LOGINหลังจากทานมื้อค่ำเสร็จเกวลินก็กลับมาขลุกตัวอยู่ในห้อง เธอทิ้งตัวลงนอนแล้วได้แต่คิดถึงคำพูดของพระเพลิงเมื่อเย็นที่คุยกับป้าหทัย เธอไม่ได้ตั้งใจจะไปแอบฟังแต่กำลังจะเดินไปหาดูว่าลืมกระเป๋าไว้ที่ห้องนั่งเล่นหรือเปล่า ก็เลยเผลอไปได้ยินบทสนทนานั้นเข้า
คำพูดแสนตอกย้ำของพระเพลิงที่บอกว่าเธอเป็นแค่น้องสาวฟังกี่ครั้งใจก็ยังคงเจ็บอย่างไม่รู้สึกชินกับมันเสียที ทิ้งตัวลงนอนบนที่นอนนุ่มแล้วเอาแต่มองจ้องผ้าพันแผลที่พระเพลิงเป็นคนพันให้นิ่ง
อยากจะให้เขาใจดีแค่กับเธอแต่มันคงเป็นไปไม่ได้ เรื่องวันนี้มันทำให้เธอได้เห็นความห่วงใยที่เขามีให้ดารกาว่ามันมีมากกว่าที่ให้เธอเป็นไหนๆ แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเธอไม่มีทางสู้คนในใจเขาได้เลย
"เกลเปิดประตูหน่อยค่ะ พี่เอากระเป๋ามาให้"
พระเพลิงวางกระเป๋าสะพายใบโปรดทีาเธอลืมไว้บนรถเขาลงบนเตียงพร้อมช่อดอกไม้ที่เขาเจอมันในกระเป๋าเธอด้วย เกวลินได้แต่รอบกลืนน้ำลายเพราะเธอไม่คิดว่าอีกคนจะเห็นมัน ปกติจะรับแล้วเอากลับมาแบบนี้ก่อนจะหาวิธีทิ้งไปแต่ครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่ทัน
"ผู้ชายที่ไหนให้มาคะ?"
"คือ....เพื่อนไงคะ เพื่อนเกลเอามาให้ค่ะ"
"พี่ก็พึ่งรู้นะคะ ว่าเกลมีเพื่อนชื่อภูผาด้วย?"
เกลวิลินเบิกตากว้างทันทีที่ถูกจับได้ รีบถามเขากลับไปว่าทำไมเขาถึงรู้เรื่องนี้ การ์ดใบเล็กก็ถูกยื่นมาให้ตรงหน้าแทนคำตอบจากเขา เพราะไม่ได้สนใจมันมากนักก็เลยไม่รู้ว่าวันนี้อาจารย์ฝึกสอนคนนั้นจะเขียนการ์ดมาด้วย
"การได้เจอเกลเป็นเหมือนกับพรหมลิขิตของพี่เลยนะครับ ประโยคปบบนี้หรอที่เพื่อนเขียนให้กัน"
"คือว่า...."
"เดี๋ยวนี้ปิดบังพี่หรอคะ?"
"เปล่านะคะ พี่ภูผาเป็นอาจารย์ฝึกสอนค่ะ พี่เขามาจีบแต่ว่าเกลไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นเลยนะคะ" พระเพลิงเป็นแบบนี้ทุกทีที่มีคนเข้ามาจีบเธอ เกวลินจะต้องรีบอธิบายให้เขาเข้าใจก่อนที่อีกคนจะโกรธแล้วไม่ยอมคุยด้วย
"ไม่ได้คิดแน่นะคะ"
"แน่สิคะ เกลแค่รับไว้ตามมารยาท" โชคดีที่ครั้งนี้พระเพลิงดูจะรับฟัง แต่ช่อดอกไม้ก็ยังถูกเขาหยิบขึ้นมาแล้วโยนลงถังขยะอย่างไม่ใยดี พระเพลิงไม่ชอบเวลาที่ใครเข้ามายุ่มย่ามกับเธอแบบนี้ เกวลินรู้ดี ก็เลยปล่อยให้เขาทำในสิ่งที่อยากทำจะได้ไม่หงุดหงิด
กว่าพระเพลิงจะยอมออกไปก็นั่งจับเข่าคุยกันเรื่องนี้อยู่พักใหญ่ อีกคนดูไม่พอใจมากยามได้ยินว่ามีใครเข้ามายุ่มย่ามกับเธอ เพราะไม่เคยมีพี่ชายมาก่อนถึงไม่รู้ว่าปกติแล้วคนที่มองว่าเราเป็นน้องสาวแท้ๆจะต้องหวงขนาดนี้ไหม แต่พระเพลิงเป็นแบบนั้นมาตลอด
พระเพลิงนั่งลงบนเตียงนอนอย่างหัวเสีย ถึงแม้จะคุยกับเกวลินอย่างเข้าใจได้ดีเพราะเธอไม่เคยดื้อกับเขา แต่เรื่องที่เธอเล่าเกี่ยวกับอาจารย์ฝึกสอนที่คอยมาเกาะแกะเธอมันยังกวนใจเขาอยู่จนตอนนี้
เกวลินเป็นคนซื่อแล้วก็ขี้เกรงใจคนมากเกินไป ที่เขาต้องตามดูแลขนาดนี้ก็เพราะกลัวว่าน้องจะตามพวกผู้ชายที่เข้ามาไม่ทัน ไม่ใช่คิดเป็นอื่นอย่างที่ใครเข้าใจผิดกันไปไกล
เรื่องความสัมพันธ์ของเขากับเกวลินไม่ใช่แค่คุณแม่ที่คิดแบบนี้ แต่ใครต่อใครก็เฝ้าถามกันทั้งนั้น เพื่อนเขายังเคยถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าแล้วก็บอกว่าภาพที่คนภายนอกมองมามันเหมือนกับคนรักกันมากกว่าที่จะเป็นพี่น้อง
แม้แต่ดารกาก็ยังเคยพูดถึงเรื่องนี้เลย เธอเอาแต่บอกเขาว่าให้เขาคิดให้ดีอย่างที่คุณแม่พยายามบอกเขาในวันนี้ แต่นี่มันความรู้สึกของเขานะ คนอื่นจะมารู้ดีไปกว่าเขาได้ยังไงกัน
พระเพลิงก็แค่ผู้ชายคนหนึ่งที่อยากทำหน้าที่พี่ชายให้ดี เรื่องที่เกวลินเคยเผชิญมันก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่เขาไม่อยากให้เธอรู้สึกขาดอะไร
เขาคอยดูแลไม่ห่างไปไหนก็เพราะรู้ว่าเธอไม่มีใครอีกแล้ว มีเพียงแค่เขากับคนในครอบครัวของเขาเพียงเท่านั้น ถึงเธอจะมีเงินมากมายหลงเหลือมากพอให้ใช้ชีวิต แต่ความอบอุ่นจากครอบครัวมันก็ไม่สามารถซื้อกันได้ด้วยตัวเงินอยู่ดี
"เกลยังไม่ลงมาอีกหรอครับ?" เช้าวันนี้เขาตื่นเช้าเป็นพิเศษ เพราะทุกวันศุกร์เกวลินจะต้องไปแวะซื้อขนมร้านโปรดก่อนจะเข้ามหาวิทยาลัยเลยต้องเผื่อเวลา แต่การไม่เจอเธออยู่ร่วมโต๊ะอาหารสำหรับมื้อเช้าก็ทำให้เขาแปลกใจ ดูเหมือนคุณแม่เขาก็เตรียมอาหารจนวุ่นแล้วพึ่งจะรู้ตัว ปกติเกวลินไม่เคยตื่นสายเลย นอกซะจากว่าจะป่วย...
ไม่ผิดไปจากที่เขาคิดเลยสักนิด พระเพลิงอาสาขึ้นมาดูน้องเองทันทีด้วยความเป็นห่วง ถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามาหลังจากไม่มีเสียงตอบรับทั้งที่เขายืนเคาะประตูอยู่ร่วมสามนาที
เกวลินนอนตัวร้อนจี๋อยู่บนเตียงนอน พระเพลิงแตะไปตามเนื้อตัวเพื่อสำรวจดูแล้วก็รู้สึกได้ถึงความร้อนที่ไม่ต่างกันจากตอนที่เขาแตะที่หน้าผากเธอเลย
คนน้องขยับไปมาเล็กน้อยในตอนที่เขาเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดซับตามใบหน้าน่ารักให้ แต่เพียงแค่นั้นเธอก็นอนนิ่ง ตั้งแต่รู้จักกันมาต่อให้ป่วยมากแค่ไหนน้องก็ไม่เคยงอแงหรือทำให้รำคาญเลย เธอมักจะเงียบมากกว่า จนบางทีบางครั้งแทบจะไม่เอ่ยปากบอกใครด้วยซ้ำว่ากำลังป่วยอยู่
"ขอบคุณนะครับอาหมอ" พระเพลิงเดินมาส่งอาหมอของเขาที่รถหลังจากตรวจเกวลินเสร็จ เพราะน้องดูไม่ดีขึ้นเลยตั้งแต่เช้าจนเกือบบ่ายเขาถึงได้โทรตามอาหมอให้มาดูอาการถึงที่นี่ สรุปอาการได้ว่าเพราะแผลที่มืออักเสบก็เลยมีไข้ เขาถึงได้โล่งใจว่าคงจะไม่เป็นอะไรมาก
"เดี๋ยวขึ้นไปปลุกน้องทานข้าวหน่อย จะได้ทานยาที่อาให้ไว้ ถ้าคืนนี้ไข้ไม่ลดก็โทรบอกอานะ" บอกแล้วว่าใครต่อใครต่างก็เอ็นดูเกวลินกันทั้งนั้น แม้แต่อาหมอที่แทบจะไม่ได้มาที่นี่บ่อยมากนักก็ยังเอ็นดูเธอมากกว่าหลานที่แท้จริงอย่างเขาเสียอีก
หลังจากส่งอาหมอกลับไปเรียบร้อยเขาก็รีบยกข้าวที่ให้แม่บ้านเตรียมให้ขึ้นไปชั้นบน เกวลินยังนอนห่มผ้าอยู่ไม่ขยับตื่นขึ้นมา พระเพลิงพยายามปลุกน้องให้ตื่นมาทานข้าวอย่างที่อาหมอบอกเอาไว้ แล้วเธฮก็ตื่นมาหลังเขาสะกิดเรียกเพียงไม่นาน
ถึงจะอ่อนเพลียแต่ก็ยังไม่งอแงแล้วอ้าปากรับข้าวที่เขาป้อนให้อย่างว่าง่าย เกวลินหลับตาเป็นระยะถ้าเขาเดาไม่ผิดคงเป็นเพราะอาการปวดหัวที่เล่นงานเธอไม่รู้จบ เธอพยายามทานข้าวทุกคำที่เขาตักให้ กว่าจะบอกให้เขาหยุดป้อนก็ในตอนที่ข้าวมันพร่องไปเกือบครึ่งชามแล้ว
พระเพลิงมองดูน้องที่ยอมหยิบยาเข้าปากไปอย่างไม่ปฏิเสธ เกวลินโตขึ้นมากแล้วจากเมื่อก่อน ตอนที่เจอกันใหม่ๆเธอเป็นคนกินยายากมาก ทั้งคุณพ่อคุณแม่เขาบังคับอยู๋นานกว่าจะยอมกินมันเข้าไปในแต่ละครั้ง
แต่ถ้าเป็นกับพระเพลิงแล้ว เพียงแค่เขาลูบหัวแล้วพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มสักหน่อย น้องก็พร้อมจะเชื่อฟังแล้วกินเข้าไปอย่างไม่งอแง ตั้งแต่วันนั้นเขาก็เลยเข้าใจดีมาตลอด เกวลินไม่ใช่เด็กเอาแต่ใจ แต่แค่ต้องการคนที่เข้าใจต่างหาก
2 เดือนผ่านไปอ้วกกกกกพระเพลิงง่วนอยู่กับการลูบหลังให้คนน้อง เกวลินแพ้ท้องหนักมากทานอะไรแทบไม่ได้ พอได้กลิ่นอาหารก็เอาแต่อาเจียนออกมา บางครั้งทานเข้าไปแล้วได้เพียงพักหนึ่งก็ไปอาเจียนจนหมด ส่งน้ำให้น้องบ้วนล้างปาก พยุงให้มานั่งลงบนเตียงนอนแล้วลูบหัวน้องอย่างเห็นใจ พึ่งเคยเห็นว่าเวลาผู้หญิงท้องลำบากมากขนาดนี้เลยเช็ดน้ำตาที่เอ่อคลอดวงตาให้น้อง แต่เกวลินก็ยิ่งร้องไห้มากกว่าเก่า ดูท่าแล้วอีกคนน่าจะทรมานมากกับอาการแพ้ที่เป็นอยู่ พระเพลิงดึงเกวลินเข้าสู่อ้อมกอดแล้วโยกตัวน้องไปมา พักหลังเธอชอบให้เขากอดโอ๋เธอแบบนี้ แล้วอาการเธอก็จะดีขึ้น"ฮึก ทรมานจังเลยค่ะ""ไม่เป็นไรนะคะ พี่อยู่นี่""เกลขอโทษนะคะ ฮึก ที่บางครั้งเกลงอแงกับพี่เพลิง" คำพูดน้องมีแต่ความรู้สึกผิด น้องงอแงขึ้นแล้วก็เอาแต่ใจบางในบางครั้ง เขาตามอารมณ์ขึ้นๆลงๆของเกวลินแทบไม่ทัน แต่ว่าก็พอเข้าใจได้ถึงอาการของคนท้อง พอเขาคิดว่าทำไปด้วยความรัก เขาก็ไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องอดทนอะไรมากมายนัก แค่ทำไปเพราะรักก็ไม่รู้สึกเหนื่อยแล้ว"ไม่ต้องขอโทษเลยค่ะ เกลจะงอแงเท่าไหร่ก็ได้ พี่รับมือไหวอยู่แล้ว อย่าคิดมากนะคะคนดี" พระเพลิงหอมแก้มน้องแล้วขยับ
"เพลิงไม่อยากช่วยดาแล้วหรอ ทำไมละ?" พระเพลิงถอนหายใจ เขาขับรถมาหาดารกาถึงที่นี่เพื่อเคลียเรื่องระหว่างเขากับเธอ ในตอนนี้เขาจัดการแฟนเก่าเธอให้แล้ว และมันคงไม่กล้ามายุ่งด้วยอีก ดารกาเองก็ดีขึ้นมาก ร่องรอยแผลก็จางไปแล้ว เขาไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องดูแลอีกคนต่อ"เราไม่อยากให้น้องคิดมาก""เพลิงรักน้องเกลไปแล้วจริงๆหรอ เพลิงจะลืมดาง่ายๆได้ยังไง ทั้งที่เพลิงรักดามากขนาดนั้น" "เพลิงรักน้อง รักมาก แล้วเพลิงก็รู้นะว่าดาคิดอะไรถึงได้กลับมาที่นี่ เพราะรู้อยู่แล้วใช่ไหมว่ายังไงเพลิงก็ไม่มีวันหันหลังให้ดาได้ เพราะดารู้อยู่แล้วว่าต่อให้วันหนึ่งดาไม่เลือกเพลิงอีกครั้ง เพลิงก็จะไม่ไปไหน แล้วรอดาอยู่ตรงนี้"ใช่ ดารการู้ดีอยู่แล้วว่าพระเพลิงคนนี้รักมากแค่ไหน เขายอมทำได้ทุกอย่าง และคอยยืนเคียงข้างอีกคนมาตลอด ไม่ว่าจะกี่ครั้งที่ดารกาหันมา ก็จะเจอเขายืนรออยู่เสมอ แต่พระเพลิงในตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้ว เขามีสิ่งที่มีค่ากับชีวิตและหัวใจที่มากกว่านั้น และเขาไม่มีวันยอมสูญเสียมันไปแน่"แต่เพลิงรักดามากไม่ใช่หรอ มั่นใจหรอว่าจะขาดดาได้อ่ะ""ตอนดาไม่อยู่ เพลิงได้เรียนรู้อะไรอีกเยอะเลยรู้ไหม เพลิงไม่รู้สึกว่ากา
"ก่อนเกลจะโกรธพี่ เกลถามพี่ก่อนไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทำไมพี่ถึงไปช่วยดา ทำไมพี่ถึงเจ็บตัวแบบนี้ แล้วเกิดอะไรขึ้นกับดาบ้าง เกลถามพี่บ้างหรือยัง ไม่ใช่คิดถึงแต่ความรู้สึกตัวเอง อยากจะโกรธ จะงอนอยู่ท่าเดียว""ตาเพลิง!" เกวลินได้แต่มองเขาด้วยแววตาวูบไหว ในใจดวงน้อยปวดหนึบไปหมดในยามที่ได้ยินคำพูดเขา สรุปว่าการที่เธอนั่งรอเขาแล้วเขาไม่มารับ การที่เธอไม่แม้แต่จะถามเพราะเธอไม่ได้อยากรับรู้ว่าเขาห่วงดารกาแค่ไหนกลายเป็นความผิดอีกแล้วใช่ไหม พระเพลิงกำลังพูดเหมือนกับว่าเธอเห็นแก่ตัว งอแงเอาแต่ใจ ทั้งๆที่ปกติเธอไม่ใช่คนแบบนี้เลย เกวลินยอมพระเพลิงทุกอย่าง และยอมมันมาตลอด ถึงแม้ว่าการยอมของเธอจะทำให้เธอเจ็บ แต่ขอแค่เป็นพระเพลิงเธอก็พร้อมที่จะเจ็บแล้วยอมให้เขาทุกอย่าง"ดาถูกแฟนทำร้ายอีกแล้ว พี่ก็เลยไปจัดการมัน ถึงได้ลืมนัดเกล เหตุผลแค่นี้ไม่พอให้เกลเข้าใจพี่หรือไง""แล้วทำไมพี่จะต้องไปจัดการ""ก็มันทำดาเจ็บ!""เขาก็เคยทำเกลเจ็บเหมือนกัน!! เกลเจ็บกว่าที่พี่ดาเจ็บด้วยซ้ำ แต่พี่ไม่เห็นจะไปจัดการให้เลย!! พี่ดาโดนไม่ถึงครึ่งของที่เกลโดน พี่ก็ไปเจ็บตัวเพื่อช่วยเอาคืนให้ แล้วแบบนี้พี่จะให้เกลคิดยังไง!
พระเพลิงยืนผูกเนกไทอยู่หน้าตู้กระจก เขาจัดแจงเสื้อผ้าตัวเองให้มีระเบียบก่อนจะหันไปมองน้องที่ยังนอนซุกอยู่ใต้ผ้าห่ม วันนี้เป็นวันหยุดเขาก็เลยไม่อยากปลุกน้องขึ้นมาแต่เช้า เดินไปนั่งลงบนเตียงแล้วหอมแก้มนุ่มไปหนึ่งฟอด แค่เพียงได้หอมแก้มก็เหมือนกลับได้พลังมาเต็มเปี่ยม กำลังจะลุกขึ้นก็โดนน้องรั้งแขนเอาไว้ก่อน ทั้งที่เขาพายามระวังแล้วแท้ๆ แต่ก็กวนจนน้องตื่นจนได้"พี่กวนหรอคะ?""พี่เพลิงจะไปไหนแต่เช้าคะ วันนี้.....""พี่แค่จะเข้าไปเซ็นเอกสารที่บริษัทหน่อยค่ะ เดี๋ยวก่อนเที่ยงจะมารับ เกลแต่งตัวรอนะคะ" เกวลินอมยิ้มดีใจ ตอนแรกคิดว่าเขาจะลืมไปแล้วว่าวันนี้เป็นวันครอบรอบวันตายของพ่อแม่เธอ แล้วพระเพลิงก็เป็นคนสัญญาไว้ว่าจะพาเธอไปทำบุญ พระเพลิงลูบหัวเธอแล้วโยกไปมา เขาใช้นิ้วจิ้มที่แก้มแล้วหันมาหาเธออย่างไม่พูดอะไร เกวลินรู้ดีว่าเขาหมายถึงอะไรก็เลยขยับไปหอมแก้มเขา แล้วพระเพลิงก็หอมแก้มเธอตอบเธอนอนหลับไปอีกครั้งเพราะยังรู้สึกว่าร่างกายอ่อนเพลียมาก ก่อนจะตื่นมาอีกรอบช่วงสายก็รีบอาบน้ำแต่งตัวรอพระเพลิงตามนัด ชุดเดรสสีชมพูอ่อนที่เขาซื้อให้ถูกเลือกมาใส่ในวันนี้ ทั้งสร้อยคอและสร้อยข้อมือก็เป็นของขวัญที่ได
"หนูเกลลูก เลือดไหลแล้ว" เกวลินก้มมองนิ้วตัวเองที่คุณป้าหทัยดึงไปดู เธอกำลังช่วยคุณป้าปอกเปลือกกระเทียมแต่เพราะเหม่อเลยไม่ทันระวังทำให้มีดบาดลงบนนิ้ว คุณป้าเอากระดาษมาให้จับไว้ก่อนจะรีบลุกไปเอาพลาสเตอร์ให้เธอเปิดออกดูแผลแล้วกดเอาไว้อีกรอบ ถึงบาดแผลจะไม่ใหญ่มากแต่ก็เยอะพอสมควรจนเลือดไหลออกมาเยอะ ระหว่างที่มัวก้มมองดูมือตัวเองจู่ๆก็ถูกใครบางคนจับมือเธอไปดูบ้าง เงยขึ้นไปถึงเห็นว่าเป็นคนที่เธอไม่ได้คุยกับเขามาสามมาสี่วันได้เธอไม่รู้เลยว่าช่วงนี้พระเพลิงกำลังยุ่งเรื่องงานหรอยุ่งเรื่องใครอีกคนอยู่ เขาออกจากบ้านไปแต่เช้าทุกวัน เย็นบางวันกลับมาบ้านแล้วก็ออกไปข้างนอกอีกครั้งจนเราแทบไม่ได้คุยกัน ช่วงนี้ต่างคนต่างนอนที่ห้องของตัวเอง และไม่มีแม้แต่ข้อความของเขาที่ส่งมาบอกเธอถึงเหตุผลที่กับบ้านดึกเลยแม้แต่ข้อความเดียว"เจ็บไหมคะ?""ไม่ค่ะ" คุณป้าหทัยกลับมาพร้อมกับพลาสเตอร์ยา พระเพลิงรับมาแล้วติดให้เธออย่างระวัง เกวลินในตอนนี้นิ่งเงียบมาก น้องไม่สดใสเหมือนก่อนหน้านี้เลยสักนิด ต้นเหตุมันก็คงมาจากเขา ที่ไม่เข้าหาไม่ใช่ว่าไม่แคร์ แต่เขาแค่อยากให้น้องเข้าใจด้วยตัวเอง อย่างน้อยเกวลินควรโตมากพอที่จะเ
"นะค๊าา พี่เพลิงพาเกลไปซื้อหน่อยนะ"พระเพลิงนั่งมองคนที่กำลังออดอ้อนเขาอยู่ เกวลินกอดแขนเขาไว้แน่นแล้วเอาหน้าถูไถไปมาราวกับว่าอยากให้เขาตอบตกลง น้องมาขอให้เขาพาไปซื้อหนังสือเล่มใหม่ในงานหนังสือที่จัขึ้นวันนี้ ไม่ใช่ว่าพระเพลิงจะไม่พาไปหรอก เขาก็แค่อยากจะเห็นว่าน้องจะอ้อนเขาให้ตกลงได้ยังไงก็แค่นั้นเขาตีหน้านิ่งแล้วทิ้งตัวพิงโซฟาไป ทำเหมือนว่ากำลังไม่สนใจในสิ่งที่น้องพูดเลยสักนิด เกวลินพยายามเขย่าแขนเขาอยู่พักหนึ่งแล้วสุดท้ายน้องก็ผละตัวออกไป พระเพลิงรู้สึกได้ถึงความเงียบผิดปกติก็เลยเหลือบมอง เกวลินนั่งอยู่ข้างเขาไม่ได้ไปไหน แต่เธอเอาแต่ก้มหน้า ไหล่เล็กสั่นเทิ้มทำให้เขาตาโตด้วยความตกใจ อย่าบอกว่าน้องร้องไห้อีกแล้วนะ"เกลคะ ร้องทำไม?" พระเพลิงรีบขยับไปหาน้องแล้วดึงมากอดเอาไว้ ลูบหัวน้องปลอบโยนแล้วได้แต่โทษตัวเอง แต่เรื่องแค่นี้ไม่น่จะทำให้เกวลินร้องไห้ได้ด้วยซ้ำ แต่ไหงถึงเป็นแบบนี้ไปได้ เขาว่าเขาก็ไม่ได้แกล้งน้องแรงเลยสักนิดเกวลินโผเข้ากอดเขา เธอสะอึกสะอื้นอย่างน่าสงสารจนเขาอดจะรู้ผิดไม่ได้ แต่พอผละออกมาเกวลินก็เป็นฝ่ายขอโทษเขาก่อน เธอเอาแต่พูดว่าไม่ได้อยากเป็นแบบนี้แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม







