แชร์

บทที่ 929

ผู้เขียน: โม่เสียวชี่
เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย ในหัวพลันปรากฏภาพฉู่จืออี้สวมเสื้อผ้าชุดนี้ขึ้นมา

ว่าไป ชุดนี้ออกจะดูละเมียดละไมเล็กน้อย แต่ฉู่จืออี้แม้เป็นแม่ทัพ ทว่าชุดที่สวมในจวนอ๋องกลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายของนักปราชญ์ ดูไม่ขัดตา ตรงกันข้าม กลับเพิ่มเสน่ห์ให้เขา

เมื่อก่อนตอนอยู่ที่หมู่บ้านเหอวาน ฉู่จืออี้แต่งตัวแบบพรานล่าสัตว์ ก็ยังไม่ดูขัดเขิน

เหมือนกับว่า เขาสามารถใส่ได้ทุกแบบ และใส่ออกมาดูดีทุกชุด

คิดดังนั้น ริมฝีปากจึงยกยิ้มขึ้น “เช่นนั้นก็รบกวนท่านช่วยไปถามให้หน่อย”

เด็กหนุ่มรับคำด้วยความยินดี แล้วก็รีบเดินไปถาม

พอกลับมาแจ้งราคา เฉียวเนี่ยนก็รู้สึกว่าถูกกว่าที่เมืองหลวงอยู่มาก จึงตัดสินใจซื้อมา

เหตุการณ์ทั้งหมดนั้น แน่นอนว่าหลินเย่ว์เห็นเต็มตา

พอเห็นนางซื้อเสื้อผ้าผู้ชาย คิ้วของหลินเย่ว์ก็ขมวดมุ่น

เขารู้ตัวดีว่าไม่อาจหลงคิดไปเองว่าเฉียวเนี่ยนซื้อให้เขาแน่ๆ

แต่เพราะไม่ใช่ซื้อให้เขา เลยยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ

ว่าให้ชัดก็คือ การแต่งงานกับเซียวเหอครั้งก่อนนับว่าเป็นโมฆะ เพราะฉะนั้น ตอนนี้เฉียวเนี่ยนยังเป็นสาวโสดบริสุทธิ์อยู่

แล้วนางจะซื้อเสื้อผ้าให้ชายอื่นได้อย่างไร?

ซื้อให้ใคร?

องครักษ์พยัคฆ์
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 932

    ชายชรามิได้ตอบ กลับเป็นฝ่ายย้อนถามว่า “ข้าว่าเจ้าคงมิได้ต้องการพิษเยือกมรณะ แต่ต้องการยาถอนพิษของพิษเยือกมรณะใช่หรือไม่?”เฉียวเนี่ยนสะท้านในใจ คาดไม่ถึงเลยว่าชายชราผู้นี้จะเดาออกอย่างง่ายดายถึงเพียงนี้ ใบหน้าจึงพลันหม่นลงโดยไม่รู้ตัวเมื่อเห็นท่าทางของเฉียวเนี่ยนเช่นนี้ ชายชราก็รู้ว่าตนเดาถูกแล้ว แต่กลับมีท่าทีสงสัย “แต่นั่นก็แปลก พิษเยือกมรณะนี้มิอาจอยู่ในร่างกายได้นานนัก บางทีแค่นอนหลับไปสักตื่น พิษในร่างกายก็อาจเลือนหายหมดแล้ว แล้วเหตุใดจึงต้องใช้ยาถอนพิษ?”เมื่อพูดถึงตรงนี้ ชายชราก็อดครุ่นคิดมิได้ “ฮึ่ม หรือว่าเป็นเพราะเกิดปฏิกิริยากับพิษสลายกระดูก ถึงทำให้มันสามารถคงอยู่ในร่างกายได้ยาวนาน?”เมื่อพูดถึงตรงนี้ สีหน้าชายชรากลับกลายเป็นท่าทีคล้ายดั่งได้ตาสว่างเห็นเขาเป็นเช่นนั้น เฉียวเนี่ยนก็อดรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาโดยไร้เหตุผลแต่นางก็ยังข่มกลั้นโทสะไว้ เอ่ยถามด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “เช่นนั้น ยาถอนพิษของพิษเยือกมรณะ ยังมีอยู่หรือไม่?”“ไม่มี” ชายชราส่ายศีรษะ “พิษชนิดนี้ก็ไม่ใช่ของดีอันใด เป็นเพียงสิ่งที่อดีตเจ้าสำนักราชาโอสถปรุงขึ้นโดยบังเอิญระหว่างทดลองปรุงพิษ เมื่อมันไม่อาจคงอย

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 931

    “ไม่ซื้อก็ไปให้พ้น” ชายชราเอ่ยอย่างไร้เยื่อใยเฉียวเนี่ยนรู้ตัวทันทีว่าชายชรานี้อารมณ์ร้าย ไม่ใช่คนที่รับมือได้ง่ายๆนางจึงเข้าประเด็นตรงๆ ถามว่า “เมื่อครู่นี้ที่เจ้าพูดว่ามีพิษที่ทำให้คนพิการเป็นอัมพาตอยู่ไหนล่ะ?”ชายชรามองเฉียวเนี่ยนอีกรอบ “ตกลงเจ้าจะซื้อพิษหรือจะซื้อยา?”เฉียวเนี่ยนก็ไม่พูดดีด้วย “เจ้ามาตั้งแผงอยู่ตรงนี้ จะมาสนใจอะไรว่าข้าจะซื้อพิษหรือซื้อยา? ข้าจะซื้อทั้งสองอย่างไม่ได้รึ?”ชายชราดูเหมือนไม่คาดคิดว่าเฉียวเนี่ยนจะ 'ปากกล้า' ถึงเพียงนี้ จึงพยักหน้ารับ “ได้ๆๆ พิษที่ทำให้พิการเป็นอัมพาตใช่ไหม? นี่ไง พิษสลายกระดูก ดื่มเพียงคำเดียวก็ทำให้คนนอนเป็นผักทั้งชีวิต และยังเจ็บแสบจนกระดูกแทบละลายทุกคืน รับรองว่าโหดสุดๆ! เจ้าจะซื้อไปใช้กับใครล่ะ? สามีเจ้าหรือ?”เฉียวเนี่ยนไม่ตอบ เพียงถามเสียงเย็น “แล้วพิษเยือกมรณะล่ะ? มีไหม?”พอได้ยินคำถามของเฉียวเนี่ยน สีหน้าชายชราก็เปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกในทันทีเขาจ้องมองเฉียวเนี่ยนอย่างพิจารณา ดวงตาเต็มไปด้วยความระแวง “เจ้าเป็นใครกันแน่?”“เจ้าไม่ต้องรู้หรอกว่าข้าเป็นใคร แค่ตอบมาก็พอ เจ้าใช่คนของสำนักราชาโอสถหรือไม่?” เฉียวเนี่ยนถามเสี

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 930

    หลินเย่ว์มีสีหน้าเคร่งเครียดเล็กน้อยขณะมองเฉียวเนี่ยนก็เห็นว่าเฉียวเนี่ยนซื้อปิ่นมุกนั้นจากพ่อค้ามาแล้วในใจพลันรู้สึกเจ็บหน่วงหรือว่านางลืมไข่มุกเรืองแสงเม็ดนั้นไปแล้ว?หรือว่านางไม่แยแสกับการที่เขาทำร้ายนางอีกแล้ว?ไม่แยแส หมายความว่าไม่เคียดแค้นแล้วหรือเปล่า?ไม่เคียดแค้น หมายความว่าจะไม่จดจำอีกแล้วหรือเปล่า?ในชั่วขณะนี้ หลินเย่ว์พลันพบว่า เมื่อเปรียบกับการที่เฉียวเนี่ยนเกลียดเขา เขากลับกังวลว่าเฉียวเนี่ยนจะไม่เกลียดเขามากกว่า!เขาได้แต่จ้องมองเฉียวเนี่ยนอย่างไม่อาจละสายตา ขณะเห็นนางเก็บปิ่นมุกนั้นอย่างเบามือ ราวกับว่ามันเป็นของล้ำค่าอย่างหนึ่งเขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมนางถึงทำเช่นนั้นดังนั้นเขาจึงรีบสาวเท้าไปด้านหน้า แล้วก็เห็นปิ่นไม้ท้อที่วางอยู่บนแผงขายของเขาหยิบสุ่มหยิบขึ้นมา ซื้อไว้แล้วรีบตรงไปหาเฉียวเนี่ยนเห็นหลินเย่ว์ที่พุ่งตัวมาทันใด เฉียวเนี่ยนก็รู้สึกสงสัยไม่ใช่ว่าเขาบอกเองหรือ ว่าจะตามอยู่ห่างๆ โดยไม่รบกวนสายตา?แล้วนี่มันเรื่องอะไรอีกล่ะ?เขายื่นปิ่นไม้ท้อมาตรงหน้าเฉียวเนี่ยน สีหน้าดูตึงเครียดเป็นพิเศษ “อันนี้ แกะสลักได้ดีกว่าที่ข้าแกะเสียอีก”ขณะนั้น

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 929

    เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย ในหัวพลันปรากฏภาพฉู่จืออี้สวมเสื้อผ้าชุดนี้ขึ้นมาว่าไป ชุดนี้ออกจะดูละเมียดละไมเล็กน้อย แต่ฉู่จืออี้แม้เป็นแม่ทัพ ทว่าชุดที่สวมในจวนอ๋องกลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายของนักปราชญ์ ดูไม่ขัดตา ตรงกันข้าม กลับเพิ่มเสน่ห์ให้เขาเมื่อก่อนตอนอยู่ที่หมู่บ้านเหอวาน ฉู่จืออี้แต่งตัวแบบพรานล่าสัตว์ ก็ยังไม่ดูขัดเขินเหมือนกับว่า เขาสามารถใส่ได้ทุกแบบ และใส่ออกมาดูดีทุกชุดคิดดังนั้น ริมฝีปากจึงยกยิ้มขึ้น “เช่นนั้นก็รบกวนท่านช่วยไปถามให้หน่อย”เด็กหนุ่มรับคำด้วยความยินดี แล้วก็รีบเดินไปถามพอกลับมาแจ้งราคา เฉียวเนี่ยนก็รู้สึกว่าถูกกว่าที่เมืองหลวงอยู่มาก จึงตัดสินใจซื้อมาเหตุการณ์ทั้งหมดนั้น แน่นอนว่าหลินเย่ว์เห็นเต็มตาพอเห็นนางซื้อเสื้อผ้าผู้ชาย คิ้วของหลินเย่ว์ก็ขมวดมุ่นเขารู้ตัวดีว่าไม่อาจหลงคิดไปเองว่าเฉียวเนี่ยนซื้อให้เขาแน่ๆแต่เพราะไม่ใช่ซื้อให้เขา เลยยิ่งรู้สึกไม่สบายใจว่าให้ชัดก็คือ การแต่งงานกับเซียวเหอครั้งก่อนนับว่าเป็นโมฆะ เพราะฉะนั้น ตอนนี้เฉียวเนี่ยนยังเป็นสาวโสดบริสุทธิ์อยู่แล้วนางจะซื้อเสื้อผ้าให้ชายอื่นได้อย่างไร?ซื้อให้ใคร?องครักษ์พยัคฆ์

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 928

    ตลอดทางนี้ เพราะนั่งรถม้า จึงช้ากว่าตอนที่ไปกับฉู่จืออี้ด้วยการควบม้าอยู่พอสมควร กว่าจะถึงเมืองจี๋เสียงก็ผ่านไปถึงสองวันเต็มมู่ซ่างเสวี่ยมายืนรอต้อนรับอยู่หน้าโรงแรมด้วยตัวเองมู่หงเสวี่ยลงจากรถม้า แนะนำกับมู่ซ่างเสวี่ยว่า “ท่านผู้นี้ก็คือหลานชายของท่านย่าทวด”พูดพลาง ก็กระซิบขึ้นต่อหน้าหลินเย่ว์ว่า “ความสัมพันธ์กับเนี่ยนเนี่ยนไม่ดีสักนิด”ถ้าจะวัดกันตามมาตรฐานของ ‘การพูดกระซิบ’ เสียงนั้นถือว่าดังไปหน่อยไม่ต้องพูดถึงมู่ซ่างเสวี่ย แม้แต่หลินเย่ว์กับเฉียวเนี่ยนก็ได้ยินชัดถนัดเต็มสองหูหน้าหลินเย่ว์ถมึงทึงทันทีแต่มู่ซ่างเสวี่ยดูเหมือนจะชินกับนิสัยของมู่หงเสวี่ยอยู่แล้ว จึงยกมือคารวะหลินเย่ว์แล้วพาสองคนเข้าโรงแรม “ท่านเจ้าตระกูลจะมาถึงพรุ่งนี้ วันนี้พวกท่านพักผ่อนให้เต็มที่เถิด วันนี้ที่เมืองจี๋เสียงมีตลาดนัดพอดี คึกคักยิ่งนัก ไว้ช่วงเย็นออกไปเดินเล่นได้นะ”เฉียวเนี่ยนกล่าวขอบคุณกับมู่ซ่างเสวี่ยนางอยากออกไปเดินเล่นจริงๆ นั่นแหละตอนออกจากเมืองหลวง แม้จะพกเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนมาด้วย แต่ตอนนี้อากาศเย็นลงทุกวัน อีกไม่นานคงจะเข้าสู่ฤดูหนาว แต่ทั้งนางกับหนิงซวงก็มีแค่เสื้อผ้าบางๆ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 927

    เห็นนางเป็นเช่นนั้น ฉู่จืออี้จึงถอนหายใจเบาๆหนึ่งที กล่าวว่า “เพราะวันนี้หลินเย่ว์เป็นห่วงเจ้า เจ้าถึงได้รู้สึกว่าตนเองพูดแรงไปหรือ?”เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ข้ารู้สึกว่า สำหรับหลินเย่ว์กับจวนโหว ข้าควรจะต้องเกลียดถึงจะถูก แต่ตอนนี้ จวนโหวก็กลายเป็นสภาพนี้แล้ว หลินเย่ว์ก็เกือบตายเพราะข้า ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตนเองควรจะยังเกลียดอยู่อีกไหม”ได้ยินดังนั้น ฉู่จืออี้ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเบาๆ อีกครั้ง “เจ้าน่ะ ชอบคิดมากเกินไปเสมอ”“ในโลกนี้ ไม่เคยมีอะไรที่เรียกว่าควรหรือไม่ควรเกลียด ต่อให้เป็นสะเก็ดแผลเก่าที่เลือดแห้งกรังไปแล้ว หากเจ้ารู้สึกเจ็บ มันก็คือเจ็บ”ดังนั้นจึงไม่มีอะไรที่เรียกได้ว่าควรหรือไม่ควร ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับว่านางสามารถปล่อยวางเรื่องในอดีตได้หรือไม่เท่านั้นหากเรื่องเหล่านั้น เมื่อนึกย้อนขึ้นมายังรู้สึกเจ็บอยู่ เช่นนั้นถึงจะยังเกลียด แล้วอย่างไรล่ะ?อย่างไรเสีย ที่จวนโหวกลายมาเป็นแบบทุกวันนี้ ไม่ใช่ว่านางเป็นคนทำเสียหน่อยแต่นางกลับต้องทนรับความเจ็บปวดเหล่านั้น ความเสียหายเหล่านั้น ล้วนเกี่ยวข้องกับทุกคนในจวนโหวทั้งสิ้น!เมื่อฟังคำขอ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status