เข้าสู่ระบบ
“นะๆๆๆ บัว ปิดเทอมไปเที่ยวไร่ของพิมพ์นะ”
พิมพ์นาราเขย่าแขนเพื่อนรัก อยากให้เพื่อนไปเที่ยวพักผ่อนที่ไร่ของตัวเอง
“แต่บัวต้องทำงานนะจ๊ะพิมพ์”
บัวบูชาตอบอย่างรู้สึกเกรงใจ
“ไหนบัวบอกว่าปิดเทอมนี้จะไม่รับงานไง”
พิมพ์นาราหน้างอ เห็นเพื่อนทำงานหามรุ่งหามค่ำก็อยากให้เพื่อนได้พักบ้าง
“ไม่รับไม่ได้ เงินเก็บของบัวหมดแล้วนะจ๊ะพิมพ์” บัวบูชาจับมือเพื่อนเพื่อง้องอน ให้เหตุผลกับอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย
“เป็นไปได้ยังไง บัวทำงานเยอะขนาดนั้น เงินทองหายไปไหนหมด” พิมพ์นาราถามอย่างตกใจ
“เอ่อคือว่า...” บัวบูชามีท่าทีอึกอัก
“เพราะพ่อกับแม่ของบัวอีกแล้วใช่ไหม”
พิมพ์นาราพูดอย่างโกรธๆ
“พวกท่านเป็นพ่อกับแม่ของบัวนะพิมพ์”
บัวบูชาตอบเพื่อนไม่เต็มเสียงนัก หลายครั้งที่เธอยอมรับว่าเหนื่อยใจ แต่มันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้
“พิมพ์ขอโทษที่เสียมารยาท แต่มันสุดจะทนจริงๆ บัวทนได้ยังไงกัน”
“ยังไงพวกท่านก็ให้ชีวิตบัวนะ”
“บัว!!!” พิมพ์นาราเสียงดังใส่เพื่อน สุดจะทนกับความคิดของเพื่อนรักนัก
“บัวต้องตอบแทนบุญคุณ”
“บุญคุณๆๆๆๆ จะอะไรกันนักกันหนา ตอบแทนมาเท่าไหร่แล้วบัว”
“ถึงตายก็ไม่หมด ท่านเป็นผู้ให้กำเนิด”
“ยายสอนบัวอีกแล้วใช่ไหม” พิมพ์นาราพูดอย่างอัดอั้น
“ยายพูดถูก ยังไงพวกท่านก็คือพ่อแม่ บัวไม่มีวันเปลี่ยนแปลงอะไรได้นะพิมพ์”
ยายที่บัวบูชาพูดถึงคือญาติห่างๆ ที่นำเธอไปเลี้ยงตั้งแต่เด็กๆ
“พอไม่มียายกับป้าไพบัวก็เลยลำบาก”
“แม่อุ้มท้องบัวมา ถ้าท่านจะฆ่าก็ทำได้ แต่ท่านก็ไม่ทำ”
“ทำไมถึงได้บุญคุณท่วมหัวกันขนาดนี้นะ” พิมพ์นาราพูดอย่างโกรธๆ
“ไม่เอานะพิมพ์ ยังไงเค้าก็คือพ่อแม่บัว”
“ขอโทษ แต่พิมพ์โกรธแทนบัวจริงๆ นะ”
“จะโกรธแทนบัวทำไม บัวไม่เป็นอะไรหรอก” บัวบูชายิ้มให้เพื่อนอย่างอ่อนโยน
“แต่บัวสัญญาว่าจะไปเที่ยวพักผ่อนที่ไร่ของพิมพ์นี่นา” พิมพ์นาราหน้างอ อยากให้เพื่อนไปจริงๆ
“พอเปิดเทอมบัวจะไม่มีเงินเสียค่าเทอมนะพิมพ์” บัวบูชาหน้าเศร้า
“พิมพ์ออกให้ก็ได้” พิมพ์นาราพูดอย่างใจป้ำ
“ไม่เอาหรอก เวลาเดือดร้อนพิมพ์ก็ช่วยบัวตลอด ค่าเทอมไม่ใช่เงินน้อยๆ บัวไม่เอาเด็ดขาด”
“เงินแค่นั้นเอง”
“สำหรับพิมพ์อาจจะแค่นั้นเอง แต่สำหรับบัวมันเยอะมากนะ”
“พิมพ์ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจจะดูถูกบัวนะ แค่อยากช่วย”
“พิมพ์เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของบัว บัวไม่เคยคิดแบบนั้น บัวขอบคุณในความหวังดีของพิมพ์จริงๆ นะ”
“ที่บัวไม่ยอมไปที่ไร่ของพิมพ์ เพราะเฮียพันหรือเปล่า” พิมพ์นารารู้ดีว่าพี่ชายของเธอไม่ค่อยชอบเพื่อนรักสักเท่าไหร่ เธอเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมพันกรถึงอคติกับบัวบูชานัก ทั้งๆ ที่เพื่อนของเธอก็เป็นคนดี ไม่ใช่คนดีธรรมดา เรียกว่าแสนดีเลยก็ว่าได้ ไม่อย่างนั้นเธอไม่คบกับบัวบูชาจนย้ายมาอยู่ด้วยกันขนาดนี้หรอก
“มะ... ไม่ใช่นะพิมพ์” บัวบูชาปฏิเสธเสียงตะกุกตะกัก
“ถ้าไม่ใช่แล้วทำไมถึงทำท่าทีแบบนั้นล่ะ พิมพ์ไม่เชื่อหรอกนะ เรื่องงานเป็นแค่ข้ออ้าง แค่ไปพักผ่อนอาทิตย์เดียวเอง ทำไมไม่ไป เป็นเพราะเฮียพันแน่ๆ”
“เค้าไม่อยากไป ไปบังคับเค้าทำไม”
เสียงเข้มของผู้มาใหม่ทำให้สองสาวหันขวับไปมอง สีหน้าดุๆ ของพันกรทำให้พิมพ์นาราค้อนพี่ชายขวับๆ
ส่วนบัวบูชานั้นเมินหน้าหนี รู้ดีว่าเขาไม่ชอบหน้าเธอ เวลาเขามาเธอก็คอยหลบหน้าหลบตาหรือไม่ก็ออกไปทำงานข้างนอก ไม่อยากอยู่ขวางหูขวางตาเขาหรอก
“ไม่ต้องทำท่ารังเกียจฉันขนาดนั้นก็ได้” พันกรรู้สึกหงุดหงิดนักที่เวลาบัวบูชาเห็นเขาก็หาทางหลีกหนีทุกครั้งไป
“บัวไปจัดของในห้องก่อนนะพิมพ์” บัวบูชารีบขอตัว ไม่อยากอยู่ให้ขัดตาเขา
“ที่รีบหนีเข้าห้องเพราะกลัวฉันรู้ความลับอะไรอีกล่ะ” พันกรแดกดัน หงุดหงิดโดยไม่ทราบสาเหตุ
..ทีกับคนอื่นทั้งยิ้มทั้งหัวเราะ กับเขาทำหน้าเหมือนอมทุกข์ พยายามหลบหลีกเหมือนเขาเป็นตัวเชื้อโรค
“เฮีย! พอสักทีเถอะน่า เลิกหาเรื่องเพื่อนของพิมพ์ได้แล้ว”
พิมพ์นาราแหวใส่พี่ชาย
“กล้าขึ้นเสียงกับเฮียเหรอตั้งแต่คบเพื่อนคนนี้นิสัยเสียขึ้นนะ”
เสียงดุด่าของพันกรทำให้บัวบูชาที่เดินเข้าห้องชะงักกึก เธอเม้มปากเข้าหากัน เรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวที่เธอทำไม่ได้
..พิมพ์นาราไม่ผิด เธอจะเลิกคบเพื่อนทำไม ไม่ผิดไม่ว่า แต่พิมพ์นาราเป็นคนดีมาก ถ้าเธอเลิกคบเพื่อนที่แสนดีแบบนี้เพราะคำต่อว่าของพี่พันกร เท่ากับว่าเธอไร้เหตุผลสิ้นดี
“เฮีย! ไม่ใช่สักหน่อย เฮียไม่มีเหตุผล” พิมพ์นาราหน้างอทำแก้มป่องใส่พี่ชาย
“เพื่อนแบบนี้น่าจะเลิกคบไปสักที มีแต่ทำเรื่องเสียๆ หายๆ แล้วนี่จะชวนไปอยู่ไร่อีก ใครอนุญาตไม่ทราบ”
น้ำเสียงดุดันของพี่ชายเพื่อนทำให้บัวบูชารีบงับประตูปิด เธอเสียใจกับคำพูดของเขาหลายครั้งแล้ว จนตอนนี้เริ่มจะชิน เธอยึดเอาคำสอนของยายเป็นข้อเตือนใจ ยายเคยบอกว่า
..เราไม่มีวันไปเปลี่ยนความคิดของใครได้ เขาจะคิดอะไรเค้าก็ไม่ผิด เหมือนที่เราจะคิดอะไรก็ไม่ผิดเหมือนกัน ไม่มีใครเปลี่ยนความคิดใครได้ นอกจากว่าเขาจะคิดเอง
เขาบอกว่าผู้ชายชอบให้ผู้หญิงแต่งตัวน่าค้นหา วับๆ แวมๆ ก็อยากมอง ถ้าเปิดหมดมองทีเดียวก็ไม่ดึงดูด แต่จริงๆ มันก็ไม่เสมอไปหรอก เพราะถ้าบัวบูชาแก้ผ้า เขาก็คึกขึ้นมาทันที“ค่อยขอบคุณยัยพิมพ์แล้วกัน แต่เฮียขี้เกียจใส่เพราะยังไงก็ต้องถอด” เขาดึงปมผ้าเช็ดตัวจนหลุดลุ่ย เผยทรวงอกเคร่งครัดอิ่มสวยให้เชยชม“อุ๊ย!” เธอตะครุบมือเขาเอาไว้ มองสบตาเขาอย่างขัดเขิน“เรียนจบเมื่อไหร่มีลูกกันนะ”“ค่ะ แต่ขอให้บัวกิน...” เธอพูดยังไม่ทันจบเขาก็ใช้นิ้วปิดปากเธอเอาไว้ ก่อนจุ๊ปากเบาๆ“ไม่ให้กิน”“เฮียรู้เหรอคะว่าบัวจะกินอะไร”“รู้สิ เฮียทิ้งไปแล้ว”บัวบูชาถึงกับเบิกตากว้าง“เกิดบัวท้องขึ้นมาล่ะคะ”เพราะครั้งแรกที่มีอะไรกับเขา โชคดีที่เป็นระยะปลอดภัย ไม่อย่างนั้นคงต้องหยุดเรียนเลี้ยงลูกเสียก่อนแน่นอน“ไม่ท้องหรอก เฮียป้องกันเอง”“เอ่อ... เฮียจะป้องกันเองเหรอคะ” เธอถามอย่างแปลกใจ เพราะผู้ชายน้อยคนนักจะมาสนใจเรื่องนี้ เอาความสะดวกเข้าว่า ให้ผู้หญิงเป็นคนคุมเอง“ก็ไม่อยากให้กินยา เฮียเป็นผู้ชายนะ เฮียเสียสละป้องกันเอง”เธอลูบใบหน้าหล่อเหลาคมสันของเขา มองอย่างขอบคุณ“ถ้าลืมล่ะคะ”“ไม่ลืมหรอก วันก่อนเค้ามีโปรโมชั่น ซ
ของขวัญล้ำค่าที่พันกรมอบให้เธอคือการที่มารดาของเธอกลับเนื้อกลับตัวได้เหมือนหน้ามือกับหลังมือ เธออยากรู้ว่าเขาทำอย่างไร มารดาก็เล่าให้ฟัง ท่านโดนสิทธิชัยทำร้าย เขาเอาเงินไปหมด การได้เห็นธาตุแท้ของสามีเด็ก ทำให้เธอเริ่มตาสว่าง ซึ่งบุษบาไม่รู้ว่านั่นเป็นแผนของลูกเขย ซึ่งเป็นคนกระตุ้นกิเลสของมนุษย์ให้ผุดขึ้นมาและเปิดเผยธาตุแท้ออกมาให้ตาสว่างพันกรมอบของขวัญให้เธอเป็นเครื่องเพชรชุดใหญ่ของตระกูล ที่จะมอบให้สะใภ้คนโต พร้อมกับคำสัญญาว่าเขาจะดูแลเธอให้ดีที่สุดในทุกๆ วันหลายคนมักบอกว่าอย่าสัญญา แต่คำสัญญามันก็มีความหมายกินใจนัก เธอเองก็ได้ยินเขาพูดแบบนั้นต่อหน้าญาติผู้ใหญ่และเพื่อนๆ สนิทที่มาร่วมงานเพื่อเป็นสักขีพยาน หัวใจก็พองโต ไม่อยากคิดหรอกว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ถ้าเรามานั่งคิดว่าอนาคตต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ คงเครียดตาย บางทีบางสิ่งบางอย่างก็ต้องปล่อยวางมันเสียบ้าง ขอให้ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็เพียงพอแล้ว อนาคตมันจะดีเองนั่นแหละ เธอเชื่อแบบนั้นก็เหมือนวันนี้เราปลูกต้นไม้ต้นหนึ่ง ดูแลอย่างดี อนาคตก็ต้องเป็นต้นไม้ที่ให้ร่มเงาและอุดมไปด้วยผลให้เราเก็บกิน ได้ แต่ถ้าเราไม่ดูแลเอาใจใส่ อนาคตต้นไม้อาจ
“ถ้าทำให้เสียใจจะพาหนี”“เฮ้ย! เอาแบบนั้นเลยเหรอ” พันกรสะดุ้ง“ใช่น่ะสิคะ”พิมพ์นาราพูดแล้วหันมายิ้มกับเพื่อน ก่อนจะเดินจากไป รู้ดีว่าพี่ชายอยากอยู่ตามลำพังกับเพื่อนรักของเธอ หรืออีกนัยหนึ่งคือพี่สะใภ้ที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะพันกรพาบัวบูชาไปจดทะเบียนสมรสเรียบร้อยแล้วเขาใจร้อนและอยากให้มั่นใจว่าหญิงสาวคือคนของเขา และหากจะทำอะไรก็จะได้สะดวก เรื่องการเรียนไม่มีปัญหาอะไร เพราะเรียนระดับปริญญาตรีจะแต่งงานแล้วหรือยังไม่แต่งก็ไม่ใช่เรื่องที่ใครจะมานั่งสนใจ เนื่องจากโตๆ กันแล้ว บัวบูชาเองก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ เพราะแค่พันกรบอกว่ารัก เพื่อนของเธอก็คาดไม่ถึงแล้ว แถมยังรับผิดชอบโดยการแต่งงานอีกพันกรคิดว่าจะจัดงานเล็กๆ เชิญแขกผู้ใหญ่มาเป็นสักขีพยานในเดือนหน้า ซึ่งยังอยู่ในช่วงปิดเทอม หลังจากนั้นก็จะให้ภรรยากลับไปเรียนตามปกติ ซึ่งก็อยู่กับน้องสาวคนเดียวของเขา ปิดเทอมก็ค่อยไปรับมาอยู่ที่ไร่ หรือช่วงเสาร์อาทิตย์ก็ลงไปหาที่กรุงเทพฯ เดี๋ยวนี้การเดินทางสะดวก นั่งเครื่องบินแป๊บเดียวก็ถึงที่หมาย ไม่ต้องนั่งรถให้เมื่อยหรือเสียเวลาไปกับการติดแหงกอยู่ในรถ ทั้งเพลียทั้งง่วงแบบนั้น“น้องสาวเฮียนี่ดุจริงๆ ส
“แล้วรักไหมล่ะ”“ก็รักตั้งนานแล้ว” เธออุบอิบตอบ“เมื่อกี้ว่าอะไรนะ” เขาหูผึ่งทันที“ได้ยินว่าอะไรล่ะคะ”“บัวพูดจริงๆ เหรอ รักเฮียนานแล้วเหรอ ทำไมเฮียไม่เห็นรู้”“เรื่องแบบนี้เค้าพูดเล่นกันด้วยเหรอคะ แต่ไม่รู้ทำไมบัวถึงไปหลงรักคนใจร้ายได้” เธอค้อนเขา“อดีตเฮียอาจจะเคยใจร้าย แต่ต่อจากนี้ไป เฮียจะรักบัว ดูแลบัวให้ดีที่สุด เฮียสัญญา” เขาดึงเธอมากอด“ไม่ต้องสัญญาหรอกค่ะ แต่บัวจะคอยดู”เธอพูดแล้วอมยิ้มอย่างมีความสุข“ถึงเฮียจะไม่ใช่คนดีนัก แต่ถ้ารักแล้ว หัวใจดวงนี้ยกให้ทั้งดวง และเฮียจะดีกับคนที่เฮียรักที่สุด”เขารู้ตัวดีว่าไม่ใช่คนดีนัก แต่ถ้ารัก เขาก็จะดูแลรักของเขาให้ดีที่สุด“ดีใจจังเลยที่ได้บัวมาเป็นพี่สะใภ้จริงๆ” พิมพ์นาราดีใจจนออกนอกหน้าเมื่อได้รับข่าวดีจากพี่ชาย เธอก็คอยอธิษฐาน คอยลุ้นให้เพื่อนไม่โกรธพี่ชายของตัวเอง เพราะปกติเพื่อนรักอย่างบัวบูชาไม่เคยโกรธใครง่ายๆ แต่ถ้าลองให้โกรธ ชาตินี้คงไม่ได้คุยกันอีกแล้ว เพราะถ้าโกรธแสดงว่าถึงที่สุดจริงๆ เธอได้รับคำตอบว่าที่เพื่อนหนีไปก็เพราะน้อยใจพันกรเท่านั้นได้ยินเพื่อนเล่าก็อยากจะหยิกพี่ชายให้เนื้อเขียวนัก ดูถูกเพื่อนเธอขนาดนี้ แต่ก็อย่าง
“ค่ะ”“ดีมาก บอกแล้วไงว่าจะดูแลและปกป้อง เมื่อก่อนเราไม่ได้เป็นอะไรกัน เฮียอาจจะพอทนได้ แต่ตอนนี้บัวเป็นเมีย เป็นผู้หญิงที่เฮียยอมรับโดยดุษณีว่ารักหมดหัวใจ ดังนั้นปัญหาของบัวก็คือปัญหาของเฮีย”บัวบูชาน้ำตาคลอ ไม่คิดว่าจะได้ยินประโยคแบบนี้จากปากของเขา ผู้ชายหลายคนไม่ชอบปัญหารกหัว หรือเข้ามายุ่งวุ่นวาย อีกทั้งเรื่องครอบครัวมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน“บัวจะเชื่อเฮีย บัวเชื่อว่าเฮียต้องทำมันให้ดีที่สุด” บัวบูชากุมมือเขาตอบกลับ กระชับเพื่อยืนยันว่าเธอมั่นใจในตัวเขาแค่ไหนบัวบูชาไม่คิดว่าพันกรจะยื่นข้อเสนอแบบนี้กับบิดามารดาของเธอ เงินไม่ใช่ทางออกของปัญหาทุกอย่าง แต่มันก็แก้ปัญหาได้หลายปัญหาพอได้ยินว่าจะให้เงินก้อนใหญ่แลกกับการไม่มายุ่งกับเธอ พร้อมทั้งเซ็นสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร คราแรกเหมือนมารดาจะลังเล แต่บิดาปฏิเสธ สุดท้ายมารดาก็ยอมตกลง ซึ่งเงินที่เรียกร้องไปนั้นมากจนเธอตกใจอ้าปากค้าง แต่พันกรยอมจ่ายบัวบูชาอยากจะปรามหรือห้ามเขา แต่สุดท้ายเธอก็ได้แต่นั่งอึ้ง รู้สึกว่าตัวเองเป็นสินค้าและมีคนกำลังเจรจาต่อรองซื้อขายกันอยู่เขาบีบมือเธออยู่ตลอดเวลา หลังจากที่เขาเซ็นเช็คให้มารดาของเธอเป็นที่เรีย
“บัวอยากทำงาน”“ถ้าอยากทำงานจริงๆ ก็ไปช่วยงานที่ไร่ตอนปิดเทอมก็ได้ แต่เวลาเรียนให้ตั้งใจเรียน ไม่เอาแล้วนะ ทำงานกลับดึกๆ ดื่นๆ”“นี่เฮียพันจริงๆ ใช่ไหมคะ” เธอลูบใบหน้าหล่อเหลาของเขา รู้สึกว่าหัวใจอ่อนยวบอย่างประหลาด“จริงๆ ไม่เชื่อลองจูบดูสิ” เขายื่นหน้าเข้าไปหาเธอรีบดันคางเขาออกห่าง“ไปห่างๆ เลยค่ะ” เธอบอกอย่างเขินอาย“ถ้ายัยพิมพ์รู้ว่าเพื่อนรักของเค้าจะมาเป็นพี่สะใภ้คงดีใจมากๆ”“ตายแล้ว พูดถึงพิมพ์ ป่านนี้คงโกรธบัวมากแน่ๆ เลยค่ะ ที่บัวหนีมาแบบนี้” พูดแล้วบัวบูชาก็หน้าเสีย“พิมพ์เค้าโกรธมากๆ เลยนะ” พันกรแกล้งว่าสีหน้าเครียดขรึม“จริงเหรอคะ” บัวบูชาหน้าเสีย ก่อนจะก้มหน้างุด“จริง... ซะเมื่อไหร่”เขามองหน้าคนที่รู้สึกผิดแล้วนึกเห็นใจ เมื่อก่อนเขาเอาแต่ไม่ชอบที่เธอทำงานแบบนี้ เลยไม่ได้มองนิสัยใจคอกันอย่างถ่องแท้ แต่พอเห็นก็เห็นกันจะๆ ว่าเธอเป็นคนยังไง รักเพื่อนและขี้เกรงใจขนาดไหน“เฮียหลอกบัวเหรอคะ” เธอเงยหน้าขึ้น ก่อนจะค้อนเขา“พิมพ์น่ะเป็นห่วงบัวมากนะ เรื่องโกรธลืมไปเลย ยัยพิมพ์กลัวบัวจะโกรธเค้ามากกว่า”“บัวจะโกรธพิมพ์เรื่องอะไรเหรอคะ” บัวบูชาถามอย่างสงสัย เพราะเธอเองต่างหากที่ผิดสัญ







