Share

บทที่ 640

Author: โม่เสียวชี่
เฉียวเนี่ยนเดินตามหลังขันทีผู้นำทาง มุ่งหน้าไปยังห้องทรงอักษรอย่างเงียบเชียบ

นางมองดูขันทีผู้นั้นที่ไม่พูดจาสักคำ ความปั่นป่วนในใจของนางก็ยิ่งทวีความรุนแรง

นางไม่รู้ว่าฮ่องเต้ทรงมีเหตุอันใด จึงได้มีพระราชดำริเรียกตัวนางเข้าเฝ้าอย่างกะทันหัน

แต่นางกลับนึกถึงสิ่งที่ฉู่จืออี้เคยเอ่ยถึงก่อนหน้านี้

เขาเคยพูดว่าฮ่องเต้ทรงมีพระประสงค์จะจับคู่ให้นางกับเซียวเหิง

และครั้งนี้… เซียวเหิงบาดเจ็บสาหัส แถมยังพร่ำเพ้อเรียกแต่นางตลอดเวลา

หรือฮ่องเต้จะทรงใจอ่อน แล้วมีพระราชดำริให้นางแต่งกับเซียวเหิง?

ตลอดทาง เฉียวเนี่ยนเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย

นางคิดว่า ถ้าหากฮ่องเต้ทรงพระราชทานสมรสจริง ๆ นางควรจะทำอย่างไรดี?

ฆ่าตัวตายเพื่อแสดงจุดยืนงั้นหรือ?

เมื่อเดินทางถึงหน้าห้องทรงอักษร หัวใจของเฉียวเนี่ยนก็เต้นแรงจนแทบควบคุมไม่ได้

ได้ยินเสียงขันทีด้านในขานเรียกเข้าเฝ้า นางจึงสูดลมหายใจลึกสองครั้ง บังคับตนเองให้สงบลง จากนั้นก็ก้มหน้าต่ำ เดินเข้าห้องทรงอักษรอย่างสง่างาม

“หม่อมฉันเฉียวเนี่ยน ขอถวายบังคมฝ่าบาทเพคะ”

นางถวายพระพรด้วยท่วงท่าที่เรียบร้อยงดงาม ภายนอกดูสงบนิ่ง ไม่หวาดหวั่นแม้แต่น้อย

แต่เมื่อเส
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (2)
goodnovel comment avatar
teamhirun
เคยสนิทกันแค่ไหนก็เป็นแค่อดีต อย่าติดกับวันที่ดีเก่าๆ อย่าปล่อยให้วันที่ดีเก่าๆ มาทำร้าย
goodnovel comment avatar
Rak Fah
เนี่ยนๆชีวิตจะมีอุปสรรครอบตัวเกินไปแล้ว แต่งอะไรขนาดน้านนนนนนน
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 644

    แสงสนธยาอ่อนจาง เส้นขอบของเมืองหลวงถูกแสงสุดท้ายของวันแต่งแต้มอย่างลางเลือนฉู่จืออี้ไม่คาดคิดว่าเฉียวเนี่ยนจะรอเขาอยู่หน้าวังหลวงตลอด หลังขึ้นรถม้าแล้วจึงอดไม่ได้ที่จะถามว่า “เหตุใดถึงไม่กลับไปก่อน?”จวนอ๋องผิงหยางอยู่ไม่ไกลจากวังหลวงนัก เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้วเฉียวเนี่ยนกลับยิ้มให้ฉู่จืออี้ “พี่ไป๋เป็นห่วงข้า ข้าย่อมต้องห่วงพี่ไป๋เช่นกัน”นางมองออกถึงแววจำยอมในสายตาของฮ่องเต้ในวันนี้ นางรู้ว่าฉู่จืออี้เข้าเฝ้าเพราะนางดังนั้นนางจึงสมควรรอเขาอยู่หน้าวัง!รถม้าเคลื่อนไปอย่างช้าๆ มุ่งสู่จวนอ๋องผิงหยางฉู่จืออี้มองเฉียวเนี่ยนอยู่ก่อน แล้ว จู่ ๆ ก็เอ่ยขึ้น “ข้าอาจต้องนำทัพออกศึก”เมื่อได้ยินดังนั้นเฉียวเนี่ยนก็สะดุ้ง “นำทัพ? ชายแดนเกิดศึกแล้วหรือ?”ฉู่จืออี้ตอบรับเบา ๆ “กลุ่มชนเตอร์กิกของเผ่าทูเจี๋ยล้ำแดนอยู่บ่อยครั้ง เสด็จพี่จึงอยากให้บทเรียนพวกมัน”เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว ก้มหน้าลงโดยไม่กล่าวอะไรการนำทัพออกศึกก็เพื่อปกป้องบ้านเมือง ดังนั้นนางจึงไม่รู้จะพูดอะไรดีในเวลานี้แต่นางก็อดห่วงไม่ได้จริง ๆดาบหอกไร้ตา เมื่อขึ้นสู่สนามรบแล้ว ย่อมมีโอกาสบาดเจ็บ หรืออาจเสียชี

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 643

    ฉู่จืออี้จึงหันไปมองฮ่องเต้ น้ำเสียงหนักแน่น “เสด็จพี่ทรงอยากให้ข้านำทัพหรือ?”แม้จะเป็นคำถาม แต่ในน้ำเสียงไม่มีแม้แต่ความสงสัยฮ่องเต้ยังนึกว่า ฉู่จืออี้คงรู้สึกลำบากใจท้ายที่สุด ความวุ่นวายของกษัตริย์ทั้งห้าเคยฝากบาดแผลในใจฉู่จืออี้ไว้ ฮ่องเต้คิดว่า บางทีตลอดชีวิตนี้ ฉู่จืออี้อาจไม่อยากจับอาวุธออกรบอีกเลยฮ่องเต้จึงถอนพระปัสสาสะเบา ๆ “เดิมทีศึกครั้งนี้ ควรจะเป็นเซียวเหิงที่ออกไปจัดการ แต่เจ้าก็เห็นแล้วว่าสภาพของเซียวเหิงตอนนี้ อย่าว่าแต่ออกรบ แม้แต่จะลุกจากเตียงยังลำบาก”ส่วนเซียวเหอ นอนเป็นคนพิการมากว่าห้าปี เพิ่งจะฟื้นตัวได้ไม่นาน เขาจะใจดำส่งคนเช่นนั้นกลับสู่สนามรบได้อย่างไร?ถ้าเกิดได้รับบาดเจ็บอีกขึ้นมาจะทำอย่างไร?ในราชสำนักก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีขุนศึกคนอื่นเลยแต่มีสักคนหรือไม่ ที่พอออกศึกแล้วพวกชาวเตอร์กิกของเผ่าทูเจี๋ยได้ยินก็หนาวสะท้าน? ที่จะสามารถปราบพวกเผ่าทูเจี๋ยจนยอมศิโรราบ?คิดไปคิดมา ก็มีเพียงฉู่จืออี้เท่านั้นที่เหมาะสมที่สุดฉู่จืออี้ย่อมเข้าใจดี แต่กลับกล่าวว่า “ความหมายของกระหม่อมคือ เสด็จพี่กล้าให้กระหม่อมกุมอำนาจทัพหรือ?”ในปีนั้น ความวุ่นวายของกษัตริย์ทั

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 642

    เฉียวเนี่ยนเข้าใจความหมายของฮ่องเต้ดีสิ่งที่พระองค์ต้องการจะสื่อก็คือ โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน อนาคตจะเกิดอะไร ไม่มีใครล่วงรู้ได้แต่นั่นคือเรื่องของอนาคต ส่วนตอนนี้ นางยังไม่ต้องการเมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนกลับเข้าสู่ความเงียบ อีกครั้งฮ่องเต้ก็เริ่มรู้สึกเบื่อหน่าย กำลังจะรับสั่งให้ปล่อยนางกลับ แต่แล้วจู่ ๆ ขันทีคนหนึ่งก็เร่งเข้ามาจากนอกห้องทรงอักษร ทำความเคารพแล้วกล่าวเสียงดัง “ขอพระราชทานกราบทูลฝ่าบาท อ๋องผิงหยางขอเข้าเฝ้าพะย่ะค่ะ”สีพระพักตร์ของฮ่องเต้ก็พลันแสดงแววทรงจนปัญญาออกมาเล็กน้อยครั้งก่อน ฉู่จืออี้กล่าวชัดเจนแล้วว่าเขาจะปกป้องเฉียวเนี่ยน คราวนี้จึงเลือกช่วงเวลาที่ฉู่จืออี้ไม่อยู่ให้คนพานางเข้าวังแต่ไม่คิดว่า… เจ้าหมอนั่นจะรู้ข่าวรวดเร็วถึงเพียงนี้!ฮ่องเต้จึงโบกพระหัตถ์ “เจ้ากลับไปก่อนเถอะ! ให้อ๋องผิงหยางเข้ามาเข้าเฝ้าเรา”"พ่ะย่ะค่ะ"เฉียวเนี่ยนทำความเคารพแล้วถอยออกไปแต่ก่อนจะพ้นประตูห้องทรงอักษร นางก็แหงนหน้าขึ้นมองฮ่องเต้อีกครั้งเห็นอีกฝ่ายดูไม่ได้กริ้วมากนัก นางจึงค่อยเบาใจลงฉู่จืออี้ยืนรออยู่หน้าห้องทรงอักษร เมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนเดินออกมาก็กวาดตามองนางอย่างละ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 641

    หากเป็นปัญหาของนาง นางจะรับมืออย่างไรก็ย่อมได้ในกรณีเลวร้ายที่สุด ก็แค่ทำตามที่เคยคิดไว้ นั่นคือการสละชีพเพื่อแสดงจุดยืนแต่ครั้งนี้ ที่ฮ่องเต้ทรงเรียกนางมา เห็นชัดว่ามิใช่เพราะเรื่องสมรส หากแต่เป็นเพราะเรื่องท่านหมอ!เช่นนั้นนางจะปล่อยให้ท่านหมอต้องถูกลากมาเกี่ยวพันด้วยไม่ได้เด็ดขาด!ระหว่างที่กำลังคิดอยู่นั้น ฮ่องเต้ก็ทรงเอ่ยขึ้น “เราก็ไม่ใช่ไม่รู้ว่า บนโลกนี้ยังมีคนเก่งถึงเพียงนี้ จนแม้แต่ฮ่องเต้อย่างเราก็ยังไม่อาจได้พบหน้า”เห็นได้ชัดว่าฮ่องเต้ทรงเริ่มกริ้วแล้วเฉียวเนี่ยนรีบคุกเข่าก้มกราบลงกับพื้น “ขอฝ่าบาททรงคลายพิโรธ หมอเทวดานั้นไม่ประสงค์ข้องเกี่ยวกับโลกภายนอก จึงต้องปิดบังตัวตน ครั้งนั้น หม่อนฉันเคยสาบานด้วยชีวิตว่าจะไม่เปิดเผยร่องรอยของเขา เขาถึงยอมถ่ายทอดวิธีรักษาโรคขาให้ หากเขารู้ว่าหม่อมฉันได้เอ่ยถึงเรื่องของเขาต่อหน้าฝ่าบาท เกรงว่าเขาอาจจะจากไปโดยไม่หวนคืน ยิ่งหากถึงคราวคับขัน เขาอาจจะลุกขึ้นต่อต้านด้วยชีวิตเพคะ”อันที่จริงเฉียวเนี่ยนเข้าใจพระทัยของฮ่องเต้ดีพระองค์สนใจท่านหมอก็เพราะวิชาแพทย์อันสามารถชุบชีวิตฟื้นคืนกระดูกและเลือดเนื้อของเขานั่นเองคราวนี้นางจงใจ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 640

    เฉียวเนี่ยนเดินตามหลังขันทีผู้นำทาง มุ่งหน้าไปยังห้องทรงอักษรอย่างเงียบเชียบนางมองดูขันทีผู้นั้นที่ไม่พูดจาสักคำ ความปั่นป่วนในใจของนางก็ยิ่งทวีความรุนแรงนางไม่รู้ว่าฮ่องเต้ทรงมีเหตุอันใด จึงได้มีพระราชดำริเรียกตัวนางเข้าเฝ้าอย่างกะทันหันแต่นางกลับนึกถึงสิ่งที่ฉู่จืออี้เคยเอ่ยถึงก่อนหน้านี้เขาเคยพูดว่าฮ่องเต้ทรงมีพระประสงค์จะจับคู่ให้นางกับเซียวเหิงและครั้งนี้… เซียวเหิงบาดเจ็บสาหัส แถมยังพร่ำเพ้อเรียกแต่นางตลอดเวลาหรือฮ่องเต้จะทรงใจอ่อน แล้วมีพระราชดำริให้นางแต่งกับเซียวเหิง?ตลอดทาง เฉียวเนี่ยนเต็มไปด้วยความกระวนกระวายนางคิดว่า ถ้าหากฮ่องเต้ทรงพระราชทานสมรสจริง ๆ นางควรจะทำอย่างไรดี?ฆ่าตัวตายเพื่อแสดงจุดยืนงั้นหรือ?เมื่อเดินทางถึงหน้าห้องทรงอักษร หัวใจของเฉียวเนี่ยนก็เต้นแรงจนแทบควบคุมไม่ได้ได้ยินเสียงขันทีด้านในขานเรียกเข้าเฝ้า นางจึงสูดลมหายใจลึกสองครั้ง บังคับตนเองให้สงบลง จากนั้นก็ก้มหน้าต่ำ เดินเข้าห้องทรงอักษรอย่างสง่างาม“หม่อมฉันเฉียวเนี่ยน ขอถวายบังคมฝ่าบาทเพคะ”นางถวายพระพรด้วยท่วงท่าที่เรียบร้อยงดงาม ภายนอกดูสงบนิ่ง ไม่หวาดหวั่นแม้แต่น้อยแต่เมื่อเส

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 639

    ฉู่จืออี้เห็นได้ชัดว่า คิ้วเรียวงามของเฉียวเนี่ยนขมวดมุ่นเล็กน้อยเขาเลยพลอยขมวดคิ้วตาม ก่อนจะยื่นมืออีกข้างออกไป บังแสงแดดที่ส่องเข้ามาแล้วก็เห็นว่า ระหว่างคิ้วของเฉียวเนี่ยนค่อย ๆ คลายออกฉู่จืออี้จึงคลายคิ้วตาม แต่จู่ ๆ ก็รู้สึกตัวว่าเขากำลังยิ้มอยู่เป็นรอยยิ้มที่อบอุ่น เป็นธรรมชาติเป็นรอยยิ้มที่ออกมาจากใจอย่างแท้จริง ไม่ถูกความมืดมิดใด ๆ ฉุดรั้งทั้งที่จริง เขาติดอยู่ในฝันร้ายนั้นมานานถึงแปดปีจะเป็นไปได้ยังไง?ฉู่จืออี้ยังคงยื่นมือข้างหนึ่งรองรับศีรษะเฉียวเนี่ยน อีกข้างกันแสงแดดให้ แล้วก็ค่อย ๆ เดินทางกลับถึงจวนอ๋องผิงหยางรถม้าจอดลง สารถีไม่รู้ว่าในรถม้ามีเฉียวเนี่ยนที่กำลังหลับสนิทอยู่ จึงรตะโกนขึ้นมาว่า “ท่านอ๋อง ถึงแล้วขอรับ!”เฉียวเนี่ยนสะดุ้งตื่นลืมตาขึ้นมาก็เห็นฉู่จืออี้อยู่ในท่าแปลกประหลาดอยู่ตรงหน้านางชะงัก แล้วเพิ่งรู้ตัวว่าศีรษะของตนเองกำลังหนุนอยู่บนมือของฉู่จืออี้นางรีบเด้งตัวนั่งตรง พลางยกมือขึ้นมาเช็ดมุมปากอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้ตัวท่าทีตกใจลนลานของนาง ไม่อาจรอดพ้นสายตาของฉู่จืออี้เขาหัวเราะอยู่ในใจ แต่สีหน้ายังคงนิ่งเรียบ แค่ชักมือกลับ แล้วกล่า

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status