Share

บทที่ 5

last update Last Updated: 2025-04-10 10:37:56

แต่ความกดดันดูเหมือนจะไม่ได้มาจากฝ่ายครอบครัวของอธิศเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น เพราะพ่อและแม่ของชนิตาเองก็เริ่มกดดันลูกสาวในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน โดยยังคงให้เหตุผลว่าท่านอยากอุ้มหลานก่อนตาย ยิ่งทำชนิตารู้สึกไม่ดีมากขึ้นไปอีก จนต้องมานั่งถอนหายใจเฮือกๆ อย่างที่เป็นอยู่ ก่อนจะปรับอารมณ์ให้เป็นปกติแล้วเดินกลับเข้าบ้าน เพื่อสั่งให้แม่บ้านเตรียมมื้อเย็น เนื่องจากวันนี้จะมีเพื่อนของอธิศแวะมากินข้าวด้วย 

และเพื่อนคนนั้นของอธิศก็คือนพกรนั่นเอง โดยทั้งคู่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียน ไปมาหาสู่กันเสมอๆ แต่ระหว่างการสนทนาบนโต๊ะอาหารก็มีประโยคหนึ่งที่ทำให้ชนิตาถึงกับชะงักไป

“ข้าไม่รีบมีลูกว่ะ ปล่อยไปตามธรรมชาติก่อนดีกว่า” อธิศ ตอบคำถามนั้นของนพกร พร้อมกับแอบสังเกตสีหน้าของชนิตาไปด้วย รู้สึกเห็นใจเธอที่ใครต่อใครมักจะถามคำถามทำนองนี้เสมอ แต่จะไปโทษคนเหล่านั้นก็คงไม่ได้ เพราะไม่มีใครรู้ว่าเขากับชนิตาแม้จะแต่งงานกันแต่กลับอยู่กันแบบเพื่อน ไม่ใช่สามีภรรยา

“มีลูกตอนอายุเยอะๆ จะไม่ดีต่อสุขภาพคุณตาเขานะโว้ย เด็กก็เสี่ยงตามไปด้วย”

“ขอบใจที่แนะนำ แล้วนี่นายดื่มหนักขนาดนี้จะขับรถกลับไหวเหรอ” เอ่ยรับเสร็จอธิศก็เปลี่ยนเรื่องสนทนากับนพกรทันที ซึ่งนพกรก็ให้คำตอบกลับมาว่าถ้าเมามากๆ เดี๋ยวให้คนขับรถมารับ

และเพื่อเปิดโอกาสให้อธิศและนพกรคุยกันอย่างสะดวก ชนิตาจึงขอตัวกลับขึ้นไปพักผ่อน ซึ่งสามีในนามอย่างอธิศก็ไม่ได้ห้ามอะไร ในขณะที่นพกรก็แอบสังเกตความสัมพันธ์ของทั้งคู่อยู่เช่นเดียวกัน

“นายกับคุณตา เหมือนไม่ใช่ผัวเมียกันเลยวะ”

“ทำไมถึงคิดแบบนั้น”

“ไม่รู้สิ เซ้นท์ข้ามันบอกแบบนั้นนี่หว่า อย่างว่านายกับคุณตาถูกจับแต่งงานกัน มันก็ต้องใช้เวลาจูนคลื่นกันสักพัก พอจูนติดลูกก็คงติดตาม ว่าไหม”

“อืม...คงแบบนั้น” อธิศแค่เอ่ยรับตามน้ำไปเท่านั้นเอง เพราะมองยังไงเขากับชนิตาก็ไม่มีทางไปด้วยกันได้ รอแค่จังหวะและเวลาที่จะแยกจากเท่านั้น 

“นี่ถ้าไม่เจอกับคนใกล้ตัว ข้าไม่เชื่อแน่ว่ายุคนี้จะมีการคลุมถุงชนอยู่อีก”

“ข้าก็ไม่เชื่อว่าจะเกิดกับตัวเอง” ครั้งแรกที่รู้อธิศปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่มีทางแต่งงานอย่างเด็ดขาด แต่สุดท้ายก็จำนนเพราะขัดคำสั่งของพ่อไม่ได้ ได้แต่ทำตามใจท่านไปก่อนแล้วค่อยๆ หาทางออกทีหลัง 

“เพื่อธุรกิจอะเนอะ คิดเสียว่าเรือล่มในหนองทองจะไปไหนเสีย”

“ขอให้ข้าเป็นคู่สุดท้ายแล้วกัน เพราะการถูกจับคลุมถุงชนให้แต่งงานมันไม่ใช่เรื่องน่าสนุกหรือมีความสุขสักเท่าไหร่” เอ่ยจบอธิศก็หยิบแก้วเหล้าที่นพกรชงไว้ให้ขึ้นดื่ม ชายหนุ่มดูอัดอั้นแต่พูดระบายความในใจออกไปไม่ได้ แม้แต่กับเพื่อนสนิทอย่างนพกรเองก็ตาม 

“แต่นายยังถือว่าโชคดีที่ได้เจอผู้หญิงดีๆ อย่างคุณตา ถ้าเจอผู้หญิงประเภทถูกจับใส่ตะกร้าล้างน้ำมาละก็...” นพกรที่เริ่มกึ่มๆ จะเมาส่ายหน้าไปมา 

ในขณะที่อธิศเองก็คิดกับตัวเองเช่นเดียวกัน ว่าหากเขาต้องแต่งงานกับผู้หญิงประเภทใส่ตะกร้าล้างน้ำขึ้นมาจริงๆ จะทำยังไง เขาคงทั้งเลวทั้งร้ายใส่จนเธอขอหย่าไปแล้วก็เป็นได้ แต่นี่กลับเจอผู้หญิงดีๆ อย่างชนิตา จนเขานั้นร้ายกับเธอไม่ลง

แต่เพราะนานๆ นพกรจะแวะมาดื่มด้วย บวกกับมีเรื่องให้คิดไม่ตก คืนนั้นอธิศจึงปล่อยตัวปล่อยใจไปกับเหล้าจนดื่มไปหลายแก้ว และสุดท้ายความเมาก็เข้าครอบงำ ในขณะที่นพกรก็ถึงกับต้องเรียกให้คนขับรถที่บ้านมารับ เพราะขืนขับรถเองมีหวังเกิดอุบัติเหตุแน่นอน

เมื่อส่งนพกรแล้ว อธิศก็เดินตัวเซเข้าบ้าน จังหวะที่ชายหนุ่มกำลังจะล้มชนิตาก็เข้าไปช่วยพยุงเอาไว้เสียก่อน แต่เพราะชายหนุ่มตัวหนักเกินกว่าเธอคนเดียวจะช่วยไหว ชนิตาจึงขอให้พรฟ้าที่ยืนมองอยู่ห่างๆ เข้ามาช่วยอีกแรง 

“มาช่วยฉันหน่อยสิเบล”

“ค่ะ” เมื่อรับคำเสร็จ พรฟ้าก็เข้าไปช่วยพยุงตัวอธิศทันที แต่กว่าที่ผู้หญิงสองคนจะพาผู้ชายตัวโตๆ อย่างเขาขึ้นห้องนอนมาได้นั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

“ขอน้ำอุ่นกับผ้าขนหนูให้ฉันด้วยนะ จะได้เช็ดหน้าเช็ดตาให้คุณอธิศ”

“ค่ะ” พรฟ้าพยักหน้ารับก่อนจะหายเข้าไปในห้องน้ำของเจ้าของห้อง แล้วจัดการตามที่ชนิตาบอกทันที ไม่นานก็กลับมาพร้อมของในมือ

ชนิตาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวที่อธิศสวมติดตัวออกจนหมด แล้วรับผ้าขนหนูชุบน้ำซึ่งบิดจนหมาดจากมือของพรฟ้ามาถือไว้ จากนั้นก็จัดการเช็ดใบหน้า ลำคอและตามตัวของอธิศพอให้สบายตัวขึ้น โดยเธอทำเหมือนเรื่องปกติไม่ได้ขัดเขินกับการได้สัมผัสหรือเห็นเรือนร่างของบุรุษที่สมบูรณ์แบบด้วยกล้ามเนื้อที่ผ่านการออกกำลังกายมาอย่างดี อาจเพราะเธอไม่ได้คิดพิศวาสชายหนุ่ม มองเขาเป็นแค่เพื่อนแค่พี่ชายคนหนึ่งก็เป็นได้ ชนิตาถึงไม่ได้รู้สึกเขิน

ผิดกับพรฟ้าที่ยืนหน้าร้อนผ่าวและแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะเดินกลับออกไปจากห้องนอนของอธิศแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย สร้างความงุนงงให้ชนิตาไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้คิดติดใจอะไร และเธอก็อยู่ดูแลอธิศกระทั่งเรียบร้อยจึงลุกขึ้นเพื่อจะกลับห้องของตัวเอง แต่จังหวะนั้นจู่ๆ อธิศก็คว้าข้อมือของเธอไว้

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พรหมจรรย์คั่นเวลา   บทที่ 25 (end)

    “ดีใจที่ทุกคนเอ็นดูลูกของเรานะคะ” “ก็แกน่ารักน่าชังขนาดนั้นนี่ครับจะไม่ให้ทุกคนเอ็นดูได้ยังไง” “คุณตาขอเป็นแม่ทูนหัวของแกด้วยนะคะ” “ครับ” เสียงทุ้มของอธิศเอ่ยรับก่อนจะจุมพิตหน้าผากมนของภรรยาที่เขารักสุดหัวใจอีกครั้ง ตลอดเวลาที่พรฟ้าพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลนั้น มยุราแวะมาเยี่ยมพร้อมกับเมนูบำรุงน้ำนม แม้จะไม่ได้คุยอะไรกับพรฟ้ามาก แต่ท่าทีที่อ่อนลงก็ทำให้บรรยากาศที่เคยอึมครึมค่อยๆ จางหาย และหลังจากนี้ความสัมพันธ์ที่เคยติดลบคงดีขึ้นตามลำดับเช่นกัน ก่อนออกจากโรงพยาบาลพรฟ้าได้รับช่อดอกไม้จากกอธิศ ซึ่งมันคือดอกไม้ที่มีลักษณะคล้ายกับช่อเหี่ยวๆ ของเธอช่อหนึ่ง ที่ตอนนี้พรฟ้าก็ยังคงเก็บมันไว้เป็นอย่างดี “ขอบคุณค่ะ” “ผมขอโทษที่พึ่งเอาดอกไม้มาให้” “ใครบอกล่ะคะ คุณอธิศเคยให้ดอกไม้สวยๆ แบบนี้กับเบลมาแล้ว” พรฟ้ายิ้มหวานออกมา เมื่อนึกถึงดอกไม้ช่อแรกช่อนั้น “แบบนั้นไม่เรียกว่าให้ เรียกว่าเบลไปเก็บมาต่างหาก”

  • พรหมจรรย์คั่นเวลา   บทที่ 24

    “ยินดีจากใจจริงอีกครั้งครับเพื่อน”“ขอบใจนายมากนพ”“เป็นฝั่งเป็นฝากับคนที่รัก สีหน้าของนายเต็มไปด้วยความสุขจริงๆ” นั่นเพราะนพกรยังจำสีหน้าของอธิศที่เกิดขึ้นตอนงานแต่งงานกับชนิตาได้ดี ว่ามันดูอึมครึมไม่ได้สดใสอย่างในตอนนี้“อื้อ”“เจ้าสาวนายก็สวย”“ใช่ไหม เบลสวย ยิ่งอยู่ในชุดเจ้าสาวแบบนี้ก็ยิ่งสวย” อธิศยิ้มกว้างเมื่อเอ่ยชมความสาวของภรรยา ยิ่งตอนนี้พรฟ้าท้องด้วยแล้วเธอก็ยิ่งสวยเปล่งปลั่ง“เบื่อคนอวยเมียว่ะ”“ก็เมียข้าสวยจริงๆ นี่หว่า”“เออๆ สวยก็สวย สรุปนายได้ลูกสาวลูกชาย บอกได้ยัง”“ยัง ไปลุ้นเอาวันที่เบลคลอดนู่น”“บอกหน่อยไม่ได้หรือไง จะได้ซื้อของรับขวัญถูก” นพกรเซ้าซี้ นั่นเพราะตอนนี้เขาไม่รู้จะซื้ออะไรรับขวัญหลานจริงๆ ยิ่งไม่รู้ว่าเป็นเพศอะไรก็ยิ่งมืดแปดด้าน“จ

  • พรหมจรรย์คั่นเวลา   บทที่ 23

    ชนิตาย้ายกลับไปอยู่ที่บ้าน และวางแผนให้พ่อและแม่ฟังว่าหลังจากนี้เธอจะใช้ชีวิตแบบไหน ซึ่งโกศลและศจีก็ต่างสนับสนุน เพราะมั่นใจว่านั่นคือความสุขของลูกสาวคนนี้ ส่วนเรื่องคู่ครองพวกเขาคงไม่เข้าไปก้าวก่ายอะไรอีก หาก ชนิตาจะครองตัวเป็นโสดก็คงสบายไปอีกแบบส่วนว่าที่คุณพ่อและคุณแม่ก็กำลังตระเตรียมห้องสำหรับเด็กอ่อน ที่เวลานี้รู้เพศแล้วว่าคือผู้ชาย แต่ทั้งคู่ยังคงเก็บเป็นความลับ เพื่อให้ทุกคนไปลุ้นเอาวันที่พรฟ้าคลอด ซึ่งจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้แล้ว“ซื้อพอแล้วมั้งคะคุณอธิศ”“พอแล้วเหรอ” ว่าที่คุณพ่อเอ่ยถามขึ้นเพราะคิดว่าสิ่งของจำเป็นที่เขาซื้อเตรียมไว้ให้ลูกชายคนแรกนั้นยังไม่มากพอ ขณะที่พรฟ้าได้แต่มองจำนวนสิ่งของในรถเข็นที่เยอะจนล้นออกมา“ค่ะ...ถ้าหมดค่อยซื้อเพิ่มก็ได้”“โอเค...พอก็พอครับ” อธิศยิ้มให้ก่อนจะพาพรฟ้าไปทานอาหาร ในขณะที่รถช้อปปิ้งชายหนุ่มส่งให้แม่บ้านเป็นคนจัดการต่อ แต่ระหว่างทางเดินไปร้านอาหารนั้นจู่ๆ เขาก็วกเข้าร้านเพชรที่อยู่ตรงทางผ่านแบบไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย ก่อนจะจัดแจงบอกให้พนักงานขึ้น&ldq

  • พรหมจรรย์คั่นเวลา   บทที่ 22

    “ผมรอคำตอบอยู่” เมื่อมยุราไม่ตอบภาคก็เอ่ยถามซ้ำอีกครั้ง นั่นยิ่งทำให้มยุราอึกอักอย่างมีพิรุธ ก่อนจะยืนกระต่ายขาเดียวปฏิเสธ“เอ่อคือ...ไม่มีอะไรค่ะ”“คุณแม่เป็นคนแนะนำให้คุณตาหาผู้หญิงสักคนให้ผมครับพ่อ โดยพยายามกดดันเรื่องคุณปู่อยากอุ้มหลาน จนทำให้คุณตาไม่มีทางเลือก” หลังจากเงียบมานานอธิศก็ขอเอ่ยขึ้นบ้าง นั่นเพราะอยากให้ผู้เป็นแม่รู้ว่าทำแบบนี้มันไม่ถูกต้องแต่คำพูดของบุตรชายกลับยิ่งทำให้มยุราไม่พอใจ เพราะไม่คิดว่าอธิศจะกล้าหักหน้าเธอแบบนี้ ทั้งๆ ที่เงียบไปก็ได้“นี่คุณกล้าเอาเรื่องหลานไปกดดันหนูตาอย่างนั้นเหรอ คุณทำเกินไปแล้วนะคุณมยุรา” ภาคจ้องมองมาที่มยุราอย่างเอาเรื่อง เขาไม่พอใจที่มยุราทำอะไรเลยเถิดเช่นนี้“ฉันไม่ได้ทำอะไรเกินไปทั้งนั้น เพราะถ้าเรามีหลานก็จะเป็นเหลนของคุณทวด ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะเป็นของเหลนท่าน ฉันผิดตรงไหน” มยุราแย้งกลับ“ผิดที่คุณห่วงแค่มรดก โดยไม่ห่วงความรู้สึกของคนอื่น” คำพ

  • พรหมจรรย์คั่นเวลา   บทที่ 21

    เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ชนิตาและอธิศจึงหย่ากันในวันรุ่งขึ้น และวันนั้นก็ยังเป็นวันที่อธิศกับพรฟ้าได้จดทะเบียนสมรส เป็นสามีและภรรยากันอย่างถูกต้องทั้งทางนิตินัยและพฤตินัยเช่นเดียวกัน โดยมีชนิตาเป็นสักขีพยานคนสำคัญ จากนั้นก็ปล่อยให้สามีภรรยาตามกฎหมายป้ายแดงได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน“อยากกินอะไรครับ”“ส้มตำค่ะ”“ไม่ได้ หมอบอกมะละกอจะทำให้ท้องอืด”“งั้นก็ก๋วยเตี๋ยวน้ำตก”“ก๋วยเตี๋ยวน้ำตกใส่เลือด ไม่ดีเหมือนกัน”“นั่นก็ไม่ได้นี่ก็ไม่ได้ สงสัยเราสองคนต้องหิวไปทั้งวันแน่ๆ เลยลูก” พรฟ้าลูบท้องตัวเองไปมาแล้วเอ่ยกับเจ้าตัวเล็กที่โตวันโตคืนไปด้วย พอได้ยินแบบนั้นอธิศก็รีบออกตัวทันที“โอ๋ๆ อย่าพึ่งงอนพ่อนะครับ เอาเป็นว่าเราไปกินอาหารญี่ปุ่นกันดีกว่า วันก่อนเห็นเบลบ่นว่าอยากกิน”“จำได้ด้วยเหรอคะ” รอยยิ้มดีใจผุดขึ้นบนใบหน้าของ พรฟ้า นั่นเพราะไม่คิดว่าอธิศจะได้ยินตอนเธอบ่น“จำได้ครับ”“แต่อาหารญี่ปุ่นมีปลาดิบ เบล

  • พรหมจรรย์คั่นเวลา   บทที่ 20

    “เธอไม่ได้หักหลังฉัน แต่เธอคือคนที่กำลังจะให้อิสระกับฉันต่างหาก”“ค่ะ” พรฟ้าเอ่ยรับ ก่อนจะเข้าไปนั่งคุกเข่าและสวมกอด ชนิตาไว้ด้วยความรักที่มีให้ ในขณะที่ชนิตาก็ลูบศีรษะของเธออย่างเอ็นดูเช่นเดียวกันเมื่อคุยกับชนิตาเสร็จ พรฟ้าก็แอบออกจากบ้านเพื่อไปซื้ออุปกรณ์ตรวจครรภ์ที่ร้านขายยาทันที และเมื่อกลับเข้าบ้านมาก็จัดการตรวจครรภ์ตามวิธีที่ระบุไว้ข้างกล่องพรฟ้าหลับตาแน่นขณะนับเวลาถอยหลัง เธอยกมือขึ้นปิดตาตัวเองแล้วค่อยๆ เปิดออกดูผลด้วยหัวใจที่เต้นแรงและผลที่ได้คือ...รอยขีดแดงๆ จำนวน...สองขีด!โดยคนแรกที่พรฟ้าบอกข่าวดีเรื่องนี้ให้รู้คือ...ชนิตา“จริงใช่ไหมเบล เธอท้องแล้วจริงๆ ใช่ไหม”“เบลก็ไม่แน่ใจค่ะ เพราะพึ่งตรวจครั้งแรก”“ไม่ได้การแล้ว” เอ่ยเพียงเท่านั้นชนิตาก็รีบโทรศัพท์ไปบอกให้อธิสกลับมาที่บ้าน โดยบอกว่าเธอมีเรื่องด่วนเกี่ยวกับ พรฟ้าจะบอก ชายหนุ่มถามเท่า

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status