LOGIN“กรี๊ด! คนสาวรเลว ไอ้ชั่ว ไอ้บ้า”
เมื่อกลับมาถึงคอนโดตัวเองอลินดาก็กรีด และก่นด่ามาเฟียหนุ่มสุดเสียงพร้อมหยิบข้าวของมาปาลงพื้นจนกระจัดกระจายเต็มพื้นไปเพื่อระบายอารมณ์โกรธ และความรู้สึกต่าง ๆ ที่อัดอั้นอยู่ในกายออกไป ครั้นอามรณ์เย็นลงก็พาตัวเองเข้าไปอาบน้ำเพื่อล้างทุกสัมผัสจากมาเฟียหนุ่มออกไปโดยเฉพาะริมฝีปากที่ถูกเขาจูบถึงสองครั้งสองครา เธอทั้งแปรงฟันทั้งบ้วนปากด้วยน้ำยาทั้งใช้มือถูกจนปากแดงเถือกแม้จะรู้สึกเจ็บแผลที่เขาฝากเอาไว้ก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันยังคงเป็นคำถามติดค้างในใจว่าสรุปแล้วเธอถูกมาเฟียหนุ่มล่วงเกินแล้ว หรือไม่กันแน่ หากให้ถามความรู้สึกเธอเธอค่อนข้างมั่นใจว่าไม่ แต่มันก็มีหลายอย่างที่น่าคิดเหมือนกัน สรุปมันยังไงกันแน่เธอใช้มือยีผมอย่างหัวเสีย ก่อนจะพาตัวเองออกจากห้องน้ำมาแต่งตัว จากนั้นก็เดินไปหย่อนก้นนั่งริมเตียงหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าออกมาเปิดแชทไลน์ของแฟนสาวดูพลางครุ่นคิดอะไรบางอย่าง สรุปแล้วเมื่อคืนใช่แฟนสาวของเธอจริง ๆ หรือเปล่าที่บอกให้เธอออกไปหา ทว่าทำไมพอไปถึงกลับเป็นมาเฟียหนุ่มไปได้ หรือคนที่ส่งข้อความมาหาเธอคือมาเฟียหนุ่มแต่มันก็มีข้อโต้แย้งขึ้นมา หากเป็นมาเฟียหนุ่มทำไมคำพูดถึงได้เหมือนแฟนสาวจนเธอแยกไม่ออก แต่เรื่องแบบนี้มันก็สามารถดูและลอกเลียนแบบได้ง่ายมาก ถ้าเป็นมาเฟียหนุ่มจริง ๆ แล้วเขาเอาโทรศัพท์แฟนสาวมาส่งข้อความได้อย่างไร แล้วตอนนี้เธอสาวเธอจะเป็นอย่างไรบ้าง ด้วยความเป็นห่วงเธอจึงตัดสินใจโทรหาแฟนสาวแม้ไม่รู้ว่าตอนนี้โทรศัพท์จะอยู่ที่แฟนสาวหรือเปล่า ทว่ากลับไร้การตอบรับ กดโทรซ้ำอีกรอบก็ไม่มีการตอบรับเหมือนใจคอเธอเริ่มไม่ดีแปลก ๆ กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับแฟนสาว เธอลองส่งข้อความหาแฟนสาวดูบ้างแต่ก็ไร้การตอบกลับทั้ง ๆ ที่มันขึ้นว่าอ่านแล้วตอนนี้ทำให้เริ่มมั่นใจแล้วว่าโทรศัพท์แฟนสาวอาจจะอยู่ที่มาเฟียหนุ่ม มือเรียวกำโทรศัพท์ในมือแน่นจนแขนสั่นด้วยนึกโกรธและเกลียดมาเฟียหนุ่มจนแทบอยากจะฆ่าเขาให้รู้แล้วรู้รอด ทำไมกันทำไมเขาต้องขัดขวางความรักของเธอกับแฟนสาว หนำซ้ำยังใช้วิธีสกปรกทำร้ายเธอ พอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ผุดขึ้นในสมองก็ทำให้เธอนึกไม่สบายใจขึ้นมา หากแฟนสาวรู้เรื่องนี้ไม่รู้ว่าจะรับได้หรือเปล่า ขนาดเธอเองยังรับไม่ค่อยได้เลย ถ้าคนที่รังแกเธอเป็นคนอื่นมันคงไม่อะไรมากแต่นี่เขาดันเป็นพี่ชายของแฟนสาว เธอเกลียดเขาเกลียดที่สุด ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่เธอนั่งจมดิ่งกับความคิดมากมายจนรู้สึกง่วงจึงล้มตัวลงนอน และเพียงไม่นานเธอก็ผล็อยหลับไปหลายชั่วโมงต่อมา.. เธอรู้สึกตัวตื่นมาอีกครั้งในช่วงเย็น ๆ ของวัน สิ่งแรกที่เธอทำหลังตื่นนอนคือโทรหาแฟนสาว เธอเฝ้าโทรไปครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ก็ไม่มีคนรับ ส่งข้อความไปเป็นร้อย ๆ ข้อความก็ขึ้นแค่ว่าเปิดอ่านแต่ไม่มีการตอบกลับ ความเครียดและความกังวลประเดประดังเข้ามาในสมองอย่างหนักแบบนี้แล้วเธอจะติดต่อ หรือรู้ข่าวคราวของแฟนสาวได้ยังไงกัน อย่างน้อยเธอก็แค่อยากรู้ว่าแฟนสาวสบายดีเธอจะได้หายห่วง ครืดดด~ ผ่านไปราว ๆ ชั่วโมงเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเธอรีบหยิบโทรศัพท์ที่วางข้างตัวมาดูทันทีเผื่อว่าจะเป็นแฟนสาว และชื่อที่ปรากฏบนจอก็เป็นแฟนสาวจริง ๆ เธอรีบกดรับสายด้วยความดีใจลืมคิดเรื่องอื่นไปเสียสนิท “ฮัลโหล หยกทำไมเค้าโทรไปตั้งหลายสายถึงไม่รับเลย” กรอกเสียงลงไปตามสายด้วยความร้อนรนใจ (ที่โดนไปมันไม่ทำให้เธอเข็ดหลาบเลยใช่ไหมอลินดา ทำไมถึงยังติดต่อน้องสาวฉันมาอีก) ทว่าเสียงตอบจากปลายสายกลับทำให้เธอตกใจไม่น้อยเพราะจำได้ดีว่าเป็นเสียงของคนที่เธอเกลียดเข้าไส้ ก่อนตะเบ็งเสียงก่นด่าไปด้วยความโกรธ “คนสารเลว! ทำไมโทรศัพท์หยกถึงมาอยู่ที่คุณ หยกไปไหนคุณทำอะไรหยกคนสารเลว” (เธอไม่ต้องห่วงหรอกอลินดาหยกเป็นน้องสาวฉัน ฉันไม่ทำอะไรหรอก แต่ถ้าเป็นเธอไม่แน่ อย่าพยายามติดต่อน้องสาวฉันอีกถ้าเธอไม่อยากโดนดี) “ไอ้ชั่ว ไอ้เลว ทำไมคุณถึงได้เลวขนาดนี้” (ถึงจะเลวจะชั่วยังไงฉันก็เป็นผัวเธอนะ อย่าลืมสิ) “ทุเรศ!” เธอก่นด่าคนปลายสายไปครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนจะกดสายทิ้งเพราะไม่สามารถทนพูดกับคนเลว ๆ แบบเขาได้อีกต่อไป จากนั้นก็โยนโทรศัพท์ในมือลงบนที่นอนอย่างไม่สบอารมณ์ ความเครียดพลันเข้าเกาะกุมอีกครั้ง ตอนนี้เธอไม่รู้เลยว่าแฟนสาวเป็นอย่างไรบ้าง แต่ที่แน่ ๆ คงไม่ดีเท่าไรเพราะโทรศัพท์ของแฟนสาวอยู่กับพี่ชายทั้ง ๆ ที่แฟนสาวเป็นคนหวงโทรศัพท์มาก มันต้องมีอะไรเกิดขึ้น แล้วเธอจะหาทางพบแฟนสาวได้ยังไงเพราะการเข้าไปในบ้านแฟนสาวคงไม่ได้ง่ายดายเหมือนเมื่อก่อน เธอพยายามคิดหาหนทางสารพัดแต่ก็ไม่มีวิธีไหนดีเลยจนสุดท้ายเธอก็ผล็อยหลับไปอีกครั้งวันต่อมา ทั้งสองก็พากันไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาล แล้วไปจดทะเบียนสมรสที่สำนักงานทะเบียนต่อ"เราเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้วนะ ต่อจากนี้ห้ามชายตามองผู้ชายคนไหนแม้แต่นิดเดียว" ทันทีที่ใบทะเบียนสมรสที่มีลายลักษณ์อักษรของหญิงสาวกับตัวเองอยู่ในมือมาเฟียหนุ่มก็ยืดออกแสดงความความเป็นเจ้าของอย่างเต็มภาคภูมิ"แค่ดูเป็นอาหารตาก็ไม่ได้เหรอคะสามี" อลินดาพูดหยอกสามีป้ายแดงด้วยใบหน้าเคลือบรอยยิ้มบาง ๆ ขณะกำลังจูงมือกันเดินออกจากสำนักงานทะเบียน"มีผัวหล่อขนาดนี้แล้วจะไปมองผู้ชายคนอื่นทำไม มองผัวนี่แหละครับเป็นอาหารตาชั้นดี" เธอได้แต่ส่ายหน้าเบา ๆ พอได้ยินคำพูดจาหลงตัวเองของคนเป็นสามีเธอเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเขาก็หลงตัวเองเหมือนกัน ต่อให้ที่เขาพูดมาจะจริงก็เถอะ ด้วยความมันเขี้ยวอดพูดแกล้งเขาไปไม่ได้ "พี่หล่อก็จริง แค่มองทุกวันมันก็เบื่อเหมือนกันนะ"คำพูดจากริมฝีปากอิ่มทำคนฟังหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความไม่ชอบใจ พลันหยุดเดินอัตโนมัติแล้วหันไปมองหน้าร่างบางพร้อมพ่นคำพูดออกไประรัว"อย่าแม้แต่จะคิด ห้ามเบื่อ ห้ามเลิกรัก ห้ามมองผู้ชายคนอื่น ห้ามทิ้งกัน ห.."อลินดาฟังแทบไม่ทันจนเธอต้องรีบยกนิ้วขึ้นแตะริมฝีปาก
เมื่อกลับมาถึงคอนโดเธอยังคงทำตัวปกติรอจนมาเฟียหนุ่มหลับจึงแอบเอาที่ตรวจครรภ์ไปตรวจในห้องน้ำ หัวใจดวงน้อย ๆ เต้นแรงแทบจะกระเด็นกระดอนออกมานอกอกระหว่างที่กำลังรอผลตรวจ มันลุ้นเสียยิ่งกว่าลุ้นเสียอีก หากถามว่าเธอพร้อมมีลูกในตอนนี้ไหมตอบเลยว่าไม่ แต่หากว่าลูกมาแล้วจริง ๆ เธอก็คงต้องพร้อมให้ได้ "อึก.." เธอลอบกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงลำคอแห้งผากอึกใหญ่ ก่อนจะยื่นมือที่สั่นเพราะความตื่นเต้นไปหยิบที่ตรวจครรภ์ที่วางบนอ่างล้างหน้าขึ้นมาดู "อ่า..ทำไมรีบมาจังลูกแม่ยังใช้ชีวิตวัยรุ่นไม่คุ้มเลย" พอเห็นผลตรวจที่ขึ้นสีแดงสองขีดเธอถึงกับยกมือขึ้นกุมขมับความรู้สึกมันตีกันมั่วไปหมด ใจหนึ่งเธอก็ดีใจแต่อีกใจก็นึกกังวลอะไรหลาย ๆ อย่าง เธอหลับตาลงพยายามตั้งสติ ขจัดความรู้สึกไม่ดีออกไป จากนั้นก็กำที่ตรวจครรภ์ไว้ในมือแน่นแล้วเปิดประตูเดินออกจากห้องน้ำ เดินไปหย่อนก้นนั่งบนเตียงข้าง ๆ ร่างสูงที่นอนหลับอยู่ สายตาจ้องมองใบหน้าคมคายด้วยความรู้สึกมันเขี้ยวที่เธอท้องคงจะสมใจเขาแล้วสิ นิ้วเรียวยื่นไปกรีดกรายตามแนวคิ้วโก้งทั้งสอง แล้วค่อย ๆ ลากลงตามจมูกโด่งเป็นสันมาหยุดที่ริมฝีปากหยักสีชมพูพลางครุ่นคิดในใจว่าหากเป็นล
เป็นเพราะเธอที่เข้ามาทำให้โลกอันดำมืดของเขาสว่างไสว เธอเป็นคนที่เข้ามาเติมทุกอย่างที่เขาขาดหายให้เต็มแล้วแบบนี้จะไม่ให้เขารัก และขอบคุณเธอได้ยังไงกันสองสายตามองสบประสานกันอย่างลึกซึ้งส่งผ่านความรู้สึกมากมายที่อยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ ก่อนทั้งสองจะละสายตาจากกันเมื่อหมอวัยกลางคนเดินเข้ามา มีแค่มีที่ยังกอบกุมกันไว้แน่นด้วยลุ้นระทึกกับผลตรวจที่อยู่ในมือหมอ"ผลตรวจร่างกายของคนไข้ปกติทุกอย่างครับ ไม่มีอะไรต้องกังวล" พอได้ฟังผลตรวจทั้งมาเฟียหนุ่มกับอลินดาก็ถอนหายใจออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน ด้วยรู้สึกโล่งอกที่ผลออกมาปกติ ทว่าอีกใจก็อดสงสัยไม่ได้อยู่ดีกับอาการที่เป็นอยู่"แล้วอาการที่ผมเป็นอยู่นี่ล่ะครับ" มาเฟียหนุ่มถามไถ่ไป"จากอาการที่คนไข้บอกมาถ้าร่างกายปกติก็มีเพียงอย่างเดียวครับ" หมอวัยกลางคนกล่าวยิ้ม ๆ แล้วเงียบไปชั่วครู่จึงเอ่ยต่อ "แพ้ท้องแทนภรรยา""ห๊ะ!!"สิ้นคำบอกกล่าวจากหมอมาเฟียหนุ่มกับอลินดาถึงกับตาเบิกกว้างร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจระคนฉงน พลันหันมองหน้ากันอัตโนมัติ"ประจำเดือนน้องอลินมารึยังเดือนนี้" มาเฟียหนุ่มรีบถามไถ่ด้วยความตื่นเต้นพลางก้มมองหน้าท้องของคนรัก ลึก ๆ ในใจเขาอยากให
หนึ่งเดือนต่อมา.."พี่แทนลุกขึ้นมากินข้าวอย่าเอาแต่นอนแบบนี้" อลินดาเขย่าเรียกคนตัวโตที่เอาแต่นอนตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยงข้าวปลาก็ไม่ยอมลุกขึ้นมาทานด้วยความเป็นห่วงช่วงหนึ่งอาทิตย์มานี้เขาเอาแต่นอน ข้าวปลาก็ไม่ค่อยทานบอกว่าเบื่อจนน้ำหนักลดลงไปหนึ่งกิโลแล้ว หนำซ้ำยังมีอาการอ่อนเพลีย ปวดท้องปวดหลังราวกับผู้หญิงมีประจำเดือนยังไงยังงั้น แต่พอพาไปหาหมอหมอกลับบอกว่าปกติทุกอย่างถามว่าเขามีความเครียดหรือเปล่าเขาก็บอกว่าไม่เลย เขามีความสุขที่สุดด้วยซ้ำเพราะได้อยู่กับเธอแทบทุกวันทุกคืนตั้งแต่วันที่ไปหาพ่อแม่ของเธอด้วยกัน ได้พูดคุยจนเข้าใจเธอกับเขาก็ไปมาหาสู่ และอยู่ด้วยกันบ่อยขึ้นซึ่งมาเฟียหนุ่มจะมาอยู่ที่คอนโดของเธอเรียกได้ว่าตอนนี้เขาครองห้องเธอไปแล้ว ส่วนเธอก็มีบางคืนที่กลับไปนอนที่บ้านบ้างเพื่อไม่ให้พ่อแม่ว่าเอาได้ว่าอยู่แต่กับผู้ชายจนลืมบ้านลืมช่อง "พี่แทนลุกขึ้นมากินอะไรสักนิดก่อน แล้วค่อยนอนต่อ" เธอเขย่าคนตัวโตแรงกว่าเดิมเมื่อเขายังคงนอนหลับต่อ "ตื่นแล้วครับ" ในที่สุดคนถูกปลุกก็ต้องลืมตาตื่นด้วยความจำใจ เขายกมือทั้งสองขยี้ตาไล่อาการงัวเงียออก ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นนั่งด้วยความรู้สึกที่
ภายในห้องน้ำเปลี่ยนเป็นสมรภูมิรักของคนทั้งสองไปแล้วน้ำที่ว่าเย็นก็ดับความร้อนแรงนี้ไม่ได้ มาเฟียหนุ่มเดินหน้ากระแทกไม่หยั่ง อีกคนก็รอรับด้วยความกระสันเสียวและสุขสม กว่าจะอิ่มหนำก็ใช้เวลาไปไม่น้อยอลินดาถึงกับขาอ่อนยืนไม่ไหวเป็นมาเฟียหนุ่มที่ต้องคอยดูแลจัดการอาบน้ำถูสบู่ และสระผมให้ แล้วอุ้มออกมาวางบนเตียง"หึ" มาเฟียหนุ่มหัวเราะในลำคออย่างนึกเอ็นดูคนตัวเล็กที่นั่งตาปอยอยู่ริมเตียง ก่อนจะโน้มหน้าลงไปจูบหน้าผากมนเบา ๆ แล้วเดินไปเอาผ้าขนหนูอีกผืน จากนั้นก็กระโดดขึ้นเตียงไปนั่งข้างหลังเธอจัดการเช็ดผมให้อลินดายกยิ้มออกมาน้อย ๆ กับการกระทำแสนอ่อนโยนของคนตัวโตใครจะคิดว่ามาเฟียหนุ่มอย่างเขาจะมีมุมอ่อนโยนด้วย เขาอ่อนโยนจนบางทีเธอก็คิดไม่ถึง"ขอบคุณค่ะ" ครั้นเขาเช็ดผมให้เสร็จเธอก็เอี้ยวหน้าไปขอบคุณพร้อมทั้งฉีกยิ้มให้เขาจนตายี มาเฟียหนุ่มจึงใช้จังหวะนั้นจุบปากเธอไปหนึ่งทีถือเป็นค่าเช็ดผม แล้วจึงลุกลงจากเตียงเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อหาเสื้อให้เธอใส่ เขายืนเลือกอยู่สักพักโดยมีอลินดานั่งมองที่เตียง เมื่อเลือกได้ก็พาไปยื่นให้ "ใส่ไปก่อนครับ เดี๋ยวชุดน้องอลินพี่ให้แม่บ้านเอาไปซักให้"อลินดามองเสื
ทั้งสองรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกครั้งในช่วงค่ำ ๆ หลังจากนอนพักเอาแรงกันจนอิ่มแล้วมาเฟียหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์บนหัวเตียงมาเปิดหน้าจอดูเวลา เมื่อเห็นว่าใกล้สองทุ่มแล้วจึงบอกกล่าวกับร่างบางในอ้อมกอด "ลุกขึ้นไปอาบน้ำครับจะได้ไปหาอะไรกินกัน""ขอนอนนิ่ง ๆ แบบนี้อีกสักพักได้ไหม" อลินดาแสดงท่าทีงอแงเพราะรู้สึกง่วง ๆ และขี้เกียจน้อย ๆ ซึ่งมาเฟียหนุ่มก็ไม่คิดขัดใจปล่อยให้เธอนอนกอดเขาต่อไปไม่คิดจะลุกหนีผ่านไปราว ๆ ยี่สิบนาทีจึงเรียกเธออีกครั้ง "พี่ว่าลุกขึ้นได้แล้วครับน้องอลิน""หือ.." อลินดาถึงกับตาโตหูผึ่ง ผงกหน้าขึ้นมองคนตัวโตด้วยความแปลกใจเมื่อได้ยินคำเรียกที่เขาเรียกแทนตัวเองและเธอ มันฟังดูละมุนจนรู้สึกจักกะจี้ในหัวใจ ไม่คุ้นชินเอาเสียเลย"หืออะไรครับ ต่อไปนี้เราจะเรียกกันแบบนี้โอเคไหมครับ" "โอเคก็ได้ค่ะ" อลินดาพยักหน้าเอออออย่างว่าง่ายแม้จะรู้สึกเขอะเขิน และไม่ชินหูก็ตาม"น่ารักที่สุด" มาเฟียหนุ่มก้มลงหอมหน้ามนฟอดใหญ่ ก่อนจะเคลื่อนลงหอมแก้มซ้ายขวาของเธอต่อด้วยความรักใคร่เอ็นดู ขณะที่คนถูกหอมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่หลังจากเธอตัดสินใจวางทิ้งความรู้ไม่ดีต่อมาเฟียหนุ่มเกี่ยวกับเรื่องในอดีต และท







