคะ...เดี๋ยวฉันจ่ายให้...อยากขอบคุณ ที่คุณมีน้ำใจเสียสละชุดนี้ให้ฉัน"เธอคนนั้นกล่าว"ไม่เป็นไรเลยค่ะ...ฉันแค่มาเดินเล่นแก้เบื่อ...ไม่ได้คิดจะซื้อหรอกค่ะ..."มิเกลตอบ กล