Masuk"เฌอแตม เฌอแตม" บรรดาพนักงานหญิงทั้งสี่คนช่วยเขย่าแขนคนที่นิ่งสนิทราวกับวิญญาณออกจากร่าง หลังจากได้สบสายตาคนที่คุ้นหู เฌอแตมผู้เป็นลมพับก็ไร้การตอบรับใด ๆ จนกระทั่งถูกใครคนใดคนหนึ่งเขย่าตัว
"ค คะ!?" กว่าจะได้สติก็เล่นนานนับนาที เธอละสายตาจากท่านประธานที่ทำงานใหม่มองเพื่อนร่วมงานผู้หวังดี โดยใบหน้าเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อผุดขึ้นมา ย้อนแย้งกับมือบางที่เย็นเฉียบจนคนข้าง ๆ แปลกใจ
"พี่ว่าท่าไม่ดีแล้ว ไปโรงพยาบาลเถอะ" หนึ่งในพนักงานกล่าวขึ้นมา
"ตะ แตมไม่เป็นไรค่ะ แตมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ" จบประโยคเฌอแตมก็รีบลุกจากโซฟา เดินก้มหน้างุดผ่านหน้าทุกคนที่พากันงุนงงยกใหญ่ อยู่ ๆ เธอก็กลายเป็นคนมีแรงไร้ร่างของคนหมดแรงจนเป็นลมเสียอย่างนั้น
"ค่อย ๆ เดินนะแตม" ใหม่ตะโกนไล่หลังหญิงสาวที่ทำตัวรีบร้อนเหมือนกำลังหนีอะไร ก่อนจะเบนสายตามองท่านประธานก็ก้มหัวให้เขาเล็กน้อย
"พวกคุณไปทำงานต่อเถอะครับ คุณใหม่…ถ้าภัณฑารักษ์คนใหม่พร้อม ช่วยพามาที่ห้องผมหน่อยนะครับ" คนมาดนิ่งในชุดสูทสีเข้มพูดขึ้น แล้วขยับลุกขึ้นเดินผ่านหน้าพวกเธอเข้าไปในห้องทำงานส่วนตัวที่ไม่ได้ไกลกันมาก
"รับทราบค่ะบอส"
ตัดภาพมาที่คนในห้องน้ำได้แต่ยืนหัวใจเต้นระรัว การรับรู้ว่าตนท้องไม่น่าตกใจเท่าการบังเอิญเจอหน้าพ่อของลูกในท้องอีกครั้ง
เขามาอยู่นี่ได้ยังไง!?
คำถามที่วิ่งวนในหัวของเธอตลอดมา ไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งโลกจะเหวี่ยงคนที่ไม่คิดจะพบเจอ กลับมาเจอกันอีกครั้ง
เธอจำหน้าเขาได้แม่น!
น้ำเสียงใจดีที่นุ่มลึกยังคงเหมือนเดิม แค่ได้ยินก็รู้สึกดีเขาเป็นเหมือนวันนั้นไม่มีเปลี่ยนแปลง
แต่สิ่งที่จะทำต่อไปคืออะไร?
เหตุการณ์ครั้งนี้ตั้งคำถามมากมายกับเธอ แต่คำถามนี้มันก็เด่นชัดแซงหน้าขึ้นมาจนเธอทำอะไรไม่ถูก มือไม้สั่นเทาไปหมด ทั้งที่เธอจำเขาได้อย่างแม่นยำ แต่สำหรับเขาเธอไม่แน่ใจว่าจะเหมือนกันหรือเปล่า
แล้วถ้าจำได้ล่ะ!
เขาจะไล่เธอออกหรือเปล่า หรือจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนว่าเราไม่รู้จักกัน
"ให้ตายเถอะ หัวจะระเบิดอยู่แล้ว!!" เฌอแตมสบถคนเดียวเสียงดัง ความคิดในหัวพันยุ่งเหยิงราวกับใยแมงมุม ไม่ทันสังเกตเลยว่าด้านหลังของเธอมีคนเปิดประตูเข้ามาพอดี
กระทั่งหันมามอง
"พี่ใหม่…" เฌอแตมที่เห็นผ่านกระจกตรงหน้ารีบหันไป ขณะที่ใหม่ยังงง ๆ เห็นเธอเข้ามานานจึงเป็นห่วงและอาสาออกมาตาม
"เป็นอะไรไหมแตม หน้าเราเครียด ๆ นะ"
"แตมน่าจะยังปรับตัวกับงานไม่ค่อยได้ สงสัยคงเครียดลงกระเพาะ ขอโทษที่ทำให้ทุกคนลำบากนะคะ" เฌอแตมว่าด้วยใบหน้ารู้สึกผิดจริง ๆ ทั้งที่เพิ่งเข้ามาก็สร้างเรื่องให้เสียแล้ว มีแต่จะทำให้คนอื่นลำบากไปด้วย
"ไม่เป็นไรเลย เราเข้ามาที่นี่ก็เหมือนเข้ามาเป็นครอบครัวเดียวกัน พี่ไม่รู้ว่าที่ผ่านมาแตมเจอกับอะไรมา แต่พี่อยากให้แตมรู้ว่าที่นี่เรานับถือกันเป็นพี่น้องจริง ๆ ถ้าแตมมีเรื่องไม่สบายใจ หรือมีปัญหาอะไรอยากให้พวกพี่ช่วย บอกได้เลยไม่ต้องเกรงใจ" ภัณฑารักษ์ใหม่ว่าจบก็ลูบหัวคนตรงหน้าอย่างรักใคร่เอ็นดู เป็นเหมือนน้องสาวอีกคน แม้จะเพิ่งเจอะเจอกันได้ไม่นานแต่เธอก็มั่นใจว่าเฌอแตมเป็นเด็กดีอย่างที่แสดงออกมา จิตใจดี น่ารักและอ่อนโยน แน่นอนว่าเธอต้องรับเข้ามาเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่แล้ว
"แตมขอบคุณนะคะ ขอบคุณจริง ๆ" หญิงสาวน้ำตารื่น ที่ทำงานเก่านอกจากทอฝันก็ไม่มีใครหวังดีกับเธอจริง ๆ แม้กระทั่งกับคนที่ขึ้นชื่อว่าแฟนเก่า ก็ล้วนแต่อยากได้ผลประโยชน์จากเธอก็แค่นั้น
"จริงสิ บอสตามให้เราเข้าไปพบน่ะ"
"ตะ แตมเหรอคะ?" เฌอแตมชะงักกึก หรือเขาจะเรียกไปคุยเรื่องนั้น
"น่าจะให้เข้าไปทำความรู้จักแหละ อย่างที่บอกว่าพวกเราอยู่กันเป็นครอบครัว บอสก็เช่นกัน รีบไปกันเถอะ"
"ค ค่ะ" เพียงเท่านั้นเฌอแตมก็ต้องจำใจเดินตามเพื่อนร่วมงาน คนที่กำลังพาเธอเข้าไปเจอพ่อของลูกที่ยังไม่มั่นใจว่าเขามาหรือยัง แต่เท่าที่อาการแสดงสองวันที่ผ่านมา ทั้งคลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนหัว ก็ค่อนข้างมั่นใจว่ามีเด็กอยู่ในท้องจริง ๆ
"น้องใหม่มาแล้วค่ะบอส เฌอแตมค่ะ"
"สวัสดีค่ะบอส" คนตัวเล็กยกมือไหว้ทั้งที่ยังหลบสายตา ขณะที่ใหม่กำลังพูดเธอก็ก้มมองพื้นตลอดเวลา กลัวว่าเขาจะจำได้ แม้รู้ว่าหลบหน้าครั้งนี้ก็ต้องมีครั้งอื่น ๆ ที่ต้องเจอกันอีกก็ตาม
"คุณใหม่อธิบายงานให้คุณเฌอแตมแล้วใช่ไหมครับ"
"เรียบร้อยค่ะบอส น้องคงจะยังเกร็ง ๆ แต่ทำงานดีเลยค่ะ ไม่น่าเชื่อว่าจะไม่เคยมีประสบการณ์ทางด้านนี้" ประโยคนั้นทำท่านประธานปรายไปยังคนที่ถูกพูดถึง แต่เธอก็ยังคงก้มหน้าหลบหลีกสายตาอยู่อย่างนั้น
"ผมขอคุยกับคุณเฌอแตมหน่อยนะครับ คุณใหม่ออกไปทำงานต่อเถอะ"
"ค่ะบอส" ใหม่แตะมือเฌอแตมเพื่อให้กำลังใจคนขี้กลัว แล้วเดินจากไปทิ้งให้ภายในห้องเหลือเพียงแค่คนสองคนที่คนหนึ่งกำลังกลัว ส่วนอีกคนก็แทบไม่รู้เลยว่าเขากำลังคิดอะไร
"ผมไคเรนครับ เป็นเจ้าของแกลอรี่" คนตรงหน้าว่าด้วยเสียงนุ่ม นัยน์ตาสีเทาเข้มกำลังทอดมองเธอตลอดเวลา ยิ่งเป็นแบบนั้นก็ยิ่งทำเฌอแตมแทบหยุดหายใจ เธอทั้งสั่นกลัว ทำตัวไม่ถูก เรื่องคืนนั้นกำลังวนเวียนในหัวของเธอ อยู่ ๆ ก็กลายเป็นคนวันไนท์แสตนด์กับเจ้านายตัวเองเสียอย่างนั้น
"คุณฟังผมอยู่ไหมครับ" ประโยคที่ดังขึ้นทำให้เฌอแตมวิญญาณกลับเข้าร่างอีกครั้ง ก่อนจะค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นแล้วสบสายตาคู่คมที่ยังคงหยุดอยู่ที่คู่สนทนาอย่างเธอ
"ค ค่ะบอส เฌอแตมค่ะ"
"ผมทราบแล้วครับ คุณใหม่แจ้งผมแล้ว" เฌอแตมเม้มปากแน่น ตอนนี้เธอรู้สึกลนลานไปหมด อยู่ ๆ สมองมันก็ว่างเปล่าทั้งที่เรื่องงานเธอไม่เคยพลาด
"อะ เอ่อ…คือ"
"ที่เป็นลมเป็นยังไงบ้างครับ" เมื่อเห็นคนอึดอัดทำอะไรไม่ถูก ไคเรนจึงเป็นฝ่ายสวนขึ้นมาแทน
"อะ อ๋อ…ดีขึ้นแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะที่ช่วยรับไว้"
"ไม่เป็นไรครับ แกลอรี่ WHITE COAT ยินดีต้อนรับนะครับ คุณคงจะรู้วัฒนธรรมการทำงานของพวกเราคร่าว ๆ แล้ว ขอให้คุณมีความสุขกับงานนะครับ"
"…"
"งานศิลปะจะสื่อสารได้ลึกที่สุด ก็ต่อเมื่อคนเบื้องหลังทำมันด้วยหัวใจ เมื่อคุณรักในสิ่งที่ทำ คนที่มาชมก็จะรู้สึกได้โดยไม่ต้องมีคำอธิบาย นี่เป็นเหตุผลที่ผมสร้างที่นี่ขึ้นมา" เขาไม่เพียงแต่เป็นคนที่ดูอบอุ่นแค่ภายนอก แต่ทุกการกระทำที่แสดงออกรวมไปถึงคำพูดทำให้เฌอแตมเชื่อว่าเขาเป็นคนอย่างนั้น จากครั้งนั้นกำลังใจของเขาทำให้เธอรู้สึกมีความกล้าขึ้นมา กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงเพื่อทำตามใจตัวเอง นั้นเป็นสิ่งที่ทำให้คืนนั้นเธอคิดที่จะเลือกเขา
"ขอบคุณค่ะบอส ฉันจะทำงานให้ออกมาดีที่สุด"
"ครับ"
"ถะ ถ้างั้นฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ" ว่าจบคนตัวเล็กก็รีบหมุนตัวพร้อมความโล่งอก ผ่านไปตั้งสามเดือนเขาคงจะจำหน้าเธอไม่ได้ นับว่าเป็นเรื่องดีเพราะเธอจะได้ทำงานที่นี่อย่างโล่งใจ ไม่ต้องกังวลว่าจะทำตัวอย่างไรตอนเจอเขา สามารถทำเหมือนว่าระหว่างเขาและเธอไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ได้
"เรื่องคืนนั้น…คุณยังจำได้ไหมครับ"
"ยินดีด้วยนะคะ เป็นลูกสาวทั้งคู่เลยค่ะ" ฉันเผยยิ้มกว้างในตอนที่ได้ยินคุณหมอบอกเพศลูก ระหว่างที่เรากำลังอัลตราซาวด์ดูเจ้าก้อนในท้องพี่โรมก็จับมือไว้แน่น ใช่แล้ว…ฉันได้ลูกแฝดหญิงทั้งสองคน คราวนี้บ้านหลังใหญ่ก็จะไม่เหงาแล้วดังไปด้วยเสียงร้องไห้โวยวายหัวเราะกำลังจะเกิดขึ้นในชีวิต อีกสี่เดือนเราก็จะได้เจอกันแล้วนะลูกรักของแม่…ฉันปรายมองพ่อของเขาที่กำมือฉันไว้แน่น เห็นลูกผ่านเครื่องหน้าจอเล็ก ๆ เขาก็พลอยบ่อน้ำตาตื้นอีกครั้ง ช่วงนี้คุณพ่อเขาอ่อนไหวง่ายมาก ถ้าไม่เห็นกับตาตัวเองฉันจะไม่มีทางเชื่อว่าเขาเคยเป็นเพลย์บอยมาก่อน"เจ้าหนูน้อยทั้งสองคนปกติมากเลยค่ะ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง หมอจะจ่ายวิตามินให้คุณแม่แทนนะคะ" "ขอบคุณค่ะคุณหมอ" แล้วเราสองคนก็ออกมารอหน้าห้องตรวจ หลังจากรู้เพศคนตัวโตก็เงียบไม่ยอมพูดอะไร เพียงแต่จับมือฉันตลอดเวลาและรับรู้ถึงความเย็นจากฝ่ามือหนา"พี่เป็นอะไรหรือเปล่า ไม่พูดอะไรเลย" พอฉันถามจบพี่โรมก็หันมามอง นัยน์ตาคู่คมกำลังจริงจังเหมือนมีอะไรบางอย่างที่อยู่ในใจ"เหมือนเวรกรรมจะตามทันฉันแล้ว" "คะ?" ฉันเลิกคิ้วขึ้น ไม่เข้าใจว่าเขากำลังจะสื่อถึงอะไร"มีลูกสาวฉันต้องเป็นบ้าแน่น้
พรึ่บ!ไฟในห้องเปิดสว่างจ้า คนนอนหลับสบายค่อย ๆ ลืมตาเมื่อถูกรบกวน ก่อนที่จะเห็นพี่ชายตัวโตที่เป็นคนทำเธอรีบคลานลงจากเตียงมามอง"อะไรของเฮียเนี่ย จีจะนอนพรุ่งนี้งานเช้านะ" "มาร์กหน้าให้เฮียหน่อย" "ฮะ ฮ้ะ? เฮียเนี่ยนะจะมาร์กหน้า" "งานแต่งก็ต้องหล่อหน่อยไหม เดี๋ยวเมียจะว่าเอาได้" "เห็นแก่ที่เฮียจะเป็นเจ้าบ่าวหรอกนะ จีจะทำให้ ไปอาบน้ำที่ห้องเลยเดี๋ยวจีตามไปทำให้" "รีบตามมานะน้องรัก" เจโรมจุ๊บหัวเหม่งของน้องสาวแล้วตรงกลับห้อง เขาเองก็ยอมรับว่าตื่นเต้นเป็นบ้าที่จะได้เป็นเจ้าบ่าวในชีวิตสักครั้ง แต่ที่ทำให้ตื่นเต้นมากกว่าก็คงจะได้เห็นหน้าคนที่ไม่ได้เจอหน้ากันเกือบเดือนเต็มเช้าวันต่อมางานแต่งถูกจัดขึ้นบนโรงแรมหรูเดลตาดอทพีหรือโรงแรมของดีแลน ทุกอย่างถูกอำนวยความสะดวกและคุ้มกันเป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะเป็นงานแต่งของมาเฟียแล้ววันนี้ยังเป็นวันแต่งตั้งประมุขเจอาร์อย่างเป็นทางการ เป็นการประกาศให้โลกรู้ถึงผู้มีอำนาจคนใหม่ในตระกูลมาเฟียที่ยิ่งใหญ่อีกหนึ่งตระกูลรวมไปถึงนายหญิงคนใหม่ของเจอาร์ที่จะมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปช่วงเช้าจะเป็นพิธีการแต่งงานแบบธรรมดาไม่หวือหวาโดยเชิญแค่คนสนิทเจ้าบ่าวเจ
คราวนี้ทั้งฉันและพี่โรมต่างเบิกตากว้างพร้อมกัน งานแต่งงานต้องแพลนล่วงหน้าอย่างน้อยก็สองสามเดือน ให้ตายเถอะ...ไม่ใช่แค่เขาที่จะอยู่ไม่ได้ฉันเองก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน "คุณมันไม่เกินไปเหรอ..." ฉันพยักหน้าเห็นด้วยกับแม่ "ถ้ารักกันจริงก็ต้องอดทนได้" "ฉันก็เห็นด้วยกับกำนันนะ แยกกันไปทำหน้าที่ก็ดี จะได้พิสูจน์อะไรหลาย ๆ อย่างด้วย ทำได้ไหมเจโรม?" รอบนี้ไม่ใช่พ่อของฉันแต่พลอยเป็นคุณลุงจาร์ฟาที่คล้อยตามไปด้วย "คะ ครับ ทำได้..." พี่โรมตอบเสียงอ่อย ฉันรู้ว่าเขาไม่มีทางเลือก แต่มันนานเกินไปไหม...ฉันอยากจะร้องไห้ "งั้นก็ตกลงตามนี้ ส่วนฤกษ์แต่งงาน เดี๋ยวฉันอาสาดูให้ ยังไงจะแจ้งคุณน้องไปนะ" "ได้จ้ะคุณพี่" ผู้ใหญ่สี่คนตกลงกันเข้าท่า ในขณะที่ฉันกับพี่โรมนั้นได้แต่มองกันตาละห้อย จะต้องแยกกันอีกแล้วคราวนี้น่าจะนานสุดตั้งแต่ที่แยกกันมาเลย "ผมขอพาน้องไปเดินเล่นก่อนนะครับ" พี่โรมขัดบทสนทนาของผู้ใหญ่ จนพ่อฉันหันมามอง ท่านเงียบไปสักพักก่อนจะพยักหน้าอนุญาต เราสองคนออกมาเดินเล่นในสวนข้างบ้าน จับมือกันชมพระอาทิตย์ในยามเย็นกับลมโกรกอ่อน ๆ ที่ปะทะใบหน้า "พ่อเธอไม่เคยทำให้ฉันผิดหวังเลยสักครั้ง" พี่โรมเลื่
ในวันหยุดสัปดาห์นี้ฉันเลือกที่จะกลับบ้านเกิดตัวเองเพราะวันนี้จะเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในชีวิต นั้นคือวันที่พี่โรมจะเข้ามาสู่ขอฉันจากพ่อและแม่เพื่อใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตามขนบธรรมเนียม"น้ำอิงแต่งตัวเสร็จหรือยัง" เสียงดังจากนอกประตูทำให้ฉันเปิดออกมา เป็นคุณนายน้ำหวานที่แต่งองค์ทรงเครื่องเรียบร้อยเดินมาตามฉันที่เอาแต่กกตัวอยู่แต่ในห้อง"เป็นอะไรไป ทำหน้าให้มันดี ๆ หน่อย""แม่…หนูกลัว" ฉันโน้มตัวกอดแม่ไว้แน่น ทั้งกลัวและตื่นเต้นจนมือเย็นเฉียบ"มีอะไรต้องกลัว ไม่เชื่อใจตาโรมอีกเหรอ?""เปล่าค่ะ หนูกลัวพ่อไม่ให้แต่ง" พ่อคาดเดาอารมณ์ยากมากแค่ไหนฉันรู้ดี ถึงจะออกปากอนุญาตให้คบกันแล้วฉันก็ยังวิตกอยู่ดี"นี่...ยัยลูกสาว จำไม่ได้หรือไงว่าพ่อแกน่ะเป็นคนบอกให้เขารีบมาขอเร็ว ๆ แบบนี้จะไม่ให้แต่งได้ยังไง""ก็จริง หนูลืมไปเลย" ฉันผละกอดแม่หลังจากคิดตามคำพูด ก่อนหน้าพ่อฉันก็พูดเองว่าเสร็จธุระก็รีบมาขอ และตอนนี้พี่โรมก็ดูจะจัดการปัญหาทุกอย่างได้แล้ว เป็นมาเฟีย เป็นประธานบริษัทรับช่วงต่อ บททดสอบจากคนเป็นพ่อฉันก็ผ่านแล้ว ไม่มีอะไรที่ฉันจะต้องกลัวอีก"อยากมีผัวจนลืมเลยหรือไง...""แม่!!!" แล
น้ำอิงถูกคนของแม่เจโรมมารับใต้คอนโดแต่เช้า ล่วงหน้ามาก่อนงานจะเริ่ม ส่วนคนตัวโตจะตามมาทีหลังเมื่อใกล้เริ่มงาน "แม่พี่อิงออกมาแล้ว~" นอกจากจะมีเธอแล้วยังมีจีเซลและบีน่าที่มาทำสวยพร้อมกัน ณ ห้องที่ถูกเตรียมเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ทันทีที่น้ำอิงเดินออกมาจากห้องเปลี่ยนชุดสองสาวก็พากันตกตะลึงในความสง่าของเธอทั้งหน้าองค์ทรงเครื่องที่เพรียบพร้อมเมื่ออยู่บนใบหน้าที่สวยธรรมชาติก็ยิ่งทำให้สวยไปใหญ่ "พี่สะใภ้สวยมาก~" จีเซลยิ้มชม "จริง เหมือนน้าสมัยสาว ๆ" เสริมด้วยบีน่าอีกคนที่อวยแฟนของลูกชายไม่หยุด "คุณน้ากับจีก็สวยเหมือนกันค่ะ" "เอาเป็นว่าเราสวยกันทุกคน งั้นรีบลงไปกันเถอะ แม่ต้องลงไปรับแขกแล้ว" "น้ำอิงมากับแม่นะ วันนี้แม่จะแนะนำลูกสะใภ้ให้ทุกคนรู้จัก" สรรพนามของบีน่าเริ่มเปลี่ยน จากคุณน้าอยู่ดี ๆ อยู่ ๆ เธอก็กลายเป็นคุณแม่อีกคนที่เห่อลูกสาวคนใหม่เอามาก "พี่อิงซ้อมยิ้มไว้เลยนะคะ วันนี้น่าจะต้องใช้ทั้งคืน" "งานเล็ก ๆ ไม่ใช่เหรอ?" เจโรมบอกมาอย่างนั้น รู้กันแค่ในวงศ์ตระกูลคงจะไม่เท่าจีเซลพูดมาหรอก "งั้นเราลงไปดูกันค่ะ ว่างานเล็กจริงไหม" ว่าแล้วน้ำอิงก็ลงมาชั้นล่างพร้อมกับสองสาว จีเซลทำให้เธอ
"สรุปแล้วเรื่องที่บอกว่าจะเข้ารับตำแหน่งคือเรื่องจริงเหรอ…" ฉันนั่งมองคนที่ใส่เสื้อสูทเนี๊ยบกว่าทุกวัน ก่อนที่จะเดินเข้าไปช่วยเขาผูกเนกไทให้เพื่อความรวดเร็ว"อืม…วันนี้ประชุมแต่งตั้งประธานคนใหม่ของบริษัท" "ว้าว…จะมีแฟนเป็นประธานบริษัทแล้วเหรอเนี่ย อิจฉาตัวเองสุด ๆ" "ฉันในเสื้อสูทแบบนี้ยังได้อารมณ์เธออยู่อีกไหม" แต่ไม่ว่าจะแต่งตัวยังไงคนขี้เล่นก็ยังคงกวนเหมือนเดิม แค่อยู่ในลุกที่แตกต่างออกไปเท่านั้นเอง"เสื้อก็ดูดีอยู่นะ แต่ดูหน้าแล้วเฉย ๆ" ฉันย่นจมูกใส่เขา ตอบกวนไปงั้นทั้งที่จริงแล้วก็แอบหวีดในความเท่ของแฟนตัวเองตั้งแต่แรก"หาเรื่องเสียตัวแต่เช้า" ความแววตาเจ้าเล่ห์นั้นทำให้ฉันรีบถอยหลัง ทั้งที่จะเข้างานอยู่แล้วเขาก็ยังเล่นอยู่ได้"พอเลย ท่านประธานจะเข้างานสายตั้งแต่วันแรกไม่ได้นะคะ" "งั้นเก็บไว้คืนนี้แล้วกัน อย่าลืมว่าเธอยังมีนัดชุดเมดอีกชุดนะ ขอเด็ดกว่าเมื่อคืนนะ ถือว่าเป็นของขวัญการเลื่อนตำแหน่งของฉันด้วย" "พี่นี่มุ่งแต่เรื่องบนเตียงจริง ๆ" ฉันถึงกับส่ายหัว เอะอะก็พาลงต่ำตลอด "มีให้เลือกสองสีสีดำเปิดบนสีแดงเปิดล่าง" แต่ก็ไม่ได้บอกว่าฉันเองไม่ได้ชอบ เหมือนว่าจะเริ่มติดนิสัยหื่น







