Share

บทที่ 627

Author: โม่เสียวชี่
ฉู่จืออี้รู้สึกสงสัยจนอดไม่ได้ที่จะถามว่า “แล้วคุณหนูชิวพูดอะไรกับเจ้ากันแน่?”

เฉียวเนี่ยนจึงตอบกลับว่า “พี่หญิงชิวบอกว่า นางไม่อยากถูกกักขังอยู่ในเรือนเล็ก ๆ ไปชั่วชีวิต และไม่อยากใช้ชีวิตเพื่อตอบสนองผู้อื่น”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉู่จืออี้ก็อดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้ แต่ในทันใดก็กลับรู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อย “ข้าว่าข้าเองคงประเมินคุณหนูชิวต่ำเกินไป”

“พี่ไป๋ไม่ต้องกังวลหรอกเจ้าค่ะ พี่หญิงชิวไม่ได้โกรธเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม นางกลับรู้สึกซาบซึ้งที่พี่ไป๋พูดอย่างตรงไปตรงมา มิฉะนั้นนางก็คงไม่รู้ว่าจะอธิบายกับราชครูชิวอย่างไรดี”

ฉู่จืออี้จึงหัวเราะเบา ๆ พลางพยักหน้า “เช่นนั้นก็ดีนัก”

ก็ถือว่าโทษเรื่องที่ไม่อาจสมรสกันนี้ไว้ที่ตัวเขาคนเดียวไปเลยเถอะ อย่างไรเขาก็ไม่กลัวจะต้องรับผิดกับใครหน้าไหนอยู่แล้ว

รุ่งขึ้น ฉู่จืออี้ก็ทำตามสัญญา พาเฉียวเนี่ยนเข้าสู่โรงหมอหลวง

ถึงขนาดไปตามตัวหมอหลวงเซวีย ซึ่งเป็นหมอหลวงที่มีศักดิ์สูงที่สุดและวิชาแพทย์เก่งที่สุดในโรงหมอหลวงมาเป็นผู้สอนโดยตรง

เฉียวเนี่ยนตั้งใจเรียนอย่างยิ่ง ประกอบกับก่อนหน้านี้ก็เคยอ่านตําราแพทย์ที่ท่านหมอประจำจวนเขียนไว้ จึงเรียนรู้ได้ไว
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter
Mga Comments (1)
goodnovel comment avatar
T
ถ้าไม่ตายก็ให้พิการไปเลย
Tignan lahat ng Komento

Pinakabagong kabanata

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 860

    ภายใต้ความโกรธเกรี้ยว เมื่อ ฮ่องเต้ได้ยินคำพูดนี้ ในที่สุดก็สงบลงเล็กน้อยพระองค์มองไปยังองค์หญิงซูหยวนที่คุกเข่าอยู่ด้านข้าง น้ำมูกน้ำตาไหลพราก ท่าทางทั้งน่าสมเพชและน่าเวทนา ก็อดใจอ่อนไม่ได้จากนั้นพระองค์ก็หันไปมององค์รัชทายาทอีกครั้ง “เช่นนั้นเจ้าว่า หากขนมอบนี้ไม่ได้ผ่านมือผู้อื่น และถ้าไม่ใช่นาง แล้วจะเป็นใคร?”องค์รัชทายาทก้มหน้าไตร่ตรองเล็กน้อย ก่อนกล่าวว่า “เสด็จพ่อ ขนมอบนี้มิได้ไม่ผ่านมือใครเลย อย่างน้อยก็มีอวิ๋นเอ๋อร์ ซูกงกง และท่านหญิงเฉียวที่เคยสัมผัส”คำพูดนี้ดูเหมือนทำให้ผู้คนที่อยู่ ณ ที่นั้นเข้าใจอะไรขึ้นมาองค์หญิงซูหยวนก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้เช่นกัน รีบหันไปทางฮ่องเต้แล้วกล่าวว่า “เสด็จพ่อ! เป็น เป็นเฉียวเนี่ยน! ท่านลืมแล้วหรือ? นาง นางใช้ผ้าเช็ดมือของนางเช็ดมือก่อน แล้วจึงจับขนมอบนี้ นางจับทุกชิ้นเลย! ทุกชิ้นโดนนางแตะหมด!”ในยามนี้ นับว่าองค์หญิงซูหยวนยังพอมีสติที่นึกขึ้นได้เฉียวเนี่ยนทายาให้แก่อัครมหาเสนาบดีเสร็จ จึงยืนขึ้น มองไปยังองค์หญิงซูหยวน “วันนี้องค์หญิงมิได้กล่าวใส่ร้ายหม่อมฉันเป็นครั้งแรกนะเพคะ”ฮ่องเต้ขมวดคิ้วอย่างแรก พระองค์ก็เห็นด้วยกับเฉียว

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 859

    หมอหลวงทั้งหลายต่างพากันหน้าซีดด้วยความตกใจ โดยมีหมอหลวงเซวียเป็นผู้นำ ต่างก็พากันคุกเข่าลง “พวกกระหม่อมไม่รู้ว่าทำสิ่งใดผิดไป ขอฮ่องเต้โปรดชี้แนะ!”เห็นสถานการณ์เช่นนี้ องค์รัชทายาทก็พอจะเดาเรื่องราวทั้งหมดได้แล้วพระองค์มองไปที่ซูหยวน เมื่อนึกถึงคำพูดที่เสด็จแม่ให้คนมาบอกเมื่อคืน สีหน้าก็ยิ่งเคร่งเครียดขึ้นโดยไม่รู้ตัวพระองค์มั่นใจว่า ซูหยวนถูกลวงให้ติดกับ แต่เรื่องเมื่อวานพระองค์ไม่อาจเข้าไปยุ่งได้ เพราะเกี่ยวพันกับเกียรติของสตรี อีกทั้งยังคาดไว้แล้วว่าเสด็จพ่อคงไม่ลงโทษซูหยวนรุนแรงจึงมิได้เข้าเฝ้าไม่คาดคิดเลยว่าซูหยวนจะโง่ได้ถึงเพียงนี้ ถูกล่อลวงซ้ำแล้วซ้ำเล่า!การวางยาฮ่องเต้นั้นเป็นโทษถึงตาย หากพระองค์ไม่ระวัง อาจถึงขั้นกระทบถึงตำแหน่งองค์รัชทายาทเลยทีเดียว!ครานี้จึงเพียงเงียบไม่กล่าวสิ่งใด คอยสังเกตการณ์โดยไม่แสดงท่าทีไม่ว่าจะอย่างไร พระองค์กับซูหยวนก็เป็นสายเลือดเดียวกันหากซูหยวนเกิดเรื่อง พระองค์ก็ยากจะรอดตัว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ต้องช่วยเท่าที่ช่วยได้!ฮ่องเต้ค่อยๆ หันไปมององค์หญิงซูหยวนที่คุกเข่าอยู่ สีหน้านางซีดเซียวไร้เลือดฝาด “ตอนนี้ เจ้ายังมีอะไรจะแก้ตัวอ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 858

    คำพูดของเฉียวเนี่ยนดุจสายฟ้าฟาดท่ามกลางผู้คน ทำเอาทุกคนในที่นั้นถึงกับแตกตื่นอลหม่านฮ่องเต้หันไปมองขนมอบด้วยสีหน้าตกใจและโกรธเคือง แล้วหันมององค์หญิงซูหยวนทันทีองค์หญิงซูหยวนเองก็ถึงกับร้องลั่นด้วยความตกใจ “เป็นไปไม่ได้! เฉียวเนี่ยน เจ้าหยุดใส่ความข้าเดี๋ยวนี้!”“หม่อมฉันไม่บังอาจเพคะ” เฉียวเนี่ยนหลุบตาต่ำ กล่าวเสียงเรียบ ทำเอาองค์หญิงซูหยวนพูดไม่ออกไปพักใหญ่“องค์หญิงเป็นคนยอมรับเองว่า ขนมอบนี้องค์หญิงทรงทำด้วยตัวเอง”องค์หญิงซูหยวนอ้าปากค้าง พยายามจะแก้ตัวใช่ นางยอมรับจริงว่าขนมอบนี้นางเป็นผู้ทำเอง ไม่มีใครช่วย!แต่นางไม่เคยยอมรับว่านางใส่ยาพิษในขนมอบนี้!ในขนมอบนี้ จะมีพิษได้อย่างไรกัน?“เป็นเจ้า!” องค์หญิงซูหยวนเหมือนนึกบางอย่างออก จึงชี้หน้าเฉียวเนี่ยนทันที “ต้องเป็นเจ้าแน่ที่วางยาเพื่อใส่ความข้า!”แต่คำพูดนี้กลับเรียกเสียงเย้ยหยันจากอัครมหาเสนาบดีวั่น “ความสามารถในการใส่ร้ายผู้อื่นขององค์หญิงช่างชำนาญเสียจริง! ขนมอบก็ท่านทำเอง เป็นคนนำมาเอง ยังจะกล่าวว่าคนอื่นใส่ความท่านได้อีก! ฝ่าบาท! องค์หญิงซูหยวนจิตใจโหดร้าย ไม่สำนึกในพระเมตตา ถึงขั้นกล้าลอบวางยาผู้เป็นฮ่องเต้ ขอ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 857

    น้ำตาทะลักออกมา นางมองฮ่องเต้ด้วยความน้อยใจ “เสด็จพ่อ...”ท่าทางน่าสงสารเช่นนี้ ช่างน่าเวทนาเสียเหลือเกินฮ่องเต้ขมวดคิ้ว มิได้เอ่ยสิ่งใดอัครมหาเสนาบดีวั่นกำลังจะคารวะและกล่าวบางอย่าง ทว่าไม่ทันเอ่ยปาก อวิ๋นเอ๋อร์ที่ตามหลังองค์หญิงซูหยวนมากลับเปิดปากขึ้นก่อน “ฝ่าบาทเพคะ องค์หญิงของพวกเรารู้ว่าตัวเองผิดแล้ว! ดูสิเพคะ องค์หญิงถึงกับไปเรียนทำขนมอบที่ห้องเครื่องแต่เช้า พอทำเสร็จก็รีบนำมาถวายทันทีเพคะ!”ขณะกล่าว อวิ๋นเอ๋อร์ก็ยื่นถาดขนมอบในมือตรงไปด้านหน้าฮ่องเต้ดูตกใจไม่น้อย ตั้งแต่ซูหยวนเกิดมา ไม่ต้องพูดถึงการทำขนมด้วยตนเอง แม้แต่จะรินน้ำชาถวายฮ่องเต้ด้วยตนเองยังนับครั้งได้ซูกงกงที่ยืนอยู่ข้างๆ เห็นท่าทีของฮ่องเต้ก็เข้าใจทันที รีบเดินมารับถาดขนมจากมืออวิ๋นเอ๋อร์แล้วนำไปวางตรงหน้าฮ่องเต้ขนมอบนั้นทำออกมาค่อนข้างหยาบ บางชิ้นถึงกับแตกหักแต่ไม่รู้เพราะเหตุใด ฮ่องเต้กลับมองขนมอบเหล่านั้นด้วยความชื่นชมเห็นฉากนี้ อัครมหาเสนาบดีถึงกับรู้สึกไม่ดี รีบเอ่ยเสียงดัง “ฝ่าบาท! ความผิดที่องค์หญิงก่อขึ้น จะให้มาลบล้างได้ด้วยขนมไม่กี่ชิ้นอย่างนั้นหรือ? ท่าน...”“แล้วเจ้าอยากให้เป็นอย่างไร?!”

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 856

    หรือไม่ก็ สำหรับอัครมหาเสนาบดีวั่นแล้ว การที่หลานชายสายตรงที่ตนอบรมเลี้ยงดูมากับมือถูกจำคุก อนาคตพังพินาศ อาจจะเลวร้ายยิ่งกว่าตายเสียอีกเฉียวเนี่ยนก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังประตูห้องที่ปิดแน่น นางพอจะจินตนาการออกว่าตอนนี้ฮ่องเต้คงกำลังขบกรามเบิกตากราดเกรี้ยวเพียงใดเดิมทีเฉียวเนี่ยนก็มีใจอยากอาศัยมือของอัครมหาเสนาบดีวั่นดึงองค์หญิงซูหยวนให้ร่วงจากตำแหน่งอยู่แล้ว จึงเอ่ยเสียงอ่อนว่า “ท่านใต้เท้าอัครมหาเสนาบดี ไม่จำเป็นต้องถึงเพียงนี้กระมัง? ท่านก็รู้ดีว่าองค์หญิงซูหยวนเป็นองค์หญิงเพียงหนึ่งเดียวของแผ่นดินต้าจิ้ง แม้จะมีผิด แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นความผิดที่ต้องตัดหัว ท่านไยต้องกดดันถึงเพียงนี้? หากจะเปรียบเทียบกันจริงๆ ความผิดของวั่นเจ๋อเยว่กลับร้ายแรงยิ่งกว่าองค์หญิงมิใช่หรือ? เช่นนั้นก็ควรตัดหัวเขาด้วยกระมัง?”ในห้อง ฮ่องเต้ฟังถ้อยคำของเฉียวเนี่ยนก็พยักหน้ารัวถูกต้อง หากจะตัดหัว ก็ต้องตัดหัวคนของตระกูลวั่นก่อน!แต่อัครมหาเสนาบดีวั่นกลับหัวเราะเย็นชา “ฝ่าบาท ในเมื่อเป็นองค์หญิงเพียงหนึ่งเดียวของต้าจิ้ง ก็ยิ่งสมควรเป็นแบบอย่างที่ดี! เป็นสตรีแต่กลับประพฤติตัวต่ำช้า ทั้งวางยา ทั้งใส่ร้ายผู้

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 855

    “หลับลึกขนาดนั้นเลยหรือ?” ฮ่องเต้ถามเรียบๆ คล้ายไม่อยากจะเชื่อ หลังตรวจฎีกาในมือเสร็จจึงวางพู่กันลง แล้วก็ถอนหายใจยาว “เรื่องมันไม่เกี่ยวกับเจ้า เจ้าหลับได้ก็ไม่แปลก แต่เจ้าจงรู้ไว้ว่าเมื่อคืนนี้เราถูกความวุ่นวายรบกวนจนไม่ได้หลับเลย!”เฉียวเนี่ยนไม่แน่ใจว่าฮ่องเต้พูดเช่นนี้เพราะอะไรเพราะอย่างไรเสีย ฮ่องเต้ก็ไม่มีทางรู้ว่าเป็นนางที่สั่งให้ลุงเกิ่งไปแจ้งข่าวแก่ท่านอัครมหาเสนาบดีวรยุทธของลุงเกิ่งสูงส่ง การแฝงตัวเข้าไปในจวนอัครมหาเสนาบดีเพื่อทิ้งกระดาษไว้แล้วถอยออกมาโดยไม่มีร่องรอยนั้นเป็นเรื่องง่ายยิ่ง ไม่เพียงแค่ไม่มีคนในจวนอัครมหาเสนาบดีพบเห็น ต่อให้พบเห็น ก็ไม่มีทางจำลุงเกิ่งได้ใครจะนึกว่าสารถีธรรมดาในจวนอ๋องผิงหยางกลับมีวรยุทธที่น่ากลัวถึงเพียงนี้?ดังนั้นเฉียวเนี่ยนจึงไม่ตระหนกเลยแม้แต่น้อยที่จริง ฮ่องเต้ก็ไม่ได้มีท่าทีจะโทษนางอยู่แล้ว คำถามเมื่อครู่ก็เพียงแค่ต้องการหลอกให้สารภาพเท่านั้นจากนั้นฮ่องเต้ก็ยื่นมือออกมา “เราปวดหัวนัก เจ้าเข้ามาดูให้เราหน่อย!”ดูท่า นี่ต่างหากคือเหตุผลที่ทำให้เฉียวเนี่ยนถูกเรียกเข้าวังอย่างเร่งด่วนเฉียวเนี่ยนรับคำแล้วเข้าไปตรวจชีพจรให้ฮ่องเต

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status