LOGINหัวใจดวงน้อย ๆ ของอลินดากระหน่ำเต้นขึ้นมาฉับพลันในตอนที่รถคันหรูเคลื่อนตัวเข้าสู่รั้วบ้านของเธอ รีบหันไปถามร่างสูงข้าง ๆ ด้วยน้ำเสียงร้อนรน “คุณมาบ้านฉันทำไม คิดจะทำอะไรบอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะ”
“หึ” คนถูกถามหันไปแสยะยิ้มร้ายมุมปากให้หญิงสาวแทนคำตอบ ก่อนจะเบี่ยงหน้ามองออกไปนอกกระจกเหมือนเดิม กระทั่งรถจอดสนิทลงหน้าบ้านหญิงสาวจึงหันกลับไปออกคำสั่งกับร่างบางข้าง ๆ “ลงไปสิถึงบ้านเธอแล้ว” “คุณมีแผนอะไรกันแน่ คงไม่ใช่ใจดีมาส่งฉันที่บ้านอย่างเดียวใช่ไหม” อลินดาเลิกคิ้วขึ้นมองใบหน้าคมคายอย่างหวาดระแวงเพราะเธอไม่เชื่อสักนิดว่าเขาจะใจดีมาส่งเธอแค่อย่างเดียว แต่กลับได้รับความเงียบแทนคำตอบ หนำซ้ำเขายังจ้องหน้าเธอด้วยสายตาของคนที่เหนือกว่ายิ่งทำให้เธอไม่ไว้ใจเข้าไปอีก พยายามอ่านสายตาของเขาแต่ก็ไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลย มาเฟียหนุ่มมองสบสายตาหญิงสาวนิ่ง ๆ นานนับนาที ก่อนจะเป็นฝ่ายเปิดประตูลงจาจรถไปเมื่อเธอยังคงนั่งนิ่งไม่ยอมลงสักทีทำให้อลินดาต้องรีบเปิดประตูลงตามไป แล้วรีบวิ่งไปยืนขวางหน้าร่างสูงที่ทำท่าจะเดินเข้าไปในบ้านของเธอ “คุณจะไปไหน” “…” มาเฟียหนุ่มไม่ตอบเหมือนเดิมเลือกจะเดินเลี่ยงเธอไปอีกทาง ซึ่งแน่นอนว่าอลินดาไม่ยอมรีบตามไปจับแขนเขาเอาไว้แล้วดึงให้หยุดเดิน ไม่ว่ายังเธอจะไม่ยอมให้เขาเข้าไปในบ้านเด็ดขาดเพราะมันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ เธอมั่นใจว่าเขาต้องมีแผนอะไรบางอย่าง “ฉันถามว่าคุณคิดจะทำอะไร ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้นะ” “ก็จะมาไหว้พ่อตาแม่ยายไง” ในที่สุดมาเฟียหนุ่มก็ทนรำคาญไม่ไหวเอ่ยตอบไปด้วยใบหน้าเคลือบรอยยิ้มร้ายพร้อมกับรวบเอวคอดรั้งร่างบางเข้ามาแนบชิดตัวไม่สนใจสักนิดว่าตรงนี้มีลูกน้องอยู่ด้วย ขณะที่คนฟังถึงกับเบิกตากว้างหัวใจกระตุกวูบด้วยความกลัวเธอคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าเพียงเพื่อขัดขวางความรักของเธอกับแฟนสาวเขาจำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้เชียวหรือ มันจะเกินไปหรือเปล่า “อย่านะ คุณบ้าไปแล้วเหรอนี่มันไม่ใช่เรื่องที่จะมาล้อเล่นนะ” น้ำเสียงห้วนสั่นเปล่งออกจากริมฝีปากบางด้วยความร้อนรนพอ ๆ กับก้อนเนื้อในอกด้านซ้ายที่กระหน่ำเต้นแทบจะทะลุออกมานอกอก ขณะที่เอ่ยก็พยายามใช้มือดันอกแกร่งหวังผลักร่างสูงให้ออกห่าง ด้วยกลัวว่าคนในบ้านจะมาเห็น “ปล่อยฉันนะ คุณอย่ามาทำอะไรรุ่มร่ามที่นี่ บอกให้ปล่อยไงฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไง” มาเฟียหนุ่มพอจะเดาความคิดของหญิงสาวว่าเธอคงกลัวใครจะมาเห็น ถามว่าเขาแคร์ไหมมตอบเลยว่าไม่ ดีเสียอีกเขาจะได้ไม่ต้องเข้าไปพูดอะไรมาก แววตาทอประกายวาววับจ้องใบหน้าเรียวนิ่ง ๆ ชั่วครู่ ก่อนจะทำสิ่งที่อีกฝ่ายไม่คาดคิด ดวงตาของอลินดาเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อจู่ ๆ ก็ถูกร่างสูงกระแทกจูบลงบนริมฝีปาก พยายามจะพาหน้าหนีกลับถูกมือหนากดท้ายทอยไว้ ขณะที่มืออีกข้างกอดรัดเอวคอดไว้แน่นทำให้เธอขยับหนีไปไหนไม่ได้เลยทำได้เพียงใช้กำปั้นทุบตีผลักไสอกแกร่งหวังให้เขาหยุดการกระทำ หากมีใครมาเห็นเข้าไม่ดีต่อตัวเธอแน่ ๆ แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามยังไงก็เปล่าประโยชน์ผู้ชายสารเลวไม่แม้แต่จะสะทกสะท้านกับการกระทำของเธอ เขาจูบเธออย่างดุดันบดขยี้จนเธอรู้สึกระบมริมฝีปาก เขาไม่อ่อนโยนกับเธอเลยสักนิดมันมีแต่ความป่าเถื่อน ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนที่มาเฟียหนุ่มจูบหญิงสาวอยู่แบบนั้นกระทั่งเสียงของใครบางคนดังมาจากด้านหลัง “ทำอะไรกัน” เขาจึงผละจูบออกหันไปมองทางต้นเสียง อลินดาจึงใช้โอกาสนี้รีบผลักเขาออกห่างแล้วเดินเข้าไปหาน้องชายของที่เป็นเจ้าของเสียง แม้จะรู้สึกอับอายมากเพียงใดแต่เธอก็ต้องเอ่ยกับน้องชายเสียก่อนเพราะปากของน้องชายเธอไม่ค่อยดีเท่าไรนักเกรงว่าจะเอาไปฟ้องพ่อแม่ได้ “แกห้ามเอาเรื่องที่เห็นไปบอกพ่อกับแม่นะ” “อือ..แต่ไหนบอกว่าไม่มีแฟนไง แล้วคนที่จูบด้วยเป็นใคร แถมยังพากันเข้ามาจูบถึงในบ้านด้วย” ด้วยนิสัยของอคินแม้จะรับปากพี่สาวไปแล้ว แต่เขาก็ไม่ลืมจะเย้าแหย่พี่สาวเล่นพลางใช้สายตามองคาดคั้น “แกหุบปากไปเลยอคิน” อลินดาถลึงตาใส่น้องชายด้วยไม่พอใจพร้อมกับใช้มือหยิกเข้าหน้าท้องคนเป็นน้องชายหนึ่งทีโทษฐานที่พูดไม่เข้าหู ทุกการกระทำและคำพูดของสองพี่น้องอยู่ในสายตามาเฟียหนุ่มตลอด เขาไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไปเปล่งเสียงตอบคำถามของอคินไปแทนอีกคน “สวัสดีครับพี่เป็นผะ..” “หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” อลินดารู้ว่ามาเฟียหนุ่มจะพูดอะไรกับน้องชายจึงรีบตะเบ็งเสียงร้องห้ามก่อนที่เขาจะได้เอ่ยจบประโยคพร้อมกับหันไปมองใบหน้าคมคายด้วยความโกรธจัด ส่วนคนไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรอย่างอคินได้แต่ยืนมองคนทั้งสองอย่างงง ๆ “ตกลงยังไงกันเนี่ย” “แกกลับเข้าไปในบ้านก่อนไป” อลินดารีบหันไปบอกให้น้องชายกลับเข้าไปในบ้านด้วยกลัวว่ามาเฟียหนุ่มจะพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกมาอีก แค่นี้หัวใจของเธอก็แทบจะวายอยู่แล้ว “อือ ๆ” อคินทำหน้าเซ็ง ๆ ใส่พี่สาวเล็กน้อยแต่ก็ยอมหันหลังเดินกลับเข้าบ้านแต่โดยดี ที่ตรงนั้นจึงเหลืออลินดากับมาเฟียหนุ่มเพียงสองคน “คุณออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้นะ ออกไป” ทันทีที่น้องชายหายหลังไปอลินดาก็หันกลับไปไล่ตะเพิดตัวปัญหาเสียงดังลั่น แต่มีหรืออีกคนจะทำตามกลับไหว่ไหล่ให้เธออย่างไม่ยี่หระ จากนั้นก็เดินดุ่ม ๆ ผ่านเธอไปด้วยความเร็วยังไงวันนี้เขาก็ต้องพบพ่อแม่เธอให้ได้เรื่องจะได้จบ ๆ ไปสักที อลินดาก็ไม่ยอมให้เขาเข้าไปได้เช่นกันจึงรีบวิ่งไปดึงแขนเขาไว้ ปากก็โวยวายออกไปด้วยความโกรธ “หยุดนะ ฉันบอกให้คุณออกไปจากบ้านฉันไม่ได้ยินรึไงคนสารเลว” “คิดว่าห้ามฉันได้เหรออลินดา” มาเฟียหนุ่มเริ่มหมดความอดทนกับหญิงสาวแล้วจริง ๆ เขารู้สึกว่าตัวเองเสียเวลากับเธอมามากพอแล้ว ว่าจบเขาก็สะบัดแขนออกจากมือเล็กอย่างแรงจนอีกคนเซถลา จากนั้นก็รีบสาวเท้าเดินเข้าไปในบ้านไม่ฟังเสียงที่ดังตามหลังมาสักนิด เมื่อเดินเข้ามาถึงห้องโถงก็พบเข้าผู้ชาย และผู้หญิงสองคนอายุน่าจะราว ๆ สี่สิบปลาย ๆ นั่งอยู่ที่โซฟาหากให้เขาเดาคงจะเป็นพ่อแม่อลินดา เขารีบเดินเข้าไปหยุดตรงหน้าพวกท่านแล้วยกมือไหว้อย่างนอบน้อม “สวัสดีครับ” ส่วนอลินดาที่วิ่งตามหลังเข้ามาถึงกับชะงักกึก ใบหน้าถอดสีฉับพลัน หัวใจเต้นแรงด้วยความรู้สึกกลัวและกังวล เธอกลัวเหลือเกินกลัวว่ามาเฟียหนุ่มจะพูดอะไรที่ไม่สมควรพูดออกไปถ้าเป็นแบบนั้นเธอคงจบเห่แน่ ได้แต่ภาวนาในใจขอให้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอดยาว ๆ เรียกความมั่นใจให้ตัวเอง แล้วก้าวเท้าเดินเข้าไปยืนข้าง ๆ ร่างสูง กดเสียงพูดเบา ๆ พอได้ยินแค่สองคน "คุณอย่าทำอะไรบ้า ๆ นะเพราะมันจะไม่เป็นผลดีทั้งกับตัวคุณและฉัน" “ผมแทนไท แอคคาร์โดครับ” มาเฟียหนุ่มทำเหมือนไม่ได้ยินที่อีกคนพูดกลับเอ่ยนำตัวกับผู้ใหญ่ทั้งสองที่นั่งมองเขาด้วยความสงสัยแทน เขาตั้งใจบอกนามสกุลไปด้วยเพราะต้องการให้ทั้งสองรู้ว่าเขาเป็นใคร “อ่อ..คุณเป็นบุตรชายคนโตของคุณมาคัลสินะ” ภาคินพอจะเดาได้ในทันทีว่าชายหนุ่มตรงหน้าเป็นใครเพียงได้ยินนามสกุลวันต่อมา ทั้งสองก็พากันไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาล แล้วไปจดทะเบียนสมรสที่สำนักงานทะเบียนต่อ"เราเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้วนะ ต่อจากนี้ห้ามชายตามองผู้ชายคนไหนแม้แต่นิดเดียว" ทันทีที่ใบทะเบียนสมรสที่มีลายลักษณ์อักษรของหญิงสาวกับตัวเองอยู่ในมือมาเฟียหนุ่มก็ยืดออกแสดงความความเป็นเจ้าของอย่างเต็มภาคภูมิ"แค่ดูเป็นอาหารตาก็ไม่ได้เหรอคะสามี" อลินดาพูดหยอกสามีป้ายแดงด้วยใบหน้าเคลือบรอยยิ้มบาง ๆ ขณะกำลังจูงมือกันเดินออกจากสำนักงานทะเบียน"มีผัวหล่อขนาดนี้แล้วจะไปมองผู้ชายคนอื่นทำไม มองผัวนี่แหละครับเป็นอาหารตาชั้นดี" เธอได้แต่ส่ายหน้าเบา ๆ พอได้ยินคำพูดจาหลงตัวเองของคนเป็นสามีเธอเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเขาก็หลงตัวเองเหมือนกัน ต่อให้ที่เขาพูดมาจะจริงก็เถอะ ด้วยความมันเขี้ยวอดพูดแกล้งเขาไปไม่ได้ "พี่หล่อก็จริง แค่มองทุกวันมันก็เบื่อเหมือนกันนะ"คำพูดจากริมฝีปากอิ่มทำคนฟังหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความไม่ชอบใจ พลันหยุดเดินอัตโนมัติแล้วหันไปมองหน้าร่างบางพร้อมพ่นคำพูดออกไประรัว"อย่าแม้แต่จะคิด ห้ามเบื่อ ห้ามเลิกรัก ห้ามมองผู้ชายคนอื่น ห้ามทิ้งกัน ห.."อลินดาฟังแทบไม่ทันจนเธอต้องรีบยกนิ้วขึ้นแตะริมฝีปาก
เมื่อกลับมาถึงคอนโดเธอยังคงทำตัวปกติรอจนมาเฟียหนุ่มหลับจึงแอบเอาที่ตรวจครรภ์ไปตรวจในห้องน้ำ หัวใจดวงน้อย ๆ เต้นแรงแทบจะกระเด็นกระดอนออกมานอกอกระหว่างที่กำลังรอผลตรวจ มันลุ้นเสียยิ่งกว่าลุ้นเสียอีก หากถามว่าเธอพร้อมมีลูกในตอนนี้ไหมตอบเลยว่าไม่ แต่หากว่าลูกมาแล้วจริง ๆ เธอก็คงต้องพร้อมให้ได้ "อึก.." เธอลอบกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงลำคอแห้งผากอึกใหญ่ ก่อนจะยื่นมือที่สั่นเพราะความตื่นเต้นไปหยิบที่ตรวจครรภ์ที่วางบนอ่างล้างหน้าขึ้นมาดู "อ่า..ทำไมรีบมาจังลูกแม่ยังใช้ชีวิตวัยรุ่นไม่คุ้มเลย" พอเห็นผลตรวจที่ขึ้นสีแดงสองขีดเธอถึงกับยกมือขึ้นกุมขมับความรู้สึกมันตีกันมั่วไปหมด ใจหนึ่งเธอก็ดีใจแต่อีกใจก็นึกกังวลอะไรหลาย ๆ อย่าง เธอหลับตาลงพยายามตั้งสติ ขจัดความรู้สึกไม่ดีออกไป จากนั้นก็กำที่ตรวจครรภ์ไว้ในมือแน่นแล้วเปิดประตูเดินออกจากห้องน้ำ เดินไปหย่อนก้นนั่งบนเตียงข้าง ๆ ร่างสูงที่นอนหลับอยู่ สายตาจ้องมองใบหน้าคมคายด้วยความรู้สึกมันเขี้ยวที่เธอท้องคงจะสมใจเขาแล้วสิ นิ้วเรียวยื่นไปกรีดกรายตามแนวคิ้วโก้งทั้งสอง แล้วค่อย ๆ ลากลงตามจมูกโด่งเป็นสันมาหยุดที่ริมฝีปากหยักสีชมพูพลางครุ่นคิดในใจว่าหากเป็นล
เป็นเพราะเธอที่เข้ามาทำให้โลกอันดำมืดของเขาสว่างไสว เธอเป็นคนที่เข้ามาเติมทุกอย่างที่เขาขาดหายให้เต็มแล้วแบบนี้จะไม่ให้เขารัก และขอบคุณเธอได้ยังไงกันสองสายตามองสบประสานกันอย่างลึกซึ้งส่งผ่านความรู้สึกมากมายที่อยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ ก่อนทั้งสองจะละสายตาจากกันเมื่อหมอวัยกลางคนเดินเข้ามา มีแค่มีที่ยังกอบกุมกันไว้แน่นด้วยลุ้นระทึกกับผลตรวจที่อยู่ในมือหมอ"ผลตรวจร่างกายของคนไข้ปกติทุกอย่างครับ ไม่มีอะไรต้องกังวล" พอได้ฟังผลตรวจทั้งมาเฟียหนุ่มกับอลินดาก็ถอนหายใจออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน ด้วยรู้สึกโล่งอกที่ผลออกมาปกติ ทว่าอีกใจก็อดสงสัยไม่ได้อยู่ดีกับอาการที่เป็นอยู่"แล้วอาการที่ผมเป็นอยู่นี่ล่ะครับ" มาเฟียหนุ่มถามไถ่ไป"จากอาการที่คนไข้บอกมาถ้าร่างกายปกติก็มีเพียงอย่างเดียวครับ" หมอวัยกลางคนกล่าวยิ้ม ๆ แล้วเงียบไปชั่วครู่จึงเอ่ยต่อ "แพ้ท้องแทนภรรยา""ห๊ะ!!"สิ้นคำบอกกล่าวจากหมอมาเฟียหนุ่มกับอลินดาถึงกับตาเบิกกว้างร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจระคนฉงน พลันหันมองหน้ากันอัตโนมัติ"ประจำเดือนน้องอลินมารึยังเดือนนี้" มาเฟียหนุ่มรีบถามไถ่ด้วยความตื่นเต้นพลางก้มมองหน้าท้องของคนรัก ลึก ๆ ในใจเขาอยากให
หนึ่งเดือนต่อมา.."พี่แทนลุกขึ้นมากินข้าวอย่าเอาแต่นอนแบบนี้" อลินดาเขย่าเรียกคนตัวโตที่เอาแต่นอนตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยงข้าวปลาก็ไม่ยอมลุกขึ้นมาทานด้วยความเป็นห่วงช่วงหนึ่งอาทิตย์มานี้เขาเอาแต่นอน ข้าวปลาก็ไม่ค่อยทานบอกว่าเบื่อจนน้ำหนักลดลงไปหนึ่งกิโลแล้ว หนำซ้ำยังมีอาการอ่อนเพลีย ปวดท้องปวดหลังราวกับผู้หญิงมีประจำเดือนยังไงยังงั้น แต่พอพาไปหาหมอหมอกลับบอกว่าปกติทุกอย่างถามว่าเขามีความเครียดหรือเปล่าเขาก็บอกว่าไม่เลย เขามีความสุขที่สุดด้วยซ้ำเพราะได้อยู่กับเธอแทบทุกวันทุกคืนตั้งแต่วันที่ไปหาพ่อแม่ของเธอด้วยกัน ได้พูดคุยจนเข้าใจเธอกับเขาก็ไปมาหาสู่ และอยู่ด้วยกันบ่อยขึ้นซึ่งมาเฟียหนุ่มจะมาอยู่ที่คอนโดของเธอเรียกได้ว่าตอนนี้เขาครองห้องเธอไปแล้ว ส่วนเธอก็มีบางคืนที่กลับไปนอนที่บ้านบ้างเพื่อไม่ให้พ่อแม่ว่าเอาได้ว่าอยู่แต่กับผู้ชายจนลืมบ้านลืมช่อง "พี่แทนลุกขึ้นมากินอะไรสักนิดก่อน แล้วค่อยนอนต่อ" เธอเขย่าคนตัวโตแรงกว่าเดิมเมื่อเขายังคงนอนหลับต่อ "ตื่นแล้วครับ" ในที่สุดคนถูกปลุกก็ต้องลืมตาตื่นด้วยความจำใจ เขายกมือทั้งสองขยี้ตาไล่อาการงัวเงียออก ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นนั่งด้วยความรู้สึกที่
ภายในห้องน้ำเปลี่ยนเป็นสมรภูมิรักของคนทั้งสองไปแล้วน้ำที่ว่าเย็นก็ดับความร้อนแรงนี้ไม่ได้ มาเฟียหนุ่มเดินหน้ากระแทกไม่หยั่ง อีกคนก็รอรับด้วยความกระสันเสียวและสุขสม กว่าจะอิ่มหนำก็ใช้เวลาไปไม่น้อยอลินดาถึงกับขาอ่อนยืนไม่ไหวเป็นมาเฟียหนุ่มที่ต้องคอยดูแลจัดการอาบน้ำถูสบู่ และสระผมให้ แล้วอุ้มออกมาวางบนเตียง"หึ" มาเฟียหนุ่มหัวเราะในลำคออย่างนึกเอ็นดูคนตัวเล็กที่นั่งตาปอยอยู่ริมเตียง ก่อนจะโน้มหน้าลงไปจูบหน้าผากมนเบา ๆ แล้วเดินไปเอาผ้าขนหนูอีกผืน จากนั้นก็กระโดดขึ้นเตียงไปนั่งข้างหลังเธอจัดการเช็ดผมให้อลินดายกยิ้มออกมาน้อย ๆ กับการกระทำแสนอ่อนโยนของคนตัวโตใครจะคิดว่ามาเฟียหนุ่มอย่างเขาจะมีมุมอ่อนโยนด้วย เขาอ่อนโยนจนบางทีเธอก็คิดไม่ถึง"ขอบคุณค่ะ" ครั้นเขาเช็ดผมให้เสร็จเธอก็เอี้ยวหน้าไปขอบคุณพร้อมทั้งฉีกยิ้มให้เขาจนตายี มาเฟียหนุ่มจึงใช้จังหวะนั้นจุบปากเธอไปหนึ่งทีถือเป็นค่าเช็ดผม แล้วจึงลุกลงจากเตียงเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อหาเสื้อให้เธอใส่ เขายืนเลือกอยู่สักพักโดยมีอลินดานั่งมองที่เตียง เมื่อเลือกได้ก็พาไปยื่นให้ "ใส่ไปก่อนครับ เดี๋ยวชุดน้องอลินพี่ให้แม่บ้านเอาไปซักให้"อลินดามองเสื
ทั้งสองรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกครั้งในช่วงค่ำ ๆ หลังจากนอนพักเอาแรงกันจนอิ่มแล้วมาเฟียหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์บนหัวเตียงมาเปิดหน้าจอดูเวลา เมื่อเห็นว่าใกล้สองทุ่มแล้วจึงบอกกล่าวกับร่างบางในอ้อมกอด "ลุกขึ้นไปอาบน้ำครับจะได้ไปหาอะไรกินกัน""ขอนอนนิ่ง ๆ แบบนี้อีกสักพักได้ไหม" อลินดาแสดงท่าทีงอแงเพราะรู้สึกง่วง ๆ และขี้เกียจน้อย ๆ ซึ่งมาเฟียหนุ่มก็ไม่คิดขัดใจปล่อยให้เธอนอนกอดเขาต่อไปไม่คิดจะลุกหนีผ่านไปราว ๆ ยี่สิบนาทีจึงเรียกเธออีกครั้ง "พี่ว่าลุกขึ้นได้แล้วครับน้องอลิน""หือ.." อลินดาถึงกับตาโตหูผึ่ง ผงกหน้าขึ้นมองคนตัวโตด้วยความแปลกใจเมื่อได้ยินคำเรียกที่เขาเรียกแทนตัวเองและเธอ มันฟังดูละมุนจนรู้สึกจักกะจี้ในหัวใจ ไม่คุ้นชินเอาเสียเลย"หืออะไรครับ ต่อไปนี้เราจะเรียกกันแบบนี้โอเคไหมครับ" "โอเคก็ได้ค่ะ" อลินดาพยักหน้าเอออออย่างว่าง่ายแม้จะรู้สึกเขอะเขิน และไม่ชินหูก็ตาม"น่ารักที่สุด" มาเฟียหนุ่มก้มลงหอมหน้ามนฟอดใหญ่ ก่อนจะเคลื่อนลงหอมแก้มซ้ายขวาของเธอต่อด้วยความรักใคร่เอ็นดู ขณะที่คนถูกหอมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่หลังจากเธอตัดสินใจวางทิ้งความรู้ไม่ดีต่อมาเฟียหนุ่มเกี่ยวกับเรื่องในอดีต และท







