Home / วัยรุ่น / พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา / บทที่ 7 จับจ้อง หูผึ่ง

Share

บทที่ 7 จับจ้อง หูผึ่ง

last update Last Updated: 2025-03-07 20:27:19

บรรยากาศบริเวณเขตสังสรรค์ในยามเย็นเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ร้านค้าเรียงรายสองข้างทาง มีทั้งนักเรียนและผู้คนจากในเมืองใกล้เคียงเดินทางมาจับจ่ายใช้สอยของกินและของใช้มากมาย

ทุกคนต่างเร่งรีบเพื่อให้ทันเวลากลับเข้าไปในหอพัก ต่างจากพวกเขาซึ่งเป็นนักเรียนคลาสเอส สิ่งหนึ่งที่ได้รับการอภิสิทธิ์เหนือนักเรียจากคลาสอื่นก็คือ พวกเขาสามารถกลับเข้าหอพักในยามวิกาลแค่ไหนก็ย่อมได้ ต่างจากนักเรียนคนอื่นที่เมื่อนาฬิกาบอกเวลาสองทุ่มก็ต้องรีบกลับเข้าหอพักแล้ว

ระหว่างที่กลุ่มของเจย์เนสกำลังเดินผ่านร้านอาหารและร้านขนมมากมาย เสียงหัวเราะและบทสนทนาของกลุ่มเพื่อนก็ดังไปตลอดทาง มิหนำซ้ำยังมีสายตาจากบรรดาสาว ๆ คอยจับจ้องมาตลอดทางอีกต่างหาก

‘อึดอัดดีแท้...’ เจย์เนสคิดในใจขณะเดินไปพร้อมกับกลุ่มเพื่อนของตัวเอง

แต่ทันใดนั้น สองขายาวก็ต้องหยุดชะงักราวกับเสียอาการไปชั่วครู่เมื่อพบเจอร่างบางที่ดูคุ้นตา กำลังยืนหันหลังมองป้ายประกาศอะไรบางอย่างอยู่ตรงหน้าร้านหนังสือเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ตรงมุมหนึ่ง

ดวงตาคมจับจ้องเธอเพียงครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบเบือนหน้ากลับไปอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้พวกเพื่อน ๆ ทันสังเกตเห็นและเกิดเป็นประเด็นสนทนาได้

และก็ทันเวลาพอดี เพราะหลังจากที่เขาละสายตาจากเธอแล้ว เดอะแก๊งก็หันไปทางหญิงสาวพอดิบพอดีเชียวล่ะ

“เอ๊ะ นั่นไง แม่สาวฟลอเรนซ์” เอเดรียนพูดขึ้นเมื่อมองเห็นหญิงสาวผมสีบลอนด์

อาเรียที่ได้ยินเหมือนคนเรียกชื่อตัวเองก็รีบหันมองหาต้นเสียง ก่อนจะเห็นกลุ่มผู้ชายที่กำลังมองมาทางนี้ แต่ก็ยังไม่วายที่สายตาเจ้ากรรมจะเหลือบไปเห็นว่าในกลุ่มนั้นมีร่างสูงที่คุ้นเคยยืนอยู่ด้วย

เมื่อเห็นแบบนั้นเธอก็ชะงักไปเล็กน้อย ถึงแม้ในกลุ่มมนั้นจะมีคนยืนอยู่มากมาย แต่สายตาของเธอก็ยังจับจ้องมุ่งตรงไปที่เขาเพียงคนเดียว

สายตาคมกริบของเจย์เนสเองก็เหลือบมองเธอเล็กน้อยก่อนจะรีบเบือนหน้าหไปนี และเมื่อเห็นว่าเขาก็มองมาอาเรียจึงรีบหลุบตาลงอย่างรวดเร็ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังหาโอกาสเหลือบมองอยู่เป็นระยะ

เจย์เนสดึงสีหน้าเรียบเฉย ท่าทางของเขาดูเหมือนไม่สนใจอะไรทั้งงสอ้นก่อนจะค่อย ๆ ก้าวทีละเล็กละน้อยไปหลบอยู่ข้างหลังเพื่อนตัวเองเพื่อหลบให้พ้นจากสายตาของเธอที่เอาแต่จ้องมองมาอยู่นั่นแหละ

“เธอมองใครน่ะ” เอเดรียนพูดขึ้นเบา ๆ เพื่อไม่ให้อาเรียแตกตื่นจนเกินไป ก่อนจะลองคาดการณ์ตามสายตาของเธอที่มองไปยังจุดเป้าหมาย

และไม่นานเขาก็เริ่มเข้าใจ ก่อนจะค่อย ๆ ขยับตัวเข้าไปใกล้เจย์เนสพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “นี่ องค์ชาย ไม่สนใจเข้าไปทักทายเธอหน่อยเหรอ เธอมองนายอยู่นะ”

คำพูดของเอเดรียนเรียกเสียงหัวเราะขำขันจากเดอะแก๊ง เซบาสเตียน และ ลูคัส ต่างส่งสายตาหยอกล้อไปทางเจย์เนส

เห็นแบบนั้นร่างสูงก็ได้แต่ถอนหายใจพร้อมส่ายศีรษะไปมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ไม่สน”

เอ่ยตอบแบบประหยัดคำพูดอีกเช่นเคย ก่อนจะหมุนตัวเดินนำพวกเขาไปยังร้านอาหารที่ตั้งใจว่าจะไปตั้งแต่แรก

“อะไรเนี่ย ทำไมใจร้ายแบบนี้เล่าองค์ชาย” เอเดรียนเอ่ยไล่หลังเขาไป แต่มีหรือที่เจ้าชายน้ำแข็งอย่างเขาจะสนใจ

“กับสาวสวยยังไม่เว้นอีก” เซบาสเตียนเสริมด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า

“นี่ พวกนายก็พูดกันเบา ๆ หน่อยสิ ถ้าเรื่องนี้หลุดออกไป ทั้งโรงเรยนตกคึกครื้นแน่” ลูคัสกล่าวปนเสียงขบขัน

และสุดท้าย ทุกคนก็ได้รับโอวาทจากเจ้าชายน้ำแข็งกันอย่างถ้วนหน้า “ไร้สาระ”

ได้ยินแบบนั้นทุกคนก็เงียบลง ก่อนจะเหลือบมองหน้ากันพร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม เจย์เนสเห็นแบบนั้นก็ยิ่งภอนหายใจหนักแล้วเดินนำพวกเขาเข้าไปในร้านจุดหมาย

ขณะเดียวกัน อาเรียที่เห็นว่ากลุ่มของเจย์เนสเดินทิ้งห่างออกไปแล้ว ก็หันกลับมาสนใจป้ายประกาศตรงหน้าตามเดิม

ป้ายที่เธอกำลังอ่านคือเป็นข้อความเกี่ยวกับการรับสมัครนักเรียนช่วยงานในห้องสมุดของเขตสังสรรค์ในช่วงสุดสัปดาห์ นี่จึงเป็นโอกาสพอเหมาะพอเจาะ

เธอมีความคิดอยากจะหาเงินค่าใช้จ่ายเพิ่ม ไม่รู้หรอกว่าลูกคุณหนูผู้ตกอับอย่างเธอจะทำได้ไหม แต่หากไม่ลองดูก็จะไม่มีวันได้เรียนรู้

เธอหยิบสมุดบันทึกเล่มเล็กออกมาจากกระเป๋าก่อนจะจดรายละเอียดของงานลงไปในนั้นเพื่อประกอบการตัดสินใจ

เฮ้อ น่าเสียดายที่เวลาเคอร์ฟิวของนักเรียนคลาสอื่นคือสองทุ่ม เพราะฉะนั้นหากเธอทำงานเสริมก็จะได้เพียงสองชั่วโมงเท่านั้น

แต่ถ้าหาก...มีนักเรียนคลาสเอสคอยอยู่ด้วยตอนกลับเข้ารั้วโรงเรียนและอ้างสิทธิ์ให้เธอได้...แบบนั้นก็คงดี

เมื่อคิดได้ดังนั้น ในสมองก็เริ่มคิดถึงภาพของร่างสุงที่เธอเพิ่งเจอเมื่อครู่ขึ้นมา แต่แล้วเธอก็ได้แต่ส่ายศีรษะไปมา

อย่าคิดอะไรที่เป็นไปไม่ได้หน่อยเลยอาเรีย...หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นยังไม่เข็ดอีกหรือไง เธอทำให้เขาลำบากขนาดนั้น หากเขายังยอมช่วยเธออยู่ก็คงจะเป็นพ่อพระเกินไป

นอกจากนี้หากไปยุ่งกับเขาอยู่บ่อยครั้งแบบนี้ มีหวังกลุ่มสาว ๆ พวกนั้นได้หาทางเล่นงานเธออีกแน่

เช่นนั้นแล้วเธอจึงไม่มีทางเลือกมากนัก ทำในเวลาที่มีก็พอแล้วล่ะ...

อีกด้านหนึ่ง เจย์เนสรวมถึงกลุ่มเพื่อนของเขานั่งอยู่ในร้านอาหารเปิดใหม่ ทุกคนต่างพูดคุยหัวเราะสังสรรค์

“อาหารอร่อยอยู่นะ”

“ใช้ได้เลย”

“ปักหมุดเป็นร้านประจำดีกว่า”

แต่ก็จะมีอยู่คนหนึ่งที่ไม่เข้าพวกเอาเสียเลย

เจย์เนสนั่งนิ่งเป็นรูปปั้น ดวงตาคมของเขาไม่ได้จดจ่ออยู่กับอาหารตรงหน้าเลยสักนิด เมื่อสักครู่ที่บังเอิญเจอกันทำให้เขาพอจะทราบว่าเธอกำลังหางานพิเศษทำอยู่

ดูเหมือนว่าเรื่องที่บ้านเธอขัดสนจะเป็นเรื่องจริงสินะ เจย์เนสคิดในใจ แล้วหลังจากนั้นก็เหมือนว่าเขาจะเริ่มวิเคราะห์เรื่องของเธออย่างเสียอดไม่ได้

มาคนเดียวเหรอ ไม่มีเพื่อนเลยหรือไง หรือแม้แต่เรื่องที่ว่าเธอจะสามารถทำงานพิเศษได้จริงน่ะหรือ เพราะดูจากลักษณะของเธอแล้ว จะต้องเป็นคุณหนูที่ทางบ้านเลี้ยงมาอย่างประคบประหงมเป็นแน่

เดี๋ยวนะ แล้วทำไมจะต้องมาใส่ใจเรื่องของเธอคนนั้นด้วยเล่า จะทำอะไรมันก็เรื่องของเธอสิเจย์เนส ไม่ใช่เรื่องของแกเลย

“ให้ตายเถอะ ช่วงนี้เหม่อบ่อยนะองค์ชาย”

“ดูเหมือนว่าใจจะลอยไปหาใครเข้าหรือเปล่าเนี่ย”

เสียงจากสองหนุ่มเพื่อนรักเอ่ยแซวขึ้นเมื่อเห็นว่าเขานั่งนิ่งไปนาน แต่ก็อย่างว่า เขาไม่ใช่คนกระโตกกระตากพอที่จะร้อนรนให้พวกนั้นจับได้อยู่แล้วล่ะ

“ไร้สาระ” เป็นคำพูดที่เขาใช้เอาตัวรอดได้กับทุกสิ่งอย่างที่พวกนี้แซว แต่ดูเหมือนในครั้งนี้จะไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่นัก

“นั่น ฟลอเรนซ์หนิ!” ลูคัสเอ่ยพร้อมชี้ไปยังอาเรียที่เดินเข้ามาภายในร้านอาหารแห่งนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

มันจะไม่เกิดเป็นประเด็นอะไรเลยหากเธอเพียงแค่เดินเข้ามาเฉย ๆ แต่ที่มันกลายเป็นเรื่องน่าแตกตื่นก็เพราะเจ้าชายน้ำแข็งอย่างเจย์เนสที่หันขวับไปมองตรงจุดที่ลูคัสชี้ไปอย่างเสียอดไม่ได้

“มีอาการว่ะ...” เอเดรียนกับลูคัสแอบกระซิบกระซาบกัน ก่อนจะได้รับสายตาคมกริบของเจย์เนสเป็นการตอบแทน

“สงสัยคงไม่ต้องใช้บริการสาว ๆ ที่ฉันเรียกมาให้แล้วล่ะมั้ง ถ้าจะไม่สนใจขนาดนี้”

ไม่ว่าเปล่ายังชี้ไปยังที่นั่งข้าง ๆ เมื่อนั้นร่างสูงจึงเพิ่งสังเกตเห็นว่ามีหญิงสาวนั่งอยู่ข้าง ๆ ตนเองด้วย

เธอเป็นนักเรียนหญิงจากคลาสอื่นที่เอเดรียนเชิญให้มานั่งร่วมทานอาหารด้วยกัน แต่ละคนช่างสวยสะพรั่งแต่ฐานะทางบ้านตอนนี้ค่อนข้างขัดสน นั่นเป็นสาเหตุที่เอเดรียน เชื้อเชิญมาได้ เพราะเขามีค่าตอบแทนให้นั่นเอง

แต่ถึงแม้จะไม่ได้ค่าตอบแทน ใคร ๆ ก็อยากมานั่งอยู่กับแก๊งชายหนุ่มพวกนี้อยู่แล้วล่ะ

ไม่ทันหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างกายเจย์เนสก็พยายามส่งยิ้มหวานไปให้เขาส่ง ก่อนจะค่อย ๆ เคลื่อนตัวเข้ามานั่งให้ใกล้ชิดมากขึ้น

“เป็นอะไรหรือเปล่าเจย์เนส ทำไมขมวดคิ้วแบบนั้นล่ะ”

เจย์เนสไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่จับจ้องไปทางเคาน์เตอร์ที่อาเรียฟลอเรนซ์กำลังยืนพูดคุยกับใครบางคนอยู่ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นพนักงานประจำร้าน

อย่าบอกนะว่าจะมาทำงานที่นี่...เจย์เนสคิดในใจก่อนจะหันมองสำรวจรอบร้าน ลักษณะของตัวร้านนั้นเหมือนบาร์ดี ๆ นี่เอง

แต่ยังไม่ทันจะได้คิดอะไรมากมาย ผู้หญิงคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ก็เริ่มก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของเขามากขึ้น เธอลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะปีนขึ้นมานั่งบนตักของเจย์เนสพร้อมใช้เรียวแขนคล้องคอเขาเอาไว้ ก่อนจะกดใบหน้าหล่อเหลานั้นให้เข้าหาตัวเอง

แต่ทว่าสายตาของเขาไม่ได้จดจ่ออยู่กับผู้หญิงที่อยู่บนตักเลยแม้แต่น้อย แต่กลับปรายสายตาคมมองไปยังหญิงสาวอีกคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเวทีแสดงดนตรีสดของร้านแทน

ดูเหมือนว่าจะมาทำงานที่นี่จริง ๆ สินะ...

“คืนนี้กลับดึกหน่อยแล้วกัน” อยู่ ๆ เขาก็ตัดสินใจหันไปบอกกล่าวกับเพื่อน ๆ เช่นนั้น เรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนทันที

“อะไรกัน แค่นี้ก็เครื่องติดแล้วเหรอองค์ชาย”

ทุกคนต่างคิดว่าเป็นเพราะหญิงสาวที่นั่งอยู่บนตักของเขาอย่างสบายใจเฉิบ แต่หารู้ไม่ว่าเขาไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นเลยสักนิด หรืออย่างน้อยก็ตอนนี้...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   ตอนพิเศษ 2

    ชีวิตหลังแต่งงานของเจย์เนสเริ่มเต็มไปด้วยความบันเทิง แต่เหนือสิ่งอื่นใด สองแฝดดูจะเป็นเรื่องที่รับมือได้ยากที่สุด(รองจากแม่ของพวกเขา)กลางดึก สองหนุ่มน้อย เรเวียน ไวน์อัส ก็แอบย่องออกจากห้องนอนลงมา ก่อนจะเริ่มหากิจกรรมเล่นกัน นับว่าดีมากที่พวกเขาได้นอนอแยกห้องกับท่านพ่อท่านแม่ จึงสะดวกแก่การย่องออกมาที่สุดอันที่จริงของพวกนี้ก็เป็นเรื่องปกตินี่นา พวกเขาเป็นแวมไพร์ก็ต้องใช้ชีวิตตอนกลางคืนมากกว่าตอนกลางวันสิถึงจะถูก!“ดูนี่สิไวน์อัส!” เรเวียนพุ่งขึ้นไปอยู่บนตู้เก็บหนังสือในห้องสมุด ก่อนจะกระโดดข้ามชั้นไปมาอย่างช่ำชอง“รอฉันด้วยสิ!” ไวน์อัสเห็นแฝดตัวเองทำแบบนั้นได้ก็ไม่อยากน้อยหน้า รีบกระโดดตามข้นไปก่อนจะวิ่งโลดโผนกันอยู่บนนั้นเสียงตึงตังข้างล่างทำเอาแวมไพร์หนุ่มอย่างเจย์เนสที่กำลังนอนอยู่ข้างอาเรียเริ่มขมวดคิ้ว ‘โจรขึ้นบ้านหรือไงนะ’นั่นเป็นความคิดแรกที่ผุดขึ้นมา ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าที่นี่เป็นบ้านแวมไพร์นะ จะมีโจรหน้าไหนกล้าบุกเข้ามากัน!แต่ด้วยความสงสัย เจย์เนสจึงยอมลุกออกจากเตียงแล้วลงไปสังเกตการณ์ดูว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า และเมื่อไปถึงข้างล่างปึง! ปัง! ตึง! ตัง!เสียงปึงปังเหมือนม

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   ตอนพิเศษ 1

    อาเรียเริ่มปรับตัวกับร่างกายใหม่ในฐานะแวมไพร์ได้แล้ว แต่ก็ยังมีอีกหนึ่งบทบาทที่เธอยังต้องเรียนรู้ไม่แพ้กันนั่นก็คือ “การเป็นแม่” ของลูกชายฝาแฝดที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้ไม่นาน แเต่อย่างที่บอกว่าลูกแวมไพร์โตเร็วมาก นอกจากนี้ยังแข็งแรงเกินกว่าที่ทุกคนคาดเอาไว้ด้วยแม้ว่าจะคลอดก่อนกำหนด แต่พละกำลังของพวกเขากลับไม่ต่างจากเด็กแวมไพร์ทั่วไปเลย บอกตามตรงว่าตอนแรกเธอเป็นกังวลมาก ว่าการเลี้ยงลูกแวมไพร์จะเหมือนกับการเลี้ยงเด็กทั่วไปหรือเปล่าแต่โชคยังดีที่ ลินิน แม่สามีของเธอคอยช่วยให้คำปรึกษาอยู่ตลอด“เลี้ยงลูกแวมไพร์ก็เหมือนเลี้ยงลูกมนุษย์นั่นแหละอาเรีย แต่ก็ยังมีเรื่องที่ต้องดูแลเป็นพิเศษด้วย” ลินินเอ่ยพลางอุ้มหลานชายคนหนึ่งไว้ในอ้อมแขน“ค่ะแม่...” อาเรียพยักหน้า ขณะที่มองดูลูกอีกคนนอนหลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมแขน“เด็กแวมไพร์จะมีสัญชาตญาณนักล่าตั้งแต่ยังเล็ก เพราะฉะนั้นต้องคอยควบคุมพวกเขาให้ดี ไม่อย่างนั้นบ้านจะเละเอาได้”ระหว่างที่กำลังให้คำปรึกษา ลินินก็เล่าถึงลูกแวมไพร์ทั้งสี่ของเธอให้ฟัง“เจ้าสี่คนนี้เนี่ยนะ ตอนนั้นทำคฤหาสน์แทบจะถล่ม” ซึ่งสี่คนที่ลินินกำลังพูดถึง ก็รวมพ่อของทั้งสองแฝดนี้ด้วยนั่น

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 64 ปาฏิหาริย์

    สามวันผ่านไป ร่างบางของอาเรียยังนอนแน่นิ่งอยู่ในโรงแก้วเย็นที่ช่วยรักษาสภาพร่างกายของเธอเอาไว้ เจย์เนสคอยนั่งเฝ้าอยู่ไม่ห่าง แต่ในใจก็เริ่มหวั่น ด้วยเพราะไม่รู้ว่าจะยังพอมีหวังกับปาฏิหาริย์ได้อยู่หรือเปล่า“เจ้าต้องพักผ่อนบ้าง” เจย์เดนเดินเข้ามาบอกลูกชาย“อาเรียไม่ฟื้น ผมเสียเธอไปตลอดกาลแล้วใช่ไหม” น้ำเสียงเว้าวอน เหมือนอยากจะยอมแพ้แต่ก็ยังไม่อยากปล่อยวาง ถ้าหากว่าเขายอมแพ้ตอนนี้อาเรียรู้เข้าคงเสียใจแน่“ข้าตอบเจ้าไม่ได้หรอก แต่เจ้าต้องพักบ้าง ถ้าอาเรียตื่นขึ้นมาเห็นสภาพเจ้าตอนนี้ นางคงปวดใจหนักแน่”เจย์เนสหันมองภาพตัวเองที่สะท้อนอยู่ในกระจกเงาบานใหญ่กลางห้อง ก็จริงอย่างที่ท่านพ่อว่า เขาควรจะไปแต่งตัวหล่อ ๆ รอต้อนรับเธอกลับมาสิร่างสูงพยักหน้า ก่อนจะยอมเดินออกจากห้องโถงที่ตั้งวางโลงแก้วเย็นอย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่เพียงลับตาจากห้องโถง ร่างบางในโลงแก้วก้เริ่มมีปฏิกิริยา ร่างกายเริ่มฟูฟ่อง บาดแผลฉกรรจ์ที่ได้รับตอนผ่าคลอดเริ่มสมาน เชิงกรานที่เคยแตกหักเชิ่มต่อกันอีกครั้ง เส้นผมที่เคยแห้งกร้านจากการที่เลือดไม่ไปหล่อเลี้ยงเริ่มกลับมาเงาสลวยอีกครั้ง ไม่เพียงเท่านั้น ผิวพรรณยังเริ่มเปล่งประ

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 63 เรื่องไม่คาดฝัน

    หลังจากนั้น เจย์เนสก็แทบไม่ปล่อยให้เธอคลาดสายตาไปแม้แต่วินาทีเดียว เขาคอยดูแลเธอทุกอย่าง ตั้งแต่เรื่องอาหาร การพักผ่อน แม้กระทั่งการเดินเพียงไม่กี่ก้าว เขาก็ต้องคอยประคอง ทำอย่างกับว่าอาเรียเหมือนแก้วที่เปราะบางมากแต่ถึงอย่างนั้น ความกังวลก็ยังไม่ลดลง เมื่อเห็นว่าภรรยายังซูบผอมอยู่ตลอดทั้งที่ทานเยอะกว่าแต่ก่อนหลายเท่าตัว“ลองให้นางดื่มเลือดดูดีไหม” เจย์เดนเสนอความเห็น เมื่อเห็นว่าอาเรียทานไปเยอะเท่าไหร่ก็ยังไม่มีน้ำมีนวลขึ้นมาเลย แถบยังซุบจนเกือบจะเหลือแต่กระดูกแล้ว“ลองดูก็ไม่เสียหายครับ” เจย์เนสสั่งให้คนไปเตรียมเลือดมนุษย์มา ก่อนจะบรรจุลงในแก้วน้ำเพื่อให้เธอลองดื่มตอนแรกทุกคนต่างกังวลว่าเธอจะสะอืดสะเอียนแล้วดื่มไม่ได้ แต่กลับกลายเป็นว่าดื่มเก่งกว่าแวมไพร์เสียอีก โดยเฉพาะช่วงที่กระหาย บอกตามตรงว่าบางครั้งอาเรียก็นึกกลัวตัวเองเหมือนกันแล้วมันก็ได้ผล หลังจากที่เธอดื่มเลือดมนุษย์ควบคู่กับการทานเนื้อเสต็กติดต่อกันเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ หน้าตาก็เริ่มสดใสขึ้น เจย์เนสเห็นแบบนั้นก็แทบจะรีบไปสรรหาเลือดจากทุกแหล่งมาถวายให้เธอเลยทีเดียวไม่เพียงเท่านั้น ทุกสิ่งอย่างที่อาเรียร้องบอกว่าอยากทาน ไ

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 62 อาการป่วย

    ไม่นานหมอประจำตระกูลก็ถูกเรียกตัวมา หลังจากตรวจร่างกายด้วยเครื่องมือทันสมัยแล้ว เขาก็บอกเล่าอาการของท่านหญิงคนใหม่แห่งตระกูลแบรดฟอร์ดด้วยน้ำเสียงหนักใจ“ท่านหญิงตั้งครรภ์ขอรับ”อาเรียเบิกตากว้างก่อนจะรีบหันไปมองเจย์เนส ที่เป็นแบบนี้ไม่ใช่ว่าเพราะเหนื่อยล้าจากการเดินทาง แต่เป็นเพราะ…ลูก เธอกำลังจะมีลูก...มือเรียวลูบไล้หน้าท้องตัวเอง ใจหนึ่งก็ตกใจจนแทบคลั่ง แต่ลึก ๆ ก็รู้สึกมีความสุขจนเหลือล้นแต่ฝ่ายที่นิ่งเงียบไปราวกับวิญญาณหลุดออกจากร่างก็คือสามีของเธอ ดวงตาสีแดงเข้มของเขาสั่นไหว ก่อนจะหันรีบถามหมอทันที“แต่เธอเป็นมนุษย์ แล้วแบบนี้เด็กก็เป็น…” เขาหยุดพูดไปครู่หนึ่ง รู้ดีว่าไม่ต้องพูดให้จบประโยค ทุกคนในห้องก็เข้าใจดีว่าทารกในครรภ์ของอาเรียเป็นอะไรท่านหมอพยักหน้ายืนยันคำตอบ “ใช่ขอรับ เป็นลูกครึ่งแวมไพร์”“มันเกิดขึ้นได้เหรอครับ ไม่ใช่ว่าต้องเป็นแวมไพร์ด้วยกันเหรอ” น้ำเสียงของเจย์เนสดูร้อนรนมาก แต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยได้ยินเรื่องที่มนุษย์ตั้งท้องกับแวมไพร์เลย เพราะส่วนใหญ่แล้วไข่ที่ปฏิสนธินั้นไม่ได้แข็งแรงพอจะหล่อเลี้ยงลูกแวมไพร์ได้“จริง ๆ แล้วมันเกิดขึ้นได้ แต่ปกติแล้วโอกาสน้อยมาก ท่

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 61 ไม่อยากทำให้เสียบรรยากาศ

    แดดยามเช้าส่องผ่านม่านสีขาวพร้อมเสียงคลื่นที่ กระทบฝั่งเบา ๆ เป็นจังหวะสม่ำเสมอสัมผัสเย็นไล้ผ่านแผ่นหลังบางอย่างแผ่วเบา ก่อนจะตามมาด้วยเสียงทุ้มของเจย์เนสที่ทำให้อาเรียลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงีย“เธอเจ็บหรือเปล่า”ได้ยินคำถามนั้นหัวใจของอาเรียก็เต้นวูบ ทำไมอยู่ดี ๆ เจย์เนสถึงถามแบบนั้นล่ะ หรือว่า...เขาเปลี่ยนเธอแล้วอย่างนั้นเหรอแต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้สำรวจตัวเอง มือหนาของเขาก็ยื่นออกมาสัมผัสผิวบริเวณต้นแขน ข้อมือ และต้นขาบางส่วนของเธอ นั่นทำให้อาเรียเห็นรอยจ้ำสีจางที่ประปรายอยู่บนนั้นดวงตาคู่สวยปรายมองเจย์เนสที่กำลังใช้นิ้วเกลี่ยรอยเหล่านั้นบนผิวของเธออย่างแผ่วเบา ดวงตาสีแดงเข้มของเขาฉายแววเจือความกังวล"เมื่อคืนฉันเผลอแรงไปหรือเปล่า"แบบี้นี่เอง เขาไม่ได้เปลี่ยนเธอเป็นแวมไพร์แต่อย่างใด แต่กำลังหมายถึงร่องรอยที่เขาเผลอทำเอาไว้เมื่อคืนบนตัวเธอต่างหากอาเรียแอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ รุ้สึกผิดหวังยังไงก็ไม่รู้ ถึงแม้ว่าเขาจะบอกแล้วว่ามันจะทำให้เธอทรมานมากหากไม่ใช้พิษที่สกัดบริสุทธิ์ แต่เธอก็ยังอยากเปลี่ยนเลยอยู่ดี เพราะอย่างน้อยก็จะได้ก้าวเข้าสู่โลกของเขา...เธอพร้อมแล้ว เตรียมใจมาตลอด

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status