“ขอโทษนะคะ ที่ทำให้ลำบาก” คนสวยแต่โทรมเอ่ยขึ้นยืนนิ่งไม่ไหวติง เขาจ้องเธอนิ่งนาน เธอคงโทรมจนน่าตกใจ หรือไม่ก็ เขาคงระอากับตัวภาระอย่างเธอ
หัวใจของศศินเต้นผิดจังหวะยามได้ยินเสียงอ่อนแรงของเวนิสา หล่อนดูน่าสงสาร น่าทะนุถนอม แต่ว่า...เขาคงถนอมหล่อนไม่ลง เพราะสำหรับเขานั้น เวนิสาคือตัวปัญหาดีๆ นี่เอง
ชายหนุ่มหันกลับไปนอนบนเตียง ตั้งใจว่าคราวนี้จะหลับลึกไม่ลุกขึ้นมาอีก แต่ความตั้งใจของเขาก็มีอันต้องพังยับ
ตุ้บ!
“โอ๊ย! ก้นฉัน!!”
“นี่!? ฉันจะนอน!”
ศศินดิ้นพล่านเตะลมอากาศอย่างขุ่นเคือง นี่แค่คืนแรกนะ ชีวิตเขาคงไร้ความสงบไปอีกสองเดือนกับยี่สิบเก้าวันใช่ไหม!
“ฮือ...พี่ขา ฉันตกเก้าอี้...”
คนสวยส่งเสียงร้องฮือๆ อย่างน่ารำคาญ มือข้างหนึ่งลูบบั้นท้ายป้อยๆ บอกแล้วว่าการนอนบนอะไรที่เล็กกว่าเตียง เป็นการท้าทายความสามารถของเธอ และในที่สุด เธอก็พ่ายแพ้
บิ๊กบอสแห่งศิวเศขรเม้มปากแน่นๆ มองไปที่เวนิสาอย่างข่มใจมิให้ร้องด่าหล่อน ก่อนฝืนใจกวักมือเรียก
“คะ?”
“จนได้นะ เธอน่ะ ทำมันสำเร็จละ มาเร็วสิ! มานอนนี่!”
เขาชี้ลงตรงอีกฝั่งของฟูกนอน เวนิสายิ้มปากจะฉีกถึงรูหู รีบลากสังขารไปโดดขึ้นเตียงของศศินอย่างไม่มีอิดออด ไม่มีเคอะเขิน ช่างเป็นกุลสตรีที่ระริกระรี้ยามได้ปีนขึ้นเตียงผู้ชาย
“ขอบคุณนะคะพี่”
ชายหนุ่มหันหลังให้ในทันที แถมยังเอาหมอนข้างมาวางกั้นกลางอีกต่างหาก
“แบ่งเขตกัน ถ้าเธอล้ำเส้นมา ฉันจะอุ้มไปโยนทิ้งในห้องน้ำ”
เวนิสาไม่หือไม่อือ นอนอย่างสงบเสงี่ยมราวกับหุ่นยนต์ กลายเป็นศศินที่รู้สึกอึดอัดจนต้องพลิกกายนอนหงาย
“ถ้านอนนิ่งเป็นกุลสตรีอย่างนี้ทำไมถึงตกเก้าอี้ได้ล่ะ”
“ฉันกำลังฝืนตัวเองอยู่ค่ะ”
“หือ?”
“ปกติฉันนอนดิ้น แต่ว่าวันนี้วันแดงเดือด ถ้าดิ้นบนนี้ เกรงว่าที่นอนพี่มันจะแบบว่า...เลอะเทอะ”
“โอ้ว...รุนแรงมากไหม” ถามพลางทำหน้าขยาด
“ก็...อาจเรียกได้ว่า มีการเกิดเหตุฆาตกรรม”
เวนิสาอธิบายขำๆ ศศินอยากจะร้องไห้
“นอนดีๆ นะ อย่าให้เลอะล่ะ ฉันฆ่าเธอจริงๆ ฉันรักความสะอาดมาก!”
“ค่าๆๆ นอนๆๆ”
ไม่รับคำเปล่าๆ แต่เอื้อมมือมาตบอกศศินสองสามที อีกฝ่ายก็ตาเบิกโต
“นี่! ทำอะไร เอามือออกไปเลยนะ!”
“แฮ่ๆ ขอโทษค่า ลืมตัว ฝันดีนะคะพี่ขา...”
ศศินทำหน้าบอกบุญไม่รับ พลิกกายแรงๆ หนีเวนิสาจนฟูกนอนสะเทือน
“พี่...พลิกตัวแรงขนาดนั้นเดี๋ยวเกิดเหตุฆาตกรรมนะคะ”
“โอ...เธอนี่จริงๆ เลย หุบปากแล้วนอนซะ!”
เวนิสาอมยิ้มในแสงสลัว นอนนิ่งๆ ไม่กล้าแม้แต่ขยับกาย รอบเดือนที่มามากในสามวันแรก เป็นอะไรที่รุนแรงที่สุด
เธอตั้งชื่อมันว่า การเกิดเหตุฆาตกรรม เพราะมีการสูญเสียเลือดสูงมาก ระดับชุ่มโชกเลย
_____________
อรุณรุ่งวันใหม่
เวนิสาตื่นมาอย่างเพลียๆ แสงตะวันแยงตาจนต้องลืมตาตื่น ศศินเดินออกมาจากห้องแต่งตัวพอดี เขาพาดสูทไว้กับเก้าอี้ตัวที่เธอตกจากมันเมื่อคืนนี้ มีเนกไทเส้นยาวคล้องคออยู่ ดูเหมือนเขากำลังรีบ
“โอ้ว!? ไม่นะ!”
“อะไรของเธออีก ตื่นมาก็เป็นเรื่อง”
คนถูกว่าทำหน้ามุ่ย นอนมองเพดานอย่างเคืองๆ ศศินเหล่มองหน่อยหนึ่ง
“พี่คะ ฉันขยับตัวไม่ได้ มันเต็มที่แล้ว”
“อะไรของเธอ” เขาชักงง
“ถ้าฉันขยับหรือไอแค่กๆ สักทีละก็ เตียงของพี่คงได้ชุ่มไปด้วยเลือด ประหนึ่งเกิดเหตุฆาตกรรมจริงๆ” เธออธิบาย ศศินอ้าปากค้าง
“แล้วฉันต้องทำยังไง!”
คนสวยทำตาปริบๆ ยิ้มเจ้าเล่ห์มีจริตเล็กน้อย ก่อนจะยกแขนอ้าค้าง
“อุ้มหน่อยสิคะ อุ้มไปส่งที่ห้องน้ำ”
“ฝันไปเถอะ” เขาว่าพลางยกมือเท้าสะเอว ขยับเข้าไปมองแม่คนเรื่องมากอย่างรำคาญอกรำคาญใจ
“เร็วๆ น่า พี่คงไม่อยากให้เกิดเหตุฆาตกรรมบนเตียงใช่ไหม โอ๊ยพี่! มันมาแล้ว พี่ขา...ปริ่มแล้ว! จะทะลักแล้ว!”
หมับ!
ศศินช้อนร่างบางขึ้นสู่วงแขน ตัวอุ่นๆ ของเวนิสาชวนให้ใจเขาเต้นผิดจังหวะ
ปึก! ปึก!
กำปั้นน้อยทุบลงที่อกแกร่ง เวนิสาหน้ายุ่งอ้าปากค้าง หลับตาปี๋
“ฉันบอกให้เบาๆ ไงเล่า เร็วเลย รีบเลย!”
คนถูกสั่งเม้มปากแน่นๆ ระงับความขุ่นเคือง อุ้มเวนิสาไปยังห้องน้ำแล้ววางหล่อนลงแรงๆ
“วางเบาๆ ก็ไม่ได้!”
คนสวยแต่โทรมโอดครวญ ยืนเคารพธงชาติตรงดิกอยู่ในห้องน้ำ มีศศินมองมาตาเขียวปัด
“เยอะจริงๆ เกิดมาไม่เคยเจอใครเรื่องเยอะขนาดนี้มาก่อน”
“ก็พี่แกล้งฉันนี่! อ๊ายยย!!!” กรีดร้องก้องอกแล้วก้มมองที่ขาเรียวๆ มีหยาดโลหิตค่อยๆ ไหลลงมาตามท่อนขาของเธอ
“เฮ้ย! ตายแล้ว ละ...เลือด! เธอจะตายไหม!”
ปัง!
ตอนพิเศษจูบนี้คือสัญญา__________ห้าปีผ่านไปไวเหมือนนิยาย หน้าร้อนปีนี้เวนิสาพาครอบครัวและเพื่อนรักมาพักผ่อนหย่อนใจที่เกาะชื่อดังทางภาคใต้ ด้วยพุงป่องๆ ของการตั้งครรภ์เข้าเดือนที่ห้าของเธอ ทำให้ศศินไม่อนุญาตให้นั่งเครื่องออกนอกประเทศ ทริปวันหยุดสุดหรรษาเลยตกลงปลงใจที่เกาะแห่งหนึ่งในไทยนี่เอง ในยามนี้ปลายภูและรวีกานต์ คงกำลังรำลึกความหลังเมื่อครั้งแต่งงานกันใหม่ๆ คงพากันเดินจูงมือดื่มด่ำคลื่นลมที่ชายทะเล ส่วนเจ๊หวานอาสาดูแลเด็กๆ ให้ ช่างเป็นทริปที่สุขีเกินจะกล่าวจริงๆ“อืม...ถอดหน่อยๆ ไม่ไหวแล้ว...”เวนิสาอ้อนพ่อของลูกอยู่ที่บาร์เครื่องดื่ม ศศินในชุดที่นุ่งเพียงกางเกงขาสั้น สวมเสื้อลายดอกไม่ติดกระดุม อวดแผงอกล่ำๆ ยั่วใจศรีภรรยา เขายังพยายามบ่ายเบี่ยงด้วยว่าตอนนี้เพิ่งเที่ยงเท่านั้น“ไม่เอา เดี๋ยวชาวบ้านเห็น ไปดูลูกก่อนดีกว่านะคะคนดี” ศศินอ้อนเมีย พยายามดึงมือที่กำลังลูบไล้แผงอกเขา ขนาดท้องอยู่ยังหื่นได้ใจนะแม่ตัวแสบ“ไม่เอา พี่อ่า...เมื่อคืนน้องจูนก็งอแง น้
ในค่ำคืนที่ถูกปกคลุมด้วยหมอกน้ำค้าง แลเห็นดวงดาราน้อยใหญ่ประปราย ณ ที่ตรงนั้นท่ามกลางหมอกหนาและดาราพร่างพราว พระจันทร์ดวงใหญ่กำลังอวดโฉมสีเหลืองนวลตาเวนิสากับกลุ่มเพื่อนนั่งสังสรรค์กันอยู่ บนระเบียงดูดาวเหนือหลังคาเรือนพัก พวกเขาปูเสื่อลงนั่ง มีผ้าห่มคนละผืน มีเครื่องดื่มวางตรงหน้าทั้งขนมขบเคี้ยวมากมาย เสียงหัวเราะและรอยยิ้มแห่งความสุขกระจ่างอยู่บนใบหน้าของทุกคน ตั้งแต่หัวค่ำกระทั่งค่อนคืนเมื่อเบียร์มากกว่าหนึ่งโหลถูกเทใส่กระเพาะน้อย ไม่นานหลังจากนั้นเจ๊หวานก็สลบเหมือด รวีกานต์กับปลายภูอาสาพยุงร่างหมีของเจ๊ลงไปส่งที่ห้องพัก แน่นอนว่าเพื่อนสาวของเวนิสาไม่ได้ขึ้นมาที่ระเบียงดูดาวอีก ตอนนี้จึงเหลือเพียงแม่ดาวพระศุกร์คนงามกับพ่อพระจันทร์ดวงโต“อืม...ทีนี้ก็ไม่มีก้างขวางคอแล้วเนาะ”ศศินว่าแล้วขยับไปหาเวนิสา พาร่างหล่อนนอนลง ใช้ผ้าห่มของตัวเองห่มทับทั้งสองร่างอีกชั้นหนึ่ง เขามองขึ้นไปบนฟ้า ท่ามกลางหมอกหนายังแลเห็นดาวพระศุกร์ขึ้นเคียงข้างดวงจันทร์ เขาเผยรอยยิ้มละไม“พี่ยิ้มอะไรคะ”“ฉันน่ะ...เหมือนคนโง่แ
เจ๊หวานพยักหน้าเข้าใจ หากเปรียบผู้ชายเป็นของกินได้ ก็แสดงว่าผ่าน เพราะคนเราก็ยังต้องกินเพื่อความอยู่รอด อย่างน้อยรวีกานต์ก็ไม่ต้องทนง่วงอีกต่อไป เพราะมีม็อคค่าปั่นให้ซดทั้งคืน!“แล้วหล่อนละยะแม่ดาวพระศุกร์ ผู้ชายของหล่อนเป็นยังไง”เวนิสาถอนหายใจเฮือกๆ ศศินนั่นหรือ ยังไงดีล่ะ“ก็ดี...พอมองย้อนกลับไป ก็จำได้ว่าเวลาลำบาก เขาก็คอยดูแล คอยปลอบโยน คอยให้กำลังใจ คอยเป็นเพื่อนคู่คิด แม้ว่าความเจ้าอารมณ์ของเขาจะทำให้ฉันอยากจับเขาลงทอดในกระทะก็เถอะ เขาน่ะ ปากร้ายแต่ใจดี บางครั้งการกระทำกับคำพูดก็สวนทาง เรื่องนี้ฉันต้องทำใจให้ชิน”“แล้วไงยะ ก็โอเคในเรื่องนั้น แล้วเรื่องแซ่บล่ะ แซ่บมะ” เจ๊หวานยิ้มหื่นๆวนิสาหรี่ตามอง นึกว่าเธอจะไม่กล้าตอบหรือ เธอไม่ใช่แม่แสงตะวันผู้เหนียมอายนะ“แซ่บเว่อร์ค่าเจ๊! ฮ่าๆๆๆ”“อ๊ายยย!!!”เจ๊ร้องระงมเพราะถูกใจ เหล่าคนงานและสองหนุ่มเมืองกรุงฯ หันมามองทางพวกเธอ ปลายภูโบกมือใส่รวีกานต์ ส่งยิ้มหวานให้กันอย่างข้าวใหม่ปลามันที่แรกรักน้ำต้มผักยังหวานอยู่ ส่วนศศ
เวนิสาหรี่ตามอง ริมฝีปากเหยียดเป็นเส้นตรง “มาปิดให้ไว!”“คร้าบ! ปิดเดี๋ยวนี้คร้าบ!” ศศินจำต้องเดินรอบเตียงเพื่อมาปิดโคมไฟให้แม่ของลูก เอาเถิด จัดมาเสียให้พอ ให้ต้องโดนเมิน ต้องโดนจิกหัวหรือต้องเป็นทาสก็จัดมา สักวันเมื่อเวนิสาเริ่มเบื่อ หล่อนคงกลับมาเป็นแม่ดาวพระศุกร์ผู้น่ารักของเขาเหมือนเดิมกระมัง_________พระอาทิตย์ดวงใหญ่โผล่ขึ้นทางทิศตะวันออก เหนือยอดเขา มันเริ่มโผล่ขึ้นมาทีละนิดๆ ราวกับพู่กันอันใหญ่ที่จุ่มสีส้มแดงคอยแต้มแต่งเวิ้งฟ้ารวีกานต์จ้องมันไม่วางตา หมอกน้ำค้างเหนือชายคายังคงแรงอยู่ แต่มิอาจขัดขวางความตั้งใจ รอบๆ เรือนไม้ของปลายภูโอบล้อมด้วยต้นกาแฟเขียวชอุ่ม มันกินพื้นที่ทั่วทั้งหุบเขา ไม่ต้องบอกว่ามีมูลค่าทางการตลาดมากเท่าใด เธอไม่อยากคาดคิดเพราะอาจทำให้ตัวเองจุกความสุขตาย ในที่สุดฝันของเธอก็เป็นจริงสินะ ฝันว่าสักวันจะได้กลายเป็นซิลเดอเรลล่าของเจ้าชายรูปงามความรักที่เธอมีให้ปลายภูนั้น แม้ไม่ได้ถึงขั้นคลั่งไคล้หลงใหล แต่มันคือรักซึมลึกที่เธอเองยังไม่รู้ตัว ไม่ได้หวือหวา แต่แอบผลิดอกงอกงามในจิตใจ คว
[21]คำสัญญาจากพระจันทร์______________ไร่กาแฟ ณ ปลายภู สัปดาห์ถัดมาเรือนไม้หลังงามผุดขึ้นท่ามกลางขุนเขาที่โอบล้อมด้วยต้นกาแฟ เส้นทางลดเลี้ยวยิ่งกว่ารถไฟเหาะตีลังกา ทำให้สองสาวเมารถมากกว่าจะได้ชื่นชมธรรมชาติ กว่าจะนั่งรถขึ้นมาถึงบนนี้ได้ ว่าที่คุณแม่ทั้งสองก็จอดรถอาเจียนไปหลายรอบ รวีกานต์ถึงกับหมดแรงนั่งซบอกพ่อเด็กน้อย ในขณะที่เวนิสานั่งหน้าบูดอยู่เบาะข้างหลังบนรถตู้คันหรู ส่วนเจ๊หวานจ้อเจรจาอยู่ด้านหน้ากับคนขับรถวัยขบเผาะหุ่นล่ำหน้าโหด ที่ถูกใจนางเสียเหลือเกิน“ใกล้ถึงแล้วครับ ตะวันไหวไหม”รวีกานต์ส่ายหน้า ปลดเข็มขัดนิรภัยออกเพื่อจะได้กอดปลายภูดีๆ เธอซุกหน้าเข้าหาอกเขาราวลูกแมวตัวน้อยที่ต้องการไออุ่นจากเจ้าของ ปลายภูยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ชอบใจนักเวนิสามองเพื่อนรักกับปลายภูผ่านทางช่องว่างระหว่างเบาะนั่ง ได้แต่เบะปากใส่เพราะหมั่นไส้“นี่! แกจะอ้อนเด็กเพื่อ!?”“เรื่องของฉันน่า นั่งเงียบๆ ไปเลย คนจะสวีตกัน เนาะภูเนาะ”รวีกานต์ยิ้มหวานอย
“แล้วเธอมาทำไม!” น้ำเสียงที่ใช้ไม่ค่อยพอใจนัก จากแค่ประหม่ามึนงง ก็เริ่มมีอารมณ์โกรธเข้ามาปะปน เวนิสากำลังป่วนประสาทเขาอีกแล้วใช่ไหม“มาทำธุรกิจ”“หือ?”คนสวยยิ้มแป้น ก่อนจะอธิบาย“เรามาทำธุรกิจกัน เพื่อความสะดวกในการใช้ชีวิต”“ยังไง”“ง่ายๆ เลย เราก็แค่ทำให้คนรอบข้างเรา เช่นพ่อแม่ พี่น้องเพื่อนฝูง เข้าใจว่าเราสองคนตกลงกันได้เรียบร้อย พี่ก็รู้นี่ ตอนนี้แม่ถามยิกๆ ว่าเมื่อไหร่ฉันจะแต่งงานกับพี่ เมื่อเช้าพ่อพี่ก็โทรมา เพื่อนฉันขู่จะคว่ำบาตรถ้าไม่คืนดีกับพี่ ฉันเลยคิดว่า เพื่อความสบายใจของคนที่รักเราทุกๆ คน ฉันควรเสียสละความไม่สะดวกน้อยนิดแล้วร่วมมือกับพี่น่ะ”“ร่วมมืออะไร ไม่เห็นเข้าใจ” ศศินชักงง“เฮ้ย...พี่นี่โง่ปะเนี่ย พูดไปตั้งเยอะไม่เข้าใจได้ยังไง”“นี่ด่าฉันเหรอ!”“อย่ามาขึ้นเสียงใส่ฉันนะ!” ตะคอกมาตะคอกกลับ เวนิสาไม่โกงศศินหุบปากฉับ“เอาแบบนี้แหละ พี่เข้าใจแล้วนะ บอกพ่อพี่