Home / วัยรุ่น / พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา / บทที่ 8 ออดอ้อนเพื่อผลประโยชน์

Share

บทที่ 8 ออดอ้อนเพื่อผลประโยชน์

last update Last Updated: 2025-03-07 20:27:28

อาเรียที่เดินผ่านร้านอาหารร้านหนึ่งเข้า ดวงตาคู่สวยก็กวาดไปเจอประกาศรับสมัครพนักงานเข้าพอดี เธอจึงไม่รอช้า รีบเดินตรงเข้ามาในร้านเพื่อสอบถามเกี่ยวกับงานที่ว่า

ตอนแรกเธอคิดจะทำงานในห้องสมุดโรงเรียนนั่นแหละ แต่ก็กลัวว่ารายได้จะน้อยเกินไป นอกจากนี้ยังไม่มั่นใจด้วยว่าจะต้องแย่งชิงกับคนอื่นหรือเปล่า จึงอยากหางานสำรองเอาไว้ด้วย

“ขอโทษนะคะ” เธอเอ่ยกับพนักงานอย่างสุภาพ ถึงแม้จะเป็นลูกคุณหนูแต่ก็ใช่ว่าเธอจะวางตัวสูงส่งใส่คนอื่นเขาไปทั่ว

“ค่ะ มีอะไรให้ช่วยคะ”

“คือ...ไม่ทราบว่ายังรับสมัครนักร้องอยู่ไหมคะ” เธอว่าพลางชี้ไปยังป้ายประกาศที่แปะอยู่ตรงหน้าร้าน

ได้ยินแบบนั้นพนักงานก็ยิ้มรับ“ยังรับอยู่ค่ะ” ว่าจบเธอก็เดินไปหาผู้จัดการร้าน

เขาเป็นชายหนุ่มวัยกลางคน ซึ่งพอมองสำรวจรูปร่างหน้าตาของอาเรียแล้วก็มีความสนอกสนใจเธออยู่ไม่น้อย หากได้เธอมาเป็นนักร้องประจำร้าน คนจะต้องหลั่งไหลเข้ามาเพราะสเน่ห์ของเธอแน่ ๆ

“สนใจเริ่มงานเลยไหมล่ะสาวน้อย” เขาถามาอาเรียเรียกได้ว่าแทบจะทันที

“ค่ะ”

“อ๋อ แต่ว่า บางครั้งถ้าหากลูกค้าเต็มร้าน อาจจะต้องมาช่วยเสริ์ฟด้วยนะเธอสะดวกหรือเปล่า”

อาเรียได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าโดยไม่เกี่ยง “สะดวกค่ะ”

หลังจากตกลงกันเสร็จเรียบร้อย ผู้จัดการก็สั่งให้พนักงานหญฺงพาอาเรียไปเดินชมสำรวจงานรอบร้าน เพื่อจะได้คุ้นเคยกับสถานที่และทำงานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

ในระหว่างที่พนักงานสาวกำลังอธิบายรายละเอียดงาน ดวงตาคู่สวยของอาเรียก็เหลือบมองไปยังโต๊ะหนึ่ง ซึ่งเต็มไปด้วยบรรดาหนุ่ม ๆ ดูแล้วอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน

แล้วก็ต้องชะงักเมื่อเห็นร่างสูงที่คุ้นหน้าคุ้นตานั่งอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย แต่ภาพที่เห็นทำให้เธอต้องเม้มริมฝีปากแน่นอย่างไม่ทราบสาเหตุ

หญิงสาวคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนตักของเขา ใช้แขนคล้องคอของเขาไว้ พลางหัวเราะอย่างกระหงิ่มไปด้วย แต่ไม่เพียงเท่านั้น เจ้าหล่อนยังโอบคอของเจย์เนสจนใบหน้าหล่อเกือบจะฝังเข้าไปในหน้าอกของเธออยู่แล้ว!

ไม่ใช่เรื่องของเราอาเรีย ไม่ใช่เรื่องของเราเลย ไม่ต้องไปสนใจ!

เธอพยายามกล่อมความคิดตัวเอง ก่อนจะรีบเบือนหน้าหนีไปทางอื่นราวกับไม่อยากเห็นภาพนั้นต่อแล้ว ขณะเดียวกันก็พยายามสนใจคำพูดของพนักงาน แต่ก็ยังรู้สึกเหมือนไม่ค่อยมีสมาธิอยู่ดี

‘ฉันจะมองเขาทำไมกัน’ เธอคิดกับตัวเองพลางสูดลมหายใจลึก ‘มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย…’

“เอาล่ะ พร้อมหรือยัง” พนักงานที่อธิบายรายละเอียดเรียบร้อยแล้วก็หันมาถามอาเรียอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ

“ค่ะ” ว่าจบ เธอก็เดินขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ที่จัดแสดงอยู่บนเวที

ในจังหวะเดียวกัน เจย์เนสที่กำลังนั่งนิ่งเหมือนรูปปั้นน้ำแข็งก็เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ดวงตาสีแดงของเขาสังเกตเห็นร่างของอาเรียที่ก้าวขึ้นไปบนเวที

ถึงแม้ว่าโต๊ะของพวกเจย์เนสจะหลบมุมอยู่ก็ตาม แต่สายตาเฉียบคมของแวมไพร์อย่างเขาไม่มีทางที่จะมองไม่เห็นเธออยู่แล้ว

และทันทีที่เสียงหวานขับร้องบทเพลง สายตาแข็งกร้าวของเขาก็ดูโอนอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัดราวกับกำลังล่องลอย

‘สดใสจัง’ ความคิดนี้เกิดขึ้นระหว่างที่เจย์เนสมองเธออยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเริ่มหันมองสายตาของผู้คนในร้านที่ก็จับจ้องไปหาอาเรียกันถ้วนหน้า

“นั่นฟลอเรนซ์หนิ เสียงเธอเพราะจัง” ลูคัสเหม่อมองจับจ้องไปยังเวทีด้วยสายตาเคลิบเคลิ้ม เจย์เนสที่เห็นแบบนั้นก็แอบหรี่ตามองเพื่อนของตัวเองนิ่ง ๆ แต่แล้วก็ถอนสายตานั้นแล้วหันกลับไปมองบนเวทีอีกครั้ง

ขับร้องบทเพลงไปได้เกือบสองชั่วโมง อาเรียก็มองดูนาฬิกาที่บอกว่าเป็นเวลาหนึ่งทุ่มห้าสิบนาทีแล้ว เธอจึงรีบกล่าวลาทุกคนแล้วลงจากเวทีไปอย่างรีบร้อน พร้อมท้ะงมีเสียงโห่จากบรรดาชายหนุ่มในร้านอาหารอย่างนึกเสียดายกันยกใหญ่ ก็มีสาวสวยมาให้เชยชมพร้อมทั้งได้ฟังเสียงเพราะ ๆ ของเธอ จะไม่ให้นึกเสียดายอย่างไรไหว

“อ้าว จะกลับแล้วเหรอ”

“ค่ะ พอดีถึงเวลาเคอร์ฟิวแล้ว”

“โอเค ถ้าอย่างนั้น พรุ่งนี้มาอีกนะ” ว่าจบก็หยิบเงินจำนวนหนึ่งให้กับอาเรีย มือเรียวรีบคว้าก่อนจะก้าวขากึ่งเดินกึ่งวิ่งออกจากร้านไป

อีกด้านหนึ่ง

“พอแล้ว” เสียงเข้มเอ่ยกังวานลั่นโต๊ะ ทำเหมือนว่าตัวเองหงุดหงิดกับการยุ่มย่ามของหญิงสาวบนตัก ก่อนจะผลักให้หญิงสาวที่นั่งอยู่บนตักลงไปจากตัวเอง

เธอชะงักเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ และลุกออกไปจากตักเขา แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ที่จะยั่วยวนเขาต่อ “อะไรกัน... ยังไม่ถึงไหนเลยนะ”

“ฟังไม่รู้เรื่องหรือไง” ว่าจบเขาก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ทำทีว่าไม่สบอารมณ์อย่างยิ่งยวด จนเพื่อน ๆ หลงเชื่อว่าเป็นเช่นนั้นจริง

“องค์ชายของเราอารมณ์ไม่ดีซะแล้ว” เอเดรียนพูดขึ้นพร้อมน้ำเสียงขำขัน

“ฉันจะออกไปเดินเล่นข้างนอกสักพัก อาจจะไม่กลับมาแล้วด้วย” เขากล่าวสีหน้านิ่งเรียบ

“อ้าว ไหนว่าจะกลับดึกไง”

“เปลี่ยนใจ” ว่าจบก็รีบก้าวออกจากร้านไปทันที

ขณะเดียวกัน สองขาเรียวก็รีบจ้ำอ้าวมุ่งตรงไปยังรั้วโรงเรียน ตอนนี้เวลาหนึ่งทุ่มห้าสิบแปดนาทีเข้าให้แล้ว ทำไมขาเธอไม่ยาวกว่านี้อีกสักหน่อยนะ!

แต่แล้ว...นาฬิกาก็บอกเวลาสองทุ่มก่อนที่เธอจะทันได้ก้าวผ่านรั้วโรงเรียนไปเสียได้

อาเรียหยุดเดินชะงัก ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี หากก้าวเข้าไปตอนนี้มีหวังโดนหักคะแนนจิตพิสัยอย่างแน่นอน

“ถ้ารู้ตัวว่าจะกลับเข้าโรงเรียนทัน คราวหน้าคราวหลังก็อย่าไปทำงานที่นั่นอีก” เสียงเข้มดังขึ้นมาจากด้านหลัง ซึ่งไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าเป็นเสียงของใคร เพราะมันเคยทำให้ตัวเธอแข็งทื่อมาแล้ว เมื่อครั้งที่ลอบเข้าไปในหอพักชายในยามวิกาล

เธอหันหลับไปมองด้วยสีหน้าหงอย ๆ พร้อมงุดมองปลายเท้า เรียกความขำขันจากเจย์เนสออกมาอย่างเสียอดไม่ได้ มือหนาของเขายกขึ้นแตะปลายจมูกเล็กน้อยก่อนจะลอบยิ้มออกมา

แต่ผ่านไปเพียงครู่เดียว ดวงหน้าสวยของเธอก็เงยขึ้นมาพร้อมจับจ้องมายังร่างสูงตรงหน้าด้วยแววตาเป็นประกาย

ท่าทางนั้นทำเอาเจย์เนสถึงกับชะงักจนเผลอก้าวถอยหลังไปเล็กน้อย

“อะไรของเธอ มองฉันแบบนั้นทำไม”

“นาย...ช่วยพาฉันเข้าไปด้วยสิ นายอยู่คลาสเอสไม่ใช่เหรอ” ไม่ว่าเปล่า ยังเงยหน้ามองเขาพร้อมแววตาเปล่งประกายความหวังมากขึ้นกว่าเดิม หรือจะเรียกว่าเป็นแววตาออดอ้อนเพื่อผลประโยชน์ก็ได้

“แล้วทำไมฉันจะต้องทำแบบนั้นด้วย” แขนแกร่งยกขึ้นกอดอกวางท่าอย่างมาดมั่น

“เพราะว่าฉันมีเหตุผลที่ต้องกลับช้า ฉันต้องออกมาทำงานหาเงิน นายก็รู้ว่าช่วงนี้ที่บ้านฉันมีปัญหา”

“เรื่องนั้นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉันสักหน่อย”

อาเรียได้ยินแบบนั้นก็เริ่มขมวดคิ้วไม่พอใจ ก่อนจะเริ่มตัดพ้อต่อกฎบ้า ๆ นี่ของโรงเรียน ที่เหมือนจะไม่ยุติธรรม

“โรงเรียนไม่ควรเคอร์ฟิวแค่นักเรียนคลาสอื่นแล้วยกเว้นคลาสเอสอย่างพวกนายเอาไว้เลย เห็นได้ชัดว่าพวกนายไม่ได้ออกไปทำอะไรที่เป็นประโยชน์เลยสักนิด นอกจากไปนั่งมั่วสาว”

“นี่...ฉันว่าทักษะการต่อรองของเธอต่ำมากเลยนะ เธอคิดว่าพูดแบบนี้แล้วฉันจะยอมพาเธอกลับเข้าโรงเรียนไปด้วยหรือไง”

คำพูดของเขาทำให้อาเรียชะงักลงทันที ก่อนจะรีบยกมือขึ้นปิดปากตัวเองแล้วดึงสีหน้าหงอยงอีกครั้ง เมื่อพบว่าตัวเองไม่มีทางเลือก

เจย์เนสยืนมองเธอนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินตรงไปยังประตูรั้วโรงเรียนโดยไม่รีรอเธอเลยแม้แต่น้อย เมื่อเห็นแบบนั้น อาเรียก็เข้าใจว่าเขาคงไม่ยินยอมที่จะพาเธอกลับเข้าไปด้วยแน่ ๆ จึงเดินหันหลังแล้วไปนั่งลงอยู่ตรงบริเวณม้านั่งที่อยู่ไม่ไกลนัก

นั่งไปเพียงไม่นาน มือหนาของใครบางคนก็เข้ามาดึงฉุดแขนเธอจนแทบจะปลิวติดไปกับร่างของเขาเลยทีเดียว

“อ๊ะ นี่ ทำอะไรน่ะ”

“จะนอนอยู่ข้างนอกนี่หรือไงล่ะ ตามมา” ไม่ว่าเปล่า ยังกอบกุมข้อมือของเธอเอาไว้ไม่ยอมปล่อยอีกต่างหาก

“เธอน่ะ อยู่คลาสบีหนิ ทำไมเพิ่งกลับมาตอนนี้” เสียงของอาจารย์ฝ่ายปกครองดังขึ้นแทบจะทันที เมื่อเห็นอาเรียเดินผ่านไปพร้อมกับเจย์เนส

“เธออยู่กับผมครับ” ร่างสูงเอ่ยตอบสีหน้าเรียบเฉยไร้คามหวาดหวั่น ต่างจากหญิงสาวที่หน้าซีดคอยก้มหน้าก้มตาหลบเหมือนว่าตัวเองกำลังทำความผิด

เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าคือเจย์เนส แบรดฟอร์ด สายตาของอาจารย์ก็อ่อนลงแทบจะทันที ก่อนจะโบกมือให้พวกเขาเดินผ่านเข้าไปพร้อมกันโดยไร้การตำหนิ

“...ขอบคุณนะ”

ได้ยินแบบนั้นสายตาคมกริบก็ตวัดมองเธอเล็กน้อย“เอาเป็นว่า ครั้งหน้าอย่าให้มีเรื่องอีกก็แล้วกัน...” กล่าวเสียงเรียบ ว่าจบก็ดึงสายตากลับมา ทำเหมือนว่าไม่ได้สนใจอะไรขนาดนั้น “เชื่อฉัน งานห้องสมุดดีกว่าเยอะ”

ว่าจบขายาวก็รีบก้าวเข้าไปในปราสาทและเดินเลี้ยวไปทางหอพักชาย โดยมีอาเรียเดินตามมาอยู่ไม่ห่าง และดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะไม่ค่อยมีสติดเท่าไหร่ จนเกือบจะก้าวเข้ามาในเขตหอพักชาย หากไม่ได้ร่างสูงยกแขนขึ้นกั้นอาณาเขตเสียก่อน

“จะตามฉันขึ้นไปบนห้องด้วยเลยไหม”

เจย์เนสก้มมองดวงหน้าสวยจนใบหน้าของทั้งคู่อยู่ใกล้กันมาก

แต่คนที่ดึงท่าทีนิ่งสงบได้อยู่ตลอดอย่างเจย์เนส ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้ตัวเองแสดงท่าทีประหม่าออกมาอยู่แล้ว มีเพียงอาเรียเท่านั้นที่หน้าขึ้นสีอย่างชัดเจน

“อะ...เอ่อ...ฉัน...ลืมตัว โทษทีนะ” หลังจากกล่าวพร้อมสีหน้าแดงระเรื่อ เธอก็รีบหันหลังวิ่งกลับไปทางเขตหอพักหญิง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   ตอนพิเศษ 2

    ชีวิตหลังแต่งงานของเจย์เนสเริ่มเต็มไปด้วยความบันเทิง แต่เหนือสิ่งอื่นใด สองแฝดดูจะเป็นเรื่องที่รับมือได้ยากที่สุด(รองจากแม่ของพวกเขา)กลางดึก สองหนุ่มน้อย เรเวียน ไวน์อัส ก็แอบย่องออกจากห้องนอนลงมา ก่อนจะเริ่มหากิจกรรมเล่นกัน นับว่าดีมากที่พวกเขาได้นอนอแยกห้องกับท่านพ่อท่านแม่ จึงสะดวกแก่การย่องออกมาที่สุดอันที่จริงของพวกนี้ก็เป็นเรื่องปกตินี่นา พวกเขาเป็นแวมไพร์ก็ต้องใช้ชีวิตตอนกลางคืนมากกว่าตอนกลางวันสิถึงจะถูก!“ดูนี่สิไวน์อัส!” เรเวียนพุ่งขึ้นไปอยู่บนตู้เก็บหนังสือในห้องสมุด ก่อนจะกระโดดข้ามชั้นไปมาอย่างช่ำชอง“รอฉันด้วยสิ!” ไวน์อัสเห็นแฝดตัวเองทำแบบนั้นได้ก็ไม่อยากน้อยหน้า รีบกระโดดตามข้นไปก่อนจะวิ่งโลดโผนกันอยู่บนนั้นเสียงตึงตังข้างล่างทำเอาแวมไพร์หนุ่มอย่างเจย์เนสที่กำลังนอนอยู่ข้างอาเรียเริ่มขมวดคิ้ว ‘โจรขึ้นบ้านหรือไงนะ’นั่นเป็นความคิดแรกที่ผุดขึ้นมา ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าที่นี่เป็นบ้านแวมไพร์นะ จะมีโจรหน้าไหนกล้าบุกเข้ามากัน!แต่ด้วยความสงสัย เจย์เนสจึงยอมลุกออกจากเตียงแล้วลงไปสังเกตการณ์ดูว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า และเมื่อไปถึงข้างล่างปึง! ปัง! ตึง! ตัง!เสียงปึงปังเหมือนม

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   ตอนพิเศษ 1

    อาเรียเริ่มปรับตัวกับร่างกายใหม่ในฐานะแวมไพร์ได้แล้ว แต่ก็ยังมีอีกหนึ่งบทบาทที่เธอยังต้องเรียนรู้ไม่แพ้กันนั่นก็คือ “การเป็นแม่” ของลูกชายฝาแฝดที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้ไม่นาน แเต่อย่างที่บอกว่าลูกแวมไพร์โตเร็วมาก นอกจากนี้ยังแข็งแรงเกินกว่าที่ทุกคนคาดเอาไว้ด้วยแม้ว่าจะคลอดก่อนกำหนด แต่พละกำลังของพวกเขากลับไม่ต่างจากเด็กแวมไพร์ทั่วไปเลย บอกตามตรงว่าตอนแรกเธอเป็นกังวลมาก ว่าการเลี้ยงลูกแวมไพร์จะเหมือนกับการเลี้ยงเด็กทั่วไปหรือเปล่าแต่โชคยังดีที่ ลินิน แม่สามีของเธอคอยช่วยให้คำปรึกษาอยู่ตลอด“เลี้ยงลูกแวมไพร์ก็เหมือนเลี้ยงลูกมนุษย์นั่นแหละอาเรีย แต่ก็ยังมีเรื่องที่ต้องดูแลเป็นพิเศษด้วย” ลินินเอ่ยพลางอุ้มหลานชายคนหนึ่งไว้ในอ้อมแขน“ค่ะแม่...” อาเรียพยักหน้า ขณะที่มองดูลูกอีกคนนอนหลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมแขน“เด็กแวมไพร์จะมีสัญชาตญาณนักล่าตั้งแต่ยังเล็ก เพราะฉะนั้นต้องคอยควบคุมพวกเขาให้ดี ไม่อย่างนั้นบ้านจะเละเอาได้”ระหว่างที่กำลังให้คำปรึกษา ลินินก็เล่าถึงลูกแวมไพร์ทั้งสี่ของเธอให้ฟัง“เจ้าสี่คนนี้เนี่ยนะ ตอนนั้นทำคฤหาสน์แทบจะถล่ม” ซึ่งสี่คนที่ลินินกำลังพูดถึง ก็รวมพ่อของทั้งสองแฝดนี้ด้วยนั่น

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 64 ปาฏิหาริย์

    สามวันผ่านไป ร่างบางของอาเรียยังนอนแน่นิ่งอยู่ในโรงแก้วเย็นที่ช่วยรักษาสภาพร่างกายของเธอเอาไว้ เจย์เนสคอยนั่งเฝ้าอยู่ไม่ห่าง แต่ในใจก็เริ่มหวั่น ด้วยเพราะไม่รู้ว่าจะยังพอมีหวังกับปาฏิหาริย์ได้อยู่หรือเปล่า“เจ้าต้องพักผ่อนบ้าง” เจย์เดนเดินเข้ามาบอกลูกชาย“อาเรียไม่ฟื้น ผมเสียเธอไปตลอดกาลแล้วใช่ไหม” น้ำเสียงเว้าวอน เหมือนอยากจะยอมแพ้แต่ก็ยังไม่อยากปล่อยวาง ถ้าหากว่าเขายอมแพ้ตอนนี้อาเรียรู้เข้าคงเสียใจแน่“ข้าตอบเจ้าไม่ได้หรอก แต่เจ้าต้องพักบ้าง ถ้าอาเรียตื่นขึ้นมาเห็นสภาพเจ้าตอนนี้ นางคงปวดใจหนักแน่”เจย์เนสหันมองภาพตัวเองที่สะท้อนอยู่ในกระจกเงาบานใหญ่กลางห้อง ก็จริงอย่างที่ท่านพ่อว่า เขาควรจะไปแต่งตัวหล่อ ๆ รอต้อนรับเธอกลับมาสิร่างสูงพยักหน้า ก่อนจะยอมเดินออกจากห้องโถงที่ตั้งวางโลงแก้วเย็นอย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่เพียงลับตาจากห้องโถง ร่างบางในโลงแก้วก้เริ่มมีปฏิกิริยา ร่างกายเริ่มฟูฟ่อง บาดแผลฉกรรจ์ที่ได้รับตอนผ่าคลอดเริ่มสมาน เชิงกรานที่เคยแตกหักเชิ่มต่อกันอีกครั้ง เส้นผมที่เคยแห้งกร้านจากการที่เลือดไม่ไปหล่อเลี้ยงเริ่มกลับมาเงาสลวยอีกครั้ง ไม่เพียงเท่านั้น ผิวพรรณยังเริ่มเปล่งประ

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 63 เรื่องไม่คาดฝัน

    หลังจากนั้น เจย์เนสก็แทบไม่ปล่อยให้เธอคลาดสายตาไปแม้แต่วินาทีเดียว เขาคอยดูแลเธอทุกอย่าง ตั้งแต่เรื่องอาหาร การพักผ่อน แม้กระทั่งการเดินเพียงไม่กี่ก้าว เขาก็ต้องคอยประคอง ทำอย่างกับว่าอาเรียเหมือนแก้วที่เปราะบางมากแต่ถึงอย่างนั้น ความกังวลก็ยังไม่ลดลง เมื่อเห็นว่าภรรยายังซูบผอมอยู่ตลอดทั้งที่ทานเยอะกว่าแต่ก่อนหลายเท่าตัว“ลองให้นางดื่มเลือดดูดีไหม” เจย์เดนเสนอความเห็น เมื่อเห็นว่าอาเรียทานไปเยอะเท่าไหร่ก็ยังไม่มีน้ำมีนวลขึ้นมาเลย แถบยังซุบจนเกือบจะเหลือแต่กระดูกแล้ว“ลองดูก็ไม่เสียหายครับ” เจย์เนสสั่งให้คนไปเตรียมเลือดมนุษย์มา ก่อนจะบรรจุลงในแก้วน้ำเพื่อให้เธอลองดื่มตอนแรกทุกคนต่างกังวลว่าเธอจะสะอืดสะเอียนแล้วดื่มไม่ได้ แต่กลับกลายเป็นว่าดื่มเก่งกว่าแวมไพร์เสียอีก โดยเฉพาะช่วงที่กระหาย บอกตามตรงว่าบางครั้งอาเรียก็นึกกลัวตัวเองเหมือนกันแล้วมันก็ได้ผล หลังจากที่เธอดื่มเลือดมนุษย์ควบคู่กับการทานเนื้อเสต็กติดต่อกันเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ หน้าตาก็เริ่มสดใสขึ้น เจย์เนสเห็นแบบนั้นก็แทบจะรีบไปสรรหาเลือดจากทุกแหล่งมาถวายให้เธอเลยทีเดียวไม่เพียงเท่านั้น ทุกสิ่งอย่างที่อาเรียร้องบอกว่าอยากทาน ไ

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 62 อาการป่วย

    ไม่นานหมอประจำตระกูลก็ถูกเรียกตัวมา หลังจากตรวจร่างกายด้วยเครื่องมือทันสมัยแล้ว เขาก็บอกเล่าอาการของท่านหญิงคนใหม่แห่งตระกูลแบรดฟอร์ดด้วยน้ำเสียงหนักใจ“ท่านหญิงตั้งครรภ์ขอรับ”อาเรียเบิกตากว้างก่อนจะรีบหันไปมองเจย์เนส ที่เป็นแบบนี้ไม่ใช่ว่าเพราะเหนื่อยล้าจากการเดินทาง แต่เป็นเพราะ…ลูก เธอกำลังจะมีลูก...มือเรียวลูบไล้หน้าท้องตัวเอง ใจหนึ่งก็ตกใจจนแทบคลั่ง แต่ลึก ๆ ก็รู้สึกมีความสุขจนเหลือล้นแต่ฝ่ายที่นิ่งเงียบไปราวกับวิญญาณหลุดออกจากร่างก็คือสามีของเธอ ดวงตาสีแดงเข้มของเขาสั่นไหว ก่อนจะหันรีบถามหมอทันที“แต่เธอเป็นมนุษย์ แล้วแบบนี้เด็กก็เป็น…” เขาหยุดพูดไปครู่หนึ่ง รู้ดีว่าไม่ต้องพูดให้จบประโยค ทุกคนในห้องก็เข้าใจดีว่าทารกในครรภ์ของอาเรียเป็นอะไรท่านหมอพยักหน้ายืนยันคำตอบ “ใช่ขอรับ เป็นลูกครึ่งแวมไพร์”“มันเกิดขึ้นได้เหรอครับ ไม่ใช่ว่าต้องเป็นแวมไพร์ด้วยกันเหรอ” น้ำเสียงของเจย์เนสดูร้อนรนมาก แต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยได้ยินเรื่องที่มนุษย์ตั้งท้องกับแวมไพร์เลย เพราะส่วนใหญ่แล้วไข่ที่ปฏิสนธินั้นไม่ได้แข็งแรงพอจะหล่อเลี้ยงลูกแวมไพร์ได้“จริง ๆ แล้วมันเกิดขึ้นได้ แต่ปกติแล้วโอกาสน้อยมาก ท่

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 61 ไม่อยากทำให้เสียบรรยากาศ

    แดดยามเช้าส่องผ่านม่านสีขาวพร้อมเสียงคลื่นที่ กระทบฝั่งเบา ๆ เป็นจังหวะสม่ำเสมอสัมผัสเย็นไล้ผ่านแผ่นหลังบางอย่างแผ่วเบา ก่อนจะตามมาด้วยเสียงทุ้มของเจย์เนสที่ทำให้อาเรียลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงีย“เธอเจ็บหรือเปล่า”ได้ยินคำถามนั้นหัวใจของอาเรียก็เต้นวูบ ทำไมอยู่ดี ๆ เจย์เนสถึงถามแบบนั้นล่ะ หรือว่า...เขาเปลี่ยนเธอแล้วอย่างนั้นเหรอแต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้สำรวจตัวเอง มือหนาของเขาก็ยื่นออกมาสัมผัสผิวบริเวณต้นแขน ข้อมือ และต้นขาบางส่วนของเธอ นั่นทำให้อาเรียเห็นรอยจ้ำสีจางที่ประปรายอยู่บนนั้นดวงตาคู่สวยปรายมองเจย์เนสที่กำลังใช้นิ้วเกลี่ยรอยเหล่านั้นบนผิวของเธออย่างแผ่วเบา ดวงตาสีแดงเข้มของเขาฉายแววเจือความกังวล"เมื่อคืนฉันเผลอแรงไปหรือเปล่า"แบบี้นี่เอง เขาไม่ได้เปลี่ยนเธอเป็นแวมไพร์แต่อย่างใด แต่กำลังหมายถึงร่องรอยที่เขาเผลอทำเอาไว้เมื่อคืนบนตัวเธอต่างหากอาเรียแอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ รุ้สึกผิดหวังยังไงก็ไม่รู้ ถึงแม้ว่าเขาจะบอกแล้วว่ามันจะทำให้เธอทรมานมากหากไม่ใช้พิษที่สกัดบริสุทธิ์ แต่เธอก็ยังอยากเปลี่ยนเลยอยู่ดี เพราะอย่างน้อยก็จะได้ก้าวเข้าสู่โลกของเขา...เธอพร้อมแล้ว เตรียมใจมาตลอด

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status