LOGINเกวลินสูญเสียพ่อแม่ไปจากอุบัติเหตุที่เธอเองก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย ก่อนเธอจะถูกที่บ้านของพระเพลิงรับมาดูแลต่อ หลังจากนั้นพระเพลิงก็กลายเป็นทุกอย่างในชีวิตเธอ แต่ว่าเขาดันมีคนที่ชอบอยู่แล้ว
View Moreเกวลินก็แค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่โชคร้ายต้องสูญเสียพ่อแม่ไปพร้อมกันเพราะอุบัติเหตุที่เธอเองก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย
ค่ำคืนหนึ่งที่ฝนตกหนักเมื่อหกปีก่อนที่สามคนพ่อแม่ลูกพูดคุยกันด้วยความสุขเหมือนอย่างทุกวัน เด็กสาวพูดเจื้อยแจ่วแล้วหยิบของในถุงของเล่นแสนแพงที่พึ่งอ้อนให้คุณพ่อจ่ายเงินซื้อให้ขึ้นมาเชยชม
คุณแม่ที่นั่งอยู่ด้านข้างลูบหัวลูกสาวด้วยความรักใคร่ เด็กสาวแสนออดอ้อนขยับหอมแก้มคุณแม่ไปฟอดใหญ่จนคุณพ่อยังต้องเอ่ยปากแซว
เสียงหัวเราะและความสุขทั้งรอยยิ้มเปื้อนใบหน้าของพวกท่านในวันนั้นใครจะรู้ว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอได้เห็น ถนนที่เปียกชุ่มส่งผลให้รถเสียหลักไถลพุ่งชนกับขอบทางด่วนเต็มแรง เด็กสาวร่ำไห้เสียงดังลั่นด้วยความตกใจ
ราวกับว่าผ่านไปไม่นานที่เธอวูบไปแต่ทว่าการลืมตาตื่นในครั้งนี้ของเธอมันเหมือนกับโลกทั้งใบถูกพังทลายลงตรงหน้า คุณพ่อเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ส่วนคุณแม่ที่โอบกอดเด็กสาวไว้แน่นเพื่อปกป้องก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา
เธอตื่นมาพบกับความจริงที่ว่า...
...เธอไม่เหลือใครในชีวิตอีกต่อไปแล้ว
ภาพเหตุการณ์ในคืนนั้นยังคงเป็นฝันร้ายที่เกวลินไม่อาจลืมได้ มันยังคงตามหลอกหลอนเธออยู่บ่อยครั้ง เธอมักฝันถึงมันในค่ำคืนวันฝนตกและในคืนนี้ก็เป็นอีกคืน
"แม่คะ ฮึก พ่อคะ" เธอร่ำไห้เรียกหาพ่อแม่เหมือนกับวันนั้นไม่มีผิด สาวน้อยวัยยี่สิบยกมือปัดป่ายไปมาเพื่อควานหาที่พึ่งพิง
"เกลคะ" เสียงคุ้นเคยที่คอยเรียกให้เธอตื่นยามฝันร้ายดังขึ้นเสียที เกวลินลุกหาอ้อมกอดอุ่นทันทีที่ลืมตาตื่น นึกขอบคุณในใจที่เขามาเรียกให้เธอตื่นจากฝันร้ายเหมือนอย่างเคย
"พี่เพลิง ฮึก" พระเพลิงและครอบครัวเป็นคนที่ดูแลเธอต่อหลังจากเธอสูญเสียทุกอย่างไปหมด พ่อของอีกคนเป็นเพื่อนสนิทกับพ่อของเธอ และเป็นคนอาสาดูแลเธอต่อเอง
พระเพลิงเป็นทั้งเพื่อน เป็นทั้งพี่ชาย หรือแทบจะเป็นทุกอย่างของเกวลินคนนี้ ถ้ามีใครมาถามเธอก็คงจะพูดได้เต็มปากว่าเธอรักเขา ถึงแม้เขาจะไม่ได้คิดเหมือนกันก็ตาม
"ฝันร้ายอีกแล้วหรอคะ?" น้ำเสียงนุ่มนวลกับมือที่ลูบแผ่นหลังหลังอย่างอบอุ่นเป็นสิ่งที่เขาทำเสมอยามต้องการให้เธอคลายกังวล และมันก็เป็นการกระทำที่ได้ผลดีมาตลอด
"เกลไม่ชอบให้ฝนตกเลย ฮึก ทำไมต้องตกด้วย"
"เราห้ามฝนไม่ให้ตกไม่ได้หรอกนะคะ เกลต้องเข้มแข็ง แล้วผ่านไปให้ได้นะ ทุกอย่างมันถึงจะดีขึ้น"
"ขอบคุณนะคะ ทำให้พี่ไม่ได้นอนอีกแล้ว" สัมผัสอุ่นจากฝ่ามือแตะลงบนกลุ่มผมนุ่ม พระเพลิงแทบจะชินไปซะแล้วกับการต้องลุกมาดูเกวลินทุกคืนที่สายฝนเทกระหน่ำลงมาแบบนี้
"ไม่เป็นไรเลยค่ะ แค่ฝนตั้งเค้าพี่ก็รอดูอยู่แล้วว่าจะต้องมาดู ไม่ต้องร้องแล้วนะคะ พักผ่อนนะ เดี๋ยวจะป่วยอีก" ก็เพราะพระเพลิงอบอุ่นซะขนาดนี้ ทำไมใจดวงน้อยที่ไม่มีที่พึ่งอย่างเกวลินจะไม่ตกหลุมรักเขาละ ทั้งที่อยากให้เขาเป็นของตัวเองแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะพระเพลิงมีหัวใจไว้ให้คนอื่น
"พี่กลับไปพักก็ได้นะคะ เกลดีขึ้นแล้ว"
"พี่จะรอจนกว่าเกลจะหลับ นอนนะคะ" ยามที่เขาคอยเฝ้ามองด้วยสายตาเป็นห่วงกับการกระทำที่แสนใส่ใจทำเอาใจดวงน้อยไม่สามารถเป็นของใครได้อีก
สายฝนที่เทกระหน่ำเริ่มซาลงไปพร้อมกับคนบนเตียงที่หายใจสม่ำเสมอ พระเพลิงไม่ลืมที่จะดึงผ้าห่มคลุมกสยให้น้องแล้วปิดไฟหัวเตียงลงอย่างเก่า
ยืนมองเกวลินที่หลับอยู่ด้วยแววตาเห็นใจ เธอตัวเล็กแค่นี้แต่แบกรับอะไรมากมายเสียจนบางครั้งเขายังนึกว่า ถ้าเป็นเขาเองจะแบกรับทุกอย่างได้เท่าเธอไหม
พระเพลิงไม่เคยรู้สึกว่าการที่พ่อพาเกวลินมาให้ดูแลเป็นการเพิ่มภาระ เธอเป็นเด็กดี เชื่อฟังเขามาก แถมยังเปราะบางในบางเวลาด้วย เขายินดีดูแลเธอเสมอไม่ว่าจะเรื่องไหน แต่ดูแลในฐานะ พี่ชาย คนหนึ่งเพียงเท่านั้น
ไม่ใช่ว่าเขามองไม่ออกว่าเธอคิดกับเขาแบบไหน แต่พระเพลิงมองเธอเป็นเพียงแค่น้องสาวเท่านั้น เขาดูแลเธอมาตั้งแต่อายุสิบสี่ อายุเราห่างกันตั้งสิบปีไม่มีทางเลยที่เขาจะคิดเป็นอื่น
โชคดีหน่อยที่เกวลินไม่เคยเรียกร้องอะไร หรือไม่แม้แต่จะแสดงท่าทีที่ทำให้เขาต้องอึดอัด เขาก็ก็เลยไม่เคยตีตัวออกห่างเธอไปไหน และยังตามดูแลเธอได้เหมือนเดิม
เช้าวันต่อมา
ฟ้าหลังฝนสวยงามเสมอ พระเพลิงเป็นคนสอนให้เกวลินเชื่อและเข้าใจในค่ำนั้น ถึงแม้ชีวิตเธอจะเจอเรื่องเลวร้ายที่ไม่คิดว่าจะมีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้อีก แต่เหตุการณ์นั้นก็ทำให้เธอได้พบกับคนดีอย่างทุกคนในครอบครัวพระเพลิง
"หนูเกลทานเยอะหน่อยสิลูก ผอมไปหมดแล้วเนี่ย" ประโยคที่คุณป้าหทัยแม่ของพระเพลิงบอกกับเธอเสมอ ต่อให้เธอจะทานเยอะมากมายขนาดไหน คุณป้าหทัยก็ยังอยากให้เธอทานเยอะกว่าเดิมอีก
"เยอะอะไรละเนี่ย ผอมจนเหลือแต่กระดูกแล้วลูก"
"คุณแม่ก็พูดเกินไปครับ หุ่นเกลตอนนี้ก็กำลังดีออก เด็กผู้หญิงสมัยนี้กลัวอ้วนกัน คุณแม่อย่าไปบังคับให้ทานนักเลยครับ"
"ตาเพลิงนี่ยังไง แม่ไม่ได้บังคับน้องสักหน่อยนะ"
"อย่าไปถือสาคุณป้าเลยนะลูก คุณป้าแค่อยากให้หนูมีน้ำมีนวลขึ้นอีกหน่อย" เกวลินหันไปยิ้มให้คุณลุงดนัยผู้ที่เธอแสนเคารพ เพราะเป็นคนพาเธอมาอยู่ที่นี่ทั้งที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นญาติด้วยซ้ำ
"ขอบคุณนะคะคุณป้า งั้นเกลจะทานในจานนี้ให้หมดเลย ดีไหมคะ"
"ดีสิลูก ต้องแบบนี้สิ"
"แค่นี้คุณแม่พี่ก็รักจะแย่แล้วค่ะ คิดจะแย่งทำคะแนนหรอคะ?" เกวลินหัวเราะออกมาทันทีหลังจากที่พระเพลิงพูดจบก็โดนป้าหทัยตีไปที่แขนเต็มแรง ทุกครั้งที่เธอโดนพระเพลิงแกล้ง คุณป้าหทัยก็พร้อมจะอยู่ข้างเธอตลอด
"แล้วเรียนเป็นยังไงบ้างลูก ขาดเหลืออะไรไหม บอกลุงได้นะ"
"โอเคดีค่ะคุณลุง ตอนนี้ไม่ขาดเหลืออะไร ขอบคุณนะคะ"
"เป็นสาวแล้วมีหนุ่มมาเกาะแกะบ้างหรือเปล่าคะ?" จู่ๆพระเพลิงก็พูดประโยคนี้ขึ้นมา เธอไม่ได้ตกใจที่เขาถาม แต่กลับรู้สึกดีใจมากกว่า อาการแบบนี้จะเรียกว่าหวงได้ไหมนะ ไม่คิดเข้าข้างตัวเองเกินไปใช่ไหม
"อืมมม ก็มีนะคะ"
"ใครคะ!?"
"ตาเพลิงจะตกใจทำไมเนี่ย น้องน่ารักขนาดนี้มีหนุ่มมาจีบบ้างก็ไม่แปลกหรอก"
"พี่ไม่อนุญาตนะคะ"
"ไม่อนุญาตอะไรคะ?"
"ไม่อนุญาตให้มีแฟนค่ะ ยังเด็กอยู่ตั้งใจเรียนไปก่อน"
"หวงน้องไม่เข้าเรื่อง น้องโตเป็นสา
วแล้วนะ" เมื่อกี้คุณลุงดนัยพูดว่าอะไรนะ พระเพลิงกำลังหวงแบบนั้นหรอ เธอเข้าใจแบบนั้นได้ใช่ไหม
"น้องสาวผมทั้งคนนะครับ" อ่า....ที่แท้ก็แค่เพราะเป็นน้องสาว หวังอะไรอยู่นะเกวลิน
2 เดือนผ่านไปอ้วกกกกกพระเพลิงง่วนอยู่กับการลูบหลังให้คนน้อง เกวลินแพ้ท้องหนักมากทานอะไรแทบไม่ได้ พอได้กลิ่นอาหารก็เอาแต่อาเจียนออกมา บางครั้งทานเข้าไปแล้วได้เพียงพักหนึ่งก็ไปอาเจียนจนหมด ส่งน้ำให้น้องบ้วนล้างปาก พยุงให้มานั่งลงบนเตียงนอนแล้วลูบหัวน้องอย่างเห็นใจ พึ่งเคยเห็นว่าเวลาผู้หญิงท้องลำบากมากขนาดนี้เลยเช็ดน้ำตาที่เอ่อคลอดวงตาให้น้อง แต่เกวลินก็ยิ่งร้องไห้มากกว่าเก่า ดูท่าแล้วอีกคนน่าจะทรมานมากกับอาการแพ้ที่เป็นอยู่ พระเพลิงดึงเกวลินเข้าสู่อ้อมกอดแล้วโยกตัวน้องไปมา พักหลังเธอชอบให้เขากอดโอ๋เธอแบบนี้ แล้วอาการเธอก็จะดีขึ้น"ฮึก ทรมานจังเลยค่ะ""ไม่เป็นไรนะคะ พี่อยู่นี่""เกลขอโทษนะคะ ฮึก ที่บางครั้งเกลงอแงกับพี่เพลิง" คำพูดน้องมีแต่ความรู้สึกผิด น้องงอแงขึ้นแล้วก็เอาแต่ใจบางในบางครั้ง เขาตามอารมณ์ขึ้นๆลงๆของเกวลินแทบไม่ทัน แต่ว่าก็พอเข้าใจได้ถึงอาการของคนท้อง พอเขาคิดว่าทำไปด้วยความรัก เขาก็ไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องอดทนอะไรมากมายนัก แค่ทำไปเพราะรักก็ไม่รู้สึกเหนื่อยแล้ว"ไม่ต้องขอโทษเลยค่ะ เกลจะงอแงเท่าไหร่ก็ได้ พี่รับมือไหวอยู่แล้ว อย่าคิดมากนะคะคนดี" พระเพลิงหอมแก้มน้องแล้วขยับ
"เพลิงไม่อยากช่วยดาแล้วหรอ ทำไมละ?" พระเพลิงถอนหายใจ เขาขับรถมาหาดารกาถึงที่นี่เพื่อเคลียเรื่องระหว่างเขากับเธอ ในตอนนี้เขาจัดการแฟนเก่าเธอให้แล้ว และมันคงไม่กล้ามายุ่งด้วยอีก ดารกาเองก็ดีขึ้นมาก ร่องรอยแผลก็จางไปแล้ว เขาไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องดูแลอีกคนต่อ"เราไม่อยากให้น้องคิดมาก""เพลิงรักน้องเกลไปแล้วจริงๆหรอ เพลิงจะลืมดาง่ายๆได้ยังไง ทั้งที่เพลิงรักดามากขนาดนั้น" "เพลิงรักน้อง รักมาก แล้วเพลิงก็รู้นะว่าดาคิดอะไรถึงได้กลับมาที่นี่ เพราะรู้อยู่แล้วใช่ไหมว่ายังไงเพลิงก็ไม่มีวันหันหลังให้ดาได้ เพราะดารู้อยู่แล้วว่าต่อให้วันหนึ่งดาไม่เลือกเพลิงอีกครั้ง เพลิงก็จะไม่ไปไหน แล้วรอดาอยู่ตรงนี้"ใช่ ดารการู้ดีอยู่แล้วว่าพระเพลิงคนนี้รักมากแค่ไหน เขายอมทำได้ทุกอย่าง และคอยยืนเคียงข้างอีกคนมาตลอด ไม่ว่าจะกี่ครั้งที่ดารกาหันมา ก็จะเจอเขายืนรออยู่เสมอ แต่พระเพลิงในตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้ว เขามีสิ่งที่มีค่ากับชีวิตและหัวใจที่มากกว่านั้น และเขาไม่มีวันยอมสูญเสียมันไปแน่"แต่เพลิงรักดามากไม่ใช่หรอ มั่นใจหรอว่าจะขาดดาได้อ่ะ""ตอนดาไม่อยู่ เพลิงได้เรียนรู้อะไรอีกเยอะเลยรู้ไหม เพลิงไม่รู้สึกว่ากา
"ก่อนเกลจะโกรธพี่ เกลถามพี่ก่อนไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทำไมพี่ถึงไปช่วยดา ทำไมพี่ถึงเจ็บตัวแบบนี้ แล้วเกิดอะไรขึ้นกับดาบ้าง เกลถามพี่บ้างหรือยัง ไม่ใช่คิดถึงแต่ความรู้สึกตัวเอง อยากจะโกรธ จะงอนอยู่ท่าเดียว""ตาเพลิง!" เกวลินได้แต่มองเขาด้วยแววตาวูบไหว ในใจดวงน้อยปวดหนึบไปหมดในยามที่ได้ยินคำพูดเขา สรุปว่าการที่เธอนั่งรอเขาแล้วเขาไม่มารับ การที่เธอไม่แม้แต่จะถามเพราะเธอไม่ได้อยากรับรู้ว่าเขาห่วงดารกาแค่ไหนกลายเป็นความผิดอีกแล้วใช่ไหม พระเพลิงกำลังพูดเหมือนกับว่าเธอเห็นแก่ตัว งอแงเอาแต่ใจ ทั้งๆที่ปกติเธอไม่ใช่คนแบบนี้เลย เกวลินยอมพระเพลิงทุกอย่าง และยอมมันมาตลอด ถึงแม้ว่าการยอมของเธอจะทำให้เธอเจ็บ แต่ขอแค่เป็นพระเพลิงเธอก็พร้อมที่จะเจ็บแล้วยอมให้เขาทุกอย่าง"ดาถูกแฟนทำร้ายอีกแล้ว พี่ก็เลยไปจัดการมัน ถึงได้ลืมนัดเกล เหตุผลแค่นี้ไม่พอให้เกลเข้าใจพี่หรือไง""แล้วทำไมพี่จะต้องไปจัดการ""ก็มันทำดาเจ็บ!""เขาก็เคยทำเกลเจ็บเหมือนกัน!! เกลเจ็บกว่าที่พี่ดาเจ็บด้วยซ้ำ แต่พี่ไม่เห็นจะไปจัดการให้เลย!! พี่ดาโดนไม่ถึงครึ่งของที่เกลโดน พี่ก็ไปเจ็บตัวเพื่อช่วยเอาคืนให้ แล้วแบบนี้พี่จะให้เกลคิดยังไง!
พระเพลิงยืนผูกเนกไทอยู่หน้าตู้กระจก เขาจัดแจงเสื้อผ้าตัวเองให้มีระเบียบก่อนจะหันไปมองน้องที่ยังนอนซุกอยู่ใต้ผ้าห่ม วันนี้เป็นวันหยุดเขาก็เลยไม่อยากปลุกน้องขึ้นมาแต่เช้า เดินไปนั่งลงบนเตียงแล้วหอมแก้มนุ่มไปหนึ่งฟอด แค่เพียงได้หอมแก้มก็เหมือนกลับได้พลังมาเต็มเปี่ยม กำลังจะลุกขึ้นก็โดนน้องรั้งแขนเอาไว้ก่อน ทั้งที่เขาพายามระวังแล้วแท้ๆ แต่ก็กวนจนน้องตื่นจนได้"พี่กวนหรอคะ?""พี่เพลิงจะไปไหนแต่เช้าคะ วันนี้.....""พี่แค่จะเข้าไปเซ็นเอกสารที่บริษัทหน่อยค่ะ เดี๋ยวก่อนเที่ยงจะมารับ เกลแต่งตัวรอนะคะ" เกวลินอมยิ้มดีใจ ตอนแรกคิดว่าเขาจะลืมไปแล้วว่าวันนี้เป็นวันครอบรอบวันตายของพ่อแม่เธอ แล้วพระเพลิงก็เป็นคนสัญญาไว้ว่าจะพาเธอไปทำบุญ พระเพลิงลูบหัวเธอแล้วโยกไปมา เขาใช้นิ้วจิ้มที่แก้มแล้วหันมาหาเธออย่างไม่พูดอะไร เกวลินรู้ดีว่าเขาหมายถึงอะไรก็เลยขยับไปหอมแก้มเขา แล้วพระเพลิงก็หอมแก้มเธอตอบเธอนอนหลับไปอีกครั้งเพราะยังรู้สึกว่าร่างกายอ่อนเพลียมาก ก่อนจะตื่นมาอีกรอบช่วงสายก็รีบอาบน้ำแต่งตัวรอพระเพลิงตามนัด ชุดเดรสสีชมพูอ่อนที่เขาซื้อให้ถูกเลือกมาใส่ในวันนี้ ทั้งสร้อยคอและสร้อยข้อมือก็เป็นของขวัญที่ได
"หนูเกลลูก เลือดไหลแล้ว" เกวลินก้มมองนิ้วตัวเองที่คุณป้าหทัยดึงไปดู เธอกำลังช่วยคุณป้าปอกเปลือกกระเทียมแต่เพราะเหม่อเลยไม่ทันระวังทำให้มีดบาดลงบนนิ้ว คุณป้าเอากระดาษมาให้จับไว้ก่อนจะรีบลุกไปเอาพลาสเตอร์ให้เธอเปิดออกดูแผลแล้วกดเอาไว้อีกรอบ ถึงบาดแผลจะไม่ใหญ่มากแต่ก็เยอะพอสมควรจนเลือดไหลออกมาเยอะ ระหว่างที่มัวก้มมองดูมือตัวเองจู่ๆก็ถูกใครบางคนจับมือเธอไปดูบ้าง เงยขึ้นไปถึงเห็นว่าเป็นคนที่เธอไม่ได้คุยกับเขามาสามมาสี่วันได้เธอไม่รู้เลยว่าช่วงนี้พระเพลิงกำลังยุ่งเรื่องงานหรอยุ่งเรื่องใครอีกคนอยู่ เขาออกจากบ้านไปแต่เช้าทุกวัน เย็นบางวันกลับมาบ้านแล้วก็ออกไปข้างนอกอีกครั้งจนเราแทบไม่ได้คุยกัน ช่วงนี้ต่างคนต่างนอนที่ห้องของตัวเอง และไม่มีแม้แต่ข้อความของเขาที่ส่งมาบอกเธอถึงเหตุผลที่กับบ้านดึกเลยแม้แต่ข้อความเดียว"เจ็บไหมคะ?""ไม่ค่ะ" คุณป้าหทัยกลับมาพร้อมกับพลาสเตอร์ยา พระเพลิงรับมาแล้วติดให้เธออย่างระวัง เกวลินในตอนนี้นิ่งเงียบมาก น้องไม่สดใสเหมือนก่อนหน้านี้เลยสักนิด ต้นเหตุมันก็คงมาจากเขา ที่ไม่เข้าหาไม่ใช่ว่าไม่แคร์ แต่เขาแค่อยากให้น้องเข้าใจด้วยตัวเอง อย่างน้อยเกวลินควรโตมากพอที่จะเ
"นะค๊าา พี่เพลิงพาเกลไปซื้อหน่อยนะ"พระเพลิงนั่งมองคนที่กำลังออดอ้อนเขาอยู่ เกวลินกอดแขนเขาไว้แน่นแล้วเอาหน้าถูไถไปมาราวกับว่าอยากให้เขาตอบตกลง น้องมาขอให้เขาพาไปซื้อหนังสือเล่มใหม่ในงานหนังสือที่จัขึ้นวันนี้ ไม่ใช่ว่าพระเพลิงจะไม่พาไปหรอก เขาก็แค่อยากจะเห็นว่าน้องจะอ้อนเขาให้ตกลงได้ยังไงก็แค่นั้นเขาตีหน้านิ่งแล้วทิ้งตัวพิงโซฟาไป ทำเหมือนว่ากำลังไม่สนใจในสิ่งที่น้องพูดเลยสักนิด เกวลินพยายามเขย่าแขนเขาอยู่พักหนึ่งแล้วสุดท้ายน้องก็ผละตัวออกไป พระเพลิงรู้สึกได้ถึงความเงียบผิดปกติก็เลยเหลือบมอง เกวลินนั่งอยู่ข้างเขาไม่ได้ไปไหน แต่เธอเอาแต่ก้มหน้า ไหล่เล็กสั่นเทิ้มทำให้เขาตาโตด้วยความตกใจ อย่าบอกว่าน้องร้องไห้อีกแล้วนะ"เกลคะ ร้องทำไม?" พระเพลิงรีบขยับไปหาน้องแล้วดึงมากอดเอาไว้ ลูบหัวน้องปลอบโยนแล้วได้แต่โทษตัวเอง แต่เรื่องแค่นี้ไม่น่จะทำให้เกวลินร้องไห้ได้ด้วยซ้ำ แต่ไหงถึงเป็นแบบนี้ไปได้ เขาว่าเขาก็ไม่ได้แกล้งน้องแรงเลยสักนิดเกวลินโผเข้ากอดเขา เธอสะอึกสะอื้นอย่างน่าสงสารจนเขาอดจะรู้ผิดไม่ได้ แต่พอผละออกมาเกวลินก็เป็นฝ่ายขอโทษเขาก่อน เธอเอาแต่พูดว่าไม่ได้อยากเป็นแบบนี้แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม






Comments