สมัตถ์กำลังจะล้มตัวลงนอนในตอนที่ศรีภรรยาแต่งตัวสวยและเซ็กซี่ ราตรีบอกว่าเพื่อนนัดออกไปเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันเกิด เขาอยากห้ามหล่อนหรอกนะ แต่นี่เป็นเพียงไม่กี่ครั้งที่หล่อนจะได้ออกไปเปิดหูเปิดตา ตอนที่บริหารโรงแรมช่วยเขานั้น หล่อนทำหน้าที่เลขาได้อย่างดีเยี่ยมจนแทบไม่มีเวลาเข้าแม้แต่ร้านเสริมสวยด้วยซ้ำ นับว่านี่คือโอกาสที่อยู่ในช่วงวิกฤติเลยล่ะ
เขาลุกไปหาภรรยาที่หน้ากระจกเงา กอดเอวเจ้าหล่อนไว้แล้วก้มลงไปหาซอกคอขาวๆ บรรจงจุมพิตและซุกไซ้อย่างที่เคยทำยามต้องการปลุกเร้าสาวเจ้าให้มีอารมณ์พิศวาส
“อือ...ไม่เอานะคะ ไนท์รีบไป สามทุ่มแล้ว”
“ไม่ต้องไปไม่ได้เหรอ วันนี้ผมเครียดจัง คุณอยู่กับผมดีกว่า” ร้องขอแล้ววางจมูกคมๆ ลงกับแก้มบาง สูดดมแรงๆ อย่างหมั่นเขี้ยว กระโปรงที่หล่อนสวมนั้นสั้นเหนือเข่าขึ้นมามากโข เขาสามารถลูบไล้ต้นขางามได้ง่ายๆ เลย
“อย่าค่ะสมัตถ์ ไนท์รีบนะคะ กลับมาค่อยมาต่อนะ...อือ...” บอกอย่างนั้นแต่ครางอืออาเมื่อสามีสอดมือเข้าไปใต้กระโปรง ฝ่ามือเขากอบกุมเนินนุ่มที่ปกคลุมด้วยผ้าบางๆ ของกางเกงชั้นใน สมัตถ์พยายามปลุกอารมณ์เธอ แต่มันช่างไม่เหมาะไม่ควร ตอนนี้เธอรีบนะ เพื่อนๆ รออยู่ที่ผับแล้ว
“นิดเดียวที่รัก ขอสิบนาที”
“ห้านาทีก็ไม่ได้ เอามือออกสิคะ” บอกเขาแล้วดึงมือเขาออกมาวางบนหน้าอกด้านซ้ายของตัวเอง สมัตถ์เผลอบีบมันแรงๆ
“กลับมาจะชดเชยให้นะคะ ไม่ต้องรอนะ หลับไปได้เลย เดี๋ยวไนท์จะกลับมาลักหลับนะคะ” ศรีภรรยาเอ่ยอย่างทะเล้นแล้วเขย่งเท้าจุมพิตปลายคางสามี ก่อนจะคว้ากระเป๋าถือใบน้อยแล้วรีบออกจากห้องไปพร้อมรอยยิ้มสดใส เหลือเพียงฝ่ายสามีที่อารมณ์ค้างเติ่งเพราะยังมีความต้องการ
“ให้ตายสิ!” เขาเสยผมแรงๆ แล้วหลับตาลงแน่นๆ พยายามไม่นึกถึงความนุ่มอุ่นที่ฝ่ามือเพิ่งได้สัมผัส อารมณ์อันกระสันรัญจวนนั้นกำลังทำร้ายเขาอย่างหนักหน่วงจนบางสิ่งที่อยู่ระหว่างซอกขาพองตัวเติบใหญ่ขึ้นมา
สมัตถ์เข้าไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำอีกรอบ ก่อนจะลงไปข้างล่างเพื่อหาเบียร์สักกระป๋อง มันอาจช่วยให้เขาหลับดีขึ้น หารู้ไม่ว่าตอนที่กลับมาห้องตัวเองนั้น อาการจะหนักยิ่งกว่าเดิม
___________
สามทุ่มเศษๆ แล้วตอนที่เทียนหยดอยู่ในชุดเสื้อกล้ามกางเกงขาสั้น เมื่ออยู่ในชุดที่พร้อมนอนเธอเลยไม่จำเป็นต้องสวมชุดชั้นใน กางเกงนอนแบบสตรีขาสั้นคลุมเพียงต้นขา เนื้อผ้าเรียบลื่นรัดรึงสะโพกงาม ตัวเสื้อนั้นเป็นเสื้อกล้าม รัดรึงอกอวบจนแลเห็นปลายถันรำไร เทียนหยดวางโทรศัพท์มือถือลงข้างหมอน อยากนอนอยู่หรอกแต่มันหลับไม่ลง ในห้องนี้ร้อนเหลือเกิน มีเพียงพัดลมตัวเล็กๆ ที่ไม่ได้ทำความเย็นอะไรมากมาย แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เธอปัดหน้าจอเพื่อรับสาย เป็นสายจากลูกค้าของเธอเอง ในเวลาสามทุ่มนั้น แม่ค้าออนไลน์ย่อมรู้ดีว่าสามารถเกิดการซื้อขายได้เสมอ
“สวัสดีค่ะ...ใช่ค่ะ” รับสายแล้วกรอกเสียงส่งไป ลุกจากที่นอนไปเดินวนไปวนมาเมื่อการสนทนาทำท่าจะยืดเยื้อและตกลงกันไม่ได้ ฝ่ายโน้นมีความลังเลในสิ่งที่เธอเสนอไป และเธอเองก็กังวลหนักด้วยว่าอยากได้ยอดสั่งซื้อจากลูกค้ารายนี้
“วัตถุดิบนำเข้าจากฝรั่งเศสนะคะพี่ ใช้ของดีเกรดพริเมี่ยม อย่างพี่นี่ขายได้แน่นอน ฉันคิดว่าแป้งของบล็องค์เต้จะไปได้ดี เราจะเริ่มผลิตกันภายในเดือนหน้า ถ้าพี่ตกลงรับแป้งของเราไปเปิดตัว ฉันจะคิดราคาให้แบบพิเศษที่ไม่เหมือนดีลเลอร์รายอื่น เพราะพี่คือรายแรกที่ทำสัญญาซื้อขายกับเราค่ะ”
เทียนหยดเสนอเงื่อนไขที่แม่ค้าออนไลน์รายใหญ่ฟังแล้วอยากจะฮุบข้อเสนอนั้น บล็องค์เต้ของเธอทำเครื่องสำอางหลายชนิด แต่เพิ่งจะเริ่มทำแป้งตลับ เดี๋ยวนี้เมืองไทยนิยมเครื่องสำอางนำเข้าจากเกาหลี มันมีออกเกลื่อนถนน ราคาถูกบ้างแพงบ้าง เธอคิดไม่เหมือนคนอื่น ถ้าเธอพาแป้งตลับของบล็องค์เต้เข้าตีตลาดเมืองไทยในราคาที่สาวออฟฟิศสามารถซื้อหาได้อย่างไม่เหนือบ่ากว่าแรง มันน่าจะดีกว่าแบรนด์ของเกาหลี ขายในราคาส่งสักเจ็ดร้อยบาทน่าจะดี ที่เหลือก็เป็นส่วนที่ต้องช่วยแม่ค้าออนไลน์ทำการตลาด ราคาที่ปล่อยออกไปน่าจะอยู่ที่ หนึ่งพันเศษๆ มันต้องไปได้สิ คนไทยชอบลองของใหม่ เทรนด์ปีหน้าฝรั่งเศสอาจจะกลับมาได้รับความนิยมก็ได้
“ค่ะ...มั่นใจเลยค่ะพี่ เรามีงบสำหรับทำการตลาดกว่าสามล้านบาท เราเตรียมพร้อมหมดแล้ว” อธิบายเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อ แต่ต้องปาดเหงื่อเบาๆ เพราะพัดลมตัวน้อยไม่ทำให้เธอเย็นขึ้นมา ให้ตายเถอะ เธอกำลังทำการเจรจาซื้อขายสินค้าที่มีมูลค่ามากกว่าสิบล้านในห้องที่เปิดแค่พัดลมตัวเล็กๆ ตัวเดียว
หญิงสาวเปิดประตูออกมาเมื่อทนความร้อนไม่ไหว บ้านปูนนั้นตอนกลางวันก็พออยู่ได้ แต่พอกลางคืน มันจะคายความร้อนจากดวงอาทิตย์ออกมา ไม่ต้องแปลกใจหรอกว่าทำไมเธอถึงได้ร้อนจนทนไม่ไหว
อากาศที่สวนด้านนอกนั้นเย็นสบายกว่าในห้อง เธอเจรจาไปเรื่อยๆ หันซ้ายแลขวาก็ไม่เห็นคนอื่น คาดว่าคงเข้านอนกันหมดแล้ว
เธอนึกถึงแอร์เย็นๆ ที่คอนโดฯ ของตัวเอง แต่ก็กลัวว่ามารดากับน้องชายจะถูกรังแกเลยต้องทนอยู่ไปก่อน คิดว่าจะอยู่ไปสักระยะ ให้มั่นใจว่าคนบ้านนี้ไม่มีพิษภัยจริงๆ ถึงจะย้ายกลับไปอยู่คอนโดฯ อย่างเก่า
สมัตถ์กระดกเบียร์อึกสุดท้ายจนเกลี้ยงกระป๋อง เขาขว้างมันลงถังขยะภายในห้องครัว กะว่าจะขึ้นนอนหลังจากร่างกายมียานอนหลับขนานเอกเป็นตัวช่วย ทว่าพอมองผ่านกระจกหน้าต่างห้องครัวออกไป ร่างอรชรที่เดินอยู่ริมสนามก็ทำให้เขาต้องเปลี่ยนใจ เขาเปิดประตูห้องครัวออกมา เดินช้าๆ ไปหาหล่อน หล่อนยังไม่เห็นเขา ยังมีความสุขอยู่กับการคุยโทรศัพท์แบบคุยไปยิ้มไป คงจะคุยกับคนรักสินะ เขายืนอยู่ใต้ร่มอโศกต้นใหญ่ ใช้เงาของมันพรางกาย ช่วงขาเรียวๆ ของหล่อนนั้นช่างยั่วใจคนมองเหลือเกิน
ลูกบ้านนี้ได้แม่กันหมดหรือไงถึงได้มีความขาวที่น่าพิสมัยเช่นนี้ หล่อนตัวสูง แต่ยังไม่สูงเท่าเขา พวงผมที่รวบเป็นหางม้าสูงอยู่เป็นนิตย์ บัดนี้ปล่อยสยายเต็มแผ่นหลัง ผมหล่อนยาว ดำขลับและมันวับ หล่อนเดินไปเดินมา และในจังหวะที่หันหน้ามาทางนี้ ก็ทำให้เขาอดใจไม่ไหวต้องเดินไปพิสูจน์บางอย่างใกล้ๆ“อ่า...ค่ะๆ สองหมื่นตลับนะคะ เดี๋ยวฉันจะให้เจ้าหน้าที่ทำเอกสารแล้วส่งเมลไปให้ จ่ายก่อนครึ่งหนึ่งตามที่ตกลงไว้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ สวัสดีค่ะ”เทียนหยดรีบวางสายลูกค้าเมื่อเห็นร่างสูงของสมัตถ์เดินมาทางนี้ ใบหน้าเขาเรียบเฉยจนเดาอารมณ์ไม่ถูก ทว่าเมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้ จึงได้เห็นว่าหน้าเขาแดงนิดๆ และมีกลิ่นเบียร์จางๆ โชยมาหญิงสาวเดินหนีก่อนที่เขาจะมาถึงตัว“เดี๋ยวสิ จะรีบไปไหน กลัวหรือไง” ถามแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ กวาดตามองร่างน้อยผ่านๆ และก็มั่นใจว่าใต้เสื้อกล้ามตัวน้อยนั้นหล่อนมิได้สวมเสื้อชั้นใน ปลายถันเล็กๆ ดุนดันเสื้อออกมาจนเห็นเป็นรูปทรง คอเสื้อของหล่อนไม่ได้เว้าแหว่งอะไร มันปกปิดเหนือเนินหน้าอก แต่รัดรึงเห็นรูปทรงชัดเจน หน้าอกหล่อนใหญ่พอตัว ใหญ่กว่าของราตรีเสียอีก และให้ตายเถอะ บางสิ่งบางอย่างที่อยู่ระหว่างซอ
EP 3พิษรัก_________อรุณรุ่งวันใหม่สตรีร่างบอบบางในชุดสูทแบบสตรีสีเทาอ่อน กำลังก้มๆ เงยๆ อยู่ข้างรถของตัวเอง กางเกงผ้าไหมแบบพอดีตัวช่วยส่งให้เรียวขางามนั้นดึงดูดใจคนมอง ทว่าคนคนนั้นคงไม่ใช่สมัตถ์ ความไม่พอใจยังอัดแน่นอยู่ในอกเขาจนแม้แต่ความงามของเทียนหยดก็ไม่สามารถลบล้างมันไม่ได้ ใช่แล้วล่ะ ศรีภรรยาของเขากลับมาตอนรุ่งสาง และหล่อนปฏิเสธที่จะร่วมรักกับเขา มันทำให้เขาหงุดหงิดเป็นบ้า“คุณสมัตถ์ เดี๋ยว!”เทียนหยดร้องเรียกคนที่กำลังเดินไปขึ้นรถของตัวเอง สมัตถ์อยู่ในชุดที่เรียบร้อยอย่างนักธุรกิจผู้ช่ำชอง ทว่าใบหน้าเขาไม่มีความสดใสหลงเหลืออยู่ มันบูดบึ้งไร้รอยยิ้ม“อะไร!” เขาถามห้วนๆ หันหน้าหนีไม่ยอมสบตาหญิงสาว“คือ...รถฉันสตาร์ตไม่ติด ขอติดรถคุณไปบริษัทด้วยได้ไหม” บอกเขาอย่างเกรงๆ “เอ่อ...ถ้าคุณไม่สะดวก ฉันนั่งแท็ก...”“เธอขับ”ฟิ้ว...กุญแจรถถูกโยนมาใส่ร่างบางของเทียนหยด หญิงสาวหน้ายุ่งเพราะเกือบรับมันไม่ทันหนุ่มสาวขึ้นนั่งบนรถเรียบร้อย สมัตถ์ตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง ส่วนเทียนหยดเริ่มเคลื่อนรถออกนอกรั้วบ้านไปช้าๆ หญิงสาวรู้สึกได้ถึงความผิดปกติของคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาดูเงียบจนเกินไป
“โธ่...แม่คะ หนูเป็นแฟนเขานะ มีอะไรก็ต้องช่วยกัน”“โอ๊ย...ฉันเบื่อฟังแล้วยังเทียน แกอย่าให้ความรักมันบังตาได้ไหม เรื่องอะไรแกก็ฉลาดนะ แต่ทำไมกับเรื่องผู้ชายแกถึงได้โง่นักนะ! เบื่อ! ฉันเบื่อ!”ผกากรองเท้าสะเอวร้องใส่หน้าบุตรสาว ลูกนั้นเราเลี้ยงได้แต่ตัวจริงๆเทียนหยดไม่หือไม่อือ ไม่เถียงมารดาแม้ว่าจะโดนด่าก็ตาม“รอบนี้มันจะเอาเท่าไหร่กันแน่”คนถูกถามไม่อยากตอบ แต่คนถามคงไม่เลิกราง่ายๆ สุดท้ายเลยต้องบอกตัวเลขออกไป“สองล้านค่ะ”“อื้อหือ...” เสียงสมัตถ์ครางออกมาอย่างตื่นตะลึง เขาไม่เชื่อหรอกว่าเทียนหยดกับแฟนหนุ่มจะเป็นเพียงแค่คนรัก พวกเขาอาจจะถึงขั้นสามีภรรยา เหลือแค่ยังไม่ได้ตบแต่งเป็นเรื่องเป็นราว ไม่อย่างนั้นเจ้าหล่อนจะกล้าทุ่มทุนขนาดนี้หรือ“แกเห็นไหม แกอายเขาไหม ฉันเคยเห็นแต่ผู้ชายทุ่มให้ผู้หญิง มีแต่แกนี่แหละที่ทุ่มให้ผู้ชาย ระวังนะยัยเทียน มันทรยศแกขึ้นมาเมื่อไหร่ละก็ แกตายทั้งเป็นแน่ๆ น้ำตาได้เช็ดหัวเข่าก็คราวนี้แหละ”คนถูกประชดส่ายหน้ารัวๆ ขยับไปหามารดาหมายจะกอดนางปลอบโยน แต่สุดท้ายแล้วมารดาก็บ่ายเบี่ยง หน้าตาติดโกรธเคืองไม่หาย“เรารักกันนะคะแม่ ขอเวลาให้จีเก็บตังค์ก่อน รับรองว่า
EP 3/3 พิษรักเทียนหยดยังเงียบ จ้องหน้าเขาราวกับอยากจะถามให้ชัดว่าลิปสติกที่เธอเจอใต้โซฟาเป็นของใคร ทว่าสิ่งที่เอ่ยออกมากลับมีแค่…“ห้องรกค่ะ”“ขอโทษครับ...แม่บ้านที่เคยโทรเรียกไม่ว่างมาทำให้น่ะ ไปต่างจังหวัดสองสามวันแล้ว” จีรวัฒน์แก้ต่าง เขาลุกมานั่งพิงหลังกับหัวเตียง ลูบหน้าลูบตาแรงๆ อย่างต้องการเรียกหาความสดชื่น“ก็อย่าทำรกสิคะ”“โธ่เทียน...มันรกเอง จริงๆ” ว่าแล้วดึงเทียนหยดลงมานั่งด้วยกัน กอดร่างบางไว้ชั่วอึดใจก่อนที่เจ้าของจะดึงมือเขาออก “โอย...กอดก็ไม่ได้” ท้วงอย่างงอนๆ“แต่งเมื่อไหร่จะให้กอดค่ะ ตอนนี้เก็บค่าสินสอดไปก่อนนะคะ” คนสวยว่าแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ ไม่รู้ว่าชาตินี้จะได้แต่งงานกับจีรวัฒน์ไหม เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาดูเหมือนว่าเงินค่าสินสอดของเธอนั้นจะไม่งอกเงยขึ้นมาเลย มีแต่เงินที่จีรวัฒน์หยิบยืมไปต่างหากที่มันเพิ่มขึ้นๆ พวกเธอรู้จักกันตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัย ฐานะของจีรวัฒน์ไม่ค่อยดีนัก แต่เธอไม่ได้เอาส่วนนั้นมาเป็นข้อแม้ในการคบหา เขารักเธอ และคอยดูแลเธอมา พวกเราดูแลกันและกันในฐานะคนรัก คนรักจริงๆ เพราะไม่ได้มีเรื่องอย่างว่าเข้ามาเกี่ยวข้องเลย เธอรู้ว่าจีรวัฒน์เองก็ต้องการ แต
“แม่ไม่ใช่คนเห็นแก่เงินนะคะ เทียนเชื่อว่าถ้าจีจริงใจกับเทียน รักเทียน และไม่ทรยศหักหลังเทียน ทำให้แม่มั่นใจว่าจีดูแลเทียนได้ เทียนว่าแม่คงไม่รังเกียจจีหรอกค่ะ มันอยู่ที่จีต่างหาก อยู่ที่ว่าตอนนี้ จีเต็มที่แค่ไหนกับสิ่งที่เราเป็นอยู่” เทียนหยดเอ่ยให้แฟนหนุ่มได้คิดจีรวัฒน์หน้าเจื่อนไปนิดหนึ่ง ทว่าก็สามารถทำให้มันเป็นปกติได้โดยไว“ไม่เอาน่า ไม่เอาเรื่องเครียดนะ ไปดูหนังกันดีกว่า เดี๋ยวไม่ทันรอบ เร็วเข้า” เขาเร่งเร้าด้วยไม่อยากตอบคำถามใดๆ ที่เทียนหยดเอ่ยมา เขายังไม่มีคำตอบให้หล่อนหรอก เขาชอบสิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้ ไม่ต้องดิ้นรนอะไรมากมาย ทำงาน ได้เงิน เที่ยว ถ้ามีปัญหา เขาก็มีคนรักที่แสนดีอย่างเทียนหยดนี่ไงที่คอยช่วยทุกทาง แล้วเขาจะยังดิ้นรนให้ตัวเองต้องเหนื่อยทำไมเล่า ยิ่งการดิ้นรนเอาชนะใจว่าที่แม่ยายด้วยแล้ว มันไม่ชวนให้กระตือรือร้นเลยเทียนหยดส่ายหน้ายามได้ฟังวาจาว่าที่พ่อของลูก เธอคิดถูกไหมนะที่มาคบคนคนนี้ เขาดูเหมือนไม่อยากใช้ชีวิตร่วมกันกับเธอเลย เขายังคล้ายชายที่เธอเพิ่งคบหาเมื่อหลายปีก่อนไม่มีผิด ไม่มีความกระตือรือร้นในสิ่งใด ไม่ขวนขวาย ไม่ยอมคิดหาเงิน เอาแค่พอมีใช้ไปวันๆ ที่สำคั
หมับ!จู่ๆ แขนเรียวของบุตรสาวที่รักก็วางพาดที่รอบเอว ก่อนที่คนตัวเล็กจะขยับมานอนชิดนางในท่ากอดจากด้านหลัง“คิดถึงแม่จัง ไม่ได้กอดตั้งนานแล้วเนาะ” บอกมารดาพลางสูดเอากลิ่นหอมๆ จากแผ่นหลังนางผ่านชุดนอนผ้ามันลื่น“อือ...” เอ่ยเพียงเท่านั้นแล้วตบเบาๆ บนหลังมือของบุตรสาว ด้วยว่าความใกล้ชิดฉันมารดากับบุตรถูกกางกั้นด้วยว่ากาลเวลาพรากมันไปชั่วเวลาหนึ่ง นางจึงขัดเขินไม่น้อยที่ถูกกอด เทียนหยดเองก็มิใช่เด็กชายเช่นโอบนิธิ หล่อนโตเป็นสาวพอที่จะออกเรือนแล้วด้วยซ้ำ “เอาแขนออกเลย ร้อน” นางว่าแล้วยกแขนบุตรสาวคืนเจ้าของ“โธ่...แม่อ่า...งก กอดนิดกอดหน่อยก็ไม่ได้” บุตรสาวทำเป็นบ่นน้อยใจ“น้อยๆ หน่อยยัยเทียน จะนอนไหมฮึ ถ้าไม่นอนก็ลงไปนอนข้างล่างเลย”เมื่อถูกมารดาขู่เข้าให้ เทียนหยดเลยต้องตั้งหน้าตั้งตานับแกะในใจ จะได้พาตัวเองเข้าสู่นิทราอันแสนสุข และจากความเหนื่อยล้าในเรื่องงานและเรื่องหัวใจ หญิงสาวเลยผล็อยหลับไปในเวลาต่อมาผกากรองพลิกกายมาหาบุตรสาว แสงโคมไฟจากหัวเตียงที่ยังเรื่อเรืองทำให้แลเห็นใบหน้าขาวของเทียนหยดได้ชัดเจน เทียนหยดงดงามเสมอ หล่อนมีรูปเป็นทรัพย์ มีสมองอันชาญฉลาด บางครั้งนางก็ไม่พอใจที่เทีย
“ให้ตายเถอะ! บ้าชะมัด” หญิงสาวสบถอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี จับดูสองแก้มก็รู้ว่ามันร้อนยิ่งกว่าตอนที่เห็นสมัตถ์จูบกับภรรยาเขาที่สนามเมื่อคืนเสียอีก“เธอนั่นแหละบ้า มาทำอะไรที่นี่ ฉันนึกว่าไม่มีคนอยู่”“ฉันก็นึกว่ายังไม่มีใครตื่นนี่” เธอเถียง กอดอกแน่นเมื่อรับรู้ถึงความโล่งของกายสาว“ฉันมาหากาแฟดื่ม” เขาแก้ต่าง“เหมือนกัน”“แต่เธอควรสวมอะไรที่มากกว่าชุดคลุมอาบน้ำที่ไม่มีชั้นใน”“บอกตัวเองก่อนไหมฮะ! ฉันรู้นะ! มันแข็ง!” โพล่งออกไปด้วยเสียงที่ดังมากกว่ากระซิบเพียงเล็กน้อย ทุกถ้อยวาจาที่เอ่ยออกไปก็อยากตะโกนดังๆ หรอกนะ แต่ติดที่ว่ากลัวคนอื่นจะมารับรู้สถานการณ์นี้ด้วยเท่านั้นเองสมัตถ์หน้าแดง วาจาห่ามๆ ของหล่อนปลุกบางอย่างในตัวเขาให้ลุกฮือ“อะไรแข็งล่ะ” ถามหน้าด้านๆ รู้สึกสนุกยามได้แกล้งเทียนหยด“ก็...ก็...โอ๊ย...ฉันไม่พูดหรอก ลามก! อีตาบ้า!”แล้วเทียนหยดก็สะบัดก้นเดินจากไปอย่างเคืองๆ ส่วนสมัตถ์ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ตรงนั้น ยิ้มในความตรงไปตรงมาของแม่ตัวร้าย“ให้ตายเถอะ ยิ้มอะไรวะ” ถามตัวเองทั้งที่ยังยิ้มอยู่ ก่อนจะเดินเข้าไปในส่วนของบาร์เล็กๆ แลหาเครื่องมือทำกาแฟสักแก้ว ทว่าบนเคาน์เตอร์ที่แลเห
“แม่คะ ข้าวเช้า?”“ไม่ ฉันรีบ แกกินไปเถอะ ไปเร็วตาโอบ” ผกากรองพาโอบนิธิเดินออกไป เทียนหยดไม่ทันได้ทักทายน้องชายด้วยซ้ำศรีสุรางค์เดินลงบันไดมาพร้อมหลานชาย ทั้งสองจับจูงกันเข้ามาในห้องอาหาร พากันนั่งลงก่อนที่วงมื้อเช้าจะเริ่มต้นขึ้น สมัตถ์เพียรตักกับข้าวลงในถ้วยข้าวต้มจืดๆ ให้ภรรยา ท่าทีรักใคร่ห่วงใยนั้นทำให้เทียนหยดอดสมเพชไม่ได้ เพราะถ้าราตรีมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับจีรวัฒน์จริงละก็ สมัตถ์ก็คงเข้าข่ายถูกสวมเขาโดยไม่รู้ตัวเลย แต่บอกไปคงไม่มีใครเชื่อ ในเมื่อราตรีไม่ได้แสดงออกให้คนอื่นรู้เลยว่าหล่อนมีรสนิยมนอกใจสามี และหากบอกสมัตถ์ในเรื่องนี้ คงเป็นเธอมากกว่าที่อาจโดนด่าเปิงกลับมา ให้สืบจนรู้แน่ชัดก่อนเถอะ รับรองว่าทั้งราตรีและจีรวัฒน์ได้เจ็บไม่น้อยกว่าเธอแน่นอน“ย่าปวดเข่าจังเลยตามัตถ์ เดินเหินไม่ค่อยจะคล่อง อึดอัด” ศรีสุรางค์ว่าพลางตักข้าวต้มเข้าปาก เทียนหยดหันมามองอย่างใคร่รู้“ไปหาหมอไหมครับ ผมพาไป”“ไม่ๆๆ ไม่ได้ร้ายแรงอะไรหรอก” คนเป็นย่ารีบห้าม ด้วยไม่อยากรบกวนหลานชาย“ความจริง...การออกกำลังกายเบาๆ ก็ช่วยได้นะคะ” เทียนหยดเสนอ ทุกคนหันมามอง ก่อนที่ศรีสุรางค์จะทำเมินใส่ “โอเคค่ะ ก็แค่เสนอน
ราตรีใจหายวาบ รีบหาทางแก้ต่างเป็นการด่วน“อะไรนะ! บ้าไปแล้วสมัตถ์ ไม่มีอะไรทำหรือไงถึงได้มาหาเรื่องกัน ไนท์จะมีกลิ่นแบบนั้นได้ยังไงฮะ อย่ามาพูดแบบนี้นะ ไนท์โกรธ!” ราตรีทำเป็นตีโพยตีพาย แต่สมัตถ์ก็ไม่ยอมแพ้“แต่ผมมั่นใจ!”“ไปตายซะ! ไนท์อยู่ของไนท์ดีๆ มาว่าไนท์ทำไมฮะ! หรืออยากมีคนใหม่ ถ้าอยากมีก็ไปเลยสมัตถ์ ไม่ต้องมากล่าวหากันอย่างนี้!” ราตรีออกอาการเหวี่ยงวีน บีบน้ำตาจนมันไหลมาคลอเต็มสองเบ้าสมัตถ์ใจไหวยวบ น้ำตาผู้หญิงไม่เคยถูกจริตเขาเลย“ไม่ต้องมาบีบน้ำตา ตอบมาไนท์ ไอ้นั่นมันเป็นใคร!”“บ้าบอคอแตก ฆ่าไนท์เถอะถ้าจะให้ไนท์โกหก!”คำย้อนคืนของราตรีทำเอาสมัตถ์เริ่มไม่มั่นใจ“ก็มันจริง!” เขาเถียง ใบหน้าหล่อเหลาไร้แววรื่นรมย์ มันเครียดขมึง แดงก่ำและดวงตาเต็มไปด้วยโทสะราตรีร้องไห้กระซิกๆ ยืนมองสามี ริมฝีปากสั่นไหว“หลักฐานก็ไม่มี”“มี! แต่คุณอาบน้ำแล้วนี่” เขาเอ่ยออกมาเหมือนเยาะราตรีส่ายหน้าอย่างเหลืออด มือข้างหน
เสียงหัวเราะของราตรีช่างเจ้าเล่ห์เหลือร้าย สมัตถ์มุ่นคิ้วหนักๆ ความระแวงแคลงใจแล่นกลับสู่หัวใจอีกระลอก เขาตัดสินใจเคาะประตูก๊อกๆๆราตรีหันขวับมาหา ดวงตาเบิกโตเล็กน้อย หน้าเจื่อน รีบเอาโทรศัพท์ซ่อนไว้ด้านหลัง“เอ้า...มาแล้วหรือคะ วันนี้กลับไวจัง” ทำเป็นทักทายอย่างปกติ มิให้พิรุธสมัตถ์หรี่ตาลงอย่างสงสัย แต่วงหน้าก็ยิ้มแย้มเช่นเดิม เขาดึงเนกไทลงน้อยๆ แล้วเดินเข้าไปสวมกอดหล่อน“อะไรคะนี่”“ก็คิดถึง อยากกอด” เขาว่า สองแขนโอบร่างหล่อน แต่สองตามองลงไปเบื้องล่าง โทรศัพท์มือถือของหล่อนยังไม่วางสาย มันยังขึ้นแถบสีเขียวสว่างจ้า ไม่ปรากฏชื่อคนที่โทรเข้ามา มีแต่เบอร์ที่เป็นตัวเลขเท่านั้น เขาจนใจจะจำมันได้ครบเพราะเห็นไม่ชัดเจน และไม่กี่วินาทีต่อมาหล่อนก็ผลักเขาออก“พอแล้วค่ะ กลับมาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำก่อนสิคะ เหม็นเหงื่อ”“เหม็นตรงไหน ออกจะหอม” เขาเถียง ราตรีกลอกตาไปมา“เอ่อ...ไนท์ ไนท์ว่าจะลงไปดูคุณย่าค่ะ แกเอนหลังตั้งแต่บ่าย ไม่รู้ตื่นหรือยัง” เอ่ยยิ้มๆ เอามือถือ
[11]ระแวงแคลงใจ___________เสียงไขกุญแจเบาๆ ดังขึ้นที่หน้าประตู สมัตถ์รีบดึงผ้านวมขึ้นชิดปลายคาง ปกติเขาจะไม่ตื่นขึ้นมากลางดึกหากได้หลับลึกไปแล้ว ทว่าวันนี้ดันดื่มน้ำอัดลมเยอะไปหน่อย ท้องไส้เลยไม่ปกติต้องลุกมาหายารับประทาน ต้องถือว่าเป็นความผิดของโอบนิธิละนะ เพราะเด็กน้อยผู้น่ารักดันชวนดวนน้ำอัดลมตอนออกมาจากวัด จัดกันไปคนละหลายขวดโดยมีเทียนหยดเป็นเจ้ามือ นอกจากท้องอืดจนรับประทานมื้อค่ำไม่ได้แล้ว เลยได้ของแถมเป็นการปวดท้องตอนใกล้เที่ยงคืนนี่อย่างไรแกรก...เสียงลูกบิดประตูถูกหมุนให้ลงล็อก สมัตถ์ยิ้มกริ่มท่ามกลางแสงสลัวในห้องนอน ไฟในห้องเขาไม่ได้เปิด เปิดไว้เพียงไฟในห้องน้ำ ทว่ามันก็ถูกแง้มไว้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เสียงฝีเท้าของราตรีหยุดอยู่ที่หน้าห้องน้ำ ก่อนที่เสียงสั่นครืดๆ ของโทรศัพท์ไร้สายของหล่อนจะดังขึ้นเบาๆ เสียงควานหามันในกระเป๋าดังตามมา เขาเปิดเปลือกตาขึ้นดูเล็กน้อย ก่อนจะรีบหุบลงเมื่อหล่อนเหลือบมามอง“ฮัลโหล โทรมาทำไมฮะ”เสียงกระซิบกระซาบถามคนปลายสายสมัตถ์ม
เทียนหยดทำอย่างเดียวกับกับน้องชาย เหลือเพียงสมัตถ์ที่ยืนตัวแข็ง ใบหน้านิ่งเฉยไร้รอยยิ้ม“พี่มัตถ์ ไหว้พ่อสิครับ”สมัตนิ่งขึง เทียนหยดดึงชายเสื้อเขาแรงๆ เขาจึงยอมนั่งลง ท่ามกลางแสงแดดยามบ่ายคล้อยที่ยังร้อนอยู่“เธอคิดว่าทำอย่างนี้แล้วฉันจะยอมยกโทษให้เขาเหรอ” เขาถามเสียงเบาเพียงกระซิบ แต่มั่นใจว่าเทียนหยดได้ยินชัดเจน“ไม่หรอก เผื่อฟลุกไง เปิดใจหน่อยน่าคุณ ท่านทำทุกวิธีแล้วนะ ไม่ยกโทษให้ท่าน ก็โกรธท่านน้อยลงก็ยังดี นะๆ”เทียนหยดร้องขอพร้อมรอยยิ้มซื่อใส ใบหน้าน้อยติดอ้อนอย่างเด็กสาว ทำให้ใจของสมัตถ์กระตุกเบาๆ ต้องรีบหันหน้ามาทางที่เด็กน้อยนั่งอยู่ รูปของรุ่งรดิศยังคลี่ยิ้มละไม เขาเพิ่งเห็นหน้าของอีกฝ่ายชัดๆ ก็ตอนนี้ โครงหน้าเขา ดวงตาเขา หรือแม้แต่รอยยิ้ม คล้ายคลึงใบหน้าโอบนิธิไม่น้อยเลยสมัตถ์พ่นลมเบาๆ ออกจากปาก หน้าตาบอกบุญไม่รับ“พี่มัตถ์ร้อนเหรอ เดี๋ยวโอบยืนบังแดดให้นะ” ว่าแล้วโอบนิธิก็ลุกไปยืนบังแดดให้พี่มัตถ์ ด้วยยามบ่ายคล้อยดวงตะวันมิได้อยู่ตรงศีรษะ มันเลยส่องร่างด้านข้างของพี่มัตถ์ เข
เช้าวันอาทิตย์เสียมอันเล็กๆ ถูกเทียนหยดใช้ขุดดินดำๆ ที่ข้างสนามหญ้า หน้าห้องของเธอมีพื้นที่ว่างไม่น้อย และคงดีหากมีดอกไม้มาออกดอกให้ได้ยลโฉมบ้าง เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดพรายทั่วใบหน้างาม แต่ไม่ทำให้คนสวนจำเป็นย่อท้อ ยังตั้งใจขุดดินจนมันกลายเป็นแปลงขนาดสองคูณสี่เมตร ก่อนจะใช้ดินที่ซื้อมาคลุกเคล้าเข้ากับดินเดิมของมัน มีต้นดอกเทียนหยดอยู่ในถุงพลาสติก บางต้นเริ่มออกดอกสีม่วงสดใส บางต้นยังตูมอยู่ แต่พร้อมจะบานในไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า“อะแฮ่ม”เสียงกระแอมดังขัดจังหวะเสียมที่กำลังปักลงดิน เทียนหยดลุกยืน สมัตถ์ในชุดอยู่บ้านสบายๆ เดินแบกไม้กอล์ฟมาทักทายเธอแต่เช้า“อะไรติดคอคะ”เขาทำหน้ายุ่งเมื่อถูกเบรก “ฉันแค่อยากรู้เลยหาเรื่องคุยกับเธอน่ะ”“อาฮะ เข้าใจแล้ว อยากรู้อะไรล่ะ”“อยากรู้ว่าเธอกำลังทำอะไรน่ะสิ”หญิงสาวมองค้อน เขาไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งไม่รู้กันแน่“วันอาทิตย์ฉันว่าง ไม่ต้องไปหาผู้ชาย เลยหาอะไรทำแก้เซ็ง” เธอบอก หอบน้อยๆ เพราะเหนื่อยจากการออกแรงข
“ไม่นะเทียน ก็แค่รูป เทียนอยู่ในใจจีเสมอ เทียน...อย่าร้องไห้ จีขอโทษ ปล่อยจีแล้วเรามาคุยกันนะเทียน” เขาวอนขอ รู้สึกวูบวาบหวามไหวขึ้นมาอีกแล้ว แม้จะถูกความจริงสาดใส่หน้าจนด้านชา ทว่าความรู้สึกปรารถนาเรื่องอย่างว่ายังคงมีอยู่ บ้าจริง! ทำไมเป็นแบบนี้ เหตุใดถึงควบคุมมันไม่ได้นะ!“ทรมานไหมคะ หึๆ”“อะไร? หมายความว่าไงฮะ!”เขาร้องถาม ยิ่งเห็นหล่อนหัวเราะเยือกเย็นยิ่งรู้สึกเสียวสันหลัง“ก็ทรมานเพราะอยากมีเซ็กซ์ไงล่ะ ชอบไม่ใช่เหรอ คืนนี้ได้ตายคาเตียงแน่จีรวัฒน์!”คนถูกขู่กลืนน้ำลายหนืดๆ ลงคอ ชักไม่มั่นใจแล้วว่าสถานการณ์นี้มันจะปกติ“เทียน แก้มัดเถอะ ขอร้อง”“ไม่...รู้อะไรไหมจีรวัฒน์ ดอกเทียนหยดน่ะ มันงดงาม น่ารักน่าทะนุถนอมจะตาย แต่ว่า...อย่าเผลอไปทำลายมันเข้าล่ะ เพราะพิษมันร้าย อาจทำให้คุณถึงตายได้เชียวนะ แต่อย่ากังวลไปเลย สิ่งที่คุณทำกับเทียนมันร้ายแรงก็จริง แต่เทียนไม่เอาคุณถึงตายหรอก ก็แค่ จดจำไปตลอดชีวิต จดจำชื่อเทียนหยดไปตลอดชีวิตเท่านั้นเอง...”&ldqu
[10]แด่คนสารเลว____________สมัตถ์มองวงหน้าน้อยอย่างพิจารณา ดูเอาเถิด หล่อนร้องไห้น่าสงสารนัก ตาหล่อนแดงก่ำ ปลายจมูกหล่อนแดงไปหมด มีแต่ซีกแก้มข้างที่เขาประคองอยู่นี้ที่มันมีสีม่วงอ่อนแซมจางๆ ผิวหล่อนเนียนนุ่มมือ ทั้งยังขาวสะอาด ไม่สมควรมีรอยอย่างนี้ให้ต้องมีตำหนิเลย“ฉันขอโทษจริงๆ”เธอพยักหน้าหงึกๆ “ฉันรู้ค่ะ” ฝืนยิ้มให้เขา หัวใจเต้นแรงยามปลายนิ้วเรียวเกลี่ยหยดน้ำตาออกให้ เขาคงทำไปเพราะความเคยชินกระมัง คนอย่างสมัตถ์แคร์ความรู้สึกสุภาพสตรีเสมอ โดยเฉพาะภรรยาเขา และครั้งนี้ ความเผลอคงทำให้เขาแบ่งปันมันมาให้เธอ“อ่า...ขอโทษที ฉัน...” ไร้คำแก้ต่างใดๆ ยามรู้ตัว สมัตถ์ดึงมือออกช้าๆ เทียนหยดมองมันอย่างแสนเสียดาย“ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษ...ขอโทษจริงๆ รู้ไหม...ตอนนี้ฉันอยากยืมแผ่นหลังคุณจัง มันคงซับน้ำตาฉันได้ดีกว่ากระดาษเช็ดหน้าแน่ๆ” บอกเขาขำๆ มีรอยยิ้มทั้งที่น้ำตายังไหลอยู่“ไม่...ไม่ดีหรอก...ไม่ได้”“
วันรุ่งขึ้นผกากรองยืนอยู่ข้างรถตัวเอง นางกำลังจะไปส่งบุตรชายที่โรงเรียน แต่อยากถามบางอย่างจากสมัตถ์ก่อน เขาเดินออกมาขึ้นรถตามปกติ ราตรีตามมาส่งเขาแต่กลับเข้าบ้านไปแล้ว“เดี๋ยวค่ะคุณสมัตถ์”สมัตถ์ชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตูรถ รับรู้ถึงการมาของสตรีวัยเลยสาว“ครับ”“คุณเจอยัยเทียนบ้างไหม ฉันไม่ได้เจอลูกมาสองสามวันแล้ว อยู่บ้านเดียวกันแท้ๆ” นางบ่นสมัตถ์ถอนหายใจเบาๆ ภาพเมื่อคืนจู่โจมเขาจนรู้สึกอึดอัด ต้องขยับเนกไทให้หลวมยิ่งกว่าเดิม “เอ่อ...เธอคงยุ่งอยู่กับแฟนมั้งครับ”“งั้นเหรอ เฮ้อ...ยัยเทียนนะยัยเทียน จะเลิกกับนายนั่นอยู่แล้ว ไม่รู้จะไปข้องแวะทำไมอีก”“นั่นสิครับ” เขาสำทับผกากรองตาเบิกโต “คุณรู้เรื่องด้วยหรือคะ”เขาพยักหน้า “เธอระบายน่ะ อกหัก แฟนมีคนอื่นและเธอกำลังหาทางเอาคืน” เขาอธิบายผกากรองหนักใจยิ่ง “ฉันไม่เห็นด้วยเลย ผู้ชายยังไงก็เป็นผู้ชาย มันอันตรายจะตายไป ถ้ายังไงถึงบริษัทแล้ว รบกวนคุณช่วยบอกเธอให
กลางดึกของคืนอันขุ่นมัวด้วยความไม่เข้าใจ เทียนหยดยืนอยู่ใต้ร่มอโศกในชุดนอนแบบสตรีที่ไร้เสื้อคลุม มวลไอแห่งหยดน้ำค้างลอยอ้อยอิ่งเต็มสนาม ราตรีกาลอันมืดสลัวมีเพียงแสงสว่างรางเลือน หญิงสาวกะพริบตาถี่ๆ มิได้รู้สึกถึงฤทธิ์แอลกอฮอล์ในร่างแล้ว เธอยืนนิ่งในจุดที่เพิ่งผละจากสมัตถ์ ไอเย็นจากบรรยากาศรอบกายทำให้ต้องยกมือกอดอก ถามตัวเองในใจว่าทำไมต้องมายืนอยู่ตรงนี้ ทำไมไม่กลับไปนอนเสีย นี่ก็ดึกมากแล้ว เขาคงไม่ลงมาแล้วกระมังทว่าในวินาทีที่ก้าวขาออกเดิน แขนข้างหนึ่งของเธอก็ถูกกระชากอย่างแรง“โอ๊ย!”“ชู่ว์...” สมัตถ์ห้ามเสียงหวีดร้องของแม่คนงาม เขาดึงร่างเทียนหยดเข้ามาหาแล้วดันจนแผ่นหลังหล่อนชิดต้นอโศก“เจ็บนะ” เธอบอก“เธอชอบแบบนี้ไม่ใช่เหรอ ไงล่ะ ในที่สุดก็ทนไม่ไหวต้องออกมาอ่อยฉันถึงที่”เสียงสบประมาทแม่คนใจกล้าดังอยู่ข้างหูหญิงสาว เทียนหยดใจเดือดปุดๆ พยายามแกะมือเขาออกจากแขนตัวเอง แต่ทำไปก็เท่านั้นเพราะตอนนี้ร่างเธอกับเขาแนบชิดกันแทบทุกสัดส่วน ปลายจมูกเขาคลอเคลียที่ข้างแก้มเธอ ได้ยินเสียงลมหายใจเข