Home / รักโบราณ / พลิกชะตานางร้ายลิขิตรัก / บทที่3 ข้าทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับท่านแล้วงั้นรึ

Share

บทที่3 ข้าทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับท่านแล้วงั้นรึ

last update Last Updated: 2025-08-12 16:29:24

ฉินหวางเฟย เยี่ยนเยว่ฉีเดินนวยนาดเข้ามา ทุกคนเห็นเช่นนั้นก็พากันลุกขึ้นต้อนรับสตรีสูงศักดิ์ที่สุดผู้หนึ่งในแคว้นหานอย่างพร้อมเพรียง

“พวกเรากำลังชื่นชมของขวัญที่เจิ้นหนิงโหวฮูหยินมอบให้ฮูหยินซื่อจื่อท่านนี้อยู่เพคะ” ถางซือเซียนซึ่งสนิทสนมกับชายาฉินอ๋องมากที่สุดตอบคำถามแทนทุกคน

“ข้ากับท่านโหวกลับมาไม่ทันร่วมแสดงความยินดีกับบุตรสาวของสหาย วันนี้ได้พบหน้าจึงถือโอกาสมอบของขวัญให้เพคะ” ฮูหยินเจิ้นหนิงโหวอธิบายถึงที่มาของการมอบของขวัญให้กัวรั่วชิง

“เป็นเช่นนี้เอง” เยี่ยนเยว่ฉีคลี่ยิ้มงดงามปานล่มเมือง พลางมองไปที่ข้อมือของกัวรั่วชิงแล้วพยักหน้าน้อยๆ “เจ้าเป็นคนรูปร่างหน้าตาอ่อนหวานหมดจด พอสวมหยกมันแพะไร้ตำหนิเยี่ยงนี้เข้าไป ยิ่งดูงดงามมากขึ้นจริงๆ”

“ขอบพระทัยหวางเฟยที่ทรงชื่นชมเพคะ” กัวรั่วชิงกล่าวกับผู้สูงศักดิ์ที่สุดในที่นี้อย่างนอบน้อม

“ไม่ต้องมากพิธี ข้าก็แค่พูดไปตามความจริงเท่านั้นแหละ” ว่าแล้วเยี่ยนเยว่ฉีก็เดินตรงไปยังที่นั่งของตนเอง ไม่ใส่ใจเรื่องนี้อีก

พอเห็นเช่นนั้น จงกงโหวฮูหยินที่บรรลุเป้าหมายของตนเองแล้วจึงกล่าวว่า “ยามนี้ดอกไม้ที่จวนกำลังเบ่งบานหอมกรุ่น หากพวกเจ้ากินอาหารกันอิ่มแล้ว ก็ออกไปเดินเล่นที่สวนเถิด”

เหล่าคุณหนูและฮูหยินอายุน้อยที่รอเวลาปลีกตัวจากบรรดาผู้อาวุโสอยู่แล้ว รีบกล่าวอำลาฉินหวางเฟยและเหล่าฮูหยินผู้สูงศักดิ์ทั้งหลายแล้วพากันแยกย้ายไปที่อื่นทันที

ส่วนกัวรั่วชิงที่ไม่ค่อยอยากอาหารนัก หลังจากกินของที่ชอบไปเล็กน้อย จึงคิดจะปลีกตัวไปเดินเล่นแถวๆ สระบัวของจวนเสียหน่อย เนื่องจากบริเวณนั้น เป็นสถานที่โปรดของนางกับเหยาหลิงเจินเมื่อกาลก่อน บางทีตอนนี้สหายในวัยเยาว์อาจจะนั่งเล่นอยู่แถวนั้นก็ได้

หลังสั่งให้กัวลี่ลี่ไปหาอะไรกินที่ส่วนรับรองผู้ติดตามก่อน นางก็เดินออกห่างจากบริเวณงานเลี้ยงรับรอง ผ่านประตูวงเดือนที่จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าจะพาเข้าไปในเขตสวนชั้นใน นางสาวเท้าไปตามทางเดินหิน และแนวต้นสนเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงสระบัวขนาดใหญ่ได้ในที่สุด

กั่วรั่วชิงเลียวซ้ายแลขวา จนแลเห็นสตรีในชุดสีชมพูเดินหายไปยังสวนอีกด้านหนึ่ง แม้จะผ่านไปเจ็ดปีแล้ว แต่นางมั่นใจว่านั่นจะต้องเป็นเหยาหลิงเจินอย่างแน่นอน

แต่ยังไม่ทันจะได้ติดตามคนที่คิดว่าเป็นสหายไป กัวจิ้งอีที่ไม่รู้โผล่มาตั้งแต่ตอนไหน ก็ส่งเสียงมาจากด้านหลัง “เจ้าเป็นใคร!!! นั่นน้องสามเองรึ”

“พี่หญิงใหญ่?” กัวรั่วชิงไม่คิดว่าออกมาไกลขนาดนี้แล้ว ยังจะมาเจอกับพี่สาวผู้แสนดีได้อีก โลกใบนี้คงเป็นทรงกลมแน่แล้ว

“เจ้ามาทำอะไรที่นี่ ทำไมไม่ไปชมดอกไม้กับคุณหนูท่านอื่นๆ เล่า”

“แล้วพี่หญิงเล่ามาทำอะไรแถวนี้คนเดียว”

“พอดีว่าพี่สาว เอ่อ...กำลังจะไปเสวนากับคุณหนูทั้งหลายทางสวนด้านโน้นอยู่เหมือนกัน เช่นนั้นเราสองคนพี่น้องไปด้วยกันเสียเลยดีหรือไม่”

“เชิญพี่หญิงใหญ่ตามสบายเถิด ข้าอยากจะเดินเล่นคนเดียวเงียบๆ แบบนี้มากกว่า” นางปฏิเสธเสียงเรียบ เรื่องอะไรจะตามไปเล่นบทตัวร้าย เพื่อส่งเสริมให้ผู้อื่นกลายเป็นนางเอกที่น่าสงสารกันเล่า

“หากเจ้าเอาแต่หลบหน้าอยู่อย่างนี้ ผู้อื่นก็จะยิ่งปักใจว่าเจ้าเป็นคนผิดอยู่ร่ำไป น้องสาม พี่สาวสัญญาว่าพยายามพูดเพื่อคลายความเข้าใจผิดเหล่านั้นให้กับเจ้าเอง แต่เจ้าต้องเลิกทำตัวเหมือนเป็นปฏิปักษ์กับข้าก่อน”

“แค่ไม่ทำตามที่พี่หญิงใหญ่แนะนำ ก็คือข้าทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับท่านแล้วงั้นรึ” คิ้วงามขมวดเข้าหากัน ทำให้สายตาที่มองพี่สาวร่วมสายเลือดดูเหมือนมีแรงกดดันเจืออยู่

“ข้าไม่ได้หมายความเยี่ยงนั้นเสียหน่อย น้องสามทำไมเจ้าต้องมองพี่สาวในแง่ร้ายแบบนี้ด้วย”

“ข้ามิได้มองพี่หญิงใหญ่ในแง่ร้าย อย่าลืมสิว่า เป็นท่านต่างหากที่พูดออกมาเองว่าน้องสาวทำตัวเป็นปฏิปักษ์”

สีหน้ากัวจิ้งอีพลันหม่นหมอง นางเดินเข้าไปใกล้น้องสาวที่ยามนี้เอาแต่มองมาด้วยแววตาระแวดระวังช้าๆ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นๆ “ถ้าคำพูดเมื่อครู่นี้ทำให้น้องสามเข้าใจผิด พี่สาวก็ต้องขออภัยด้วย”

“อย่าพูดเยี่ยงนั้นเลย เพราะเกรงว่าน้องสาวคงจะรับคำขออภัยของพี่หญิงใหญ่เอาไว้ไม่ไหว”

“ชิงเอ๋อร์ เราพี่น้องไม่ได้พูดคุยกันดีๆ มานานมากแล้ว เจ้าอย่าทำอย่างนี้ได้หรือไม่”

“ข้าทำอะไรงั้นหรือพี่หญิงใหญ่” กัวรั่วชิงถามเสียงเย็น

“เจ้าไม่รู้น่ะหรือว่าทำตัวเยี่ยงไรกับข้า จนตอนนี้คนอื่นๆ ก็พากันตำหนิเจ้าไปหมดแล้ว แบบนี้ต่อให้ข้ากัวจิ้งอีมีอีกสิบปาก ก็คงไม่อาจแก้ต่างแทนเจ้าไหว”

“หากไม่ไหว พี่หญิงใหญ่ก็ไม่ต้องทำสิเจ้าคะ แล้วถ้าเป็นเช่นนั้นได้น้องสาวจะรู้สึกขอบคุณท่านอย่างมาก” 

ครั้นกัวจิ้งอีเห็นกัวรั่วชิงที่เคยหัวอ่อนว่าง่ายแสดงอาการต่อต้าน หนักเข้านางก็ปราดเข้าไปเกาะแขนน้องสาวหัวรั้นของตน แล้วจิกเล็บลงไปอย่างแรง

“น้องสาม ข้ารู้ว่าเจ้าไม่พอใจที่คนอื่นๆ พากันสงสารข้า แล้วเอาแต่ตำหนิเจ้ากันหมด แต่พวกเราเป็นพี่น้องกันนะ”

“โอ๊ย!” กัวรั่วชิงพยายามสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของกัวจิ้งอี แต่อีกฝ่ายก็ออกแรงยื้อสุดกำลังไม่ต่างกัน

“น้องสาม พี่สาวเป็นห่วงเจ้าจริงๆ ใยต้องลงไม้ลงมือเยี่ยงนี้ด้วย”

นัยน์ตาของกัวรั่วชิงพลันเบิกกว้าง นางไม่คิดเลยว่าพี่สาวคนนี้จะใช้ลูกไม้กับตนไม่เลิก

“พี่หญิงใหญ่ข้าเจ็บนะ ปล่อย!”

แต่กัวจิ้งอีหาได้หยุดไม่ นางออกแรงชุดกระชากน้องสาวไปยังริมสระบัว พลางร้องตะโกนจนกลบเสียงห้ามปรามของกัวรั่วชิงจนมิด

“น้องสาม...ชิงเอ๋อร์...เจ้าจะทำอะไรน่ะ ทำไมต้องลากข้ามาตรงนี้ด้วย อย่านะ...อย่าทำอะไรข้าเลย”  

“เหลวไหล ท่านนั่นแหละคิดจะทำอะไรกันแน่!”

“น้องสาม เจ้าก็รู้ว่าข้าว่ายน้ำไม่เป็น อย่าผลักข้านะ ข้ากลัวแล้ว”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พลิกชะตานางร้ายลิขิตรัก   บทที่130 ความร้อนรุ่มในศาลาสวนไผ่

    หูจวี๋เผยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยเสน่หา “ได้ ข้าจะทำให้เจ้ารู้ซึ้ง” เขาค่อยๆ โน้มใบหน้าลง บรรจงจุมพิตที่ริมฝีปากของกัวลี่ลี่อย่างอ่อนโยน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นจูบที่ดูดดื่มและร้อนแรงตามความรู้สึกที่ได้ยินมาจากห้องหอ ใช้ความชำนาญที่สั่งสมมาเพื่อปลุกเร้าความรู้สึกที่ซ่อนเร้นของนาง มือของเขากอดประคองเอวบางไว้แน่น แต่ไม่ได้ล่วงเกินไปมากกว่านั้นกัวลี่ลี่ส่งเสียงครางเบาๆ ในลำคออย่างห้ามไม่อยู่ นางสับสนกับความรู้สึกที่ไม่เคยเจอมาก่อน แต่ความรู้สึกที่ก่อตัวนี้ทำให้นางร้อนรุ่ม และรู้สึกดีมากจนต้องตอบสนองหูจวี๋หูจวี๋รับรู้ถึงการตอบสนองที่ไร้เดียงสาของกัวลี่ลี่ เขาหัวเราะในลำคออย่างพึงพอใจ ลิ้นของเขา ลาดเลียริมฝีปากนุ่มอย่างดูดดื่มและเนิ่นนาน เพิ่มความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตามความตื่นเต้นที่ก่อตัว เขาใช้มือข้างหนึ่งโอบประคองเอวบางไว้แน่น ส่วนอีกข้างก็เลื่อนไปเชยคางมนของนาง ให้แหงนเงยรับจูบของเขาอย่างเต็มที่กัวลี่ลี่รู้สึกราวกับว่ามีกระแสไฟวาบหวามพุ่งขึ้นจากปลายเท้าไปสู่ศีรษะ ตัวอ่อนยวบยาบจนต้องเกาะบ่าแข็งแรงของหูจวี๋ไว้แน่น นางแทบไม่เหลือสติที่จ

  • พลิกชะตานางร้ายลิขิตรัก   บทที่129 เสียงรักร้อนเร่าที่เล็ดลอด

    ทว่าความอ่อนโยนของน้ำอุ่น และกลิ่นหอมของกลีบดอกไม้กลับไม่ได้ช่วยให้ไฟปรารถนาของหวงเชียนเล่อลดลง มีแต่จะยิ่งคิดเตลิดไปไกล ร่างกายส่วนล่างของเขาที่แนบชิดกับนางเริ่มแข็งขืนขึ้นมาอีกครั้ง เขาซบหน้าลงกับลำคอขาวผ่องแล้วขบเม้มอย่างยั่วยวน พลางเคลื่อนฝ่ามือร้อนลงไปลูบไล้เนินเนื้ออ่อนนุ่มที่อยู่ใต้น้ำอย่างเชื่องช้า“ท่านพี่... ท่านไม่เหนื่อยบ้างหรือ” กัวรั่วชิงถามเสียงสั่น เพราะความรู้สึกวาบหวามที่ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง“อยู่กับเจ้าไม่เหนื่อยเลย สบายกว่าตอนไปรบเยอะ” เขาตอบอย่างหนักแน่น พลางพลิกนางให้หันหน้ามาหาตนเอง แล้วก้มลงบรรจงจุมพิตที่ริมฝีปากอิ่มอย่างดูดดื่ม ก่อนจะช้อนขาเรียวของนางข้างหนึ่งขึ้นมาพาดบ่าอย่างคล่องแคล่วหวงเชียนเล่อไม่รอช้า ใช้แรงจากสะโพกดันแก่นกายเข้าสู่ร่องสวาทของนางอย่างรวดเร็วและหนักหน่วง น้ำในอ่างกระฉอกสาดกระเซ็น เมื่อทั้งคู่เริ่มเคลื่อนไหว เขาจับเอวบางไว้มั่น แล้วกระแทกเข้าออกอย่างเป็นจังหวะภายในอ่างน้ำอุ่นที่เปรียบเสมือนรังรักอีกแห่งหนึ่ง“อ๊ะ... เชียนเล่อ... เชียนเล่อ...” กัวรั่วชิงเรีย

  • พลิกชะตานางร้ายลิขิตรัก   บทที่128 ยังอวบอวลด้วยความปรารถนา

    หวงเชียนเล่อรู้ว่านางกังวลอะไร แต่นี่คือจวนแม่ทัพในเมืองหลวง คนที่ใหญ่ที่สุดที่นี่คือเขา เรื่องธรรมเนียมหยุมหยิม หากเขาเห็นว่าไม่ควรใส่ใจ ก็คือไม่จำเป็นต้องเคร่งครัด“ชิงเอ๋อร์... ไม่ต้องคิดมาก ยอมให้ข้ารักเจ้าอีกก็พอ” เขาคำรามเสียงต่ำ พลางใช้ลิ้นไล้เลียยอดถันสีชมพูที่ตั้งชันอยู่บนเนินอกอิ่มอย่างยั่วยวน เขาดูดดึงอย่างรุนแรงจนกัวรั่วชิงส่งเสียงครางหวานซ่านออกมาชายหนุ่มที่ถูกความต้องการกัดกินไม่คิดจะรอนาน เขาจัดท่าทางให้นางอ้าขาออกเล็กน้อย ก่อนจะกดแก่นกายใหญ่โตอันแข็งขืนเข้าสู่ช่องทางรักที่เพิ่งถูกใช้งานไปเมื่อคืนอย่างช้าๆ การรุกรานที่ช้าแต่หนักแน่น ทำให้กัวรั่วชิงต้องจิกผ้าปูเตียงด้วยความเสียวซ่านที่รุนแรงกว่าครั้งแรก“อ๊ะ... ท่านพี่... มัน... มันแน่น” นางกระซิบเสียงสั่น“มันควรเป็นเช่นนี้” หวงเชียนเล่อยิ้มกริ่มอย่างสมใจ แล้วเริ่มขยับสะโพกในจังหวะที่รุนแรงและเร่าร้อนมากขึ้น แก่นกายแกร่งเข้าลึกสุดลำทุกจังหวะ เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้องไปทั่วห้องหอ บ่งบอกถึงความหลงใหลอย่างเต็มที่“อ๊า... ท่าน

  • พลิกชะตานางร้ายลิขิตรัก   บทที่127 เสน่หาล้นเรือน

    หวงเชียนเล่อซบหน้าลงกับไหล่ของนางด้วยความอ่อนล้าปนความสุขสม เขายังคงไม่ถอดถอนกายออกมา ร่างทั้งสองแนบชิดเป็นหนึ่งเดียว ท่ามกลางกลิ่นหอมของเครื่องหอมมงคลและแสงเทียนสีแดงที่ส่องสว่างจนเกือบจะดับมอดลง“ขอบคุณที่อดทนเพื่อข้า ชิงเอ๋อร์” เขาพึมพำกับนางด้วยความรักใคร่ และรู้ว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของค่ำคืนนี้เท่านั้นรอจนกระทั่งลมหายใจของทั้งคู่เริ่มกลับมาเป็นปกติ หวงเชียนเล่อจึงค่อยถอนตัวออกมาอย่างช้าๆ หวงเชียนเล่อเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของภรรยา ดวงตาของเขาลุกโชนด้วยไฟแห่งความปรารถนาซึ่งยิ่งแรงกล้าหลังการร่วมรักครั้งแรก เขาไม่รอช้าที่จะบรรจงจุมพิตที่เต็มไปด้วยความเสน่หา ร้อนแรงกว่าครั้งใดๆ ที่เคยมีมา บดเบียดริมฝีปากลงไปอย่างหนักหน่วงและดูดดื่ม ลิ้นร้อนสอดประสานเข้าไปตักตวงความหอมหวานอย่างไม่รู้จักพอกัวรั่วชิงตอบรับจูบนั้นอย่างโหยหา มือของนางยกขึ้นประคองใบหน้าของเขาไว้ จูบนี้ไม่ใช่แค่การแสดงความรัก แต่เป็นการยืนยันความผูกพันที่ร้อนแรงและลึกซึ้งยิ่งกว่าคำมั่นสัญญาใดๆครั้นจุมพิตจนร่างอ่อนระทวยไปทั้งร่าง หวงเชียนเล่อจึงค่อยตัดใจลุกขึ้น

  • พลิกชะตานางร้ายลิขิตรัก   บทที่126 คืนรัญจวน ตรึงใจมิรู้ลืม

    ครั้นเห็นนางสงบลงแล้ว เขาก็เคลื่อนกายขึ้นทาบทับ พลางยกตัวขึ้นเล็กน้อยแล้วค่อยๆ สอดแทรกตัวตนของเขาเข้าไปในร่องสวาทของนางอย่างช้าๆกัวรั่วชิงนิ่วหน้าเล็กน้อยด้วยความเจ็บปวด นางกัดริมฝีปากแน่นจนซีดเผือด “อูย... เจ็บ...” นางกระซิบเสียงสั่นเครือหวงเซียนเล่อหยุดชะงักทันที เขาก้มลงมองใบหน้าของนาง แล้วใช้ปลายนิ้วเกลี่ยริมฝีปากของนางอย่างอ่อนโยน เพื่อให้นางหายเกร็ง“อดทนหน่อยนะชิงเอ๋อร์... ข้าจะไปอย่างช้าๆ” เขากระซิบปลอบโยน ก่อนขยับกายเข้าออกอีกครั้งอย่างแผ่วเบาเพื่อให้นางปรับตัวได้ เขาก้มลงจุมพิตซอกคอและลาดไหล่ ไล่ลงมาจนถึงปทุมถันคู่งาม เขาดูดดึงขบกัดเบาๆ บนยอดสีชมพูจนนางสะท้าน ขณะที่ขยับสะโพกส่งลำเอ็นเข้าไปในร่องสวาทพร้อมกันแรงเสียดทานที่เกิดขึ้นทำให้กัวรั่วชิงต้องจิกเล็บลงบนหลังของเขาแน่น หวงเซียนเล่อสอดแก่นกายเข้าลึกขึ้นเรื่อยๆ จนสุดลำ เมื่อฝากฝังตัวตนใหญ่ยาวนั้นเข้าไปจนหมดแล้ว เขาจึงค่อยๆ โอบกอดร่างระหงที่สั่นระริกเอาไว้แน่นและพึมพำกับนางว่า “ชิงเอ๋อร์ เจ้าอดทนได้ดีมาก”ดวงตาของกัวรั่วชิงเปียกชื้นด

  • พลิกชะตานางร้ายลิขิตรัก   บทที่125 ผูกพันรักใต้แสงเทียน

    เมื่อประตูห้องหอสีแดงถูกปิดลง เสียงอึกทึกจากงานเลี้ยงฉลองด้านนอกก็เลือนหายไปจนเหลือเพียงความเงียบสงบ กัวรั่วชิงนั่งรออยู่บนเตียงไม้สลักที่ปูด้วยผ้าไหมสีแดงสด มือทั้งสองข้างประสานกันแน่นบนหน้าตัก แม้นี่จะเป็นครั้งที่สองที่นางได้เข้าพิธีแต่งงาน แต่ความรู้สึกกลับต่างกันลิบลับชุดแต่งงานที่ประดับประดาอย่างหรูหรานั้นหนักอึ้ง ทั้งความประหม่าและความอับอายทำให้ใบหน้าของกัวรั่วชิงแดงเรื่อไม่ต่างจากสีของชุด หัวใจเต้นรัวราวกับกลองศึก แต่ไม่ว่าอย่างไรนางก็ต้องนั่งนิ่งๆ เช่นนี้จนกว่างานเลี้ยงด้านนอกจะสิ้นสุดในที่สุดหวงเชียนเล่อก็หลีกหนีจากแขกเหรื่อที่พยายามขอดื่มสุราร่วมกับเขาเหล่านั้นจนได้ เขาเปิดประตู แล้วส่งสัญญาณให้กัวลี่ลี่ที่ยืนรอรับใช้กัวรั่วชิงอยู่นั้นออกไปกัวลี่ลี่ยิ้มบางๆ แล้วเดินออกจากห้องหอไป โดยไม่ลืมปิดประตูให้เรียบร้อยยามนี้ห้องหอถูกตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจงและอบอุ่นเหลือเพียงเงาร่างของบ่าวสาว หวงเชียนเล่อเดินเข้าไปอย่างช้าๆ ครั้นหยุดยืนตรงหน้ากัวรั่วชิง เขาก็ยกก้านคันชั่งหยกขึ้นมา ค่อยๆ ใช้มันเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวออกอย่างอ่อนโยน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status