ชายหนุ่มหยัดตัวขึ้นสูงเพื่อให้พรฟ้าได้มองร่างกายของเขาเช่นกัน โดยใช้มือข้างหนึ่งดันกับเตียงนอนไว้ แล้วใช้มืออีกข้างคว้ามือของพรฟ้ามาวางบนหน้าอกแล้วเริ่มลูบไล้ไปมาเพื่อนำทาง กระทั่งอธิศปล่อยมือแล้วเอ่ยขึ้น
“อยากสัมผัสตรงไหนไหม” พรฟ้าพยักหน้ารับ ก่อนที่เธอจะลูบไล้ร่างกายที่สมบูรณ์แบบของอธิศอย่างพอใจ แต่ยิ่งเธอสัมผัสเขาด้วยความอ่อนโยนมากเท่าไหร่ กลับทำให้ชายหนุ่มเสียวซ่านจนต้องส่งเสียงครางออกมาบ้าง อธิศมองสบตาพรฟ้าด้วยแววตาอันหยาดเยิ้ม แววตาที่เต็มไปด้วยไฟปรารถนาซึ่งไม่ได้ต่างจากของพรฟ้าแม้แต่น้อย ก่อนที่ทั้งคู่จะมอบจูบให้กันและกันอีกครั้ง อธิศเล้าโลมพรฟ้าอย่างต่อเนื่อง ชายหนุ่มพรมจูบเธอไปทั่วใบหน้าและมาหยุดตรงหน้าอกอย่างหลงไหล ข้างหนึ่งสัมผัสด้วยปากและลิ้นที่ตวัดขึ้นลงอย่างช่ำชอง ในขณะที่อีกข้างสัมผัสด้วยมือ ซึ่งทั้งสองทำหน้าที่ปลุกปั่นและฟอนเฟ้นจนหน้าอกหน้าใจของพรฟ้าตื่นตัวเสียงครางกระเส่าของพรฟ้าดังขึ้นเป็นระยะๆ เธอควบคุมตัวเองไม่ได้จริงๆ รู้แค่เพียงว่าตอนนี้อยากให้อธิศทำอะไรสักอย่างเพื่อเติมเต็มเธอให้สมบูรณ์ ในขณะที่อธิศก็ละจากหน้าอกของพรฟ้าช“ดีๆ ดีมาก” ภาคยิ้มอย่างมีความสุข ตามด้วยโกศลและศจี ในขณะที่มยุราซึ่งยังคงตั้งแง่กับพรฟ้าก็เผลอยิ้มออกมาเช่นเดียวกัน แม้เธอจะไม่ปลื้มแม่ของหลานแต่หลานชายน่ารักน่าชังแบบนี้เธอจะไม่เอ็นดูได้ยังไง อะไรที่หยวนได้ก็หยวนไปแล้วกัน นั่นคือข้ออ้างที่มยุรามีให้กับตัวเอง เพื่อจะหาทางออกกับเรื่องที่เคยก่อชนิตาเองก็ยิ้มกว้างเมื่อรู้ว่าพรฟ้าคลอดลูกอย่างปลอดภัย แถมยังมอบลูกชายที่เปรียบดั่งสายใยความรักความผูกพันให้กับครอบครัวอีก ชนิตารอกระทั่งรู้ว่าพรฟ้าออกมาพักฟื้นที่ห้องแล้วจึงโทรศัพท์ทางไกลมาหา“ดีใจด้วยนะเบล”“ขอบคุณมากค่ะคุณตา”“หลานฉันช่างน่ารักน่าชัง ขอให้ฉันได้เป็นแม่ทูนหัวแกได้ไหม” ชนิตาเอ่ยถาม“ได้ค่ะ”“ขอบใจมากจ้ะ”“ร้องไห้ทำไม” เมื่อเห็นพรฟ้าร้องไห้หลังจากวางสายจากชนิตาแล้ว อธิศก็เข้ามาถามทันที“ดีใจที่ทุกคนเอ็นดูลูกของเรานะคะ”“ก็แกน่ารักน่าชังขนาดนั้นนี่ครับจะไม่ให้ทุกคนเอ็นดู
“ยินดีจากใจจริงอีกครั้งครับเพื่อน”“ขอบใจนายมากนพ”“เป็นฝั่งเป็นฝากับคนที่รัก สีหน้าของนายเต็มไปด้วยความสุขจริงๆ” นั่นเพราะนพกรยังจำสีหน้าของอธิศที่เกิดขึ้นตอนงานแต่งงานกับชนิตาได้ดี ว่ามันดูอึมครึมไม่ได้สดใสอย่างในตอนนี้“อื้อ”“เจ้าสาวนายก็สวย”“ใช่ไหม เบลสวย ยิ่งอยู่ในชุดเจ้าสาวแบบนี้ก็ยิ่งสวย” อธิศยิ้มกว้างเมื่อเอ่ยชมความสาวของภรรยา ยิ่งตอนนี้พรฟ้าท้องด้วยแล้วเธอก็ยิ่งสวยเปล่งปลั่ง“เบื่อคนอวยเมียว่ะ”“ก็เมียข้าสวยจริงๆ นี่หว่า”“เออๆ สวยก็สวย สรุปนายได้ลูกสาวลูกชาย บอกได้ยัง”“ยัง ไปลุ้นเอาวันที่เบลคลอดนู่น”“บอกหน่อยไม่ได้หรือไง จะได้ซื้อของรับขวัญถูก” นพกรเซ้าซี้ นั่นเพราะตอนนี้เขาไม่รู้จะซื้ออะไรรับขวัญหลานจริงๆ ยิ่งไม่รู้ว่าเป็นเพศอะไรก็ยิ่งมืดแปดด้าน“จ
ชนิตาย้ายกลับไปอยู่ที่บ้าน และวางแผนให้พ่อและแม่ฟังว่าหลังจากนี้เธอจะใช้ชีวิตแบบไหน ซึ่งโกศลและศจีก็ต่างสนับสนุน เพราะมั่นใจว่านั่นคือความสุขของลูกสาวคนนี้ ส่วนเรื่องคู่ครองพวกเขาคงไม่เข้าไปก้าวก่ายอะไรอีก หาก ชนิตาจะครองตัวเป็นโสดก็คงสบายไปอีกแบบส่วนว่าที่คุณพ่อและคุณแม่ก็กำลังตระเตรียมห้องสำหรับเด็กอ่อน ที่เวลานี้รู้เพศแล้วว่าคือผู้ชาย แต่ทั้งคู่ยังคงเก็บเป็นความลับ เพื่อให้ทุกคนไปลุ้นเอาวันที่พรฟ้าคลอด ซึ่งจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้แล้ว“ซื้อพอแล้วมั้งคะคุณอธิศ”“พอแล้วเหรอ” ว่าที่คุณพ่อเอ่ยถามขึ้นเพราะคิดว่าสิ่งของจำเป็นที่เขาซื้อเตรียมไว้ให้ลูกชายคนแรกนั้นยังไม่มากพอ ขณะที่พรฟ้าได้แต่มองจำนวนสิ่งของในรถเข็นที่เยอะจนล้นออกมา“ค่ะ...ถ้าหมดค่อยซื้อเพิ่มก็ได้”“โอเค...พอก็พอครับ” อธิศยิ้มให้ก่อนจะพาพรฟ้าไปทานอาหาร ในขณะที่รถช้อปปิ้งชายหนุ่มส่งให้แม่บ้านเป็นคนจัดการต่อ แต่ระหว่างทางเดินไปร้านอาหารนั้นจู่ๆ เขาก็วกเข้าร้านเพชรที่อยู่ตรงทางผ่านแบบไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย ก่อนจะจัดแจงบอกให้พนักงานขึ้น&ldq
“ผมรอคำตอบอยู่” เมื่อมยุราไม่ตอบภาคก็เอ่ยถามซ้ำอีกครั้ง นั่นยิ่งทำให้มยุราอึกอักอย่างมีพิรุธ ก่อนจะยืนกระต่ายขาเดียวปฏิเสธ“เอ่อคือ...ไม่มีอะไรค่ะ”“คุณแม่เป็นคนแนะนำให้คุณตาหาผู้หญิงสักคนให้ผมครับพ่อ โดยพยายามกดดันเรื่องคุณปู่อยากอุ้มหลาน จนทำให้คุณตาไม่มีทางเลือก” หลังจากเงียบมานานอธิศก็ขอเอ่ยขึ้นบ้าง นั่นเพราะอยากให้ผู้เป็นแม่รู้ว่าทำแบบนี้มันไม่ถูกต้องแต่คำพูดของบุตรชายกลับยิ่งทำให้มยุราไม่พอใจ เพราะไม่คิดว่าอธิศจะกล้าหักหน้าเธอแบบนี้ ทั้งๆ ที่เงียบไปก็ได้“นี่คุณกล้าเอาเรื่องหลานไปกดดันหนูตาอย่างนั้นเหรอ คุณทำเกินไปแล้วนะคุณมยุรา” ภาคจ้องมองมาที่มยุราอย่างเอาเรื่อง เขาไม่พอใจที่มยุราทำอะไรเลยเถิดเช่นนี้“ฉันไม่ได้ทำอะไรเกินไปทั้งนั้น เพราะถ้าเรามีหลานก็จะเป็นเหลนของคุณทวด ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะเป็นของเหลนท่าน ฉันผิดตรงไหน” มยุราแย้งกลับ“ผิดที่คุณห่วงแค่มรดก โดยไม่ห่วงความรู้สึกของคนอื่น” คำพ
เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ชนิตาและอธิศจึงหย่ากันในวันรุ่งขึ้น และวันนั้นก็ยังเป็นวันที่อธิศกับพรฟ้าได้จดทะเบียนสมรส เป็นสามีและภรรยากันอย่างถูกต้องทั้งทางนิตินัยและพฤตินัยเช่นเดียวกัน โดยมีชนิตาเป็นสักขีพยานคนสำคัญ จากนั้นก็ปล่อยให้สามีภรรยาตามกฎหมายป้ายแดงได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน“อยากกินอะไรครับ”“ส้มตำค่ะ”“ไม่ได้ หมอบอกมะละกอจะทำให้ท้องอืด”“งั้นก็ก๋วยเตี๋ยวน้ำตก”“ก๋วยเตี๋ยวน้ำตกใส่เลือด ไม่ดีเหมือนกัน”“นั่นก็ไม่ได้นี่ก็ไม่ได้ สงสัยเราสองคนต้องหิวไปทั้งวันแน่ๆ เลยลูก” พรฟ้าลูบท้องตัวเองไปมาแล้วเอ่ยกับเจ้าตัวเล็กที่โตวันโตคืนไปด้วย พอได้ยินแบบนั้นอธิศก็รีบออกตัวทันที“โอ๋ๆ อย่าพึ่งงอนพ่อนะครับ เอาเป็นว่าเราไปกินอาหารญี่ปุ่นกันดีกว่า วันก่อนเห็นเบลบ่นว่าอยากกิน”“จำได้ด้วยเหรอคะ” รอยยิ้มดีใจผุดขึ้นบนใบหน้าของ พรฟ้า นั่นเพราะไม่คิดว่าอธิศจะได้ยินตอนเธอบ่น“จำได้ครับ”“แต่อาหารญี่ปุ่นมีปลาดิบ เบล
เพราะไม่เข้าใจความหมายของสองขีดสักเท่าไหร่ อธิศจึงหันไปมองชนิตาเพื่อขอความช่วยเหลือจากเธอ ในขณะที่พรฟ้ายังคงยืนยิ้มอยู่ข้างๆ“ขีดสีแดงถ้าขึ้นสองขีดแสดงว่ากำลังตั้งครรภ์ค่ะ”“ตั้งครรภ์...ท้อง” ว่าที่คุณพ่อทวนคำพูดและแปลความหมายเสร็จสรรพ ในขณะที่พรฟ้าก็เอ่ยรับเช่นกัน“ค่ะ”“เยส! ผมกำลังจะเป็นพ่อคนแล้วจริงๆ เหรอครับเนี่ย ไชโย” อธิศตะโกนเสียงดังลั่นบ้าน ชายหนุ่มแสดงความรู้สึกดีใจออกมาอย่างไม่ปิดบัง นั่นสร้างความตกใจให้พรฟ้าและชนิตาเช่นกัน เพราะไม่คิดว่าจะได้เจออธิศมุมนี้ เนื่องจากปกติแล้วเขาจะเป็นคนเงียบขรึมเสียมากกว่าอธิศรีบพาพรฟ้าไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจให้แน่ใจ และผลที่ออกมาก็ทำให้เขายิ้มกว้างมากกว่าเดิม นั่นเพราะตอนนี้ พรฟ้าท้องจริงๆ แม้อายุครรภ์จะเพียงแค่สิบสัปดาห์ก็ตาม อธิศจัดการฝากครรภ์ให้เธอทันที โดยเลือกหมอที่เป็นเพื่อนกันให้คอยดูแลเมียและลูกระหว่างทางกลับบ้าน อธิศซึ่งขับรถอยู่ก็คว้ามมือเล็กๆ ของพรฟ้าไปกุมไว้ บนใบหน้าของเ