“นายแน่มากโอบ”
“ตัวแค่นี้รู้จักพูดนะ โอบนิธิ” ศรีสุรางค์ว่า ยิ้มน้อยๆ แต่ดูมีความสุข เป็นครั้งแรกที่นางยิ้มอย่างมีความสุขหลังจากผ่านเรื่องร้ายๆ บางที..การมาของพวกเตชะทัตก็มิได้เลวร้ายเสมอไปหรอก บางครั้งมันก็มีเรื่องดีๆ ดีมากๆ เสียด้วย
มื้อเช้าเสร็จสิ้นในเวลาต่อมา ผกากรองพาโอบนิธิไปโรงเรียน ศรีสุรางค์กินยาแล้วไปเอนหลังในห้อง หญิงชราเจ็บป่วยด้วยสังขารที่ใกล้ร่วงโรย แล้วแต่ว่าวันนี้จะเป็นอะไร ปวดขา ปวดหัว ตัวร้อน นางก็สลับหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
ราตรีออกมาส่งสามีที่รถของเขา เหมือนเช่นทุกๆ วัน
“ขับรถดีๆ นะคะ รีบกลับบ้านล่ะ”
“ครับผม อย่าลืมดูคุณย่าด้วยนะไนท์ ปลุกแกกินข้าวเที่ยงถ้าแกเผลอหลับ ให้กินยาบำรุงด้วยนะห้ามลืม”
“ค่า ไนท์จะทำตามทุกอย่างเลยค่า ตั้งใจทำงานนะคะ”
“ครับ รักคุณจัง” บอกแล้วโน้มจมูกไปสูดดมแก้มบาง
เทียนหยดเดินมาเห็นต้องส่ายหัวให้ จินตนาการอันบรรเจิดของเธอแลเห็นสมัตถ์มีสองเขาผุดขึ้นเหนือหัวไปแล้ว สองเขานั้นงดงามยิ่งกว่าเขากวางเรนเดียร์เชียวล่ะ
หนุ่มสาวเดินทางมาถึงที่ทำงานในเวลาต่อมา งานเอกสารมากองเต็มโต๊ะสมัตถ์เหมือนวิดีโอเก่าที่เอามาฉายซ้ำ เขานั่งทำงานงกๆ มุ่นคิ้วจนมันจะเป็นเลขแปดยามทบทวนเนื้อหาที่อยู่ในแฟ้ม ในขณะที่สตรีที่เพิ่งถูกหักอก นั่งเอนหลังสบายๆ มีถุงชาอุ่นๆ แปะไว้ที่ตาทั้งสองข้าง และเอื้อมมือไปหยิบสมาร์ตโฟนในทุกครั้งที่สัญญาณเตือนข้อความดังขึ้นมือเรียวดึงถุงชาอุ่นๆ ออกจากเปลือกตา มันช่วยลดอาการบวมได้ในระดับหนึ่ง เธอตอบกลับผู้ช่วยนิดา คนสวยคนเก่งที่ช่วยงานเธอ เจ้าหล่อนส่งข้อความมาทางห้องแชทเฟซบุ๊กให้เธอพิจารณา เธออ่านๆๆ แล้วลงความเห็นว่าให้เจ้าหล่อนจัดการไปได้เลย ในส่วนของแป้งตัวอย่างนั้น เธอเก็บใส่กระเป๋าเรียบร้อยแล้ว คิดว่าเร็วๆ นี้จะลองทาแล้วอัดคลิปรีวิวลงยูทูป แต่คงไม่ใช่วันสองวันนี้แน่ๆ อย่างน้อยต้องให้ตาเธอหายบวมเสียก่อน“นี่...เทียนหยด”“คะ?”“คิดจะช่วยฉันทำงานไหม”“ไม่”“ขอบใจ”สมัตถ์ประชดแล้วก้มหน้าลงอ่านเอกสารต่อ ก่อนจะเซ็นแกรกๆ แล้วเอามันไปวางบนกองเตี้ยๆ ก่อนจะหยิบอีกแฟ้มที่ตั้งสูงกว่าขึ้นมาพิจารณา ส่วนเทียนหยดก็เอาถุงชามาแปะตาแล้วเอนหลังพ
EP 7พิษอำพราง_____________เทียนหยดพลิกกายขึ้นมาคร่อมเขาบ้าง การเป็นฝ่ายคุมเกมมันปลอดภัยกว่าเป็นไหนๆ เธอทำอย่างที่เขาทำกับเธอ ซุกใบหน้าเข้าหาซอกคอแกร่ง ไซ้ปลายจมูกสูดดมแบบเงอะงะด้วยว่ายังไม่เคยทำสักครั้ง แต่เทียนหยดก็คือเทียนหยด ไม่เคยมีสิ่งใดที่อยากทำแล้วทำไม่ได้ ไม่นานเสื้อของเธอก็ถูกถอดด้วยมือเขา เหลือเพียงบราเซียร์สีเพลิงหุ้มห่อทรวงอวบ ส่วนด้านล่างนั้นยังอยู่ครบทั้งกระโปรงและกางเกงชั้นใน“จุ๊ๆๆ เทียน...โอ...เทียน...” จีรวัฒน์ถึงกับครางระงม เมื่อแผ่นอกหนาได้สัมผัสผิวเนื้อสองก้อนอันนุ่มหยุ่น แม้ถูกหุ้มห่อด้วยบราเซียร์ แต่เชื่อเถอะว่าเนินเนื้อที่ล้นทะลักนั้นบางส่วนได้วางแหมะกับอกเขาพอดิบพอดี มันให้ความรู้สึกแสนวิเศษ วิเศษจนไม่อยากให้อะไรมาขวางกั้น“จีขา...ดีไหมคะ”“ดี...เทียน...ดีที่สุด” เขาขานรับ หลับตาพริ้มยามเทียนหยดเลื่อนกายลงไปเรื่อยๆ ไต่ริมฝีปากหล่อนผ่านแผ่นอกเขาลงไปยังเนินหน้าท้อง อ้อยอิ่งอยู่แถวแอ่งสะดือ เขาอยากดึงผ้านวมที่ปิดกายท่อนล่างออก แต่ติดท
‘ฮัลโหล โทรมาทำไม’“คุณอยู่ไหม ว่างหรือเปล่า”‘ไม่ ฉันต้องอยู่บ้านคืนนี้’“โธ่ ทนไม่ไหวแล้ว มาหาหน่อย ได้โปรด...” เขาวอนขอคนปลายสาย ได้ยินเสียงหล่อนจุ๊ปากอย่างขัดใจ‘ไม่ได้ๆ มันค่ำแล้ว และวันนี้ไม่ใช่วันเสาร์อาทิตย์ที่ฉันจะเที่ยวได้ พรุ่งนี้แล้วกัน’ปลายสายต่อรอง จีรวัฒน์ยิ่งขัดใจ “โธ่...ไนท์ คิดถึงคุณ”‘ชู่ว์...ฉันไม่ใจอ่อนหรอกนะ ต่อให้คุณลงแดงตายก็เถอะ อ้อ...อย่าโทรหาฉันอีก ฉันจะเป็นฝ่ายโทรหาคุณเอง แค่นี้นะ สามีฉันมา’ตู๊ด...จีรวัฒน์ขว้างโทรศัพท์ทิ้ง หลายปีที่คบกับเทียนหยดเขาก็มีผู้หญิงคนอื่นลับหลังหล่อนเสมอ จนกระทั่งได้มาพบราตรี หล่อนตอบโจทย์เรื่องบนเตียงให้เขาอย่างถึงอกถึงใจ ที่สำคัญ แม้ว่าหล่อนจะแต่งงานแล้วก็ยังไม่เลิกติดต่อกับเขา เมื่อมีเวลาก็มาเจอกัน สนุกกันบ่อยๆ เขาชอบแบบนี้ มีเมียชาวบ้านมาเสิร์ฟถึงเตียงแล้วจะไปหาซื้อตามอ่างตามเลาจน์ทำไมแต่วันนี้ราตรีคงมาไม่ได้เสียแล้ว ให้ตายเถอะ แทนที่จะคิดถึงหล่อนเขากลับคิดถึงแต่ภาพก้อนเนื้ออว
“อะไรไนท์ ผมไม่รู้เรื่อง”“ไม่รู้เรื่องได้ยังไง! ก็ไอ้นี่มันอยู่ในรถคุณ! บอกมานะสมัตถ์ คุณมีคนอื่นใช่ไหม ใช่ไหมฮะ!” ไม่ถามเปล่าๆ แต่เข้าไปเค้นเอาความจริงด้วยการทุบตีสามี ความไว้เนื้อเชื่อใจหายไปสิ้น ความรู้สึกเหมือนถูกหักหลังจู่โจมหัวใจ ไม่ได้นึกถึงยามที่ตัวเองแอบไปมีสัมพันธ์กับชายอื่นเลยเผียะ!หนึ่งตบของราตรีกระทบซีกแก้มสมัตถ์อย่างแรง ชายหนุ่มยืนนิ่ง กำเจ้าผ้าผืนเล็กในมืออย่างโกรธเคือง เพราะมันแท้ๆ ที่ทำให้เขาโดนตบฟรีๆ“ทำไม! พูดไม่ออกเลยใช่ไหม รักมันมากหรือสมัตถ์! รักมันมากก็ไปเอากับมัน อย่ามายุ่งกับฉัน!” ราตรีตะโกนใส่ น้ำตาไหลเป็นทาง ริมฝีปากสั่นระริก ความโกรธวิ่งพล่านทั่วร่างเหมือนยาพิษชั้นดีที่กำลังแทรกซึมสู่หัวใจสมัตถ์ส่ายหน้า ชาที่ซีกแก้มเกินจะกล่าว รู้สึกถึงกลิ่นคาวเลือดจางๆ ที่มุมปาก ราตรีมือหนักเหลือเกิน“ผมไม่รู้เรื่องจริงๆ ฟังผมบ้างไนท์ ผมรักคุณคนเดียว ไม่เคยมีใครจริงๆ ส่วนเจ้านี่ ผมไม่รู้ว่ามันมาอยู่ในรถได้ยังไง ผมไม่รู้จริงๆ สาบาน...” เขาเอ่ยความจริง พยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบยามภร
ศรีภรรยาผู้แสนดีของสมัตถ์เดินมาส่งเขาที่รถตามเคย ทั้งสองร่ำลากันและจบด้วยการที่ศรีภรรยาเอียงแก้มให้หอมเทียนหยดยืนมองแล้วต้องเบือนหน้าหนีเพราะสงสารสมัตถ์เกินจะกล่าว พอเขาเคลื่อนรถออกไปราตรีก็เดินกลับเข้ามา ทั้งสองเดินสวนกันที่บันไดขึ้นลงด้านหน้า“รักกันจริงนะคะ” เทียนหยดเปิดฉาก อีกฝ่ายไม่อยากคุยด้วยนักแต่คงอดไม่ได้“แน่นอน ไม่ว่าอะไรก็มาพรากสมัตถ์ไปจากฉันไม่ได้หรอก พวกสัมภเวสีเที่ยวขอส่วนบุญน่ะ ไปหาเอาข้างหน้า”“โอ้...แรง!” เทียนหยดทำตาโตอ้าปากค้าง ตะลึงในคำผรุสวาทของอีกฝ่าย“เขาเป็นของฉัน ไม่มีวันชายตาแลคนอื่น อย่า...พยายาม” ราตรีเตือนเทียนหยดยิ้มเยาะ “อย่ามั่นใจนักสิ เคยได้ยินคำว่าทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วไหม คนเราทำอะไรไว้มันก็ได้รับผลอย่างนั้นแหละ”“เธอหมายถึงอะไร”“ฉันแค่พูดในสิ่งที่เคยได้ยินน่ะ” ตอบอย่างมีนัย“ฉันดีพอสำหรับเขา ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่หลงฉันหัวปักหัวปำหรอก”“เฮอะ! น่าขำ” เทียนหยดทำทีหัวเราะอย
[8]ไม้ตาย**************กริ๊งๆๆเสียงโทรศัพท์ภายในดังขึ้นที่โต๊ะของหญิงสาว เธอหยิบมันมาแนบหู ก่อนที่ปัญหาเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่จะพรั่งพรูเข้ามาให้ต้องขบคิด เธอเจรจากับปลายสายราวสิบนาที ก่อนจะวางลงแล้วต่อสายหาผู้ช่วยผ่านโทรศัพท์มือถือ“นิดา”‘คะ คุณเทียน’“เรามีปัญหาแล้ว” เทียนหยดว่า ได้ยินเสียงครางของคนปลายสายดังแว่วมา‘ยังไงคะ’เทียนหยดลุกจากเก้าอี้มาคุยโทรศัพท์ดีๆ สมัตถ์มองหล่อนทางหางตา แล้วรีบเบนสายตาหลับมาที่จุดเดิม เพราะดวงตาเขาดันไปปะทะเข้ากับบั้นท้ายงอนงามยามเจ้าตัวขยับเคลื่อนไหว เรือนร่างของเทียนหยดช่างมีส่วนเว้าส่วนโค้งที่ดึงดูดใจคนมองเหลือเกิน“โกดังของ RPS ไม่มีพื้นที่พอให้ของของเรา”‘ตายแล้ว! แล้วจะทำยังไงดีคะ จะไปหาเช่าโกดังที่ไหน แล้วกี่วันคะถึงจะต้องย้ายของออกมา’ ปลายสายมีความกังวล เพราะของที่ว่านั้นก็มีปริมาณมากอยู่“ไม่ๆๆ ฉันไม่อยากเช่าเลย มันเพิ่มต้นทุนให้เราโดยใช่เหตุ จะดีกว่าถ้าเรามีโกดังของเราเอง”‘ที่ไหนละคะบอส’“นั่นนะสิ!” หยดเทียนหัวเสีย มีเวลาอีกสองเดือน เธอต้องหาโกดังให้ได้ “ฉันมีเวลาหาอีกไม่มาก ความจริงถ้าเราระบายของที่มีตอนนี้ออกจากโกดังได้ภายในสองเดือน ของใหม
“ฉันจะสั่งยานอนหลับทางอินเทอร์เน็ต”“ฉันจะโทรหาเมีย” เขาเอ่ยบ้าง เทียนหยดเบะปากใส่น้อยๆ แต่สมัตถ์ไม่สนใจ ถ้าหล่อนอยากอิจฉาคนมีความรักก็ช่างหล่อนเถิดหญิงสาวเดินกลับไปนั่งหลังโต๊ะทำงาน เสิร์ชหาของที่ต้องการทางอินเทอร์เน็ตแล้วสั่งให้เขาเอามาส่งที่นี่โดยยอมเสี่ยงจ่ายเงินก่อนเพื่อความสะดวก“ทำไมไม่รับโทรศัพท์นะ”เขาบ่นให้ศรีภรรยา ด้วยว่าต่อสายไปสองสามครั้ง รออยู่เป็นนาทีก็ไม่มีคนรับ“มีกิ๊กหรือเปล่า” เสียงหวานของเทียนหยดเอ่ยประชดประชันสมัตถ์หน้าตึง “ปากเสียจริงๆ ไม่แปลกที่โดนสวมเขา”เทียนหยดอ้าปากค้าง นี่เธอโดนด่าอยู่ใช่ไหม เสียความมั่นใจนะโว้ย!“คุณสมัตถ์!”“อะไร”“แทงใจดำฉันจึ๊กๆ เลย! อีตาบ้า!” ด่าเขาแต่มีรอยยิ้มระบายที่มุมปากสมัตถ์เองก็เผลอยิ้มไปด้วย หล่อนเอามือทุบอกข้างซ้ายปึ้กๆ ช่างน่าขัน ดูท่าว่าเทียนหยดจะเริ่มทำใจได้แล้ว มันคงตัดใจได้ง่ายในเมื่อกล่อนกับแฟนยังไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางกาย นอกจากความรู้สึกและเงิน
โทรศัพท์ของจีรวัฒน์ยังมิได้ถูกดึงออกจากหูเลย เป็นเวลามากกว่าครึ่งชั่วโมงที่เขาโทรหาคู่ขาคนเก่ง หล่อนบอกคล้ายๆ ว่าจะมาหาเขาในวันนี้ ทว่านี่ก็ค่ำแล้ว แต่ยังไร้วี่แวว เขาทิ้งโทรศัพท์มือถือลงบนเตียงแรงๆ ตัดสินใจว่าจะนั่งทำงานต่ออีกสักนิดแล้วจะออกไปหาเด็กเลาจน์มานอนด้วย ช่วงนี้เขาเป็นอะไรก็ไม่รู้ รู้สึกได้ถึงแรงปรารถนาของตัวเอง มันพลุ่งพล่านบ่อยครั้ง ทั้งหมดทั้งมวลเกิดขึ้นเพราะเทียนหยด เพราะท่าทีที่เปลี่ยนไปของหล่อน ให้ตายเถอะ ถ้ารู้ว่าหล่อนจะร้อนแรงขนาดนั้น เขาคงล่อลวงให้หล่อนหลงอยู่ในบ่วงสวาทตั้งนานแล้ว ไม่ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษรอให้หล่อนยินยอมพร้อมใจหรอกชายหนุ่มกลับไปที่โต๊ะทำงาน ตั้งสมาธิให้นิ่งแล้วเริ่มทำงานวาดแบบของตัวเอง กระทั่งเวลาสองทุ่มเศษๆ ประตูห้องเขาก็ถูกเปิดเข้ามา เสียงรองเท้าส้นสูงดังกระทบพื้นเป็นจังหวะทำให้เขารู้ว่าคนที่เดินเข้ามาคือใคร“โอ...คุณพระคุณเจ้า”จีรวัฒน์อุทานแล้วรีบลุกมาต้อนรับแม่สาวสวยสุดเซ็กซี่ที่ยืนพิงกรอบประตูอยู่ ผมที่ดัดเป็นลอนบางๆ ทำให้เทียนหยดดูเปลี่ยนไป ชุดที่หล่อนสวมก็ด้วย มันสั้นเพียงแก้มก้น คอเสื้อนั้นก็คว้านลงลึกจนเห
“อยากกลับก็กลับไปสิ ฉันยังไม่กลับ”เขาตอบ นั่งลงบนผืนทราย ไม่ได้แยแสเสื้อผ้าของตัวเองที่เปียกปอน“โอเค งั้นฉันขับรถกลับนะ ส่วนคุณก็เป็นบ้าอยู่ตรงนี้ก็แล้วกัน ไปล่ะ” เธอใช้ไม้ตาย คงไม่ได้กลับบ้านง่ายๆ หากมัวแต่รอให้ผู้ชายใจสลายยอมใจอ่อนเทียนหยดเดินกลับมาที่รถ ไขกุญแจแล้วก้าวขึ้นไปนั่งหลังพวงมาลัย และก่อนที่เธอจะสตาร์ทรถ ประตูอีกฝั่งก็ถูกเปิดออก บุรุษในชุดชุ่มน้ำทะเลกับเม็ดทรายก้าวเข้ามานั่งเอนหลังพิงเบาะแบบหมดสภาพ“ให้ตายเถอะ! คุณต้องจ่ายค่าล้างรถให้ฉัน!” เธอประกาศดังๆ อยากจะร้องไห้ เบาะผ้าสวยๆ นุ่มๆ ของเธอเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำทะเลเค็มปี๋และเม็ดทรายเล็กละเอียด ส่วนเขายิ้มเยาะแล้วหัวเราะในลำคอราวสะใจ“พรุ่งนี้...ฉันจะโสดแล้วนะ เป็นการโสดที่ทรมานเหลือเกินเทียน ฉัน...ยังรักไนท์ แม้ว่าเขาจะร้าย...ฉันก็ยังรักอยู่ ทำไมใจฉันมันดื้อด้านอย่างนี้นะ ไม่ยอมรับความจริงบ้างเลย”“มันคงต้องการเวลาแหละคุณ หรือไม่ก็...ต้องการใครสักคน...มาดูแลมัน” เธอว่าแล้วยิ้มบางๆ หัวใจเธอก็เช่นกัน มันยังโหยหาค
“ฉันต่างหาก...ที่ต้องถามคำถามนั้น!”เสียงสั่นเครือแต่หนักหน่วงของใครบางคนแทรกเข้ามาตอบคำถามนั้นของราตรี หญิงสาวมุ่นคิ้ว ก่อนที่ดวงตาทั้งสองจะได้เบิกโตเมื่อสมัตถ์โผล่ออกมาจากข้างประตู เขายืนอยู่หลังเทียนหยด ดวงตาก่ำแดงพร้อมจะหลั่งหยดน้ำตา“มะ...มัตถ์!” เธอร้องเรียกชื่อสามีอย่างไม่เชื่อสายตา สมัตถ์มาที่นี่ได้อย่างไร เขาไม่มีวันรู้ เธอทำทุกอย่างอย่างแนบเนียนที่สุดแล้ว ไม่มีทางจับได้แน่นอน“หึๆ ขอบใจนะ ที่ยังจำผัวตัวเองได้...” พูดไปก็ข่มกลั้นโมหะโทสะ สองมือกำแน่นอยู่ข้างลำตัว โกรธจนร่างชาดิก หัวใจเต้นกระหน่ำปานจะทะลุออกมากจากอก พอข่มกลั้นความโกรธไว้มากเข้า มันก็ผลักดันออกมาในอีกรูปแบบหนึ่ง รูปแบบที่เรียกว่าหยดน้ำตา“มัตถ์คะ คือว่า...” ราตรีหน้าเสีย มือสั่นปากสั่น ไม่รู้จะพูดอะไรก่อนดี“รู้อะไรไหม ตอนนี้ฉันอยากเอาปืนมาจ่อหัวพวกเธอทั้งสองคน! แต่ว่า...ฉันจะไม่ทำแบบนั้น ฉันจะไม่พาความยุ่งยากมาใส่ตัวเองอย่างเด็ดขาด ถ้าพวกเธอมีความสุขกับการเสพสังวาสที่ผิดศีลธรรมจรรยา งั้นก็เอาเลยราตรี! ฉันจะหลีกทางให้ พรุ
[13]เชือด!________สมัตถ์ตื่นมาด้วยจิตใจที่หม่นหมองเหมือนละลองควันพิษบนท้องถนนเมืองไทย พยายามทำตัวให้เป็นปกติ แต่พอเห็นหน้าศรีภรรยาก็อดหดหู่ใจไม่ได้ ให้หล่อนเอามีดมาแทงเขา ยังเจ็บน้อยกว่าที่หล่อนไปนอนกับชู้รัก ในใจเขามันสับสนวุ่นวาย อยากบีบคอขาวๆ ของหล่อนแล้วถามดังๆ ว่ากล้านอกใจเขาได้อย่างไร กล้านอกใจคนที่รักหล่อนที่สุดได้อย่างไร!“เป็นอะไรคะ หน้าตาไม่ค่อยสดใสเลย หรือว่ากลัวไนท์งอนเรื่องเมื่อคืน ไม่ต้องห่วงนะคะ ไนท์หายงอนแล้ว ไม่งั้นไม่มายืนผูกเนกไทให้คุณอย่างนี้หรอก” ราตรีว่าสมัตถ์ฝืนยิ้มส่งให้ ก่อนจะเอ่ยเรื่องที่ตระเตรียมไว้กับศรีสุรางค์ตั้งแต่เมื่อคืน“วันนี้คุณย่าอยากไปทำงานกับผม คุณอยากไปด้วยไหม” เขาโยนหินถามทาง“อ่า...ไม่ดีกว่าค่ะ ไนท์ว่าจะไปซื้อของใช้สักหน่อย” ตอบเหมือนเอาความดีเข้าตัว สมัตถ์ยังฝืนยิ้มให้อีก ขยับออกห่างราตรีเมื่อหล่อนผูกเนกไทให้จนเสร็จ“โอเค...ก็ได้ วันนี้ผมไม่หิว ผมไปทำงานเลยดีกว่า”“อะไรกัน ไ
“แทนที่จะเกลียดฉัน เกลียดเมียตัวเองก่อนไหมคุณสมัตถ์ ฉันไม่ได้ทำอะไรให้คุณเลย มาโกรธฉันทำไม” เธอบอกด้วยความน้อยใจ ไม่กล้ามองหน้าเขาตรงๆ กลัวเขาอายที่กำลังมีน้ำตาเต็มวงหน้าเช่นนี้“เธอ...ทำยังไง”“อะไร” เธอถาม บีบยาใส่แผลสดให้เขาแล้วเอาผ้ากอซมาพันให้บางๆ ไม่ได้เก่งเรื่องทำแผลนัก สภาพมันเลยไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่ แต่รับรองว่าสะอาดไร้เชื้อโรค“ทนไง ทนตีหน้าตายใส่ไอ้หมอนั่นจนมันยอมเซ็นยกโฉนดที่ดินให้” ถามแล้วใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำตา กลั้นมันมิให้ไหล หล่อนเห็นน้ำตาเขาอีกแล้วเธอยักไหล่ “ไม่รู้สิ เปลี่ยนความโกรธความแค้นเป็นความอดทนมั้ง ฉันทำได้ทุกอย่างแหละไม่ยอมขาดทุนหรอก ฉันให้เขาไปเยอะ ถ้าไม่ได้จากเขาก็ขอให้ได้ทุนคืน ฉันเป็นนักธุรกิจ ไม่ยอมขาดทุนเด็ดขาด” เธออธิบาย นั่งขัดสมาธิตรงหน้าเขา เขาเหมือนจะมีน้ำตาตลอดเวลา ความจริงถ้าเขาอยากร้องไห้ ก็ร้องได้นะ เธอไม่ว่าหรอก“ฉ
ริมฝีปากคมอ้าค้างน้อยๆ เลือดลมสูบฉีดเร็วแรง ดวงตาที่เบิกโตมีหยดน้ำตาซึมเอ่อ ถามตัวเองซ้ำๆ ว่ามันเป็นไปได้อย่างไร ให้ตายเถอะ! ใครก็ได้เรียกรถพยาบาลให้ที ความเจ็บจุกมันหล่นทับหัวใจเขาจนแม้แต่กระดิกกายก็ทำไม่ได้ ราตรีนอกใจเขา!‘หล่อนนอกใจเขา!’ก๊อกๆๆประตูห้องถูกเคาะอีกครั้งก่อนที่ราตรีจะผลักเข้ามา ริมฝีปากงามคลี่ยิ้มสดใสให้สามีดั่งที่เคยทำมา“มัตถ์คะ กินข้าวเถอะค่ะ คุณย่าหิวแล้ว ท่านบอกให้ตั้งโต๊ะเร็วหน่อย”เสียงเจื้อยแจ้วของศรีภรรยาทำให้สามีต้องเงยหน้าขึ้นมอง เขาพูดไม่ออก ได้แต่จ้องหน้าหล่อน อยากถามหล่อนว่าทำได้อย่างไร กล้ามีชู้ได้ยังไง!“มัตถ์?”“เอ่อ...คือ...จ้ะๆ ไปเดี๋ยวนี้”นั่นคือสิ่งที่ริมฝีปากเอ่ยออกมาได้ ต้องกลืนน้ำลายลงคอช้าๆ กว่าจะเค้นคำพูดออกมาแต่ละคำมันช่างทรมานเหลือเกิน ตอนนี้สิ่งที่เขาอยากทำที่สุดคือจับราตรีมาเขย่าให้หัวหลุดจะได้สาแก่ใจ“เร็วสิคะ ไนท์รอที่โต๊ะนะ”เขายิ้มให้กับคำกล่าวนั้น จนราตรีหายไปจากหน้าประตู ต้องกะพริบตาถี่ๆ แล้ว
เสียงทุ้มต่ำเอ่ยบอกแต่เทียนหยดยิ้มกริ่ม เริ่มสนุกที่ได้แกล้งเขา“ม่าย...อีกนิดค่ะคุณผู้ชายขา...อีกนิด...” ว่าแล้วตบแป้งหนักๆ ถี่ๆ สมัตถ์ทนไม่ไหวก็คว้ากล่องแป้งเคาะกบาลช่างแต่งหน้าจำเป็นไปหนึ่งทีปึ้ก!“โอ๊ยคุณ! เคาะหัวฉันทำไมเนี่ย” คนสวยทำหน้ายู่ หันมองกล้องแล้วเอามือลูบกบาลป้อยๆ“ก็เธอทำฉันก่อน หน้าคนนะไม่ใช่หนังควาย ถูมาได้” บ่นเบาๆ เสียงต่ำจนคนฟังรู้ว่าเขากำลังจะทนไม่ไหว“เออๆ ขอโทษก็ได้ มานี่มา มาให้คุณผู้ชมเห็นหน้าชัดๆ หน่อย”แล้วเทียนหยดก็ยกกล้องลงจากขาตั้งมาจ่อใกล้ใบหน้าเขา รูขุมขนที่ค่อนข้างกว้างในตอนแรก บัดนี้ดูจางลงเพราะมีเนื้อแป้งปกปิดไว้ เธอจ่อกล้องไว้ใกล้หน้าเขาราวครึ่งนาที ก่อนจะจับมันไปวางไว้ที่เดิม แล้วนั่งลงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่“ยิ้มอะไรของเธอ” เขาสงสัย“ก็...โบกแป้งแล้วคุณก็หน้าเนียนดีเนอะ หน้าอย่างนี้ขึ้นกล้องดีจัง น่าจะไปเป็นดารานะ มองไปมองมานี่ก็คล้ายพระเอกหนังเนาะ”เมื่อถูกชมซึ่งๆ หน้าสมัตถ์ก็ทำตัวไม่ถูก จะยิ้มก็ไม่ยิ้มจะหน้าบึ้งก็ไ
สมัตถ์อมยิ้ม หล่อนคงยังรู้สึกผิดกระมัง“เปลี่ยนคำขอโทษเป็นคำสัญญาดีกว่า สัญญาสิว่าเธอจะไม่ทำอีก”คนสวยพยักหน้าน้อยๆ “แล้ว...ถ้าฉันไม่ได้เป็นคนเริ่มล่ะ”“หมายความว่าไง ฉันไม่มีทางทำแบบนั้นหรอกน่า”“โธ่เอ๊ย ก็ถามเผื่อไว้นี่นา คุณก็รู้ว่ามีบางอย่างระหว่างเรา บางอย่างที่คุณกับฉันรู้กันแค่สองคน”“ไม่มีทาง มันไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ” สมัตถ์บอกอย่างต้องการให้มันจบเทียนหยดทำหน้าบูด “ก็ได้ คุณกำลังหลอกตัวเอง เชื่อฉันเถอะ” เธอบอกแล้วถอนหายใจเฮือกๆ กลุ้มเรื่องที่ทำกับสมัตถ์แล้วยังกลุ้มเรื่องงานของตัวเองอีก“เธอมีเรื่องอะไรให้ฉันช่วยไหม”เขาเอ่ย อาสาช่วยละนะหากว่าเรื่องนั้นไม่เหนือบ่ากว่าแรง“คุณช่วยไม่ได้หรอก ฉันเครียดเรื่องออฟฟิศน่ะ กลัวเสร็จไม่ทัน กลัวไม่มีที่เก็บของ” บอกแล้วพ่นลมออกจากปากอีกครา ก่อนจะหันมาสนของที่อยู่ตรงหน้า เปิดมันออกแล้วพิจารณาแป้งสามตลับที่เรียงกันอยู่“ฉันคงช่วยไม่ได้จริงๆ กลับดีกว่า”เขาว
[12]ร้าวราน____________เหตุการณ์ในบ้านโสภณวิชญ์ เริ่มกับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่เทียนหยดยังงอนสมัตถ์ราวกับเขาเป็นสามีตัวเอง การที่เขายอมให้อภัยภรรยาง่ายๆ ทำให้เธอเข้าใจแล้วว่าความรักนั้นทำให้คนตาบอดได้จริง แน่ล่ะ เธอเคยเจอมาแล้ว และก้าวผ่านมันมาได้อย่างชอกช้ำระกำทรวงที่สุดจีรวัฒน์ไม่ติดต่อมาเลยนับตั้งแต่วันนั้น ความจริงเธอก็ห่วงเขานะ กลัวว่าเขาจะเป็นอะไร กลัวว่าสิ่งที่ตัวเองทำจะทำให้เขามีอันตรายถึงชีวิต ฉะนั้นวันศุกร์ตอนบ่ายแก่ๆ เธอจึงยอมเสียฟอร์ม ซื้อเครื่องดื่มเย็นๆ แวะไปหาเขา และอยากขอโทษเรื่องวันนั้น แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิดคิดว่าเธอจะมาคืนดี คนอย่างเทียนหยดเจ็บแล้วเจ็บเลย เจ็บจำ แต่ที่มาหาเขาวันนี้เพราะมนุษยธรรมล้วนๆ และอีกอย่าง เธออยากคุยเรื่องที่ดินที่เขาเซ็นยกให้ เพราะมาคิดดูดีๆ แล้ว ที่ดินผืนนั้นมันน่าจะมีมูลค่ามากกว่าเงินที่จีรวัฒน์หยิบยืมไป และเธอไม่สบายใจหากเอามันมาครอบครองเพียงคนเดียวเทียนหยดค่อยๆ ชะลอรถเมื่อใกล้ถึงทางเข้าคอนโดฯ ทว่าสตรีนางหนึ่งที่เพิ่งลงจากรถแท็กซี่คันหน้านั้น
แล้วจู่ๆ สมัตถ์ก็น้ำตาไหล เทียนหยดแลเห็นแวบๆ ทางหางตา และต้องหันมามองเต็มหน้า หัวใจเธอเต้นแรง นอกจากโอบนิธิแล้ว เธอยังไม่เคยเห็นผู้ชายร้องไห้เลยสักคนบุตรสาวของผกากรองดึงผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋ากางเกงที่สวมอยู่ เอามันไปวางไว้บนหน้าขาของชายหนุ่ม เขาหันมา วงหน้าอมทุกข์ ดวงตาแดงก่ำและไร้รอยยิ้ม“คุณอาจต้องใช้ น้ำตาคุณ...” เธอบอกสั้นๆ ไม่อยากเอ่ยอะไรให้มากความ ด้วยรู้ว่าผู้ชายคงอับอายหากรู้ว่ามีคนอื่นเห็นหยดน้ำตา“เธอพูดบ้าอะไร” ถามเหมือนไม่อยากจะเชื่อ หยิบผ้านิ่มๆ ผืนนั้นโยนใส่ตักเจ้าของ ก่อนจะเอามือลูบหน้าแรงๆ และยิ่งตื่นตะลึงเมื่อรู้ตัวว่ากำลังมีน้ำตาอย่างที่เทียนหยดว่าจริงๆ“ฉันไม่ได้อยู่ตรงนี้ คุณเอ่อ...คิดแบบนั้นก็ได้” เอ่ยแล้วอยากเฉือนปากตัวเองทิ้งเสีย เรื่องที่เขาทะเลาะกับภรรยาคงหนักหนา และเธอคงไม่มีวันล่วงรู้หากเขาไม่บอก หวังว่าคงไม่ใช่เรื่องนั้นหรอกนะ ไม่รู้สิ ยังไม่อยากให้เขารู้หรอก น่าสงสารหัวใจของสามีผู้จงรักภักดี มันคงบางยิ่งกว่ากระดาษเสียอีกสมัตถ์เงียบไปครู่ใหญ่ สมองกำลังประมวลผล มันสับสนวุ่นวายไปหมด“ถ้าเกิดฉันต้องหย่ากับไนท์”ประโยคสั้นๆ นั้นทำเอาดวงตาของเทียนหยดเบิกโต