"คุณแม่ฆ่าผมให้ตายเถอะ ถ้าจะให้ผมต้องแต่งงานกับผู้หญิงเฉิ่มเชยแบบนั้น!"
View Moreตอนที่1
“อะไรนะครับแม่?! แม่จะให้ผมแต่งงานกับใครนะครับ?” ภูริช ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง หลังจากที่ได้ฟังเรื่องด่วนที่คุณหญิงกาบแก้วผู้เป็นมารดาโทรตามให้เขากลับมาที่บ้าน
“หนูอนงค์นาง ลูกสาวเพื่อนแม่ไง”
“ยัยเฉิ่มนั่นน่ะเหรอครับ? ไม่มีทาง คุณแม่ฆ่าผมให้ตายเถอะ ถ้าจะให้ผมต้องแต่งงานกับผู้หญิงเฉิ่มเชยแบบนั้น” ภูริชแสดงสีหน้าเหยียดขึ้นมาทันที เมื่อนึกถึงผู้หญิงเชยๆ อย่างอนงค์นาง
“ก็ใครมันจะไปจัดจ้านเท่าแม่ลลิสาของแกได้ล่ะ” คุณหญิงพูดออกมาอย่างขัดใจ ที่ลูกชายตัวดีคว้านางแบบที่มีแต่ข่าวฉาวโฉ่แบบนั้นมาเป็นแฟน ที่หวังจะมาเกาะตระกูลของนางเพราะอยากรวยทางลัด แถมภูริชเองก็เอาแต่หลงลลิสาจนโงหัวไม่ขึ้น
ถ้านางไม่หาผู้หญิงดีๆ สักคนมาเป็นภรรยา ก็คงจะไม่แคล้วต้องตรอมใจที่ต้องได้ลูกสะใภ้ที่เอาแต่ช้อปปิ้ง แล้วก็ผลาญเงินภูริชไปวันๆ อย่างลลิสาเป็นแน่
“ไม่รู้แหละ ผมไม่มีวันแต่งงานกับยัยเฉิ่มนั่นเด็ดขาด ผมรักลิสา และผมก็จะแต่งงานกับลิสา” ภูริชค้านหัวชนฝา
มีอย่างที่ไหน เขารักกับลลิสาอยู่ดีๆ จะให้ไปแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รักอย่างอนงค์นาง ที่ทั้งเฉิ่มทั้งเชย ขนาดชื่อยังเชยเลย ควงไปไหนคงได้อายเขาตาย
ภูริชเคยเจอกับอนงค์นางตั้งแต่เธอยังอยู่มัธยมปลาย ครั้งที่ครอบครัวของเธอมาเที่ยวที่บ้าน เพราะแม่ของอนงค์นางกับแม่ของเขาก็เป็นเพื่อนสนิทกันมานาน แต่ใครจะไปคิดว่าการจับลูกของทั้งสองบ้านมาดองกัน จะยังมีอยู่ในสมัยนี้กันอีกล่ะ
“ได้! ถ้าแกยืนยันแบบนั้น แม่ก็จะไม่ห้าม” คุณหญิงพูดแค่นั้น ก่อนที่จะเดินขึ้นห้องไปพัก ภูริชที่ไม่ได้อยากแต่งงานกับอนงค์นางอยู่แล้วถึงกับยิ้มออก เพราะอย่างน้อยแม่ของเขาก็ไม่ถึงขั้นบังคับใจกัน พอเห็นว่าเขาไม่ยอมก็เลยใจอ่อนอย่างง่ายดาย
ภูริชเดินออกมาที่โรงจอดรถอย่างสบายอารมณ์ หยิบมือถือขึ้นมาต่อสายโทรหาลลิสาทันที ตั้งใจจะไปรับเธอออกมาทานข้าว แล้วก็จะค้างกับเธอที่คอนโดด้วยกันคืนนี้
แต่พอเขาจะเปิดประตูรถยนต์คันหรู ที่เพิ่งจะขับมาจอดเมื่อยี่สิบนาทีที่แล้วมันกลับล็อกเสียอย่างนั้น ทั้งที่ก่อนหน้าเขาไม่ได้ล็อกรถเอาไว้
“ไอ้ผาด! ใครล็อกรถฉัน” ภูริชหันไปถามผาด คนรถของที่บ้าน ที่เวลานี้กำลังเช็ดทำความสะอาดรถตู้ส่วนตัวของคุณหญิงกาบแก้วอยู่
“คุณหญิงครับ” ผาดหันมาตอบเจ้านาย
“แล้วคุณแม่จะมาล็อกรถฉันทำไม? ไม่รู้เหรอว่าฉันจะออกไปข้างนอก” ภูริชถามอย่างหงุดหงิด แต่กลับหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม เพราะผาดก็ให้คำตอบอะไรเขาไม่ได้สักอย่าง
“ไม่ได้เรื่อง!”
ภูริชจำต้องเดินกลับเข้ามาในบ้านอีกครั้ง เพื่อไปเอากุญแจรถ แต่คนที่เก็บกุญแจรถของเขาเอาไว้อย่างทับทิม คนสนิทของคุณหญิง กลับไม่ยอมให้กุญแจคืนกับเขา เพราะเป็นคำสั่งจากคุณหญิงกาบแก้ว สุดท้ายภูริชเลยต้องขึ้นไปหาคนต้นเรื่องอย่างคนเป็นแม่เองถึงบนห้อง
“คุณแม่ยึดกุญแจรถของผมทำไมครับ?” ภูริชเอ่ยถามทันทีที่เข้ามาภายในห้องของคนเป็นแม่
“ก็ในเมื่อแกไม่ยอมแต่งงานกับหนูนาง ก็เท่ากับว่าแกปฏิเสธทรัพย์สินทุกอย่างของฉัน” คุณหญิงบอกกับลูกชาย
“คุณแม่หมายความว่ายังไงครับ?”
“ก็หมายความว่า ถ้าแกไม่ยอมแต่งงานกับหนูนาง แกก็จะไม่เหลืออะไรเลยไง”
“คุณแม่จะทำแบบนี้กับผมไม่ได้นะครับ ผมคือลูกชายคนเดียวของคุณแม่นะครับ” แล้วทำไมชีวิตของเขาจะต้องขึ้นอยู่กับผู้หญิงอย่างอนงค์นางด้วย
“ก็แล้วยังไงล่ะ ในเมื่อถ้าฉันยอมให้แกแต่งงานกับแม่ลลิสา แม่นั่นก็ต้องเข้ามาผลาญสมบัติของฉันจนหมดอยู่ดี สู้ฉันเอาทรัพย์สมบัติที่มีไปทำบุญ ให้การกุศลยังจะมีประโยชน์เสียมากกว่า”
“นี่คุณแม่กำลังขู่ผมอยู่ใช่มั้ยครับ?”
“ฉันไม่ได้ขู่ ฉันเขียนพินัยกรรมเอาไว้แล้ว ถ้าแกไม่เชื่อก็ลองดูได้เลย แกจะได้รู้ด้วยว่าถ้าแกไม่เหลืออะไรเลยแบบนี้ แม่นั่นยังจะรักแกอยู่หรือเปล่า”
“ลิสารักผม ต่อให้ผมเหลือแต่ตัวเขาก็ไม่มีทางทิ้งผมอย่างที่คุณแม่พูดแน่นอน” ภูริชตอบอย่างมั่นใจในตัวคนรัก
“ถ้าแกเชื่อแบบนั้นก็ตามใจ” คุณหญิงพูดแค่นั้น เพราะจนใจที่จะพูดให้ลูกชายหูตาสว่าง เรื่องแบบนี้ต้องเจอกับตัว แล้วคุณหญิงเองก็ดูไม่พลาดอย่างแน่นอน ว่าถ้าลลิสารู้ว่าภูริชเหลือแต่ตัวไม่ได้มีมรดกมากมายอย่างที่หวังเอาไว้ ลลิสาต้องตีตัวออกห่างอย่างแน่นอน
และคนอย่างภูริชก็ไม่มีทางยอมเสียมรดกมากมายให้กับการกุศลอยู่แล้ว ยังไงเสียลูกชายที่หัวสูง ลำบากไม่เป็นอย่างภูริช ก็ต้องกลับมาทำตามความต้องการของนางอยู่ดี
เมื่อคุณหญิงกาบแก้วไม่ยอมให้ใช้รถ ภูริชเลยต้องนั่งแท็กซี่มาหาลลิสาที่คอนโด ถึงจะหงุดหงิดกับการกระทำของคนเป็นแม่ แต่คนอย่างภูริชจะไม่มีทางแต่งงานกับผู้หญิงที่คุณหญิงกาบแก้วหาให้อย่างเด็ดขาด
“มาแล้วเหรอคะ?” ลลิสาออกมาเปิดประตูรับชายคนรัก
“ครับ แต่เราคงต้องไปรถของคุณนะลิสา พอดีผมนั่งแท็กซีมาน่ะ”
“ทำไมล่ะคะ รถภูเข้าศูนย์เหรอคะ” ลลิสาพาภูริชเข้ามานั่งที่โซฟาภายในห้อง
“เปล่าหรอกครับ คุณแม่ยึดรถของผมไปน่ะ”
“ยึดรถ!” ลลิสาทวนคำพูดของคนรักอย่างสงสัย ว่าทำไมอยู่ดีๆ คุณหญิงกาบแก้วถึงได้ยึดรถของภูริชไปแบบนั้น
“ผมมีเรื่องต้องบอกกับคุณนะครับลิสา” ภูริชกุมมือบางของคนรักเอาไว้
“ตอนนี้ผมไม่เหลืออะไรแล้ว ทั้งรถ ทั้งบัตรเครดิต มีเงินสดติดตัวแค่ไม่กี่หมื่น”
“หมายความว่ายังไงคะภู ลิสางงไปหมดแล้วค่ะ”
“คุณแม่ต้องการให้ผมแต่งงานกับผู้หญิงที่ท่านหาให้ แต่ผมไม่ยอมเพราะผมมีคุณอยู่แล้ว” ภูริชคว้าคนรักเข้ามาสวมกอด ก่อนจะพูดต่อ ลลิสาเองก็รอฟังเหมือนกัน
“ท่านก็เลยยื่นคำขาด ถ้าผมไม่ยอมแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น ท่านก็จะยกมรดกทั้งหมดให้การกุศล แล้วก็ยึดทรัพย์สินของผมทั้งหมด ตอนนี้ผมก็เลยเหลือแต่ตัว” ภูริชเล่าทุกอย่างให้ลลิสาฟังทั้งหมด คนที่เพิ่งได้รับรู้เรื่องราวถึงกับตาเบิกโต เพราะคนรักที่เธอหวังจะฝากชีวิตเอาไว้เวลานี้กลับกลายเป็นคนที่เหลือแต่ตัว แม้แต่รถก็ไม่มีเอาไว้ใช้
“แต่คุณไม่ต้องกลัวนะ เพราะถึงยังไงผมก็จะไม่มีวันแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น ผมรักคุณคนเดียว” ภูริชกระชับอ้อมกอดลลิสาแน่นกว่าเดิม เพื่อเป็นการยืนยันในสิ่งที่ตัวเองพูดแต่คนฟังอย่างลลิสา กลับรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะตกที่นั่งลำบาก ความหวังที่จะได้ชูคอเป็นลูกสะใภ้ของคุณหญิงมันริบหรี่ลงทันที
ตอนที่15วันนี้ครอบครัวของภูริชกับอนงค์นางพากันมาพักผ่อนตากอากาศที่ทะเล ซึ่งเป็นบ้านพักของคุณหญิงกาบแก้วเอง และถือเป็นการมาฮันนีมูนระหว่างภูริชกับอนงค์นางไปด้วยเลย เพราะตั้งแต่แต่งงานกันมาตั้งหลายเดือนทั้งคู่ยังไม่มีเวลาออกมาเที่ยวพักผ่อนด้วยกันเลยสักที ครั้งนี้เลยถือเป็นโอกาสที่ดีที่ทั้งสองครอบครัวจะได้มาเที่ยวพักผ่อนด้วยกันช่วงค่ำก็จะมีการจัดปาร์ตี้เล็กๆ ริมชายหาดบริเวณหน้าบ้านพัก โดยมีป้านิดแม่ครัวของบ้านตามมาทำอาหารให้เจ้านายที่ทะเลด้วย หลังจบมื้ออาหารริมทะเลในช่วงค่ำและนั่งพูดคุยกันนิดหน่อย คุณหญิงกาบแก้วและประไพ ต่างก็พากันกลับห้องไปพักผ่อน เหลือเพียงภูริชกับอนงค์นางที่ยังนอนเล่นอยู่ที่ม้านั่งริมระเบียงหน้าบ้านต่อ“คืนนี้ดาวสวยจังเลยนะคะ” อนงค์นางมองไปที่ท้องฟ้า ที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ซึ่งหาดูแบบนี้ไม่ได้แล้วที่ในเมื่องหลวง ที่เต็มไปด้วยแสงไฟยามค่ำคืน“นางชอบที่นี่มั้ย?” เขาเอ่ยถามคนที่อยู่ในอ้อมกอด“ชอบค่ะ ที่นี่อากาศดี แล้วทะเลก็สวยมากด้วย” เธอชอบบ้านพักหลังนี้มาก เพราะมันอยู่ติดทะเล มีชายหาดให้เดินเล่น และมานั่งมองพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้า“ถ้านางชอบ พี่จะพามาอีกบ่อยๆ นะ”“ขอบคุ
ตอนที่14หลังจากที่หายออกไปจากชีวิตของภูริชเป็นเดือน อยู่ๆ ลลิสาก็โทรมาขอนัดเจอกับเขาอีกครั้ง ภูริชบอกเรื่องที่ลลิสาโทรมาขอนัดทานข้าวให้อนงค์นางรู้ เพราะถ้าเธอไม่เต็มใจที่จะให้เขาออกไปพบลลิสาเขาก็จะไม่ออกไป ถึงทางนั้นจะแค่ต้องการที่จะขอโทษกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น จนทำให้ภูริชถูกทำร้ายในคืนนั้นก็ตาม และภูริชเองก็บริสุทธิ์ใจไม่ได้คิดกับลลิสาเหมือนเดิมแล้ว ซึ่งอนงค์นางเองก็ยอมที่จะให้สามีออกไปพบกับคนรักเก่า เพราะเธอเองก็เชื่อใจว่าเขาจะไม่กลับไปคืนดีกับลลิสาอย่างที่บอกเอาไว้ และเธอก็คิดว่าเขาจะไม่ทำให้เธอต้องเสียใจเหมือนที่ธาดาเคยทำกับเธอมาแล้วอีกครั้งภูริชออกไปตั้งแต่บ่าย จนเวลานี้ก็สองทุ่มกว่าแล้วคนเป็นสามีก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะกลับมา ถึงใจหนึ่งเธอจะไว้ใจเขา แต่อีกใจหนึ่งเธอก็อดคิดไม่ได้ว่าภูริชกับลลิสาที่เคยเป็นคนรักกันมาก่อนจะหวนกลับไปคืนดีกันหรือเปล่าเพราะทั้งคู่ก็คบหากันมาก่อนเธอที่เพิ่งจะแต่งงานกับเขาได้ไม่กี่เดือน ความผูกพันระหว่างภูริชกับลลิสาย่อมมีมากว่าเธออยู่แล้วหรือเธอควรที่จะต้องทำใจและยอมรับ ว่าเมียแต่งที่ไม่ได้เกิดจากความรักตั้งแต่แรกอย่างเธอ คงจะสู้คนรักเก่าที่มีความ
ตอนที่13ภูริชประทับจูบลงที่เรียวปากอวบอิ่มอย่างลุ่มลึก อนงค์นางเองก็ตอบสนองการทักทายของเขาด้วยปลายลิ้นนุ่มลื่นอย่างดูดดื่ม ภูริชกระชับอ้อมกอดให้แน่นกว่าเดิม มือของเขาพยายามที่จะจัดการกับเสื้อผ้าที่มันขวางกั้นของอนงค์นางออกเมื่อเสื้อผ้าของอนงค์นางถูกปลดไปกองรวมที่พื้น ร่างเปลือยเปล่าที่อยู่ตรงหน้าช่างงดงามยิ่งนัก ส่วนเว้าส่วนโค้งช่างน่าหลงใหลและน่าสัมผัสไปทุกส่วนดวงตาคมลุกวาว มองสำรวจสัดส่วนของคนตรงหน้าทุกซอกทุกมุม ก่อนที่จะดึงร่างเปลือยเปล่าของเธอให้นอนราบลงกับที่นอน แล้วร่างสูงก็ทาบทับตามลงมา อนงค์นางรู้สึกเขินจนหน้าแดงก่ำ เมื่อมือไม้ที่ซุกซนของเขาลูบไล้ไปมาบนเรือนร่างของเธออย่างเพลิดเพลิน เรียวปากหยักได้รูปซุกไซ้อยู่บนคอระหง อารมณ์ของเขาตอนนี้โหยกระหายขึ้นเรื่อยๆ เมื่อยอดประทุมสีชมพูเข้มตั้งชูชันทักทายปลายลิ้นร้อน เขาดูดดื่มมันอย่างเมามัน ปลายนิ้วค่อยๆ แตะสัมผัสไปยังเนินสามเหลี่ยมของเธอ อนงค์นางครางออกมาอย่างยากที่จะเก็บเสียงเพลิงสวาทนั้นได้ เมื่อถูกปลายนิ้วกระดิกหยอกล้อไปมาบนเกสรของเธอ จนน้ำหวานไหลชุ่มฉ่ำล่อแมลงให้เข้ามาชอนไช“ไว้ใจพี่นะ พี่จะทำให้เบาและนุ่มนวลที่สุด” ภูริชเอ่ยใ
ตอนที่12วันนี้ภูริชต้องไปดูแลลูกค้าที่มาจากจีนแทนคุณหญิงกาบแก้ว โดยที่คุณหญิงให้อนงค์นางไปกับเขาด้วย ทั้งคู่พาลูกค้ามาเลี้ยงที่ผับดังแห่งหนึ่ง และที่นี่ภูริชก็เจอเข้ากับลลิสาโดยบังเอิญ เธอมากับรัฐมนตรีที่จองห้องวีไอพีเอาไว้เหมือนกัน แต่ลลิสาไม่เห็นภูริช เพราะมัวแต่เอาใจคนอายุมากที่เธอมาด้วยภูริชเมื่อเห็นการกระทำที่สนิทสนม และแนบชิดกันระหว่างลลิสากับคนแก่คราวพ่อนั่นก็มีอาการไม่พอใจ แต่ก็เข้าไปหาลลิสาไม่ได้เพราะมีลูกน้องของรัฐมนตรีคอยคุมอยู่หน้าห้อง จนสุดท้ายเขาก็หมดความอดทน บุกเข้าไปหาลลิสาถึงในห้อง และสิ่งที่เขาเห็นคือลลิสากำลังกอดจูบอยู่กับคนแก่คราวพ่อ ความผิดหวังทำให้เขาถึงกับต้องเดินหนีออกมา เพราะทนเห็นภาพตรงหน้าไม่ไหว ซึ่งคนที่อยู่ในห้องก็ไม่ทันได้เห็นว่าภูริชบุกเข้ามาอนงค์นางตามคนเป็นสามีออกมาเพราะความเป็นห่วง กลัวว่าความโกรธจะทำให้เขาทำอะไรแผลงๆ ขึ้นมา แต่ภูริชกลับแค่ออกมานั่งดื่มเหล้าเงียบๆ ที่บาร์ด้านนอกแทน“คุณภูคะ คุณโอเคหรือเปล่า?” อนงค์นางเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง คนที่ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม“ฉันไม่เป็นอะไร เธอเข้าไปดูแลลูกค้าเถอะ เดี๋ยวฉันตามเข้าไป” ภูริชบอก เพราะทิ้งลูกค้าออก
ตอนที่11ภูริชกลับมาที่ห้องของตัวเอง แล้วก็ได้แต่คิดว่าเขาทำรุนแรงกับอนงค์นางไปหรือเปล่า ต่อให้เธอจะได้ชื่อว่าเป็นภรรยา แต่เขาก็ไม่ควรที่จะทำอะไรกับเธอแบบนั้น ทั้งๆ ที่เธอเองก็ไม่ได้เต็มใจ ถึงมันจะแค่จูบก็เถอะแต่พอนึกถึงสัมผัสนั้นขึ้นมาเขากลับรู้สึกพอใจ และหลงใหลกับจูบของเธอ เพราะแค่หลับตาเขาก็คิดถึงแต่สัมผัสนั้นของเธออยู่ตลอด ทั้งที่เขาไม่ควรที่จะรู้สึกแบบนี้กับใครนอกจากลลิสาและพอนึกถึงลลิสา เธอก็โทรเข้ามาหาเข้าพอดี ภูริชถึงได้หลุดจากความคิดระหว่างเขากับอนงค์นาง“ครับลิสา”“ทำไมภูหายไปเลยล่ะคะ ไม่มาหาลิสาเลย” ปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน“พอดีคุณแม่เพิ่งกลับมาน่ะครับ แล้วผมก็ยุ่งมากด้วยเลยไม่ได้ไปหาคุณ”“ถ้าอย่างนั้นเย็นนี้ภูมาค้างกับลิสานะคะ ลิสาคิดถึงคุณค่ะ”“คงจะไม่ได้หรอกครับ ช่วงนี้คุณแม่จับผิดผมอยู่ แล้วท่านก็รู้เรื่องที่ลิสามาค้างกับผมที่บ้านด้วย ช่วงนี้เราอาจจะต้องห่างกันสักพักนะครับ”“แต่ลิสาคิดถึงคุณนะคะภู”“ผมก็คิดถึงคุณครับ แต่เพื่ออนาคตของเราผมว่าเราอย่าทำให้คุณแม่โกรธจะดีกว่านะ”“ก็ได้ค่ะ แต่คุณต้องสัญญานะคะว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับภรรยาของคุณ ระหว่างที่เราห่างกัน”“ผมสั
ตอนที่10อนงค์นางกลับมาพร้อมกับภูริช แต่พอมาถึงบ้านเขาก็ยังไม่เลิกพูดจาหาเรื่องเธอ“อนงค์นาง! อย่าเดินหนีฉันแบบนี้” ภูริชเดินตามขึ้นมาถึงบนห้องส่วนตัวของภรรยา เพราะเรื่องที่เขาคุยกับเธอบนรถมันยังไม่จบ“นางไม่มีเรื่องจะคุยกับคุณภูค่ะ”“ทำไมจะไม่มี ที่เธอเคยบอกว่าแต่งงานกับฉันเพราะเธอไม่ได้คิดที่จะรักฉัน มันหมายความว่ายังไง?”“นางไม่ได้พูดสักหน่อยว่าที่แต่งงานเพราะไม่ได้รักคุณภู ก็วันนั้นคุณภูเป็นคนพูดเองว่านางไม่มีหัวใจ นางก็แค่บอกว่าที่ยอมแต่งงานกับคุณภู เพราะคิดว่าคงจะไม่ได้ใช้หัวใจต่างหาก” อนงค์นางอธิบายกับเขา“นั่นแหละ! แล้วมันต่างกันตรงไหน ที่เธอบอกว่าไม่มีหัวใจ เพราะเธอให้กับไอ้แฟนเก่านั่นไปแล้วใช่มั้ยล่ะ?” เขาถามออกไปอย่างหงุดหงิด ทั้งๆ ที่ก็ไม่รู้ว่าทำไมจะต้องหงุดหงิดเมื่อต้องพูดถึงแฟนเก่าของเธอ“ค่ะ นางให้ธาดาไปแล้ว และเขาก็ทำลายมันไปแล้วด้วย นางถึงยอมแต่งงานกับคุณภู เพราะนางไม่คิดที่จะมีความรักให้กับใครได้อีก” เพราะความรักของเธอมันได้ตายไปตั้งแต่วันที่ธาดานอกใจเธอแล้วอนงค์นางมองเขาด้วยแววตาที่ไม่ได้บ่งบอกถึงความรู้สึกใดๆ ทั้งนั้น แต่มันกลับทำให้คนฟังรู้สึกเสียหน้าอย่างบอกไม่
Comments