"คุณหนู!" หนิงซวงตกใจแทบบ้า รีบพุ่งเข้ามาพยุงร่างของเฉียวเนี่ยน น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว "คุณหนู เป็นอะไรไปเจ้าคะ?"ท่านโหวน้อยทำอะไรลงไป เหตุใดถึงได้ทำร้ายคุณหนูของนางถึงเพียงนี้!ร่างทั้งร่างของเฉียวเนี่ยนสั่นเครือ อาการนี้คุ้นเคยยิ่งนัก หัวใจของนางรู้สึกวูบโหวง"ยาออกฤทธิ์น่ะ" น้ำเสียงของนางเลื่อนลอย อดไม่ได้ที่จะนึกถึงภาพตัวเองยามถูกจิ่งเหยียนอุ้มอยู่ในอ้อมอก ยามนั้นนางก็ตัวสั่นงันงกเช่นนี้จากนั้นสติก็พลันแตกกระเจิง จนเกือบจะปลดเชือกกางเกงของจิ่งเหยียน...โชคดีที่จิ่งเหยียนคว้ามือนางไว้ได้ทันเวลา และหลังจากยาสิ้นฤทธิ์ นางก็ได้สติกลับคืนมานางคิดว่าตัวเองรอดจากฤทธิ์ยาแล้วแต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะออกฤทธิ์อีกครั้ง!หนิงซวงตื่นกลัว "ทำ...ทำอย่างไรดีเจ้าคะ? ให้ข้าตามหมอประจำจวนหรือไม่?"เฉียวเนี่ยนส่ายหน้าในทันทีจะเรียกหมอประจำจวนมาไม่ได้ภายใต้ฤทธิ์ยา นางไม่อาจควบคุมคำพูดและการกระทำของตัวเองได้ แม้หมอประจำจวนจะมีอายุแล้ว แต่กระนั้นก็ยังเป็นผู้ชายยามนี้ในสายตาของนาง คนที่สามารถนั่งนิ่งโดยไม่หวั่นไหวได้นั้น เกรงว่าจะมีเพียงรองแม่ทัพจิ่งเพียงคนเดียวเท่านั้นเมื่อคิดได้ดังนั้น
ก่อนหน้านางเพิ่งจับจุดชีพจรของหมิงอ๋อง เพื่อมิให้เขาทำร้ายนางอีกในวันหน้า คิดไม่ถึงเลยว่า...ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ยาโจมตีหรือย่างไร หัวสมองของเฉียวเนี่ยนก็พลันหนักอึ้ง สุดท้ายก็ฝืนทนไม่ไหว เป็นลมหมดสติไปยามตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นวันถัดมาแล้วนางนอนอยู่บนเตียว เสื้อผ้าบนกายถูกเปลี่ยนเป็นผืนใหม่แล้ว"คุณหนูฟื้นแล้ว!" หนิงซวงที่อยู่ริมเตียวเห็นแล้วก็ดีใจ ขอบตาอันดำคล้ำของอีกฝ่ายบอกนางว่าเด็กสาวคนนี้อยู่เฝ้านางตลอดทั้งคืน!เฉียวเนี่ยนลุกขึ้นนั่ง รู้สึกเพียงแค่ว่าร่างกายไร้เรี่ยวแรงหนิงซวงพยุงเฉียวเนี่ยนลงจากเตียง สวมเสื้อผ้าให้เฉียวเนี่ยน ก่อนจะเอ่ยต่อ "คุณหนูเจ้าคะ ข้าแอบถามหมอประจำจวนแล้ว เขาบอกว่าต้องตามหาตัวคนวางยาถึงจะปรุงยาถอนได้ ไม่เช่นนั้น เกรงว่าจะยิ่งส่งผลร้ายยิ่งกว่า"เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้ว "ท่านโหวน้อยกลับมาแล้วหรือ?"หนิงซวงส่ายหน้า "ยังเจ้าค่ะ เมื่อคืนหลังจากเข้าวังแล้วก็ยังไม่กลับมาที่จวนเลยเจ้าค่ะ"หลินเย่ว์เป็นคนซื้อยา แต่เขาดันไม่ยอมกลับมาที่จวน แล้วจะให้นางไปหายาถอนมาจากไหน?หากไม่มียาถอน ยาจะออกฤทธิ์อีกหรือไม่ เฉียวเนี่ยนเองก็ไม่แน่ใจแต่คาดไม่ถึงว่าจะมีเสี
ดั่งกระแสไฟแล่นปราด สองมือของทั้งคู่ชักกลับในทันใดจิ่งเหยียนถอยหลังไปสองสามก้าวด้วยซ้ำ ใบหน้าสีสำริดนั้นขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างเห็นได้ชัดหนิงซวงที่อยู่ไม่ห่าง ตกใจจนลูกตาแทบถลนออกมาส่วนเฉียวเนี่ยนนั้นนึกถึงของตัวเองที่เสียกิริยาเมื่อวาน ก็เขินอายอย่างห้ามไม่ได้ วินาทีนั้นไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกไปดีบรรยากาศพลันเงียบสงันขึ้นมาอย่างประหลาด ผ่านไปเพียงไม่กี่ลมหายใจ แต่กลับเนิ่นนานเหมือนชั่วยามอย่างไรอย่างนั้นจิ่งเหยียนเป็นฝ่ายทำลายความเงียบ "ข้า...ข้าน้อยมีธุระต้องจัดการอีก เช่นนั้นขอตัวก่อนนะขอรับ"ขณะพูดจิ่งเหยียนก็ยกมือประสานคำนับเฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนเองก็คำนับกลับ มองส่งจิ่งเหยียนจากไปจนลับตาคิดไม่ถึงเลยว่าจู่ๆ หนิงซวงจะเขยิบเข้ามาใกล้ ยิ้มกรุ้มกริ่ม "คุณหนู ท่านเห็นใบหูของรองแม่ทัพจิ่งหรือไม่ แดงแจ๋จนแทบสุกอยู่แล้ว!"แค่โดนมือของคุณหนู ไม่นึกเลยว่าจะใสซื่อปานนี้คิดไปคิดมาหนิงซวงก็ลงความเห็นว่า "เขาต้องชอบคุณหนูแน่นอนเลยเจ้าค่ะ!"เดิมทีเฉียวเนี่ยนยังแอบขำที่จิ่งเหยียนหูแดงเหมือนที่หนิงซวงว่า แต่พอได้ยินหนิงซวงพูดประโยคถัดไป สีหน้าก็พลันบึ้งตึงในทันใด "ห้ามพูดเหลวไหลเ
ว่าจบอีกฝ่ามือหนึ่งก็วาดเข้ามาตบจนเฉียวเนี่ยนโซเซนางกุมหน้าเอาไว้ มองเต๋อกุ้ยเฟยที่สติแตก ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจและโกรธเคืองปะทุขึ้นในใจทว่า...เฉียวเนี่ยนกลับหลุบตาลง ค่อยๆ คุกเข่าลงอารมณ์ของเต๋อกุ้ยเฟยไม่ได้ดีขึ้นเลยแม้แต่นิด นางชี้หน้าด่าเฉียวเนี่ยน "เจ้ามันก็แค่นางแพศยาที่หญิงแพยศาให้กำเนิดออกมา! ตอนแรกข้าเห็นเจ้าน่าสงสารถึงได้ฝืนใจให้เจ้าแต่งงานกับเจ๋อเอ๋อร์ แต่เจ้ากลับรังเกียจเขา! นางไม่ใช่เพราะเจ้า เขาจะออกจากเมืองหลวงไปสำนักราชาโอสถอย่างปุบปับเช่นนี้ได้อย่างไร!"เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วแน่น นางรู้ว่าเต๋อกุ้ยเฟยคงรู้เรื่องที่ตัวเองข่มขู่หมิงอ๋องแล้วแต่ที่นางข่มขู่หมิงอ๋องมิใช่เพราะความรังเกีนจ แต่เพื่อป้องกันตนเองเพียงเท่านั้น เพื่อไม่ให้หมิงอ๋องทารุณนางหรือทารุณหญิงอื่นอย่างเลือดเย็นเช่นนั้นอีกนางไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าหลินเย่ว์จะหลอกหมิงอ๋องว่าสำนักราชาโอสถมีวิธีต่ออวัยวะ ทั้งยังคิดไม่ถึงว่าหมิงอ๋องจะถูกโจรภูเขาหยงเป่ยจับตัวไป!แต่นางก็รู้ว่าคำแก้ตัวนางรังแต่จะราดน้ำมันลงบนกองไฟ จึงคุกเข่าลงบนพื้น หลุบตาลง ไม่พูดไม่จาเมื่อเห็นว่านางไม่ตอบโต้ อารมณ์ของเต๋อกุ้ยเฟยก็ค่อ
ตั้งแต่ต้นจนจบ เฉียวเนี่ยนไม่เอ่ยแม้สักคำนางรู้ว่าตอนนี้หมิงอ๋องเป็นตายร้ายดีอย่างไร ไม่มีผู้ใดรู้ คนเป็นแม่อย่างเต๋อกุ้ยเฟย ย่อมสติแตก พาลโมโหคนอื่นยิ่งไปว่านั้น นางเป็นถึงกุ้ยเฟยผู้สูงศักดิ์คนยศตำแหน่งสูงส่งอย่างพวกนาง เดิมทีก็ไม่เห็นชีวิตของคนทั่วไปอยู่ในสายตาอยู่แล้วในสายตาของพวกเขา ชีวิตนางนั้นไร้ค่าหมิงอ๋องเฆี่ยนตีนางปางตาย ก็ปล่อยให้ตีไป ต่อให้ตายแล้วอย่างไรเล่า?ใครใช้ให้นางเกิดมาเป็นลูกของนางแพศยา ชีวิตไร้ค่า!หึ!เฉียวเนี่ยนคุกเข่าอยู่ที่เดิม สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ทว่าแววตาที่จ้องมองชายกระโปรงของตัวเองกลับเผยอารมณ์หนึ่งที่ยากจะอธิบายแล้วเหตุใดชีวิตนางถึงไร้ค่า?เหตุใดหญิงสาวที่ถูกหมิงอ๋องทรมานจนตาย กลับตายแล้วก็ปล่อยให้ตายไป?วินาทีนั้น ความเกรี้ยวโกรธของเฉียวเนี่ยนก็พุ่งถึงขีดสุดนางคิดว่าหากโจรภูเขาจับตัวหมิงอ๋องไปผ่าท้องมันเสียเลยคงดียิ่งนัก!แต่เมื่อเสียงสะอื้นของเต๋อกุ้ยเฟยค่อยๆ เบาลง ความเดือดดาลของเฉียวเนี่ยนเองก็เริ่มบรรเทาตามสติสัมปชัญญะบอกนางว่า หมิงอ๋องจะตายไม่ได้หมิงอ๋อง คือหนทางเดียวที่จะทำให้นางหลุดพ้นจากจวนโหวได้เร็วที่สุดเมื่อคิดได้ดังน
นางมีกิจการมากมายภายใต้ชื่อของตนเอง ทั้งสามารถร้องของจากฝั่งแม่ของนางได้อีก ขอเพียงแค่เจ๋อเอ๋อร์กลับมาอย่างปลอดภัยก็พอ!แต่คำตอบของเซียวเหิง กลับทำให้เต๋อกุ้ยเฟยแทบหมดเรี่ยวแรงน้ำเสียงเรียบเฉยของเซียวเหิงพูดว่า "พวกมันต้องการคำสั่งจากทางการ อนุญาตให้พวกมันตั้งรกรากที่เหอโจว"พวกมันต้องการความยอมรับจากทางการ ยืดครองพื้นที่เป็นราชาแห่งหุบเขา จี้ปล้นคนอย่างถูกต้อง!เพราะความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่าของทหารที่ราชสำนักส่งไปปราบโจร ทำให้พวกมันกำเริบเสิบสานแต่จะเป็นไปได้อย่างไรเล่า?คำร้องขอเช่นนี้ ต่างอะไรกับการเหยียบพระพักตร์ฮ่องเต้?ต่อให้โจรภูเขาพวกนั้นเอาชีวิตหมิงอ๋องไป ฮ่องเต้ก็ไม่มีทางยอมรับคำเรียกร้องฮ่องเต้มีพระโอสรมากมายปานนั้น...เต๋อกุ้ยเฟยทรุดตัวนั่งลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง โชคดีที่นางบ่าวมือไว รับตัวนางแล้วพยุงตัวไปนั่งเก้าอี้เต๋อกุ้ยเฟยพิงพนักเก้าอี้ น้ำตานองหน้า "ทำเช่นไรดี? ข้าควรทำเช่นไร?"หรือว่าเหลือความตายเพียงหนทางเดียว?แต่คิดไม่ถึงเลยว่าหลินเย่ว์จะโพล่งขึ้น "กุ้ยเฟยโปรดอย่างเพิ่งร้อนใจ ฮ่องแต่ส่งแม่ทัพเซียวนำทัพไปแล้ว ย่อมต้องช่วยหมิงอ๋องกลับมาได้แน่น
เต๋อกุ้ยเฟยกุมมือเฉียวเนี่ยนแน่นแม้เมื่อครู่นางจะด่าทอเฉียวเนี่ยน แต่นางก็รู้ดีว่าเฉียวเนี่ยนไม่มีทางยอมให้หมิงอ๋องเป็นอะไรไปเด็ดขาดเพราะหมิงอ๋องคือทางออกเดียวของนางหลินเย่ว์บอกว่าเวลานัดหมายแลกตัวคือยามจื่อคืนนี้ หลังจากเต๋อกุ้ยเฟยเอ่ยขอบคุณจากใจจริง ก็ปล่อยให้เฉียวเนี่ยนกลับไปพักผ่อนเฉียวเนี่ยนคำนับลา แผลไหม้บนบ่ายังคงปวดหนึบ แต่แผ่นหลังของนางยังคงตั้งตรง เดินสาวเท้ายาวออกไป ไม่สนใจสองคนที่ตามติดไม่ห่างเลยสักนิดจนกระทั่งมาถึงหน้าประตูวังหลวงเมื่อเห็นรถม้าของจวนโหวที่จอดอยู่หน้าประตู เฉียวเนี่ยนก็ขึ้นไปนั่งอย่างไม่มีลังเลนางยังไม่ทันนั่งลงบนรถ เซียวเหิงก็เอ่ยตามหลัง "ข้าจะปลอมตัวเป็นบ่าวตามเจ้าไป"เขาต้องการจะบอกเฉียวเนี่ยนว่า เขาจะตามอยู่ข้างหลัง ไม่จำเป็นต้องกลัวสิ่งใดแต่เฉียวเนี่ยนกลับเหลียวมองเขา ก่อนจะถามประชด "แม่ทัพเซียวทำไปเพื่อปกป้องช้า หรือเพื่อปกป้องหมิงอ๋องเจ้าคะ?"เขาบอกว่าจะตามนางอยู่ข้างหลัง หากอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงตาย เขาจะช่วยหมิงอ๋อง หรือช่วยนาง?เห็นได้ชัดว่าคำตอบคืออะไรการที่เขาปลอมเป็นบ่าวรับใช้ ไม่ได้ทำเพื่อนางเลย แต่ทำตามราชโองการของฮ่องเต้
อันที่จริง เขาเป็นคนทำให้เฉียวเนี่ยนมีนิสัยเจ้าคิดเจ้าแค้นแต่ว่านางจำแทบไม่ได้แล้วทุกวันนี้นางรู้แค่ว่าเขาเป็นคนออกความเห็นให้หลินเย่ว์พานางขึ้นเตียงของพี่ชาย!ถ้าจะให้พูด ก็ต้องโทษหลินเย่ว์แค่ให้ซื้อยานอนหลับยังไม่ได้เรื่อง เกือบจะเป็นเรื่องใหญ่โต!พอคิดได้เช่นนั้น เซียวเหิงก็อดไม่ได้ที่จะถลึงตาใส่หลินเย่ว์ จากนั้นก็หันหลังขึ้นรถม้าของจวนแม่ทัพหลินเย่ว์รู้สึกแปลกๆ ทว่ารถม้าจวนโหวก็วิ่งออกไปไกลแล้ว เขาเลยได้แต่ขึ้นไปบนรถม้าของเซียวเหิงใครจะรู้ เซียวเหิงจู่ๆ ก็เปิดม่านออกมาและพูดใส่หลินเย่ว์ "ฉันมีธุระส่วนตัวต้องจัดการ พี่หลินคงไปด้วยไม่ได้"พูดจบก็หันไปบอกคนขับรถม้า "ไปเถอะ!"คนขับรถม้ารับคำ บังเหียนม้าสะบัดพร้อมกับรถม้าเคลื่อนออกไปเหลือเพียงหลินเย่ว์ยืนอยู่หน้าประตูวัง เขาทำสีหน้าไม่ถูกเฉียวเนี่ยนพอกลับมาถึงเรือนฟางเหอ หนิงซวงก็เข้ามาต้อนรับและถามอย่างกระตือรือร้น "คณหนู เสี่ยวชุ่ยถูกไล่ออกจากจวนแล้ว คุณหนูรองเองก็ทราบเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ได้ขวางอะไร ถ้าให้บ่าวเดา คุณหนูรองต้องแอบไปหาเสี่ยวชุ่ยแน่ แต่ไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ บ่าวให้หวังอู่คอยสะกดรอยตามแล้ว เขาเป็นคนที่ฉลาดสุด
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ!” ท่านโหวหลินตกใจมาก ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วฮูหยินหลินเองก็เบิกตากว้างอย่างกะทันหัน มองหลินเย่ว์ด้วยความไม่เชื่อหลินยวนก็ตกใจมากเช่นกัน ทันใดนั้นก็เข้าใจว่าทำไมหลินเย่ว์ถึงทำตัวผิดปกติเช่นนี้ก่อนหน้านี้ที่แท้ก็เพราะเรื่องนี้หรือ?เพราะเฉียวเนี่ยนตายแล้วรึ?แต่ในขณะนี้ หลินยวนไม่รู้สึกดีใจเลยแม้แต่น้อยสิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงความตื่นตระหนกเท่านั้นเฉียวเนี่ยนตาย แล้วนางจะปัดความรับผิดชอบเรื่องของย่าเฉาได้อย่างไร?นางจะโยนความผิดให้ใคร?ทำเช่นไรดี?หลินยวนรู้สึกหวาดกลัวถึงขีดสุดแต่ไม่คิดว่าหลินเย่ว์จะพุ่งเข้ามาจับคอเสื้อของนาง “เจ้าเป็นใครกันแน่? พูดมา!”หลินยวนตกใจกลัวนางไม่เคยเห็นหลินเย่ว์ดุร้ายเช่นนี้มาก่อนน้ำตาไหลพรากออกมาไม่หยุด แต่ก็ยืนกรานว่าตัวเองเป็นบุตรสาวสายตรงแห่งจวนโหว“พี่ใหญ่ อย่าขู่ข้าเลย... ข้าเป็นน้องสาวของพี่นะ!”“หมอตำแยพูดเองกับปากว่า ข้าถูกนางสลับตัว! นางพูดเองกับปาก!”“ข้าหน้าเหมือนแม่มากเลยนะ พี่ใหญ่ ดูข้าสิ! ข้าจะไม่ใช่ลูกของแม่ได้อย่างไร!”นางปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองไม่ใช่!มิเช่นนั้น ด้วยสภาพของคนในตระกูลหลินยามนี้ พวกเขาจ
คิดไม่ได้แล้ว คิดต่อไม่ได้แล้ว...นางจะทนไม่ไหวแล้ว!ในขณะนั้นเอง มามาหลายคนคนที่พาหลินยวนลงไปก่อนหน้านี้ ในที่สุดก็พาหลินยวนกลับมา "ทูลฮูหยิน เอวของคุณหนูรองไม่มีปานเจ้าค่ะ"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ย่าเฉาจึงรีบเอ่ยว่า "นางไม่ใช่ตั้งแต่แรก จะมีได้อย่างไร!"หลินยวนร้องไห้ตะโกน "ท่านแม่ ไม่ใช่เช่นนั้น! ท่านอย่าฟังคำพูดเหลวไหลของหญิงชั่ว!"ฮูหยินหลินราวกับโดนค้อนหนักทุบจนหัวเริ่มมึนงงนางไม่เคยสงสัยหลินยวนเลย เพียงแต่คนที่นางส่งไปไม่เคยได้เบาะแสอะไรกลับมาเลยก่อนหน้านี้มีช่วงหนึ่งที่นางสงสัยว่ายวนเอ๋อร์กับเนี่ยนเนี่ยนเป็นพี่น้องฝาแฝด และหมอตำแยที่ทำคลอดให้นางขโมยไปคนหนึ่งฉะนั้น นางจึงรักลูกทั้งสองคนและตัดใจจากลูกทั้งสองคนไม่ได้...นางอยากจะเชื่อว่านางคลอดลูกฝาแฝดมากกว่าที่จะสงสัยว่าหลินยวนไม่ใช่ลูกของนาง!หายใจเข้าลึกๆ หลายที ฮูหยินหลินก็ดูเหมือนจะมีแรงกลับมา จึงยกมือขึ้นและเรียกเด็กรับใช้ที่อยู่ไม่ไกลออกไป "ไป ไปตามท่านโหวกลับมา! ตามท่านโหวน้อยกลับมาด้วย!"เรื่องนี้ นางทนรับคนเดียวไม่ไหวจริงๆเด็กรับใช้รีบรับคำและจากไปทันทีแต่หลินยวนยังคงร้องไห้ "ท่านแม่ ท่านไม่ควรเชื่อคำพูดของ
ชาวแคว้นจิ้งเชื่อว่าเด็กๆ เป็นของขวัญจากสวรรค์เหล่านางฟ้าบนสวรรค์เลือกครอบครัวที่เหมาะสม แล้วส่งเด็กๆ ลงมาทีละคนเด็กบางคนซุกซน ไม่ยอมลงมา นางฟ้ากริ้วโกรธ ก็เลยต้องลงมือรอยปานเล็กๆ นั่นต้องเป็นรอยที่นางฟ้าจิ้มแน่นอนส่วนรอยที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย ต้องเป็นรอยที่นางฟ้าหยิกแน่นอนและรอยที่ใหญ่กว่านั้น อืม ต้องเป็นเด็กที่ซุกซนมาก นางฟ้าทนไม่ไหว จึงเตะลงมาฮูหยินหลินรู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่งเมื่อก่อน ยามที่นางดูแม่นมเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เนี่ยนเนี่ยน นางก็เคยพูดว่า เด็กคนนี้ต้องซุกซนมากแน่ๆ ถึงโดนนางฟ้าหยิกที่เอวเนี่ยนเนี่ยนมีปานที่เอวเมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลินก็ค่อยๆ หันไปมองหลินยวน "เจ้ามีปานหรือไม่?"หลินยวนตกใจส่ายหัวไม่หยุด "ท่านแม่ อย่าฟังหญิงคนนี้พูดจาเหลวไหล..."แต่ก่อนที่นางจะพูดจบ ฮูหยินหลินก็ออกคำสั่ง "ใครก็ได้เข้ามาที! พาตัวนางออกไป ถอดเสื้อผ้าออกให้หมดแล้วหาปาน!""เจ้าค่ะ!"มามาคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างตอบรับและพาหลินยวนออกไปหลินยวนไม่ยอมและดิ้นรน แต่นางจะสู้แรงเหล่ามามาได้อย่างไร?ในไม่ช้า ห้องโถงด้านหน้าก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้งฮูหยินหลินแทบจะนั่งไม่ไหวแล้ว แต่ก็ยัง
ขณะนั้น หลินยวนที่ถูกขังอยู่นอกเรือนลั่วเหมยก็เบิกตากว้างทันทีด้วยความไม่เชื่อด้านข้างมีสาวใช้กระซิบว่า "คุณหนู ท่านโหวน้อยเป็นอะไรไป ทำไมถึงดูเหมือนคนบ้าเช่นนี้? เกิดอะไรขึ้นหรือไม่?"หลินยวนขมวดคิ้วนิดๆ นางเองก็ไม่รู้แต่การที่หลินเย่ว์คลุ้มคลั่งขึ้นมาอย่างกะทันหัน กลับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนางโอกาสที่ดีที่จะไปแสดงความน่าสงสารต่อหน้าฮูหยินหลิน เพื่อให้ฮูหยินหลินสงสารนาง!นางรู้ดีว่าแม้ท่านโหวหลินและฮูหยินหลินจะช่วยชีวิตนางไว้ แต่พวกเขาก็ไม่ได้รักนางเหมือนเมื่อก่อนบางที วันนี้นางอาจใช้โอกาสนี้เพื่อเรียกความรักของพวกเขากลับคืนมาได้เมื่อคิดได้เช่นนั้น หลินยวนจึงไปหาฮูหยินหลินแต่ได้รับแจ้งว่า ฮูหยินหลินกำลังต้อนรับแขกอยู่ที่ห้องโถงด้านหน้าเพื่อแสดงความน่าสงสารของตน หลินยวนจึงมาที่ห้องโถงด้านหน้า โดยตั้งใจไม่มองแขกคนนั้นเลย นางเพียงแค่น้ำตาคลอเบ้าเดินไปหาฮูหยินหลินและคุกเข่าลง "ท่านแม่ ได้โปรดให้ความเป็นธรรมแก่ยวนเอ๋อร์ด้วย! ท่านพี่ไม่รู้เป็นอะไร ไล่ยวนเอ๋อร์ออกจากเรือนลั่วเหมย! ฮือๆ ๆ พี่ใหญ่ยังผลักยวนเอ๋อร์ด้วย ข้อเท้าของยวนเอ๋อร์เคล็ดเลยเจ้าค่ะ!"ฮูหยินหลินมองหลินยวนที่คุ
ไม่รู้ว่าตบหน้าตนเองไปนานแค่ไหน หลินเย่ว์ก็เหมือนนึกบางอย่างออก รีบรวบรวมเศษผ้าเหล่านั้นกลับเข้าไปซุกไว้ในอกของตนแล้วลุกขึ้นเปิดประตูออกไปข้างนอกเขาต้องไปหาเนี่ยนเนี่ยนออกจากประตู ก็เห็นต้นหวยขนาดใหญ่วัยเด็ก เนี่ยนเนี่ยนชอบปีนขึ้นไปเล่นบนต้นไม้มากที่สุดโขดหินจำลองที่อยู่ไม่ไกลก็เป็นสถานที่ที่เนี่ยนเนี่ยนชอบเล่นมากที่สุดเช่นกัน ครั้งหนึ่ง นางตกจากโขดหินจำลอง ทำให้เขาตกใจแทบแย่ แต่นางกลับยิ้มร่าเริง ไม่คิดอะไรมากศาลาหลังนั้น เขาเคยเล่นหมากรุกกับนางด้วยกันครั้นที่เด็กน้อยเพิ่งหัดเล่น นางชอบเล่นตุกติกมากที่สุด หมากกระดานหนึ่ง ต้องแก้เกมเป็นสิบๆ ครั้งต้นท้อเหล่านั้น ออกผลทั้งใหญ่และหวานมาก เนี่ยนเนี่ยนจะพาบ่าวรับใช้มาเก็บผลไม้ทุกครั้ง แล้วนำมาทำเป็นขนมหวานอร่อย ยกมาให้เขาที่ห้องหนังสือด้วยตัวเองทางเดินเส้นเล็กนี้ เป็นทางที่เนี่ยนเนี่ยนเดินบ่อยที่สุดเพราะเรือนของนางอยู่ใกล้กับเรือนของเขามากที่สุด ในวัยเด็ก หากนางฝันร้าย นางจะกอดหมอนของตน พาสาวใช้อีกกลุ่มหนึ่ง วิ่งเข้ามาในห้องของเขา แล้วบังคับให้เขาต้องนอนกับนางให้ได้นางพูดว่า: มีพี่ใหญ่อยู่ข้างกาย เนี่ยนเนี่ยนถึงจะวางใจ
ร่างกายของหลินเย่ว์สั่นเทาราวกับว่าเขาสามารถเห็นภาพของเฉียวเนี่ยนเมื่อสามปีก่อนที่ถูกพาตัวไปยังกรมซักล้างและร้องไห้คร่ำครวญนางไม่ยอมจำนน ไม่ยอมอยู่ที่นั่น จึงถูกมามาในกรมซักล้างเฆี่ยนตีครั้งแล้วครั้งเล่าจากนั้น นางก็นอนคว่ำอยู่ในห้องที่มีทั้งลมและฝนรั่วฉีกเสื้อผ้าบนร่างกายที่ขาดหลุดลุ่ยใช้นิ้วจุ่มเลือดจากบาดแผลเขียนทีละตัวอักษรว่า:พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยหัวใจของเขาเจ็บปวดจนหายใจแทบไม่ออกหลินเย่ว์รีบพลิกเศษผ้าเหล่านั้นทีละชิ้นเกือบทุกชิ้นเขียนด้วยเลือดว่า: พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยพี่ใหญ่ รับข้ากลับบ้านด้วยพี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยยยเป็นเวลาสามปีแล้วที่เศษผ้าเปื้อนเลือดเหล่านี้บันทึกทุกครั้งที่นางขอความช่วยเหลือ และทุกครั้งก็เป็นการขอความช่วยเหลือจากเขาหลินเย่ว์เพิ่งตระหนักว่า ในใจของเฉียวเนี่ยน พี่ใหญ่ของเขาสำคัญมากเพียงใดในใจของนาง มีเพียงพี่ใหญ่เท่านั้นที่สามารถช่วยนางได้!แต่เขาทำอะไร?ในขณะที่นางนอนคว่ำอยู่บนเตียงไม้เย็นเฉียบ ขอความช่วยเหลือจากเขาด้วยเลือดสด เขาทำอะไรอยู่?เขาจะเข้าวังขอความเมตตาจากฮ่องเต้ แต่ถูกพ่อขวางไว้ ให้เขายึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลักส่วนรวม.
เขาไม่กล้าคิดต่อได้แต่บังคับตัวเองให้ดึงความคิดอันกระวนกระวายนั้นกลับมาเซียวเหิงใกล้ระเบิดแล้ว เขาจะบ้าตามไม่ได้!ดังนั้น เขาจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ และพยักหน้า “ใช่ ต้องไม่เป็นอะไร”หลินเย่ว์ราวกับได้แรงกลับคืนมา เขาพยักหน้าและหันหลังเดินจากไปใช่ ต้องไม่เป็นอะไรรอให้เขากลับไปพักชั่วครู่ แล้วค่อยกลับมาหาเนี่ยนเนี่ยน...หลินเย่ว์ขี่ม้ากลับไป แต่ในหัวกลับปรากฏแต่ภาพขณะที่เฉียวเนี่ยนตกลงไปในแม่น้ำไกลจากเขามากไกลจนเขาไม่เห็นหน้านางชัดๆ ไกลจนเขาคว้าแม้แต่เงาของนางไว้ไม่ได้!แต่ทำไมพวกเขาถึงห่างกันได้ขนาดนี้?หรือว่าเขาค่อยๆ ผลักไสนางออกไปเอง?“ท่านโหวน้อย!”ทันใดนั้น เสียงหวานนุ่มนวลก็เรียกสติของหลินเย่ว์กลับคืนมาเขาชะงักไปครู่หนึ่ง เงยหน้าขึ้นมอง แล้วก็ตกใจที่พบว่าตนมาถึงหน้าจวนโหวตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้“ท่านโหวน้อย!”เสียงเรียกดังขึ้นอีกครั้ง หลินเย่ว์จึงสังเกตเห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ไม่ไกลเขาจำนางไม่ได้แต่เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวคนนั้นจำเขาได้ และเมื่อเห็นเขามองมาก็รีบวิ่งมาหาหลินเย่ว์ "คารวะท่านโหวน้อย บ่าวชื่อหลิ่วเหนียง เป็น...สหายของคุณหนูใหญ่ขณะอยู่ในวัง"คำว่าส
"เนี่ยนเนี่ยน!""เนี่ยนเนี่ยน!""ไม่!"เสียงดังสามเสียงดังขึ้นแทบจะในเวลาเดียวกันเซียวเหอและหลินเย่ว์ชักดาบออกมาพร้อมกัน ในขณะที่ชายหนวดเคราและเด็กหนุ่มยังไม่ทันได้ตั้งตัว พวกเขาก็ถูกปาดคอไปแล้วส่วนเซียวเหิงนั้น เขาไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นและกระโดดลงไปในแม่น้ำฉางหยางเมื่อเห็นเช่นนั้น เซียวเหอและหลินเย่ว์จึงรีบคว้าตัวเซียวเหิงกลับพร้อมกัน"ปล่อย!" เซียวเหิงตะโกนเสียงทุ้มต่ำและดิ้นรนอย่างสุดกำลัง ดวงตาทั้งสองจ้องมองไปที่ผิวน้ำที่ราบเรียบไร้ระลอกคลื่น พยายามมองหาร่างของเฉียวเนี่ยนเขาพยายามกระโดดลงไปในแม่น้ำอย่างต่อเนื่องแต่สองมือที่อยู่ข้างกายเขาคอยคว้าเขาไว้และดึงเขากลับมาเขาจึงทำได้เพียงปัดมือเหล่านั้นออกเนี่ยนเนี่ยนยังอยู่ในแม่น้ำ เขาต้องไปช่วยเนี่ยนเนี่ยน!“เพียะ!”เสียงตบที่ดังสนั่น ทำให้เซียวเหิงได้สติเซียวเหอกำลังจับคอเสื้อของเซียวเหิงไว้แน่น เสียงแข็งกร้าวเริ่มสั่นคลอน และเอ่ยว่า “เนี่ยนเนี่ยนจะไม่เป็นอะไร! นางว่ายน้ำเป็น! สิ่งที่เจ้าต้องทำในยามนี้คือพาสมุนหานางที่ปลายน้ำ ไม่ใช่กระโดดลงไป!”หากแม้แต่เซียวเหิงก็กระโดดลงไปด้วย แล้วพวกเขาจะช่วยใคร ช่วยเซียวเหิงหรือช
“อย่าหุนหันพลันแล่น!” เซียวเหอลงจากม้าเป็นคนแรก พร้อมตะโกนใส่พวกโจรภูเขาเมื่อเห็นรอยเลือดสีแดงฉานปรากฏบนคอของเฉียวเนี่ยน หัวใจของเขาก็พลันบีบรัดเซียวเหิงและหลินเย่ว์รีบลงจากม้าตามมาติดๆสีหน้าของเซียวเหิงดูมืดมนอย่างยิ่ง และกำหมัดแน่นเขาโกรธตัวเองที่ยามนั้นทำไมไม่กำจัดพวกโจรภูเขาให้หมดสิ้น ปล่อยให้เฉียวเนี่ยนตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้ได้ยิ่งโกรธตัวเองที่หลงกลพวกโจรภูเขา!หลินเย่ว์มองเฉียวเนี่ยนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน จิตใจว้าวุ่น เขาตะโกนเสียงดัง "พวกเจ้าต้องการอะไร ข้าให้ได้ทุกอย่าง! ปล่อยน้องสาวข้า!"ดวงตาของเฉียวเนี่ยนหม่นหมองนางนึกไม่ถึงว่าหลินเย่ว์จะมาด้วยแล้วพลันพบว่า แม้ในสถานการณ์เช่นนี้ นางก็ยังไม่อยากเจอหลินเย่ว์ยิ่งไม่อยากได้ยินเขาเรียกนางว่า 'น้องสาว'ตั้งแต่เมื่อใดกันที่นางเกลียดพี่ใหญ่ถึงเพียงนี้?ก่อนที่นางจะครุ่นคิดมากกว่านี้ ก็ได้ยินเสียงของชายที่มีหนวดเคราตะโกนว่า "อยากให้พวกข้าปล่อยคนอย่างนั้นหรือ? ง่ายมาก! เอาหัวของเซียวเหิงมาให้พวกเรา!"เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวเหอและหลินเย่ว์ก็ตกใจแต่ก็นึกไม่ถึงว่าเซียวเหิงจะชักดาบยาวที่เอวออกมาและวางไว้บนคอของตนโด