Share

บทที่ 6

last update Terakhir Diperbarui: 2025-08-19 09:43:34

"ฉันไม่ยอมทำหรอกนะ"

"ไม่ได้ถามว่าจะยอมหรือไม่ยอมบอกให้ไปแบกไม้ออกมา"

"ฉันเป็นผู้หญิงจะไปแบกหามหนักๆ แบบนั้นได้ยังไง"

"ถ้างั้นก็คงต้องให้นายหัวมาสั่งเองแล้วล่ะ"

"หยุดนะ!" ถ้าไอ้บ้านั่นมามันคงไม่จบง่ายๆ แน่ ดีไม่ดีมันจะให้เราเป็นคนสร้างบ้านเองด้วยซ้ำ

ข้าวสวยเลยเข้าไปดูว่าพอที่จะแบกไม้อันไหนออกมาได้บ้าง เธอเลือกไม้กระดานที่เล็กที่สุดแล้วก็ยกออกมา

"แล้วเมื่อไรจะเสร็จ"

"ฉันก็ยกได้เท่าที่ยกนี่แหละ"

"ปากดี แบบนี้ต้องเจอสักดอก" ลูกน้องของเขาสะบัดมือเหมือนจะตบ ข้าวสวยถึงกับสะดุ้งสุดตัวเพราะถ้าเจอฝ่ามือนี้เข้ามีหวังสลบ

"ฉันยกแล้ว" เธอเลยต้องเข้าไปเอาเพิ่มมาอีก แล้วก็ยกไปจุดที่พวกมันบอกว่าจะสร้างบ้าน

มาถึงก็เห็นตั้งเสาไว้แล้ว แต่ผู้ชายตั้งเยอะตั้งแยะทำไมต้องมาใช้ผู้หญิงแบบเราด้วย

"กลับไปขนมาอีกเอามาให้เยอะที่สุด"

"นายหัวดูอะไรอยู่ครับ" เข้ามาก็เห็นว่านายหัวกำลังใช้กล้องส่องทางไกลมองอีกฝั่งหนึ่งของเมื่อเช้านี้

"ถ้ามึงเข้ามาโดยที่ไม่บอกกูอีกนะ รับรองว่าอาหารเย็นมึงเป็นลูกตะกั่วแน่"

"ก็นายหัวไม่ได้ปิดประตูไว้ผมเลยเดินเข้ามาครับ"

"ไม่ปิดมึงก็ต้องเคาะประตูบอกกูก่อน"

"ได้ครับ ว่าแต่นายหัวชอบหรือไม่ชอบเธอกันแน่ครับ"

"ไอ้วัลลภ!"

"เข้าเรื่องก็ได้ครับ เสี่ยโทรมาบอกว่านายหัวไม่รับโทรศัพท์เลย"

"โทรมาทำไม"

"คงจะคุยเรื่องเจ้าสาวที่หายไปนั่นแหละครับ"

"พ่อรู้แล้วเหรอ?"

"รู้ว่าอะไรครับ"

"รู้ว่ากูจับมาไง!"

"ผมไม่ได้ถามเรื่องนี้หรอกครับนายโทรกลับไปหาเสี่ยหน่อยเถอะครับ"

คล้อยหลังวัลลภ ภูเบศเลยโทรไปหาพ่อ

>>{"ตกลงแกไม่ได้ไปใต้เหรอ"}

   {"สนใจเรื่องของผมด้วยเหรอครับ"}

>>{"ฉันไม่ได้โทรมาทะเลาะกับแกนะ ฉันโทรไปบ้านของแกที่ภาคใต้แล้ว คนที่นั่นบอกแกไม่ได้ไป"}

    {"พ่อไม่คิดบ้างหรือครับว่าผมอาจจะขลุกอยู่กับผู้หญิงก็ได้"}

>>{"เรื่องเจ้าสาวที่หายไปมีคนสงสัยว่าแกพาไป"} ภูริเริ่มเข้าเรื่องเพราะถ้าคุยมากไปเดี๋ยวลูกชายก็จะขาดการติดต่อไปอีก

   {"หึหึ ผมจะเอาผู้หญิงของพ่อมาทำอะไร"}

>>{"แต่นั่นไม่ใช่ผู้หญิงของ.."} ภูริยังพูดไม่จบลูกชายก็ตัดสายไปก่อน

"ไอ้บ้านี่มันไม่คิดจะฟังพ่อบ้างเลยหรือไง"

"ว่ายังไงบ้างครับพ่อ"

"มันก็ยังกวนตีนเหมือนเดิมนั่นแหละ"

"แล้วทางตำรวจว่ายังไงบ้างครับ"

"ยังสืบได้ไม่มากเพราะพ่อไม่ให้เป็นข่าว"

"แล้วตกลงคุณภูเบศ ไม่ได้กลับบ้านที่เหมืองแล้วไปไหนล่ะครับ" ภูเบศไม่ยอมให้ภูผาเรียกพี่ เขาเลยต้องเรียกคุณแบบนี้มาตลอด แต่ส่วนมากจะเรียกแค่ต่อหน้าพ่อ เพราะอีกฝ่ายไม่เห็นว่าเขาเป็นน้องเขาก็ไม่จำเป็นต้องเห็นว่าเป็นพี่เช่นกัน

"ข้อนี้แหละพ่อสงสัยว่ามันต้องหาที่กบดานใหม่ แกพอรู้จักนักสืบฝีมือดีบ้างไหม"

"พอจะรู้จักอยู่บ้างครับ เดี๋ยวผมจะประสานให้นะครับ"

"ขอบใจมากลูกชาย มีแต่แกนี่แหละที่เป็นความหวังของพ่อ ส่วนไอ้นั่นถ้าไม่ตายก็คงกลับมาเจอหน้ากัน"

เวลาเดียวกันนั้นที่ปางไม้..

"นายหัวเรียกผมเข้ามามีอะไรครับ

"มึงสั่งคนที่เหมืองไว้ว่ายังไง"

"สั่งอะไรครับ"

"ทำไมพ่อกูถึงรู้ว่ากูไม่ได้อยู่เหมือง"

"สงสัยพวกมันจนแต้มแน่เลยครับ" เสี่ยภูริคงบอกจะคุยสายกับลูกชาย ลูกน้องที่อยู่ที่นั่นเลยต้องบอกความจริงไป

"หึ! ตามให้ตายก็หาไม่เจอ" คิดจะตามหาผู้หญิงคนนั้นเหรอ ถ้าไม่เป็นปุ๋ยก่อนก็คงจะมีลูกติด ถ้าเป็นแบบนั้นดูซิว่าคนแบบพ่อเขายังจะเอาไปทำเมียอยู่อีกไหม

"นายว่ายังไงนะครับ"

"เดี๋ยวกูจะลงไปข้างล่างหน่อย"

ภูเบศลงมาตรงที่ใช้ให้เธอปลูกสร้างบ้านช่วยคนงาน มาเห็นว่าเธอกำลังอู้งานพอดี

"พวกมึงทำอะไรอยู่" ได้ยินเสียงนี้ข้าวสวยที่เพิ่งนั่งพักรีบลุกขึ้น

"กำลังหาเครื่องมืออยู่ครับ" โครงการสร้างบ้านอีกหลังยังไม่เริ่มเครื่องไม้เครื่องมือเลยถูกเก็บไปไว้แล้ว พอเจ้านายสั่งมากะทันหันก็เลยต้องได้ไปค้นกันหน่อย

"กูหมายถึงคนขนไม้ของพวกมึง"

"ฉันเหนื่อยจะไม่ให้พักเลยหรือไง"

"ยังปากดีได้อยู่อีกไปยกไม้คานมา"

"อะไรคือไม้คาน"

"เธอจะยกไหวเหรอครับนายหัว" วัลลภที่เดินตามมาพูดออกไปตามนิสัยที่พูดไม่ค่อยคิด

"ถ้างั้นมึงก็ไปช่วยยก"

"มะ ไม่ถามแล้วครับ"

ข้าวสวยต้องยอมเดินตามคนของเขามาที่โรงเก็บไม้อยากรู้ว่าอะไรคือคาน มาถึงก็เห็นว่าเป็นไม้ท่อนใหญ่และยาวที่ไว้ใช้เชื่อมต่อกับเสาที่ตั้งอยู่

"ฉันจะยกไหวเหรอ"

"ไหวไม่ไหวก็ต้องยก" ถ้าเป็นผู้ชายยกสบายอยู่แล้ว แต่ผู้หญิงไม่แน่ใจว่าจะยกขึ้นไหม 

คนงานที่เดินเข้ามาด้วยเลยแอบยกส่งให้

"โอ๊ย" แต่ถึงแม้คนงานจะยกให้พอวางลงบ่าไหล่ของเธอมันก็ไม่มีแรงพยุงจนร่างเล็กล้มลงโชคดีที่ไม้หล่นลงมาไม่ทับตัวของเธอด้วย

ภูเบศได้ยินเสียงเลยรีบเข้ามาดูก็เห็นว่าเธอนอนกองอยู่กับพื้น

"ตายไหมวะ" วัลลภรีบเดินเข้ามาเช็คลมหายใจดู "ยังหายใจอยู่ครับ เอาไงต่อดีครับ"

ดึกๆ คืนนั้น..

ทำไมปวดเมื่อยตัวขนาดนี้ หรือว่าเราตายไปแล้ว หญิงสาวที่หมดสติตั้งแต่ตอนแบกไม้คานค่อยๆ ฟื้นคืนสติ

"?" เราอยู่ที่ไหน หรือว่าทุกอย่างเราแค่ฝันไป ข้าวสวยมองไปรอบๆ ห้องที่เธอนอนอยู่ ห้องนี้มีเฟอร์นิเจอร์ครบแถมเตียงที่เธอนอนก็นิ่มสบายมาก

แต่พอคลำดูก็เจอเข้ากับร่างของใครบางคนที่นอนอยู่ข้างๆ ทีแรกตกใจเกือบจะกรีดร้องออกมาแล้ว พออีกฝ่ายขยับกายเธอก็เลยรีบเอามือมาปิดปากไว้แล้วก็แกล้งนอนลงไปที่เดิม

คนที่นอนอยู่ข้างๆ ผงกศีรษะขึ้นมามอง แล้วลองเช็คดูว่าเธอรู้สึกตัวหรือยัง เพราะเมื่อสักครู่สัมผัสได้ว่าเตียงมีความเคลื่อนไหว

มันทำอะไรเราไหม? อย่าบอกนะว่าเราตกเป็นเมียของมันแล้ว? แต่พอมือของเขาคลำต่ำลงมาหญิงสาวที่แกล้งหลับอยู่ก็ถึงกับสะดุ้ง

"ดึกป่านนี้แล้วทำไมยังไม่นอน แล้วนี่มานั่งมองอะไร"

"ทำไมนายหัวภูเบศถึงต้องเอาผู้หญิงคนนั้นขึ้นไปนอนบนห้องด้วยล่ะแม่" มะนาวเป็นคนเช็ดเนื้อเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ แต่ตอนนั้นผู้หญิงยังไม่ได้สติ

"แล้วแกไปยุ่งอะไรกับนายเขา"

"อย่าบอกนะว่าเขาหลงเสน่ห์แม่นั่นแล้ว"

"แกอย่าฝันสูงเลยน่า"

"ฉันไม่ยอมหรอกนะ ฉันอุตส่าห์เฝ้ามองมาตั้งนาน"

"มะนาวเอ้ย ถึงแม้ไม่มีผู้หญิงคนนี้นายหัวก็ไม่มองแกหรอก"

"กรี๊ดดด" ขณะที่แม่กับลูกกำลังคุยกันอยู่ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้องดังลั่นมาจากทางเรือนหลังใหญ่

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • พันธะ(รัก)เมียบำเรอ   บทที่ 62 ตอนจบ

    พันธะ(รัก)เมียบำเรอ บทที่ 62 ตอนจบหลายวันต่อมาข้าวสวยก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว และเธอก็ขอมาพักฟื้นที่บ้านกับพ่อ ภูเบศเลยมาอยู่ดูอาการเธอที่นี่ด้วย"แล้วทำไมคุณต้องให้ลูกน้องตามมาเยอะแยะขนาดนี้ด้วย" คนข้างบ้านก็มองกันจังคงคิดว่าสามีเธอเป็นมาเฟีย แต่ก็ไม่แตกต่างจากมาเฟียหรอก"หน้าที่ของพวกมัน จะให้พวกมันไปทำอะไรล่ะถ้าไม่ให้เฝ้าฉัน""คุณก็ใช้ชีวิตเหมือนชาวบ้านธรรมดาเขาบ้างสิคะ ไม่ต้องให้ลูกน้องตามเป็นขบวนแบบนี้" ลูกน้องตามเขาก็ไม่ต่างจากตามเธอหรอกช่วงนี้ไม่มีความเป็นส่วนตัวเลย"พวกมึงออกไปรออยู่นอกบ้าน""ครับ" ได้ยินนายหัวสั่ง ลูกน้อง 5-6 คนที่เฝ้าอยู่รอบๆ บ้านก็ออกไปยืนอยู่ถนนหน้าบ้าน"คุณบอกคนของคุณเข้ามาเดี๋ยวนี้เลยนะ!""แล้วจะเอายังไงอีก""คุณทำแบบนี้ชาวบ้านเขาก็แตกตื่นกันหมดพอดี""แบบนั้นก็ไม่ได้แบบนี้ก็ไม่ได้""โอ๊ยฉันจะบ้าตายกับคุณอยู่แล้วเนี่ย""คุณหมอบอกอย่าเครียดไง""ที่ฉันเครียดก็เพราะคุณนี่แหละ""ก็ได้เดี๋ยวจะบอกพวกมันกลับไปอยู่บ้าน"เย็นวันนั้นภูริกลับมาที่บ้านก็เห็นวัลลภและคนของลูกชายอยู่บ้าน"แล้วเจ้าภูล่ะ""นายหัวอยู่บ้านภรรยาครับ""แล้วทำไมพวกมึงถึงอยู่ที่นี่""นายหัวบอก

  • พันธะ(รัก)เมียบำเรอ   บทที่ 61

    "คนไข้ยังขยับตัวไม่ได้นะคะ" คุณหมอเห็นว่าข้าวสวยพยายามจะลุกจากเตียงเลยเข้ามาห้าม "ฉันจะไปดูสามีฉันค่ะ""ช่วงนี้คุณจะขยับตัวไม่ได้นะคะ""ทำไมคะ" เธอก็เห็นว่าร่างกายของเธอไม่ได้เป็นอะไรมาก"เสี่ยงต่อการแท้งค่ะ""ลูก?" นี่เธอลืมได้ยังไง "ลูกฉันเป็นยังไงบ้างคะ""เด็กยังอยู่ค่ะ แต่คุณต้องนอนอยู่นิ่งๆ ห้ามขยับตัว" แล้วคุณหมอก็แจ้งอาการเบื้องต้นจากการตรวจ เพราะเธอถูกทำร้ายร่างกาย โชคดีที่ไม่ถูกท้องถ้าไม่งั้นคงรักษาเด็กไว้ไม่ได้ตอนที่เธอรู้ว่าถูกจับตัวไป พยายามต่อสู้เลยถูกพวกมันทำร้ายร่างกาย โชคดีที่มันไม่ได้ต่อยเข้ามาที่ท้องถ้าไม่งั้นป่านนี้ลูกก็คงไม่อยู่กับเธอแล้วข้าวสวยเลยทำตามที่คุณหมอบอกนอนอยู่นิ่งๆ ไม่นานเสี่ยภูริที่ไปดูลูกชายก็กลับมาบอกอาการ ว่าตอนนี้ภูเบศฟื้นแล้วแต่ก็ยังขยับตัวมากไม่ได้ได้ยินแค่นี้เธอก็หายใจโล่งขึ้นมากเลย เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เธอรู้ว่าเขายังเป็นห่วงเธอกับลูก ยอมเสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยวันต่อมา.. วันนี้คุณหมอให้ออกจากห้อง ICU เพื่อไปพักฟื้นที่ห้อง VIP ที่เตรียมไว้ แต่ภูเบศขอไปพักฟื้นห้องเดียวกับเธอ ถึงแม้ทุกคนจะบอกว่าตอนนี้เธอปลอดภัยดีแล้วแต่เขาก็ยังไม่เชื่อใจ คุณหม

  • พันธะ(รัก)เมียบำเรอ   บทที่ 60

    "เจอไหม" จากที่เมาๆ อยู่พอกลับบ้านมาไม่เห็นเมียตอนนี้รู้สึกสร่างเมาเลย"ไม่เจอเลยครับผมกำลังให้คนเช็คกล้องวงจรปิดอยู่ครับ" พูดจบคนที่เช็คกล้องวงจรปิดก็รีบวิ่งมาหา "เป็นยังไงบ้าง""นายหญิงออกไปตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้วครับ""ไปไหน""กล้องจับภาพได้แค่ตอนเดินออกไปแต่ไม่รู้ว่าไปกับใครไปที่ไหน" แล้วลูกน้องคนนั้นก็ยื่นคลิปกล้องวงจรปิดให้ดู เหมือนรถคันที่มารับเธอจะรู้มุมกล้องวงจรปิดดี..จะไม่รู้ได้ยังไงก็คนในบ้านเป็นไส้ศึกเสียเอง"ให้คนไปดูที่สถานีรถ" เขาคิดว่าเธอต้องหนีกลับแน่เลย เพราะเธอเคยหนีแบบนี้มาแล้วหลายครั้งและคนของเหมืองก็รีบไปเช็คที่สถานีรถทั้งรถไฟและรถทัวร์ ส่วนสนามบินอยู่ไกลมากคิดว่าเธอคงไม่ไปหรอก​ แต่เพื่อความชัวร์เขาให้อีกชุดหนึ่งไปดูที่สนามบินจนถึงตอนเช้าก็ยังไม่ได้ข่าว ไม่ใช่ไม่ได้ข่าวจากลูกน้องหรอก​ไม่ได้ข่าวของเธอนี่แหละ เพราะลูกน้องก็ส่งข่าวมาอยู่ว่าหาไม่เจอไม่เห็นร่องรอยของเธอเลยเรื่องมันชักจะไม่เข้าท่าแล้วเขาเลยต้องไปที่สถานีตำรวจ ให้ตำรวจช่วยอีกแรง เพราะอยากยืมมือตำรวจประสานงานไปที่สน.อื่นด้วยที่จริงถ้ายังหายไปไม่ครบ 24 ชั่วโมงตำรวจจะยังไม่รับแจ้งความ แต่นี่นายหัวภูเบศมา

  • พันธะ(รัก)เมียบำเรอ   บทที่ 59

    ข้าวสวยและจินดาไม่ได้พูดคุยอะไรกันหรอก หลังจากเหตุการณ์นั้นข้าวสวยก็เดินกลับมา"ไปไหนมา" เขากลับมาไม่เห็นเธอกำลังจะใช้คนให้ไปตามหาอยู่พอดีเลยแต่เห็นเธอเดินกลับมาก่อน"ไปเดินเล่น" ข้าวสวยพูดแค่นี้แล้วก็เดินผ่านหน้าของเขาไป"เรื่องห่อหมกเดี๋ยวพรุ่งนี้จะให้ป้าซื้อจากตลาดมาให้ใหม่""ฉันไม่อยากกินแล้ว""ยังโกรธอยู่เหรอ""ทำไมฉันต้องโกรธด้วย""ก็บอกจะซื้อมาให้ใหม่ไง""ฉันอยากจะกลับแล้ว" เธอไม่อยากพูดเรื่องห่อหมกอะไรนั่นแล้ว และขณะที่เธอกำลังยืนคุยกับภูเบศอยู่ จินดาก็เดินกลับมาพอดี สายตาของข้าวสวยมองไปและเป็นจังหวะเดียวกับที่จินดามองมาทั้งสองสบตากัน จินดาเริ่มพะวงแล้วกลัวว่าข้าวสวยจะเอาเรื่องนั้นมาพูดกับนายหัว"แม่ แม่ไปไหนมาหนูนุ้ยหาแม่ไม่เจอ" หนูนุ้ยเห็นแม่มาก็รีบวิ่งเข้าไปกอด"แม่ไปเดินเล่นมา""นายผู้หญิงทานอะไรหรือยัง" เขามองตามหลังเธอที่เดินขึ้นบ้านแล้วหันไปถามจินดาว่าเธอทานข้าวหรือยัง"ทานแล้วค่ะ" จินดาไม่รู้หรอกว่าทานหรือไม่ทาน เพราะตัวเองออกไปก่อนแถมยังกลับเข้ามาทีหลังภูเบศได้ยินว่าเธอทานแล้วเขาเลยบอกให้จินดาเตรียมอาหารมาให้ ทีแรกว่าจะกลับมาทานพร้อมเธอนั่นแหละ แต่ถ้าเธอทานแล้วเขาก็

  • พันธะ(รัก)เมียบำเรอ   บทที่ 58

    ดึกๆ คืนนั้น..เธอรู้สึกตัวตื่นเพราะมีคนนอนลงข้างๆ แต่พอนอนลงเขาก็ตะแคงหันหลังให้เขามาตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย ..ข้าวสวยเห็นว่าเขาไม่สนใจเธอเลยแกล้งลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำ ที่จริงก็ไม่ได้แกล้งหรอกปวดจริงๆ นี่แหละออกมาจากห้องน้ำก็เห็นเขามองมาแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ข้าวสวยเลยเดินไปนอนที่เดิมของเธอ"คุณยังคิดเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่าคะ""คิดเหมือนเดิมหมายความว่ายังไง""คิดว่าฉันทำลูกสาวคุณหัวโนไง""เราจะไม่พูดเรื่องนั้นอีก""ฉันต้องพูดค่ะเพราะมันไม่ใช่ฝีมือของฉัน""ผมเชื่อก็ได้""เชื่อก็ได้หมายความว่ายังไง""จะมาชวนทะเลาะอะไรอีก คนเพิ่งกลับมามันเหนื่อยนะเว้ย""ไหนๆ ก็ได้ทะเลาะแล้วให้ฉันพูดตามสิ่งที่ฉันคิดเถอะ""คิดอะไรอีกล่ะ""แม่ลูกคู่นั้นไม่ธรรมดาเลยนะ คุณแน่ใจเหรอว่าผู้หญิงคนนั้นถูกขืนใจจนตั้งท้อง""ข้าวสวย!!" ภูเบศตะเบ็งเสียงออกมาดังมากจนเธอสะดุ้ง ข้าวสวยที่เพิ่งขึ้นไปที่นอนต้องรีบลุกขึ้นมา ถ้าเขาต่อยเธอได้คงจะต่อยไปแล้ว"คุณคิดว่าฉันอกุศลใช่ไหมล่ะ ถ้าคุณมีตามองสักนิดคุณจะเห็นว่าฉันไม่ได้ทำเด็กคนนั้นหกล้ม""เรื่องนั้นมันจบไปแล้วจะพูดหาพระแสงทำไมอีก""เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของฉันฉันจำเป็นต้องพูด

  • พันธะ(รัก)เมียบำเรอ   บทที่ 57

    วันต่อมาภูเบศต้องให้เธออยู่ที่บ้านกับคนรับใช้​ ส่วนเขาก็ออกไปจัดการงานที่เหมือง"สวัสดีจ้ะหนูนุ้ย" ข้าวสวยลงมาก็เห็นเด็กกำลังนั่งเล่นของเล่นอยู่ "ทำอะไรอยู่จ๊ะ""มองไม่เห็นหรือไง""?" ทำไมเด็กถึงได้ก้าวร้าวขนาดนี้ ..ได้ยินที่เด็กตอบเมื่อสักครู่ข้าวสวยก็หันไปมองดูแม่ของเด็กที่ทำงานบ้านอยู่แถวนั้น จะว่าแม่ไม่ได้ยินก็คงไม่ใช่แต่ทำไมถึงไม่สั่งสอนลูกหน่อยว่าไม่ให้พูดกับผู้ใหญ่แบบนี้ "เมื่อกี้ฉันฟังไม่ชัดหนูพูดว่าอะไรนะ" ในเมื่อแม่ไม่สั่งสอนเดี๋ยวฉันจะสั่งสอนเอง"หูหนวกเหรอถึงไม่ได้ยินคนพูด""ฉันเป็นภรรยาของผู้ชายที่หนูเรียกว่าพ่อ ถ้างั้นหนูก็ต้องเรียกฉันว่าแม่อีกคน ไหนลองเรียกแม่ซิ""ฉันมีแม่คนเดียว อย่าคิดว่าจะเข้ามาแทนที่แม่ของฉันได้""แทนที่แม่หนูเข้าใจผิดแล้วมั้ง เพราะแม่หนูไม่ได้เป็นอะไรกับสามีฉันสักหน่อย""แม่" หนูนุ้ยหันไปมองหน้าแม่และมีสีหน้าเหมือนจะร้องไห้"ทำไมคุณต้องว่าให้เด็กแบบนี้ด้วยไม่นึกถึงจิตใจของเด็กบ้างหรือคะ""ฉันแค่พูดให้เด็กเข้าใจ""แกยังเด็กโตขึ้นเดี๋ยวแกก็รู้เองค่ะว่าอะไรคืออะไร""ทำไมต้องรอให้โตด้วยล่ะ เราบอกตอนนี้ให้เด็กเข้าใจก็ได้นี่""แม่คะ ผู้หญิงคนนี้จะมาแย่งพ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status