Home / รักโบราณ / พลิกชะตานางร้ายลิขิตรัก / บทที่3 ข้าทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับท่านแล้วงั้นรึ

Share

บทที่3 ข้าทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับท่านแล้วงั้นรึ

last update Last Updated: 2025-08-12 16:29:24

ฉินหวางเฟย เยี่ยนเยว่ฉีเดินนวยนาดเข้ามา ทุกคนเห็นเช่นนั้นก็พากันลุกขึ้นต้อนรับสตรีสูงศักดิ์ที่สุดผู้หนึ่งในแคว้นหานอย่างพร้อมเพรียง

“พวกเรากำลังชื่นชมของขวัญที่เจิ้นหนิงโหวฮูหยินมอบให้ฮูหยินซื่อจื่อท่านนี้อยู่เพคะ” ถางซือเซียนซึ่งสนิทสนมกับชายาฉินอ๋องมากที่สุดตอบคำถามแทนทุกคน

“ข้ากับท่านโหวกลับมาไม่ทันร่วมแสดงความยินดีกับบุตรสาวของสหาย วันนี้ได้พบหน้าจึงถือโอกาสมอบของขวัญให้เพคะ” ฮูหยินเจิ้นหนิงโหวอธิบายถึงที่มาของการมอบของขวัญให้กัวรั่วชิง

“เป็นเช่นนี้เอง” เยี่ยนเยว่ฉีคลี่ยิ้มงดงามปานล่มเมือง พลางมองไปที่ข้อมือของกัวรั่วชิงแล้วพยักหน้าน้อยๆ “เจ้าเป็นคนรูปร่างหน้าตาอ่อนหวานหมดจด พอสวมหยกมันแพะไร้ตำหนิเยี่ยงนี้เข้าไป ยิ่งดูงดงามมากขึ้นจริงๆ”

“ขอบพระทัยหวางเฟยที่ทรงชื่นชมเพคะ” กัวรั่วชิงกล่าวกับผู้สูงศักดิ์ที่สุดในที่นี้อย่างนอบน้อม

“ไม่ต้องมากพิธี ข้าก็แค่พูดไปตามความจริงเท่านั้นแหละ” ว่าแล้วเยี่ยนเยว่ฉีก็เดินตรงไปยังที่นั่งของตนเอง ไม่ใส่ใจเรื่องนี้อีก

พอเห็นเช่นนั้น จงกงโหวฮูหยินที่บรรลุเป้าหมายของตนเองแล้วจึงกล่าวว่า “ยามนี้ดอกไม้ที่จวนกำลังเบ่งบานหอมกรุ่น หากพวกเจ้ากินอาหารกันอิ่มแล้ว ก็ออกไปเดินเล่นที่สวนเถิด”

เหล่าคุณหนูและฮูหยินอายุน้อยที่รอเวลาปลีกตัวจากบรรดาผู้อาวุโสอยู่แล้ว รีบกล่าวอำลาฉินหวางเฟยและเหล่าฮูหยินผู้สูงศักดิ์ทั้งหลายแล้วพากันแยกย้ายไปที่อื่นทันที

ส่วนกัวรั่วชิงที่ไม่ค่อยอยากอาหารนัก หลังจากกินของที่ชอบไปเล็กน้อย จึงคิดจะปลีกตัวไปเดินเล่นแถวๆ สระบัวของจวนเสียหน่อย เนื่องจากบริเวณนั้น เป็นสถานที่โปรดของนางกับเหยาหลิงเจินเมื่อกาลก่อน บางทีตอนนี้สหายในวัยเยาว์อาจจะนั่งเล่นอยู่แถวนั้นก็ได้

หลังสั่งให้กัวลี่ลี่ไปหาอะไรกินที่ส่วนรับรองผู้ติดตามก่อน นางก็เดินออกห่างจากบริเวณงานเลี้ยงรับรอง ผ่านประตูวงเดือนที่จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าจะพาเข้าไปในเขตสวนชั้นใน นางสาวเท้าไปตามทางเดินหิน และแนวต้นสนเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงสระบัวขนาดใหญ่ได้ในที่สุด

กั่วรั่วชิงเลียวซ้ายแลขวา จนแลเห็นสตรีในชุดสีชมพูเดินหายไปยังสวนอีกด้านหนึ่ง แม้จะผ่านไปเจ็ดปีแล้ว แต่นางมั่นใจว่านั่นจะต้องเป็นเหยาหลิงเจินอย่างแน่นอน

แต่ยังไม่ทันจะได้ติดตามคนที่คิดว่าเป็นสหายไป กัวจิ้งอีที่ไม่รู้โผล่มาตั้งแต่ตอนไหน ก็ส่งเสียงมาจากด้านหลัง “เจ้าเป็นใคร!!! นั่นน้องสามเองรึ”

“พี่หญิงใหญ่?” กัวรั่วชิงไม่คิดว่าออกมาไกลขนาดนี้แล้ว ยังจะมาเจอกับพี่สาวผู้แสนดีได้อีก โลกใบนี้คงเป็นทรงกลมแน่แล้ว

“เจ้ามาทำอะไรที่นี่ ทำไมไม่ไปชมดอกไม้กับคุณหนูท่านอื่นๆ เล่า”

“แล้วพี่หญิงเล่ามาทำอะไรแถวนี้คนเดียว”

“พอดีว่าพี่สาว เอ่อ...กำลังจะไปเสวนากับคุณหนูทั้งหลายทางสวนด้านโน้นอยู่เหมือนกัน เช่นนั้นเราสองคนพี่น้องไปด้วยกันเสียเลยดีหรือไม่”

“เชิญพี่หญิงใหญ่ตามสบายเถิด ข้าอยากจะเดินเล่นคนเดียวเงียบๆ แบบนี้มากกว่า” นางปฏิเสธเสียงเรียบ เรื่องอะไรจะตามไปเล่นบทตัวร้าย เพื่อส่งเสริมให้ผู้อื่นกลายเป็นนางเอกที่น่าสงสารกันเล่า

“หากเจ้าเอาแต่หลบหน้าอยู่อย่างนี้ ผู้อื่นก็จะยิ่งปักใจว่าเจ้าเป็นคนผิดอยู่ร่ำไป น้องสาม พี่สาวสัญญาว่าพยายามพูดเพื่อคลายความเข้าใจผิดเหล่านั้นให้กับเจ้าเอง แต่เจ้าต้องเลิกทำตัวเหมือนเป็นปฏิปักษ์กับข้าก่อน”

“แค่ไม่ทำตามที่พี่หญิงใหญ่แนะนำ ก็คือข้าทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับท่านแล้วงั้นรึ” คิ้วงามขมวดเข้าหากัน ทำให้สายตาที่มองพี่สาวร่วมสายเลือดดูเหมือนมีแรงกดดันเจืออยู่

“ข้าไม่ได้หมายความเยี่ยงนั้นเสียหน่อย น้องสามทำไมเจ้าต้องมองพี่สาวในแง่ร้ายแบบนี้ด้วย”

“ข้ามิได้มองพี่หญิงใหญ่ในแง่ร้าย อย่าลืมสิว่า เป็นท่านต่างหากที่พูดออกมาเองว่าน้องสาวทำตัวเป็นปฏิปักษ์”

สีหน้ากัวจิ้งอีพลันหม่นหมอง นางเดินเข้าไปใกล้น้องสาวที่ยามนี้เอาแต่มองมาด้วยแววตาระแวดระวังช้าๆ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นๆ “ถ้าคำพูดเมื่อครู่นี้ทำให้น้องสามเข้าใจผิด พี่สาวก็ต้องขออภัยด้วย”

“อย่าพูดเยี่ยงนั้นเลย เพราะเกรงว่าน้องสาวคงจะรับคำขออภัยของพี่หญิงใหญ่เอาไว้ไม่ไหว”

“ชิงเอ๋อร์ เราพี่น้องไม่ได้พูดคุยกันดีๆ มานานมากแล้ว เจ้าอย่าทำอย่างนี้ได้หรือไม่”

“ข้าทำอะไรงั้นหรือพี่หญิงใหญ่” กัวรั่วชิงถามเสียงเย็น

“เจ้าไม่รู้น่ะหรือว่าทำตัวเยี่ยงไรกับข้า จนตอนนี้คนอื่นๆ ก็พากันตำหนิเจ้าไปหมดแล้ว แบบนี้ต่อให้ข้ากัวจิ้งอีมีอีกสิบปาก ก็คงไม่อาจแก้ต่างแทนเจ้าไหว”

“หากไม่ไหว พี่หญิงใหญ่ก็ไม่ต้องทำสิเจ้าคะ แล้วถ้าเป็นเช่นนั้นได้น้องสาวจะรู้สึกขอบคุณท่านอย่างมาก” 

ครั้นกัวจิ้งอีเห็นกัวรั่วชิงที่เคยหัวอ่อนว่าง่ายแสดงอาการต่อต้าน หนักเข้านางก็ปราดเข้าไปเกาะแขนน้องสาวหัวรั้นของตน แล้วจิกเล็บลงไปอย่างแรง

“น้องสาม ข้ารู้ว่าเจ้าไม่พอใจที่คนอื่นๆ พากันสงสารข้า แล้วเอาแต่ตำหนิเจ้ากันหมด แต่พวกเราเป็นพี่น้องกันนะ”

“โอ๊ย!” กัวรั่วชิงพยายามสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของกัวจิ้งอี แต่อีกฝ่ายก็ออกแรงยื้อสุดกำลังไม่ต่างกัน

“น้องสาม พี่สาวเป็นห่วงเจ้าจริงๆ ใยต้องลงไม้ลงมือเยี่ยงนี้ด้วย”

นัยน์ตาของกัวรั่วชิงพลันเบิกกว้าง นางไม่คิดเลยว่าพี่สาวคนนี้จะใช้ลูกไม้กับตนไม่เลิก

“พี่หญิงใหญ่ข้าเจ็บนะ ปล่อย!”

แต่กัวจิ้งอีหาได้หยุดไม่ นางออกแรงชุดกระชากน้องสาวไปยังริมสระบัว พลางร้องตะโกนจนกลบเสียงห้ามปรามของกัวรั่วชิงจนมิด

“น้องสาม...ชิงเอ๋อร์...เจ้าจะทำอะไรน่ะ ทำไมต้องลากข้ามาตรงนี้ด้วย อย่านะ...อย่าทำอะไรข้าเลย”  

“เหลวไหล ท่านนั่นแหละคิดจะทำอะไรกันแน่!”

“น้องสาม เจ้าก็รู้ว่าข้าว่ายน้ำไม่เป็น อย่าผลักข้านะ ข้ากลัวแล้ว”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พลิกชะตานางร้ายลิขิตรัก   บทที่7 พบสหายเก่าผู้ไร้เดียงสา

    กัวรั่วชิงจำได้ว่าทางสายนี้นำไปยังภูเขาจำลอง ซึ่งนางกับคุณหนูเล็กสกุลเหยาชอบมาเล่นซ่อนแอบกันบริเวณนี้เป็นประจำ ด้วยที่นี่มีความพิเศษกว่าภูเขาจำลองของที่อื่น ตรงที่ถูกจัดวางเอาไว้เสมือนกับวงกต หากใครไม่รู้ทางแล้วเผลอเดินเข้าไปก็จะหลงอยู่ในนั้นโชคดีที่นางจำทางได้ ไม่ว่าจะเจอคนหรือไม่ก็ไม่มีทางหลง และแล้วเมื่อนางไปตามเส้นทางคดเคี้ยวสักระยะ ก็พบสตรีงดงามในชุดกระโปรงหรูฉวินสีเขียวตัดกับสีกลีบบัวกำลังเพลิดเพลินอยู่กับการเก็บดอกไม้ที่ริมน้ำ“เหยาหลิงเจิน! เจินเจิน เป็นเจ้าจริงๆ ด้วย” คนได้เจอสหายเก่าก้าวเท้าไวๆ ไปหาเหยาหลิงเจินด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความยินดี“จะ...เจินเจินงั้นเหรอ” ดวงตาดุจลูกวางสุกใสจดจองกัวรั่วชิงด้วยความไม่แน่ใจ “เจ้ารู้จักข้า?”“แน่นอนว่าต้องรู้จัก ข้าคือชิงชิงอย่างไรเล่า”“ชิงชิง?” เหยาหลิงเจินที่เหมือนจำอะไรไม่ได้พลันหันไปขอความช่วยเหลือจากคนสนิทข้างกายหลังจากกระซิบกระซาบกันอยู่ครู่หนึ่ง สาวใช้คนสนิทของเหยาหลิงเจินก็เดินหน้าขึ้นมากล่าวกับกัวจิ้งอี “คุณหนูของเราเพิ่งหายจากอาการป่วยได้ไม่นาน อาจจะยังมีอาการหลงลืมอยู่ ขอฮูหยินอย่าได้ถือสาเลยเจ้าค่ะ”“เจ้าจะบอกว่านางจ

  • พลิกชะตานางร้ายลิขิตรัก   บทที่6 ที่แท้พี่หญิงใหญ่ผู้แสนดีงามนัดพบผู้ชายเอาไว้หรอกรึ

    ปกติหวงเชียนเล่อเป็นคนเดินเร็วยิ่งกว่าอะไรดี แต่ในครั้งนี้เขากลับทอดน่องสบายๆ กว่าจะวกกลับมาถึงจุดเกิดเหตุอีกครั้ง ก็เล่นเอากัวจิ้งอีกับโจวจื่อหมิงรอจนขาแทบแข็งเลยทีเดียวครั้นทั้งสองมาถึง หวงเชียนเล่อมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวลของกัวจิ้งอีกับโจวจื่อหมิง ถึงใจจะรู้สึกชิงชังคนประเภทนี้เยี่ยงไร แต่ดวงหน้าคมเข้มกลับฉาบไว้ด้วยรอยยิ้มบาง“ดีที่ซื่อจื่อช่วยคุณหนูใหญ่สกุลกัวเอาไว้ก่อน เพราะต่อให้ข้ามีใจ แต่ก็คงไม่สามารถช่วยคนได้พร้อมกันถึงสองคน อย่างไรเสียนี่ก็เป็นเรื่องสุดวิสัย หวังว่าเจ้าจะไม่ถือสาที่ข้าถูกเนื้อต้องตัวฮูหยินของเจ้าใช่หรือไหม”เดิมทีหากไม่มีพยานรู้เห็น ต่อให้กัวรั่วชิงตกน้ำไป เขากับกัวจิ้งอีย่อมทำให้คนเชื่อได้ว่านี่เป็นเพียงอุบัติเหตุ แต่พอมีหวงเชียนเล่อเข้ามาเกี่ยวข้อง เขาคงยากจะพ้นข้อหาทำร้ายคน และคนผู้นั้นก็มิใช่ใครอื่น แต่เป็นภรรยาเอกที่กราบไหว้ฟ้าดินอย่างถูกต้อง ต่อให้ชาวบ้านจะเห็นใจเรื่องเขากับกัวจิ้งอี ทว่าการทำร้ายภรรยาเพื่อสตรีอื่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ผู้คนจะยอมรับได้ เมื่อครู่เขาหวาดหวั่นแทบตาย ว่าจะอธิบายอย่างไรให้หวงเชียนเล่อเชื่อว่าตนไม่ได้ตั้งใจลงไม้ลงมือกับ

  • พลิกชะตานางร้ายลิขิตรัก   บทที่5 พันธะริมสระบัว

    เมื่อครู่หวงเชียนเล่อพากั่วรั่วชิงทะยานมายังเกาะกลางสระ หากจะกลับไปที่เดิมพวกเขาต้องข้ามสะพานแล้วเดินอ้อมไปอีกทางหญิงสาวเยื้องย่างตามหลังแม่ทัพหนุ่มในระยะที่ไม่ห่างเหิน และไม่ใกล้ชิดจนเกินไป เพียงแค่พอให้สนทนากันได้เท่านั้นในระหว่างที่ข้ามสะพานนางมองไปยังจุดที่ตนเองเกือบจะพลัดตกลงสระ เห็นว่ายามนี้กัวจิ้งอีกับโจวจื่อหมิงก็ยังอยู่ตรงนั้นแม้กัวรั่วชิงรู้อยู่แก่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็อดทอดถอนใจไม่ได้ เพราะตั้งแต่นางต้องแต่งให้โจวจื่อหมิงแทนกัวจิ้งอี ทำให้ไม่ว่าเกิดเหตุอันใดระหว่างตนกับชายหญิงคู่นั้นทุกคนล้วนพร้อมใจกันชี้หน้าแล้วตัดสินว่านางเป็นคนผิดเสมอ เพียงเพราะเห็นใจสงสารคู่เหมยเขียวม้าไม่ไผ่ที่ถูกสตรีร้ายกาจเช่นตนตัดวาสนา“ไยเจ้าถอนหายใจเยี่ยงนั้นเล่า” แม้จะเพียงแผ่วเบา แต่ประสาทหูของผู้ฝึกวรยุทธย่อมไม่ธรรมดา“ผู้น้อยไม่ต้องการให้เรื่องนี้ลุกลามใหญ่โต เพราะอย่างไรคู่กรณีก็เป็นพี่สาวแท้ๆ กับสามีของผู้น้อย”“ไยพูดเยี่ยงนั้น ข้าไม่มีทางปล่อยคนผิดให้ลอยนวลไปได้แน่”“ตั้งแต่แรกท่านแม่ทัพคิดจะมอบความเป็นธรรมให้ผู้น้อย?” ดวงตาหงส์พลันเบิกกว้าง ไม่แน่ใจว่าตนเองหูฟาดไปหรือไม่ นางไม่พบพานคนท

  • พลิกชะตานางร้ายลิขิตรัก   บทที่4 แม่ทัพฉีหลิงปรากฏตัว

    สองพี่น้องสกุลกัวพัวพันกันอยู่ริมตลิ่ง คนหนึ่งยื้อยุด คนหนึ่งพยายามดิ้นหนี แต่มองจากไกลๆ ประกอบกับเสียงกรีดร้องของกัวจิ้งอีที่หากใครเข้ามาเห็นเหตุการณ์ขณะนี้ย่อมต้องนึกว่ากัวรั่วชิงกำลังพยายามจะผลักพี่สาวตนเองลงสระบัวอยู่แน่นอน“กัวรั่วชิง! เจ้าเป็นบ้าไปแล้วหรือไง หยุดเดี๋ยวนี้นะ” โจวจื่อหยวนพลันตวาดลั่น เขาไม่เห็นกัวจิ้งอีในงานเลยออกมาตามหาเผื่อว่าจะพบคนที่ใจคิดถึง กระทั่งเข้ามาพบเห็นเหตุการณ์นี้เข้าพอดี แต่ไม่ว่าจะร้องห้ามเท่าไรคนสองคนตรงหน้ายังไม่มีทีท่าว่าจะแยกจากกัน“พี่จื่อหยวน ช่วยข้าด้วย” กัวจิ้งอีส่งเสียงเรียกสามีของน้องสาวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว“ข้าบอกให้เจ้าปล่อยอีเอ๋อร์อย่างไรเล่า”โจวจื่อหยวนเห็นกัวจิ้งอีเป็นเช่นนั้น ก็ให้ปวดใจเหลือประมาณ และเพื่อจะช่วยเหลือสตรีในดวงใจจากนางจิ้งจอกอย่างกัวรั่วชิง เขาพุ่งกายออกไปราวลูกธนูที่หลุดออกจากแล่ง ชายหนุ่มคลั่งรักคว้าสตรีในดวงใจเข้าสู่อ้อมแขน พร้อมกับผลักคนที่ตนนึกรังเกียจอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันไปทางสระบัวอย่างไม่ไยดีแทน“ว้าย!!!”กัวรั่วชิงไม่อาจต้านแรงผลักของโจวจื่อหยวนได้ นางพลันเสียหลักซวนเซ จนเหลืออีกเพียงก้าวเดียวก็

  • พลิกชะตานางร้ายลิขิตรัก   บทที่3 ข้าทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับท่านแล้วงั้นรึ

    ฉินหวางเฟย เยี่ยนเยว่ฉีเดินนวยนาดเข้ามา ทุกคนเห็นเช่นนั้นก็พากันลุกขึ้นต้อนรับสตรีสูงศักดิ์ที่สุดผู้หนึ่งในแคว้นหานอย่างพร้อมเพรียง“พวกเรากำลังชื่นชมของขวัญที่เจิ้นหนิงโหวฮูหยินมอบให้ฮูหยินซื่อจื่อท่านนี้อยู่เพคะ” ถางซือเซียนซึ่งสนิทสนมกับชายาฉินอ๋องมากที่สุดตอบคำถามแทนทุกคน“ข้ากับท่านโหวกลับมาไม่ทันร่วมแสดงความยินดีกับบุตรสาวของสหาย วันนี้ได้พบหน้าจึงถือโอกาสมอบของขวัญให้เพคะ” ฮูหยินเจิ้นหนิงโหวอธิบายถึงที่มาของการมอบของขวัญให้กัวรั่วชิง“เป็นเช่นนี้เอง” เยี่ยนเยว่ฉีคลี่ยิ้มงดงามปานล่มเมือง พลางมองไปที่ข้อมือของกัวรั่วชิงแล้วพยักหน้าน้อยๆ “เจ้าเป็นคนรูปร่างหน้าตาอ่อนหวานหมดจด พอสวมหยกมันแพะไร้ตำหนิเยี่ยงนี้เข้าไป ยิ่งดูงดงามมากขึ้นจริงๆ”“ขอบพระทัยหวางเฟยที่ทรงชื่นชมเพคะ” กัวรั่วชิงกล่าวกับผู้สูงศักดิ์ที่สุดในที่นี้อย่างนอบน้อม“ไม่ต้องมากพิธี ข้าก็แค่พูดไปตามความจริงเท่านั้นแหละ” ว่าแล้วเยี่ยนเยว่ฉีก็เดินตรงไปยังที่นั่งของตนเอง ไม่ใส่ใจเรื่องนี้อีกพอเห็นเช่นนั้น จงกงโหวฮูหยินที่บรรลุเป้าหมายของตนเองแล้วจึงกล่าวว่า “ยามนี้ดอกไม้ที่จวนกำลังเบ่งบานหอมกรุ่น หากพวกเจ้ากินอาหารกันอิ่มแ

  • พลิกชะตานางร้ายลิขิตรัก   บทที่2 งานเลี้ยงน้ำชาที่ไร้รส

    ตามหลักการเรื่องชายหญิงไม่อาจใกล้ชิด เวลาจัดงานเลี้ยงจึงต้องแยกส่วนรับรอง ถึงแม้จะต้องทำตามธรรมเนียม แต่หลายครั้งเจ้าของงงานเลี้ยงก็เพียงตั้งกระโจมห่างกันไม่ใกล้ไม่ไกลอย่างครานี้ เจิ้นหนิงโหวใช้คูน้ำทางเชื่อมภายในเป็นตัวแยกอาณาเขตระหว่างบุรุษและสตรี ทำให้หากมองไป ก็ยังคงเห็นความเคลือนไหวของฝั่งตรงข้ามได้อยู่เนืองๆหลังหญิงนำทางจากไปแล้ว กัวรั่วชิงเดินนำกัวลี่ลี่สาวใช้คนสนิทไปคารวะเจิ้นหนิงโหวฮูหยินเป็นอันดับแรกตามมารยาท แน่นอนว่านางพยายามไม่ให้ความสนใจกับสายตาของบรรดาฮูหยินจวนอื่นๆ ที่กำลังนั่งสนทนากันอยู่กับเจ้าบ้าน รวมไปถึงกัวจิ้งอีพี่สาวของนางด้วยครั้นเห็นน้องสาวก้มหน้าก้มตา ไม่แม้แต่จะมองหน้ากัน สีหน้าของกัวจิ้งอีพลันหม่นหมอง พาให้คนมองรู้สึกสงสารนางมากยิ่งขึ้น แล้วให้ตำหนิกัวรั่วชิงในใจแทนแต่นายหญิงของที่นี่กลับทักทายผู้มาใหม่อย่างเป็นมิตรยิ่ง“คุณหนูรองสกุลกัวนี่เอง” ผู้อาวุโสรับการคารวะด้วยรอยยิ้ม “ไม่เจอกันเสียหลายปี ตอนนี้กลายเป็นฮูหยินซื่อจื่อจวงเซียงป๋อไปแล้วใช่หรือไม่”“เจ้าค่ะ” กัวรั่วชิงตอบรับสั้นๆ ด้วยท่าทางสำรวม“เสียดายข้ากับท่านโหวกลับมาไม่ทันงานมงคลของเจ้า ไม่อย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status