แชร์

บทที่ 231

ผู้เขียน: โม่เสียวชี่
ว่าอย่างไรนะ?!

หลินเย่ว์ตื่นตกใจ พุ่งตัวเข้าไปหาขอทานผู้นั้นแล้วกระชากคอเสื้อ "ใครจับตัวไป? จับที่ไหม?"

ขอทานตกใจแทบแย่ สองตาเบิกโพรงด้วยความหวาดกลัว

หลินเย่ว์ตวาดลั่น "บอกมา! ไม่อย่างนั้นข้าจะถลกหนังเจ้า!"

ขอทานถึงได้เอ่ยเสียงตะกุกตะกัก "ถูก...ถูกพวกขอทาน จะ..จับตัวออกไปนอกเมือง"

เมื่อได้ยินดังนั้น หลินเย่ว์ก็ปล่อยขอทานไป ก่อนจะวิ่งไปยังนอกเมืองอย่างไม่คิดชีวิต

เมื่อเห็นหลินเย่ว์วิ่งไปไกล ขอทานถึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะหันกลับไปมองเฉียวเนี่ยนอย่างอดไม่ได้

เมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนจ้องมองมาที่เขา ดวงตาเป็นประกายนั้นมองเขาหัวจรดเท้า ก่อนสายตาจะหยุดลงบนหน้าอกที่กระเพื่อมขึ้นลงของเขา

ขอทานตื่นตระหนกในทันใด รีบกุมหน้าอกของตัวเองเอาไว้ สายตาเปลี่ยนเป็นรู้สึกผิดในทันที

ท่าทางประหม่า หลังจากชำเลืองมองเฉียวเนี่ยนอย่างระแวงอยู่ครู่หนึ่งก็วิ่งหนีไป

เฉียวเนี่ยนมองแผนหลังของขอทานผู้นั้นหายไปจากมุมเลี้ยว เรียวคิ้วขมวดแน่น

นางรู้ดีว่าขอทานต้องมีลับลมคมในบางอย่างเป็นแน่

ทว่ายามนี้นางไม่มีเวลามาสนใจ

หลินยวนจะเป็นหรือตาย ไม่เกี่ยวกับนาง ในใจของนางตอนนี้มีแต่ความเป็นความตายของจิ่งเหยียน!

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1046

    ซูกงกงมองตัวอักษรบนสมุดรายงานนั้นก็ขมวดคิ้วแน่นเป็นปมเขาลอบมองฉู่จืออี้หนึ่งครั้ง แล้วเหลือบออกไปยังเฉียวเนี่ยนอีกหนึ่งครั้ง ก่อนเอ่ยกับฮ่องเต้ว่า “ฮ่องเต้ กระหม่อมเห็นว่าตั้งแต่แม่ทัพเซียวได้คุมอำนาจทัพมา ยังไม่เคยกระทำอันบุ่มบ่ามเช่นนี้เลย ครานี้... ปัญหาคงอยู่ที่ท่านหญิงเฉียวกระมัง”เรื่องนี้ ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ต่างก็รู้แก่ใจ แต่มีเพียงซูกงกงที่กล้าเอ่ยออกมาฉู่จืออี้ปรายตาไปทางซูกงกงครั้งหนึ่ง ในใจเข้าใจดีว่าคำพูดของซูกงกงนั้นแท้จริงแล้วก็คือสิ่งที่ฮ่องเต้อยากจะเอ่ย“เฉียวเนี่ยนเข้ามา!”ฮ่องเต้กดเสียงต่ำเอ่ยขึ้นเฉียวเนี่ยนได้ยินดังนั้น ใจหนึ่งก็สะท้าน แต่ก็รู้ว่าหลีกหนีไม่พ้นนางจึงก้าวเข้าสู่ห้องทรงอักษร คุกเข่าลงคำนับฮ่องเต้สั่งให้นางลุกขึ้น แล้วมองนางพลางถอนหายใจหนัก “เราจะไม่พูดเรื่องอื่น เอาแค่เรื่องที่เจ้าสามารถออกมาจากกรมซักล้างได้ ก็เพราะเขานำเอาความชอบจากศึกสามปีไปแลกมา เจ้ารู้หรือไม่?”เรื่องนี้เฉียวเนี่ยนเคยได้ยินเซียวเหิงเอ่ยมาก่อนทว่านางกลับไม่รู้สึกซาบซึ้งแม้แต่น้อยในสายตาของนาง เป็นเพราะความลำเอียงของตระกูลหลินและความไม่เชื่อใจของเซียวเหิงต่างหาก ที่ทำ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1045

    ขณะพูด นัยน์ตาของเต๋อกุ้ยเฟยก็สลดลงโดยไม่รู้ตัว “เฉียวเนี่ยน เจ้าลองมองให้ดีๆ เถิด ตอนนี้ผู้ที่กำลังขมขื่นเป็นเจ้าหรือว่าจวนโหวกันแน่”เมื่อได้ยินดังนั้นสีหน้าของเฉียวเนี่ยนก็หมองหม่นลงเช่นกันจวนโหว...“ทุกวันนี้ คนมีฝีมือในจวนโหวก็ลดน้อยถอยลง มารดาของเจ้ามัวจมอยู่กับโลกในอดีตทั้งวัน บิดาของเจ้าผมขาวโพลน แก่กว่าเดิมไปราวกับเป็นสิบปี ส่วนพี่ใหญ่ของเจ้า... ช่างเถิด ไม่พูดดีกว่า พูดไปมากเจ้าก็มิอยากฟังอยู่ดี”เต๋อกุ้ยเฟยยังคงหยอกล้อกับเสี่ยวจือเนี่ยน ฟังเสียงหัวเราะแว่วแผ่วของนาง ราวกับจะละลายหัวใจคนได้นางจึงอดไม่ได้เอ่ยขึ้นอีกครั้ง “ยังจำได้หรือไม่ ครั้งแรก ตอนฮูหยินหลินอุ้มเจ้าเข้ามาในวังให้เราดู ตอนนั้นเจ้าก็ยังตัวเล็กเท่าเสี่ยวจือเนี่ยน ไม่คิดเลยว่าเพียงพริบตาก็ผ่านมาหลายปีแล้ว...”เมื่อกล่าวถึงเรื่องราวในอดีต ย่อมทำให้ใจหวนสะท้อนเจ็บปวดเฉียวเนี่ยนสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนส่งเสี่ยวจือเนี่ยนคืนให้แม่นม แล้วจึงเอ่ยว่า “ไม่แปลกใจเลยที่กุ้ยเฟยทรงเป็นสหายรักของฮูหยินหลิน หม่อมฉันไม่คาดคิดจริงๆ ว่าจะถูกเรียกเข้าวังมาเพียงเพื่อเรื่องนี้”เต๋อกุ้ยเฟยเผยสีหน้าจำใจ “เจ้าอย่าเข้าใจผิด เร

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1044

    เสียงหัวเราะของฮองเฮา มีทั้งความเศร้าและรันทดใจเฉียวเนี่ยนยืนอยู่ข้างๆ ไม่กล้าเอ่ยเสียงใดไปชั่วขณะทำได้เพียงจ้องมองฮองเฮาหัวเราะจนกระทั่งน้ำตาไหลลงมาเนิ่นนาน เสียงหัวเราะถึงได้หยุดลงอย่างกะทันหันฮองเฮาหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา ค่อยๆ ซับหางตาของนางทีละน้อย “เรื่องนี้ ฟ้ารู้ดินรู้ เจ้ารู้ เรารู้”องค์รัชทายาทยังต้องพึ่งพาตระกูลเมิ่ง ดังนั้นเรื่องตระกูลเมิ่งวางยาฮองเฮา ย่อมไม่อาจแพร่ออกไปได้เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้ว “ฮองเฮาเคยคิดหรือไม่ ว่าเหตุใดเมิ่งซ่างซูถึงทำกับท่านเช่นนี้”เมื่อได้ยิน ฮองเฮาเงยหน้ามองเฉียวเนี่ยน สายตาแฝงแววแหลมคม “เกี่ยวอะไรกับเจ้า?”"..."เฉียวเนี่ยนมองฮองเฮา ครู่หนึ่งก็ไร้ถ้อยคำได้ยินเพียงฮองเฮากล่าวว่า “เอาเป็นว่าเรื่องในวันนี้ หากถูกบุคคลที่สามรู้เข้า เจ้าก็ลองคิดให้ดีเถิด ว่าองค์หญิงน้อยของเจ้าจะเป็นเช่นไร!”กล่าวจบ ฮองเฮาก็ลุกขึ้น ก้าวออกไปอย่างรวดเร็วเฉียวเนี่ยนมองแผ่นหลังของนาง อ้าปากค้างอย่างจนใจ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดออกมาฮองเฮาเพิ่งก้าวออกไป เต๋อกุ้ยเฟยก็ก้าวเข้ามา สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “ฮองเฮาพูดสิ่งใดกับเจ้า หรือว่ารังแกเจ้า?”เฉียวเน

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1043

    เห็นดังนั้น ฮองเฮาก็มองไปยังมามาที่อยู่ข้างกายนางมามาเข้าใจก็รีบพานางในที่เหลือถอยออกไปทันทีเต๋อกุ้ยเฟยเห็นดังนั้น สีหน้าก็แข็งค้างเล็กน้อยแล้วก็ได้ยินฮองเฮาตรัสว่า “องค์หญิงน้อยเมื่อครู่เหมือนจะจำคนได้แล้ว กุ้ยเฟยไม่ไปดูสักหน่อยหรือ?”ความหมายก็คือแม้แต่เต๋อกุ้ยเฟยก็ต้องถูกไล่ให้ออกไปสีหน้าของเต๋อกุ้ยเฟยแข็งค้างเล็กน้อย เพียงแต่นางเพิ่งพูดไปว่าทั้งวังหลังต้องฟังฮองเฮา หากเวลานี้ไม่ไปก็เท่ากับตบหน้านางอย่างชัดเจนไม่ใช่หรือ?เพียงแต่นางก็ยังเป็นห่วงเฉียวเนี่ยนท้ายที่สุด คนที่นางเชิญเข้าวังมาก็คือเฉียวเนี่ยนหากถูกกลั่นแกล้งในตำหนักของตนขึ้นมา นางจะเอาหน้าไปพบฉู่จืออี้ได้อย่างไร?นางยังคิดจะผูกสัมพันธ์กับฉู่จืออี้อยู่แท้ๆ!กำลังลังเลอยู่ ก็ได้ยินเฉียวเนี่ยนกล่าวพลางยิ้มเล็กน้อย “กุ้ยเฟยเสด็จไปดูองค์หญิงน้อยก่อนเถอะเพคะ เรื่องนั้นสำคัญกว่านัก!”นางเองก็กำลังมีเรื่องจะพูดกับฮองเฮาเช่นกันเห็นเฉียวเนี่ยนยิ้มบางๆ อย่างมั่นอกมั่นใจ เต๋อกุ้ยเฟยจึงถอนหายใจเบาๆ “ก็ได้!”นางลุกขึ้นทำความเคารพฮองเฮาแล้วจึงออกจากห้องไปแม้จะกังวลเล็กน้อย แต่ฮองเฮาคงยังรู้ประมาณ ไม่น่าจะก่อเรื่องใ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1042

    มองดูฮองเฮากำลังหยอกล้อกับองค์หญิงน้อย คิ้วของเฉียวเนี่ยนก็อดไม่ได้ที่จะขมวดขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว พลันสายตาก็เหลือบไปมองเต๋อกุ้ยเฟยที่อยู่ข้างกายกลับเห็นว่าเต๋อกุ้ยเฟยค่อยๆ ส่ายศีรษะให้แก่นางเฉียวเนี่ยนเข้าใจความหมาย จึงก้าวขึ้นไปทำความเคารพ “หม่อมฉันขอถวายบังคมฮองเฮา ถวายบังคมกุ้ยเฟยเพคะ”ฮองเฮาเงยหน้าขึ้นมองราวกับเพิ่งรู้ว่าเฉียวเนี่ยนมาถึง “ที่แท้ก็เป็นหมอหญิงเฉียวนี่เอง ห่างหายไปเสียนาน เรานึกว่าเจ้าถูกถอดถอนตำแหน่งหมอหญิงไปแล้วเสียอีก!”เฉียวเนี่ยนก้มหน้าตอบ “ฮ่องเต้ทรงพระเมตตา พระราชทานวันหยุดยาวให้หม่อมฉันพักผ่อนเพคะ”เต๋อกุ้ยเฟยก็เปิดปากพูดขึ้นมาอย่างเหมาะเจาะ “ได้ยินมาว่าท่านหญิงเฉียวบาดเจ็บที่ไหล่ ดีขึ้นบ้างหรือยัง?”“ยังต้องพักฟื้นอีกหนึ่งเดือนจึงจะหายดีเพคะ”เฉียวเนี่ยนตอบตามจริง ไม่คาดว่าฮองเฮากลับหัวเราะเย้ยหยันขึ้นมา “แค่เดือนเดียวก็หายได้งั้นรึ? วิชาแพทย์ของท่านหญิงเฉียวเก่งกาจจริงๆ ไม่เหมือนพี่ชายไร้ประโยชน์ของเรา เพียงแค่ถูกทำให้ตกใจ ก็ถึงกับล้มป่วยไม่ลุกขึ้นมาอีกเลย”เรื่องที่เสนาบดีเมิ่งซ่างซูล้มป่วย เฉียวเนี่ยนก็ได้ยินมาก่อนแล้วแน่นอนว่านางยังได้ยินเรื่อ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1041

    เซียวเหออดไม่ได้ที่จะคิดขึ้นมาแววตาของนางเหมือนกับตอนที่เขาเพิ่งเปิดผ้ามงคลออกไม่มีผิดราวกับกวางน้อยที่หลงทางอยู่กลางป่า แล้วจู่ๆ ได้พบกับเสือร้าย จึงตกใจจนทำอะไรไม่ถูก“ไม่เป็นไรแล้ว” เซียวเหอพูดเสียงแผ่วเบา “ตอนนี้เจ้ามาอยู่ในแคว้นจิ้ง ที่นี่คือจวนรุ่ยอ๋อง เจ้าคือพระชายารุ่ยอ๋อง เป็นเจ้าของจวนนี้ ไม่มีใครกล้ามารังแกเจ้าอีกแล้ว”เสียงของเซียวเหอแผ่วเบา อ่อนโยนประหนึ่งสายลมวสันต์ พัดพาความเศร้าที่เกาะกุมกลางอกให้คลายออกเกอซูอวิ๋นเพิ่งจะค่อยๆ ผ่อนคลายลง การหายใจก็ค่อยๆ สงบขึ้นตามลำดับนางนึกถึงความฝันเมื่อครู่ เผลอใช้มือลูบใบหน้าตนเองไปทีหนึ่ง เมื่อรู้สึกได้ว่ามือเต็มไปด้วยความชื้นแฉะจึงค่อยรู้สึกตัว หันไปมองเซียวเหอ “หรือว่าข้าเพ้อฝันร้าย จนรบกวนให้ท่านตื่น?”มุมปากของเซียวเหอคลี่ยิ้มขึ้นมา “ข้าได้ยินเสียงเจ้าร้องไห้ จึงเป็นห่วง เลยเข้ามาดู”เป็นห่วง...กลางอกของเกอซูอวิ๋นพลันเอ่อท่วมด้วยความรู้สึกประหลาดออกจะแปลกใหม่ แต่... กลับไม่อึดอัดใจนางหลุบตาลง ขนตาที่เปียกน้ำตากระทบกับแสงเทียนระยิบระยับ “ข้า... ข้าเพียงฝันถึงเรื่องราวในอดีต”นางกลัวว่าเซียวเหอจะเข้าใจผิด คิดว

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status