หลังจากเข้าห้องน้ำเสร็จข้าวสวยก็ถูกพากลับมาไว้ที่เดิม ถ้าเธอจะหนีอีกต้องเอาให้ชัวร์ว่าจะหนีได้ ถ้าหนีไม่ได้คราวนี้มีหวังได้เป็นปุ๋ยที่นี่แน่
"ไม่มีที่นอนให้เลยหรือคะ"
"ยังจะถามหาที่นอนอีก มีหมอนให้ก็ดีเท่าไรแล้ว"
หมอนเธอก็ไม่กล้าหนุนหรอก ไม่รู้ว่าใครหนุนบ้างมีคราบดำๆ ด้วย
ประตูห้องถูกล็อกทันทีที่เธอเข้ามาข้างใน หญิงสาวเลยต้องไปนั่งอยู่มุมใดมุมหนึ่ง
เช้าวันต่อมา.. ไม่รู้เผลอหลับไปตอนไหน หลับมันทั้งๆ ที่นั่งพิงผนังอยู่ ตื่นมาอีกทีฟ้าข้างนอกก็สว่างมากแล้ว ทำไมเธอต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ด้วย เธอไม่ใช่เชลยของใครสักหน่อย
ก๊อกๆ "พี่คะ ฉันหิวน้ำ"
สิ้นเสียงพูดประตูก็ถูกเปิดเข้ามา
"คุณ?" คนที่เปิดประตูก็คือไอ้บ้าคนนั้น ข้าวสวยเลยค่อยๆ ถอยหลังกลัวว่ามันจะคิดทำอะไรบ้าๆ อีก
"ออกมา"
"คุณจะพาฉันไปไหน"
"อยู่ที่นี่ก็ต้องทำงาน"
"ทำงาน? คุณจะให้ฉันทำงานอะไร?"
"มีงานตั้งมากมาย เธอไม่ต้องกลัวหรอกว่าจะไม่มีงานทำ"
"ถ้างานหนักฉันทำไม่เป็นนะ"
"ที่นี่ไม่มีงานหนักหรอก"
ที่จริงจะให้ลูกน้องมาพาเธอไปก็ได้ แต่เมื่อคืนนี้เธอทำเขานอนไม่หลับทั้งคืนเลยต้องเล่นงานเธอกลับหน่อย
ที่ภูเบศนอนไม่หลับเพราะคิดถึงตอนที่ได้สัมผัสร่างกายของเธอ ผู้หญิงคนนี้เป็นของพ่อเขาไม่คิดจะซ้ำรอยพ่ออยู่แล้ว ส่วนหนึ่งที่หยุดยั้งตัวเองได้เมื่อคืนก็เพราะเรื่องนี้แหละ ถ้าไม่ใช่ผู้หญิงของพ่อเขาคงจัดการไปแล้ว
"ไร่องุ่น?" เดินตามเขามาจนพ้นเนินมองลงไปก็เห็นไร่องุ่น
"เก็บองุ่นแถวนี้ให้เสร็จภายในวันนี้"
"ทำไมคุณไม่ให้คนงานเก็บล่ะ"
"ก็เธอไงคนงาน"
"ฉันไม่ใช่คนงานของคุณสักหน่อย"
"ถ้างั้นวันนี้ก็ไม่ต้องกินข้าว"
"คุณทำแบบนี้ไม่ได้นะ!"
"เก็บให้ได้หนึ่งล็อกแล้วจะให้คนเอาข้าวมาให้กิน" 1 ล็อก 10 เมตร แต่ทั้งแถว 50 เมตร
"เดี๋ยวก่อนสิคะ" แต่พอเธอจะเดินตามคนของเขาก็เดินเข้ามาดักหน้าไว้ "แล้วพวกคุณทำอะไรอยู่ทำไมไม่เก็บองุ่น"
"ไม่ใช่หน้าที่"
หญิงสาวหันกลับไปมององุ่นแถวที่เขาบอก แต่ละเครือลูกดกมาก แค่ล็อกเดียวถึงเที่ยงจะเก็บเสร็จไหมเนี่ย
แต่เธอก็ต้องทำ ถ้าจะเก็บมากินก็กลัวพวกยาฆ่าแมลงหรือสารเคมี เพราะองุ่นขึ้นชื่อเรื่องพวกนี้มาก
"โอ๊ยหิวข้าว" เก็บไปได้ชั่วโมงกว่าก็เริ่มหิวแดดก็ร้อน "ฉันขอน้ำดื่มหน่อยได้ไหม"
ไม่นานน้ำก็ถูกนำมาให้ หลังจากดื่มน้ำเสร็จข้าวสวยก็ต้องเก็บองุ่นต่อ
กล้องส่องทางไกลถูกส่องผ่านหน้าต่างบนชั้นสองของบ้าน เขาส่องดูเธอว่ายังคงทำงานอยู่ไหม
"นายหัวคิดจะทำอะไร"
"มึงเข้ามาตั้งแต่เมื่อไรวะ" กำลังส่องอยู่ได้ยินเสียงวัลลภถึงกับตกใจ
"นายหัวไม่เคยทำแบบนี้กับผู้หญิงคนไหนมาก่อน"
"เรื่องของกู หรือมึงอยากไปช่วยเก็บองุ่น"
"ไม่เอาหรอกครับ ให้คนงานลงไร่องุ่นไหมครับ" เพราะเรื่องนี้แหละวัลลภถึงได้เข้ามาหานายหัว
"ตอนเช้าไม่ต้อง" เขาอยากรู้ว่าเช้าไปถึงเที่ยงเธอจะทำงานได้เท่าไร ชายหนุ่มเลยใช้กล้องส่องไปดูอีกรอบ บ้านหลังนี้เป็นเนินสูงมองได้รอบทิศทาง
แต่พอมองดีๆ การเก็บองุ่นของเธอมันไม่ต่างจากการทำลายเลย เพราะเธอใช้มือดึงเอาดึงเอาไม่ใช้ที่ตัดแล้ววางสวยๆ
"ทำอะไรของเธอ" ภูเบศลงมาดูด้วยตัวเอง และพอมองไปดูลังเก็บองุ่นก็เห็นว่ามันใช้ไม่ได้เลย
"ฉันก็เก็บองุ่นอยู่นี่ไง" ขณะที่ตอบเธอยังคงใช้มือดึงพวงองุ่น
"ใครบอกให้เธอเก็บแบบนั้น"
"เก็บแบบไหนก็คือเก็บเหมือนกันนั่นแหละ"
"องุ่นต้องตัดวางสวยๆ"
"คุณบอกแค่ให้ฉันเก็บนี่ โอ๊ย" อยู่ดีๆ ร่างของเธอก็ถูกกระชากให้หันกลับมา "ฉันเจ็บนะ"
"ฉันจะเอายังไงกับเธอดี สบายจนเคยตัว คิดว่าชีวิตนี้จะรอใช้เงินไอ้เสี่ยแก่ๆ ไม่คิดจะทำงานเลยหรือไง"
"คุณมีความแค้นอะไรกับเสี่ยภูริหรือเปล่า" เพราะคำพูดของเขาแต่ละคำเหมือนว่าให้เสี่ยเลย
"เรื่องของฉัน"
"มันจะเป็นเรื่องของคุณคนเดียวได้ยังไง ในเมื่อคุณจับตัวฉันมาแบบนี้ โอ๊ยฉันเจ็บนะปล่อย!" มือเธอที่ยังไม่เป็นอิสระถูกเขาจับบิดจนตัวงอไปตามแรงบิดเพราะถ้าเกร็งมีหวังหัก
"ให้ทำงานสบายไม่ชอบ งั้นก็ต้องหางานใหม่ให้เธอทำแล้วล่ะ"
นี่เรียกงานสบายแล้วเหรอ? แล้วงานใหม่คืองานอะไรอีกล่ะ
แต่ก่อนที่จะพาเธอไปรับงานใหม่ เขาก็ให้มะนาวหาอะไรมาให้เธอทานก่อน
"คุณพอจะช่วยฉันได้ไหม ฉันอยากไปจากที่นี่" ข้าวสวยรีบพูดตอนที่มะนาวเอาอาหารมาวางไว้ตรงหน้า แต่เหมือนอีกฝ่ายไม่ได้ยินสิ่งที่เธอพูดเลย "คุณคะคุณได้ยินฉันไหม ฉันอยากไปจากที่นี่ช่วยฉันหน่อย"
"มีอะไร" ลูกน้องที่เฝ้าอยู่มองมาเห็นพอดี
"ไม่มีอะไร" มะนาวตอบพร้อมกับเดินออกมา
ข้าวสวยเลยต้องรีบทานเพราะถ้าไม่งั้นคงไม่ได้ทาน หลังจากทานจนอิ่มแล้วลูกน้องของเขาก็พาเธอมาโกดังเก็บไม้ที่เคยเอาเธอมาขังไว้
"ไปยกไม้ออกมา"
"ยกไม้?"
"นายหัวจะสร้างบ้านอีกหลัง"
"สร้างก็สร้างไปสิมันเกี่ยวอะไรกับฉัน"
"ก็นายหัวสั่งให้คุณเป็นคนส่งไม้"
"ห๊ะ?"
ด้วยความที่เมื่อคืนดื่มหนักพอขึ้นเครื่องเขาก็หลับ เพราะแบบนี้แหละบนเครื่องบินส่วนตัวของเขาเลยต้องมีเตียงนอนไว้ให้ด้วย และเดินทางไม่นานก็มาถึงที่หมาย"นี่คุณภูเบศตื่นได้แล้วค่ะ""อืมม!" ชายหนุ่มพลิกตัวแล้วเอาหมอนขึ้นมาปิดหูตัวเองไว้"จะนอนอยู่นี่ใช่ไหม ถ้างั้นฉันไปคนเดียวก็ได้""อะไรของเธอวะ!" เขาเลยจำเป็นต้องลุก เดินลงมาจากเครื่องก็มีรถมาจอดรอรับอยู่แล้ว"สวัสดีครับนายหัว""โผล่หัวมาได้แล้วหรือพวกมึง""ขอโทษครับนายหัวพวกเราถูกคุมกำเนิดครับ""เดี๋ยวกูไล่ออกให้หมดเลยนี่ พวกมึงเป็นลูกน้องใครกันแน่วะระหว่างกูกับพ่อกู""เป็นลูกน้องนายหัวครับ แต่ไม่กล้างัดข้อกับเสี่ยครับ"เธอก็อยากรู้อยู่หรอกว่าอีตาบ้าเนี่ยไปมีเรื่องมีราวอะไรกับพ่อตัวเอง เพราะเธอก็เห็นอยู่ว่าพ่อของเขารักเขามากขนาดไหนใช้เวลานั่งรถมาร่วมชั่วโมงก็มาถึงปางไม้ตอนรถวิ่งเข้ามาเธอก็รู้สึกใจคอไม่ดี เพราะเหตุการณ์ครั้งแรกที่ถูกเขาพาตัวมาอยู่ที่นี่มันยังคงฝังใจ แต่ครั้งนี้เธอมาในฐานะภรรยาของเขา คงไม่เป็นแบบครั้งนั้นหรอกมั้ง"นายหัวคะ" เห็นรถที่ออกไปรับนายหัววิ่งเข้ามามะนาวก็รีบมารับหน้า "?" แต่พอประตูเปิดออกก็เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นติ
"ขอโทษครับนาย" มาถึงวัลลภก็โค้งลำตัวขอโทษยกใหญ่เลย"มึงได้รับโทษแน่" ตอนนี้อยู่ที่สาธารณะถ้าทำอะไรลงไปเดี๋ยวคนก็มองเลยต้องทดไว้ในใจก่อน"แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นยังไงบ้างครับ""มึงติดต่อรถพยาบาลมาหรือยัง""ติดต่อมาแล้วครับเดี๋ยวก็คงมาถึง""ให้รถพยาบาลรับตัวเธอเข้าไปรักษา""ดูนายจะเป็นห่วงเธอจังเลยนะครับ""เรื่องของมึงยังไม่เคลียร์ไม่ต้องมาเสือกเรื่องคนอื่น""ขอโทษครับนายหัว" จะพูดก็พูดไม่ได้ว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะฝีมือของเสี่ยพ่อของนายหัวนั่นแหละ เพราะภูริสั่งไว้ห้ามพูดให้ลูกชายฟัง รวมไปถึงเรื่องสถานที่ที่ถูกจัดไว้ให้ก็เป็นฝีมือของเสี่ยภูริเช่นกันข้าวสวยถูกพาตัวมารักษาที่โรงพยาบาลในตัวกรุงเทพฯ ส่วนภูริก็แยกจากเธอตั้งแต่ตอนที่รถพยาบาลมารับตัวแล้ว"เป็นไงบ้างวะชีวิตมีความสุขดีอยู่หรือเปล่า""ก็เรื่อยๆ""วันนี้ต้องการเด็กกี่คนบอกมาได้เลยเดี๋ยวจัดให้""กูแค่อยากมาดื่ม มึงมาดื่มเป็นเพื่อนกูหน่อยสิวะ""มีเรื่องกับพ่ออีกแล้วใช่ไหมเนี่ย""เปล่าหรอก""ถ้างั้นเดี๋ยวกูไปเคลียร์งานก่อนจะมานั่งดื่มเป็นเพื่อน อย่าเพิ่งเมาก่อนแล้วกัน" ว่าแล้วอัศวินก็ออกจากห้อง VIP ไป ที่ห้องทำงานส่วนทางด
"โอ๊ย กัดลงมาได้ยังไงวะ!" ขณะที่กำลังเร่งความเร็ว ข้าวสวยก็กัดลงที่ต้นแขนของเขา จนภูเบศต้องถอดมันออกก่อนเพราะหมดอารมณ์"ออกไปนะ!" เธอรีบขยับตัวให้ออกห่างเขามากที่สุด"ไม่ไปโว้ย" "ฉันบอกให้ออกไปไง!" หญิงสาวควานหาของทุ่นแรงที่จะใช้ไล่เขาออกไป แต่ในมุ้งนี้นอกจากหมอนกับพัดลมแล้วก็ไม่มีอะไร ถ้าจะเอาพัดลมปาเดี๋ยวก็ไม่มีพัดลมใช้เธอเลยต้องใช้หมอน"ไปก็ได้วะ" ภูเบศเก็บของสงวนเข้าที่ไว้ก่อน จะให้เอาอีกก็คงไม่มีอารมณ์แล้ว เจ็บก็เจ็บกัดลงมาได้ยังไง ดีนะเนื้อไม่ขาดติดปากไปด้วย"ไอ้บ้าไอ้เลว" ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่เสร็จสมอารมณ์หมายแต่มันก็ทำให้เธอเจ็บจุกได้ กระแทกขนาดนั้น เราจะท้องไหมเนี่ย แต่มันยังไม่ปล่อยน้ำคงไม่ท้องหรอกมั้งภูเบศลงมาข้างล่างก็เลยต้องใช้โต๊ะไม้ที่อยู่ข้างล่างเป็นที่นอน แต่โต๊ะไม้ทำขึ้นมาเพื่อนั่งพอใช้เป็นที่นอนก็อึดอัด เพราะความยาวของมันไม่เท่าความยาวของร่างกายเขาเลย ไอ้วัลลภมึงอย่าให้กูเจอตัวมึงนะ กูจะเอาให้มึงหยอดน้ำข้าวต้มเลยคอยดูสิ วันที่สามแล้วยังไม่เข้ามาดูเลยว่าเจ้านายเป็นยังไง แต่ขณะที่กำลังคิดโมโหให้ลูกน้องเขาก็คิดไปถึงเรื่องเมื่อสักครู่ ทำไมจะดูไม่ออกว่าเธอยังไม่มีอะไ
"แอะๆ กรี๊ดดดด" หญิงสาวพยายามจะขึ้นจากน้ำแต่เหมือนมีคนดึงตัวเธอไว้เลยถีบเข้าให้ พอเป็นอิสระเธอก็โผล่หัวขึ้นมาจากน้ำ"โอ๊ยย ถีบมาได้ยังไงวะ!""คุณ?!""ก็กูน่ะสิ!!""คุณเล่นบ้าอะไรล่ะ""ถ้าไม่ทำแบบนี้เธอจะลงมางมหอยช่วยฉันเหรอ""ใครจะลงมางมหอยช่วยคุณ" ที่จริงเธอไม่ได้กระโดดลงมาดูเขาด้วยซ้ำแต่ลื่นตกลงมาเอง ข้าวสวยกำลังจะปีนขึ้นไปแต่ถูกเขาดึงตัวกลับลงมาจนผ้าถุงที่เธอใส่อยู่หลุดออก"กรี๊ดดด" หญิงสาวรีบคว้าดึงผ้าถุงไว้ แต่เขาก็ยังแกล้งดึงปลายผ้าถุงไม่ให้เธอใส่กลับคืนไปได้"คุณภูเบศอย่าเล่นแบบนี้สิ!""จะช่วยฉันเก็บหอยไหมล่ะ""ช่วยก็ได้ปล่อยผ้าถุงฉันก่อน" เขาเลยยอมปล่อยผ้าถุงให้เธอใส่มันให้เรียบร้อยทั้งสองช่วยกันงมหอย ภูเบศงมน้ำลึกหน่อยส่วนเธองมช่วงริมตลิ่ง"กรี๊ดดด" ขณะที่ใจจดใจจ่อกับการงมหอยอยู่ดีๆ ขาของเธอก็เหมือนมีอะไรมาจับ"อ้าว ฉันนึกว่าได้ปลา ที่ไหนได้ขาคนหรือนี่""คนบ้าฉันตกใจหมดเลย!""ฮ่าาๆ" ที่จริงเขามองเห็นแล้วล่ะ ตั้งใจอยากจะแกล้งมากกว่า "อ้าวแล้วนั่นจะไปไหน""จะขึ้นน่ะสิ""พอแล้วเหรอ""คุณงมต่อไปเลยนะ!" ข้าวสวยเอาที่เขางมได้ขึ้นมาด้วย พอเดินมาถึงบ้านเธอก็หุงข้าวทิ้งไว้ก่อนเลยระห
อืมมม ทานเข้าไปคำแรกก็รู้สึกถึงความเผ็ดของพริกและกระเทียม แต่ก็ตัดเค็มด้วยน้ำปลามะนาวแถมยังมีรสหวานติดปลายลิ้นเล็กน้อยข้าวสวยก็ไม่ได้มองเขาแบบเต็มตาหรอกแค่แอบชำเลืองมอง เห็นว่าเขาเริ่มตักคำที่สอง คำที่สามคิดว่าเขาคงกินได้แหละแบบนี้ก็กินได้ด้วยเหรอ กินไปจนข้าวจะหมดจานก็ยังมีคำถามเดิมผุดเข้ามาในหัว แสดงว่าชาวบ้านที่ไม่มีกำลังทรัพย์ที่อยู่ตามหัวไร่ปลายนาเขาหากินกันแบบนี้เองเหรออิ่มแล้วข้าวสวยก็ยกเอาถ้วยข้าวตัวเองเข้าไปล้าง พอออกมาก็เห็นว่าเขาอิ่มแล้วเช่นกัน แต่เขาไม่เก็บถ้วยชามที่เหลือ "นี่คุณกินทิ้งไว้แบบนั้นไม่คิดจะเก็บเลยหรือไง" "ก็เก็บเองสิ""ที่นี่ไม่มีคนรับใช้ใครกินก็ต้องเก็บ ของที่เหลือคุณกินเสร็จคนสุดท้ายคุณก็ต้องเก็บ""เรื่องอะไร" ว่าแล้วภูเบศก็เดินออกไปจากบ้าน เขาเดินดูบรรยากาศรอบๆ ทำไมไอ้วัลลภถึงหาที่แบบนี้ได้เร็วจัง เรื่องนี้เขาก็คิดอยู่หรอก เพราะที่นี่มันบรรยากาศดีมากเลย แถมเครื่องอำนวยความสะดวกก็มีครบถึงแม้บ้านจะเป็นแค่บ้านไม้ชั้นล่างเปิดโล่งแต่ก็มีห้องครัวไว้ทำอาหาร ไม้ผนังห้องครัวยังใหม่ๆ อยู่เลยเห็นเขาไม่เก็บถ้วยชามข้าวสวยเลยต้องเป็นคนเก็บเอง เก็บเสร็จเธอก็ขึ้นไป
"ตามไปใช่ไหมครับ" เห็นนายหัวเดินมาขึ้นรถก็รู้แล้วว่าต้องตามรถคันนั้นไป "รู้แล้วมึงจะถามทำไมรีบตามไปสิ""แต่คนของเสี่ยคุ้มกันแน่นหนาเลยนะครับ""ตามไปก่อน ค่อยหาโอกาสอีกที""ครั้งนี้ถ้าเสี่ยรู้ว่านายหัวทำแบบเดิมผมกลัวว่า..""มึงไม่ต้องพูดมากได้ไหมกูบอกให้ตามไง!"รถคนของพ่อเขาขับพาเธอมาที่บริษัทแห่งหนึ่ง และภูเบศก็ตามมาจนถึงที่นี่"มาทำไมที่นี่วะ""ผมก็ยังไม่แน่ใจครับ""สวัสดีค่ะคุณหนู" พนักงานต้อนรับรีบออกมาต้อนรับเหมือนเช่นเคย"สวัสดีค่ะ"ทุกครั้งคนของเสี่ยมาส่งที่นี่ก็จะรออยู่แถวนี้ แต่ครั้งนี้รถทั้งสองคันขับออกไป เลยเป็นโอกาสให้วัลลภได้เข้ามาสอบถามด้วยความกะล่อนของวัลลภถึงแม้พนักงานจะบ่ายเบี่ยงแต่ก็ยังชวนคุยจนรู้ว่าผู้หญิงที่เข้าไปเมื่อสักครู่เป็นลูกสาวของท่านประธาน และรู้ไปอีกว่า ท่านประธานคนนี้คือคนใหม่ที่เพิ่งมารับตำแหน่ง"หึ! คงจะเข้ามาเสพสุขกันทั้งครอบครัวเลยสิ ถึงกับยกบริษัทให้เลย""แล้วนายหัวจะเอายังไงต่อดีครับ""ครั้งนี้กูว่าลากลงใต้เลยดีกว่าไหม""จะใต้หรือเหนือตอนนี้เสี่ยก็รู้ที่กบดานของเราแล้วครับ""มึงมีหัวไว้กั้นหูเฉยๆ หรือวะช่วยกูคิดหน่อยสิ"หลังจากคุยกับพ่ออยู่ไม่นานข