LOGIN"กรี๊ดดด เอามือของแกออกไปนะไอ้เลว!"
"เลวงั้นเหรอ! แบบนี้เขายังไม่เรียกเลวหรอกถ้าเลวต้องแบบนี้!!" จบประโยคภูเบศก็จับเธอกดลงกับเตียง แล้วฝังใบหน้าลงกับซอกคอ
"กรี๊ดดด ปล่อยฉันนะ!!" หญิงสาวดิ้นรนต่อสู้แต่ก็สู้แรงของผู้ชายไม่ได้ ยิ่งเธอดิ้นมันก็ยิ่งทำให้เขาใช้แรงกับเธอได้มากจนเรี่ยวแรงของเธอเริ่มหมดไป ร่างกายอ่อนปวกเปียกแม้แต่เสียงด่าก็ไม่ได้ยินอีกแล้ว
"แม่บอกให้ไปนอนไงมะนาว"
"เสียงมันเงียบไปแล้วแม่"
"เราไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง และนั่นมันก็เป็นเรื่องของเจ้านาย"
"ฉันว่าแม่ไปบวชเถอะ" พูดถึงเรื่องนี้ที่ไรแม่ไม่เคยเข้าข้างลูกสาวเลยสักที
"นี่เธอ?" ชายหนุ่มที่ฝังใบหน้าอยู่กับซอกคอ ค่อยๆ ขยับตัวขึ้นมามองใกล้ๆ แล้วเช็คดูว่าตกลงเธอยังมีสติอยู่ไหม "แกล้งหรือเปล่าวะ คนอะไรจะอ่อนแอขนาดนี้"
ด้วยร่างกายที่เหนื่อยล้าตั้งแต่วันแรกที่เธอหนีเขาแล้ว พอมีเรื่องกระทบจิตใจร่างกายเธอเลยรับไม่ไหวหมดสติไปอีกรอบ
"หึ.. แกล้งหรือจริงเดี๋ยวก็รู้" ชายหนุ่มบรรจงถอดเสื้อผ้าของเธอออกทีละชิ้น ถ้าเธอแกล้งหมดสติเดี๋ยวก็มีปฏิกิริยาให้เห็น แต่พอเขาถอดออกจนชิ้นสุดท้ายเธอก็ยังคงนิ่งอยู่
เห็นเรือนร่างงามผุดผ่องเป็นยองใยแล้วภูเบศถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ
เช้าวันต่อมา..
"?" ข้าวสวยรู้สึกตัวตื่นเพราะแสงแดดที่ส่องผ่านม่านหน้าต่างเข้ามาแยงตา "กรี๊ดดดดด" พอตื่นขึ้นมาเห็นว่าตัวเองไม่มีเสื้อผ้าติดตัวเลยสักชิ้นก็ตกใจมาก
"อะไรวะ!" คนที่นอนเอาผ้าห่มคลุมหัวอยู่ กระชากผ้าห่มออกแล้วก็ดันตัวลุกขึ้นมานั่งด้วยอาการงัวเงีย
"แกทำอะไรฉัน!?" ข้าวสวยรีบดึงผ้าห่มมาปิดบังร่างกายไว้ใบหน้าร้อนผ่าวด้วยความโกรธ "แกทำแบบนี้กับเพศแม่ได้ยังไง" สิ้นคำพูดข้าวสวยก็หยิบหมอนขึ้นมาฟาดใส่เขาอย่างแรง
แต่หมอนยังไม่ถูกตัวเขาด้วยซ้ำร่างของเธอก็ถูกจับกดลงอีกรอบ
"กล้าดียังไง ถึงจะมาทำกิริยาแบบนี้กับกู" เขาคิดว่าใจดีกับเธอมากเกินไปแล้ว
"นักโทษยังรู้ว่าตัวเองทำผิดถึงได้ถูกจองจำ คุณจะไม่บอกหน่อยหรือว่าทำไมคุณถึงจับฉันมาที่นี่" น้ำเสียงสั่นเครือเปล่งออกมาจากริมฝีปากบางเบาๆ เพราะเธอไม่กล้าใช้เสียงดังกับเขาอีกแล้ว
"เธอไม่จำเป็นต้องรู้หรอก"
"ฉันมีสิทธิ์จะรู้ ถ้าฉันหรือครอบครัวของฉันทำผิดต่อคุณฉันจะได้อธิบายให้คุณเข้าใจไง"
"เธอไม่ต้องมาอธิบายอะไรหรอกเพราะฉันเห็นกับตามาแล้ว" ว่าแล้วชายหนุ่มก็ดันตัวลุกออกพร้อมกับยืนขึ้น
"กรี๊ดดด" แต่พอเขาลุกขึ้น บนร่างกายของเขาก็ไม่มีเสื้อผ้าปิดบังเลยสักชิ้นเหมือนกัน ตกลงเมื่อคืนนี้เธอตกเป็นของมันแล้วเหรอ? อย่าให้ออกไปจากที่นี่ได้นะฉันจะเอาแกติดคุกหัวโตเลยคอยดูสิ
เข้าไปอาบน้ำไม่นานภูเบศก็ออกจากห้องน้ำมาโดยมีผ้าเช็ดตัวพันปิดท่อนล่างอยู่ ..แต่พอเห็นสายตาเธอมองมาเขาก็ดึงผ้าเช็ดตัวผืนนั้นขึ้นมาเช็ดผมหน้าตาเฉย
ผิดคาดครั้งนี้คิดว่าเธอจะกรีดร้องตกใจอีก แต่เธอดันมองแบบไม่ละสายตาเลยจนภูเบศต้องรีบเอาผ้าเช็ดตัวผืนนั้นกลับมาพันไว้รอบตัวเหมือนเดิม
"คงจะชินแล้วล่ะสิท่า"
ยิ่งเธอทำเป็นกลัวเขาก็ยิ่งเล่นงาน ข้าวสวยเลยต้องทำเป็นว่าเธอไม่ได้กลัวสิ่งที่เขายัดเยียดให้
"ไปอาบน้ำ"
ดีกว่าจะไม่ได้อาบ พอเขาสั่งเธอก็รีบหอบผ้าห่ม ปิดบังร่างกายที่เปลือยเปล่าแล้วเดินมาทางห้องน้ำ แต่พอเดินผ่านเขาผ้าห่มผืนนั้นก็ถูกกระชากออก
"ว๊ายย" หญิงสาวตกใจ กำลังจะคว้าผ้าห่มกลับคืนมาแต่เขาก็โยนขึ้นไปไว้บนเตียงเหมือนเดิม
"หายกัน" สายตาคมมองเรือนร่างที่เปลือยเปล่าเพราะเมื่อสักครู่เธอก็มองเขาแบบนี้ หญิงสาวไม่รู้จะทำยังไงเลยรีบเข้าไปในห้องน้ำแล้วก็ล็อกประตูไว้
ไอ้คนเลว ไอ้คนชั่วช้า ชิงหมามาเกิดหรือไงทำไมถึงเลวได้ขนาดนี้ ตกลงเขาเป็นใครกันแน่ ..เธอได้แค่คิดไม่กล้าพูดออกมาหรอกกลัวมันจะเอาหูแนบฟังอยู่หน้าประตู
"ให้เวลาห้านาที ถ้ายังไม่ออกมาจากห้องน้ำฉันจะเข้าไปหาเธอในนั้น"
ได้ยินคำขู่ข้าวสวยเลยต้องรีบจัดการกับตัวเองในห้องน้ำให้เสร็จ เธอเห็นว่าในนี้มีแปรงสีฟันใหม่ด้วยเลยเอามาแปรงฟัน
"ส่งผ้าเช็ดตัวมาให้หน่อยสิ" หญิงสาวเปิดประตูแค่นิดหน่อยพอให้ยื่นมือออกมารับผ้าเช็ดตัวได้
ทีแรกมือเธอก็สัมผัสถูกผ้าเช็ดตัว แต่พอจะใช้แรงดึงร่างของเธอที่อยู่ในห้องน้ำกลับถูกดึงออกมาแทน
"อุ๊ย แกทำอะไร"
"อย่าบอกนะว่ายังอายฉันอยู่ เมื่อคืนนี้มีส่วนไหนของเธอบ้างที่ฉันไม่ได้สัมผัส"
"ไอ้คนเลว เอาผ้าเช็ดตัวมานะ!" ข้าวสวยแย่งผ้าเช็ดตัวที่มีอยู่ผืนเดียวมาปิดบังร่างกาย แต่พอผ้าเช็ดตัวมาอยู่ที่ร่างกายของเธอแล้วเขาก็ไม่มีอะไรปิดอีก
ก๊อกๆ "นายหัวคะเสื้อผ้ามาแล้วค่ะ" มะนาวได้รับข้อความว่าให้หาเสื้อผ้าขึ้นมาให้ผู้หญิงใส่หน่อย
เขาเลยมองไปดูหน้าเธอเพื่อบอกให้เธอไปเอาผ้ามาใส่ แล้วภูเบศก็เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวอีกผืนมาปิดท่อนล่างตัวเองไว้ก่อนจะเปิดตู้เสื้อผ้าหาเสื้อผ้าออกมาใส่
"?" มะนาวเห็นสภาพของคนที่มาเปิดประตูก็อดมองเข้าไปดูข้างในไม่ได้ และก็เห็นว่านายหัวกำลังใส่เสื้อผ้าอยู่ และสายตาของมะนาวก็ทำให้ข้าวสวยสังเกตได้ว่าเธอคนนี้มีความรู้สึกลึกซึ้งกับเจ้านายตัวเอง ถ้าเป็นแบบที่คิดก็ดีน่ะสิเธอจะได้หาทางหนีจากที่นี่ได้ง่ายหน่อย
"เจอไหม" จากที่เมาๆ อยู่พอกลับบ้านมาไม่เห็นเมียตอนนี้รู้สึกสร่างเมาเลย"ไม่เจอเลยครับผมกำลังให้คนเช็คกล้องวงจรปิดอยู่ครับ" พูดจบคนที่เช็คกล้องวงจรปิดก็รีบวิ่งมาหา "เป็นยังไงบ้าง""นายหญิงออกไปตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้วครับ""ไปไหน""กล้องจับภาพได้แค่ตอนเดินออกไปแต่ไม่รู้ว่าไปกับใครไปที่ไหน" แล้วลูกน้องคนนั้นก็ยื่นคลิปกล้องวงจรปิดให้ดู เหมือนรถคันที่มารับเธอจะรู้มุมกล้องวงจรปิดดี..จะไม่รู้ได้ยังไงก็คนในบ้านเป็นไส้ศึกเสียเอง"ให้คนไปดูที่สถานีรถ" เขาคิดว่าเธอต้องหนีกลับแน่เลย เพราะเธอเคยหนีแบบนี้มาแล้วหลายครั้งและคนของเหมืองก็รีบไปเช็คที่สถานีรถทั้งรถไฟและรถทัวร์ ส่วนสนามบินอยู่ไกลมากคิดว่าเธอคงไม่ไปหรอก แต่เพื่อความชัวร์เขาให้อีกชุดหนึ่งไปดูที่สนามบินจนถึงตอนเช้าก็ยังไม่ได้ข่าว ไม่ใช่ไม่ได้ข่าวจากลูกน้องหรอกไม่ได้ข่าวของเธอนี่แหละ เพราะลูกน้องก็ส่งข่าวมาอยู่ว่าหาไม่เจอไม่เห็นร่องรอยของเธอเลยเรื่องมันชักจะไม่เข้าท่าแล้วเขาเลยต้องไปที่สถานีตำรวจ ให้ตำรวจช่วยอีกแรง เพราะอยากยืมมือตำรวจประสานงานไปที่สน.อื่นด้วยที่จริงถ้ายังหายไปไม่ครบ 24 ชั่วโมงตำรวจจะยังไม่รับแจ้งความ แต่นี่นายหัวภูเบศมา
ข้าวสวยและจินดาไม่ได้พูดคุยอะไรกันหรอก หลังจากเหตุการณ์นั้นข้าวสวยก็เดินกลับมา"ไปไหนมา" เขากลับมาไม่เห็นเธอกำลังจะใช้คนให้ไปตามหาอยู่พอดีเลยแต่เห็นเธอเดินกลับมาก่อน"ไปเดินเล่น" ข้าวสวยพูดแค่นี้แล้วก็เดินผ่านหน้าของเขาไป"เรื่องห่อหมกเดี๋ยวพรุ่งนี้จะให้ป้าซื้อจากตลาดมาให้ใหม่""ฉันไม่อยากกินแล้ว""ยังโกรธอยู่เหรอ""ทำไมฉันต้องโกรธด้วย""ก็บอกจะซื้อมาให้ใหม่ไง""ฉันอยากจะกลับแล้ว" เธอไม่อยากพูดเรื่องห่อหมกอะไรนั่นแล้ว และขณะที่เธอกำลังยืนคุยกับภูเบศอยู่ จินดาก็เดินกลับมาพอดี สายตาของข้าวสวยมองไปและเป็นจังหวะเดียวกับที่จินดามองมาทั้งสองสบตากัน จินดาเริ่มพะวงแล้วกลัวว่าข้าวสวยจะเอาเรื่องนั้นมาพูดกับนายหัว"แม่ แม่ไปไหนมาหนูนุ้ยหาแม่ไม่เจอ" หนูนุ้ยเห็นแม่มาก็รีบวิ่งเข้าไปกอด"แม่ไปเดินเล่นมา""นายผู้หญิงทานอะไรหรือยัง" เขามองตามหลังเธอที่เดินขึ้นบ้านแล้วหันไปถามจินดาว่าเธอทานข้าวหรือยัง"ทานแล้วค่ะ" จินดาไม่รู้หรอกว่าทานหรือไม่ทาน เพราะตัวเองออกไปก่อนแถมยังกลับเข้ามาทีหลังภูเบศได้ยินว่าเธอทานแล้วเขาเลยบอกให้จินดาเตรียมอาหารมาให้ ทีแรกว่าจะกลับมาทานพร้อมเธอนั่นแหละ แต่ถ้าเธอทานแล้วเขาก็
ดึกๆ คืนนั้น..เธอรู้สึกตัวตื่นเพราะมีคนนอนลงข้างๆ แต่พอนอนลงเขาก็ตะแคงหันหลังให้เขามาตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย ..ข้าวสวยเห็นว่าเขาไม่สนใจเธอเลยแกล้งลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำ ที่จริงก็ไม่ได้แกล้งหรอกปวดจริงๆ นี่แหละออกมาจากห้องน้ำก็เห็นเขามองมาแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ข้าวสวยเลยเดินไปนอนที่เดิมของเธอ"คุณยังคิดเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่าคะ""คิดเหมือนเดิมหมายความว่ายังไง""คิดว่าฉันทำลูกสาวคุณหัวโนไง""เราจะไม่พูดเรื่องนั้นอีก""ฉันต้องพูดค่ะเพราะมันไม่ใช่ฝีมือของฉัน""ผมเชื่อก็ได้""เชื่อก็ได้หมายความว่ายังไง""จะมาชวนทะเลาะอะไรอีก คนเพิ่งกลับมามันเหนื่อยนะเว้ย""ไหนๆ ก็ได้ทะเลาะแล้วให้ฉันพูดตามสิ่งที่ฉันคิดเถอะ""คิดอะไรอีกล่ะ""แม่ลูกคู่นั้นไม่ธรรมดาเลยนะ คุณแน่ใจเหรอว่าผู้หญิงคนนั้นถูกขืนใจจนตั้งท้อง""ข้าวสวย!!" ภูเบศตะเบ็งเสียงออกมาดังมากจนเธอสะดุ้ง ข้าวสวยที่เพิ่งขึ้นไปที่นอนต้องรีบลุกขึ้นมา ถ้าเขาต่อยเธอได้คงจะต่อยไปแล้ว"คุณคิดว่าฉันอกุศลใช่ไหมล่ะ ถ้าคุณมีตามองสักนิดคุณจะเห็นว่าฉันไม่ได้ทำเด็กคนนั้นหกล้ม""เรื่องนั้นมันจบไปแล้วจะพูดหาพระแสงทำไมอีก""เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของฉันฉันจำเป็นต้องพูด
วันต่อมาภูเบศต้องให้เธออยู่ที่บ้านกับคนรับใช้ ส่วนเขาก็ออกไปจัดการงานที่เหมือง"สวัสดีจ้ะหนูนุ้ย" ข้าวสวยลงมาก็เห็นเด็กกำลังนั่งเล่นของเล่นอยู่ "ทำอะไรอยู่จ๊ะ""มองไม่เห็นหรือไง""?" ทำไมเด็กถึงได้ก้าวร้าวขนาดนี้ ..ได้ยินที่เด็กตอบเมื่อสักครู่ข้าวสวยก็หันไปมองดูแม่ของเด็กที่ทำงานบ้านอยู่แถวนั้น จะว่าแม่ไม่ได้ยินก็คงไม่ใช่แต่ทำไมถึงไม่สั่งสอนลูกหน่อยว่าไม่ให้พูดกับผู้ใหญ่แบบนี้ "เมื่อกี้ฉันฟังไม่ชัดหนูพูดว่าอะไรนะ" ในเมื่อแม่ไม่สั่งสอนเดี๋ยวฉันจะสั่งสอนเอง"หูหนวกเหรอถึงไม่ได้ยินคนพูด""ฉันเป็นภรรยาของผู้ชายที่หนูเรียกว่าพ่อ ถ้างั้นหนูก็ต้องเรียกฉันว่าแม่อีกคน ไหนลองเรียกแม่ซิ""ฉันมีแม่คนเดียว อย่าคิดว่าจะเข้ามาแทนที่แม่ของฉันได้""แทนที่แม่หนูเข้าใจผิดแล้วมั้ง เพราะแม่หนูไม่ได้เป็นอะไรกับสามีฉันสักหน่อย""แม่" หนูนุ้ยหันไปมองหน้าแม่และมีสีหน้าเหมือนจะร้องไห้"ทำไมคุณต้องว่าให้เด็กแบบนี้ด้วยไม่นึกถึงจิตใจของเด็กบ้างหรือคะ""ฉันแค่พูดให้เด็กเข้าใจ""แกยังเด็กโตขึ้นเดี๋ยวแกก็รู้เองค่ะว่าอะไรคืออะไร""ทำไมต้องรอให้โตด้วยล่ะ เราบอกตอนนี้ให้เด็กเข้าใจก็ได้นี่""แม่คะ ผู้หญิงคนนี้จะมาแย่งพ
แปะ! อุตส่าห์ขี้คุยไว้ว่ายุงคงไม่มากวนแค่กระแทกไปได้ไม่กี่ทีก็ถูกยุงกัดก้นแล้ว"อาาา" แต่ภูเบศก็ไม่ย่อท้อเขายังคงซอยถี่ไปตามความปรารถนาแปะ!"อือ.. พอก่อนดีกว่าค่ะกางมุ้งก่อน""ซี๊ดดด มาถึงขนาดนี้แล้วจะพอได้ยังไง""แต่ยุงกัดน่ะสิคะ" มันไม่ได้กัดแค่เขาหรอกมันกัดเธอด้วยภูเบศเลยต้องถอดสิ่งที่มันเชื่อมกันอยู่เมื่อสักครู่ออกแล้วลุกขึ้นดึงหูมุ้งจะเอามามัด"เบาๆ หน่อยสิคะเดี๋ยวมันก็ขาดหรอก""พรุ่งนี้ผมจะให้คนมาทำห้องนะ" ชักจะอารมณ์เสียแล้ว ไม่ให้ดัดแปลงอย่างอื่นพอทนถ้าไม่ให้ทำห้องพอเลยเห็นว่าเขาดูจะอารมณ์เสียเธอเลยไม่พูดอะไรต่อช่วยเขากางมุ้งจนเสร็จ แล้วก็เอาพัดลมเข้ามาเปิดในมุ้งแต่พอจะเริ่มต่ออารมณ์มันก็หมดไปแล้ว เธอเลยกำลังจะนอน..แต่พอเขามุดเข้ามาในมุ้งก็จับเธอหงายขึ้นไอ้เราก็คิดว่าจะไม่ต่อแล้ว แต่พอเขาจะทำต่อเธอก็ไม่ได้ว่าอะไรภูเบศใช้มือตัวเองชักรูดเพื่อให้มันแข็งอีกที แต่มันก็ขึ้นยากมากเขาเลยเอื้อมไปจับมือของเธอมาช่วยชัก"ซี๊ดดด" ให้เธอช่วยชักไปอีกหน่อยก็นึกอยากลองยัดมันเข้าไปในปากเธอดู เขาเลยเอาช่วงยอดปลายถูกับริมฝีปากของเธอว่าจะยอมให้มันเข้าไปข้างในไหมทีแรกเธอก็เม้มริมฝีปากไว้แต่พ
พันธะ(รัก)เมียบำเรอ บทที่ 55และก็มาถึงวันเผา วันนี้นนท์ออกมาไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คือขอให้เจ้าหน้าที่ช่วย Video Call เพื่อให้นนท์ได้ร่วมส่งยายขึ้นสู่สวรรค์เขาขอให้เธออย่าร้องไห้แต่วันนี้เธออดกลั้นไม่ได้จริงๆ ทำไมเธอถึงมีความผูกพันกับคุณยายมากขนาดนี้ เหมือนว่าเธอกำลังเสียญาติผู้ใหญ่ไป ยิ่งตอนเห็นนนท์ร่ำไห้อยู่ในห้องขังมันก็ยิ่งสะเทือนใจเธอหนักมาก"คุณข้าวสวยคะ ยายไปสบายแล้ว" อยู่จังหวัดเดียวกันก็จริง แต่แก้วไม่เคยรู้จักกันกับยายเลย จะมารู้จักก็ตอนที่ยายจากไป และก็รู้จักผ่านข้าวสวยนี่แหละ เด็กคนนี้มีจิตใจโอบอ้อมอารีมาก คิดว่าตัวเองได้มาพบเจอและรู้จักเป็นวาสนาที่ดีมากเลย"ขอบคุณพี่แก้วกับพี่ศักดิ์มากเลยนะคะที่มาช่วยงาน""ไม่ต้องขอบคุณพี่หรอกค่ะ พวกพี่เองต่างหากที่ต้องขอบคุณหนู ที่ช่วยคนในจังหวัดของเรา"งานศพเสร็จทุกคนก็แยกย้ายส่วนเรื่องเก็บงานภูเบศก็มอบหมายให้ลูกน้อง อัฐิของยายเขาเก็บไว้ที่วัดนี้ เผื่อสักวันหลานของยายออกมาจะได้มาไหว้"หลายวันแล้วนะยังจะเศร้าอยู่อีกเหรอ""ไม่ได้เศร้าสักหน่อย" ทำไมจิตใจเธออ่อนไหวแบบนี้เนี่ย หรือเป็นเพราะฮอร์โมนไม่ปกติ เสร็จงานศพยายแล้วเธอยังคงคิดถึง ทั้งๆ ท







