[13]
แตกหัก
___________
บ้านวรรณรัตน์
เป็นเวลาสักพักใหญ่ๆ แล้วที่เวนิสาไม่ได้กลับมาบ้านตัวเอง บ้านหลังใหญ่ยังตั้งตระหง่านท่ามกลางแสงสว่างของดวงไฟ คนรถของมารดาพารถจอดเทียบบันไดหน้าบ้าน เธอลงรถมาด้วยหัวใจหนักอึ้งราวกับแบกบ้านเอาไว้ทั้งหลัง
“วี...แม่ขอโทษ แม่ผิดไปแล้ว อย่าโกรธแม่เลยนะวี”
เสียงของมารดาดังอยู่ข้างตัว เวนิสามองนางด้วยหางตา ไม่มีคำด่า ไม่มีคำว่าให้ท่านต้องปวดใจ มีแต่น้ำตาเจ้ากรรมที่มันถึงเวลาร่วงริน
“เอกสาร...ที่เคยเอาให้หนูดู ของปลอมหรือคะ” ถามถึงเอกสารแจ้งอาการป่วยของเธอที่ทางโรงพยาบาลออกให้ ในนั้นบอกว่าเธอมีซีสต์ที่อาจกลายเป็นมะเร็งในอนาคต ต้องผ่าออก หรือไม่ก็ควรมีลูก เพราะซีสต์จะกินเลือดจากรอบเดือนเพื่อความอยู่รอด หากเธอตั้งท้องก็จะไม่มีรอบเดือน และซีสต์ที่ว่าก็จะฝ่อไปเอง เธอช่างโง่นักที่ปล่อยให้มารดาหลอกเอาอย่างหน้าซื่อตาใส ก็ใครจะไปรู้เล่าว่ามารดาวางแผนดิบดีขนาดนี้ ดีไม่ดีหมอที่แจ้งอาการของเธอ คงเป็นคนของมารดาด้วยกระมัง
นางวรรณิภาพยักหน้ายอม
[13]แตกหัก___________บ้านวรรณรัตน์เป็นเวลาสักพักใหญ่ๆ แล้วที่เวนิสาไม่ได้กลับมาบ้านตัวเอง บ้านหลังใหญ่ยังตั้งตระหง่านท่ามกลางแสงสว่างของดวงไฟ คนรถของมารดาพารถจอดเทียบบันไดหน้าบ้าน เธอลงรถมาด้วยหัวใจหนักอึ้งราวกับแบกบ้านเอาไว้ทั้งหลัง“วี...แม่ขอโทษ แม่ผิดไปแล้ว อย่าโกรธแม่เลยนะวี”เสียงของมารดาดังอยู่ข้างตัว เวนิสามองนางด้วยหางตา ไม่มีคำด่า ไม่มีคำว่าให้ท่านต้องปวดใจ มีแต่น้ำตาเจ้ากรรมที่มันถึงเวลาร่วงริน“เอกสาร...ที่เคยเอาให้หนูดู ของปลอมหรือคะ” ถามถึงเอกสารแจ้งอาการป่วยของเธอที่ทางโรงพยาบาลออกให้ ในนั้นบอกว่าเธอมีซีสต์ที่อาจกลายเป็นมะเร็งในอนาคต ต้องผ่าออก หรือไม่ก็ควรมีลูก เพราะซีสต์จะกินเลือดจากรอบเดือนเพื่อความอยู่รอด หากเธอตั้งท้องก็จะไม่มีรอบเดือน และซีสต์ที่ว่าก็จะฝ่อไปเอง เธอช่างโง่นักที่ปล่อยให้มารดาหลอกเอาอย่างหน้าซื่อตาใส ก็ใครจะไปรู้เล่าว่ามารดาวางแผนดิบดีขนาดนี้ ดีไม่ดีหมอที่แจ้งอาการของเธอ คงเป็นคนของมารดาด้วยกระมังนางวรรณิภาพยักหน้ายอม
“แล้วสองคนนั้นเป็นยังไงบ้างคะ ยัยวีมีท่าทางว่าจะท้องบ้างไหม”“ยังเลยคุณวรรณ แต่เริ่มเข้ากันได้ดีแล้ว หนูวีเองก็ดูสดใสมากกว่าแต่ก่อน อีกไม่นานเราคงได้หลานสมหวังแน่ๆ หึๆๆ”“ขอให้จริงเถอะนะคะ ฉันน่ะ เจอเรื่องวุ่นวายใจมาเยอะ ถ้าได้เห็นหน้าหลานคงชื่นใจ โอย...อยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆ จังเลย”น้ำตาของเวนิสาหล่นร่วงราวฝนห่าใหญ่ นี่เธอ...ไม่ได้ป่วยหรอกหรือ!? แล้วเรื่องซีสต์ที่เป็นล่ะ เรื่องเอกสารจากโรงพยาบาลที่มารดาเอามายืนยันล่ะ มันหมายความว่าอย่างไร!ความคิดของเวนิสาตีวนอยู่ในสมองน้อยๆ ยิ่งกว่าความโกรธเคืองคือความเสียใจ พายุแห่งความผิดหวังกำลังถาโถมเข้ามาในอกเธอ อัดแน่นอยู่ในนั้นราวกับหมอนใบเท่าฝ่ามือที่ถูกยัดนุ่นใส่จนใหญ่บอลลูน แต่ความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลนั้นไม่อาจแสดงออกมา มันเจ็บจนจุก เจ็บแน่นอยู่แต่ข้างใน ศศินเดินเฉียดร่างเธอเข้าไปในห้องรับแขก ไอร้อนที่แผ่จากร่างเขาเหมือนพร้อมจะเผาทุกสิ่งที่อยู่ในนั้น เสียงพูดคุยกันยุติลงในนาทีที่เขาเดินเข้าไป ความเงียบงั้นดังกระหึ่มขึ้นราวกลองศึกที่ถูกตีด้วยขนนก เธอเดินตามเขาไปเหมือนโดนยาสั
“เดี๋ยวค่ะ บอสจะไปไหนคะ” ถามเขาหน้าตาตื่น อะไรของเขากันล่ะ มาจูบเธอ กอดเธอ แล้วจะหนีไปดื้อๆ อย่างนี้เนี่ยนะ“ขอโทษนะครับคุณตะวัน ขอโทษจริงๆ” เอ่ยขอโทษขอโพยแล้วรีบกลับมายังห้องโถงกลางบ้าน เจอเวนิสาวิ่งลงมาจากชั้นสองพร้อมกับประเป๋าถือของหล่อนพอดี มีเพื่อนของเจ้าหล่อนอีกคนเพิ่งเดินออกมาจากห้องของตัวเองที่ชั้นล่าง“อะไรกันยัยวี วิ่งตึงตังเชียว”เจ๊หวานท้วง แต่เวนิสาไม่ตอบ พยายามอย่างยิ่งในการอดกลั้นหยดน้ำตา“วี! เธอจะไปไหน คุยกันก่อน ขอร้อง...” ศศินอยากจะบ้าตาย อยากให้เวนิสาโวยวายให้รู้แล้วรู้รอด ทุกคนจะได้รู้ความจริงกันไปเลย“อย่าทำแบบนี้สิคะ” บอกเขาเสียงเรียบเย็นแต่ดวงตาเอ่อนองหยดน้ำตา แล้วในที่สุดมันก็ไหลออกมา“เธอนั่นแหละจะหนีไปไหน” เขาถามเสียงร้อนรนเจ๊หวานเริ่มหนักอกหนักใจในสถานการณ์ ส่วนรวีกานต์ยังมึนงงด้วยไม่รู้เรื่องด้วย“เปล่าหนีค่ะ เอ่อ...ฉันจะแวะไปหาแม่หน่อย เดี๋ยวมานะ พวกแกกินกันไปก่อน” หันไปบอกแล้วปาดน้ำตาเร็วๆรวีกานต์ใจคอไม่ดี
“อ่าครับ ผมอยู่หน้าปากซอยแล้วนะ” ปลายสายบอก เขามาตามที่อยู่ที่รวีกานต์บอกไว้ให้แช็ตไลน์ส่วนตัว“อ้อ...บอสขับตรงเข้ามาเลยค่า ถ้าเจอบ้านแล้วก็เปิดรั้วเข้ามาเลย ไม่ได้ล็อกค่ะ เข้ามานั่งรอข้างล่างได้เลยนะคะ เพื่อนฉันก็อยู่ ฉันแต่งตัวยังไม่เสร็จเลยค่า” รวีกานต์เอ่ยเล็กเสียงน่ารักด้วยอยากให้เขาเห็นใจ ความสวยของเธอต้องเป็นหนึ่งในวันนี้“ตามสบายเลยครับ งั้นถ้าถึงแล้วผมขอเข้าไปรอในบ้านนะ ข้างนอกนี่แดดยังร้อนอยู่เลย”“ค่า ตามสบายเลยนะคะ จะลงไปในห้านาทีค่า” บอกคนปลายสายแล้วยิ้มหวาน บอสกำลังจะมาแล้วนะ อา...ตื่นเต้นจัง“เลิกทำหน้าเคลิ้มฝันแล้วชิมพันซ์ให้ที ถ้าเมรีขี้เมาอย่างหล่อนไม่ชิม มันคงไม่ผ่าน”“แหม...เจ๊ก็ เห็นฉันเป็นพวกขี้เหล้าเมายาไปได้”“แล้วไม่จริงเหรอ ในบ้านนี้หล่อนดื่มเก่งที่สุดแล้ว เอาไป!”หวืด!เจ๊หวานยื่นแก้วให้รวีกานต์ แต่ยื่นแรงไปนิด สาวเจ้ารับไม่ทัน ตำแหน่งของแก้วเลยไม่ได้สมดุลกับอุ้งมือ น้ำพันซ์สีสวยเลยหกใส่ชุดสีขาวของรวีกานต์เกือบครึ่งแก้
“เจ๊! มาผสมน้ำพันซ์ให้หน่อย ใกล้จะหกโมงแล้ว เดี๋ยวไม่ทัน”เวนิสาร้องบอกจากครัวเล็กในตัวบ้าน จัดการเอาเค้กที่เตรียมไว้ออกมาวางบนถาดแล้วปักเทียนให้เรียบร้อย เธอยังต้องทำซอสราดสเต๊ก กะว่าจะทำให้เสร็จก่อนศศินมาเจ๊หวานเดินบิดสะโพกเข้ามาในส่วนของห้องครัว แลหาเหล้าบนชั้นวางแล้วเอาลงมาเปิด เจ๊เทส่วนผสมลงในอ่างแก้วใบใหญ่ตามที่เวนิสาบอก“แล้วยัยเจ้าของวันเกิดมันคิดจะลงมาช่วยไหมเนี่ย”เจ๊คนสวยเริ่มงอน ด้วยว่าตัวเองกับเวนิสาง่วนอยู่กับการจัดโต๊ะเก้าอี้ทั้งเตรียมอาหารมาตั้งแต่หลังมื้อเที่ยงแล้ว แต่รวีกานต์ยังเอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องทั้งวัน“ช่างเถอะเจ๊ เราทำกันสองคนก็ได้ วันนี้วันเกิดนาง ให้นางแต่งสวยไปเถอะค่า” ว่าแล้วยิ้มหวาน วงหน้างามมันแผล็บเพราะอยู่ในครัวมาหลายชั่วโมง วันนี้มีสเต๊กเนื้อแกะของโปรดรวีกานต์เป็นนางเอก อย่างอื่นที่ทำเพิ่มก็พร้อมแล้ว คิดว่าน่าจะพอรับประทานสำหรับสี่คน เธอคิดว่าอีกสักครึ่งชั่วโมงค่อยไปอาบน้ำแต่งตัว ตอนนั้นศศินคงมาถึงพอดี“แล้วหล่อนเป็นไงบ้างยะ สบายดีไหม ไม่ค่อยได้เจอกันเลย&rdquo
ในตอนนี้ แม้ยังไม่รู้ว่าเวนิสาคิดกับเขาอย่างไร แต่หัวใจของเขา เหมือนจะกลายเป็นของหล่อนไปแล้ว มันไม่ค่อยคิดถึงตัวเองเลย คอยแต่จะคิดถึงเวนิสา คิดถึงใบหน้างามกับดวงตาแสนเศร้าคู่นั้นที่พยายามถามไถ่ความรู้สึกของหล่อนในเรื่องเขากับรวีกานต์ นั่นเพราะอยากมั่นใจว่าเวนิสามีใจให้เขาบ้าง มิใช่เห็นเขาเป็นเพียงพ่อพันธ์ที่มีไว้ปั๊มลูก แต่จนแล้วจนรอด แม่ตัวแสบก็บ่ายเบี่ยงเลี่ยงหลบ ไม่ยอมบอกให้เขารู้สักที“ถ้าเธอไม่พูดออกมา แล้วฉันจะรู้ได้ยังไง ฉันคงเป็นผู้ชายโง่ๆ ที่อยากได้ยินคำว่ารักจากคนที่ฉันรัก เธอ...พูดมันออกมาได้ไหมเวนิสา เพราะฉัน...ก็อยากพูดคำนั้นเหมือนกัน” พูดเองเออเองกับของสองสิ่งในกล่องสวย ก่อนจะดันมันลงในลิ้นชักเล่นเดิม “อยู่ในนี้ไปก่อนแล้วกันนะ” เอ่ยแล้วยิ้มบางๆ ได้ยินเสียงเปิดประตูห้องแต่งตัวออกมา เขารีบล็อกลิ้นชักนั้นด้วยกุญแจที่มีเวนิสามองศศินแปลกๆ เหมือนว่ามีแววอ่อนหวานรายล้อมรอบกายเขา ดวงตาคู่นั้นดูอ่อนโยนน่าจดจ้อง และมันยิ่งน่ามอง ยามเมื่อเขาชี้ไปยังกล่องกระดาษใบใหญ่ที่วางอยู่ปลายเตียง เธอเดินไปหามัน เปิดฝากล่องขึ้น แล้วดวงตา