แชร์

บทที่ 930

ผู้เขียน: โม่เสียวชี่
หลินเย่ว์มีสีหน้าเคร่งเครียดเล็กน้อยขณะมองเฉียวเนี่ยน

ก็เห็นว่าเฉียวเนี่ยนซื้อปิ่นมุกนั้นจากพ่อค้ามาแล้ว

ในใจพลันรู้สึกเจ็บหน่วง

หรือว่านางลืมไข่มุกเรืองแสงเม็ดนั้นไปแล้ว?

หรือว่านางไม่แยแสกับการที่เขาทำร้ายนางอีกแล้ว?

ไม่แยแส หมายความว่าไม่เคียดแค้นแล้วหรือเปล่า?

ไม่เคียดแค้น หมายความว่าจะไม่จดจำอีกแล้วหรือเปล่า?

ในชั่วขณะนี้ หลินเย่ว์พลันพบว่า เมื่อเปรียบกับการที่เฉียวเนี่ยนเกลียดเขา เขากลับกังวลว่าเฉียวเนี่ยนจะไม่เกลียดเขามากกว่า!

เขาได้แต่จ้องมองเฉียวเนี่ยนอย่างไม่อาจละสายตา ขณะเห็นนางเก็บปิ่นมุกนั้นอย่างเบามือ ราวกับว่ามันเป็นของล้ำค่าอย่างหนึ่ง

เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมนางถึงทำเช่นนั้น

ดังนั้นเขาจึงรีบสาวเท้าไปด้านหน้า แล้วก็เห็นปิ่นไม้ท้อที่วางอยู่บนแผงขายของ

เขาหยิบสุ่มหยิบขึ้นมา ซื้อไว้แล้วรีบตรงไปหาเฉียวเนี่ยน

เห็นหลินเย่ว์ที่พุ่งตัวมาทันใด เฉียวเนี่ยนก็รู้สึกสงสัย

ไม่ใช่ว่าเขาบอกเองหรือ ว่าจะตามอยู่ห่างๆ โดยไม่รบกวนสายตา?

แล้วนี่มันเรื่องอะไรอีกล่ะ?

เขายื่นปิ่นไม้ท้อมาตรงหน้าเฉียวเนี่ยน สีหน้าดูตึงเครียดเป็นพิเศษ “อันนี้ แกะสลักได้ดีกว่าที่ข้าแกะเสียอีก”

ขณะนั้น
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 932

    ชายชรามิได้ตอบ กลับเป็นฝ่ายย้อนถามว่า “ข้าว่าเจ้าคงมิได้ต้องการพิษเยือกมรณะ แต่ต้องการยาถอนพิษของพิษเยือกมรณะใช่หรือไม่?”เฉียวเนี่ยนสะท้านในใจ คาดไม่ถึงเลยว่าชายชราผู้นี้จะเดาออกอย่างง่ายดายถึงเพียงนี้ ใบหน้าจึงพลันหม่นลงโดยไม่รู้ตัวเมื่อเห็นท่าทางของเฉียวเนี่ยนเช่นนี้ ชายชราก็รู้ว่าตนเดาถูกแล้ว แต่กลับมีท่าทีสงสัย “แต่นั่นก็แปลก พิษเยือกมรณะนี้มิอาจอยู่ในร่างกายได้นานนัก บางทีแค่นอนหลับไปสักตื่น พิษในร่างกายก็อาจเลือนหายหมดแล้ว แล้วเหตุใดจึงต้องใช้ยาถอนพิษ?”เมื่อพูดถึงตรงนี้ ชายชราก็อดครุ่นคิดมิได้ “ฮึ่ม หรือว่าเป็นเพราะเกิดปฏิกิริยากับพิษสลายกระดูก ถึงทำให้มันสามารถคงอยู่ในร่างกายได้ยาวนาน?”เมื่อพูดถึงตรงนี้ สีหน้าชายชรากลับกลายเป็นท่าทีคล้ายดั่งได้ตาสว่างเห็นเขาเป็นเช่นนั้น เฉียวเนี่ยนก็อดรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาโดยไร้เหตุผลแต่นางก็ยังข่มกลั้นโทสะไว้ เอ่ยถามด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “เช่นนั้น ยาถอนพิษของพิษเยือกมรณะ ยังมีอยู่หรือไม่?”“ไม่มี” ชายชราส่ายศีรษะ “พิษชนิดนี้ก็ไม่ใช่ของดีอันใด เป็นเพียงสิ่งที่อดีตเจ้าสำนักราชาโอสถปรุงขึ้นโดยบังเอิญระหว่างทดลองปรุงพิษ เมื่อมันไม่อาจคงอย

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 931

    “ไม่ซื้อก็ไปให้พ้น” ชายชราเอ่ยอย่างไร้เยื่อใยเฉียวเนี่ยนรู้ตัวทันทีว่าชายชรานี้อารมณ์ร้าย ไม่ใช่คนที่รับมือได้ง่ายๆนางจึงเข้าประเด็นตรงๆ ถามว่า “เมื่อครู่นี้ที่เจ้าพูดว่ามีพิษที่ทำให้คนพิการเป็นอัมพาตอยู่ไหนล่ะ?”ชายชรามองเฉียวเนี่ยนอีกรอบ “ตกลงเจ้าจะซื้อพิษหรือจะซื้อยา?”เฉียวเนี่ยนก็ไม่พูดดีด้วย “เจ้ามาตั้งแผงอยู่ตรงนี้ จะมาสนใจอะไรว่าข้าจะซื้อพิษหรือซื้อยา? ข้าจะซื้อทั้งสองอย่างไม่ได้รึ?”ชายชราดูเหมือนไม่คาดคิดว่าเฉียวเนี่ยนจะ 'ปากกล้า' ถึงเพียงนี้ จึงพยักหน้ารับ “ได้ๆๆ พิษที่ทำให้พิการเป็นอัมพาตใช่ไหม? นี่ไง พิษสลายกระดูก ดื่มเพียงคำเดียวก็ทำให้คนนอนเป็นผักทั้งชีวิต และยังเจ็บแสบจนกระดูกแทบละลายทุกคืน รับรองว่าโหดสุดๆ! เจ้าจะซื้อไปใช้กับใครล่ะ? สามีเจ้าหรือ?”เฉียวเนี่ยนไม่ตอบ เพียงถามเสียงเย็น “แล้วพิษเยือกมรณะล่ะ? มีไหม?”พอได้ยินคำถามของเฉียวเนี่ยน สีหน้าชายชราก็เปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกในทันทีเขาจ้องมองเฉียวเนี่ยนอย่างพิจารณา ดวงตาเต็มไปด้วยความระแวง “เจ้าเป็นใครกันแน่?”“เจ้าไม่ต้องรู้หรอกว่าข้าเป็นใคร แค่ตอบมาก็พอ เจ้าใช่คนของสำนักราชาโอสถหรือไม่?” เฉียวเนี่ยนถามเสี

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 930

    หลินเย่ว์มีสีหน้าเคร่งเครียดเล็กน้อยขณะมองเฉียวเนี่ยนก็เห็นว่าเฉียวเนี่ยนซื้อปิ่นมุกนั้นจากพ่อค้ามาแล้วในใจพลันรู้สึกเจ็บหน่วงหรือว่านางลืมไข่มุกเรืองแสงเม็ดนั้นไปแล้ว?หรือว่านางไม่แยแสกับการที่เขาทำร้ายนางอีกแล้ว?ไม่แยแส หมายความว่าไม่เคียดแค้นแล้วหรือเปล่า?ไม่เคียดแค้น หมายความว่าจะไม่จดจำอีกแล้วหรือเปล่า?ในชั่วขณะนี้ หลินเย่ว์พลันพบว่า เมื่อเปรียบกับการที่เฉียวเนี่ยนเกลียดเขา เขากลับกังวลว่าเฉียวเนี่ยนจะไม่เกลียดเขามากกว่า!เขาได้แต่จ้องมองเฉียวเนี่ยนอย่างไม่อาจละสายตา ขณะเห็นนางเก็บปิ่นมุกนั้นอย่างเบามือ ราวกับว่ามันเป็นของล้ำค่าอย่างหนึ่งเขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมนางถึงทำเช่นนั้นดังนั้นเขาจึงรีบสาวเท้าไปด้านหน้า แล้วก็เห็นปิ่นไม้ท้อที่วางอยู่บนแผงขายของเขาหยิบสุ่มหยิบขึ้นมา ซื้อไว้แล้วรีบตรงไปหาเฉียวเนี่ยนเห็นหลินเย่ว์ที่พุ่งตัวมาทันใด เฉียวเนี่ยนก็รู้สึกสงสัยไม่ใช่ว่าเขาบอกเองหรือ ว่าจะตามอยู่ห่างๆ โดยไม่รบกวนสายตา?แล้วนี่มันเรื่องอะไรอีกล่ะ?เขายื่นปิ่นไม้ท้อมาตรงหน้าเฉียวเนี่ยน สีหน้าดูตึงเครียดเป็นพิเศษ “อันนี้ แกะสลักได้ดีกว่าที่ข้าแกะเสียอีก”ขณะนั้น

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 929

    เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย ในหัวพลันปรากฏภาพฉู่จืออี้สวมเสื้อผ้าชุดนี้ขึ้นมาว่าไป ชุดนี้ออกจะดูละเมียดละไมเล็กน้อย แต่ฉู่จืออี้แม้เป็นแม่ทัพ ทว่าชุดที่สวมในจวนอ๋องกลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายของนักปราชญ์ ดูไม่ขัดตา ตรงกันข้าม กลับเพิ่มเสน่ห์ให้เขาเมื่อก่อนตอนอยู่ที่หมู่บ้านเหอวาน ฉู่จืออี้แต่งตัวแบบพรานล่าสัตว์ ก็ยังไม่ดูขัดเขินเหมือนกับว่า เขาสามารถใส่ได้ทุกแบบ และใส่ออกมาดูดีทุกชุดคิดดังนั้น ริมฝีปากจึงยกยิ้มขึ้น “เช่นนั้นก็รบกวนท่านช่วยไปถามให้หน่อย”เด็กหนุ่มรับคำด้วยความยินดี แล้วก็รีบเดินไปถามพอกลับมาแจ้งราคา เฉียวเนี่ยนก็รู้สึกว่าถูกกว่าที่เมืองหลวงอยู่มาก จึงตัดสินใจซื้อมาเหตุการณ์ทั้งหมดนั้น แน่นอนว่าหลินเย่ว์เห็นเต็มตาพอเห็นนางซื้อเสื้อผ้าผู้ชาย คิ้วของหลินเย่ว์ก็ขมวดมุ่นเขารู้ตัวดีว่าไม่อาจหลงคิดไปเองว่าเฉียวเนี่ยนซื้อให้เขาแน่ๆแต่เพราะไม่ใช่ซื้อให้เขา เลยยิ่งรู้สึกไม่สบายใจว่าให้ชัดก็คือ การแต่งงานกับเซียวเหอครั้งก่อนนับว่าเป็นโมฆะ เพราะฉะนั้น ตอนนี้เฉียวเนี่ยนยังเป็นสาวโสดบริสุทธิ์อยู่แล้วนางจะซื้อเสื้อผ้าให้ชายอื่นได้อย่างไร?ซื้อให้ใคร?องครักษ์พยัคฆ์

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 928

    ตลอดทางนี้ เพราะนั่งรถม้า จึงช้ากว่าตอนที่ไปกับฉู่จืออี้ด้วยการควบม้าอยู่พอสมควร กว่าจะถึงเมืองจี๋เสียงก็ผ่านไปถึงสองวันเต็มมู่ซ่างเสวี่ยมายืนรอต้อนรับอยู่หน้าโรงแรมด้วยตัวเองมู่หงเสวี่ยลงจากรถม้า แนะนำกับมู่ซ่างเสวี่ยว่า “ท่านผู้นี้ก็คือหลานชายของท่านย่าทวด”พูดพลาง ก็กระซิบขึ้นต่อหน้าหลินเย่ว์ว่า “ความสัมพันธ์กับเนี่ยนเนี่ยนไม่ดีสักนิด”ถ้าจะวัดกันตามมาตรฐานของ ‘การพูดกระซิบ’ เสียงนั้นถือว่าดังไปหน่อยไม่ต้องพูดถึงมู่ซ่างเสวี่ย แม้แต่หลินเย่ว์กับเฉียวเนี่ยนก็ได้ยินชัดถนัดเต็มสองหูหน้าหลินเย่ว์ถมึงทึงทันทีแต่มู่ซ่างเสวี่ยดูเหมือนจะชินกับนิสัยของมู่หงเสวี่ยอยู่แล้ว จึงยกมือคารวะหลินเย่ว์แล้วพาสองคนเข้าโรงแรม “ท่านเจ้าตระกูลจะมาถึงพรุ่งนี้ วันนี้พวกท่านพักผ่อนให้เต็มที่เถิด วันนี้ที่เมืองจี๋เสียงมีตลาดนัดพอดี คึกคักยิ่งนัก ไว้ช่วงเย็นออกไปเดินเล่นได้นะ”เฉียวเนี่ยนกล่าวขอบคุณกับมู่ซ่างเสวี่ยนางอยากออกไปเดินเล่นจริงๆ นั่นแหละตอนออกจากเมืองหลวง แม้จะพกเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนมาด้วย แต่ตอนนี้อากาศเย็นลงทุกวัน อีกไม่นานคงจะเข้าสู่ฤดูหนาว แต่ทั้งนางกับหนิงซวงก็มีแค่เสื้อผ้าบางๆ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 927

    เห็นนางเป็นเช่นนั้น ฉู่จืออี้จึงถอนหายใจเบาๆหนึ่งที กล่าวว่า “เพราะวันนี้หลินเย่ว์เป็นห่วงเจ้า เจ้าถึงได้รู้สึกว่าตนเองพูดแรงไปหรือ?”เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ข้ารู้สึกว่า สำหรับหลินเย่ว์กับจวนโหว ข้าควรจะต้องเกลียดถึงจะถูก แต่ตอนนี้ จวนโหวก็กลายเป็นสภาพนี้แล้ว หลินเย่ว์ก็เกือบตายเพราะข้า ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตนเองควรจะยังเกลียดอยู่อีกไหม”ได้ยินดังนั้น ฉู่จืออี้ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเบาๆ อีกครั้ง “เจ้าน่ะ ชอบคิดมากเกินไปเสมอ”“ในโลกนี้ ไม่เคยมีอะไรที่เรียกว่าควรหรือไม่ควรเกลียด ต่อให้เป็นสะเก็ดแผลเก่าที่เลือดแห้งกรังไปแล้ว หากเจ้ารู้สึกเจ็บ มันก็คือเจ็บ”ดังนั้นจึงไม่มีอะไรที่เรียกได้ว่าควรหรือไม่ควร ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับว่านางสามารถปล่อยวางเรื่องในอดีตได้หรือไม่เท่านั้นหากเรื่องเหล่านั้น เมื่อนึกย้อนขึ้นมายังรู้สึกเจ็บอยู่ เช่นนั้นถึงจะยังเกลียด แล้วอย่างไรล่ะ?อย่างไรเสีย ที่จวนโหวกลายมาเป็นแบบทุกวันนี้ ไม่ใช่ว่านางเป็นคนทำเสียหน่อยแต่นางกลับต้องทนรับความเจ็บปวดเหล่านั้น ความเสียหายเหล่านั้น ล้วนเกี่ยวข้องกับทุกคนในจวนโหวทั้งสิ้น!เมื่อฟังคำขอ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status