Home / โรแมนติก / พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก / บทที่ 8 บลานก้า และ เรนนี่

Share

บทที่ 8 บลานก้า และ เรนนี่

Author: พะเนินเทินทึก
เบียงก้าไม่กล้าพูดอะไรอีกเลย จากที่เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมองเธอ

กาลเวลาผ่านไป

เด็กชายพูดว่า “ผมว่าดูน่าอึดอัดครับ”

น้องสาวตัวน้อยพยักพยักหน้า

เบียงก้า “….”

“คุณผู้หญิงครับ โทรหาพ่อของผมตอนนี้เลยเถอะ และบอกเขาด้วยว่าคุณไม่ต้องการดูแลพวก

เราสองคนแล้ว” เด็กชายกล่าว

เด็กชายตัวเล็ก ๆ ดูค่อนที่จะไม่เป็นมิตรกับเธอสักเท่าไหร่

“ฉันไม่เคยบอกเลยนะว่าไม่อยากดูแลพวกหนูน่ะ” เธอต้องอธิบายให้ชัดเจน

เธอจะกล้าพูดว่าเธอไม่ต้องการดูแลลูก ๆ ของเจ้านายได้อย่างไรกัน? เจ้านายคงจะจัดการเธอ

จนกลายเป็นอาหารกลางวันเป็นแน่

“ในเมื่อต้องการจะดูแลเราสองคนจริง ๆ คุณควรทำเหมือนที่คุณพูดสิครับ” เห็นได้ชัดว่าเด็กชายไม่ชอบบรรยากาศที่เงียบ ๆ แบบนี้

ผู้หญิงคนนี้ดูซื่อบื้อกว่าคนอื่น ๆ มาก

เบียงก้า “…”

เป็นความผิดพลาดของเธอเองสินะที่ออกจากบ้านมาโดยที่ไม่ดูตาม้าตาเรือเสียก่อน ถึงได้มาเจอเรื่องเช่นนี้

“มากับหนูหน่อยค่ะ พี่ชาย” เด็กหญิงตัวเล็กบอกได้ว่าสีหน้าของป้าคนนี้เริ่มไม่พอใจ และเธอก็ลากพี่ชายออกไปด้วยความขุ่นเคือง

เบียงก้าถอนหายใจยาว มองดูเด็กน้อยสองคนเดินหายไปทางประตูห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำ

น้องสาวเอ่ยถาม “พี่คะ ทำไมถึงใจร้ายกับคุณป้าคนสวยจังเลย?!”

“ก็เธอมีแผนน่ะสิ” พี่ชายรู้สึกแย่กับน้องสาวที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย จากนั้น เด็กชายพูดอย่างเคร่งขรึม “พวกผู้หญิงหน้าตาดีพวกเต็มใจที่จะดูแลเราก็เพียงเพราะต้องการแต่งงานกับพ่อของเราเท่านั้นแหละ”

“พวกเขาต้องการแต่งงานกับพ่อของเราเหรอ?” น้องสาวไม่เข้าใจ

พี่ชายกล่าวเสริม “แถมอย่างน้อย ผู้หญิงคนอื่นก็ยังทำทีเป็นชอบพวกเรา แต่ดูเธอคนนี้สิ!”

ถ้าผู้หญิงคนนี้แต่งงานกับพ่อของตนจริง ๆ เธอจะไม่มีวันดูแลพวกตนได้อย่างดีแน่นอน

น้องสาวของเขายืนกราน “คุณปู่ทวดพูดเสมอนะคะว่าเราอย่าตัดสินคนอื่นจากรูปลักษณ์ภายนอกน่ะ”

อย่างไรก็ตาม พี่ชายของเธอพูดอย่างโกรธเคือง “ฉันไม่สนว่าเธอจะคิดยังไงนะ ไม่ว่ายังไงฉัน

จะมีแม่แค่คนเดียว และนั่นคือผู้หญิงที่ทำให้ฉันเกิดมาเท่านั้น!!”

แม้น้องสาวสุดแสนซื่อจะเข้าใจ แต่เธอก็ขุนเคืองไม่แพ้กันพร้อมกับเอ่ยขึ้น “คุณปู่บอกว่าพวกเราเกิดมาจากต้นไม้ในสวน!”

"ยายโง่!" พี่ชายของเธอโกรธมากจนหน้าเล็ก ๆ ของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ เขาผลักประตูห้องน้ำให้เปิดออก และไม่พูดอะไรอีก

เบียงก้าตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น

ทำไมพวกเขาถึงทะเลาะแบบนี้กัน

“ขอโทษด้วยนะจ๊ะ ฉันผิดเองแหละ ฉันไม่รู้ว่าจะต้องรับมือกับเด็กยังไง มันก็เลยเกิดบรรยากาศที่น่าอึดอัดแบบนั้น” เบียงก้ารู้สึกผิดอย่างมาก

น้องสาวเงยหน้าขึ้นและเอ่ยขึ้น “พี่ชายนั่นแหละค่ะที่เป็นคนผิด!”

เบียงก้าหันไปมองเด็กชายและพยายามพูดเพราะ ๆ กับเขา “หนูอยากดูการ์ตูนไหม?” เธอหยิบรีโมทคอนโทรลขึ้นมาขณะที่เธอกล่าวเสริม “ดูเรื่องเพลสแซ่นต์โก๊ตแอนด์บิ๊กบิ๊กวูล์ฟไหม หรือจะดูบาบู ดาบลูดีล่ะ?”

“นั่นมันให้เด็กดูแล้ว!” เด็กชายตัวน้อยอดไม่ได้ที่จะทำให้เธอดูโง่เขลาอีกครั้ง

เบียงก้ารู้สึกอึดอัดยิ่งขึ้น

ทุกอย่างชะงักลงชั่วครู่

“คุณผู้หญิงครับ ทำไมถึงไม่ถามว่าเราอายุเท่าไหร่ล่ะ?”

เบียงก้าพบข้อแก้ตัวเพื่อขจัดความอึดอัด “แล้วหนูอายุเท่าไหร่?”

“ห้าขวบค่ะ พี่ชายก็ห้าขวบค่ะ”

“พวกเหนูเข้าโรงเรียนกันรึยังเอ่ย?” ถ้าพวกเขากำลังเรียนอยู่... วันนี้เป็นวันพฤหัสบดี

“เราไปโรงเรียนค่ะ แต่เราก็มีติวเตอร์ส่วนตัวด้วย คราวนี้พ่อเป็นคนบอกว่าจะพาเราออกไปเล่น พ่อบอกว่าที่นี่มีชิงช้าสวรรค์สูงมากเลยแหละ”

“จ่ะ เข้าใจแล้วค่ะ” เบียงก้าตอบกลับ

“ขอยืมโทรศัพท์หน่อย ผมอยากโทรหาพ่อ” พี่ชายบอก

เบียงก้ากระพริบตาปริบ ๆ และยื่นโทรศัพท์ให้เด็กชายทันที

บลองช์ค้นหารายชื่อในโทรศัพท์ของเบียงก้าเพื่อหาหมายเบอร์ติดต่อของพ่อ แต่หาเด็กน้อยหา

ไม่เจอ จากนั้นเขาก็มองหาผู้ติดต่อทางวีแชทของพ่อ แต่ก็หาไม่พบเช่นกัน

“คุณไม่มีช่องทางติดต่อกับพ่อผมเลยเหรอ?” เขาถามพลางเงยหน้ามองเบียงก้า

เธอส่ายหัว "ไม่มีหรอกจ่ะ"

ดูเหมือนพี่ชายจะไม่เชื่อเธอ ขมวดคิ้วขณะพูดว่า “ไม่มีจริง ๆ เหรอ?”

“หนูบอกพี่แล้วว่าป้าคนนี้ ไม่ใช่ผู้หญิงจิตใจไม่ดีที่ต้องการเป็นแม่เลี้ยงของเราสักหน่อย!”

น้องสาวนั่งมองพี่ชายอย่างสบประมาท

พี่ชายมองไปที่น้องสาวของเขาอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อย และเขาไม่กล้ามองไปทางเบียงก้าอีก

ในที่สุดเบียงก้าก็เข้าใจทั้งหมด!

นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเด็กชายถึงเป็นปฏิปักษ์ต่อเธอ

“ฉันขออธิบายบางอย่างให้พวกหนูเข้าใจนะคะ” เบียงก้ามองไปยังเด็กทั้งคู่ “พ่อของพวกหนูส่งหนูสองคนให้เจสันดูแล แต่เจสันกำลังยุ่งกับงานมากเลยจ่ะ เขาเลยส่งพวกหนูมาอยู่กับฉันสักพัก ไม่มีอะไรระหว่างพ่อของพวกหนูกับฉันแน่นอน เราเป็นแค่นายจ้างกับลูกจ้างเท่านั้นจ่ะ”

เด็กชายมองไปที่เบียงก้าอย่างครุ่นคิด

เบียงก้ายอมรับอย่างเปิดอก “พ่อของพวกหนูกับตัวฉันเองมาจากโลกคนละใบกันเลย คนหนึ่งเกิดมาในโลกที่พิเศษมาก ๆ แต่อีกคนเกิดมาในโลกที่ธรรมดา และเป็นคนที่แสนธรรมดาคนหนึ่ง พวกเราสองคนมีความต้องการและอยู่ในสังคมที่แตกต่างกัน ดังนั้น พวกเราไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้หรอกจ่ะ หนูเข้าใจที่ฉันพูดไหมเอ่ย?”

“ไม่ค่ะ…” น้องสาวส่ายหัวอย่างว่างเปล่า

เบียงก้าหันไปมองพี่ชายตัวน้อยแทน

เด็กชายพูดว่า “เข้าใจแล้ว พ่อของผมเป็นคนชนชั้นสูงแต่คุณเป็นพวกรากหญ้าสินะ”

เบียงก้าหัวเราะออกมา “นั่นแรงเหมือนกันนะเนี่ย แต่หนูพูดถูกแล้วจ่ะ พ่อของพวกหนูกับฉันมีระยะห่างเยอะมากเลยแหละ พวกหนูไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ ถึงพ่อของคพวกหนูจะเป็นเพียงผู้ชายคนเดียวที่หลงเหลืออยู่ในโลก ฉันก็คงไม่ได้กลายไปเป็นแม่เลี้ยงของพวกหนูหรอกนะ เข้าใจใช่ไหม?”

น้องสาวจ้องมองใบหน้าเบียงก้าและพยักหน้าตอบรับ แต่ก็ค่อนข้างสับสน

“เอาล่ะ เรามาเป็นเพื่อนกันดีกว่านะ” เบียงก้าแนะนำตัวเองว่า “ฉันชื่อเบียงก้า เรย์นค่ะ พวกหนูจะเรียกฉันว่า คุณเรย์น หรือเรียกแค่บีเฉย ๆ ก็ได้จ่ะ”

“หนูชื่อเรนนี่ ครอว์ฟอร์ดค่ะ เหมือนกับวันที่ฝนตกอากาศดี ๆ น่ะค่ะ” น้องสาวแนะนำตัว

“ผมชื่อบลองช์ ครอว์ฟอร์ดฮะ เรียกผมว่าบลานก้าหรือเรียกว่าลานี่ก็ได้ครับ” พี่ชายแนะนำตัวเองเขาเองด้วย สลัดคราบการเป็นปรปักษ์ออกทั้งหมด

เรนนี่เหรอ?

เหมือนกับวันที่ฝนตกสินะ?

บลองช์ ครอว์ฟอร์ด?

บลานก้า?

บลานก้า? เรนนี่?

ทันใดนั้น เบียงก้าก็รู้สึกราวกับว่าเธออาจจะโชคดีก็ได้ที่ได้พบกับเด็กทั้งสอง!

เมื่อทั้งคู่เข้าใจกันแล้ว เด็กทั้งสองเปิดใจกับเธออย่างมีความสุข

เธอยกเลิกนัดอาหารค่ำกับเพื่อนร่วมงาน

เพื่อนร่วมงานทั้งสองคนของเธอไปทำงานหลังทานอาหารเย็นเสร็จ ในขณะที่ภารกิจปัจจุบัน

ของเธอคือดูแลเด็กทั้งสองให้ท่านประธาน

ในตอนแรกเบียงก้าเอาใจใส่ระมัดระวังอย่างมาก หากเด็ก ๆ มีรอยขีดข่วนใด ๆ แม้แต่น้อย อาจจะทำให้เธอต้องตกงานได้ แม้ว่าในที่สุด เธอลงเอยด้วยการกลิ้งเล่นบนพรมไปกับเด็ก ๆ

ลึกลงไปในหัวใจของเธอก็เต็มไปด้วยความชื้นใจ แต่ลึกเข้าไปด้านในอีก เธอรู้สึกเจ็บปวดเหลือเกิน

ลูกของเธอคงอาจจะอายุประมาณลานี่กับเรนนี่ ตอนนี้

เมื่อเธอมองดูใบหน้าที่มีความสุขของเด็กน้อยทั้งคู่ ทำเธอแทบจะมองเห็นเป็นลูกเธอเอง

เด็กคนนั้นตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง? เธอมีความสุขดีใช่ไหม?

คืนนั้น เบียงก้ารับประทานอาหารกับเด็กน้อยที่รักทั้งสอง

พวกเขามีบริการทุกอย่างเท่าที่เป็นไปได้ ในร้านอาหารของโรงแรม เรนนี่นั่งในร้านอาหาร และเพลิดเพลินไปกับอาหารตรงหน้า สักครู่ก่อนที่เธอจะเริ่มน้ำลายไหลเมื่อเห็นไก่ทอดที่เด็กคนอื่นกำลังรับประทานอยู่

“เช็ดน้ำลายซะ มันสกปรกนะ!” พี่ชายของเธอดุ และเธอเองก็ไม่พอใจ

เบียงก้ารีบหยิบผ้าเช็ดปาก เช็ดน้ำลายออกจากปากของเรนนี่

“พ่อหนูห้ามไม่ให้กินไก่ทอดเหรอจ๊ะ?” เบียงก้ารู้สึกไม่ดีต่อเรนนี่ ถ้าลูกสาวของเธอน้ำลายไหลเพราะไก่ทอดมากขนาดนี้ เธอคงจะยกเว้นให้สักครั้ง

เรนนี่พยักหน้า แต่ดวงตาของเธอยังคงจับจ้องอยู่ที่ไก่ทอดที่อยู่บนโต๊ะถัดไป เธอใจลอย

จนวางตะเกียบลงบนโต๊ะ

“ขอโทษนะคะ?” เบียงก้าโบกมือของเธอเรียกเด็กเสิร์ฟ

สิบนาทีผ่านไป

มีไก่ทอดมาเสิร์ฟ มีทั้งหมดสองชิ้น

ตัวพี่ชายตัวน้อยเสียสละให้น้องสาว เขามองไก่ทอดทั้งสองชิ้น ถึงแม้ว่าจะอยากลองชิมดูเหมือนกัน แต่เขาก็หักห้ามใจพลางเอ่ยขึ้น "กินไปเถอะ แต่พ่อสอนว่าลูกผู้ชายมีหลักการที่ต้องยึดมั่นอยู่”

เบียงก้าไม่ได้พูดอะไร แต่ข้างในเธอค่อนข้างแปลกใจ ในเวลาเดียวกัน เธอค่อนตกใจกับเด็ก

วัย 5 ขวบคนนี้ และการควบคุมตนเองของเขาเมื่อเผชิญกับสิ่งยั่วยวน

หลังจากที่เติบโตขึ้น บางคนอาจประสบความสำเร็จอย่างน่าอัศจรรย์ แต่การเดินทางของพวกเขาไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาต้องอดกลั้นเท่าไร พวกเขาต้องเสียสละมากแค่ไหน

แล้วลุค ครอว์ฟอร์ดเป็นหนึ่งในตัวอย่างดังกล่าวรึเปล่านะ?

เด็กน้อยคนนี้เย็นชาและไม่ไว้ใจใคร เบียงก้าอดไม่ได้ที่จะนึกถึงสิ่งที่นีน่าพูดในตอนนั้นว่า

เจ้านายเป็นคนโหดเหี้ยมและไร้หัวใจในโลกของธุรกิจ

เด็กน้อยคนนี้เป็นเหมือนพ่อของเขาในแบบรุ่นเล็กจิ๋วล่ะนะ!
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 207 ครอบครัวทั้งสี่คนนอนอยู่ด้วยกัน

    เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น เบียงก้าจึงเปิดประตูอย่างแผ่วเบา เด็ก ๆ ยังคงนอนในห้องเล็ก ๆ ขนาดสามร้อยตารางฟุตใต้แสงจันทร์ แต่ตอนนี้ผู้ใหญ่สองคนกลับกอดกันอยู่ตรงประตู เบียงก้าต้องการหันหลังกลับและมุ่งหน้าเข้าไปในห้อง แต่ชายหนุ่มก็กอดร่างอันบอบบางของเธอไว้แน่นอย่างร้ายกาจ “อย่าทำอย่างนี้สิคะ เด็ก ๆ จะเห็นเราถ้าพวกเขาตื่น…” เธอเหนื่อยหอบในอ้อมแขนของลุค ลุคเป็นสัตว์ร้ายอยู่แล้วตั้งแต่ตอนที่ยังเขาไม่ดื่ม แต่ตอนนี้เขาดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปแล้ว… เบียงก้าไม่อยากจะจินตนาการ เธอทำได้เพียงอธิษฐานว่าเขาจะไม่ดำดิ่งลงไป “ผมไม่บังคับคุณหรอกถ้าคุณไม่เต็มใจ คุณต้องบอกผมถ้าผมกำลังทำร้ายคุณอยู่ ต้องรีบบอกออกมาเลยนะ” ลุคเอาริมฝีปากบางและเย้ายวนของเขามาแนบใบหูของเธอ ก่อนจูบผิวที่ขาวเนียน เขาพยายามอย่างหนักที่จะระงับความอยากที่จะครอบงำเธอ เบียงก้าเงียบงันอยู่ในอ้อมแขนของเขา เธอรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อยเมื่อชายหนุ่มสัญญากับเธอ เธอคิดว่ามันน่าขันที่ลุคมักจะเป็นสัตว์ร้าย แต่เขาก็ยังเห็นอกเห็นใจมากขึ้นทั้งที่อยู่ในสภาพเมาเช่นนี้ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนในตอนที่พวกเขากอดกัน เรนนี่หลับใหลและพึมพำห

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 206 คุณเมารึเปล่า

    เบียงก้าส่ายหน้าอย่างงุ่มง่ามเพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอไม่เป็นไร เธอกังวลว่าใบหน้าที่บูดบึ้งของเขาอาจทำให้เด็กชายหวาดกลัว เธอจึงรีบขยับออกจากอ้อมแขนของเขาและพยักหน้าให้เขาเพื่อเป็นการขอบคุณ แขนของลุคว่างเปล่าในทันใด เขามองไปที่เบียงก้าซึ่งกำลังพาลูก ๆ ไปเล่นที่อื่นด้วยความห่วงใยและความไม่พอใจที่ก่อตัวขึ้นในหัวใจของเขา เขาไม่พอใจที่เบียงก้าตอบโต้เขาอย่างเย็นชาก่อนหน้านี้ แม้ว่าเขาจะคิดว่าเธอทำเช่นนั้นก็เพราะกลัวคนอื่นจะเห็น ความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะอ้างตัวเธอว่าเป็นของเขาเองนั้นก็ทำให้เขาไม่พอใจด้วย เขาอยากจะเดินไปกอดเธอในอ้อมแขนและประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเบียงก้า เรย์นเป็นผู้หญิงของลุค ครอว์ฟอร์ขนาดไหนใครจะรู้! ไม่เพียงเท่านั้น ผู้หญิงคนนั้นยังให้กำเนิดลูกของเขาด้วย! ไม่ใช่แค่หนึ่ง แต่ถึงสอง! เบียงก้าก้มศีรษะลงที่เท้าของผู้บริหารเมืองเป็นการทักทาย แล้วก้มหน้าก้มตาวิ่งหนีไปราวกับว่าเธอกำลังหลบหนี เธอกังวลว่าผู้บริหารเมืองจะเข้าใจผิด “ช่างอ่อนโยนและอบอุ่นเหลือเกินนะ ท่านประธานครอว์ฟอร์ด! เราก็ทานอาหารเย็นกันบ่อย ๆ ทำไมผมไม่เห็นด้านนั้นของคุณเลยล่ะ?” ผู้บริหารเมืองชายวัยกลางคนหัวเราะ

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 205 ลุคแสดงความรักต่อหน้าสาธารณชน

    “น้าบี… จริงเหรอคะ?” เรนนี่มองไปที่เบียงก้าด้วยแววตาลูกสุนัขที่มีน้ำตาเอ่อคลอ เบียงก้าก้มศีรษะลงจูบที่หน้าผากของเรนนี่ และขยี้ผมของเธอ “ไม่เลย น้าไม่เคยคิดว่าหนูน่ารำคาญเลยนะ” น้ำเสียงของเบียงก้าอาจจริงจังเกินไป ไม่เพียงแต่จะโน้มน้าวใจเด็กน้อยอย่างเต็มที่ แต่คำพูดของเธอยังทำให้เจสันซึ่งกำลังขับรถอยู่ตกใจไปด้วย เจสันถือว่าตัวเองเป็นคนที่ผ่านอะไรมามาก เขาเคยเห็นคนทุกประเภทตั้งแต่ผู้สูงศักดิ์และยิ่งใหญ่ไปจนถึงคนอนาถาและน่ารังเกียจ ในช่วงหลายปีที่ทำงานกับเจ้านายมา เขาคิดว่าเขาเชี่ยวชาญในการอ่านนิสัยของคนอื่นและสามารถบอกความจริงจากการโกหกได้อย่างง่ายดาย ในขณะนั้น เจสันไม่รู้สึกถึงคำโกหกใด ๆ จากปากของเบียงก้าเลย เขาอดไม่ได้ที่จะแอบมองเบียงก้าผ่านกระจกมองหลัง ครู่หนึ่ง เขาคิดว่าตัวเองกำลังเห็นแม่ผู้ให้กำเนิดเด็กทั้งสองคน... โรงพยาบาลในเมืองเอ เมื่อผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดตื่นขึ้น เขาไม่เห็นแม้แต่หลานชายหรือเหลนทั้งสองคนของตัวเอง เขาเริ่มกังวลทันที อลิสันเข้ามาในนาทีนั้นและพยายามปลูกฝังความคิดในหัวของชายชรา “พ่อจะโทรไปถามลุคไหม?” “ฉันควรถามอะไรล่ะ?” ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดตอบกลับระหว่

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 204 เขาอยากครอบครองเธอใจจะขาด

    เบียงก้ากับแวนด้าขึ้นไปชั้นบนเพื่อคุยกันเป็นการส่วนตัว ลุคกำลังอยู่ในสายของการประชุมธุรกิจระหว่างประเทศ ขณะกำลังคุยโทรศัพท์ เขาสามารถเห็นได้จากท่าทางของคนทั้งสองว่าการสนทนาระหว่างเบียงก้าและแวนด้านั้นไม่ปกติ แต่เขาไม่ได้ยินสิ่งที่ทั้งสองคนกำลังพูดกันเท่าไหร่นัก เมื่อเขาวางสาย ลุคเห็นจากหางตาว่าเบียงก้าและแวนด้าหายตัวแถวหัวมุม “เธอบอกว่าเธอเป็นน้าของเบียงก้า” เจสันเข้ามารายงานสถานการณ์ตามความจริง ลุคหันไปสั่งเจสันว่า "ไปสืบประวัติของน้าคนนั้น" เจสันโค้งคำนับ ลุคมองเข้าไปทางหน้าต่างชั้นสองที่เปิดทิ้งไว้ เขายังคงนิ่งเฉยไม่แสดงออก แม้ว่าความต้องการของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ในห้องบนชั้นสอง เบียงก้ารู้สึกเขินอาย ไม่เพียงเพราะเป็นครั้งแรกที่เธอได้พบกับน้าที่เธอเคยได้ยินผ่านเรื่องเล่า แต่ยังเป็นเพราะเธอกลัวว่าน้าจะรับรู้ถึงฮอร์โมนเพศชายที่แผ่ซ่านไปทั่วห้อง เธอรู้สึกราวกับว่าตัวเองทำอะไรผิด แวนด้าเหลือบมองไปรอบ ๆ ห้องและถามด้วยความสงสัย “ผู้ชายที่ลงมาข้างล่างกับเธอ…” “เขาเป็นเจ้านายของฉัน” เบียงก้าตอบก่อนที่น้าของเธอจะถามคำถามเสร็จ เบียงก้ายังเด็กและไม่ค่อยรู้จักวิธี

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 203 ทำไมคุณถึงขี้อายนักเล่า ผมก็เห็นทุกอย่างไปหมดแล้วนิ

    เบียงก้าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของการข่มใจที่เล็ดลอดออกมาจากร่างของชายผู้นั้น แม้ว่าเธอจะได้รับการเตือนว่าชายผู้นี้มีความรู้สึกตรงกันข้ามก็ตาม เขาน่ะหรือจะห้ามใจ มีแต่จะทำตามใจตัวเองมากกว่า หัวใจของเธอเต้นแรง และปากเริ่มมีน้ำลายสอ เมื่อนึกถึงสัตว์ร้ายที่ซ่อนอยู่ใต้กางเกงของชายหนุ่ม “คุณ… ออกไปรอข้างนอก… ฉันอาบน้ำเองได้ค่ะ” หลังจากระเริงไปหลายครั้งเมื่อคืน เบียงก้าอายเกินกว่าจะเงยหน้ามองเขา บ้านหลังเก่าที่รกร้างและมืดมิดนั้นทั้งอบอุ่นและร้อนแรงเพราะมีเขาอยู่ กลิ่นของความสกปรกและความชื้นส่งกลิ่นแรงอยู่ตรงหน้าบ้าน แม้ว่าชายผู้นั้นจะจุมพิตและหายใจแรง แต่เธอก็ได้ให้ทุกสิ่งแก่เขาไป ราวกับว่าเธอได้หลอมรวมตัวเองเข้ากับร่างกายที่เร่าร้อนของเขาไป จากนั้น ก็ร่วมรักกันในรถอีกรอบ เบียงก้าคิดว่าลุคเป็นปีศาจที่หิวกระหายเนื้อมนุษย์ ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืนเขามักจะหิวโหยร่างกายของเธอเสมอ แต่ถึงกระนั้น เธอก็พลีกายให้เขาไปหลายครั้ง! โชคดีที่ความมืดมิดในยามค่ำคืนได้บดบังใบหน้าที่แดงก่ำของเธอ เพื่อที่เธอจะได้ไม่รู้สึกอึดอัดใจนักเมื่ออยู่กับเขาตามลำพัง แต่เธอไม่อาจหลบซ่อนมันจากการร่วมรักที

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 202 ตัณหาอันแรงกล้าในยามเช้าของลุค

    ชั้นล่างบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้าน เพื่อนร่วมงานบางคนซื้อซาลาเปาสำหรับการทำงานกะเช้า ในขณะที่เพื่อนร่วมงานหญิงกำลังเตรียมข้าวโอ๊ตอยู่ในครัว ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าข้าวโอ๊ตที่ซื้อจากร้านมีเนื้อหยาบเกินไป เป็นครั้งแรกที่ลูก ๆ ของเจ้านายลิ้มลองซาลาเปาแป้งทำมือจากเมืองเล็ก ๆ พวกเขารับประทานคนละสองชิ้น แต่เหมือนจะยังไม่พอ เรนนี่ยัดขนมปังเต็มปากแล้วกะพริบตาอย่างไร้เดียงสาใส่คุณลุงดอยล์ของเธอ ก่อนขอเพิ่มทั้งที่ยังเคี้ยวอยู่เต็มปาก “ทานช้า ๆ ก็ได้ครับ เดี๋ยวลุงจะไปซื้อมาเพิ่ม” เจสันขยี้ผมของเรนนี่ เมื่อเขาลุกขึ้น เขาหันไปหาเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ แล้วพูดว่า "ผมจะซื้อมาฝากทุกคนเหมือนกัน" ขนมปังไม่เพียงพอสำหรับทุกคน การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเจ้านาย ผู้ช่วย และลูกสองคนของเขาทำให้เพื่อนร่วมงานต้องแบ่งอาหารให้ ในเมืองกำลังพลุกพล่าน เจสันยืนอยู่หน้ารถขายอาหารและซื้อซาลาเปาใส่ไส้ไก่มากว่าสิบห้าชิ้น เมื่อเขาหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาและกำลังจะจ่าย เขาสังเกตเห็นผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดทำงานแสนเรียบร้อยเดินเข้าไปในสนามหญ้าหน้าบ้าน เธอดูเหมือนจะอยู่ในวัยสามสิบ "ชิ้นละ 1.80 เหรียญ ซื้อ 15 ชิ้นก็เป

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status