เฉียวเนี่ยนถึงกับพูดไม่ออกนางไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนแต่เวลานี้ แววตาคาดคั้นของเซียวเหิงกลับยิ่งเฉียบคมขึ้นเรื่อยๆ จนเฉียวเนี่ยนต้องครุ่นคิดอย่างจริงจังหากคนที่เป็นผู้บัญชาการกองทัพไม่ใช่ฉู่จืออี้ แต่เป็นเซียวเหิง นางจะยังวางแผนออกจากเมืองหลวงเช่นนี้หรือไม่?คิดอยู่ครู่หนึ่ง นางก็เปิดปากในที่สุด“ไม่”น้ำเสียงอ่อนโยน แต่กลับทำให้หัวใจเซียวเหิงเจ็บแปลบขึ้นมาอย่างรุนแรงเขากำจอกในมือแน่นจนดูเหมือนจะบีบแตกในวินาทีถัดไปทว่าเฉียวเนี่ยนกลับพูดต่อด้วยเสียงแผ่วเบา “หากคนบัญชาการกองทัพเป็นท่าน แล้วท่านอ๋องยังอยู่ในเมืองหลวง เรื่องนี้พอเขารู้ เขาจะเป็นคนแรกที่ไปขอร้องฮ่องเต้ ให้ส่งข้าไปที่ชายแดน”นางไม่จำเป็นต้องวางแผนอะไรให้ยุ่งยากเช่นนี้มือของเซียวเหิงคลายลงในฉับพลันเขามองเฉียวเนี่ยน สีหน้าเผยความไม่เข้าใจ“แท้จริงแล้ว หากชายแดนเกิดปัญหาจริงๆ หน่วยวายุแปดร้อยลี้คงส่งข่าวมานานแล้ว”แต่จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีแม้แต่คำว่า ‘ยาพิษ’ ในรายงานจากชายแดน หากไปขอร้องฮ่องเต้จะมีประโยชน์อะไร?ฮ่องเต้จะเชื่อได้อย่างไร?เฉียวเนี่ยนถอนหายใจยาว เอ่ยอย่างช้าๆ “ก็เพราะในรายงานไม่มีระบุ ข้าจึง
เวลานี้ เขายืนอยู่กลางถนน ขวางทางรถม้าไว้ ดึงดูดสายตาของผู้คนไม่น้อยแต่เขากลับดูเหมือนไม่รู้สึกอะไร สีหน้าเคร่งเครียด ดวงตาคู่นั้นจ้องเฉียวเนี่ยนแน่นิ่ง เสียงเย็นเฉียบ “ขอเชิญท่านหญิงเฉียวขึ้นไปคุยกันบนโรงเตี๊ยมสักหน่อย”เฉียวเนี่ยนมองไปยังข้างถนน จึงพบว่าสถานที่นี้ก็คือหน้าหอจุ้ยเซียงหัวใจหนักอึ้ง นางรู้ดีว่าหากวันนี้ไม่ยอมพูดคุยกับเขา เขาคงไม่ยอมเปิดทางแน่จึงทำได้เพียงลงจากรถม้าลุงเกิ่งประคองเฉียวเนี่ยนลงจากรถ กระซิบเบาๆ “ข้าจะคอยอยู่ข้างล่าง”หากเฉียวเนี่ยนตะโกนเรียกแม้เพียงคำเดียว เขาก็จะพุ่งขึ้นไปช่วยทันทีเฉียวเนี่ยนพยักหน้าเล็กน้อย มองสีหน้าเย็นเยียบของเซียวเหิงแล้วก็อดกังวลไม่ได้ว่าเขาอาจทำอะไรบางอย่างลงไปแต่ก็ไม่รู้เพราะอะไร นางกลับรู้สึกว่าเขาไม่น่าจะไร้สติถึงเพียงนั้นพอเห็นเฉียวเนี่ยนลงจากรถ เซียวเหิงก็เดินนำเข้าไปในหอจุ้ยเซียงก่อนเด็กในร้านพาขึ้นไปยังห้องส่วนตัวบนชั้นสองในห้อง ได้จัดวางเหล้ากับอาหารไว้เรียบร้อยแล้วเซียวเหิงนั่งลง ก่อนจะรินเหล้าให้เฉียวเนี่ยนหนึ่งจอก “ได้ยินว่าเจ้าจะออกจากเมืองหลวงพรุ่งนี้ ข้าจึงจัดเหล้าปลาอาหารไว้เลี้ยงส่งเจ้า”จอกเหล้
เฉียวเนี่ยนไม่ชอบสายตาแบบนี้เลยราวกับว่าคนที่เป็นฝ่ายผิดคือนางทันใดนั้นก็ค้อมกายคารวะเล็กน้อย “เริ่มมืดแล้ว ไม่ขอรบกวนคุณชายหลิน”พูดจบก็เตรียมจะก้าวจากไปทันทีแต่ทว่า หลินเย่ว์กลับก้าวเข้ามาแล้วคว้าข้อมือนางไว้แน่น “เนี่ยนเนี่ยน!”ความไม่พอใจผุดขึ้นกลางระหว่างคิ้ว เฉียวเนี่ยนหันกลับไปมองหลินเย่ว์ เดิมทีก็เตรียมจะโต้เถียงกันเหมือนครั้งก่อนๆแต่กลับพบเข้ากับดวงตาที่ฉ่ำชื้นไปด้วยหยาดน้ำตา“ท่านแม่น่ะ ก่อนหน้านี้ก็ทำผิดไปจริง แต่ตอนนี้ป่วยหนักถึงเพียงนี้แล้ว ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้อีกนานเท่าไร จะไม่... ไปดูนางสักหน่อยหรือ?”น้ำเสียงนั้น ถึงกับฟังดูเหมือนกำลังวิงวอนเฉียวเนี่ยนถึงกับพูดอะไรไม่ออกอยู่ครู่หนึ่งนางก้มหน้าลง มองข้อมือตัวเองที่ถูกคว้าไว้หลินเย่ว์คิดว่าเฉียวเนี่ยนไม่พอใจที่เขาจับข้อมือนางไว้ จึงรีบปล่อยออก สีหน้าท่าทางเต็มไปด้วยความกระอักกระอ่วน “ข้า ข้ามิได้มาเพื่อขอให้เจ้าหยวนโทษข้า ข้ารู้ว่าที่ข้าทำไว้ก่อนหน้านี้ไม่คู่ควรจะได้รับการให้อภัยจากเจ้า เพียงแต่ว่าท่านแม่...”“ข้าจะกลับมาเยี่ยมนางหลังจากที่ข้ากลับมาจากชายแดนแล้ว”เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา หลินเย่ว์ก็ตะลึง เ
ไม่ใช่ว่า พิษของสำนักราชาโอสถ มักจะมียาถอนพิษแนบมาด้วยหรอกหรือ?ถ้าเช่นนั้นนางไปซื้อพิษเยือกมรณะ ก็แปลว่าจะได้ยาถอนพิษของพิษเยือกมรณะมาด้วยน่ะสิ?หมอประจำจวนชะงักไปเล็กน้อย แล้วจึงค่อยเข้าใจขึ้นมาเขาไม่ได้คิดเลยว่าเฉียวเนี่ยนจะมีแผนเช่นนี้ช่างหลักแหลมจริงๆแต่...“สำนักราชาโอสถน่ากลัวยิ่งกว่าที่เจ้าคิด โดยเฉพาะเจ้าสำนักราชาโอสถ ตามคำร่ำลือ เขาอายุเกินร้อยห้าสิบปีแล้ว ตอนนี้กลายเป็นปีศาจเฒ่าดีๆ นี่เอง! คนที่มีชีวิตยืนยาว จิตใจก็ยิ่งลึกล้ำกว่าคนทั่วไป อีกทั้งเขายังเชี่ยวชาญทั้งการแพทย์และพิษ เจ้าจะรู้ตัวตอนไหนว่าโดนเขาเล่นงานก็ไม่อาจรู้ได้! หากไม่จำเป็นจริงๆ ห้ามไปสำนักราชาโอสถเด็ดขาด!”เห็นหมอประจำจวนจริงจังขนาดนี้ เฉียวเนี่ยนก็อดตึงเครียดตามไปด้วยไม่ได้นึกถึงครั้งแรกที่เจอกับหมอประจำจวน เมื่อนั้นเขาเต็มตัวไปด้วยเลือด เฉียวเนี่ยนก็อดขนลุกวาบในใจไม่ได้จึงพยักหน้ารับทันที “ท่านอาจารย์วางใจ ข้าสัญญา หากไม่จำเป็นจริงๆ ข้าจะไม่ไปสำนักราชาโอสถเด็ดขาด!”เมื่อได้รับคำสัญญาจากเฉียวเนี่ยน สีหน้าหมอประจำจวนก็คลายลงเล็กน้อยในที่สุดมองดูขวดยาบนโต๊ะเต็ม เขาก็สูดลมหายใจลึกก่อนจะกล่าวว่
วันถัดมา เฉียวเนี่ยนไปยังจวนโหว“พวกนี้คือยารักษาบาดแผล พวกนี้ช่วยบรรเทาอาการไม่สบายในกระเพาะและลำไส้ แล้วก็พวกนี้ เอาไว้แก้ไอ” หมอประจำจวนเอ่ยพลางหยิบขวดยาออกมาจากโรงยาของตนไม่น้อยเลยทีเดียวเฉียวเนี่ยนมองสิ่งเหล่านี้แล้วก็รู้สึกพอใจนัก แต่เป้าหมายหลักของนางในครั้งนี้กลับไม่ใช่ยาธรรมดาเหล่านี้ “ท่านอาจารย์ พอจะมียาถอนพิษหรือไม่? ครั้งก่อนพวกเผ่าทูเจี๋ยเคลือบพิษไว้บนใบมีด ข้ากลัวว่าพวกมันจะใช้วิธีสกปรกอีก”หมอประจำจวนส่ายหน้า “พิษมีเป็นหมื่นพันชนิด วิธีถอนพิษก็ย่อมมีมากมาย สำนักราชาโอสถนั้นมีเม็ดยาถอนพิษครอบจักรวาลอยู่เม็ดหนึ่ง แต่เว้นแต่เจ้าสำนักราชาโอสถแล้ว ไม่มีใครทำเม็ดที่สองขึ้นมาได้อีก”ระหว่างพูด หมอประจำจวนก็นำตำราแพทย์สองเล่มวางไว้ตรงหน้าเฉียวเนี่ยน “ก่อนหน้านี้ก็ให้ความรู้วิชาแพทย์ด้านยาพิษแก่เจ้ามามากแล้ว ลองอ่านตําราแพทย์สองเล่มนี้เพิ่มอีกหน่อย ในโลกนี้พิษส่วนใหญ่ตราบใดที่ไม่ใช่ฝีมือของเจ้าสำนักราชาโอสถ ก็น่าจะสามารถหาวิธีถอนพิษได้เป็นส่วนมาก”เฉียวเนี่ยนรับตำราไป โดยไม่ต้องเปิดดูก็รู้ว่านี่เป็นตําราแพทย์ที่หมอประจำจวนเขียนขึ้นมาเพื่อนางโดยเฉพาะในใจย่อมซาบซึ้ง แต่เฉี
อัครมหาเสนาบดีวั่นเองก็รู้ดีว่าเรื่องสมรสผูกมิตรกับแคว้นถังนั้นสำคัญยิ่ง ไม่อาจเอาชีวิตองค์หญิงซูหยวนไปได้ ผลลัพธ์ในวันนี้ก็ถือว่าดีที่สุดแล้วในตอนนั้นจึงมิได้กล่าวอะไรเรื่องราวดูเหมือนจะจบลงเพียงเท่านี้ฮ่องเต้โบกพระหัตถ์ ให้ทุกคนถอยออกไปแต่ไม่คาดว่า เฉียวเนี่ยนกลับก้าวมาข้างหน้า คุกเข่าลงเบื้องหน้าฮ่องเต้ “ฝ่าบาทเพคะ หม่อมฉันถูกลบหลู่ในวันนี้ รู้สึกว่าตนไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง จึงขอกราบทูลฮ่องเต้โปรดถอดถอนตำแหน่งหมอหญิงของหม่อมฉันด้วยเถิดเพคะ”ถึงกับจะลาออกจากตำแหน่ง!ฮ่องเต้ถึงกับทรงสะอึกทันทีซูกงกงเห็นดังนั้น จึงรีบส่งสัญญาณด้วยสายตาไปทางเฉียวเนี่ยน “ฮ่องเต้ทรงทำไปก็เพื่อจะล้างมลทินให้ท่านหญิงเฉียว ท่านหญิงจะโกรธถึงเพียงนี้ไปทำไมกัน?”เฉียวเนี่ยนคุกเข่าอยู่ที่เดิม ใบหน้าเย็นชา ไม่เอ่ยคำใดอัครมหาเสนาบดีวั่นเห็นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวขึ้นว่า “ท่านหญิงเฉียวเป็นสตรี อย่างไรก็ต้องรู้สึกว่าตนได้รับความอัปยศ แต่ในฐานะขุนนาง การได้รับใช้ฮ่องเต้ถือเป็นเกียรติ จะมาทนไม่ได้เพียงเพราะเรื่องเล็กน้อยนี้ได้อย่างไร?”เฉียวเนี่ยนยังคงไม่เอ่ยอะไรฮ่องเต้ทอดพระเนตรเห็นท่าทางดื้อรั้นของเ