อื้อ~ ฉันแอ่นกายบิดขี้เกียจ เหลือบไปมองนาฬิกา OMG! บ่ายสองแล้วเหรอเนี่ย มองซ้ายมองขวาก็ไม่เจอเขาแล้ว ปลอดภัยแล้วล่ะ ฉันรีบลุกขึ้นห่อร่างเปลือยล่อนจ้อน ไปอาบน้ำอาบท่า พอตัวสัมผัสน้ำเริ่มรู้สึกเจ็บตรงร่องสาว มันบวมแดง และแสบระบมไปหมด
พอนึกถึงเรื่องเมื่อคืน ฉันล่ะอยากมุดส้วมหนีไปจากที่นี่ให้พ้น น่าอายชะมัด ทำไมเราต้องไปมีอารมณ์ร่วมกับเขาทุกครั้งเลยนะ เบื่อตัวเอง
พอแต่งตัวเสร็จออกมาหาอะไรกินก็เจอแม่บ้านคนนึงยืนจัดจานจัดอาหารรออยู่
“สวัสดีค่ะ คุณณีเวีย ป้าชื่อป้านวลนะคะ คุณเซ็น สั่งให้ป้าจัดกับข้าวไว้ให้คุณค่ะ” ป้านวลยิ้มหวานแล้วเลื่อนเก้าอี้ให้ฉันนั่ง
“ขอบคุณค่ะป้านวล”
เอ่อ... โต๊ะกินข้าวนี่ฉันเพิ่งนั่งมันเมื่อคืนนี่น่า อยากจะร้องไห้จริง ๆ พอหันไปทางไหนเรื่องเมื่อคืนก็หลอกหลอนฉันไปหมดทุกซอกทุกมุม
“เอ่อป้านวลคะ เขาไปไหนเหรอคะ?”
“คุณไปประชุม ที่โรงงานค่ะ” เขาเอาแรงที่ไหนตื่นไปทำงานกันนะ
ฉันรีบกินข้าว แล้วรีบแกะยาคุมกิน ไม่ทันไรป้านวลก็เดินมาเก็บจานข้าวพอดี“คุณณีเวีย อย่าหาว่าป้าละลาบละล้วงนะคะ คือยาคุมฉุกเฉิน อย่าทานติดกันบ่อยเลยค่ะ มันไม่ดี”
ฉันก้มมองกล่องแล้วฉุกคิดขึ้นมา ฉันกินยาอีกเม็ดของเมื่อวาน และเมื่อคืนฉันมีอะไรกับเขาอีกครั้ง ถ้าอยู่ที่นี่ฉันอาจต้องโดนตาหน้าเมื่อยนั่นข่มขืนบ่อยแน่ ให้กินยาอะไรแบบนี้บ่อย ผลที่ตามมามันไม่คุ้มจริง ๆ นั่นล่ะ ฉันคงต้องหาทางป้องกันวิธีอื่นแล้วล่ะสิ
“คุณณีเวียคะ คือป้าลืมบอก คุณเซ็นไม่ให้ป้าทำงานที่นี่แล้วเห็นว่า
ให้คุณทำแทน ป้าต้องกลับไปทำงานต่อที่บ้านใหญ่ต่อ เหนื่อยหน่อยนะคะ เดี๋ยวป้าสอนให้ค่ะ”ป้านวลพูดแบบยิ้มแย้มตามปกติของแก แต่ฉันสิควันออกหูไปแล้ว
นี่ฉันมาทำอะไรที่นี่เนี่ย ให้เป็นแม่บ้านและอีตัวบนเตียงนอนพร้อม ๆ กันหรือยังไง กะจะใช้ให้คุ้มเลยล่ะสิ!“จะ จริงเหรอคะ ขอบคุณมากค่ะ ป้านวลมีเบอร์เขามั้ยคะ หนูขอ
หน่อยค่ะ” ป้านวลยื่นมือถือให้ฉันค้นหาเอง เพราะแกทำไม่ค่อยถูก พอได้เบอร์มาก็รีบเมมเบอร์ใส่โทรศัพท์ตัวเองรีบโทรหาเขาทันทีโทรออก | ตาหน้าเมื่อย
(ฮัลโหล)
“คุณ สรุปคุณจะให้ฉันทำงานอะไรคะ จะให้ทำให้ทุกอย่างเลยรึไง ไหนว่าแค่บริการอย่างเดียวแค่เรื่องอย่างว่าฉันว่ามันก็มากพอแล้วนะ”
(บ่นอะไร เป็นผู้หญิงก็ควรทำไม่ใช่รึไง)
“แล้วทำไม ไม่จ้างแม่บ้านทำ เดี๋ยวฉันก็ต้องไปเรียน ไหนตอนกลางคืนคุณ... อะไรฉันอีกล่ะ”
(บ่นทำไม ก็ชอบเหมือนกันนิ แค่นี้ล่ะฉันไม่ว่าง)
เขาทิ้งระเบิดตูมเล็ก ๆ ใส่ก่อนวางสาย ฉันได้แต่กัดปากแน่น หน้าร้อนผ่าวไปถึงใบหู
ป้านวลเริ่มสอนฉันซักผ้า ซักมันทั้งหมด กางเกงในถุงเท้า สอนทำ
อาหารเช้า ดูดฝุ่น ทุกอย่างจริง ๆ พอจบครอสป้านวล ฉันรีบโทรหาน้ำหวานกะจะฟ้องพฤติกรรมเทพบุตรของนางเสียหน่อย“อะไรแก เมื่อคืนโดนไหม อิอิ” น้ำหวานรับสายเสียงเจ้าเล่ห์
“พอเถอะแก ฉันเบื่อ อีตาเซ็นนี้ใช้ฉันทำงานบ้าน แทบทุกอย่าง
ซักผ้ารีดผ้า แล้วแกรู้มั้ย กางเกงในเขายังต้องรีด ฉันนี่จะบ้าแล้วแก เมื่อไหร่จะหมดสัญญาสักที ฉันเหนื่อยจะแย่”ฉันบ่นอุบอึบ อีกมือนวดแขนนวดขาตัวเองไปด้วย ถ้าเป็นแต่ก่อนปวดเมื่อยนิดหน่อยฉันคงรีบไปร้านนวดเข้าสปาแพง ๆ ให้สบายใจแล้วล่ะ นี่มานั่งเป็นยายเพิ้งบ่นพึมพำอยู่ คับแค้นใจจริง
(ก็ดีแล้วนี่แกจะได้ทำเป็น เป็นสาวเป็นนาง) น้ำหวานเข้าข้างเขาอีกแล้ว
“เฮ้อ แกไม่เจอกับตัวไม่รู้หรอก นี่ฉันเบื่ออะ อยากเปิดเทอมแล้ว แกมาเดินเล่นห้าง ZER มั้ย ชวนไอ้แตงด้วย”
ฉันอยากจะช้อปปิ้งให้หายเครียด แต่ก็ลืมไปว่าไม่มีเงิน เลยได้แต่ชวนสองสาวมาเดินเล่นห้างชั้นล่าง อย่างน้อยฉันก็แค่ลงลิฟต์ไม่กี่ชั้น และไม่ต้องเสีย
ค่าแท็กซี่(แหมคุณนายเจ้าของห้าง เออได้ฉันก็เบื่อ แต่แตงโมมันไม่ว่าง ติดธุระ
มีแต่ฉันกับแก โอเคมั้ย เดี๋ยวออกไปเลย)พอฉันวางสายน้ำหวานก็รีบแต่งหน้าแต่งตัว กลัวตาหน้าเมื่อย
กลับมาก่อนลงลิฟต์มาถึงชั้นล่างก็เป็นห้างกว้างใหญ่ ช้อปแบรนด์เนมเรียงรายกันเป็นแถว จะว่าไปห้างนี้ฉันก็เคยมา แต่นึกไม่ถึงว่าเจ้าของจะยังหนุ่มและบ้าพลังเหมือนเมื่อคืน... ระหว่างนั้นฉันก็เดินเล่น ๆ รอน้ำหวาน
‘ครื้น ครื้น’ เสียงรถซุปเปอร์คาร์คันหรูขับมาจอดหน้าประตูห้าง ประตูปีกนกฝั่งคนขับถูกเปิดออก เมื่อขายาว ๆ ก้าวลงมาจากรถเท่านั้น พี่นพก็วิ่งขับรถออกไป เขาเดินเข้ามาพร้อมติดกระดุมสูทเรียบนิ่ง ๆ นิ้วยาว ๆ ถอดแว่นกันแดดราคาแพงออก มันเผยให้เห็นดวงตาคู่สวยที่พร้อมกระชากใจสาว ๆ คู่นั้น
“อ้ายแก โคตรหล่อ” น้องผู้หญิงข้าง ๆ ฉัน สะกิดเพื่อนให้หันไปดู
“ปลื้มอะแก ได้ข่าวว่าเป็นเจ้าของห้าง”
สาว ๆ มองเขาตาเป็นมัน รวมถึงฉันที่ยังเผลออึ้งในความดูดีของเขา
เมื่อร่างสูง ผิวขาวนั้นเดินเข้ามาในห้าง รังสีความหล่อก็แผ่กระจายทวีคูณขึ้นไปอีก“แกเขาเดินมาทางนี้” น้องผู้หญิงข้าง ๆ ฉันรีบสะกิดเพื่อนอีกรอบ
เขาเดินมาทางนี้จริง ๆ และหยุดอยู่ตรงหน้าฉัน ตาคม ๆ ของเขานั้นจ้องหน้าฉันนิ่ง เสียงซุบซิบรอบ ๆ เริ่มมา คนพวกนั้นมองฉันกับเขาสลับกัน เห็นแล้วหมั่นไส้ พวกหล่อนไม่มีโอกาสได้ใกล้เขาล่ะซิ จงดูฉันเป็นตัวอย่าง--- น้ำหวาน --- ฉันคลอดลูกมาเกือบปีแล้ว ตอนนี้ลูก ๆ สามคนกำลังนั่งเล่นสนุกสนานกับเพื่อน ๆ ในคอกเด็กขนาดใหญ่ ในนั้นมี... เวียร์ ซินน์ ไออุ่น นาวา นาวิน และน้ำปั่น วันนี้เรานัดทานข้าวและมีปาร์ตี้เล็ก ๆ กันที่บ้านแตงโม เหล่าแม่ ๆ อย่างเรานั่งคุยกัน และมองดูลูกตัวเองเป็นระยะ “แง...” ไออุ่นร้องไห้ เมื่อนาวินดึงของเล่นออกจากมือ แตงโมหัวเราะ เบา ๆ แล้วเดินไปอุ้มลูกมานั่งตัก “เบา ๆ นะลูกเดี๋ยวโดนน้อง” และปรามน้องไออุ่นไปด้วย เพราะกลัวโดนน้องอีกคนที่อยู่ในท้อง ใช่ค่ะ แตงโมท้องอีกแล้ว! ท้องได้สามเดือนแล้ว ส่วนณีเวียกับฉันขอบาย เราขอพักก่อน ผ่าคลอดมา ยังเสียวท้องอยู่เลย อย่างอื่นก็ยังเสียวอยู่นะ ว่างก็กินกับสามี ว่างบ่อยก็กินบ่อย เฮ้อ... มันเป็นความสุขของชีวิตอีกอย่างหนึ่งจริง ๆ สามีสูตินารีแพทย์ของฉัน เดินไปอุ้มน้ำปั่นที่คอก ก่อนจะเดินยิ้มมาหาฉัน มองยังไงก็หล่อคุณพ่อคนนี้ “น้ำปั่น น้ำหนักขึ้นหรือเปล่าลูก” คุณพ่อสูตินารีแพทย์แซวลูกสาวคนเล็ก ลูกสาวตอบไม่ได้ ได้แต่ยิ้มและหัวเราะให้ผู้เป็นพ่อ แถมยังใช้แก้มป่อง ๆ ซบคลอเคลียพ่อของเขาอีก น้ำปั่นติดหมอนายหนักมาก! สงสัยคนที่ได้ยินเ
ฉันหันหาคุณพ่อคุณแม่ทันที “คุณพ่อคุณแม่ขับรถช้าเหมือนเต่า” หมอเท็นเดินตามฉัน และบอกมาหน้านิ่ง ๆ “โอ้ย! ปวดท้อง... ปวด! ไม่ไหวแล้ว!” ฉันกรีดร้อง! ทำไม ฉันไม่มีสามีวิ่งตามจับมือเหมือนชาวบ้านเขาเนี่ย ให้ตาย! มีแค่น้องสามีที่เหมือนมาแต่วิญญาณ ฮือ ๆ ไม่นานฉันก็ถูกเข็นเข้ามาในห้องคลอดแล้ว! ฉันหอบเหนื่อยเหงื่อท่วมตัว และถูกพามาห้องนึง ก่อนที่พยาบาลจะตรวจอะไรต่าง ๆ นา ๆ เร็ว ๆ เถอะ! ฉันจะตายแล้ว! “พยาบาลฉันจะตายแล้วค่ะ ตามหมอ ตามหมอด่วน” ฉันส่ายหน้าไปมา ปวดท้องหน่วงมาก แขนสองข้างสั่นแทบจะไม่มีแรงแล้ว ลูกสามคน สามคนเลยนะเว้ย! “ค่ะ คุณน้ำหวาน เดี๋ยวให้ยาแก้ปวดก่อนนะคะ ตอนนี้ห้องผ่าตัดยังไม่พร้อมค่ะ” ยังไม่พร้อม! รอให้ฉันตายก่อนใช่ไหม! “หะ! หวานจะตายก่อนไหม ไม่ผ่าก็ได้ คลอดธรรมชาติเลย หวานพร้อม ฮือ ๆ หวานทนไม่ได้แน่ ๆ” ฉันกุมท้องกรีดร้องบนเตียง “ไม่ได้ค่ะ คุณน้ำหวานมีทารกในครรภ์สามคน คุณน้ำหวานอาจจะช็อกได้ อดทนหน่อยนะคะ” อดทน! ใครจะไปทนได้!
ฉันนั่งมองหมวยน้อยกับณีเวีย ก็อดยิ้มตามไม่ได้ แตงโมคลอดธรรมชาติ! ไม่อยากจะเชื่อ ฉันหน่ะสิ สามคนในท้อง หากคลอดธรรมชาติฉันอาจจะขาดใจตายก่อน ตอนนี้ฉันท้องได้เจ็ดเดือนแล้ว ไม่ต้องถามว่าท้องใหญ่แค่ไหน มันใหญ่จนฉันเดินไม่ไหวเลยล่ะ ฮ่องกงถูกแคนเซิลถาวร ไม่มีกำหนดไป แต่ได้หุ้นห้าสิบเปอร์เซ็นต์กับเบนซ์เอสคลาสเป็นของขวัญแต่งงานนะจ๊ะ ฉันนั่งคุยกับเพื่อนสักพัก เพื่อรอสามีออกเวร สลับไปห้องแตงโมบ้าง ห้องณีเวียบ้าง ณีเวียเจ็บแผลคุณเซ็นจึงเป็นคนเลี้ยงลูก วุ่นวายจนต้องเอางานมาทำที่โรงพยาบาล เห็นแล้วน่ารักดี แต่ก็แอบขำ ‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’ หมอนายเปิดประตูเข้ามา เดินมาตรวจแผลณีเวีย “อย่าหัวเราะดังนะ ระวังแผลฉีก” ณีเวียตกใจเอามือปิดปากทันที “ค่ะ อิอิ จะพยายาม” หมอนายยิ้ม แล้วเดินกลับมาหาฉัน เขานั่งลง เอามือสองข้างโอบท้องฉันไว้ “ไงครับ ลูกพ่อ” เท่านั้นล่ะ! ตุบ ๆ ฉันหลับตาปี๋ ฉันจุก! ลูกถีบหนักมาก รวมพลังเป็นหนึ่งเดียวทันที เมื่อได้ยินเสียงพ่อเขา “โอ้ย เบา ๆ ลูก แม่จุกแล้ว” ฉันลูบท้องปราม ณีเวี
ฉันอยากจะบ้า อยากจะบ้าจริง ๆ ฉันทรมานมากตอนนี้ “ใช่สิสามชั่วโมงผ่าไม่ได้ แตงโมกินเยอะไหม” หมอนายถามฉันอีกครั้ง พลางยกนาฬิกาข้อมือดู… “เรื่อย ๆ ค่ะ คุยไปกินไป ฮือ ๆ” ฉันหลับตาปี๋ ปวดทรมานไปหมด “งั้นประมาณ หกชั่วโมง ไม่เป็นไรเดี๋ยวให้ยาแก้ปวดก่อน” ฮือ ๆ หกชั่วโมง กับยาแก้ปวด โอ้ย! แล้วมันหายปวดเป็นปลิดทิ้งมั้ยล่ะ! “หมอคะ เร็วกว่านี้ไม่ได้เหรอ” ไออุ่นเริ่มถีบท้องฉันรัวแล้ว โอ้ยลูก! อย่าซน ใจเย็น ๆ ลูกแม่ปวด “ไม่ได้จริง ๆ ปกติ ต้องงดข้าวงดน้ำหนึ่งวันเต็ม ๆ” “หมอ แตง... โอ้ย ๆ แตงแจ้งตั้งแต่ฝากครรภ์แล้ว ฮือ ๆ ว่าจะผ่า ไม่คลอดธรรมชาติเด็ดขาด” หมอนายเดินมาใกล้ ๆ ฉัน “ทำไม คลอดธรรมชาติมันปลอดภัยกว่านะ แผลหายเร็วด้วยเจ็บแป๊บเดียว ปวดขนาดนี้ลองเบ่งดูก่อนไหม” ฉันกุมท้องนอนร้องไห้ ในใจนึกโกรธสามี ทำไมฉันต้องมาทรมานคนเดียวด้วย อิตาเอส! “หมอ... ฮือ ๆ ขอยาแก้ปวดก่อนค่ะ ๆ ด่วน” ฉันถูกเข็นไปอีกห้อง และได้ยาแก้ปวดเรียบร้อย อาการทุเลาลง แต่ถามว่ายังปวดไหม ปวดสิ! “พยาบาล
ฉันยืนมองณีเวียและคุณเซ็น ยิ้มกันมีความสุข ก็อดยิ้มตามไม่ได้เลย ลูก ๆ พวกเขาน่ารักมาก น่ารักจริง ๆ เยี่ยมเพื่อนและหลาน ๆ เสร็จ ฉันกับตาเอสก็ออกมาจากโรงพยาบาล ระหว่างอยู่ในรถฉันก็คิดวนเวียนอยู่เรื่องเดียว จะเจ็บแค่ไหนนะ! ณีเวียบอกกับฉันว่าตอนปวดท้องคลอด มันปวดมาก ปวดเหมือนจะตาย ตุบ ๆ นั่นไง พอนึกถึงเรื่องนี้ ลูกสาวตัวดีของฉันก็ดิ้นใหญ่ ฉันลูบท้องเบา ๆ จนสามีเอื้อมมือมาลูบด้วย “ลูกสาวพ่อ พร้อมหรือยัง” ถามแม่บ้างเถอะ! กลัวชะมัด “ฉันยังไม่พร้อม! อย่าเพิ่งสิ” ตาเอสหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นมาหยิกแก้มฉัน “หมวยเธอมันพลังช้างอยู่แล้ว เบ่งเลยสะใจ” “นายลองไปนอนเบ่งดูไหมล่ะตาบ้า!” เขาหัวเราะชอบใจ หน้ากวน ๆ หันมายักคิ้วให้ฉัน “หรือจะผ่าก่อน… จะได้ไม่ต้องเจ็บสองทาง” ฉันหันไปมองเขาทันที เจ็บสองทางงั้นเหรอ “ถ้าถึงกำหนดคลอดก็คลอดเลยสิ ถ้าไม่ปวดก่อน” เอ๊ะก็ดีเหมือนกัน ว่าแต่สามีกวน ๆ ของฉัน ทำไมรู้ดีนัก “รู้ดีนะ” เขายักคิ้วยิ้มกริ่ม
23.56 ฉันเดินเข้าออกห้องน้ำเป็นว่าเล่น สามีนักธุรกิจของฉัน เขายังคงนั่งทำงานที่ห้องทำงานอีกฝั่ง ส่วนฉันตอนนี้ไม่มั่นใจเลยจริง ๆ ว่าตัวเองท้องเสีย หรือจะคลอด ทำไมปวดท้องแบบนี้ ฉันค่อย ๆ จับผนังหวังประคองตัวเองเปิดประตู อยากไปอยู่ใกล้ ๆ คุณเซ็นให้อุ่นใจ แต่ซ่า... นะ น้ำอะไร ฉันไม่ได้ฉี่ราดนะ หรือมันจะเป็น... เป็นน้ำคล่ำ! “กรี๊ด...” ฉันจับประตูกรี๊ดลั่น ดังทั้งเพนท์เฮ้าส์ จนสามีวิ่งออกมาจากห้องทำงาน “เป็นอะไร! เห้ย…” คุณเซ็นวิ่งมาประคองฉันทันที ตอนนี้ฉันเหงื่อท่วมตัว อาการปวดท้องหน่วงมันเริ่มหนักขึ้น หนักจนฉันพรรณนาออกมาไม่ได้! “ไม่ไหว ปวดท้องแล้ว ปวดแล้ว! ฮือ!” ฉันบีบมือเขาแน่น น้ำตาไหลออกมาอาบแก้ม คุณเซ็นรีบโทรหาคนขับรถ และโรงพยาบาลทันที “ผมเซ็นดิณภัทร! ณีเวียภรรยาผม เธอปวดท้องครับ หมอเจ้าไข้ หมอนาย ขอบคุณครับ” เขารีบวางสายแล้วโทรอีกครั้ง “นพเตรียมรถด่วน!” โอ้ย! อะไรนักหนา พาฉันไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้! ไม่ไหวแล้ว! “คุณ ไปโร