Share

พระชายาตำหนักร้างรัก
พระชายาตำหนักร้างรัก
Author: เทียนเหอ

บทที่ 1

last update Last Updated: 2025-01-01 22:33:01

บทนำ

กระแสลมกระโชกแรงทำให้กิ่งไม้น้อยใหญ่โบกสะบัดราวกับเต้นเริงระบำท่ามกลางสายฝน หากยามปกติคงยากจะมองเห็นได้ ว่ากิ่งก้านเรียวเล็กเหล่านั้นโอนอ่อนลู่ลมได้มากน้อยเพียงไรในยามราตรี ทว่าค่ำคืนนี้มิใช่ค่ำคืนธรรมดา แสงสว่างแสบตาปรากฏอยู่บนท้องฟ้าทำให้สตรีร่างเล็กมองเห็นความน่าหวาดหวั่นของภัยธรรมชาติ พายุใหญ่เช่นนี้มาไม่บ่อยนัก แต่พอมาแล้ว ก็สร้างปัญหาให้มากพอสมควร

หลังจากประเมินสถานการณ์อยู่เพียงหนึ่งจิบน้ำชา[1] นางจึงตัดสินใจวิ่งฝ่าฝนไปยังห้องครัวที่อยู่นอกตัวบ้าน รีบหยิบถังไม้ขนาดเล็กที่เก่าจนมอง ไม่ออกว่ามันมีอายุมานานเท่าใดแล้วกลับเข้าห้อง วางมันลงบนพื้นที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำ รอยรั่วของหลังคาอยู่ห่างจากเตียงคงไม่รบกวนการนอน แต่อย่างน้อยวันพรุ่งนี้ก็ขอให้มีสักสองห้องในบ้านหลังนี้แห้งสะอาดก็คงเป็นเรื่องดี

เสวียนซือชิง หนาวสะท้านทั่วร่าง มือเรียวบอบบางลูบต้นแขนเบา ๆ เพราะลมที่พัดลอดประตูห้องนอนทำให้หนาวจนสั่นสะท้าน อีกสองสามวันข้างหน้าประตูอาจพังครืน หากไม่ตอกตะปูยึดไว้สักหน่อยคงแย่

นางยิ้มเศร้ายอมรับชะตากรรม เดินไปตรวจสอบกลอนหน้าต่าง ก่อนสะดุ้งจนตัวโยนเพราะเสียงฟ้าผ่าเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ยากจะนับได้ไหว

“น่ากลัวเสียจริง” นางรีบถอดเสื้อผ้าตัวนอกออกจากร่างเปียกปอน กระทั่งตู้โตว[2]สีซีดก็ถูกถอดออกไปด้วย นางมีเพียงสองสามชุดให้เปลี่ยนผลัด ทั้งยังเล็กจนน่ารำคาญ สามปีก่อนนางมีรูปร่างผอมบาง ดอกบัวคู่งามเพิ่งเติบโตเต็มที่เมื่อสองปีก่อน ยามนี้รู้สึกอึดอัดบ้างจึงมิใช่เรื่องแปลกอันใด

หลังจากสวมเสื้อตัวในที่บางจนแทบปกปิดอันใดไม่ได้แล้ว เสวียนซือชิง จึงซุกตัวเข้าใต้ผ้าห่มผืนหนา พลางขอบคุณสวรรค์ที่เมตตา บ้านเก่า ๆ หลังนี้จึงยังพอมีของที่มีประโยชน์หลงเหลืออยู่บ้าง ไม่ใช่ซากปรักหักพังทั้งหมดเสียทีเดียว แต่ให้เรียกว่าบ้านคงไม่ถูกนัก เพราะที่แห่งนี้คือตำหนักของท่านอ๋องผู้มีชื่อเสียง รั้งตำแหน่งแม่ทัพคนสำคัญของแผ่นดิน

เสวียนซือชิงนอนคิดเรื่อยเปื่อย คิดถึงคนที่เคยเข้ามาในชีวิต คิดถึงบิดาที่จากไปได้หลายปีแล้ว คิดถึงแม่นมสุ่ยที่รักนางมากจนไม่อาจปล่อยวาง เดินตามนางที่นั่งรถม้าเข้าตำหนักร้างแทนเกี้ยวเจ้าสาว ช่วยปลดผ้าคลุมหน้าสีแดง หลังจากมั่นใจแล้วว่าเจ้าบ่าวของคุณหนูเสวียนในวัยเพียงสิบห้าปีคงไม่ปรากฏตัว ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะการผูกสัมพันธ์ในครั้งนั้นมิได้เกิดขึ้นจากความรัก แทบเรียกได้ว่าถูกบังคับเลยทีเดียว

หลังจากนอนกอดตัวเองพลางนึกถึงเรื่องในอดีตอยู่เกือบหนึ่งก้านธูป[3] เปลือกตาของนางก็เริ่มหนักอึ้ง ความจริงเวลานี้คือปลายยามห้าย[4] เลยเวลาพักผ่อนมานานมากแล้ว ทว่าน้ำฝนที่หลั่งไหลผ่านทางรูรั่วตามห้องต่าง ๆ ทำให้เสวียนซือชิงเสียเวลาไปเกือบสองชั่วยาม[5] มีเพียงห้องเดียวในบ้านที่ยังปลอดภัยจากพายุ

นั่นคือห้องนอนหลักของตวนอ๋องเฉินฟาหยาง พระสวามีที่นางไม่เคยเห็นหน้าแม้แต่ครั้งเดียว

แม่นมสุ่ยปลอบประโลมว่าเจ้าบ่าวสูงศักดิ์อาจติดภารกิจสำคัญ ไม่อาจอยู่ต้อนรับเจ้าสาวที่เพิ่งพ้นวัยปักปิ่นได้ ทว่าเสวียนซือชิงไม่ใช่คนโง่ เรียกได้ว่าฉลาดเฉลียวและเข้มแข็งไม่ต่างจากบิดาผู้รั้งตำแหน่งรองแม่ทัพ จึงตระหนักรู้ได้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นกับตนและครอบครัว

สกุลเสวียนสูญสิ้นทุกอย่างแล้ว หากไม่แต่งกับท่านอ๋องตามคำสั่งเสียของบิดา ชีวิตของนางคงไม่เหลือรอดและไร้ผู้ดูแล แม้ทางการละเว้นโทษประหารต่อคนสกุลเสวียน ทว่าทรัพย์ที่แต่เดิมก็มีไม่มากนั้นถูกยึดไปจนหมดสิ้นแล้ว หลายชีวิตหนีกลับบ้านเดิมของตนได้ แต่นางเป็นเพียงบุตรสาวที่เกิดจากอนุภรรยา ซ้ำร้ายมารดายังจากไปตั้งแต่แรกคลอด เสวียนซือชิงจึงไม่มีทางเลือก นอกจากยอมแต่งงานเพื่อรักษาเกียรติที่เหลือเพียงน้อยนิดของตนเอง

“หนาวจริง...”

เสวียนซือชิงทนไม่ไหวจึงจำต้องลุกออกจากเตียง ตรงไปยังห้องบรรทมว่างเปล่าของท่านอ๋องผู้เป็นพระสวามี นางสวมเพียงเสื้อตัวในบาง ๆ หนาวจนริมฝีปากกระทบกัน กลีบปากเดิมทีหวานฉ่ำมองดูคล้ายผลอิงเถา[6] ยามนี้ไร้สีสันจนน่าสงสาร หากแม่นมสุ่ยยังอยู่คงจะต้องร้องไห้อย่างแน่นอน

แม่นมของนางจากไปได้เกือบปีแล้ว นางใช้เงินเก็บที่มีติดตัวมาไม่มาก จ่ายค่าหมอค่ายาเพื่อยื้อชีวิต ช่วยรักษานางหญิงชราเต็มกำลัง แต่เหมือนสวรรค์ยังเห็นว่านางเสียใจและโดดเดี่ยวไม่มากพอ จึงพรากคนสำคัญคนสุดท้ายของนางไป ทิ้งให้เสวียนซือชิงต้องเผชิญหน้ากับความว่างเปล่าตามลำพัง

เสวียนซือชิงร้องไห้เพียงสามวันก็ทำใจได้ ทำงานเลี้ยงชีวิตของตนต่อไปเรื่อย ๆ ก่อนหน้าเก็บตัวอยู่ในบ้าน ปล่อยให้แม่นมสุ่ยออกไปจับจ่ายซื้อของ พอเหลือตัวคนเดียวจึงต้องจัดการทุกอย่างเอง

ทว่ายามออกไปข้างนอกก็ต้องปิดบังฐานะของตนเองให้ดี หากมีคนรู้ว่านางอยู่ตำหนักของท่านอ๋องแล้วยังแต่งตัวซอมซ่อ ชื่อเสียงของเขาคงต้องเสียหายเป็นแน่

คนในเมืองล้วนไม่ทราบว่านางมีตำแหน่งเป็นถึงพระชายา เว้นแต่บุรุษที่แวะเวียนมาส่งข้าวสารและอาหารแห้งปีละสองสามครั้ง เสวียนซือชิงไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อน กระทั่งหลังแม่นมสุ่ยเสีย เขาแวะมาพอดี นางจึงขอความช่วยเหลือหลายอย่าง ทั้งเรื่องพิธีศพของหญิงชราและงานซ่อมแซมหนัก ๆ ที่นางไม่สามารถทำได้ด้วยตนเอง

เสวียนซือชิงพ่นลมหายใจยืดยาว อุ้มเอาผ้าห่มผืนโตออกจากชั้นเก็บของในห้องนอนใหญ่ เตรียมยกกลับห้องของตน พลางคิดไปว่าหลังฝนหยุดแล้วจะต้องเสียเงินอีกมากน้อยเพียงใดในการซ่อมแซมหลังคาบ้านและประตู

“คงต้องปักผ้าเพิ่มในยามค่ำ แต่น้ำมันตะเกียงก็แพงเหลือเกิน”

นางยังคงบ่นพึมพำ คิดอยู่ว่าควรนำเครื่องประดับน้อยชิ้นที่ติดตัวมา เมื่อสามปีก่อนไปขายดีหรือไม่ มีหนทางใดบ้างที่จะหาเงินมาเลี้ยงตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัย โดยไม่ถูกหลังคาบ้านทับตายไปเสียก่อน

นางอุ้มผ้าห่มผืนโตให้แน่นหนา ไม่ยอมให้สัมผัสกับพื้นห้องแม้ว่ามันจะสะอาดดี เพราะเป็นห้องที่นางเข้ามาทำความสะอาดบ่อยมาก ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยมีใครย่างกรายเข้ามา

ทว่าราตรีนี้กลับต่างออกไป...

เสียงประตูหน้าบ้านดังโครมทำหัวใจดวงเล็กตื่นตระหนกราวกับกระต่ายป่าพบเจอพรานล่าสัตว์ นางไม่ได้หวาดกลัวว่าจะมีภัยอันตราย อย่างไรผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองเล็ก ๆ นี่ก็รู้ความอยู่มาก ไม่เข้ามาวุ่นวายยังตำหนักของท่านอ๋อง ถึงแม้จะเก่าจนแทบพัง แต่ก็ยังมีคนอยู่อาศัย ทั้งขบวนเดินทางที่ดูเล็กและน่าหดหู่ยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำของใครอีกหลายคน เสวียนซือชิงจึงสรุปเอาเองว่าเสียงดังน่าหวาดหวั่นนั่นคงเป็นเพราะประตูชำรุดจนทนแรงลมไม่ไหว หาใช่มีคนบุกเข้ามาแต่อย่างใดไม่

ทว่าเสวียนซือชิงคิดผิดไปถนัด เพราะยังมิทันก้าวออกจากห้องของท่านอ๋องผู้สูงศักดิ์ ประตูห้องนอนก็ถูกกระชากออกอย่างแรง แสงสว่างแปลบปลาบที่เกิดขึ้นเพราะพายุร้าย ทำให้เจ้าของเรือนร่างสูงใหญ่ดั่งภูผาดูน่าหวั่นเกรงจนนางไม่กล้าขยับตัว กระทั่งส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือก็ยังทำไม่ได้

“เสวียนซือชิง”

เสียงของผู้บุกรุกทุ้มต่ำและแหบพร่า กดดันให้เจ้าของเรือนร่างบอบบางสั่นสะท้านคล้ายเป็นไข้หนัก ทว่านางก็ยังทำใจกล้า ตวาดออกไปด้วยน้ำเสียงที่ฟังแล้วดูไม่มั่นคงเลยสักนิด

“เจ้าเป็นใคร เหตุใดจึงบุกรุกบ้านผู้อื่นยามวิกาล!”

“เสวียนซือชิง ข้าคือสามีของเจ้า”

“ท่านอ๋อง... เช่นนั้นหรือ”

“ไม่ถูกต้องนัก ข้าไม่ใช่ตวนอ๋อง”

“แล้วเหตุใด...”

นางถอยหลังไปสามก้าว กลิ่นสุราโชยมาจากบุรุษแปลกหน้าทำให้นาง ไม่สบายใจ ทว่ายังไม่ทันตัดสินใจว่าจะทำอันใดต่อ เขาก็ถอดเสื้อตัวนอกที่เปียกโชกออก โยนกองลงบนพื้นโดยไม่สนใจรักษามารยาท ทั้งยังไม่สนว่านางคือสตรีที่รั้งตำแหน่งพระชายาของตวนอ๋อง

ในห้องนอนไร้ซึ่งแสงสว่าง แต่ประกายวาววับจากดวงตาที่จ้องมองผ่านความมืดทำให้เสวียนซือชิงต้องกลั้นลมหายใจ รู้สึกราวกับมองเห็นปีศาจที่พร้อมสังหารนางให้สิ้นได้ทุกเมื่อ เขาจัดการท่อนบนจนเปลือยเปล่า และพอเห็นว่านางยังยืนตกใจอยู่ที่เดิม จึงกล่าวประโยคที่ทำให้เสวียนซือชิงหนาวเหน็บสุดขั้วหัวใจทันที

“ตวนอ๋องยกเจ้าให้ข้าแล้ว จงไปเตรียมน้ำให้ข้าอาบ เอาตัวเจ้ามาให้ข้านอนกอดคลายหนาว หาไม่แล้ว ข้าจะแจ้งต่อท่านอ๋องว่าเจ้าอกตัญญู ไม่ทำตามคำสั่งของสามี!”

สิ้นคำของคนตัวใหญ่ เสวียนซือชิงทิ้งผ้าห่มลงพื้น รีบสาวเท้าออกจากห้องอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่สองขาจะสามารถทำได้ สมองของนางคล้ายหยุดทำงานไปชั่วขณะ เร่งเข้าครัวก่อไฟต้มน้ำตามคำสั่ง แม้มองไม่เห็นชัดว่าบุรุษที่บุกรุกเข้ามามีลักษณะอย่างไร แต่เขาทำให้นางหวาดกลัวเกินกว่าจะขัดใจได้ไหว ยิ่งอ้างว่าเป็นคำสั่งของพระสวามีตวนอ๋องด้วยแล้ว สตรีอับโชคอย่างนางจะกล้าปฏิเสธได้อยู่หรือ

แม้เคยพร่ำบอกกับตนเองเสมอว่าห้ามอ่อนแอ แต่การถูกยกให้กับ คนแปลกหน้าราวกับนางคือสิ่งของไร้ราคา เปรียบได้ดั่งหม้อไหที่แตกหัก กลับทำให้เสวียนซือชิงมิอาจกลั้นน้ำตาแห่งความอัปยศอดสูไว้ได้ หยาดน้ำสีใสไหลเปรอะเปื้อนดวงหน้างดงาม เสียงหวานเศร้ากล่าวออกมาอย่างอัดอั้นตันใจอย่างที่สุดแล้ว

“ตวนอ๋องจำใจต้องแต่งกับข้า ข้ารู้ว่าเขาเกลียดข้า แต่ถึงขั้นต้องส่งบุรุษอื่นมาให้ข้าดูแลปรนนิบัติเลยหรือ...”

[1] หนึ่งพริบตา

[2] เสื้อชั้นใน

[3] ๓๐ นาที

[4] เวลา ๒๑.๐๐ – ๒๒.๕๙ น.

[5] ๑ ชั่วยาม = ๒ ชั่วโมง

[6] ผลเชอร์รี
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พระชายาตำหนักร้างรัก   บทที่ 117

    “ท่านพี่เจ้าคะ ซือชิงเคยพูดเอาไว้นานแล้วว่าต่อให้ท่านพี่แก่ชราผมขาวโพลนทั้งศีรษะ ซือชิงก็จะยังรู้สึกดีกับท่านพี่ไม่แปรเปลี่ยน ยิ่งท่านพี่น่ารักกับซือชิงและลูกเช่นนี้ ต่อให้เหลือเพียงแค่กระดูกก็ตัดใจเลิกรักไม่ได้เจ้าค่ะ”“ชิงชิงปากหวานกับพี่อีกแล้ว...จริงสิ พี่มีเรื่องต้องแจ้งหนิงเอ๋อร์”เฉินฟาหยางยิ

  • พระชายาตำหนักร้างรัก   บทที่ 116

    เจ็ดปีผ่านไป...น้ำเสียงออดอ้อนของพระชายาคนงามสอบถามบุรุษที่นางรักอย่างเอาใจ ว่าเหตุใดวันนี้จึงไม่ยิ้มแย้มให้อย่างที่เคย ทั้งยังทำหน้าบูดบึ้งมิยอมให้เข้าใกล้ ถามอันใดก็มิค่อยยอมตอบ เดาได้ลำบากว่ามีเรื่องอันใดรบกวนสมองอันชาญฉลาดของเขาอยู่แน่“ท่านพี่...”“พี่ไม่อยากพูด ขอทำใจสักครู่แล้วจึงจะอารมณ์ดีไ

  • พระชายาตำหนักร้างรัก   บทที่ 115

    สัญชาตญาณ...“พวกเจ้าออกไปข้างนอกเถิด ข้าจะดูแลท่านอ๋องเอง”เสวียนซือชิงไม่ลืมกำชับเสี่ยวผิงว่าให้อธิบายเจ้าก้อนแป้งให้ดี แม้หลายวันที่ผ่านมาเสวียนหนิงอันไม่ดื้อไม่ซน เชื่อฟังท่านอาหลี่ที่ยอมเดินทางมาเยี่ยมแทบทุกวัน แต่เรื่องความรู้สึกของเด็กนั้นต้องระวังให้มาก เพราะในวัยนี้อาจคิดแต่ไม่ยอมพูด ต้องสั

  • พระชายาตำหนักร้างรัก   บทที่ 114

    สามวันแล้วที่ตวนอ๋องเฉินฟาหยางนอนพักรักษาตัวอยู่บนเตียง โดยมีพระชายาคนงามนั่งเฝ้าอยู่ไม่ห่าง นางค่อย ๆ หยอดน้ำข้าวต้มและป้อนยาบำรุง พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะไม่ถูกเนื้อต้องตัวเพราะเขามักปัดมือออกเบา ๆ นิ่วหน้าคล้ายรังเกียจสัมผัสจากนางก็ไม่ผิดนัก‘หนูสกปรก!’‘เหม็น!’‘อย่าถูกตัวเรา!’นอกจากตวนอ๋องจะไม่

  • พระชายาตำหนักร้างรัก   บทที่ 113

    “ดี! แต่หากเรายอมทำตามที่เจ้าต้องการ ให้ถือว่าบุญคุณที่บิดาของเจ้าทำเพื่อเรานั้นเสมอกันแล้ว ไม่มีเรื่องอันใดติดค้างอีก ตกลงหรือไม่!”“ฝ่าบาทเพคะ หม่อมฉันยอมทุกอย่างแล้ว อย่าทรงพระทัยร้ายนักเลย!”“ทุกคนชอบคิดว่าเราใจร้าย กระทั่งเจ้าเองก็คงคิดว่าเราใจร้าย แม้รู้อยู่แก่ใจว่าฟาหยางทำไม่ดี แต่เราก็ยังต่อ

  • พระชายาตำหนักร้างรัก   บทที่ 112

    เหล่าภมรและดอกไม้นานาพรรณที่ส่งกลิ่นหอมเย้ายวนยามนี้กลับมิอยู่ในสายพระเนตรของฮ่องเต้เหวินจวิน เดิมทีเขาก็มิได้ชื่นชอบการออกนอกวังหลวง แต่เพราะต้องการให้ฮองเฮาและบรรดาพระสนม รวมถึงเหล่าองค์ชายได้มีโอกาสใกล้ชิด สร้างความปรองดอง ไม่แตกแยกเหมือนบรรดาพระเชษฐาและพระอนุชาร่วมบิดา งานน่าเบื่อหน่ายจึงถูกจัดข

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status