แล้วจะให้เซียวเหอทําอย่างไร?หรือว่าจะทําให้พี่ใหญ่น้องของพวกเขาแตกหักกันเพื่อนางจริงๆ?ไม่สู้ถือโอกาสนี้จากไป หลุดพ้นทุกคนในเมืองหลวงให้หมดสิ้นนางตั้งตารอคอยมานานแล้ว ไปหาโลกใหม่นอกเมืองหลวง ไปหาตัวเองใหม่นางรู้สึกว่าถึงเวลาแล้วแต่ในมุมมองของหนิงซวง อยู่ต่อก็ดีเหมือนกันคุณชายใหญ่เซียวเป็นคนดี จี้เยว่ก็เป็นคนดีเช่นกัน นางอยู่ที่นี่กับคุณหนูของนาง ไม่ได้รู้สึกน้อยใจแม้แต่น้อยเพียงแต่ ในเมื่อคุณหนูบอกว่าถึงเวลาที่ต้องไปแล้ว นั่นย่อมมีเหตุผลแน่นอนหนิงซวงจึงพยักหน้าอย่างหนักแน่น "ข้าล้วนเชื่อฟังคุณหนู"ตกดึกเมื่อเซียวเหอกลับมา ท้องฟ้าก็มืดมากแล้วตัวเขาติดกลิ่นเหล้าอยู่บ้าง แต่ไม่ใช่ของเขา ส่วนใหญ่เป็นของพ่อเซียววันนี้พ่อเซียวมีความสุขจริงๆสั่งให้คนทําอาหารโต๊ะใหญ่ ดึงเขาไว้แล้วพูดไม่หยุด ระหว่างนั้นยิ่งดีใจจนร้องไห้หลายครั้งแน่นอนว่ายังพูดถึงหัวข้อเกี่ยวกับเซียวเหิงอยู่บ้างพ่อเซียวบอกว่า พวกเขาสองคนพี่ใหญ่น้องวางใจกันตั้งแต่เด็ก บอกว่าเซียวเหิงเคารพเขาที่เป็นพี่ใหญ่ตั้งแต่เด็กบอกว่านิสัยของเซียวเหิงดูเหมือนสุขุมเยือกเย็น แต่ความจริงแล้วกลับดื้อรั้นมากบอกว่าใน
วันรุ่งขึ้นเซียวเหอได้รับข่าวจากในวังตั้งแต่เข้าว่าฮ่องเต้ต้องการพบเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่จริงเขาก็เดาออกตั้งแต่เมื่อวานแล้วราชครูชิวจะต้องบอกเรื่องนี้กับฮ่องเต้อย่างแน่นอน และเมื่อฮ่องเต้รู้เข้าจะต้องรีบไปพบเขาอย่างแน่นอนเพียงแต่คิดไม่ถึงว่าจะเร็วขนาดนี้เวลานี้ เกรงว่าแม้ว่าการประชุมเช้าคงจะยังไม่สิ้นสุด ฮ่องเต้ก็ส่งคนมาที่บ้านตระกูลเซียวอย่างอดใจรอไม่ไหวแล้ว!จี้เยว่ปรนนิบัติเซียวเหอเปลี่ยนเสื้อผ้าเจ้านายของเขาเข้าวังอีกครั้งหลังจากผ่านไปห้าปี ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องแต่งตัวให้สดใสหน่อยให้คนอื่นได้เห็นว่า ท่านแม่ทัพเซียวคนก่อน ตอนนี้ยังฮึกเหิมเหมือนเดิม!แต่เห็นได้ชัดว่าความคิดของเจ้านายเขาไม่ได้อยู่ที่เรื่องนี้เลยจี้เยว่มองตามสายตาของเซียวเหอไปตามนอกหน้าต่าง แล้วก็อดยิ้มไม่ได้ "อีกสักพักนายหญิงน้อยใหญ่ถึงจะตื่นน่ะขอรับ!"อีกประมาณครึ่งชั่วยาม นายหญิงน้อยใหญ่ก็จะออกมาแล้วเซียวเหอฟังออกถึงความขบขันในรอยยิ้มของจี้เยว่ คิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากันอย่างอดไม่ได้ "ข้าไม่ได้รอนาง""บ่าวรู้ขอรับ" จี้เยว่ตอบกลับทันที "คุณชายใหญ่แค่ดูลมอยู่เท่านั้นขอรับ"มองออกไปนอกหน้าต่างนี้
แต่ตอนนี้ ทั้งหมดนี้เห็นได้ชัดว่ามีคนจงใจทําทันใดนั้น ก็ลดเสียงลงถามว่า "รู้หรือไม่ ใครเป็นคนวางยาพิษเจ้า?"ในหัวของเซียวเหอมีร่างที่สวยงามร่างหนึ่งปรากฏขึ้นมาทันทีตามที่เฉียวเนี่ยนพูดก่อนหน้านี้ คนคนนี้มีแนวโน้มที่จะวางยาพิษเขามากที่สุดแต่ความทรงจําในอดีตต่างๆ ผุดเข้ามาในใจ เซียวเหอกําหมัดเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เอ่ยชื่อนั้นออกมาเพียงแค่ส่ายหัวเล็กน้อยและพูดว่า "หลังจากที่ขาของกระหม่อมได้รับบาดเจ็บในตอนนั้น ก็ได้สัมผัสกับผู้คนมากเกินไป ใครเป็นคนวางยาพิษนั้น กระหม่อมก็ไม่รู้พ่ะย่ะค่ะ..."ได้ยินดังนั้น ฮ่องเต้จึงพยักหน้าเล็กน้อยใช่แล้ว ตอนนั้นเซียวเหอถูกหามจากสนามรบกลับเมืองหลวง ระหว่างทางมีคนดูแลตั้งเท่าไหร่?หลังจากกลับถึงเมืองหลวง ก็ถูกหมอหลวงหลายคนตรวจอีกในนั้น ใครเป็นคนวางยาพิษ จะตรวจสอบได้อย่างไร?เมื่อคิดได้เช่นนี้ ฮ่องเต้ก็ถอนหายใจยาว "ก็คงได้แต่แบบนี้แหละ ตอนนี้ราชสํานักถือว่ามั่นคงแล้ว น้องรองของเจ้าก็กล้าหาญมาก ไม่แพ้เจ้าเลย แม้ว่าคนที่ทําร้ายเจ้าในตอนแรกจะรู้ว่าขาของเจ้าหายดีแล้ว พวกเขาก็คงจะไม่ทําร้ายเจ้าอีกแน่นอน"เพราะยังไงซะ อํานาจทางทหารในปัจจุบันก็อ
เซียวเหอต้องการทำให้ตนเองดูเป็นมิตรที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้แต่เขาไม่เคยนึกมาก่อนว่า ภายใต้บรรยากาศเย็นยะเยือกเช่นนี้ รอยยิ้มแบบใดก็สามารถทำให้เด็กหวาดกลัวได้เด็กคนนั้นชะงักไปทันที ไม่พูดอะไรสักคำเด็กคนอื่น ๆ ก็พากันรวมกลุ่มแน่น มองเซียวเหอด้วยสายตาหวาดหวั่นโชคดีที่จี้เยว่นั้นซื้อลูกกวาดมาแล้ว เขารีบเดินเข้ามา แจกลูกกวาดให้เด็ก ๆ ก่อนจะพูดขึ้นว่า "ไม่ต้องกลัว ท่านอาเขาก็แค่อยากถามเท่านั้นเอง"ลูกกวาดมีกลิ่นหอมและหวานอร่อยเด็ก ๆ รับลูกกวาดไป และม่ได้หวาดกลัวมากถึงขนาดนั้นแล้ว"ข้าฟังเสี่ยวหูจื่อพูดมา!"เสี่ยวหูจื่อ: "เอ้อร์หยาเป็นคนสอนข้าขอรับ!"เอ้อร์หยา: "ต้าหนิวที่อยู่ตรงปากทางเป็นคนสอนข้าร้องเจ้าค่ะ!"……เรื่องนี้ถูกโยนต่อกันไปมาเป็นทอด ๆ เกรงว่าคงไม่สามารถสืบหาความจริงได้ในทันทีจี้เยว่ก้าวเข้ามา ลดเสียงลงแล้วกล่าวว่า "ท่านกลับไปก่อนเถิด เรื่องนี้บ่าวจะส่งคนไปสืบให้แน่ชัดว่าต้นตอมาจากผู้ใด"เซียวเหอขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้ารับเบา ๆ สายตาหยุดลงที่เหล่าเด็กน้อยตรงหน้าซึ่งล้วนมีสีหน้าบริสุทธิ์ไร้เดียงสา แต่สุดท้ายก็ยังอดไม่ได้ที่จะกล่าวข่มขู่เสียงต่ำว่า "ห้ามร้อ
แม่เซียวขมวดคิ้ว ถอนหายใจพลางกล่าวว่า "แม่ไม่ได้โทษเนี่ยนเนี่ยน ทั้งหมดเป็นเรื่องของคนนอก... ช่างเถอะ ๆ ข่าวลือพวกนั้นไม่ต้องไปใส่ใจ ไม่นานก็จะเงียบไปเอง""ใช่ ไม่จำเป็นต้องสนใจ" เซียวเหอยิ้มบาง ๆ ให้แม่เซียวเป็นครั้งแรกของวันนี้ "เช่นนั้น ท่านแม่ ข้าขอตัวกลับไปพักผ่อนก่อน""ได้สิ เจ้าไปพักผ่อนเถิด!" แม่เซียวรับคำอย่างรวดเร็วนางมองตามแผ่นหลังเซียวเหอที่เดินจากไป สีหน้าของแม่เซียวกลับยิ่งดูแย่ลงกว่าเดิมจนกระทั่งเซียวเหอเดินลับสายตาไปแล้ว นางจึงหันไปทางมามาที่รับใช้ข้างกาย "เจ้าไปนำสารสมรสของเนี่ยนเนี่ยนกับเหอเอ๋อร์มา คัดลอกวันเดือนปีเกิดของนาง แล้วส่งไปให้ท่านมหาเถระฉือเอินแห่งวัดฝ่าหัวดูให้ที"ก่อนหน้านี้ ตอนแต่งงานกัน ไม่มีใครนำดวงชะตาของทั้งสองไปให้ตรวจสอบ เพราะมีราชโองการพระราชทานสมรสอยู่ก่อนแล้ว ต่อให้เฉียวเนี่ยนไม่แต่งกับเซียวเหอ ก็ต้องแต่งกับเซียวเหิง จะมีใครมัวมาสนใจเรื่องดวงชะตากัน?ทว่าเวลานี้ ข่าวลือภายนอกกลับยิ่งลุกลามไปกันใหญ่ แม่เซียวรู้สึกเป็นกังวลจนไม่อาจวางใจได้หมิงอ๋อง จิ่งเหยียน แม้กระทั่งฮูหยินเฒ่าแห่งจวนโหว ล้วนเคยเป็นคนใกล้ชิดของเฉียวเนี่ยนทั้งสิ้นเช่นน
"ไว้วันหลังค่อยพูดเถอะ!" เซียวเหอขัดคำพูดของเฉียวเนี่ยน ลุกขึ้นช้า ๆ แล้วกล่าว "วันนี้เข้าไปเข้าเฝ่าฝ่าบาทมา ตอนนี้เหนื่อยแล้ว"เฉียวเนี่ยนก็ลุกขึ้นตาม สังเกตเห็นสีหน้าที่เหนื่อยล้าของเซียวเหอ เขาออกไปแต่เช้าแล้วเพิ่งกลับมา ไม่รู้ว่าได้คุยอะไรกับฝ่าบาทบ้างอาจจะมีเรื่องที่ทำให้เขากังวลอยู่ก็ได้ดูเหมือนตอนนี้จะไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมจะพูดอะไร นางจึงพยักหน้า "เช่นนั้นท่านพี่เซียวไปพักผ่อนเถอะเจ้าค่ะ"เซียวเหอพยักหน้าช้า ๆ ก่อนจะหมุนตัวไปทางห้องของตนเองจนกระทั่งเข้าไปในห้อง เขาจึงพบว่าในฝ่ามือของตนเองยังคงกำลูกท้อที่แกะแล้วไว้อยู่จี้เยว่นำน้ำเข้ามาให้เซียวเหอล้างมือ พลางแสดงความเป็นห่วง "คุณชายใหญ่กังวลเรื่องข่าวลือภายนอกอยู่หรือ? ท่านไม่ต้องห่วง นายหญิงน้อยใหญ่ไม่ค่อยออกจากจวน คงจะไม่ได้ยินข่าวอะไรในเร็ว ๆ นี้หรอก บ่าวจะจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด"เซียวเหอล้างมือและเช็ดจนแห้ง ก่อนจะกล่าว "อืม เจ้ากลับไปเถอะ ข้าจะพักสักครู่"เมื่อเห็นสีหน้าของเซียวเหอไม่ดี จี้เยว่จึงได้แต่พยักหน้ารับแล้วออกจากห้องไปประตูห้องปิดลง ห้องจึงมืดลงทันทีเซียวเหอมองไปที่หน้าต่าง ภายนอกยังคงมีแสงแดดจ
พูดจบ เซียวเหอก็มองไปยังจี้เยว่แววตาของเขาดูเรียบเฉย คนอื่นมองไม่ออกว่าสายตานั้นมีความหมายอะไรแต่จี้เยว่กลับเข้าใจทันที รีบพยักหน้าแล้วพูดว่า "ใช่ขอรับ ท่านหมอหลิวยังบอกอีกว่า ขาของคุณชายใหญ่ไม่ได้ใช้งานมานานถึงห้าปี การที่มันหายดีในทันที ร่างกายคงไม่คุ้นเคย ต้องมีการนวดทุกวันต่อไป"ทางที่ดีก็คือให้นายหญิงน้อยใหญ่เป็นคนนวดเมื่อได้ยินคำพูดของเซียวเหอและจี้เยว่ พ่อเซียวและแม่เซียวก็เริ่มสบายใจขึ้นเฉียวเนี่ยนเองก็รู้สึกว่าคำพูดของท่านหมอหลิวมีเหตุผล แต่ก็คิดว่า น่าจะไปถามหมอประจำจวนจะสบายใจกว่ายิ่งไปกว่านั้น ถ้าจำเป็นต้องนวดจริง ๆ อาจจะมีวิธีนวดที่แตกต่างจากที่อื่นที่หมอประจำจวนรู้เมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนกำลังคิดอะไรบางอย่าง เซียวเหอก็พูดขึ้นทันที "อ้อ เนี่ยนเนี่ยน เมื่อวานนี้เจ้าจะพูดอะไรกับข้าหรือ?""เจ้าคะ?" เฉียวเนี่ยนชะงักไปชั่วขณะ นางเพียงรู้สึกว่าในตอนนี้ขาของเซียวเหอยังไม่หายดี คำพูดของนางเมื่อวานย่อมไม่ควรเอ่ยขึ้นอีก จึงส่ายศีรษะแล้วกล่าวว่า "ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ เรื่องการพักฟื้นของท่านพี่เซียวสำคัญกว่า"เซียวเหอพยักหน้าเล็กน้อย มุมปากแต้มรอยยิ้มจาง ๆ ในใจลอบยินดีอย่างเงีย
“อามิตตาพุทธ” พระเณรประนมมือทำความเคารพบุรุษตรงหน้า “ขอคารวะแม่ทัพเซียว”เซียวเหิงก็ประนมมือตอบรับ ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า "พระเณรน้อยกำลังจะไปที่ใดหรือ?"พระเณรตอบตามความจริง "อาตมารับบัญชาจากพระมหาเถระฉือเอิน ให้ไปส่งสารที่จวนแม่ทัพ""ข้าก็กำลังจะกลับจวนแม่ทัพพอดี เช่นนั้นให้ข้าพาพระเณรน้อยไปส่งดีหรือไม่?" น้ำเสียงของเซียวเหิงฟังดูอ่อนโยนเป็นมิตรพระเณรรู้จักเซียวเหิง ทว่าไม่เคยเห็นแม่ทัพเซียวมีท่าทีใจดีถึงเพียงนี้มาก่อนในใจรู้สึกแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิดดูแล้ว ในเมื่อเป็นทางผ่าน เช่นนั้นก็ขึ้นรถม้าไปด้วยกันสักจะเป็นไรไป?เดินมาจากวัดฝ่าหัวจนถึงที่นี่ ขาของเขาล้าจะแย่อยู่แล้วพระเณรรีบประนมมือขอบคุณก่อนจะขึ้นไปนั่งบนรถม้าของเซียวเหิงภายในรถม้าจุดเครื่องหอม กลิ่นอ่อน ๆ ลอยฟุ้ง นับว่าน่ารื่นรมย์ไม่น้อยหอมกว่ากลิ่นธูปเทียนในวัดมากจริง ๆพระเณรคิดเช่นนั้น แต่ไม่นานก็รู้สึกง่วงงุน เปลือกตาหนักอึ้งขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็ทนไม่ไหว เอนตัวพิงข้าง ๆ แล้วหมดสติไปเซียวเหิงโน้มตัวไปข้างหน้า ตบแก้มพระเณรเบา ๆ "พระเณรน้อย พระเณรน้อย?"เขาเรียกเบา ๆ สองครั้ง แต่พระเณรกลับไม่มีปฏิกิริยาตอบส
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ!” ท่านโหวหลินตกใจมาก ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วฮูหยินหลินเองก็เบิกตากว้างอย่างกะทันหัน มองหลินเย่ว์ด้วยความไม่เชื่อหลินยวนก็ตกใจมากเช่นกัน ทันใดนั้นก็เข้าใจว่าทำไมหลินเย่ว์ถึงทำตัวผิดปกติเช่นนี้ก่อนหน้านี้ที่แท้ก็เพราะเรื่องนี้หรือ?เพราะเฉียวเนี่ยนตายแล้วรึ?แต่ในขณะนี้ หลินยวนไม่รู้สึกดีใจเลยแม้แต่น้อยสิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงความตื่นตระหนกเท่านั้นเฉียวเนี่ยนตาย แล้วนางจะปัดความรับผิดชอบเรื่องของย่าเฉาได้อย่างไร?นางจะโยนความผิดให้ใคร?ทำเช่นไรดี?หลินยวนรู้สึกหวาดกลัวถึงขีดสุดแต่ไม่คิดว่าหลินเย่ว์จะพุ่งเข้ามาจับคอเสื้อของนาง “เจ้าเป็นใครกันแน่? พูดมา!”หลินยวนตกใจกลัวนางไม่เคยเห็นหลินเย่ว์ดุร้ายเช่นนี้มาก่อนน้ำตาไหลพรากออกมาไม่หยุด แต่ก็ยืนกรานว่าตัวเองเป็นบุตรสาวสายตรงแห่งจวนโหว“พี่ใหญ่ อย่าขู่ข้าเลย... ข้าเป็นน้องสาวของพี่นะ!”“หมอตำแยพูดเองกับปากว่า ข้าถูกนางสลับตัว! นางพูดเองกับปาก!”“ข้าหน้าเหมือนแม่มากเลยนะ พี่ใหญ่ ดูข้าสิ! ข้าจะไม่ใช่ลูกของแม่ได้อย่างไร!”นางปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองไม่ใช่!มิเช่นนั้น ด้วยสภาพของคนในตระกูลหลินยามนี้ พวกเขาจ
คิดไม่ได้แล้ว คิดต่อไม่ได้แล้ว...นางจะทนไม่ไหวแล้ว!ในขณะนั้นเอง มามาหลายคนคนที่พาหลินยวนลงไปก่อนหน้านี้ ในที่สุดก็พาหลินยวนกลับมา "ทูลฮูหยิน เอวของคุณหนูรองไม่มีปานเจ้าค่ะ"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ย่าเฉาจึงรีบเอ่ยว่า "นางไม่ใช่ตั้งแต่แรก จะมีได้อย่างไร!"หลินยวนร้องไห้ตะโกน "ท่านแม่ ไม่ใช่เช่นนั้น! ท่านอย่าฟังคำพูดเหลวไหลของหญิงชั่ว!"ฮูหยินหลินราวกับโดนค้อนหนักทุบจนหัวเริ่มมึนงงนางไม่เคยสงสัยหลินยวนเลย เพียงแต่คนที่นางส่งไปไม่เคยได้เบาะแสอะไรกลับมาเลยก่อนหน้านี้มีช่วงหนึ่งที่นางสงสัยว่ายวนเอ๋อร์กับเนี่ยนเนี่ยนเป็นพี่น้องฝาแฝด และหมอตำแยที่ทำคลอดให้นางขโมยไปคนหนึ่งฉะนั้น นางจึงรักลูกทั้งสองคนและตัดใจจากลูกทั้งสองคนไม่ได้...นางอยากจะเชื่อว่านางคลอดลูกฝาแฝดมากกว่าที่จะสงสัยว่าหลินยวนไม่ใช่ลูกของนาง!หายใจเข้าลึกๆ หลายที ฮูหยินหลินก็ดูเหมือนจะมีแรงกลับมา จึงยกมือขึ้นและเรียกเด็กรับใช้ที่อยู่ไม่ไกลออกไป "ไป ไปตามท่านโหวกลับมา! ตามท่านโหวน้อยกลับมาด้วย!"เรื่องนี้ นางทนรับคนเดียวไม่ไหวจริงๆเด็กรับใช้รีบรับคำและจากไปทันทีแต่หลินยวนยังคงร้องไห้ "ท่านแม่ ท่านไม่ควรเชื่อคำพูดของ
ชาวแคว้นจิ้งเชื่อว่าเด็กๆ เป็นของขวัญจากสวรรค์เหล่านางฟ้าบนสวรรค์เลือกครอบครัวที่เหมาะสม แล้วส่งเด็กๆ ลงมาทีละคนเด็กบางคนซุกซน ไม่ยอมลงมา นางฟ้ากริ้วโกรธ ก็เลยต้องลงมือรอยปานเล็กๆ นั่นต้องเป็นรอยที่นางฟ้าจิ้มแน่นอนส่วนรอยที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย ต้องเป็นรอยที่นางฟ้าหยิกแน่นอนและรอยที่ใหญ่กว่านั้น อืม ต้องเป็นเด็กที่ซุกซนมาก นางฟ้าทนไม่ไหว จึงเตะลงมาฮูหยินหลินรู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่งเมื่อก่อน ยามที่นางดูแม่นมเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เนี่ยนเนี่ยน นางก็เคยพูดว่า เด็กคนนี้ต้องซุกซนมากแน่ๆ ถึงโดนนางฟ้าหยิกที่เอวเนี่ยนเนี่ยนมีปานที่เอวเมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลินก็ค่อยๆ หันไปมองหลินยวน "เจ้ามีปานหรือไม่?"หลินยวนตกใจส่ายหัวไม่หยุด "ท่านแม่ อย่าฟังหญิงคนนี้พูดจาเหลวไหล..."แต่ก่อนที่นางจะพูดจบ ฮูหยินหลินก็ออกคำสั่ง "ใครก็ได้เข้ามาที! พาตัวนางออกไป ถอดเสื้อผ้าออกให้หมดแล้วหาปาน!""เจ้าค่ะ!"มามาคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างตอบรับและพาหลินยวนออกไปหลินยวนไม่ยอมและดิ้นรน แต่นางจะสู้แรงเหล่ามามาได้อย่างไร?ในไม่ช้า ห้องโถงด้านหน้าก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้งฮูหยินหลินแทบจะนั่งไม่ไหวแล้ว แต่ก็ยัง
ขณะนั้น หลินยวนที่ถูกขังอยู่นอกเรือนลั่วเหมยก็เบิกตากว้างทันทีด้วยความไม่เชื่อด้านข้างมีสาวใช้กระซิบว่า "คุณหนู ท่านโหวน้อยเป็นอะไรไป ทำไมถึงดูเหมือนคนบ้าเช่นนี้? เกิดอะไรขึ้นหรือไม่?"หลินยวนขมวดคิ้วนิดๆ นางเองก็ไม่รู้แต่การที่หลินเย่ว์คลุ้มคลั่งขึ้นมาอย่างกะทันหัน กลับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนางโอกาสที่ดีที่จะไปแสดงความน่าสงสารต่อหน้าฮูหยินหลิน เพื่อให้ฮูหยินหลินสงสารนาง!นางรู้ดีว่าแม้ท่านโหวหลินและฮูหยินหลินจะช่วยชีวิตนางไว้ แต่พวกเขาก็ไม่ได้รักนางเหมือนเมื่อก่อนบางที วันนี้นางอาจใช้โอกาสนี้เพื่อเรียกความรักของพวกเขากลับคืนมาได้เมื่อคิดได้เช่นนั้น หลินยวนจึงไปหาฮูหยินหลินแต่ได้รับแจ้งว่า ฮูหยินหลินกำลังต้อนรับแขกอยู่ที่ห้องโถงด้านหน้าเพื่อแสดงความน่าสงสารของตน หลินยวนจึงมาที่ห้องโถงด้านหน้า โดยตั้งใจไม่มองแขกคนนั้นเลย นางเพียงแค่น้ำตาคลอเบ้าเดินไปหาฮูหยินหลินและคุกเข่าลง "ท่านแม่ ได้โปรดให้ความเป็นธรรมแก่ยวนเอ๋อร์ด้วย! ท่านพี่ไม่รู้เป็นอะไร ไล่ยวนเอ๋อร์ออกจากเรือนลั่วเหมย! ฮือๆ ๆ พี่ใหญ่ยังผลักยวนเอ๋อร์ด้วย ข้อเท้าของยวนเอ๋อร์เคล็ดเลยเจ้าค่ะ!"ฮูหยินหลินมองหลินยวนที่คุ
ไม่รู้ว่าตบหน้าตนเองไปนานแค่ไหน หลินเย่ว์ก็เหมือนนึกบางอย่างออก รีบรวบรวมเศษผ้าเหล่านั้นกลับเข้าไปซุกไว้ในอกของตนแล้วลุกขึ้นเปิดประตูออกไปข้างนอกเขาต้องไปหาเนี่ยนเนี่ยนออกจากประตู ก็เห็นต้นหวยขนาดใหญ่วัยเด็ก เนี่ยนเนี่ยนชอบปีนขึ้นไปเล่นบนต้นไม้มากที่สุดโขดหินจำลองที่อยู่ไม่ไกลก็เป็นสถานที่ที่เนี่ยนเนี่ยนชอบเล่นมากที่สุดเช่นกัน ครั้งหนึ่ง นางตกจากโขดหินจำลอง ทำให้เขาตกใจแทบแย่ แต่นางกลับยิ้มร่าเริง ไม่คิดอะไรมากศาลาหลังนั้น เขาเคยเล่นหมากรุกกับนางด้วยกันครั้นที่เด็กน้อยเพิ่งหัดเล่น นางชอบเล่นตุกติกมากที่สุด หมากกระดานหนึ่ง ต้องแก้เกมเป็นสิบๆ ครั้งต้นท้อเหล่านั้น ออกผลทั้งใหญ่และหวานมาก เนี่ยนเนี่ยนจะพาบ่าวรับใช้มาเก็บผลไม้ทุกครั้ง แล้วนำมาทำเป็นขนมหวานอร่อย ยกมาให้เขาที่ห้องหนังสือด้วยตัวเองทางเดินเส้นเล็กนี้ เป็นทางที่เนี่ยนเนี่ยนเดินบ่อยที่สุดเพราะเรือนของนางอยู่ใกล้กับเรือนของเขามากที่สุด ในวัยเด็ก หากนางฝันร้าย นางจะกอดหมอนของตน พาสาวใช้อีกกลุ่มหนึ่ง วิ่งเข้ามาในห้องของเขา แล้วบังคับให้เขาต้องนอนกับนางให้ได้นางพูดว่า: มีพี่ใหญ่อยู่ข้างกาย เนี่ยนเนี่ยนถึงจะวางใจ
ร่างกายของหลินเย่ว์สั่นเทาราวกับว่าเขาสามารถเห็นภาพของเฉียวเนี่ยนเมื่อสามปีก่อนที่ถูกพาตัวไปยังกรมซักล้างและร้องไห้คร่ำครวญนางไม่ยอมจำนน ไม่ยอมอยู่ที่นั่น จึงถูกมามาในกรมซักล้างเฆี่ยนตีครั้งแล้วครั้งเล่าจากนั้น นางก็นอนคว่ำอยู่ในห้องที่มีทั้งลมและฝนรั่วฉีกเสื้อผ้าบนร่างกายที่ขาดหลุดลุ่ยใช้นิ้วจุ่มเลือดจากบาดแผลเขียนทีละตัวอักษรว่า:พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยหัวใจของเขาเจ็บปวดจนหายใจแทบไม่ออกหลินเย่ว์รีบพลิกเศษผ้าเหล่านั้นทีละชิ้นเกือบทุกชิ้นเขียนด้วยเลือดว่า: พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยพี่ใหญ่ รับข้ากลับบ้านด้วยพี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยยยเป็นเวลาสามปีแล้วที่เศษผ้าเปื้อนเลือดเหล่านี้บันทึกทุกครั้งที่นางขอความช่วยเหลือ และทุกครั้งก็เป็นการขอความช่วยเหลือจากเขาหลินเย่ว์เพิ่งตระหนักว่า ในใจของเฉียวเนี่ยน พี่ใหญ่ของเขาสำคัญมากเพียงใดในใจของนาง มีเพียงพี่ใหญ่เท่านั้นที่สามารถช่วยนางได้!แต่เขาทำอะไร?ในขณะที่นางนอนคว่ำอยู่บนเตียงไม้เย็นเฉียบ ขอความช่วยเหลือจากเขาด้วยเลือดสด เขาทำอะไรอยู่?เขาจะเข้าวังขอความเมตตาจากฮ่องเต้ แต่ถูกพ่อขวางไว้ ให้เขายึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลักส่วนรวม.
เขาไม่กล้าคิดต่อได้แต่บังคับตัวเองให้ดึงความคิดอันกระวนกระวายนั้นกลับมาเซียวเหิงใกล้ระเบิดแล้ว เขาจะบ้าตามไม่ได้!ดังนั้น เขาจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ และพยักหน้า “ใช่ ต้องไม่เป็นอะไร”หลินเย่ว์ราวกับได้แรงกลับคืนมา เขาพยักหน้าและหันหลังเดินจากไปใช่ ต้องไม่เป็นอะไรรอให้เขากลับไปพักชั่วครู่ แล้วค่อยกลับมาหาเนี่ยนเนี่ยน...หลินเย่ว์ขี่ม้ากลับไป แต่ในหัวกลับปรากฏแต่ภาพขณะที่เฉียวเนี่ยนตกลงไปในแม่น้ำไกลจากเขามากไกลจนเขาไม่เห็นหน้านางชัดๆ ไกลจนเขาคว้าแม้แต่เงาของนางไว้ไม่ได้!แต่ทำไมพวกเขาถึงห่างกันได้ขนาดนี้?หรือว่าเขาค่อยๆ ผลักไสนางออกไปเอง?“ท่านโหวน้อย!”ทันใดนั้น เสียงหวานนุ่มนวลก็เรียกสติของหลินเย่ว์กลับคืนมาเขาชะงักไปครู่หนึ่ง เงยหน้าขึ้นมอง แล้วก็ตกใจที่พบว่าตนมาถึงหน้าจวนโหวตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้“ท่านโหวน้อย!”เสียงเรียกดังขึ้นอีกครั้ง หลินเย่ว์จึงสังเกตเห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ไม่ไกลเขาจำนางไม่ได้แต่เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวคนนั้นจำเขาได้ และเมื่อเห็นเขามองมาก็รีบวิ่งมาหาหลินเย่ว์ "คารวะท่านโหวน้อย บ่าวชื่อหลิ่วเหนียง เป็น...สหายของคุณหนูใหญ่ขณะอยู่ในวัง"คำว่าส
"เนี่ยนเนี่ยน!""เนี่ยนเนี่ยน!""ไม่!"เสียงดังสามเสียงดังขึ้นแทบจะในเวลาเดียวกันเซียวเหอและหลินเย่ว์ชักดาบออกมาพร้อมกัน ในขณะที่ชายหนวดเคราและเด็กหนุ่มยังไม่ทันได้ตั้งตัว พวกเขาก็ถูกปาดคอไปแล้วส่วนเซียวเหิงนั้น เขาไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นและกระโดดลงไปในแม่น้ำฉางหยางเมื่อเห็นเช่นนั้น เซียวเหอและหลินเย่ว์จึงรีบคว้าตัวเซียวเหิงกลับพร้อมกัน"ปล่อย!" เซียวเหิงตะโกนเสียงทุ้มต่ำและดิ้นรนอย่างสุดกำลัง ดวงตาทั้งสองจ้องมองไปที่ผิวน้ำที่ราบเรียบไร้ระลอกคลื่น พยายามมองหาร่างของเฉียวเนี่ยนเขาพยายามกระโดดลงไปในแม่น้ำอย่างต่อเนื่องแต่สองมือที่อยู่ข้างกายเขาคอยคว้าเขาไว้และดึงเขากลับมาเขาจึงทำได้เพียงปัดมือเหล่านั้นออกเนี่ยนเนี่ยนยังอยู่ในแม่น้ำ เขาต้องไปช่วยเนี่ยนเนี่ยน!“เพียะ!”เสียงตบที่ดังสนั่น ทำให้เซียวเหิงได้สติเซียวเหอกำลังจับคอเสื้อของเซียวเหิงไว้แน่น เสียงแข็งกร้าวเริ่มสั่นคลอน และเอ่ยว่า “เนี่ยนเนี่ยนจะไม่เป็นอะไร! นางว่ายน้ำเป็น! สิ่งที่เจ้าต้องทำในยามนี้คือพาสมุนหานางที่ปลายน้ำ ไม่ใช่กระโดดลงไป!”หากแม้แต่เซียวเหิงก็กระโดดลงไปด้วย แล้วพวกเขาจะช่วยใคร ช่วยเซียวเหิงหรือช
“อย่าหุนหันพลันแล่น!” เซียวเหอลงจากม้าเป็นคนแรก พร้อมตะโกนใส่พวกโจรภูเขาเมื่อเห็นรอยเลือดสีแดงฉานปรากฏบนคอของเฉียวเนี่ยน หัวใจของเขาก็พลันบีบรัดเซียวเหิงและหลินเย่ว์รีบลงจากม้าตามมาติดๆสีหน้าของเซียวเหิงดูมืดมนอย่างยิ่ง และกำหมัดแน่นเขาโกรธตัวเองที่ยามนั้นทำไมไม่กำจัดพวกโจรภูเขาให้หมดสิ้น ปล่อยให้เฉียวเนี่ยนตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้ได้ยิ่งโกรธตัวเองที่หลงกลพวกโจรภูเขา!หลินเย่ว์มองเฉียวเนี่ยนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน จิตใจว้าวุ่น เขาตะโกนเสียงดัง "พวกเจ้าต้องการอะไร ข้าให้ได้ทุกอย่าง! ปล่อยน้องสาวข้า!"ดวงตาของเฉียวเนี่ยนหม่นหมองนางนึกไม่ถึงว่าหลินเย่ว์จะมาด้วยแล้วพลันพบว่า แม้ในสถานการณ์เช่นนี้ นางก็ยังไม่อยากเจอหลินเย่ว์ยิ่งไม่อยากได้ยินเขาเรียกนางว่า 'น้องสาว'ตั้งแต่เมื่อใดกันที่นางเกลียดพี่ใหญ่ถึงเพียงนี้?ก่อนที่นางจะครุ่นคิดมากกว่านี้ ก็ได้ยินเสียงของชายที่มีหนวดเคราตะโกนว่า "อยากให้พวกข้าปล่อยคนอย่างนั้นหรือ? ง่ายมาก! เอาหัวของเซียวเหิงมาให้พวกเรา!"เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวเหอและหลินเย่ว์ก็ตกใจแต่ก็นึกไม่ถึงว่าเซียวเหิงจะชักดาบยาวที่เอวออกมาและวางไว้บนคอของตนโด