ภายไม่กี่วินาทีนั้น จิตใจของเบียงก้าก็ว่างเปล่า! เธอขมวดคิ้วและตำหนิตัวเองที่ใจอ่อน 'เบียงก้า อย่าลืมสิ เธอมีฌองอยู่แล้วนะ!' 'ฌองเป็นผู้ชายคนเดียวที่เธอจะมีอารมณ์ด้วยได้นะ!' “คุณอยู่กับผมแล้วนะ ทำไมคุณถึงได้คิดฟุ้งซ่าน!” เขากระชากเสื้อคลุมสีขาวของเธออออกอย่างแรง ความรู้สึกชุ่มชื้นและอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกแผ่ซ่านไปทั่วริมฝีปากของเธอ จากนั้นเขาก็ก้มศีรษะลงและจูบลงบนเส้นผมของเธอ หลังจากผ่านเวลาไปอย่างยาวนาน เสียงต่ำของเขาก็พูดเข้าหูเธออย่างเย้ายวน เมื่อได้ยินเสียงต่ำของชายคนนั้น เบียงก้ากำลังจะอกแตกตาย! ลุคมีกลิ่นครีมอาบน้ำอันหอมหวน กลิ่นนั้นเป็นกลิ่นเดียวกับที่เธอใช้ นั่นหมายความว่าตอนที่อาบน้ำ ชายคนนี้เพิ่งใช้ครีมอาบน้ำของเธองั้นสิ เบียงก้ารู้ดีว่ามันอันตรายเพียงใดถ้าเธอไม่ขัดขืนตั้งแต่ตอนนี้ แต่แค่ออกแรงดิ้นยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ สิ่งที่เธอสามารถทำได้ในตอนนี้มีเพียงสิ่งเดียว นั่นคือขอโทษเจ้านายของตนเสียก่อน เพราะเธอกำลังจะทำเรื่องที่ไม่น่าเคารพกับเขาเสียแล้ว แต่อย่างน้อยคงจะดีกว่าถ้าปล่อยให้เรื่องราวดำเนินไปอย่างตอนนี้!ดวงตาของเบียงก้าเริ่มคุ้นชินกับความมืด และตอน
เบียงก้าเดินกลับขึ้นไปชั้นบนพนักงานทำความสะอาดกำลังเก็บกวาดห้องพักของเธออยู่เบียงก้าค้อมศีรษะให้พนักงานทำความสะอาดอย่างสุภาพ ก่อนจะเดินไปยังตู้เสื้อผ้า เธอเปิดมันออกแล้วหยิบเสื้อผ้าที่เธอรีดเมื่อคืนออกมาพนักงานสาวทำความสะอาดได้อย่างรวดเร็วตอนที่เบียงก้าล้างหน้าล้างตาเสร็จแล้ว ทุกร่องรอยที่ลุค ครอว์ฟอร์ดทิ้งไว้ในห้องก็ถูกปัดกวาดจนเกลี้ยงเธอถอนหายใจอย่างโล่งอกสิบนาทีที่แล้ว ฌองส่งข้อความถึงเธอ “เบียงก้า ทีมของพี่ทำโครงการเสร็จหมดแล้วนะ พี่กำลังจะไปเมืองเอชบ่ายนี้ แล้วพรุ่งนี้เป็นวันหยุดพอดีด้วย พี่ว่าจะไปหาเธอที่โรงแรมสักหน่อย”เบียงก้าส่งข้อความกลับไป “ยอดไปเลยค่ะ เดี๋ยวฉันจะส่งที่อยู่ของโรงแรมไปให้นะ”ไม่รู้ว่าทำไม ตอนที่เธอมองไปรอบ ๆ ห้องที่ลุค ครอว์ฟอร์ดใช้เวลาอยู่ในนี้ทั้งคืนด้วยความรู้สึกผิดเล็ก ๆ ในใจตอนที่พนักงานทำความสะอาดห้องเสร็จ เธอเห็นว่าเบียงก้ายืนนิ่งงันพร้อมด้วยสีหน้าดูบึ้งตึงและว้าวุ่นใจ“เรียบร้อยแล้วค่ะ” พนักงานทำความสะอาดกล่าวด้วยรอยยิ้มพร้อมถุงขยะในมืออยู่หน้าประตูเบียงก้าดึงสติตัวเองกลับมาอย่างรวดเร็ว “ขอบคุณมากนะคะ”“ดิฉันวางชุดชั้นในที่ใช้แล้วไ
รถยนต์สองคันแล่นออกจากโรงแรมชื่อดัง จากนั้นมุ่งหน้ากลับไปยังโรงแรมที่พวกเขาพักอยู่เมื่อพวกเขามาถึงที่หมาย เบียงก้าก้าวออกจากรถซูก้าวตามลงมาที่หน้าประตูทางเข้า พวกเขาพบว่าเจสัน ดอยล์กำลังรออยู่ก่อนแล้ว เขาสวมชุดสูทที่ดูสง่าเข้าคู่กับรองเท้าหนังเป็นอย่างดี“สวัสดีค่ะ คุณดอยล์” เบียงก้าทักทายเจสันเหมือนอย่างที่ซูและคนอื่น ๆ ทำเจสันพยักหน้ารับคำทักทายของเบียงก้า หากแต่สายตาที่จ้องมองเธอเขม็งนั้นแตกต่างจากคนอื่นหลังจากที่เบียงก้าเดินเข้าไปถึงล็อบบี้ของโรงแรม เจสันก็ยังคงจ้องตามเธอไปอย่างนั้นเมื่อลุคลงมาจากรถ เขาก็สังเกตได้ถึงปฏิกิริยาที่ผิดปกติของเจสันลุคจ้องมองไปยังเจสัน กระทั่งเมื่อเจสันรู้สึกถึงความผิดปกตินั้นแล้ว เขาจึงหันกลับมามองเจ้านายอย่างแนบเนียนเขายืนตรงอย่างสูงสง่า ลุคสาวเท้าเข้าไปในโรงแรม น้ำเสียงเย็นยะเยือกเอ่ยขึ้น “คุณกำลังมองเธออยู่”ลุคพูดกับเจสันที่ยืนอยู่ด้านหลังของเขาเจสันใคร่ครวญอยู่ในใจว่าตัวเองควรจะตอบอะไรกลับไปหรือไม่ ไม่นานนักเขาก็ตัดสินใจที่จะเก็บงำสิ่งเหล่านั้นไว้กับตัวเอง “เปล่าครับ ผมเปล่า”แก้ตัวน้ำขุ่น ๆ !ลุคมองเจสันด้วยสายตาเคลือบแคลงมาก
พวกเขาเดินทางกลับมาถึงเมืองเอในตอนเช้าทอมขับรถเบนลี่ย์ของบริษัทมาจอดอย่างเคยซูก้าวลงจากรถในอีกด้าน ฌองยกสัมภาระของเบียงก้าลงจากกระโปรงหลังของรถพร้อมพูดกับเธอ “เดี๋ยวพี่จะส่งเธอกลับบ้านก่อน เธอจะได้พักบ้าง หลับให้สบายนะแล้วเดี๋ยวคืนนี้พี่จะไปหา”เบียงก้าพยักหน้ารับพวกเขาเข็นสัมภาระจากไปขณะบอกลาซูและทอม พวกเขาเดินไปตามทางก่อนจะเรียกแท๊กซี่ฌองคิดว่าพรุ่งนี้เขาจะต้องซื้อรถสักคันการไม่มีรถส่วนตัวใช้มันลำบากเกินไปเบียงก้าทั้งเหนื่อยและง่วงงุน เมื่อคืนเธอได้นอนในรถไปแค่สองชั่วโมงเท่านั้นเอง แต่ถึงจะได้หลับบ้างแต่ก็ไม่ได้นอนอย่างสบายนักก่อนที่พวกเขาจะได้แท๊กซี่ โทรศัพท์ของฌองก็ดังขึ้น“พี่ขอรับโทรศัพท์ก่อนนะ” ฌองมองไปที่โทรศัพท์แล้วส่งสัญญาณให้เบียงก้าก่อนจะกดรับสายเบียงก้ามองไปที่ฌองแล้วเห็นว่าหน้าเขาค่อย ๆ นิ่วลง “ได้ครับ” ฌองตอบกลับสายในโทรศัพท์ “ผมจะไปเดี๋ยวนี้” เขาเสริม“มีอะไรรึเปล่าคะ?” เบียงก้าถามหลังจากที่เขาวางสายไป“อืม หัวหน้าทีมบอกให้พี่ไปประชุมก่อนเที่ยงวันน่ะสิ เขาบอกว่าตอนนี้น้ำขึ้นมันต้องรีบตัก แล้วจะได้รีบหารือเรื่องขั้นตอนต่อ ๆไปด้วย” ฌองพูดอย่างหัวเสีย
“ฉันไม่รู้ว่าใครส่งมานะคะ” เบียงก้าตอบกลับไปเบียงก้าไม่อยากเห็นแววตาอันแสนเจ็บปวดของฌอง เธอไม่ต้องการสร้างแผลในใจตัวเองเพิ่มอีก“เธอไม่รู้ว่าใครเป็นคนส่งมันมาอย่างนั้นเหรอ? ล้อพี่เล่นรึไง? พี่ดูปัญญานิ่มขนาดนั้นเลยใช่ไหม? เบียงก้า เรย์น นี่เราเพิ่งกลับมายังไม่ทันไร เธอก็มีผู้ชายอีกคนเข้าหาแล้ว ถ้าไม่มีอะไรกันจริง ๆ ผู้ชายหน้าไหนจะยอมใช้เงินมากมายขนาดนี้เพื่อซื้อดอกไม้ให้เธอกัน?”เบียงก้าแทบทนไม่ได้กับสายตาที่ฌองใช้มองเธอเธอรู้ตัวดีว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด จิตสำนึกเธอยังทำงานได้ดีเธอไม่รู้จริง ๆว่าใครเป็นคนส่งดอกไม้พวกนี้มา“ฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะ” ในที่สุด เบียงก้าก็เปิดปากพูด เพื่อให้ฌองได้สงบสติอารมณ์ เบียงก้าหันไปโยนช่อดอกไม้ในมือทิ้งลงถังขยะที่อยู่ไม่ห่างอย่างไม่ยี่หระฌองมองแผ่นหลังของเบียงก้าที่เดินข้ามถนนจากไปอย่างช้า ๆ เขากำหมัดแน่นเธอเดินไปทางสถานีรถไฟใต้ดินก่อนจะพ้นสายตาฌองไปฌองยังคงยืนอยู่ที่เดิม ความเดือดดาลของเขาไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย เขาหันหลังกลับมาอีกด้าน แล้วสาวหมัดเข้าไปที่เสาไฟตรงหน้า เขากัดฟันแน่น ความเจ็บปวดประเดประดังเข้ามาราวกับกระดูกแตกสลายจนแหลกละเอี
เบียงก้าเดาว่าเรนนี่น่าจะชอบกระดาษลายสปอนจ์บ๊อบเธอวางกระดาษแผ่นอื่น ๆ ไว้แล้วเลือกหยิบกระดาษลายสปอนจ์บ๊อบ ก่อนจะลุกขึ้นยืน“อ๊า-”เมื่อลุกขึ้นยืน เธอก็มุ่งความสนใจทั้งหมดไปกับการห่อหนังสือด้วยกระดาษลายสปอนจ์บ๊อบ ทำให้เธอหลงลืมไปเสียสนิทใจว่ามีชายอีกคนยืนอยู่ข้างกายเธอเข็มกลัดที่เธอติดเสื้อทำงานมาด้วย บัดนี้ไปเกี่ยวอยู่กับเข็มขัดหนังของชายหนุ่มเสียแล้ว“ข-ขอโทษค่ะ ฉัน…”เบียงก้าจ้องมองของสองชิ้นที่ติดอยู่ด้วยกันด้วยความอึดอัดใจชายหนุ่มค้อมศรีษะลงมา มีบางสิ่งปรากฏขึ้นในส่วนลึกของแววตา“สักครู่ค่ะ อีกนิดเดียวก็จะเรียบร้อยแล้วค่ะ...” เบียงก้าพัดมือไปทั่วเข็มขัดของเขาด้วยความลนลานนี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เธอได้สัมผัสกับเข็มขัดของผู้ชายด้วยมือของตัวเองในคืนนั้นเมื่อห้าปีก่อน เธอก็ไม่ได้จับเข็มขัดของผู้ชายคนนั้น และไม่เคยมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นตอนที่เธออยู่กับฌองเช่นกันเธอไม่รู้ว่าทำไมถึงเกิดเรื่องนี้ขึ้นที่นี่ แล้วทำไมเรื่องน่าประหลาดพวกนี้ต้องเกิดขึ้นในตอนที่เธอกับลุค ครอว์ฟอร์ดอยู่ด้วยกันทุกทีราวกับปฏิกิริยาเคมีที่เธอไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้เข็มกลัดถูกออกแบบมาอย่างซับซ้อน
ฌองรู้ว่าเบียงก้าเองก็รักเขา และยังรู้ว่าเธอไม่ได้รักเขาเท่าที่เขารักเธออีกด้วยเพื่อให้การขอแต่งงานครั้งนี้ไม่มีอะไรผิดพลาด เมื่อเขาตัดสินใจที่จะขอเธอแต่งงานในตอนเที่ยงนั้น ฌองจึงขอให้พ่อและแม่ของเขาเชิญคนในครอบครัวมาด้วยกันสมาชิกในครอบครัวกว่าสิบชีวิตทั้งแก่และเด็กเบียดเสียดรวมกันอยู่ที่นี่หลังจากที่เบียงก้าเดินตามครอบครัวแลงดอนขึ้นไปที่ชั้นบน เธอยืนนิ่งไปในทันทีที่พวกเขาเปิดประตู...ในตอนนั้น นีน่าจ้องมองญาติ ๆ ของตัวเองที่กำลังเบียดเสียดกันอยู่ในบ้านราวกับเห็นผี“มาแล้ว เธอกลับมาแล้ว!” น้าเล็กของฌองตะโกนทันทีที่เห็นเบียงก้ายืนอยู่หน้าประตู เบียงก้าในตอนนี้คือคนเดียวกับหญิงสาวในรูปที่เธอเคยได้เห็น ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่าคว้าเอาแขนแม่ของตัวเองไว้แล้วพูด “นั่นแฟนสาวของฌองค่ะ เบียงก้า เรย์น เธอยืนอยู่ตรงประตูนั่นค่ะ! ตายแล้ว ตัวจริงสวยมากเลยนะคะ มาค่ะ ไปดูกันค่ะแม่...”เบียงก้าถึงกับพูดไม่ออก“เข้ามาสิ” ฌองมองเบียงก้าด้วยแววตาอ่อนโยน เขาจูงมือเธอเบียงก้าต้องฝืนยิ้มให้กับญาติของฌองตามมารยาท คุณย่าของฌองไม่ยอมปล่อยมือจากเบียงก้าด้วยซ้ำ เธอจับมือของเบียงก้าไว้แล้วตบเบา ๆ เวลาที
“พวกเรามาที่นี่ เพราะว่า…” ลุคยังพูดไม่ทันจบประโยค เขาก็มองไปเห็นหญิงชราคนหนึ่งเดินมาทางพวกเขาหรือคุณยายท่านนี้จะเป็นแม่ของคุณบี?“สวัสดีครับ คุณยาย!” ลานี่ทักทายหญิงชราอย่างสุภาพคุณยายอย่างนั้นหรือ...?เบียงก้ามองตามลานี่ไปยังด้านหลังของเธอหญิงชราวัยห้าสิบเศษ สวมชุดวอร์มอะดิดาสสีชมพูขาว เธอเดินมาหยุดอยู่ตรงพวกเขาสามคนลุครู้ดีว่าหญิงชราคนนี้ไม่ใช่แม่ของเบียงก้า เขาจึงไม่ได้พูดอะไร“คุณน้ามีอะไรรึเปล่าคะ?” เบียงก้ากังวลกับสายตาที่หญิงชรามองมาที่เธอหญิงชราขมวดคิ้วก่อนจะเริ่มแนะนำบางอย่างแก่เบียงก้า “เมื่อแต่งงานแล้ว เธอต้องเรียนรู้วิธีดูแลเอาใจใส่คนในครอบครัวของเธอด้วยสิ อย่าทำให้สามีและลูกของเธอโกรธ ที่ฉันจะพูดก็คือ ดูเธอสิ! นี่มันกี่โมงกี่ยามกันแล้ว แต่เธอเพิ่งกลับน่ะรึ?”คำว่า “สามีของเธอ” คงจะหมายถึงชายหน้าตายที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอเป็นแน่เบียงก้าทั้งอับอายและอึดอัดที่สุดเบียงก้าพยายามจะอธิบายให้หญิงชราเข้าใจ แต่หญิงชราหันไปมองลุคด้วยสายตาอันไร้ความปราณีเช่นกัน “คุณเองก็ไม่ได้เป็นสามีที่ดีนักหรอกนะ คุณไม่ควรจะโกรธภรรยาของคุณ เพียงเพราะเธอเข้มงวดกับคุณ อย่างนี้แล้วคุณจ