เรื่องราวความ 'พลาด'+'เซ็กส์' ของสามสาวสุดแซ่บนักศึกษาปีสุดท้าย ที่นำพาให้พบกับนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง เจ้าของผับ กับ...รัก(ที่คาดเดาไม่ได้) มีทั้งเรื่องดีๆ เรื่องแซ่บๆ และเรื่องร้ายๆ แต่ทั้งสามจะตัดสินใจยังไง กับผู้ชายที่พลาดมีสัมพันธ์ลึกซึ้งเหล่านั้น จะสานต่อหรือพอ?
View Moreบ้านศิทธิศาสตร์โสภณ
“วันนั้น คนที่ไปกับหนูแฟนหรือจ๊ะ” หญิงวัยกลางคนผมสั้น จีบปากจีบคอถามเธอด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส แต่ภายนัยน์ตาที่มองเธอนั้นกลับแข็งกร้าว หญิงคนนี้ไม่ได้รักและเอ็นดูเธอเลยสักนิด ไม่มีใครเอะใจกับคำพูดเหล่านี้ของหล่อนเพราะต่างตั้งหน้าตั้งตาทานอาหารที่อยู่ตรงหน้า เว้นแต่ผู้ถูกถาม ‘เคร้ง’ เสียงช้อนซ้อมที่วางกระแทกจานอย่างแรง ร่างเล็กดีดตัวขึ้นด้วยอารมฉุนเฉียวเพราะรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว
“แล้วคุณมีปัญหาอะไรกับเรื่องส่วนตัวของฉันคะ?” หญิงสาวถามขึ้นด้วยความโมโห เพราะเธอเดาทางออก ผู้หญิงคนนั้นตั้งใจทำให้ผู้เป็นพ่อของเธอเข้าใจเธอผิด หล่อนต้องการทุกอย่าง เงิน ชื่อเสียง และพ่อของเธอ
“ณีเวียทำไมไปขึ้นเสียงใส่แม่นัทอย่างนั้นลูก!” แม่... คำนี้ที่พ่อของเธอสั่งให้เธอเรียกหล่อน แม่ของเธอเพิ่งจากเธอไปไม่ถึงเดือนผู้หญิงคนนี้ก็เข้ามาเป็นทุกอย่างแทนแม่ของเธอ แม่เลี้ยงของเธอ ที่เธอจะไม่มีวันที่เรียกว่า แม่
“พ่อ พ่อไม่เคยรู้อะไรเลย ว่าเขาตั้งใจทำให้พ่อเข้าใจผิด เขายุแยงให้พ่อโกรธหนู” ฉันหันไปบอกพ่อเพื่ออธิบายทุกอย่างให้พ่อฟัง และอยากจะบอกเหลือเกินว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนยังไง!
“เป็นเด็กเป็นเล็กจะมีแฟนไปทำไม แล้วเลิกสักทีนะนิสัยนี้ก้าวร้าว
พ่อปวดหัว” ตึง! ฉันมันก็ผิดอีกนั่นล่ะ พ่อไม่ฟังฉันเลย ไม่เคยตั้งคำถามกลับว่า ทำไม ยังไง ทุกวันนี้ฉันแทบจะเป็นคนนอกอยู่แล้ว“พอเถอะค่ะคุณ แกยังเด็กฉันไม่ถือ” นางยิ้มเยาะก่อนจะหันมา
จิกตาใส่ฉัน“ตอแหล”
‘ปึ้ง!’ พ่อลุกขึ้นทุบโต๊ะและชี้ไปที่ประตู
“ณีเวีย! ไปไหนก็ไป ก้าวร้าวแบบนี้ใครสอนมา พ่อรำคาญแล้วนะ!”
ฉันสะดุ้งและตกใจกับสิ่งที่พ่อทำ พ่อไม่เคยเป็นแบบนี้ ไม่เลย“ที่ผ่านมา พ่อเคยฟังหนูบ้างมั้ย? พ่อรู้มั้ยว่าเขาตั้งใจจะแย่งพ่อไปจากหนู เขาทำให้เราทะเลาะกันบ่อยแค่ไหนกับเรื่องไม่เป็นเรื่องที่เขาแต่งขึ้นมา พ่อไม่เคยถามความจริงกับหนูเลย ไม่เลย!” มือฉันเริ่มสั่นเทา ตอนนี้ฉันไม่สามารถมองเห็นหน้าพ่อได้ชัด ทุกอย่างมันเริ่มพล่างมัวเพราะน้ำตา
ฉันเสียใจ ฉันไม่คิดว่าคำ คำนี้มันจะออกมาจากปากของพ่อฉัน คนที่ก่อนหน้านี้ เคยปกป้องฉันมาตลอด
“ออกไป อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก พ่อไม่ชอบเด็กก้าวร้าว” ฉันได้แต่
กำมือแน่น แล้วหยิบทุกอย่างออกมาจากกระเป๋าตัวเอง“ได้ค่ะ แล้วนี่หนูไม่ต้องการ ต่อไปนี้ต่างคนต่างอยู่ และหนูจะไม่ใช้เงินพ่อสักบาท” บัตรเครดิตที่พ่อให้ไว้ กุญแจรถ กุญแจคอนโดที่มหาลัย ฉันจะวางไว้ตรงนี้ไม่ให้เหลือ
“เดี๋ยวก็ซมซานกลับมา เคยใช้เงินมือเปิบ เอาแต่ใจ ก้าวร้าว!”
“คอยดูแล้วกันค่ะ โชคดีค่ะ”
ฉันทิ้งท้ายแล้วรีบเดินขึ้นมาบนห้องเก็บของเสื้อผ้าจำเป็นใส่กระเป๋า
แล้วเดินออกมาจากบ้านหลังนั้นด้วยความโมโห น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด หลายครั้งหลายคราที่แม่เลี้ยงคนนี้กลั่นแกล้งฉัน ทั้งแกล้งตกบันไดแล้วบอกว่าฉันเป็นคนผลัก แถมยังกล่าวหาว่าฉันไปขโมยเครื่องเพชรของหล่อนถึงในห้องฉันอยู่ที่นี่ระแวงอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้แต่ละวันนางจะมาไม้ไหน และแล้วความโกรธแค้นของฉันยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีก เมื่อมาเจอกับเหตุการณ์นี้ ฉันเบื่อจะเจอเรื่องแบบนี้ซ้ำ ๆ ซาก ๆ แล้ว
“ไปแล้วเหรอ ฮ่า ๆ ฉันรอวันนี้มานานแล้วล่ะ แม่หัวเน่า เชิญไปลำบากข้างนอกเถอะ เงินของพ่อเธอฉันจะใช้เอง อิอิ”
ฉันหันตามเสียงก็เจอเธอเอามือกอดอกยิ้มเยาะใส่ฉัน เหอะใช้เงินพ่อฉันงั้นเหรอ โง่ไปหน่อยมั้ย พอแม่รู้ว่าพ่อมีคนอื่น แม่ก็จัดการโอนบ้านหลังนี้เป็นชื่อฉัน ฉันล่ะอยากให้พ่อมาเห็นเบื้องหลังของแม่นี่จริง ๆ ว่ามันต้องการจะปอกลอกเรา
ฉันทนเห็นหน้าหล่อนไม่ไหวแล้ว!
‘เพี๊ยะ!’ ก่อนจะไปขอตบสักทีเถอะ!
“กรี๊ดนังเด็กบ้า!” เธอร้องโวยวายและตั้งท่าจะพุ่งใส่ฉันกลับ แต่เมื่อเห็นฉันทิ้งของตั้งท่าสู้เหมือนกัน นางเลยชะงัก กระทืบเท้าโวยวาย ฉันได้แต่สมเพชและเดินออกมาจากบ้านแบบโมโหสุด ๆ รถก็ไม่มีขับ อะไรที่เป็นของที่พ่อซื้อให้
ฉันไม่นำมาด้วยสักอย่างเดียวเมื่อพ่อออกปากไล่ฉันอย่างกับหมูกับหมาขนาดนี้ ฉันจะอยู่มันทำไม คิดถึงแม่จังตอนนี้ฉันเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปีสี่แล้ว พอนึก ๆ แล้วก็เครียด ฉันจะเอาเงินที่ไหนจ่ายค่าเทอม แล้วฉันจะไปอยู่ไหนล่ะเนี่ย คอนโดก็คืนพ่อไป อีกไม่กี่อาทิตย์ก็เปิดเทอมแล้ว เพื่อน ๆ ก็ไป Work and Travel เมืองนอกหมด ทำไมชีวิตฉันต้องมาชีช้ำกะหล่ำปลีแบบนี้นะ!
--- น้ำหวาน --- ฉันคลอดลูกมาเกือบปีแล้ว ตอนนี้ลูก ๆ สามคนกำลังนั่งเล่นสนุกสนานกับเพื่อน ๆ ในคอกเด็กขนาดใหญ่ ในนั้นมี... เวียร์ ซินน์ ไออุ่น นาวา นาวิน และน้ำปั่น วันนี้เรานัดทานข้าวและมีปาร์ตี้เล็ก ๆ กันที่บ้านแตงโม เหล่าแม่ ๆ อย่างเรานั่งคุยกัน และมองดูลูกตัวเองเป็นระยะ “แง...” ไออุ่นร้องไห้ เมื่อนาวินดึงของเล่นออกจากมือ แตงโมหัวเราะ เบา ๆ แล้วเดินไปอุ้มลูกมานั่งตัก “เบา ๆ นะลูกเดี๋ยวโดนน้อง” และปรามน้องไออุ่นไปด้วย เพราะกลัวโดนน้องอีกคนที่อยู่ในท้อง ใช่ค่ะ แตงโมท้องอีกแล้ว! ท้องได้สามเดือนแล้ว ส่วนณีเวียกับฉันขอบาย เราขอพักก่อน ผ่าคลอดมา ยังเสียวท้องอยู่เลย อย่างอื่นก็ยังเสียวอยู่นะ ว่างก็กินกับสามี ว่างบ่อยก็กินบ่อย เฮ้อ... มันเป็นความสุขของชีวิตอีกอย่างหนึ่งจริง ๆ สามีสูตินารีแพทย์ของฉัน เดินไปอุ้มน้ำปั่นที่คอก ก่อนจะเดินยิ้มมาหาฉัน มองยังไงก็หล่อคุณพ่อคนนี้ “น้ำปั่น น้ำหนักขึ้นหรือเปล่าลูก” คุณพ่อสูตินารีแพทย์แซวลูกสาวคนเล็ก ลูกสาวตอบไม่ได้ ได้แต่ยิ้มและหัวเราะให้ผู้เป็นพ่อ แถมยังใช้แก้มป่อง ๆ ซบคลอเคลียพ่อของเขาอีก น้ำปั่นติดหมอนายหนักมาก! สงสัยคนที่ได้ยินเ
ฉันหันหาคุณพ่อคุณแม่ทันที “คุณพ่อคุณแม่ขับรถช้าเหมือนเต่า” หมอเท็นเดินตามฉัน และบอกมาหน้านิ่ง ๆ “โอ้ย! ปวดท้อง... ปวด! ไม่ไหวแล้ว!” ฉันกรีดร้อง! ทำไม ฉันไม่มีสามีวิ่งตามจับมือเหมือนชาวบ้านเขาเนี่ย ให้ตาย! มีแค่น้องสามีที่เหมือนมาแต่วิญญาณ ฮือ ๆ ไม่นานฉันก็ถูกเข็นเข้ามาในห้องคลอดแล้ว! ฉันหอบเหนื่อยเหงื่อท่วมตัว และถูกพามาห้องนึง ก่อนที่พยาบาลจะตรวจอะไรต่าง ๆ นา ๆ เร็ว ๆ เถอะ! ฉันจะตายแล้ว! “พยาบาลฉันจะตายแล้วค่ะ ตามหมอ ตามหมอด่วน” ฉันส่ายหน้าไปมา ปวดท้องหน่วงมาก แขนสองข้างสั่นแทบจะไม่มีแรงแล้ว ลูกสามคน สามคนเลยนะเว้ย! “ค่ะ คุณน้ำหวาน เดี๋ยวให้ยาแก้ปวดก่อนนะคะ ตอนนี้ห้องผ่าตัดยังไม่พร้อมค่ะ” ยังไม่พร้อม! รอให้ฉันตายก่อนใช่ไหม! “หะ! หวานจะตายก่อนไหม ไม่ผ่าก็ได้ คลอดธรรมชาติเลย หวานพร้อม ฮือ ๆ หวานทนไม่ได้แน่ ๆ” ฉันกุมท้องกรีดร้องบนเตียง “ไม่ได้ค่ะ คุณน้ำหวานมีทารกในครรภ์สามคน คุณน้ำหวานอาจจะช็อกได้ อดทนหน่อยนะคะ” อดทน! ใครจะไปทนได้!
ฉันนั่งมองหมวยน้อยกับณีเวีย ก็อดยิ้มตามไม่ได้ แตงโมคลอดธรรมชาติ! ไม่อยากจะเชื่อ ฉันหน่ะสิ สามคนในท้อง หากคลอดธรรมชาติฉันอาจจะขาดใจตายก่อน ตอนนี้ฉันท้องได้เจ็ดเดือนแล้ว ไม่ต้องถามว่าท้องใหญ่แค่ไหน มันใหญ่จนฉันเดินไม่ไหวเลยล่ะ ฮ่องกงถูกแคนเซิลถาวร ไม่มีกำหนดไป แต่ได้หุ้นห้าสิบเปอร์เซ็นต์กับเบนซ์เอสคลาสเป็นของขวัญแต่งงานนะจ๊ะ ฉันนั่งคุยกับเพื่อนสักพัก เพื่อรอสามีออกเวร สลับไปห้องแตงโมบ้าง ห้องณีเวียบ้าง ณีเวียเจ็บแผลคุณเซ็นจึงเป็นคนเลี้ยงลูก วุ่นวายจนต้องเอางานมาทำที่โรงพยาบาล เห็นแล้วน่ารักดี แต่ก็แอบขำ ‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’ หมอนายเปิดประตูเข้ามา เดินมาตรวจแผลณีเวีย “อย่าหัวเราะดังนะ ระวังแผลฉีก” ณีเวียตกใจเอามือปิดปากทันที “ค่ะ อิอิ จะพยายาม” หมอนายยิ้ม แล้วเดินกลับมาหาฉัน เขานั่งลง เอามือสองข้างโอบท้องฉันไว้ “ไงครับ ลูกพ่อ” เท่านั้นล่ะ! ตุบ ๆ ฉันหลับตาปี๋ ฉันจุก! ลูกถีบหนักมาก รวมพลังเป็นหนึ่งเดียวทันที เมื่อได้ยินเสียงพ่อเขา “โอ้ย เบา ๆ ลูก แม่จุกแล้ว” ฉันลูบท้องปราม ณีเวี
ฉันอยากจะบ้า อยากจะบ้าจริง ๆ ฉันทรมานมากตอนนี้ “ใช่สิสามชั่วโมงผ่าไม่ได้ แตงโมกินเยอะไหม” หมอนายถามฉันอีกครั้ง พลางยกนาฬิกาข้อมือดู… “เรื่อย ๆ ค่ะ คุยไปกินไป ฮือ ๆ” ฉันหลับตาปี๋ ปวดทรมานไปหมด “งั้นประมาณ หกชั่วโมง ไม่เป็นไรเดี๋ยวให้ยาแก้ปวดก่อน” ฮือ ๆ หกชั่วโมง กับยาแก้ปวด โอ้ย! แล้วมันหายปวดเป็นปลิดทิ้งมั้ยล่ะ! “หมอคะ เร็วกว่านี้ไม่ได้เหรอ” ไออุ่นเริ่มถีบท้องฉันรัวแล้ว โอ้ยลูก! อย่าซน ใจเย็น ๆ ลูกแม่ปวด “ไม่ได้จริง ๆ ปกติ ต้องงดข้าวงดน้ำหนึ่งวันเต็ม ๆ” “หมอ แตง... โอ้ย ๆ แตงแจ้งตั้งแต่ฝากครรภ์แล้ว ฮือ ๆ ว่าจะผ่า ไม่คลอดธรรมชาติเด็ดขาด” หมอนายเดินมาใกล้ ๆ ฉัน “ทำไม คลอดธรรมชาติมันปลอดภัยกว่านะ แผลหายเร็วด้วยเจ็บแป๊บเดียว ปวดขนาดนี้ลองเบ่งดูก่อนไหม” ฉันกุมท้องนอนร้องไห้ ในใจนึกโกรธสามี ทำไมฉันต้องมาทรมานคนเดียวด้วย อิตาเอส! “หมอ... ฮือ ๆ ขอยาแก้ปวดก่อนค่ะ ๆ ด่วน” ฉันถูกเข็นไปอีกห้อง และได้ยาแก้ปวดเรียบร้อย อาการทุเลาลง แต่ถามว่ายังปวดไหม ปวดสิ! “พยาบาล
ฉันยืนมองณีเวียและคุณเซ็น ยิ้มกันมีความสุข ก็อดยิ้มตามไม่ได้เลย ลูก ๆ พวกเขาน่ารักมาก น่ารักจริง ๆ เยี่ยมเพื่อนและหลาน ๆ เสร็จ ฉันกับตาเอสก็ออกมาจากโรงพยาบาล ระหว่างอยู่ในรถฉันก็คิดวนเวียนอยู่เรื่องเดียว จะเจ็บแค่ไหนนะ! ณีเวียบอกกับฉันว่าตอนปวดท้องคลอด มันปวดมาก ปวดเหมือนจะตาย ตุบ ๆ นั่นไง พอนึกถึงเรื่องนี้ ลูกสาวตัวดีของฉันก็ดิ้นใหญ่ ฉันลูบท้องเบา ๆ จนสามีเอื้อมมือมาลูบด้วย “ลูกสาวพ่อ พร้อมหรือยัง” ถามแม่บ้างเถอะ! กลัวชะมัด “ฉันยังไม่พร้อม! อย่าเพิ่งสิ” ตาเอสหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นมาหยิกแก้มฉัน “หมวยเธอมันพลังช้างอยู่แล้ว เบ่งเลยสะใจ” “นายลองไปนอนเบ่งดูไหมล่ะตาบ้า!” เขาหัวเราะชอบใจ หน้ากวน ๆ หันมายักคิ้วให้ฉัน “หรือจะผ่าก่อน… จะได้ไม่ต้องเจ็บสองทาง” ฉันหันไปมองเขาทันที เจ็บสองทางงั้นเหรอ “ถ้าถึงกำหนดคลอดก็คลอดเลยสิ ถ้าไม่ปวดก่อน” เอ๊ะก็ดีเหมือนกัน ว่าแต่สามีกวน ๆ ของฉัน ทำไมรู้ดีนัก “รู้ดีนะ” เขายักคิ้วยิ้มกริ่ม
23.56 ฉันเดินเข้าออกห้องน้ำเป็นว่าเล่น สามีนักธุรกิจของฉัน เขายังคงนั่งทำงานที่ห้องทำงานอีกฝั่ง ส่วนฉันตอนนี้ไม่มั่นใจเลยจริง ๆ ว่าตัวเองท้องเสีย หรือจะคลอด ทำไมปวดท้องแบบนี้ ฉันค่อย ๆ จับผนังหวังประคองตัวเองเปิดประตู อยากไปอยู่ใกล้ ๆ คุณเซ็นให้อุ่นใจ แต่ซ่า... นะ น้ำอะไร ฉันไม่ได้ฉี่ราดนะ หรือมันจะเป็น... เป็นน้ำคล่ำ! “กรี๊ด...” ฉันจับประตูกรี๊ดลั่น ดังทั้งเพนท์เฮ้าส์ จนสามีวิ่งออกมาจากห้องทำงาน “เป็นอะไร! เห้ย…” คุณเซ็นวิ่งมาประคองฉันทันที ตอนนี้ฉันเหงื่อท่วมตัว อาการปวดท้องหน่วงมันเริ่มหนักขึ้น หนักจนฉันพรรณนาออกมาไม่ได้! “ไม่ไหว ปวดท้องแล้ว ปวดแล้ว! ฮือ!” ฉันบีบมือเขาแน่น น้ำตาไหลออกมาอาบแก้ม คุณเซ็นรีบโทรหาคนขับรถ และโรงพยาบาลทันที “ผมเซ็นดิณภัทร! ณีเวียภรรยาผม เธอปวดท้องครับ หมอเจ้าไข้ หมอนาย ขอบคุณครับ” เขารีบวางสายแล้วโทรอีกครั้ง “นพเตรียมรถด่วน!” โอ้ย! อะไรนักหนา พาฉันไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้! ไม่ไหวแล้ว! “คุณ ไปโร
Comments