LOGINเมื่อเขาคิดว่าเธอเป็นต้นเหตุของเรื่องร้าย ทำให้เขาลงโทษเธอและทรมานเธอ แต่ความรักที่มีทำให้เธออดทนแต่เมื่อความอดทนที่มีหมดลง มันเลยทำให้เธอต้องหนีไปเพื่อรักษาหัวใจตัวเอง
View Moreภายในห้องทำงานชั้นบนสุดของประธานผู้บริหารคนใหม่ของโรงแรมดิ เอมเมอร์รัลด์ แกรนด์ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา รูปร่างกำยำสูงโปร่ง คิ้วเข้ม ตาคม จมูกโด่ง อย่าง ภูวินทร์ พิมุกเดชา ลูกชายเพียงคนเดียวของ นายภารันและนางพิตะวัน พิมุกเดชา นั้นเอง หลังจากที่เกษียณตัวเองก็มอบหมายให้ลูกชายบริหารงานแทนทั้งหมดเพื่อที่ตัวเองจะได้มีเวลาอยู่กับเมียมากขึ้น
ก๊อก ๆ ๆ ๆ
“ขออนุญาตครับ ท่านประทาน” แทนไทเลขาหนุ่มที่พวงตำแหน่งเพื่อนสนิทก็เคาะประตูห้องทำงานพร้อมกับเปิดเข้ามา
“ว่าไง” ชายหนุ่มถามออกไปทั้งที่ยังไม่ได้เงยหน้าจากเอกสารตรงหน้าสักนิด
“คุณทอฝันมาขอพบครับ”
“บอกไปว่าฉันไม่ว่าง”
“เอ่อออ” เมื่อได้ยินเสียงอั้มอึ้งของแทนไททำให้ภูวินทร์ต้องเงยหน้าจากเอกสารที่กำลังอ่านอยู่
“ทำไม”
“ท่านประธานก็รู้นิสัยคุณทอฝันดีนี่ครับ”
“ออกไปบอกว่าฉันไม่ว่าง” และจังหวะที่แทนไทกำลังจะเดินไปที่ประตู คนด้านนอกก็เปิดประตุสวนเข้ามาสะก่อน
“ภู” เสียงหวานใสดังมาก่อนที่เจ้าของเสียงจะปรากฏตัวด้วยซ้ำ เจ้าของชื่อถึงกับถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย
“นายออกไปก่อนเถอะ”
“ครับ” แทนไทโค้งศีรษะลงเล็กน้อยก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานไป พร้อมกับหันไปอมยิ้มน้อยๆ ให้กับทอฝันเพื่อเป็นการทักทาย
“มาหาภูมีอะไร” ภูวินทร์ถามออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยไม่บ่งบอกอารมณ์ใด ๆ
“ไม่มีอะไรมาหาภูไม่ได้เหรอ” เมื่อได้ยินประโยคห่างเหินก็ทำให้ทอฝันทำหน้ากระเง้ากระงอดใส่ภูวินทร์ด้วยความน้อยใจ
“ฝัน ภูมีงานต้องทำ ไม่ได้มีเวลาว่างขนาดนั้น”
“ฝันรู้ แต่นี่เที่ยงแล้วนะ ออกไปหาอะไรกินกันเถอะ”
“ภูยังไม่หิว” ภูวินทร์พูดจบก็ก้มหน้าทำงานต่อทันทีโดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่าทอฝันจะมีสีหน้ายังไง
“ถ้าภูไม่ไป ฝันก็ไม่ไป จะนั่งรอภูอยู่นี่แหละ” ทอฝันพูดจบก็สะบัดหน้าหนีแล้วเดินไปทิ้งตัวนั่งที่โซฟารับแขกในห้องของภูวินทร์ เมื่อเห็นแบบนั้นภูวินทร์ถึงกับส่ายหน้าอย่างเอือมระอา แต่ก็ไม่ได้สนใจแล้วคิดว่าเดี๋ยวรอไม่ไหวทอฝันก็กลับไปเอง
หลังจากที่นั่งทำงานมาหลายชั่งโมง ภูวินทร์ก็เงยหน้าขึ้นจากกองเอกสารตรงหน้าเพื่อมองเวลา ซึ่ง ณ ตอนนี้ก็เกือบจะหกโมงเย็นแล้ว ภูวินทร์เหลือบสายตาไปมองที่โซฟาก็พบว่าทอฝันนอนหลับอยู่อย่างสบายใจ ถึงว่าทำไมเงียบจัง
“เข้ามาหาฉันหน่อย”
“ครับ”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว นายกลับได้เลย”
“ครับ แล้ว เอ่ออ คุณทอฝันละครับ” แทนไทพูดพร้อมกับมองไปที่ทอฝัน
“เดี๋ยวฉันจัดการเอง นายกลับไปเถอะ”
“ครับ งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”
หลังจากที่แทนไทออกไปแล้ว ภูวินทร์ก็เดินมาที่โซฟาที่ทอฝันนอนหลับอยู่ ภูวินทร์ยืนมองทอฝันที่กำลังหลับทำให้หวนไปคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาของทั้งคู่ เขากับทอฝันรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ทอฝันเป็นคนสดใส ร่าเริง อัธยาศัยดี พูดเก่ง และชอบตามติดเขาอยู่ตลอดเวลา มีจะห่างก็ช่วงที่เข้ามหาลัยเพราะเรียนคนละคณะ แต่ถ้าว่างทอฝันก็จะมาหาเขาที่คณะตลอด จนใครๆ ต่างก็คิดว่าทั้งเป็นแฟนกัน
“ฝันตื่นได้แล้ว” ภูวินทร์นั่งยอง ๆ ข้างโซฟาที่ทอฝันนอนแล้วเรียกทอฝันเพื่อปลุกให้ตื่น
“อืออ” เมื่อได้ยินเสียงเรียกก็ทำให้ทอฝันงัวเงียตื่นขึ้นมา แล้วยกมือขยี้ตาเบาๆ อย่างคนที่ตื่นไม่เต็มตา
“ตื่นได้แล้ว ไปล้างหน้าล้างตาจะได้ไปกินข้าว” ภูวินทร์เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เมื่อได้ยินแบบนั้นก็ทำให้ทอฝันรีบลุกขึ้นทันทีด้วยความดีใจที่จะได้ไปกินข้าวกับภูวินทร์แล้วหลังจากที่รอมาหลายชั่วโมงจนเผลอหลับไป และจังหวะที่กำลังจะลุกขึ้นทอฝันเกิดเสียหลักจะล้มไปข้างหน้า ทำให้ภูวินทร์ต้องเอื้อมมือมาคว้าตัวของทอฝันไว้
“ภู” ทอฝันเรียกชื่อภูวินทร์ออกมาขณะที่ตกอยู่ในอ้อมแขนแกร่ง ดวงตาสองคู่สบประสานกันในระยะประชิด ลมหายใจของทั้งคู่เป่ารดกัน เสียงหัวใจของทอฝันเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมานอกอกกับความใกล้ชิดนี้
“เอ่ออ ขอบคุณนะที่รับฝันไว้ งั้น...ฝันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” และเป็นทอฝันที่ได้สติกลับมาก่อน จึงรีบผละตัวเองออกมาจากอ้อมแขนแกร่งของภูวินทร์ หลังจากที่ทอฝันเดินออกไปแล้วภูวินทร์ถึงกับถอนหายใจออกมาเบาๆ พร้อมกับยกมือขึ้นมาจับที่ตรงตำแหน่งของหัวใจของตัวเองที่อยู่ ๆ มันก็เต้นแรงอย่างห้ามไม่อยู่
“ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่ตกใจ หัวใจก็เลยเต้นแรง” ถึงจะบอกกับตัวเองอย่างนั้นแต่ก็อดที่จะมองตามไปทางที่ทอฝันพึ่งเดินออกไปไม่ได้
“โอ้ยย ยัยฝันเกือบไปแล้วไหม” ทอฝันยกมือขึ้นมากุมที่หัวใจของตัวเองเพราะตอนนี้มันก็ยังคงเต้นแรงอยู่เลยกับความใกล้ชิดเมื่อกี้ ถึงเธอจะเคยใกล้ชิดกับภูวินทร์มาก่อนแต่ก็ไม่เคยใกล้ขนาดนี้ ถ้าใกล้กว่านี้หัวใจของเธอคงได้วายแน่ ๆ
ภายในร้านอาหารชื่อดังที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่บรรยากาศรอบๆ นั้นเย็นสบายเพราะอยู่ติดกับริมแม่น้ำ
“ภูอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม” ทอฝันเงยหน้าขึ้นมาถามหลังจากที่อ่านเมนูไปสักพัก
“อะไรก็ได้แล้วแต่ฝันเลย” เมื่อได้ยินแบบนั้นทอฝันก็พยักหน้าพร้อมกับส่งรอยยิ้มสดใสไปให้ชายหนุ่มตรงหน้า
“งั้นเอา...” ทอฝันหันไปสั่งอาหารกับพนักงานที่ยืนรอรับเมนูอยู่ด้านข้าง ซึ่งเมนูที่ทอฝันสั่งล้วนแล้วแต่เป็นเมนูที่ภูวินทร์ชอบทั้งนั้น หลังจากนั้นไม่นานเมนูอาหารทุกอย่างก็ยกมาเสิร์ฟจนเต็มโต๊ะ
“ภูกินเยอะๆ นะ ฝันตักให้” ทอฝันตักอาหารให้ภูวินทร์พร้อมกับส่งรอยยิ้มสดใสไปให้
“ฝันก็เหมือนกัน” ภูวินทร์พูดพร้อมกับส่งรอยยิ้มน้อยๆ ให้กับทอฝัน ซึ่งเมื่อทอฝันเห็นรอยยิ้มที่ภูวินทร์ส่งมาให้ก็ยิ้มรับอย่างมีความสุข
หลังจากที่เดินออกมานั่งข้างสักพัก ทอฝันก็เดินกลับไปในห้องอีกครั้งเพราะคิดว่าภูวินทร์น่าจะกลับไปแล้วเพราะเขาบอกว่ามีธุระต่อ แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าภูวินทร์ยังนั่งอยู่ยังไม่ได้ออกไปไหน“เอ่ออ คุณลุงคุณป้าค่ะ ฝันขอตัวกลับก่อนนะค่ะ แล้วพรุ่งนี้เช้าฝันจะรีบมาค่ะ” ทอฝันหันไปเอ่ยขออนุญาตเพื่อที่จะขอตัวกลับก่อนเพราะนี่มันก็เย็นมาแล้ว ช่วงนี้เธอไม่มีรถใช้เพราะกำลังซ่อมอยู่เวลาไปไหนมาไหนเลยต้องนั่งแท็กซี่แทน แต่ความจริงแม่เธอก็ให้ใช้รถแม่เธอไปก่อนแต่ทอฝันก็ปฏิเสธเพราะยังรู้สึกกลัวการขับรถอยู่“แล้วหนูฝันจะกลับยังไงเหรอ” พระพายถามกลับไปทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าช่วงนี้ทอฝันไม่มีรถจึงใช้บริการแท็กซี่สาธารณไปก่อน“เดี๋ยวฝันนั่งแท็กซี่กลับค่ะ”“งั้นเอาอย่างนี้ไหม ภูลูกรีบไปธุระไหม แวะไปส่งหนูฝันที่บ้านก่อนได้ไหม” พระพายหันหน้าไปถามลูกชายที่นั่งหน้าตึงอยู่ เมื่อได้ยินแบบนั้นทอฝันก็รีบปฏิเสธทันทีเพราะไม่อยากนั่งรถไปกับภูวินทร์สองต่อสอง ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอจะรีบรับข้อเสนอทันทีเพื่อจะได้อยู่ใกล้ ๆ ภูวินทร์แต่ตอนนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้วเป็นไปได้เธอไม่อยากเข้าใกล้เข้าสักนิด“ไม่เป็นไรค่ะ ฝันกลับเองไ
หลังจากวันนั้นทอฝันก็มาดูแลมาอยู่เป็นเพื่อนและมาพูดคุยกับภูริตาทุกวันตามที่ทอฝันได้ลั่นวาจาไว้ว่าจะรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น“อ้าวหนูฝันมาแล้วเหรอ” พระพายทักทายทอฝันด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน“สวัสดีค่ะคุณป้า ทานอะไรหรือยังค่ะ วันนี้ฝันทำอาหารมาให้คุณป้าด้วยนะค่ะ” ทอฝันทักทายพระพายด้วยน้ำเสียงสดใสพร้อมกับชูอาหารที่ทำมาเองกับมือให้พระพายดู“หนูฝันทำอาหารเป็นด้วยเหรอ ป้าไม่ยักรู้” พระพายมองทอฝันด้วยสายตาเอ็นดู“ฝันทำเป็นหลายอย่างเลยค่ะ” ส่วนใหญ่เป็นของที่ภูชอบทั้งนั้น ประโยคนี้ทอฝันได้แต่คิดในใจแต่ไม่กล้าพูดออกไป“งั้นป้าขอลองชิมหน่อยนะ”“ได้ค่ะ เดี๋ยวฝันไปเทใส่จานให้นะค่ะ”ภายในห้องทำงานของชั้นบนสุดของโรงแรมหรู ภูวินทร์นั่งอ่านเอกสารตรงหน้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด“เอ่ออ เอกสารมีอะไรผิดพลาดหรือป่าวครับ” แทนไทถามออกไปเพราะเห็นภูวินทร์ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด“ไม่มี” ภูวินทร์ตอบกลับไปอย่างห้วน ๆ“วันนี้ตอนเย็นคุณภูมีนัดทานข้าวที่ร้าน....กับลูกค้านะครับ” แทนไทก้มมองตารางงานพร้อมเอ่ยบอกเจ้าหน้าที่ยังคงทำหน้าเคร่งเครียดเหมือนมีเรื่องอะไรในใจแต่บอกใครไม่ได้ยังงั้น“อืม มีอะไรอีกไหม”“ไม่มีแล้วครับ”“ถ้าไ
2 อาทิตย์ต่อมา ภูริตาถูกย้ายจากห้องปลอดเชื้อมายังห้องพักฟื้นของคนไข้ เนื่องจากหมอเห็นว่าน่าจะไม่มีอาการอะไรแทรกซ้อน“ริตาวันนี้เป็นยังไงบ้างลูก ดูสิอากาศข้างนอกดีมากเลยนะ” หลังจากที่ภูริตาย้ายมาอยู่ห้องพักฟื้นคนไข้พระพายก็จะมาหาภูริตาทุกวันเพื่อมาพูดคุย และหวังว่าสักวันภูริตาจะลืมตาตื่นขึ้นมาคุยกับเธอเหมือเมื่อก่อนหน้าห้องพักฟื้นของภูริตา ทอฝันยืนมองเข้าไปก็เห็นพระพายแม่ของภูริตานั่งคุยกับภูริตาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มราวกับว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงโต้ตอบบนสนทนากลับมาอย่างนั้น ทอฝันยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาที่ไหลลงมาอย่างไม่รู้ตัวกับภาพตรงหน้า ก่อนที่จะสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ เพื่อเรียกกำลังใจของตัวเอง เพราะนี่เป็นวันแรกที่เธอจะได้เจอกับพระพายเพราะหลังจากที่เธอเจอภูวินทร์วันนั้นทอฝันก็ยังไม่มีหน้ามาพบกับครอบครัวนี้อีกเลยก๊อก ๆ ๆ ๆ“เข้ามาได้เลยค่ะ” ทอฝันยกมือขึ้นเคาะประตูเบา ๆ พร้อมกับเปิดเข้าไปด้านในหลังจากที่ได้ยินเสียงคนด้านเอ่ยอนุญาต“สวัสดีค่ะ คุณป้า ฝันมาเยี่ยมริตาค่ะ” ทอฝันยกมือไหว้พระพายพร้อมกับยื่นกระเช้าที่ซื้อมามอบให้กับพระพาย พระพายยื่นมือไปรับกระเช้าพร้อมกับส่งรอยยิ้มอบอุ่นไปให้ทอฝัน เ
ภายในห้องพักฟื้น ทอฝันค่อย ๆ ลุกขึ้นจากเตียงแล้วก้าวลงอย่างช้า ๆ เนื่องจากยังรู้สึกเคล็ดขัดยอกอยู่ แต่ถึงกระนั้นทอฝันก็ลากเสาน้ำเกลือค่อย ๆ พยุงตัวเองเดินไปที่เคาน์เตอร์พยาบาล“สวัสดีค่ะ คนไข้ที่ชื่อ ภูริตา พิมุกเดชา พักอยู่ห้องไหนเหรอค่ะ”“สักครู่นะค่ะ คนไข้อยู่ ชั้น 7 ค่ะ”“ชั้น 7 มีห้องพักฟื้นด้วยเหรอค่ะ” ทอฝันขมวดคิ้วพร้อมกับถามออกไปเท่าที่เธอรู้ห้องพักฟื้นของโรงพยาบาลนี้มีตั้งแต่ชั้น 8 ไม่ใช่เหรอ“ชั้น 7 จะเป็นห้องปลอดเชื้อค่ะ” เมื่อได้ยินแบบนั้นหัวคิ้วทั้งสองข้างของทอฝันก็ยิ่งขมวดเข้าหากันมากขึ้น แต่กระนั้นก็ขอบคุณพยาบาลแล้วค่อย ๆ เดินไปที่ลิฟต์เพื่อลงไปที่ชั้น 7เมื่อลงลิฟต์มาถึงชั้น 7 ทอฝันก็เดินไปสอบถามพยาบาลว่าภูริตาพักอยู่ที่ห้องไหน หลังจากที่เดินมาถึงหน้าห้องที่พยาบาลบอก ทอฝันถึงกับตกใจทันทีเมื่อมองเข้าไปแล้วเห็นสภาพของภูริตาที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้“ทำไม” ทอฝันเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาราวกับขนนก“ตกใจเหรอที่เห็นสภาพของริตา” เสียงที่ดังมาจากทางด้านหลังทำให้ทอฝันต้องหันกลับไปมองก็พบว่าเป็นภูวินทร์ที่ยืมมองเธอด้วยสายตาที่ทอฝันเห็นรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก“มันเกิดอะไรขึ้น ท





