Home / วัยรุ่น / พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา / บทที่ 4 ความช่วยเหลือ

Share

บทที่ 4 ความช่วยเหลือ

last update Last Updated: 2025-03-05 10:24:38

“เป็นอะไรไปน่ะแบรดฟอร์ด ทำไมนอนคุดคู้แบบนั้น”

เมื่อได้ยินเสียงอาจารย์ใกล้มาก แขนเรียวเล็กก็คว้ากอดร่างของคนตัวสูงเข้าเต็มปังเหมือนคอยลุ้นตามว่าจะโดนจับได้หรือเปล่า ทำเอาเจย์เนสชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ก็ยังพยายามดึงน้ำเสียงให้มั่นคงแล้วตอบกลับอาจารย์ไป

“ปวดท้องครับ แต่...เดี๋ยวก็หายแล้ว”

“งั้นเหรอ อืม ดูแลตัวเองแล้วกันนะ” ที่พูดเช่นนั้นเป็นเพราะอาจารย์ก็ไม่นึกฝันว่าแวมไพร์จะป่วยได้ เขาจึงไม่มีชุดความรู้ทางด้านนี้มาให้คำแนะนำว่าจะต้องทำเช่นไร จึงเลี่ยงหลบออกไปเสียดีกว่า

เสียงประตูปิดลงพร้อมกับความเงียบที่หวนคืนสู่ห้อง แต่ทั้งคู่ก็ยังนอนนิ่งต่อไปอีกสักพักเพื่อให้แน่ใจว่าอาจารย์จะไม่ย้อนกลับมาเปิดประตูห้องอีก

อาเรียนอนนิ่งอยู่ใต้ผ้าห่ม ความเงียบนั้นทำให้เสียงหัวใจของเธอที่เต้นโครมครามเด่นชัดขึ้นอย่างน่าอาย

“ปลอดภัยแล้ว” เขาพูดพลางมองไปที่ประตู แล้วหลังจากนั้นอาเรียก็รีบผุดใบหน้าแดงก่ำออกมาจากผ้าห่มเหมือนแอบสังเกตการณ์ก่อนจะตัดสินใจว่าจะลุกหรือไม่ลุกดี “ปล่อยได้แล้วมั้ง”

เจย์เนสนอนนิ่งเมื่อยังมีแขนเรียวของอาเรียพาดกอดตัวเองอยู่ หญิงสาวที่เพิ่งรู้ตัวว่าทำเรื่อถือวิสาสะก็รีบปล่อยกอดพร้อมลุกพรวดออกจากเตียงในทันที

“ขอบคุณนะ...แต่ว่า...ทำไมนายถึงช่วยฉันล่ะ...”

“ก็ไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ แค่นี้ก็น่ารำคาญจะตายอยู่แล้ว”

อาเรียกัดริมฝีปาก ถึงคนตรงหน้าจะพูดจาแทงใจดำไปหน่อยแต่เธอก็รู้สึกขอบคุณยิ่งนัก มือเรียวกอบกุมกล่องเข็มกลัดเอาไว้แน่นราวกับว่ามันเป็นของล้ำค่าที่ต้องรักษาเอาไว้เยี่ยงชีพ

นอกจากนี้ รับรองได้เลยว่าเรื่องราวในคืนนี้จะต้องฝังใจฝังอยู่ในความทรงจำของเธอไปอีกนานแสนนานอย่างแน่นอน

เจย์เนสเห็นแบบนั้นก็ถอนหายใจ แต่ลึก ๆ ก็อดเอ็นดูเสียไม่ได้ จึงตัดสินใจทำเรื่องสำคัญอีกอย่างให้ “ฉันจะร่ายเวทย์ให้เธอเดินออกไป จะไม่มีใครเห็น อย่างน้อยก็จนกว่าเธอจะกลับไปถึงหอพักตัวเอง”

ได้ยินแบบนั้น ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างด้วยความเหลือเชื่อ อันที่จริงเธอก็พอจะทราบแล้วว่าตระกูลของเจย์เนสเป็นตระกูลแวมไพร์เก่าแก่ แต่นึกไม่ถึงว่าจะมีพลังเช่นนี้ด้วย

เขายกมือขึ้นอีกครั้ง และพึมพำคำพูดบางอย่างที่อาเรียไม่เข้าใจ อาจเป็นภาษาของแวมไพร์โบราณก็เป็นได้ ดวงตาสีแดงของเขาเปล่งประกายวูบหนึ่ง ก่อนที่อากาศรอบตัวจะรู้สึกหนักแน่นขึ้น ราวกับมีพลังบางอย่างปกคลุมล้อมรอบตัวเธอ

“จำเอาไว้ ทีหลังอย่าทำอะไรโง่ ๆ แบบนี้อีกล่ะ” เสียงของเจย์เนสดังขึ้นจากด้านหลัง คำพูดของเขาฟังดูเย็นชา แต่ในสายตาของอาเรีย เธอกลับรู้สึกได้ว่าเหมือนเขาจะเป็นห่งมากกว่า

ไม่ห่วงเธออย่างน้อยก็คงห่วงว่าตัวเองจะพลอยโดนหางเลขไปด้วยแหละนะ แต่อย่างน้อยมันก็ดีต่อตัวเธอ

ก่อนจะเดินจากไป อาเรียก็ยังหันไปชายตามองเขาเล็กน้อยพร้อมทั้งค้อมศีรษะให้เหมือนเป็นการกล่าวขอบคุณ จากนั้นเธอก็หันหลังเดินตรงกลับสู่หอพักของตัวเอง

‘จะได้เรื่องหรือเปล่าเนี่ย’ เจย์เนสมองตามแผ่นหลังของเธอไป จนกระทั่งสุดวิสัยน์ของสายตาแล้ว เขาก็ยังไม่วางใจเสียอย่างนั้น

‘ให้ตายเถอะ ยัยนั่นยิ่งไม่เป็นงานอยู่ด้วย’ ว่าจบก็อดไม่ได้ที่จะก้าวตามไปห่าง ๆ และเมื่อเห็นว่าเธอกลับเข้าสู่เขตหอพักหญิงได้อย่างปลอดภัยแล้ว เขาก็เดินถอยกลับมาด้วยความโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก

หลังจากกลับถึงหอพักหญิง อาเรียรีบหลบสายตาจากทุกคนในทางเดิน เธอเก็บเข็มกลัดของเจย์เนสไว้ในมือแน่น รู้สึกถึงเหงื่อที่ชุ่มฝ่ามือ แม้จะกลับมาถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย แต่หัวใจของเธอยังคงเต้นระส่ำจากเหตุการณ์ที่เพิ่งเผชิญมาสด ๆ ร้อน ๆ

เมื่อเดินไปถึงมุมห้องที่กลุ่มของโซเฟียและเพื่อน ๆ นั่งรวมตัวกันอยู่ อาเรียสูดลมหายใจลึก พยายามรวบรวมความกล้าก่อนจะเดินเข้าไปหา

โซเฟียมองเธอด้วยแววตาเย้ยหยันปนสนุก เธอไม่คิดว่าอาเรียจะสามารถทำภารกิจนี้สำเร็จ “กลับมาเร็วนะ คงไม่ได้มาล่ะสิ”

เสียงหัวเราะเบา ๆ ดังมาจากเพื่อนในกลุ่ม ขณะที่อาเรียเงยหน้ามองพวกเธอด้วยสายตาที่มั่นคง

“นี่… โชคดีที่ไม่ต้องขโมยเพราะเขาเต็มใจให้ฉันมาเอง” เธอพูดสั้น ๆ ก่อนจะเปิดมือที่กำเข็มกลัดไว้อย่างระมัดระวัง

เมื่อเข็มกลัดสีเงินสลักคำว่า “แบรดฟอร์ด” เด่นหราท่ามกลางแสงไฟที่สะท้อนต้องกับมัน กลุ่มของโซเฟียก็ถึงกับอ้าปากค้างไปตามกัน

“เป็นไปไม่ได้!” หนึ่งในพวกนักเรียนหญิงกลุ่มนั้นร้องขึ้น ก่อนที่โซเฟียจะหยิบเข็มกลัดขึ้นมาดูอย่างไม่เชื่อสายตา

“นี่มันเข็มกลัดของเจย์เนส...” โซเฟียพึมพำ น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ “เธอไปเอามาได้ยังไง!” ไม่ว่าเปล่ายังกระชากคอเสื้อของอาเรียเข้าไปใกล้ราวกับต้องการจะรู้คำตอบอย่างยิ่งยวด

อาเรียเห็นท่าทีของโซเฟียที่กำลังคลุ้มคลั่งก็แสยะยิ้มขึ้นพร้อมปลดมือที่คว้าคอเสื้อของเธออย่างถือวิสาสะนั้นออก ก่อนจะพูดขึ้นเสียงเรียบ “ฉันทำตามที่พวกเธอขอแล้ว คิดว่าพจากนี้ไปพวกเธอจะรักษาคำพูดด้วยนะ”

โซเฟียนิ่งงันไป ดวงตาของเธอจ้องเข็มกลัดในมืออย่างกับพยายามหาความผิดปกติ แต่ก็ไม่พบสิ่งใดที่บ่งบอกว่ามันเป็นของปลอมหรือของเลียนแบบ

“มัน…มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ” โซเฟียพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง “ไม่มีทางที่เจย์เนสจะให้เข็มกลัดกับคนอย่างเธอ!”

“เธอขโมยมา” โซเฟียเอ่ยขึ้นพลางหรี่ตา มองอาเรียด้วยสายตาจับผิด ในตอนแรกเธอคิดว่าอาเรียจะไปหยิบของนักเรียนชายคนอื่น แต่ไหงเป็นเจย์เนสไปได้...

ยิ่งเธอคิดอยากจะทำให้อาเรียมีข่าวฉาวโฉ่ข้อหาบุกรุกเข้าไปในหอพักชายยามวิกาล เธอก็ยิ่งทำให้พวกเขาสองคนใกล้ชิดกันมากขึ้นอย่างนั้นเหรอ!

“ฉันไม่ได้ขโมย เธอก็รู้ว่ามนุษย์ธรรมดาอย่างฉันไม่มีทางจะขโมยของนักเรียนแวมไพร์ได้หรอก”

เป็นเรื่องจริง เพราะสัญชาตญาณของแวมไพร์เร็วกว่ามนุษย์มาก หากยอมให้ขโมยจริงก็คงสมยอมเป็นแน่ และเรื่องนั้นก็เป็นสิ่งที่โซเฟียยอมรับไม่ได้

และยิ่งยอมไม่ได้เข้าไปใหญ่ เมื่อคิดไปถึงว่าหากอาเรียไม่ได้ขโมยมา เจย์เนสก็คงตั้งใจมอบมันให้เธอโดยตรง!

“เอาเถอะ...” โซเฟียพูดในที่สุด น้ำเสียงของเธอแฝงไปด้วยความไม่พอใจ “ถือว่าเธอผ่านเกมนี้ไปได้ แต่จำไว้... นี่ไม่ได้หมายความว่าพวกฉันจะยอมรับให้เธอเข้ามาอยู่ใกล้เจย์เนสได้หรอกนะ!”

อาเรียพยักหน้าเล็กน้อยเหมือนว่าไม่ได้ใส่ใจคำพูดนั้นเลยสักนิด เพราะสำหรับเธอการจบเรื่องนี้โดยไม่มีใครจับได้คือสิ่งที่สำคัญที่สุด

หญิงสาวหันหลังให้กับทุกคนในห้องนั่งเล่นรวม ก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปยังห้องพักของตัวเอง ท่ามกลางเสียงกระซิบกระซาบและคำวิจารณ์ของกลุ่มนักเรียนหญิงที่ตามไล่หลังมา แต่เธอก็ไม่ได้สนใจอะไรอยู่แล้วล่ะ

ขณะที่ก้าวเดินขึ้นไปบนห้องของตัวเอง มือเรียวก็ยังคงกำเข็มกลัดที่ได้มาเอาไว้แน่น ไม่รู้ว่าทำไม การมีมันอยู่ด้วยจึงทำให้เธอรู้สึกเหมือนมีเขาคอยอยู่ข้าง ๆ เสียอย่างนั้น

อีกด้านหนึ่ง ณ หอพักชาย

ร่างสูงที่เพิ่งผ่านเหตุการณ์ เช่นกันก็เอาแต่นอนพลิกไปมาบนเตียงด้วยความหงุดหงิด

“โง่จริง ๆ เลย คนอะไร ไม่เคยพบเคยเจอ!” เขาพึมพำกับตัวเอง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอมีอะไรบางอย่างที่เข้ามาสะกิดใจเขาอย่างจังเชียวล่ะ

น่าหงุดหงิดชะมัด คนอะไรเปราะบางและหลงเชื่อคนง่ายเสียขนาดนั้น ว่าแต่เหตุใดเขาต้องหงุดหงิดถึงเพียงนี้กัน

มันไม่ใช่ความหงุดหงิดที่เกิดขึ้นจากความรำคาญที่ส่วนใหญ่เขาจะรู้สึกกับคนอื่นเช่นนั้น แต่แบบนี้ รู้สึกเหมือนเป็นความว้าวุ่นใจแปลก ๆ

เจย์เนสถอนหายใจเสียงดัง ก่อนจะพลิกตัวอีกครั้ง พยายามไม่สนใจความคิดที่ตีกันอยู่ในหัว

“เหอะ ยัยโง่เอ๊ย!” เขาเอ่ยเบา ๆ ราวกับพูดกับตัวเอง

ว่าจบ เขาก็ซุกหน้าลงกับหมอน เพื่อพยายามปิดกั้นทุกความคิดเกี่ยวกับอาเรีย แต่ยิ่งพยายามลืมใบหน้าสวยใสแววตาออดอ้อนก็กลับยิ่งฉายชัดในหัวเข้าไปทุกที

มิหนำซ้ำ ซุกไปซุกมาก็เริ่มหงุดหงิดมากขึ้น “โธ่เอ๊ย กลิ่นยัยนั่นติดตัวติดเตียงฉันไปหมดแล้ว”

เจย์เนสลุกขึ้นนั่งในที่สุด ท่าทางดูไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่นัก ก่อนจะเดินออกจากห้องไปนั่งรวมกับกลุ่มเพื่อนสนิทของตนที่ห้องนั่งเล่นรวม

“ไง องค์ชาย เล่นไพ่กันหน่อยไหม?”

เจย์เนสพยักหน้าตอบรับ ทำเอากลุ่มเพื่อนต่างหากันเบิกตากว้าง เพราะปกติแล้วเขาเล่นอะไรแบบนี้เสียที่ไหนเล่า ชวนเล่นทีไรก็จะตอบกลับมาเพียงแค่ว่า “ไม่เอาหรอก น่าเบื่อ...” สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้จึงเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย

“องค์ชาย กินยาลืมเขย่าขวดหรือเปล่าเนี่ย”

“จะเล่นไหม” เมื่อเห็นว่าเพื่อน ๆ ถามอย่างสู่รู้มากเกินไปจึงแสร้งทำเสียงเข้มเบี่ยงประเด็น

“เล่นๆๆ”

อย่างน้อยก็คงทำให้สมองเขาปลอดโปร่งจากเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นไปได้ไม่มากก็น้อยแหละนะ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   ตอนพิเศษ 2

    ชีวิตหลังแต่งงานของเจย์เนสเริ่มเต็มไปด้วยความบันเทิง แต่เหนือสิ่งอื่นใด สองแฝดดูจะเป็นเรื่องที่รับมือได้ยากที่สุด(รองจากแม่ของพวกเขา)กลางดึก สองหนุ่มน้อย เรเวียน ไวน์อัส ก็แอบย่องออกจากห้องนอนลงมา ก่อนจะเริ่มหากิจกรรมเล่นกัน นับว่าดีมากที่พวกเขาได้นอนอแยกห้องกับท่านพ่อท่านแม่ จึงสะดวกแก่การย่องออกมาที่สุดอันที่จริงของพวกนี้ก็เป็นเรื่องปกตินี่นา พวกเขาเป็นแวมไพร์ก็ต้องใช้ชีวิตตอนกลางคืนมากกว่าตอนกลางวันสิถึงจะถูก!“ดูนี่สิไวน์อัส!” เรเวียนพุ่งขึ้นไปอยู่บนตู้เก็บหนังสือในห้องสมุด ก่อนจะกระโดดข้ามชั้นไปมาอย่างช่ำชอง“รอฉันด้วยสิ!” ไวน์อัสเห็นแฝดตัวเองทำแบบนั้นได้ก็ไม่อยากน้อยหน้า รีบกระโดดตามข้นไปก่อนจะวิ่งโลดโผนกันอยู่บนนั้นเสียงตึงตังข้างล่างทำเอาแวมไพร์หนุ่มอย่างเจย์เนสที่กำลังนอนอยู่ข้างอาเรียเริ่มขมวดคิ้ว ‘โจรขึ้นบ้านหรือไงนะ’นั่นเป็นความคิดแรกที่ผุดขึ้นมา ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าที่นี่เป็นบ้านแวมไพร์นะ จะมีโจรหน้าไหนกล้าบุกเข้ามากัน!แต่ด้วยความสงสัย เจย์เนสจึงยอมลุกออกจากเตียงแล้วลงไปสังเกตการณ์ดูว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า และเมื่อไปถึงข้างล่างปึง! ปัง! ตึง! ตัง!เสียงปึงปังเหมือนม

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   ตอนพิเศษ 1

    อาเรียเริ่มปรับตัวกับร่างกายใหม่ในฐานะแวมไพร์ได้แล้ว แต่ก็ยังมีอีกหนึ่งบทบาทที่เธอยังต้องเรียนรู้ไม่แพ้กันนั่นก็คือ “การเป็นแม่” ของลูกชายฝาแฝดที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้ไม่นาน แเต่อย่างที่บอกว่าลูกแวมไพร์โตเร็วมาก นอกจากนี้ยังแข็งแรงเกินกว่าที่ทุกคนคาดเอาไว้ด้วยแม้ว่าจะคลอดก่อนกำหนด แต่พละกำลังของพวกเขากลับไม่ต่างจากเด็กแวมไพร์ทั่วไปเลย บอกตามตรงว่าตอนแรกเธอเป็นกังวลมาก ว่าการเลี้ยงลูกแวมไพร์จะเหมือนกับการเลี้ยงเด็กทั่วไปหรือเปล่าแต่โชคยังดีที่ ลินิน แม่สามีของเธอคอยช่วยให้คำปรึกษาอยู่ตลอด“เลี้ยงลูกแวมไพร์ก็เหมือนเลี้ยงลูกมนุษย์นั่นแหละอาเรีย แต่ก็ยังมีเรื่องที่ต้องดูแลเป็นพิเศษด้วย” ลินินเอ่ยพลางอุ้มหลานชายคนหนึ่งไว้ในอ้อมแขน“ค่ะแม่...” อาเรียพยักหน้า ขณะที่มองดูลูกอีกคนนอนหลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมแขน“เด็กแวมไพร์จะมีสัญชาตญาณนักล่าตั้งแต่ยังเล็ก เพราะฉะนั้นต้องคอยควบคุมพวกเขาให้ดี ไม่อย่างนั้นบ้านจะเละเอาได้”ระหว่างที่กำลังให้คำปรึกษา ลินินก็เล่าถึงลูกแวมไพร์ทั้งสี่ของเธอให้ฟัง“เจ้าสี่คนนี้เนี่ยนะ ตอนนั้นทำคฤหาสน์แทบจะถล่ม” ซึ่งสี่คนที่ลินินกำลังพูดถึง ก็รวมพ่อของทั้งสองแฝดนี้ด้วยนั่น

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 64 ปาฏิหาริย์

    สามวันผ่านไป ร่างบางของอาเรียยังนอนแน่นิ่งอยู่ในโรงแก้วเย็นที่ช่วยรักษาสภาพร่างกายของเธอเอาไว้ เจย์เนสคอยนั่งเฝ้าอยู่ไม่ห่าง แต่ในใจก็เริ่มหวั่น ด้วยเพราะไม่รู้ว่าจะยังพอมีหวังกับปาฏิหาริย์ได้อยู่หรือเปล่า“เจ้าต้องพักผ่อนบ้าง” เจย์เดนเดินเข้ามาบอกลูกชาย“อาเรียไม่ฟื้น ผมเสียเธอไปตลอดกาลแล้วใช่ไหม” น้ำเสียงเว้าวอน เหมือนอยากจะยอมแพ้แต่ก็ยังไม่อยากปล่อยวาง ถ้าหากว่าเขายอมแพ้ตอนนี้อาเรียรู้เข้าคงเสียใจแน่“ข้าตอบเจ้าไม่ได้หรอก แต่เจ้าต้องพักบ้าง ถ้าอาเรียตื่นขึ้นมาเห็นสภาพเจ้าตอนนี้ นางคงปวดใจหนักแน่”เจย์เนสหันมองภาพตัวเองที่สะท้อนอยู่ในกระจกเงาบานใหญ่กลางห้อง ก็จริงอย่างที่ท่านพ่อว่า เขาควรจะไปแต่งตัวหล่อ ๆ รอต้อนรับเธอกลับมาสิร่างสูงพยักหน้า ก่อนจะยอมเดินออกจากห้องโถงที่ตั้งวางโลงแก้วเย็นอย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่เพียงลับตาจากห้องโถง ร่างบางในโลงแก้วก้เริ่มมีปฏิกิริยา ร่างกายเริ่มฟูฟ่อง บาดแผลฉกรรจ์ที่ได้รับตอนผ่าคลอดเริ่มสมาน เชิงกรานที่เคยแตกหักเชิ่มต่อกันอีกครั้ง เส้นผมที่เคยแห้งกร้านจากการที่เลือดไม่ไปหล่อเลี้ยงเริ่มกลับมาเงาสลวยอีกครั้ง ไม่เพียงเท่านั้น ผิวพรรณยังเริ่มเปล่งประ

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 63 เรื่องไม่คาดฝัน

    หลังจากนั้น เจย์เนสก็แทบไม่ปล่อยให้เธอคลาดสายตาไปแม้แต่วินาทีเดียว เขาคอยดูแลเธอทุกอย่าง ตั้งแต่เรื่องอาหาร การพักผ่อน แม้กระทั่งการเดินเพียงไม่กี่ก้าว เขาก็ต้องคอยประคอง ทำอย่างกับว่าอาเรียเหมือนแก้วที่เปราะบางมากแต่ถึงอย่างนั้น ความกังวลก็ยังไม่ลดลง เมื่อเห็นว่าภรรยายังซูบผอมอยู่ตลอดทั้งที่ทานเยอะกว่าแต่ก่อนหลายเท่าตัว“ลองให้นางดื่มเลือดดูดีไหม” เจย์เดนเสนอความเห็น เมื่อเห็นว่าอาเรียทานไปเยอะเท่าไหร่ก็ยังไม่มีน้ำมีนวลขึ้นมาเลย แถบยังซุบจนเกือบจะเหลือแต่กระดูกแล้ว“ลองดูก็ไม่เสียหายครับ” เจย์เนสสั่งให้คนไปเตรียมเลือดมนุษย์มา ก่อนจะบรรจุลงในแก้วน้ำเพื่อให้เธอลองดื่มตอนแรกทุกคนต่างกังวลว่าเธอจะสะอืดสะเอียนแล้วดื่มไม่ได้ แต่กลับกลายเป็นว่าดื่มเก่งกว่าแวมไพร์เสียอีก โดยเฉพาะช่วงที่กระหาย บอกตามตรงว่าบางครั้งอาเรียก็นึกกลัวตัวเองเหมือนกันแล้วมันก็ได้ผล หลังจากที่เธอดื่มเลือดมนุษย์ควบคู่กับการทานเนื้อเสต็กติดต่อกันเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ หน้าตาก็เริ่มสดใสขึ้น เจย์เนสเห็นแบบนั้นก็แทบจะรีบไปสรรหาเลือดจากทุกแหล่งมาถวายให้เธอเลยทีเดียวไม่เพียงเท่านั้น ทุกสิ่งอย่างที่อาเรียร้องบอกว่าอยากทาน ไ

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 62 อาการป่วย

    ไม่นานหมอประจำตระกูลก็ถูกเรียกตัวมา หลังจากตรวจร่างกายด้วยเครื่องมือทันสมัยแล้ว เขาก็บอกเล่าอาการของท่านหญิงคนใหม่แห่งตระกูลแบรดฟอร์ดด้วยน้ำเสียงหนักใจ“ท่านหญิงตั้งครรภ์ขอรับ”อาเรียเบิกตากว้างก่อนจะรีบหันไปมองเจย์เนส ที่เป็นแบบนี้ไม่ใช่ว่าเพราะเหนื่อยล้าจากการเดินทาง แต่เป็นเพราะ…ลูก เธอกำลังจะมีลูก...มือเรียวลูบไล้หน้าท้องตัวเอง ใจหนึ่งก็ตกใจจนแทบคลั่ง แต่ลึก ๆ ก็รู้สึกมีความสุขจนเหลือล้นแต่ฝ่ายที่นิ่งเงียบไปราวกับวิญญาณหลุดออกจากร่างก็คือสามีของเธอ ดวงตาสีแดงเข้มของเขาสั่นไหว ก่อนจะหันรีบถามหมอทันที“แต่เธอเป็นมนุษย์ แล้วแบบนี้เด็กก็เป็น…” เขาหยุดพูดไปครู่หนึ่ง รู้ดีว่าไม่ต้องพูดให้จบประโยค ทุกคนในห้องก็เข้าใจดีว่าทารกในครรภ์ของอาเรียเป็นอะไรท่านหมอพยักหน้ายืนยันคำตอบ “ใช่ขอรับ เป็นลูกครึ่งแวมไพร์”“มันเกิดขึ้นได้เหรอครับ ไม่ใช่ว่าต้องเป็นแวมไพร์ด้วยกันเหรอ” น้ำเสียงของเจย์เนสดูร้อนรนมาก แต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยได้ยินเรื่องที่มนุษย์ตั้งท้องกับแวมไพร์เลย เพราะส่วนใหญ่แล้วไข่ที่ปฏิสนธินั้นไม่ได้แข็งแรงพอจะหล่อเลี้ยงลูกแวมไพร์ได้“จริง ๆ แล้วมันเกิดขึ้นได้ แต่ปกติแล้วโอกาสน้อยมาก ท่

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 61 ไม่อยากทำให้เสียบรรยากาศ

    แดดยามเช้าส่องผ่านม่านสีขาวพร้อมเสียงคลื่นที่ กระทบฝั่งเบา ๆ เป็นจังหวะสม่ำเสมอสัมผัสเย็นไล้ผ่านแผ่นหลังบางอย่างแผ่วเบา ก่อนจะตามมาด้วยเสียงทุ้มของเจย์เนสที่ทำให้อาเรียลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงีย“เธอเจ็บหรือเปล่า”ได้ยินคำถามนั้นหัวใจของอาเรียก็เต้นวูบ ทำไมอยู่ดี ๆ เจย์เนสถึงถามแบบนั้นล่ะ หรือว่า...เขาเปลี่ยนเธอแล้วอย่างนั้นเหรอแต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้สำรวจตัวเอง มือหนาของเขาก็ยื่นออกมาสัมผัสผิวบริเวณต้นแขน ข้อมือ และต้นขาบางส่วนของเธอ นั่นทำให้อาเรียเห็นรอยจ้ำสีจางที่ประปรายอยู่บนนั้นดวงตาคู่สวยปรายมองเจย์เนสที่กำลังใช้นิ้วเกลี่ยรอยเหล่านั้นบนผิวของเธออย่างแผ่วเบา ดวงตาสีแดงเข้มของเขาฉายแววเจือความกังวล"เมื่อคืนฉันเผลอแรงไปหรือเปล่า"แบบี้นี่เอง เขาไม่ได้เปลี่ยนเธอเป็นแวมไพร์แต่อย่างใด แต่กำลังหมายถึงร่องรอยที่เขาเผลอทำเอาไว้เมื่อคืนบนตัวเธอต่างหากอาเรียแอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ รุ้สึกผิดหวังยังไงก็ไม่รู้ ถึงแม้ว่าเขาจะบอกแล้วว่ามันจะทำให้เธอทรมานมากหากไม่ใช้พิษที่สกัดบริสุทธิ์ แต่เธอก็ยังอยากเปลี่ยนเลยอยู่ดี เพราะอย่างน้อยก็จะได้ก้าวเข้าสู่โลกของเขา...เธอพร้อมแล้ว เตรียมใจมาตลอด

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status