LOGINเขาเป็นเหมือนสายลมพลิ้วอ่อนที่พัดผ่านมาให้ 'กล้วยไม้น้อย' อย่างเธอรู้สึกเย็นสบาย ทว่าสายลมนั้นกลับก่อตัวขึ้นเป็นมรสุมร้าย เพียงเพราะคิดว่าเธอคือชู้ของแฟนน้องสาวเขา
View Moreสองเดือนก่อน
ภายในรีสอร์ตหรูใกล้ทะเล ปลายฝน อัครินทร์เดชา สาวสายวัยยี่สิบห้าปีผู้เป็นทายาทคนที่สามของตระกูล เธออยู่ในชุดจั๊มสูทสีครีมและกำลังเดินไปยังเบื้องหน้าอย่างวิตก โดยมีเพื่อนสนิทอย่าง พัทริน เดินตามหลังมา เสียงรองเท้ากระทบกับพื้นดังขึ้นอย่างถี่รัว บ่งบอกถึงความร้อนรนของผู้สวมใส่ที่สงสัยว่ามีคนรักพาชู้มานอนด้วย เวลาในตอนนี้คือสามทุ่ม นายพงษ์ ชายวัยสี่สิบผู้ทำหน้าที่ดูแลรีสอร์ตให้เจ้านายในช่วงกลางคืน ไม่อาจปล่อยให้คนนอกบุกเข้าไปรบกวนลูกค้าได้ จึงพยายามเอ่ยปากห้ามอยู่เรื่อยๆ แต่ก็ทำได้แค่ห้ามเพราะไม่กล้าแตะเนื้อต้องตัว ก่อนที่ผู้มาเยือนจะเดินไปถึงบ้านน็อกดาวน์หลังสุดท้าย นายพงษ์จึงทำใจกล้าขวางทางไว้อีกครั้ง ถึงแม้จะรู้แล้วว่าอีกฝ่ายต้องการมาหาแฟนที่ชื่อภาวิน แต่เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ทะเลาะเบาะแว้งกันจึงจำเป็นต้องรอให้เจ้านายสาวมาถึงก่อน เพื่อเจรจากันดีๆ “ให้หนูเข้าไปเถอะค่ะ” “เอ่อ… แต่ว่า… ลูกค้าสั่งไว้ว่าห้ามไม่ให้ใครเข้าไปรบกวนนะครับ รอให้เจ้านายผมมาก่อนดีกว่า แล้วค่อยคุยกันอีกทีว่าจะเอายังไง” คนที่ชายวัยสี่สิบกล่าวถึงก็คือ รดา เขมรักษ์ หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของรีสอร์ตแห่งนี้ เจ้าตัวพักอยู่ในบ้านสองชั้นตรงทางข้าง ซึ่งโทรบอกกันแล้วเมื่อครู่ แต่กว่าจะเดินมาถึงก็ต้องใช้เวลา “พี่วินสั่งห้ามไม่ให้ใครเข้าไปรบกวนงั้นเหรอ” ปลายฝนพึมพำเสียงเบา เธอรู้สึกจุกในอกอยู่ไม่น้อยเพราะแฟนหนุ่มที่อายุมากกว่าสองปีทำให้คิดมาก จากที่ไม่เชื่อว่าเขาจะแอบมานอนกับชู้ ก็เริ่มจะเชื่อแล้วว่ามันเป็นเรื่องจริง “รออีกนิดนะครับ” นายพงษ์ย้ำอีกเพื่อให้อีกฝ่ายใจเย็นลง “ฝน พัท” เสียงของรดาดังขึ้นอยู่ไม่ไกล ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินมาดูด้วยสีหน้าตื่นตระหนก และตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นเพื่อนที่รู้จักกันมานานน้ำตาคลอ เธอจึงส่งสายตาบอกนายพงษ์เป็นเชิงว่าให้ถอยออกไปก่อน “ดา นี่คือรีสอร์ตของแกใช่ไหม” “ใช่ เพิ่งเปิดได้ไม่ถึงปีเอง ขอโทษนะที่ไม่ได้บอก แล้วแกกับยัยพัทมาที่นี่ได้ยังไง มาหาใคร” รดาถามกลับ “ฉันมาหาพี่วิน” ปลายฝนตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ซึ่งเพื่อนคนนี้ก็รู้จักภาวินพอๆ กับที่เธอรู้จัก เพราะเคยเรียนที่เดียวกันมาก่อน ถ้าเขามาที่นี่ แน่นอนว่าต้องเห็น “เขาพักอยู่ที่นี่เหรอ ฉันเพิ่งขับรถมาถึงเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วเอง เลยไม่รู้ว่าวันนี้มีใครมาพักบ้าง ว่าแต่… มีเรื่องอะไรกัน?” “มีคนชวนเขามา ก่อนหน้านี้เราทะเลาะกันเรื่องที่เขาเริ่มทำตัวเหินห่าง แล้วเพื่อนของเขาที่ไม่ประสงค์ออกนามก็แช็ตมาบอกว่าเขากำลังคุยกับอีกคน มีหลักฐานในโทรศัพท์ เมื่อวานฉันเลยถือวิสาสะเปิดดูโทรศัพท์เครื่องนั้น ถึงได้รู้ว่าเขานอกใจฉันจริงๆ แล้วผู้หญิงคนนั้นก็คือน้องสาวของแก” “ฮะ? แน่ใจเหรอ แกรู้จักน้องฉันด้วยเหรอ” รดาถามอย่างงุนงงเพราะไม่เคยแนะนำน้องสาวให้เพื่อนรู้จักเลย ซึ่งคนที่ถูกกล่าวถึงก็คือน้องสาวต่างแม่ของเธอเอง ชื่อเอื้องฟ้า แต่แม่ของเธอไม่ชอบหน้าเท่าไร เหตุเพราะเด็กคนนี้เกิดจากเมียน้อย ได้ยินว่าพ่อแอบนอกใจแม่จนเป็นเหตุให้มีลูกกับผู้หญิงคนนั้น แต่นางก็มาเสียชีวิตเพราะถูกรถชนตอนที่เอื้องฟ้าอายุแค่สามขวบ ท่านจึงฝากให้แม่ยายดูแลเรื่อยมาโดยแอบส่งเงินให้ประจำ ทว่าความก็มาแตกตอนที่ผู้เป็นยายของเด็กเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว พ่อจึงจำเป็นต้องรับลูกอีกคนที่ตอนนั้นอายุเก้าขวบมาอยู่ด้วย เป็นเหตุให้แม่ของเธอไม่พอใจ จนถึงขั้นสั่งไม่ให้ลูกเมียน้อยเข้าไปป้วนเปี้ยนในบ้านหลังใหญ่ที่ใช้เงินของนางสร้างขึ้นมา คนเป็นพ่อไม่อยากมีปัญหากับเมียหลวง จึงให้ลูกไปอยู่ในบ้านหลังเล็กที่ติดกัน ซึ่งเป็นบ้านที่ปล่อยให้คนนอกมาเช่า โดยให้แม่บ้านไปนอนเป็นเพื่อนและช่วยเลี้ยงดูในยามที่ตนไม่อยู่ ทว่าปัจจุบันพ่อกับแม่ของเธอหย่ากันแล้ว เหตุเพราะทะเลาะกันเรื่องเงินซึ่งเป็นปัญหาคาราคาซังมานาน ท่านทั้งสองจึงตัดสินใจแยกทางกันเมื่อสองปีก่อน คนน้องออกไปเช่าบ้านอยู่กับพ่อ ส่วนคนพี่อยู่กับแม่ที่บ้านหลังเดิม รดาเองถึงแม้จะมีเบอร์โทรของน้อง แต่ก็ไม่ได้ไปเยี่ยมกัน นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอไม่รู้ความเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายเท่าใดนัก “เอาเป็นว่าฉันรู้จักก็แล้วกัน” “ฉันว่าแกน่าจะเข้าใจอะไรผิดแล้วแหละ จริงอยู่ที่ว่าพี่วินกับยัยเอื้องรู้จักกัน แต่เขาก็มองยัยเอื้องเป็นน้องมาตลอดเลยนะ คงไม่แอบกินกันหรอก” “ฉันไม่อยากคิดนะ แต่แช็ตนี่มันทำให้ฉันมองในแง่ดีไม่ได้จริงๆ” ปลายฝนหันหน้าจอโทรศัพท์ให้เพื่อนดู เป็นภาพการสนทนากันทางข้อความที่เธอใช้โทรศัพท์ของตัวเองถ่ายเก็บไว้“ตอนเฝ้าคุณพ่ออยู่โรงพยาบาล พี่ดาเคยบอกเอื้องว่าต้องไปงานศพเพื่อนที่ชื่อปลายฝน ที่แท้พี่ปลายฝนก็คือหลานของคุณย่าเองหรือคะ”“หนูรู้จักหลานย่าด้วยเหรอ? ใช่แล้วจ้ะ ปลายฝนหลานสาวของย่าจากไปเพราะอุบัติเหตุเมื่อสามเดือนก่อน ไม่มีวันไหนที่ย่าไม่คิดถึงเลย”หญิงสาวส่งรูปคืนให้หญิงชราก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมาให้นางเห็น เธอไม่คิดเลยว่าผู้หญิงที่มาคุยเล่นกับเธอหลายครั้งจะอยู่ใกล้กันถึงเพียงนี้“ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ”“จ้ะ แต่พอมีหนูเอื้องมาอยู่เป็นเพื่อน ย่าก็ค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย”“ขอบคุณนะคะที่เอ็นดูเอื้อง” เอื้องฟ้ายกมือไหว้ขอบคุณหญิงชรา คิดไม่ถึงเลยว่าคนที่นี่จะใจดีกับเธอมากขนาดนี้ มันเหมือนมีสายน้ำเย็นๆ มาชโลมใจอยู่ตลอด เธอพูดอีกว่า “เอื้องจะรักคุณย่าตลอดไปค่ะ ให้เหมือนกับที่พี่ปลายฝนรักคุณย่า”คุณย่าชบาพยักหน้าทั้งรอยยิ้ม“อ้อ เกือบลืม เมื่อวานเอื้องสั่งยาหอมมาให้คุณย่า เดี๋ยวไปเอามาให้นะคะ” พูดจบก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องไปเธอเข้าไปดูยาหอมที่เอาวางไว้บนลิ้นชักข้างเตียงนอนของตัวเอง แต่เพราะในบ้านเลี้ยงสุนัขพันธุ์โกลเด้นเพศเมียไว้ตัวหนึ่ง ซึ่งน้องหมาตัวนั้นติดเล่นกับเธอและเดินตามเข้ามาใน
วันต่อมาคุณย่าชบาปรึกษากับลูกชายเรื่องที่ลมเหนือไม่ยอมรับคนที่จะเข้ามาอยู่ด้วย ซึ่งเอื้องฟ้าบังเอิญได้ยินจึงเกิดความไม่สบายใจอยู่มาก ถึงแม้ว่าเธอจะยังไม่รู้จักผู้ชายคนนั้นเพราะไม่เคยเห็นหน้ากัน แต่การที่เขาไม่ยินยอมก็บ่งบอกได้ว่าในอนาคตอาจเกิดปัญหาตามมา“คุณลุง คุณย่าคะ” เธอเอ่ยขึ้นก่อนจะถือวิสาสะเดินเข้าไปในห้องรับแขกและนั่งบนโซฟาอย่างสงบเสงี่ยม“มีอะไรหรือลูก” หญิงชราเลิกคิ้วถาม“ขอโทษที่เสียมารยาทแอบฟังนะคะ แต่เอื้องได้ยินแล้วรู้สึกไม่สบายใจ ถ้ามีคนในครอบครัวไม่ยอมรับเอื้อง งั้นเอื้องขอเป็นฝ่ายไปดีกว่าค่ะ”“แต่ลุงรับปากทัตไว้แล้วนะว่าจะดูแลหนู”“แต่ลูกแท้ๆ ย่อมสำคัญกว่าไม่ใช่หรือคะ เอื้องไม่อยากเข้ามาสร้างความวุ่นวาย เห็นใจเอื้องด้วยเถอะค่ะ”ปรานต์กับคุณย่าชบามองหน้ากัน ต่างคนต่างพูดไม่ออก และนิ่งไปพักหนึ่งก่อนที่คนเป็นแม่จะเอ่ยขึ้นว่า“ไม่ต้องกังวลไปหรอก ต่อให้เขาไม่ยอมรับก็คงทำอะไรไม่เหมือนเดิม เพราะพ่อปรานต์ให้สัญญากับพ่อของหนูไว้แล้ว ลูกผู้ชายคำไหนคำนั้น จะกลับคำไม่ได้เด็ดขาด”“จะไม่มีปัญหาตามมาจริงๆ หรือคะ” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยสีหน้ากังวล“เชื่อคุณย่าเถอะ ลูกชายอีกคนของลุงเขาก็เ
ภายในบ้านอัครินทร์เดชาที่หลังใหญ่โอ่อ่าไม่ต่างจากคฤหาสน์ เอื้องฟ้ากำลังนั่งอยู่ในห้องรับแขกที่ตกแต่งด้วยโทนสีทอง โดยมีคุณลุงปรานต์ รวมถึงมารดาของท่านนั่งอยู่บนโซฟาด้วย“หนูเอื้องฟ้าเป็นลูกคนละแม่กับหนูดาครับ ทัตเขาขอร้องให้เรารับอุปการะเด็กคนนี้ต่อไป” ปรานต์เอ่ยบอกหญิงชราผู้เป็นแม่คุณย่าชบาพยักหน้าเข้าใจ นางพูดกับหญิงสาวว่า “หนูชื่อเอื้องฟ้าใช่ไหมจ๊ะ ในเมื่อมาแล้วก็มาเป็นหลานย่าเลยแล้วกัน ย่าคิดถึงหลานสาวที่จากไปใจแทบขาด อย่างน้อยมีหนูมาอยู่เป็นเพื่อนก็ยังดี”เอื้องฟ้ายกมือไหว้ขอบคุณหญิงชราอย่างนอบน้อม “ขอบคุณนะคะ เอื้องจะดูแลคุณย่าให้ดีที่สุดเลยค่ะ”นางพยักหน้าพลางส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตรไม่นานนักคุณลุงปรานต์ก็ขอตัวไปทำธุระข้างนอก ซึ่งเป็นช่วงที่ นที ลูกชายคนโตของท่านวัยสามสิบเอ็ดปีเดินลงมาจากชั้นบนพอดี เอื้องฟ้ามีโอกาสไหว้ทักทายเขาเพราะเคยคุยกันตอนอยู่ในงานศพ ก่อนที่จะตามแม่บ้านไปยังห้องพักที่คุณย่าสั่งให้จัดเตรียมไว้“น้องว่ายังไง” หญิงชราเอ่ยถามหลานชายที่เพิ่งขึ้นไปคุยกับน้องชายของเขา“มันไม่คุยกับผมครับ ผมแค่บอกว่าจะมีคนมาอยู่ด้วย มันก็ไล่ผมออกจากห้องแล้ว”“นึกแล้วว่าต้องเป็นแบบ
คนที่อายุน้อยกว่าไม่ตอบ มีเพียงเสียงสะอื้นที่พอจะทำให้ชายหนุ่มรุ่นพี่รู้ว่าร้องไห้มาได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว ในมือของเธอมีตุ๊กตาหมีขนาดพอดีมือ ด้วยความที่มันเปื้อนจนดูแทบไม่ได้ จึงทำให้เขานึกสงสัยถึงความเป็นมาของมัน‘พ่อแม่น้องอยู่ที่ไหน’เอื้องฟ้าชี้ไปทางตัวบ้านที่มีเสียงเพลงดังออกมา แขกของพ่อต่างก็ทยอยเข้าไปข้างในจนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร เหลือเพียงสองสามคนที่ยังเดินคุยโทรศัพท์อยู่‘แอบมานั่งคนเดียวแบบนี้ เดี๋ยวท่านก็เป็นห่วงหรอก’‘เอื้องเป็นลูกของพ่อทัตค่ะ’‘อ้อ ที่แท้ก็ลูกสาวบ้านนี้เองเหรอ พี่ก็นึกว่าเป็นคนอื่น ว่าแต่เราชื่อเอื้องใช่ไหม?’‘ค่ะ เอื้องฟ้า’‘ชื่อเพราะจัง’‘แล้วพี่เป็นใครคะ’ เธอถามกลับด้วยน้ำสั่นเครือปนสะอื้น‘พี่ชื่อลมเหนือ แค่ตามคุณพ่อมางานวันเกิดน่ะ แต่พี่ไม่ชอบอยู่กับคนที่ตัวเองไม่รู้จักเลยออกมาเดินเล่นข้างนอก แล้วก็เห็นใครไม่รู้มานั่งร้องไห้อยู่ตรงนี้’ เขาพูดพลางยื่นมือไปยีหัวเด็กผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงหน้าด้วยความเอ็นดู‘เอื้องจะเอาตุ๊กตาหมีไปให้คุณพ่อ แต่มันเปื้อนหมดแล้ว’ พูดจบน้ำตาก็พรั่งพรูออกมาจนพร่าเลือนไปหมด‘เปื้อนได้ยังไง’เอื้องฟ้าในตอนนั้นไม่กล้าตอบว่าแม่เลี้ยงเป





