Share

บทที่ 10 ชายโฉด

ภายไม่กี่วินาทีนั้น จิตใจของเบียงก้าก็ว่างเปล่า!

เธอขมวดคิ้วและตำหนิตัวเองที่ใจอ่อน

'เบียงก้า อย่าลืมสิ เธอมีฌองอยู่แล้วนะ!'

'ฌองเป็นผู้ชายคนเดียวที่เธอจะมีอารมณ์ด้วยได้นะ!'

“คุณอยู่กับผมแล้วนะ ทำไมคุณถึงได้คิดฟุ้งซ่าน!” เขากระชากเสื้อคลุมสีขาวของเธออออกอย่างแรง

ความรู้สึกชุ่มชื้นและอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกแผ่ซ่านไปทั่วริมฝีปากของเธอ

จากนั้นเขาก็ก้มศีรษะลงและจูบลงบนเส้นผมของเธอ หลังจากผ่านเวลาไปอย่างยาวนาน เสียงต่ำของเขาก็พูดเข้าหูเธออย่างเย้ายวน

เมื่อได้ยินเสียงต่ำของชายคนนั้น เบียงก้ากำลังจะอกแตกตาย!

ลุคมีกลิ่นครีมอาบน้ำอันหอมหวน กลิ่นนั้นเป็นกลิ่นเดียวกับที่เธอใช้ นั่นหมายความว่าตอนที่อาบน้ำ ชายคนนี้เพิ่งใช้ครีมอาบน้ำของเธองั้นสิ

เบียงก้ารู้ดีว่ามันอันตรายเพียงใดถ้าเธอไม่ขัดขืนตั้งแต่ตอนนี้

แต่แค่ออกแรงดิ้นยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

สิ่งที่เธอสามารถทำได้ในตอนนี้มีเพียงสิ่งเดียว นั่นคือขอโทษเจ้านายของตนเสียก่อน เพราะเธอกำลังจะทำเรื่องที่ไม่น่าเคารพกับเขาเสียแล้ว แต่อย่างน้อยคงจะดีกว่าถ้าปล่อยให้เรื่องราวดำเนินไปอย่างตอนนี้!

ดวงตาของเบียงก้าเริ่มคุ้นชินกับความมืด และตอนนี้เธอสามารถเห็นลักษณะอันละเอียดอ่อนของชายคนนั้นได้อย่างชัดเจน แสงสลัวส่องมาที่เขา ทำให้เขาดูเหมือนฝัน โดยเฉพาะริมฝีปากบางของเขาช่างดูเย้ายวนเหลือเกิน

สำหรับคนที่ไม่รู้จักเขาดีพอ คงจะบอกได้เลยว่าชายคนนี้เป็นตัวพ่อในวงการหนังอย่างว่าแน่นอน กลิ่นฟีโรโมนฟุ้งกระจายไปตามท่วงท่าของเขา

เบียงก้าบีบมือลงบนร่างกายของชายคนนั้นอย่างแรง จากนั้นเธอก็รวบรวมความกล้าและยกขาขึ้น

เธองอเข่าและกระแทกเข้าไปในใต้ท้องน้อยของชายคนนั้นอย่างแรง!

“โอ้ย”

มีเสียงอวดครวญครางอู้อี้ และชายคนนั้นก็ขมวดคิ้วอย่างหนัก เขากลืนความเจ็บปวดนั้นกลับเข้าไปในลำคอของเขา

“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!” เธอสะบัดตัวไปทางซ้ายและขวาเพื่อต่อสู้ขัดขืน

ชายคนนั้นคว้าข้อมือเธอไว้ทันใด ซึ่งทำให้เธอเจ็บไม่น้อย

ไม่ว่าเธอจะพยายามอย่างไร ก็ไม่อาจหลุดออกจากเงื้อมมือของเขาได้

วินานั้น เบียงก้าพลันนึกว่านี่คงจะเป็นจุดจบของเธอแล้วสินะ เธอคงจะหนีไปไหนไม่รอดแล้ว

ทันใดนั้น ชายคนนั้นก็ปล่อยเธอไปในทันที

จิตใจของเธอก็ว่างเปล่า สิ่งแรกที่เธอต้องการทำคือวิ่ง วิ่งหนีจากเขาให้เร็วที่สุด

เธอปิดประตูเสียงดังมากเสียจนทำให้เด็กน้อยสองคนขยับตัวอยู่บนเตียงและค่อย ๆ ลืมตาตื่น

เที่ยงคืนแล้ว และเบียงก้าเดินไปตามทางเดินของโรงแรม เธอไม่กล้าเดินอ้อยอิ่งแบบนี้นาน ๆ แล้วก็ยังกลับห้องนอนไม่ได้ เธอก็ไม่กล้าจะไปนั่งอยู่ที่ห้องน้ำรวมด้วย เพราะว่ามันเปลี่ยวเกินไป

ในที่สุดเธอก็ขึ้นลิฟต์และลงไปที่ชั้นล่าง

แสงไฟสว่างจ้าที่ล็อบบี้โรงแรม

มีพนักงานต้อนรับสองคนที่เคาน์เตอร์ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสี่คนยืนเฝ้าอยู่ด้านนอก ไม่สำคัญว่าจะเป็นใคร ไม่มีใครสามารถล่วงละเมิดเธอได้อีก แม้ว่าพวกเขาจะพยายาม ก็มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ห่างออกไปเพียงสองเมตรเท่านั้น

ที่นี่เป็นที่ปลอดภัยมาก

“นี่ค่ะ คุณผู้หญิง” พนักงานต้อนรับคนหนึ่งใจดีรินชาร้อนให้เธอ

"ขอบคุณค่ะ" เบียงรับชาและจิบเล็กน้อย มันทำให้ร่างกายที่เย็นเฉียบของเธออบอุ่นขึ้น

ช่างเป็นค่ำคืนที่ยาวนานเสียเหลือเกิน

แต่อย่างน้อยที่สุด การรอคอยที่แสนทรมานก็จบลงในที่สุด

เบียงก้าตื่นขึ้นมาด้วยความหนาวเย็นในเช้าวันรุ่งขึ้น แม้ว่าจะมีผ้าห่มอยู่บนตัว แต่เธอ

รู้ว่าตอนนี้จมูกของเธอมีปัญหาเสียแล้ว และร่างกายของเธอก็หนาวสั่นไปหมด

ตอนนี้เธอลืมตาตื่นขึ้นมาแล้ว เธอต้องรับมือกับผลที่ตามมาจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้

เบียงก้ากอดแขนตัวเองและครุ่นคิด ‘ถ้าเจ้านายขอโทษอย่างจริงใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ ฉันอาจยอมรับคำขอโทษจากเขาได้ ถ้าเขาไม่สำนึกผิดเลย ฉันจะลาออกโดยไม่คิดอะไรเลยทั้งนั้น'

เธอรู้ว่าการล่วงละเมิดทางเพศผู้ใต้บังคับบัญชาของผู้ชายนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำซากจำเจ

และเรื่องนี้ไม่เปลี่ยนแปลงเลยไม่ว่าจะในหรือต่างประเทศ

ถ้าเธอออกจากบริษัทนี้ สิ่งเดียวกันนี้อาจเกิดขึ้นอีกครั้งในที่ทำงานใหม่ของเธอก็ได้

สำหรับผู้ชายแล้ว ผู้หญิงนั้นอ่อนแอกว่าพวกตน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าผู้หญิงทุกคนจะทำสิ่งที่ผู้ชายคาดหวังได้ เธอจะไม่มีวันยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธออย่างเด็ดขาด

เพื่อนร่วมงานสองคนซึ่งเดินทางมาพร้อมกับเบียงก้าที่เมืองเอชในทริปนี้ หญิงสาวคนนั้นคือ ซู คาร์เตอร์ และชายหนุ่มชื่อ ทอม เลวิส เวลาแปดโมงตรง ทั้งสองคนลงมาด้านล่าง

“ตื่นเช้าจังเลยนะ เบียงก้า” ซูกำลังจะรับประทานอาหารเช้ากับทอม เธอหันกลับมาและเห็นเบียงก้านั่งอยู่

ตอนนี้เบียงก้ารู้สึกปลอดภัยเล็กน้อยหลังจากเห็นเพื่อนร่วมงานมาอยู่ด้วย

เธอกำลังจะลุกขึ้นและออกไปกับเพื่อนร่วมงานของเธอ ทันใดนั้น เธอเห็นประตูลิฟต์ทางด้าน

ซ้ายกำลังเปิดออก

เจ้านายที่แสนดีกำลังเดินออกจากลิฟต์พร้อมกับลูกชายและลูกสาวทั้งสอง

เบียงก้ามองดูพวกเขา ใบหน้าของเธอซีดเผือด

สายตาของลุคก็ได้มองตรงมายังเธอเช่นกัน เธอชุดที่เธอสวมอยู่ค่อนข้างไม่น่ามองเท่าไหร่

“ไปกับคุณลุงดอยล์ก่อนนะ” ลุคพูดกับลูก ๆ แล้วก้มหน้าลง

เจสัน ดอยส์จับมือเรนนี่และเมื่อทั้งสองคนเดินผ่านเบียงก้า เรนนี่ก็ทำหน้าน่ารักใส่เบียงก้า

การได้เห็นเรนนี่ทำให้หัวใจของเบียงก้าอ่อนโยนขึ้นด้วยเหตุผลบางอย่าง

เจสันพาเด็กน้อยทั้งสองออกไปรับประทานอาหารเช้า พลางกวักมือเรียกซูและทอมไปกับเขาด้วย

ส่วนลุคนั้น เขาไม่เคยละสายตาจากเบียงก้าเลย ในที่สุด เขาก็เดินเข้ามาหาเธอ สายตาของเขาจับจ้องไปที่แก้มใส ๆ ของเธอขณะพูดว่า “เมื่อคืนผมไปนอนห้องคุณได้ยังไงกัน?”

เอ่อ…

เบียงก้ากระพริบตาพลางเงยหน้าขึ้นมองเจ้านายของเธอ

นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอคิดไว้

ผู้ชายคนนี้ลืมเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์รึเปล่าะ?

พอได้สติ เขาจะจำอะไรไม่ได้จริง ๆ เหรอ?

พวกเขาสบตากัน และทันใดนั้น เบียงก้าก็รู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย

ชายหนุ่มตรงหน้าเธอสูงเกือบร้อยเก้าสิบเซนติเมตร เขาสูงโปร่งและรูปร่างดีอย่างมาก ไหล่กว้างและสะโพกแคบ สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวบริสุทธิ์ซึ่งห่อหุ้มลำตัวและกระชับพอดี

ตอนนี้เขาดูมีระดับและเป็นสุภาพบุรุษ ราวกับว่าชายโฉดที่ตรึงเธอไว้อย่างรุนแรงเมื่อคืนนี้

ทั้งกอดและจูบเธออย่างหิวโหยเป็นอีกคนหนึ่งโดยสิ้นเชิง

“เมื่อคืนคุณเมามากค่ะ คุณครอว์ฟอร์ด” เธอกล่าว

“ใช่ แต่ผมจำบางช่วงสั้น ๆ ได้ เมื่อคืนคุณใช่ผู้หญิงคนนั้นรึเปล่า” เขาถามอย่างเย็นชา

จังหวะหายใจของเบียงก้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย สายตาของเขาทำให้เธอหวั่นไหว เขาคิดเหรอว่า

เธอ… ตั้งใจดึงเขาเข้ามาในห้องนอนเมื่อคืนเพื่อที่จะได้มีสัมพันธ์กับเจ้านายของตัวเองงั้นเหรอ…?

เบียงก้ารีบโบกมือใส่เขา “ไม่ใช่ฉันค่ะ! ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากที่คุณยึดห้องของฉันเมื่อคืนนี้ ก็มีพนักงานทำความสะอาดเข้าไปข้างใน แต่เธออยู่ข้างในเพียงห้านาทีก่อนจะออกมาอีกรอบค่ะ”

ชายคนนั้นยังคงจ้องมองเธออยู่ สายตาของเขามองไปที่ใบหน้าของเธอ เขาจ้องไปที่คิ้ว ดวงตาปลายจมูก และริมฝีปากของเธอ

จริง ๆ แล้วเธอต้องการแค่จัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย แต่เนื่องจากเจ้านายของตนลืมเรื่องนี้ไปหมด เธอจึงไม่มีเจตนาจะกล่าวหาเจ้านายในสิ่งใด

ตายล่ะ ทำไมเธอถึงพูดว่าห้านาทีละ? เธอควรจะบอกว่ามันเป็นชั่วโมงสิ!

“เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ? เธอขโมยอะไรไปรึเปล่าคะ?” เบียงก้าเอ่ยถาม

ชายคนนั้นขมวดคิ้วและพูดประชดประชันว่า “เธอไม่ได้ขโมยอะไรเลย แต่ผมคิดว่าเธอจับโดนตรงนั้นของผม”

ใบหน้าของเบียงก้าแดงเล็กน้อยในทันที แต่เธอกลับไม่รู้ตัวแต่อย่างใด

“คือ… คุณเป็นอะไรรึเปล่าคะ? ไปโรงพยาบาลไหมคะ?” เบียงก้าเอ่ยถามด้วยความตกใจ

ดวงตาที่เฉียบคมของชายผู้นั้น สบตากับสายตาที่เย้ายวนของเธอ “จริง ๆ แล้ว ผมเป็นห่วงเธอหัวเข่าเธอมากกว่า”

เบียงก้า “…”

"ไม่ว่าอะไรก็ตาม เนื่องจากผู้หญิงคนนั้นทำหน้าที่ดูแลห้อง ฉันแน่ใจว่าในระหว่างการทำงาน เธอคงเคยโดนชนมาบ้างแหละ” ชายคนนั้นพูดอย่างอ่อนโยน จากนั้น เขาหยิบบุหรี่ขึ้นสูบด้วยใบหน้าอันบูดบึ้งโดยไม่สนใจเบียงก้าแม้แต่น้อย เขาเคาะขี้บุหรี่และเดินออกไป

เธอยืนนิ่งไม่ไหวติ่งอยู่ตรงนั้น ณ ตอนนี้ เบียงก้ารู้สึกเจ็บแปลบบริเวณหัวเข่าขึ้นมา... แม่ของลานี่และเรนนี่ก็ยังไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย ทำไมเจ้านายถึงทำตัวบ้าแบบนี้กันนะ ?

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status