"ฉันไม่ยอมทำหรอกนะ"
"ไม่ได้ถามว่าจะยอมหรือไม่ยอมบอกให้ไปแบกไม้ออกมา"
"ฉันเป็นผู้หญิงจะไปแบกหามหนักๆ แบบนั้นได้ยังไง"
"ถ้างั้นก็คงต้องให้นายหัวมาสั่งเองแล้วล่ะ"
"หยุดนะ!" ถ้าไอ้บ้านั่นมามันคงไม่จบง่ายๆ แน่ ดีไม่ดีมันจะให้เราเป็นคนสร้างบ้านเองด้วยซ้ำ
ข้าวสวยเลยเข้าไปดูว่าพอที่จะแบกไม้อันไหนออกมาได้บ้าง เธอเลือกไม้กระดานที่เล็กที่สุดแล้วก็ยกออกมา
"แล้วเมื่อไรจะเสร็จ"
"ฉันก็ยกได้เท่าที่ยกนี่แหละ"
"ปากดี แบบนี้ต้องเจอสักดอก" ลูกน้องของเขาสะบัดมือเหมือนจะตบ ข้าวสวยถึงกับสะดุ้งสุดตัวเพราะถ้าเจอฝ่ามือนี้เข้ามีหวังสลบ
"ฉันยกแล้ว" เธอเลยต้องเข้าไปเอาเพิ่มมาอีก แล้วก็ยกไปจุดที่พวกมันบอกว่าจะสร้างบ้าน
มาถึงก็เห็นตั้งเสาไว้แล้ว แต่ผู้ชายตั้งเยอะตั้งแยะทำไมต้องมาใช้ผู้หญิงแบบเราด้วย
"กลับไปขนมาอีกเอามาให้เยอะที่สุด"
"นายหัวดูอะไรอยู่ครับ" เข้ามาก็เห็นว่านายหัวกำลังใช้กล้องส่องทางไกลมองอีกฝั่งหนึ่งของเมื่อเช้านี้
"ถ้ามึงเข้ามาโดยที่ไม่บอกกูอีกนะ รับรองว่าอาหารเย็นมึงเป็นลูกตะกั่วแน่"
"ก็นายหัวไม่ได้ปิดประตูไว้ผมเลยเดินเข้ามาครับ"
"ไม่ปิดมึงก็ต้องเคาะประตูบอกกูก่อน"
"ได้ครับ ว่าแต่นายหัวชอบหรือไม่ชอบเธอกันแน่ครับ"
"ไอ้วัลลภ!"
"เข้าเรื่องก็ได้ครับ เสี่ยโทรมาบอกว่านายหัวไม่รับโทรศัพท์เลย"
"โทรมาทำไม"
"คงจะคุยเรื่องเจ้าสาวที่หายไปนั่นแหละครับ"
"พ่อรู้แล้วเหรอ?"
"รู้ว่าอะไรครับ"
"รู้ว่ากูจับมาไง!"
"ผมไม่ได้ถามเรื่องนี้หรอกครับนายโทรกลับไปหาเสี่ยหน่อยเถอะครับ"
คล้อยหลังวัลลภ ภูเบศเลยโทรไปหาพ่อ
>>{"ตกลงแกไม่ได้ไปใต้เหรอ"}
{"สนใจเรื่องของผมด้วยเหรอครับ"}
>>{"ฉันไม่ได้โทรมาทะเลาะกับแกนะ ฉันโทรไปบ้านของแกที่ภาคใต้แล้ว คนที่นั่นบอกแกไม่ได้ไป"}
{"พ่อไม่คิดบ้างหรือครับว่าผมอาจจะขลุกอยู่กับผู้หญิงก็ได้"}
>>{"เรื่องเจ้าสาวที่หายไปมีคนสงสัยว่าแกพาไป"} ภูริเริ่มเข้าเรื่องเพราะถ้าคุยมากไปเดี๋ยวลูกชายก็จะขาดการติดต่อไปอีก
{"หึหึ ผมจะเอาผู้หญิงของพ่อมาทำอะไร"}
>>{"แต่นั่นไม่ใช่ผู้หญิงของ.."} ภูริยังพูดไม่จบลูกชายก็ตัดสายไปก่อน
"ไอ้บ้านี่มันไม่คิดจะฟังพ่อบ้างเลยหรือไง"
"ว่ายังไงบ้างครับพ่อ"
"มันก็ยังกวนตีนเหมือนเดิมนั่นแหละ"
"แล้วทางตำรวจว่ายังไงบ้างครับ"
"ยังสืบได้ไม่มากเพราะพ่อไม่ให้เป็นข่าว"
"แล้วตกลงคุณภูเบศ ไม่ได้กลับบ้านที่เหมืองแล้วไปไหนล่ะครับ" ภูเบศไม่ยอมให้ภูผาเรียกพี่ เขาเลยต้องเรียกคุณแบบนี้มาตลอด แต่ส่วนมากจะเรียกแค่ต่อหน้าพ่อ เพราะอีกฝ่ายไม่เห็นว่าเขาเป็นน้องเขาก็ไม่จำเป็นต้องเห็นว่าเป็นพี่เช่นกัน
"ข้อนี้แหละพ่อสงสัยว่ามันต้องหาที่กบดานใหม่ แกพอรู้จักนักสืบฝีมือดีบ้างไหม"
"พอจะรู้จักอยู่บ้างครับ เดี๋ยวผมจะประสานให้นะครับ"
"ขอบใจมากลูกชาย มีแต่แกนี่แหละที่เป็นความหวังของพ่อ ส่วนไอ้นั่นถ้าไม่ตายก็คงกลับมาเจอหน้ากัน"
เวลาเดียวกันนั้นที่ปางไม้..
"นายหัวเรียกผมเข้ามามีอะไรครับ
"มึงสั่งคนที่เหมืองไว้ว่ายังไง"
"สั่งอะไรครับ"
"ทำไมพ่อกูถึงรู้ว่ากูไม่ได้อยู่เหมือง"
"สงสัยพวกมันจนแต้มแน่เลยครับ" เสี่ยภูริคงบอกจะคุยสายกับลูกชาย ลูกน้องที่อยู่ที่นั่นเลยต้องบอกความจริงไป
"หึ! ตามให้ตายก็หาไม่เจอ" คิดจะตามหาผู้หญิงคนนั้นเหรอ ถ้าไม่เป็นปุ๋ยก่อนก็คงจะมีลูกติด ถ้าเป็นแบบนั้นดูซิว่าคนแบบพ่อเขายังจะเอาไปทำเมียอยู่อีกไหม
"นายว่ายังไงนะครับ"
"เดี๋ยวกูจะลงไปข้างล่างหน่อย"
ภูเบศลงมาตรงที่ใช้ให้เธอปลูกสร้างบ้านช่วยคนงาน มาเห็นว่าเธอกำลังอู้งานพอดี
"พวกมึงทำอะไรอยู่" ได้ยินเสียงนี้ข้าวสวยที่เพิ่งนั่งพักรีบลุกขึ้น
"กำลังหาเครื่องมืออยู่ครับ" โครงการสร้างบ้านอีกหลังยังไม่เริ่มเครื่องไม้เครื่องมือเลยถูกเก็บไปไว้แล้ว พอเจ้านายสั่งมากะทันหันก็เลยต้องได้ไปค้นกันหน่อย
"กูหมายถึงคนขนไม้ของพวกมึง"
"ฉันเหนื่อยจะไม่ให้พักเลยหรือไง"
"ยังปากดีได้อยู่อีกไปยกไม้คานมา"
"อะไรคือไม้คาน"
"เธอจะยกไหวเหรอครับนายหัว" วัลลภที่เดินตามมาพูดออกไปตามนิสัยที่พูดไม่ค่อยคิด
"ถ้างั้นมึงก็ไปช่วยยก"
"มะ ไม่ถามแล้วครับ"
ข้าวสวยต้องยอมเดินตามคนของเขามาที่โรงเก็บไม้อยากรู้ว่าอะไรคือคาน มาถึงก็เห็นว่าเป็นไม้ท่อนใหญ่และยาวที่ไว้ใช้เชื่อมต่อกับเสาที่ตั้งอยู่
"ฉันจะยกไหวเหรอ"
"ไหวไม่ไหวก็ต้องยก" ถ้าเป็นผู้ชายยกสบายอยู่แล้ว แต่ผู้หญิงไม่แน่ใจว่าจะยกขึ้นไหม
คนงานที่เดินเข้ามาด้วยเลยแอบยกส่งให้
"โอ๊ย" แต่ถึงแม้คนงานจะยกให้พอวางลงบ่าไหล่ของเธอมันก็ไม่มีแรงพยุงจนร่างเล็กล้มลงโชคดีที่ไม้หล่นลงมาไม่ทับตัวของเธอด้วย
ภูเบศได้ยินเสียงเลยรีบเข้ามาดูก็เห็นว่าเธอนอนกองอยู่กับพื้น
"ตายไหมวะ" วัลลภรีบเดินเข้ามาเช็คลมหายใจดู "ยังหายใจอยู่ครับ เอาไงต่อดีครับ"
ดึกๆ คืนนั้น..
ทำไมปวดเมื่อยตัวขนาดนี้ หรือว่าเราตายไปแล้ว หญิงสาวที่หมดสติตั้งแต่ตอนแบกไม้คานค่อยๆ ฟื้นคืนสติ
"?" เราอยู่ที่ไหน หรือว่าทุกอย่างเราแค่ฝันไป ข้าวสวยมองไปรอบๆ ห้องที่เธอนอนอยู่ ห้องนี้มีเฟอร์นิเจอร์ครบแถมเตียงที่เธอนอนก็นิ่มสบายมาก
แต่พอคลำดูก็เจอเข้ากับร่างของใครบางคนที่นอนอยู่ข้างๆ ทีแรกตกใจเกือบจะกรีดร้องออกมาแล้ว พออีกฝ่ายขยับกายเธอก็เลยรีบเอามือมาปิดปากไว้แล้วก็แกล้งนอนลงไปที่เดิม
คนที่นอนอยู่ข้างๆ ผงกศีรษะขึ้นมามอง แล้วลองเช็คดูว่าเธอรู้สึกตัวหรือยัง เพราะเมื่อสักครู่สัมผัสได้ว่าเตียงมีความเคลื่อนไหว
มันทำอะไรเราไหม? อย่าบอกนะว่าเราตกเป็นเมียของมันแล้ว? แต่พอมือของเขาคลำต่ำลงมาหญิงสาวที่แกล้งหลับอยู่ก็ถึงกับสะดุ้ง
"ดึกป่านนี้แล้วทำไมยังไม่นอน แล้วนี่มานั่งมองอะไร"
"ทำไมนายหัวภูเบศถึงต้องเอาผู้หญิงคนนั้นขึ้นไปนอนบนห้องด้วยล่ะแม่" มะนาวเป็นคนเช็ดเนื้อเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ แต่ตอนนั้นผู้หญิงยังไม่ได้สติ
"แล้วแกไปยุ่งอะไรกับนายเขา"
"อย่าบอกนะว่าเขาหลงเสน่ห์แม่นั่นแล้ว"
"แกอย่าฝันสูงเลยน่า"
"ฉันไม่ยอมหรอกนะ ฉันอุตส่าห์เฝ้ามองมาตั้งนาน"
"มะนาวเอ้ย ถึงแม้ไม่มีผู้หญิงคนนี้นายหัวก็ไม่มองแกหรอก"
"กรี๊ดดด" ขณะที่แม่กับลูกกำลังคุยกันอยู่ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้องดังลั่นมาจากทางเรือนหลังใหญ่
ด้วยความที่เมื่อคืนดื่มหนักพอขึ้นเครื่องเขาก็หลับ เพราะแบบนี้แหละบนเครื่องบินส่วนตัวของเขาเลยต้องมีเตียงนอนไว้ให้ด้วย และเดินทางไม่นานก็มาถึงที่หมาย"นี่คุณภูเบศตื่นได้แล้วค่ะ""อืมม!" ชายหนุ่มพลิกตัวแล้วเอาหมอนขึ้นมาปิดหูตัวเองไว้"จะนอนอยู่นี่ใช่ไหม ถ้างั้นฉันไปคนเดียวก็ได้""อะไรของเธอวะ!" เขาเลยจำเป็นต้องลุก เดินลงมาจากเครื่องก็มีรถมาจอดรอรับอยู่แล้ว"สวัสดีครับนายหัว""โผล่หัวมาได้แล้วหรือพวกมึง""ขอโทษครับนายหัวพวกเราถูกคุมกำเนิดครับ""เดี๋ยวกูไล่ออกให้หมดเลยนี่ พวกมึงเป็นลูกน้องใครกันแน่วะระหว่างกูกับพ่อกู""เป็นลูกน้องนายหัวครับ แต่ไม่กล้างัดข้อกับเสี่ยครับ"เธอก็อยากรู้อยู่หรอกว่าอีตาบ้าเนี่ยไปมีเรื่องมีราวอะไรกับพ่อตัวเอง เพราะเธอก็เห็นอยู่ว่าพ่อของเขารักเขามากขนาดไหนใช้เวลานั่งรถมาร่วมชั่วโมงก็มาถึงปางไม้ตอนรถวิ่งเข้ามาเธอก็รู้สึกใจคอไม่ดี เพราะเหตุการณ์ครั้งแรกที่ถูกเขาพาตัวมาอยู่ที่นี่มันยังคงฝังใจ แต่ครั้งนี้เธอมาในฐานะภรรยาของเขา คงไม่เป็นแบบครั้งนั้นหรอกมั้ง"นายหัวคะ" เห็นรถที่ออกไปรับนายหัววิ่งเข้ามามะนาวก็รีบมารับหน้า "?" แต่พอประตูเปิดออกก็เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นติ
"ขอโทษครับนาย" มาถึงวัลลภก็โค้งลำตัวขอโทษยกใหญ่เลย"มึงได้รับโทษแน่" ตอนนี้อยู่ที่สาธารณะถ้าทำอะไรลงไปเดี๋ยวคนก็มองเลยต้องทดไว้ในใจก่อน"แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นยังไงบ้างครับ""มึงติดต่อรถพยาบาลมาหรือยัง""ติดต่อมาแล้วครับเดี๋ยวก็คงมาถึง""ให้รถพยาบาลรับตัวเธอเข้าไปรักษา""ดูนายจะเป็นห่วงเธอจังเลยนะครับ""เรื่องของมึงยังไม่เคลียร์ไม่ต้องมาเสือกเรื่องคนอื่น""ขอโทษครับนายหัว" จะพูดก็พูดไม่ได้ว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะฝีมือของเสี่ยพ่อของนายหัวนั่นแหละ เพราะภูริสั่งไว้ห้ามพูดให้ลูกชายฟัง รวมไปถึงเรื่องสถานที่ที่ถูกจัดไว้ให้ก็เป็นฝีมือของเสี่ยภูริเช่นกันข้าวสวยถูกพาตัวมารักษาที่โรงพยาบาลในตัวกรุงเทพฯ ส่วนภูริก็แยกจากเธอตั้งแต่ตอนที่รถพยาบาลมารับตัวแล้ว"เป็นไงบ้างวะชีวิตมีความสุขดีอยู่หรือเปล่า""ก็เรื่อยๆ""วันนี้ต้องการเด็กกี่คนบอกมาได้เลยเดี๋ยวจัดให้""กูแค่อยากมาดื่ม มึงมาดื่มเป็นเพื่อนกูหน่อยสิวะ""มีเรื่องกับพ่ออีกแล้วใช่ไหมเนี่ย""เปล่าหรอก""ถ้างั้นเดี๋ยวกูไปเคลียร์งานก่อนจะมานั่งดื่มเป็นเพื่อน อย่าเพิ่งเมาก่อนแล้วกัน" ว่าแล้วอัศวินก็ออกจากห้อง VIP ไป ที่ห้องทำงานส่วนทางด
"โอ๊ย กัดลงมาได้ยังไงวะ!" ขณะที่กำลังเร่งความเร็ว ข้าวสวยก็กัดลงที่ต้นแขนของเขา จนภูเบศต้องถอดมันออกก่อนเพราะหมดอารมณ์"ออกไปนะ!" เธอรีบขยับตัวให้ออกห่างเขามากที่สุด"ไม่ไปโว้ย" "ฉันบอกให้ออกไปไง!" หญิงสาวควานหาของทุ่นแรงที่จะใช้ไล่เขาออกไป แต่ในมุ้งนี้นอกจากหมอนกับพัดลมแล้วก็ไม่มีอะไร ถ้าจะเอาพัดลมปาเดี๋ยวก็ไม่มีพัดลมใช้เธอเลยต้องใช้หมอน"ไปก็ได้วะ" ภูเบศเก็บของสงวนเข้าที่ไว้ก่อน จะให้เอาอีกก็คงไม่มีอารมณ์แล้ว เจ็บก็เจ็บกัดลงมาได้ยังไง ดีนะเนื้อไม่ขาดติดปากไปด้วย"ไอ้บ้าไอ้เลว" ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่เสร็จสมอารมณ์หมายแต่มันก็ทำให้เธอเจ็บจุกได้ กระแทกขนาดนั้น เราจะท้องไหมเนี่ย แต่มันยังไม่ปล่อยน้ำคงไม่ท้องหรอกมั้งภูเบศลงมาข้างล่างก็เลยต้องใช้โต๊ะไม้ที่อยู่ข้างล่างเป็นที่นอน แต่โต๊ะไม้ทำขึ้นมาเพื่อนั่งพอใช้เป็นที่นอนก็อึดอัด เพราะความยาวของมันไม่เท่าความยาวของร่างกายเขาเลย ไอ้วัลลภมึงอย่าให้กูเจอตัวมึงนะ กูจะเอาให้มึงหยอดน้ำข้าวต้มเลยคอยดูสิ วันที่สามแล้วยังไม่เข้ามาดูเลยว่าเจ้านายเป็นยังไง แต่ขณะที่กำลังคิดโมโหให้ลูกน้องเขาก็คิดไปถึงเรื่องเมื่อสักครู่ ทำไมจะดูไม่ออกว่าเธอยังไม่มีอะไ
"แอะๆ กรี๊ดดดด" หญิงสาวพยายามจะขึ้นจากน้ำแต่เหมือนมีคนดึงตัวเธอไว้เลยถีบเข้าให้ พอเป็นอิสระเธอก็โผล่หัวขึ้นมาจากน้ำ"โอ๊ยย ถีบมาได้ยังไงวะ!""คุณ?!""ก็กูน่ะสิ!!""คุณเล่นบ้าอะไรล่ะ""ถ้าไม่ทำแบบนี้เธอจะลงมางมหอยช่วยฉันเหรอ""ใครจะลงมางมหอยช่วยคุณ" ที่จริงเธอไม่ได้กระโดดลงมาดูเขาด้วยซ้ำแต่ลื่นตกลงมาเอง ข้าวสวยกำลังจะปีนขึ้นไปแต่ถูกเขาดึงตัวกลับลงมาจนผ้าถุงที่เธอใส่อยู่หลุดออก"กรี๊ดดด" หญิงสาวรีบคว้าดึงผ้าถุงไว้ แต่เขาก็ยังแกล้งดึงปลายผ้าถุงไม่ให้เธอใส่กลับคืนไปได้"คุณภูเบศอย่าเล่นแบบนี้สิ!""จะช่วยฉันเก็บหอยไหมล่ะ""ช่วยก็ได้ปล่อยผ้าถุงฉันก่อน" เขาเลยยอมปล่อยผ้าถุงให้เธอใส่มันให้เรียบร้อยทั้งสองช่วยกันงมหอย ภูเบศงมน้ำลึกหน่อยส่วนเธองมช่วงริมตลิ่ง"กรี๊ดดด" ขณะที่ใจจดใจจ่อกับการงมหอยอยู่ดีๆ ขาของเธอก็เหมือนมีอะไรมาจับ"อ้าว ฉันนึกว่าได้ปลา ที่ไหนได้ขาคนหรือนี่""คนบ้าฉันตกใจหมดเลย!""ฮ่าาๆ" ที่จริงเขามองเห็นแล้วล่ะ ตั้งใจอยากจะแกล้งมากกว่า "อ้าวแล้วนั่นจะไปไหน""จะขึ้นน่ะสิ""พอแล้วเหรอ""คุณงมต่อไปเลยนะ!" ข้าวสวยเอาที่เขางมได้ขึ้นมาด้วย พอเดินมาถึงบ้านเธอก็หุงข้าวทิ้งไว้ก่อนเลยระห
อืมมม ทานเข้าไปคำแรกก็รู้สึกถึงความเผ็ดของพริกและกระเทียม แต่ก็ตัดเค็มด้วยน้ำปลามะนาวแถมยังมีรสหวานติดปลายลิ้นเล็กน้อยข้าวสวยก็ไม่ได้มองเขาแบบเต็มตาหรอกแค่แอบชำเลืองมอง เห็นว่าเขาเริ่มตักคำที่สอง คำที่สามคิดว่าเขาคงกินได้แหละแบบนี้ก็กินได้ด้วยเหรอ กินไปจนข้าวจะหมดจานก็ยังมีคำถามเดิมผุดเข้ามาในหัว แสดงว่าชาวบ้านที่ไม่มีกำลังทรัพย์ที่อยู่ตามหัวไร่ปลายนาเขาหากินกันแบบนี้เองเหรออิ่มแล้วข้าวสวยก็ยกเอาถ้วยข้าวตัวเองเข้าไปล้าง พอออกมาก็เห็นว่าเขาอิ่มแล้วเช่นกัน แต่เขาไม่เก็บถ้วยชามที่เหลือ "นี่คุณกินทิ้งไว้แบบนั้นไม่คิดจะเก็บเลยหรือไง" "ก็เก็บเองสิ""ที่นี่ไม่มีคนรับใช้ใครกินก็ต้องเก็บ ของที่เหลือคุณกินเสร็จคนสุดท้ายคุณก็ต้องเก็บ""เรื่องอะไร" ว่าแล้วภูเบศก็เดินออกไปจากบ้าน เขาเดินดูบรรยากาศรอบๆ ทำไมไอ้วัลลภถึงหาที่แบบนี้ได้เร็วจัง เรื่องนี้เขาก็คิดอยู่หรอก เพราะที่นี่มันบรรยากาศดีมากเลย แถมเครื่องอำนวยความสะดวกก็มีครบถึงแม้บ้านจะเป็นแค่บ้านไม้ชั้นล่างเปิดโล่งแต่ก็มีห้องครัวไว้ทำอาหาร ไม้ผนังห้องครัวยังใหม่ๆ อยู่เลยเห็นเขาไม่เก็บถ้วยชามข้าวสวยเลยต้องเป็นคนเก็บเอง เก็บเสร็จเธอก็ขึ้นไป
"ตามไปใช่ไหมครับ" เห็นนายหัวเดินมาขึ้นรถก็รู้แล้วว่าต้องตามรถคันนั้นไป "รู้แล้วมึงจะถามทำไมรีบตามไปสิ""แต่คนของเสี่ยคุ้มกันแน่นหนาเลยนะครับ""ตามไปก่อน ค่อยหาโอกาสอีกที""ครั้งนี้ถ้าเสี่ยรู้ว่านายหัวทำแบบเดิมผมกลัวว่า..""มึงไม่ต้องพูดมากได้ไหมกูบอกให้ตามไง!"รถคนของพ่อเขาขับพาเธอมาที่บริษัทแห่งหนึ่ง และภูเบศก็ตามมาจนถึงที่นี่"มาทำไมที่นี่วะ""ผมก็ยังไม่แน่ใจครับ""สวัสดีค่ะคุณหนู" พนักงานต้อนรับรีบออกมาต้อนรับเหมือนเช่นเคย"สวัสดีค่ะ"ทุกครั้งคนของเสี่ยมาส่งที่นี่ก็จะรออยู่แถวนี้ แต่ครั้งนี้รถทั้งสองคันขับออกไป เลยเป็นโอกาสให้วัลลภได้เข้ามาสอบถามด้วยความกะล่อนของวัลลภถึงแม้พนักงานจะบ่ายเบี่ยงแต่ก็ยังชวนคุยจนรู้ว่าผู้หญิงที่เข้าไปเมื่อสักครู่เป็นลูกสาวของท่านประธาน และรู้ไปอีกว่า ท่านประธานคนนี้คือคนใหม่ที่เพิ่งมารับตำแหน่ง"หึ! คงจะเข้ามาเสพสุขกันทั้งครอบครัวเลยสิ ถึงกับยกบริษัทให้เลย""แล้วนายหัวจะเอายังไงต่อดีครับ""ครั้งนี้กูว่าลากลงใต้เลยดีกว่าไหม""จะใต้หรือเหนือตอนนี้เสี่ยก็รู้ที่กบดานของเราแล้วครับ""มึงมีหัวไว้กั้นหูเฉยๆ หรือวะช่วยกูคิดหน่อยสิ"หลังจากคุยกับพ่ออยู่ไม่นานข