Mag-log inพรหมจรรย์ของเธอมีค่าแค่ไหน เป็นเพียงแค่เยื่อบางๆ ไร้ค่าแค่คั่นเวลาเท่านั้นหรือเป็นตัวจริงกันแน่นะ?
view more“ดีๆ ดีมาก” ภาคยิ้มอย่างมีความสุข ตามด้วยโกศลและศจี ในขณะที่มยุราซึ่งยังคงตั้งแง่กับพรฟ้าก็เผลอยิ้มออกมาเช่นเดียวกัน แม้เธอจะไม่ปลื้มแม่ของหลานแต่หลานชายน่ารักน่าชังแบบนี้เธอจะไม่เอ็นดูได้ยังไง อะไรที่หยวนได้ก็หยวนไปแล้วกัน นั่นคือข้ออ้างที่มยุรามีให้กับตัวเอง เพื่อจะหาทางออกกับเรื่องที่เคยก่อชนิตาเองก็ยิ้มกว้างเมื่อรู้ว่าพรฟ้าคลอดลูกอย่างปลอดภัย แถมยังมอบลูกชายที่เปรียบดั่งสายใยความรักความผูกพันให้กับครอบครัวอีก ชนิตารอกระทั่งรู้ว่าพรฟ้าออกมาพักฟื้นที่ห้องแล้วจึงโทรศัพท์ทางไกลมาหา“ดีใจด้วยนะเบล”“ขอบคุณมากค่ะคุณตา”“หลานฉันช่างน่ารักน่าชัง ขอให้ฉันได้เป็นแม่ทูนหัวแกได้ไหม” ชนิตาเอ่ยถาม“ได้ค่ะ”“ขอบใจมากจ้ะ”“ร้องไห้ทำไม” เมื่อเห็นพรฟ้าร้องไห้หลังจากวางสายจากชนิตาแล้ว อธิศก็เข้ามาถามทันที“ดีใจที่ทุกคนเอ็นดูลูกของเรานะคะ”“ก็แกน่ารักน่าชังขนาดนั้นนี่ครับจะไม่ให้ทุกคนเอ็นดู
“ยินดีจากใจจริงอีกครั้งครับเพื่อน”“ขอบใจนายมากนพ”“เป็นฝั่งเป็นฝากับคนที่รัก สีหน้าของนายเต็มไปด้วยความสุขจริงๆ” นั่นเพราะนพกรยังจำสีหน้าของอธิศที่เกิดขึ้นตอนงานแต่งงานกับชนิตาได้ดี ว่ามันดูอึมครึมไม่ได้สดใสอย่างในตอนนี้“อื้อ”“เจ้าสาวนายก็สวย”“ใช่ไหม เบลสวย ยิ่งอยู่ในชุดเจ้าสาวแบบนี้ก็ยิ่งสวย” อธิศยิ้มกว้างเมื่อเอ่ยชมความสาวของภรรยา ยิ่งตอนนี้พรฟ้าท้องด้วยแล้วเธอก็ยิ่งสวยเปล่งปลั่ง“เบื่อคนอวยเมียว่ะ”“ก็เมียข้าสวยจริงๆ นี่หว่า”“เออๆ สวยก็สวย สรุปนายได้ลูกสาวลูกชาย บอกได้ยัง”“ยัง ไปลุ้นเอาวันที่เบลคลอดนู่น”“บอกหน่อยไม่ได้หรือไง จะได้ซื้อของรับขวัญถูก” นพกรเซ้าซี้ นั่นเพราะตอนนี้เขาไม่รู้จะซื้ออะไรรับขวัญหลานจริงๆ ยิ่งไม่รู้ว่าเป็นเพศอะไรก็ยิ่งมืดแปดด้าน“จ
ชนิตาย้ายกลับไปอยู่ที่บ้าน และวางแผนให้พ่อและแม่ฟังว่าหลังจากนี้เธอจะใช้ชีวิตแบบไหน ซึ่งโกศลและศจีก็ต่างสนับสนุน เพราะมั่นใจว่านั่นคือความสุขของลูกสาวคนนี้ ส่วนเรื่องคู่ครองพวกเขาคงไม่เข้าไปก้าวก่ายอะไรอีก หาก ชนิตาจะครองตัวเป็นโสดก็คงสบายไปอีกแบบส่วนว่าที่คุณพ่อและคุณแม่ก็กำลังตระเตรียมห้องสำหรับเด็กอ่อน ที่เวลานี้รู้เพศแล้วว่าคือผู้ชาย แต่ทั้งคู่ยังคงเก็บเป็นความลับ เพื่อให้ทุกคนไปลุ้นเอาวันที่พรฟ้าคลอด ซึ่งจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้แล้ว“ซื้อพอแล้วมั้งคะคุณอธิศ”“พอแล้วเหรอ” ว่าที่คุณพ่อเอ่ยถามขึ้นเพราะคิดว่าสิ่งของจำเป็นที่เขาซื้อเตรียมไว้ให้ลูกชายคนแรกนั้นยังไม่มากพอ ขณะที่พรฟ้าได้แต่มองจำนวนสิ่งของในรถเข็นที่เยอะจนล้นออกมา“ค่ะ...ถ้าหมดค่อยซื้อเพิ่มก็ได้”“โอเค...พอก็พอครับ” อธิศยิ้มให้ก่อนจะพาพรฟ้าไปทานอาหาร ในขณะที่รถช้อปปิ้งชายหนุ่มส่งให้แม่บ้านเป็นคนจัดการต่อ แต่ระหว่างทางเดินไปร้านอาหารนั้นจู่ๆ เขาก็วกเข้าร้านเพชรที่อยู่ตรงทางผ่านแบบไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย ก่อนจะจัดแจงบอกให้พนักงานขึ้น&ldq
“ผมรอคำตอบอยู่” เมื่อมยุราไม่ตอบภาคก็เอ่ยถามซ้ำอีกครั้ง นั่นยิ่งทำให้มยุราอึกอักอย่างมีพิรุธ ก่อนจะยืนกระต่ายขาเดียวปฏิเสธ“เอ่อคือ...ไม่มีอะไรค่ะ”“คุณแม่เป็นคนแนะนำให้คุณตาหาผู้หญิงสักคนให้ผมครับพ่อ โดยพยายามกดดันเรื่องคุณปู่อยากอุ้มหลาน จนทำให้คุณตาไม่มีทางเลือก” หลังจากเงียบมานานอธิศก็ขอเอ่ยขึ้นบ้าง นั่นเพราะอยากให้ผู้เป็นแม่รู้ว่าทำแบบนี้มันไม่ถูกต้องแต่คำพูดของบุตรชายกลับยิ่งทำให้มยุราไม่พอใจ เพราะไม่คิดว่าอธิศจะกล้าหักหน้าเธอแบบนี้ ทั้งๆ ที่เงียบไปก็ได้“นี่คุณกล้าเอาเรื่องหลานไปกดดันหนูตาอย่างนั้นเหรอ คุณทำเกินไปแล้วนะคุณมยุรา” ภาคจ้องมองมาที่มยุราอย่างเอาเรื่อง เขาไม่พอใจที่มยุราทำอะไรเลยเถิดเช่นนี้“ฉันไม่ได้ทำอะไรเกินไปทั้งนั้น เพราะถ้าเรามีหลานก็จะเป็นเหลนของคุณทวด ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะเป็นของเหลนท่าน ฉันผิดตรงไหน” มยุราแย้งกลับ“ผิดที่คุณห่วงแค่มรดก โดยไม่ห่วงความรู้สึกของคนอื่น” คำพ