LOGINขวัญรวินทร์ผละออกจากอ้อมกอดของธันวาเล็กน้อย เธอดันตัวเองออกห่างราวกับร่างของเธอแปดเปื้อน ดวงตาที่เคยสุกใสบัดนี้เต็มไปด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว คำพูดที่ไม่อาจเก็บงำได้หลุดออกมาจากริมฝีปากบางที่สั่นระริก
“เค้าเป็นแฟนใหม่ของแม่หนูเองค่ะ” ธันวานิ่งงันไปชั่วขณะ ความรู้สึกตกใจปนความสลดใจเข้าจู่โจมหัวใจ เขาไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยิน
“เรื่องมันเกิดขึ้นได้ยังไง?”
“คือตอนนั้นแฟนแม่เค้าเมาค่ะ แล้วคิดว่าหนูคือแม่ ก็เลยล่วงเกินหนู” ขวัญรวินทร์เล่าต่อ เสียงของเธอขาดเป็นช่วงๆ น้ำตาไหลรินลงมาเป็นสาย
“แล้วแม่หนูไปไหนเสียล่ะ” ธันวาถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง เขาจับมือเล็กๆ ของขวัญรวินทร์มากุมไว้เบาๆ พยายามส่งผ่านความห่วงใยและความอบอุ่นให้เธอรู้สึกปลอดภัย
“แม่หนูทำโอทีค่ะ กว่าจะเลิกงานก็สองทุ่ม” ขวัญรวินทร์สะอื้น ความรู้สึกย่ำแย่ถาโถมเข้ามาในใจอีกครั้งเมื่อนึกถึงชีวิตของผู้เป็นมารดา
ตั้งแต่แม่ของขวัญรวินทร์เสียผู้เป็นทั้งสามีและเสาหลักของครอบครัวไป โลกทั้งใบที่เคยแข็งแรงมั่นคงก็พังทลายลงตรงหน้า หนี้สินก้อนโตถาโถมเข้าใส่ราวกับคลื่นยักษ์ซัดสาด ทรัพย์สมบัติที่เมธีสร้างสมมาทั้งชีวิตค่อยๆ ร่อยหรอลงไปพร้อมๆ กับความหวัง
แม่ของเธอพยายามดิ้นรน หาใครสักคนมาเป็นที่พึ่ง เพื่อกอบกู้ชีวิตที่กำลังจมดิ่ง แต่ความรักที่หวังกลับกลายเป็นคมมีดที่กรีดแทงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ชายคนแล้วคนเล่าที่ก้าวเข้ามาในชีวิต ล้วนแต่เป็นดั่งปลิงร้ายที่คอยสูบเลือดเนื้อ ผลาญทุกสิ่งอย่างที่เหลืออยู่ให้หมดสิ้นไปไม่เหลือแม้แต่เศษซากของความศรัทธา
ในที่สุด แม่ของเธอก็ต้องจำยอมสวมชุดฟอร์มสีหม่น เดินเข้าสู่รั้วโรงงาน ท่ามกลางเสียงเครื่องจักรที่ดังอื้ออึงบดบังความรู้สึกผิดหวังในใจ งานที่ต้องใช้แรงกายอย่างหนัก แลกมาด้วยค่าแรงเพียงน้อยนิด มันแตกต่างราวฟ้ากับเหวจากชีวิตที่เคยสุขสบายเมื่อครั้งมีเมธีอยู่เคียงข้าง แต่ถึงกระนั้น อนงค์นางก็ต้องกัดฟันสู้เพื่อลูกสาวที่รัก เพื่อประคับประคองชีวิตที่เหลืออยู่ให้เดินหน้าต่อไป แม้ในใจจะเปี่ยมไปด้วยความรวดร้าว และความรู้สึกผิดที่ไม่อาจแก้ไขอดีตได้
“ช่วงห้าโมงเย็น หนูกลับบ้าน พออาบเสร็จหนูก็เดินผ่านห้องนอนของแม่ไปห้องหนู...หนูก็คิดว่าไม่มีใคร ตอนนั้นหนูนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว แล้วเขาก็ตามหนูเข้ามาในห้อง ลากตัวหนูไปนั่งตัก หนูทั้งดิ้นทั้งร้องแต่เขาก็ไม่ฟัง...สุดท้ายหนูก็สู้แรงเค้าไม่ไหว” เสียงของเธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวดทรมานจากภาพเหตุการณ์อันเลวร้ายที่เพิ่งเกิดขึ้น ดวงตาของเธอพร่ามัวไปด้วยหยาดน้ำตาที่หลั่งไหลไม่หยุด ภาพในหัวฉายซ้ำราวกับติดอยู่ในฝันร้าย ความขยะแขยงและความอัปยศอดสูเกาะกินจิตใจอย่างรุนแรง
“แล้วพอเค้ารู้ว่าหนูไม่ใช่แม่ล่ะ....เค้าหยุดมั้ย?” ธันวาพยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่นคลอน เมื่อได้ยินรายละเอียดที่เจ็บปวด คำถามนั้นเต็มไปด้วยความกังวลและโกรธเคืองแทนเด็กสาว
“เค้าอาจรู้หรือทำเป็นไม่รู้ก็ได้ค่ะ...แต่สุดท้ายเค้าก็ขอโทษและบอกว่าตัวเองเมา” ขวัญรวินทร์ตอบเสียงแผ่ว ใบหน้าซีดเผือดราวกับไร้ชีวิต
“ระยำที่สุด!” ธันวาสบถออกมาอย่างเหลืออด
“หนูควรบอกเรื่องนี้กับคุณแม่นะ”
“แม่ต้องไม่เชื่อหนูแน่ ๆ เลยค่ะ ตอนนี้แม่หนูหลงเค้าอย่างกับอะไร ฮื่อๆๆๆ” ขวัญรวินทร์พูดอย่างหมดสิ้นเรี่ยวแรง เสียงสะอื้นไห้ปนกับความเจ็บปวด ดวงตาที่แดงก่ำฉายชัดถึงความหวาดกลัวและสิ้นหวัง เธอรู้สึกราวกับถูกทอดทิ้งให้อยู่เพียงลำพังในโลกที่โหดร้าย ไม่มีที่พึ่ง ไม่มีใครเข้าใจความทุกข์ทรมานที่เธอกำลังเผชิญอยู่
ธันวากำมือแน่น ดวงตาของเขาฉายแววโกรธแค้นแทนเด็กสาว แต่ก็ถูกปกปิดไว้ด้วยความเมตตาและเห็นอกเห็นใจ เขาอยากจะไปกระชากคอไอ้สารเลวนั่นมาลงโทษเสียให้สาสม แต่ก็ต้องเก็บงำความรู้สึกไว้เพื่อปลอบประโลมหญิงสาวตรงหน้า
“แต่ถึงยังไง...อาหมอก็ขอยืนยันว่า หนูก็ควรจะแจ้งความนะ” ธันวายังคงยืนกราน แม้จะเข้าใจความรู้สึกของเด็กสาวดี แต่ในฐานะแพทย์ เขาย่อมรู้ว่าการถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจเช่นนี้ จำเป็นต้องได้รับการจัดการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
“หนูขอร้องเถอะนะคะ...อาหมอ!!! หนูไม่อยากแจ้งความ ฮื้อๆๆๆ” ขวัญรวินทร์มองเขาด้วยสายตาอ้อนวอน น้ำตาไหลเป็นทาง เธอส่ายหน้าอย่างแรง การแจ้งความเป็นสิ่งที่เธอไม่อยากให้เกิดขึ้นที่สุดในตอนนี้
ความรู้สึกกลัวถาโถมเข้าใส่จนเธอแทบจะหายใจไม่ออก ไม่ใช่แค่กลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับความจริงอันโหดร้ายอีกครั้ง แต่ยังกลัวว่าเรื่องราวนี้จะไปถึงหู แม่ของเธอ ผู้ซึ่งกำลังลุ่มหลงแฟนใหม่จนมองไม่เห็นสิ่งใด ถ้าเรื่องแดงขึ้นมา เธอรู้ดีว่ามันจะต้องกลายเป็นการทะเลาะครั้งใหญ่ และความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับแม่ก็จะแตกหักไม่มีชิ้นดี
และที่สำคัญที่สุดคือภูริช แฟนหนุ่มของเธอที่เปรียบเสมือนแสงสว่างเดียวในชีวิต เขาเป็นทั้งเพื่อน เป็นทั้งคนรัก เป็นทั้งกำลังใจ และเป็นดั่งอู่ข้าวอู่น้ำที่คอยจุนเจือครอบครัวมาโดยตลอด ขวัญรวินทร์กลัวเหลือเกินว่าถ้าเขารู้เรื่องราวอันน่ารังเกียจนี้ เขาจะรับไม่ได้และตีตัวออกห่างจากเธอไปตลอดกาล เธอไม่อยากสูญเสียไปแม้แต่ความเป็นเพื่อน ความคิดที่ว่าต้องอยู่ตัวคนเดียวอย่างแท้จริงนั้นน่าหวาดกลัวยิ่งกว่าสิ่งใดๆ เธอจึงเลือกที่จะเก็บงำความเจ็บปวดนี้ไว้กับตัวเอง ดีกว่าต้องเสี่ยงสูญเสียทุกอย่างที่เหลืออยู่ไป
คำพูดของขวัญรวินทร์ทำให้ธันวารู้สึกเจ็บแปลบในอก ความบอบช้ำทางกายและใจของเธอที่ต้องมาแบกรับความลับอันเจ็บปวดนี้ช่างน่าสงสารเหลือเกิน เขาไม่สามารถบังคับเธอได้ในเมื่อเธอไม่ต้องการ ทว่า...ความปรารถนาที่จะปกป้องเด็กสาวคนนี้ กลับทวีคูณขึ้นในใจของนายแพทย์หนุ่มอย่างไม่รู้ตัว
“ก็ได้ อาหมอตามใจหนู” ธันวาพูดเสียงอ่อนโยน พลางลูบศีรษะของเธอเบาๆ
“แต่ต่อไปนี้ ก่อนหนูจะกลับบ้านหนูต้องดูดีๆ นะว่าแม่อยู่บ้านหรือเปล่า”
ตอนที่ 15 ตรวจเสร็จต้องฉีดยา NCบนโซฟาในคลินิกที่เงียบสงัด เสียงหอบหายใจของธันวาและขวัญรวินทร์ผสานเข้ากับเสียงฝนที่ยังคงพร่างพรมอยู่ภายนอก ร่างกายของทั้งคู่กำลังเคลื่อนไหวเข้าหากันอย่างเร่าร้อน สัมผัสที่รุนแรงและลึกซึ้งทำให้ขวัญรวินทร์บิดเร้าด้วยความเสียวซ่านจนไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป“อาหมอขา ใกล้เสร็จหรือยังคะ” ขวัญรวินทร์ ถามเสียงพร่าหอบ ดวงตาคู่สวยปิดพริ้ม ใบหน้าหวานแดงซ่านไปทั่วทั้งการโดนสัมผัสจากริมฝีปากและเกิดจากความเสียวซ่านของเธอเองเธอกอดรัดแผ่นหลังของธันวาแน่นขึ้น พลางจิกเล็บลงไปอย่างแรง ร่างกายบอบบางของเธอบิดเร้าด้วยความเร่าร้อนที่ธันวากำลังมอบให้ ผิวเนื้อขาวนวลผ่องสะท้อนแสงไฟสลัวๆ ทั่วทั้งเนินอกอิ่ม เรือนร่างที่งดงามราวกับงานปั้น และลำคอระหงปรากฏร่องรอยแดงของการถูกดูดไปทั่ว บ่งบอกถึงแรงปรารถนาอันรุนแรงที่เพิ่งผ่านพ้นไป หน้าท้องแบนราบกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการหอบหายใจถี่กระชั้น ยิ่งขับเน้นให้สะโพกผายได้รูปดูเย้ายวนยิ่งขึ้นไปอีกธันวามองภาพตรงหน้าด้วยความลุ่มหลง เขาก้มลงจูบซับร่องรอยที่เขาทิ้งไว้บนผิวเนื้อของเธออย่างแผ่วเบา แต่การกระทำของเขากลับเร่งเร้าความปรารถนาในตัวขวัญร
ตอนที่ 14 วินิจฉัยพลาดพิฆาตรูมือหนาลูบไล้ไปตามผิวกายเนียนนุ่มของขวัญรวินทร์อย่างแผ่วเบา สัมผัสที่อ่อนโยนแต่เต็มไปด้วยความร้อนแรงทำให้ขวัญรวินทร์บิดเร้าด้วยความเสียวซ่าน เธอจิกเล็บลงบนแผ่นหลังกว้างของธันวาด้วยความอัดอั้น ก่อนที่ทั้งคู่จะหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ท่ามกลางความเงียบงันของคลินิกยามวิกาล มีเพียงเสียงครางแผ่วเบาของขวัญรวินทร์ และเสียงหอบหายใจที่ถี่กระชั้นของธันวา ที่สะท้อนก้องอยู่ในห้องตรวจในขณะที่ธันวาใช้แท่งรักของตัวเองดันถ้วยอนามัยเข้าไปจนลึกสุด น้องชายของเขาก็สัมผัสกับความร้อนระอุภายในกายของเธอ ความคับแน่นที่เย้ายวนเชิญชวนให้เขาก้าวข้ามเส้นบางๆ ที่กั้นขวาง ธันวารู้สึกราวกับถูกสะกดด้วยมนต์เสน่ห์ของหญิงสาวตรงหน้า สติสัมปชัญญะของเขาเลือนหายไปชั่วขณะ มีเพียงความปรารถนาอันดิบเถื่อนที่เข้าครอบงำในความสลัวของห้องตรวจที่อบอวลไปด้วยกลิ่นคาวเลือดจางๆ และกลิ่นกายหอมอ่อนๆ ของเด็กสาว สัมผัสที่เกินเลยได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ธันวากำลังอยู่ในห้วงอารมณ์ที่ยากจะควบคุม เขาไม่สามารถรักษาท่าทีความเป็นหมอเอาไว้ได้“ของอาหมอ...ดันถ้วยอนามัยเข้าไปจนลึกสุดแล้ว หนูเจ็บมั้ย”“ไม่เจ็บค่ะ อาหมอทำแรงกว
ตอนที่ 13 เต็มใจให้หลอกเมื่อร่างของขวัญรวินทร์เกร็งกระตุกเฮือกสุดท้าย ธันวาก็ผละใบหน้าออกมาจากความฉ่ำหวานนั้น ปลายลิ้นลากไล้ขึ้นไปตามร่องกลีบสวาทที่บัดนี้บวมช้ำด้วยแรงปรารถนา สูดดมกลิ่นหอมหวลจากกายสาวอย่างลุ่มหลง ดวงตาคมกริบจ้องมองเข้าไปในดวงตาฉ่ำหวานที่ปรือปรอยของขวัญรวินทร์ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความห่วงใยผสมผสานกับความต้องการที่ยังไม่ดับมอดม่านกั้นสีขาวที่กั้นระหว่างเตียงตรวจถูกเปิดออกช้าๆ มันกำลังจะกลายเป็นประจักษ์พยานแห่งความปรารถนาที่ซ่อนเร้น ธันวาโน้มตัวลงไปโอบกอดร่างบอบบางของเธอแนบแน่น ดึงร่างเด็กสาวเข้ามาสู่กลางลำตัวที่ร้อนผ่าวของเขา ขวัญรวินทร์ซบหน้าเข้ากับแผงอกของอาจารย์หนุ่มอย่างอ่อนระทวย เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยในอ้อมกอดนี้อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ความเจ็บปวดทางกายและใจที่เคยกัดกินดูจะบรรเทาลงไปอย่างน่าอัศจรรย์“อาหมอรู้สาเหตุที่เลือดหนูไหลออกมาเยอะๆ แล้วล่ะ” ธันวา เอ่ยเสียงทุ้มต่ำ ปลายนิ้วของเขาค่อยๆ เอื้อมไปเกลี่ยเส้นผมที่ปรกใบหน้าของเธอออกอย่างแผ่วเบา สัมผัสที่ผิวเนื้อทำให้หัวใจของธันวากระตุกวูบขวัญรวินทร์เม้มปากแน่น ใบหน้าหวานแดงก่ำด้วยความอายและความสับสน เธอพยาย
ตอนที่ 12 วิธีรักษาของอาหมอปลายนิ้วเรียวสัมผัสกับเนื้อผ้าบางเบาของกางเกงชั้นในลายการ์ตูนสีหวานน่ารักอีกครั้ง ผิวเนื้ออุ่นร้อนที่ซ่อนอยู่ภายใน ทำให้หัวใจของธันวาเต้นรัวอย่างรุนแรง ความปรารถนาที่ถูกกดทับมานานกำลังปะทุขึ้น และยากที่จะควบคุม มือของเขาค่อยๆ สอดเข้าไปใต้ขอบผ้า คลี่คลายสิ่งที่ปกปิดเรือนกายสาวออกอย่างช้าๆ“ให้หนูไปทำความสะอาดเองเถอะค่ะอาหมอ...มันสกปรกจริงๆ นะคะ นะคะอาหมอ” ขวัญรวินทร์อ้อนวอนอีกครั้ง เสียงของเธอแผ่วเบาราวกระซิบ เธอพยายามขยับสะโพกหลบ แต่ก็ไม่สำเร็จ“หนูไม่ต้องอาย...อาหมอนะครับ” ธันวาปลอบโยนเหมือนรู้ใจเด็กสาว เสียงของเขาแหบพร่ากว่าปกติเล็กน้อย เมื่อกางเกงชั้นในถูกถอดออกอย่างสมบูรณ์ ภาพของกลีบกุหลาบงามที่เปรอะเปื้อนคราบเลือดก็ปรากฏสู่สายตา ช่างน่าปรารถนาและน่าทะนุถนอมไปพร้อม ๆ กัน“เดี๋ยวอาหมอจะทำความสะอาดให้เองนะครับ..” คำพูดนั้นหลุดออกจากริมฝีปากของธันวาโดยไม่ตั้งใจ เขาเอื้อมมือไปสัมผัสกลีบกุหลาบเบาๆ แผ่วเบาราวกับกลัวว่ามันจะแตกสลาย เลือดที่ซึมออกมาเล็กน้อยยิ่งขับเน้นให้กลีบแคมอวบอิ่มดูช้ำและน่าสงสารเด็กสาวนอนหันหน้าไปอีกฝากหนึ่ง ไม่อยากคิดเลยว่า เขาจะรู้สึกเช
ตอนที่ 11 หนูเขินนะคะ“นั่งก่อนสิ...หนู” ธันวาชี้ไปที่เก้าอี้คนไข้ แล้วเดินไปที่ตู้เก็บอุปกรณ์ทางการแพทย์ เขาหยิบยาปรับฮอร์โมนออกมาพร้อมกับถ้วยอนามัยแบบซิลิโคนสีชมพูอ่อนที่บรรจุอยู่ในซองพลาสติกใส“นี่คือยาปรับฮอร์โมน หนูทานตามที่เขียนเอาไว้ให้ตามนี้เลยนะ” ธันวาอธิบายถึงวิธีทานยาอย่างละเอียด พลางยื่นถ้วยอนามัยให้เธอ“ส่วนนี่คือผ้าอนามัยแบบถ้วย หรือที่เราเรียกว่า menstrual cup”ขวัญรวินทร์มองด้วยความสงสัย ก่อนจะเอ่ยขึ้น“หนูไม่กล้าใช้หรอกค่ะ...อาหมอ ใหญ่ขนาดนี้” ธันวายิ้มเล็กน้อยก่อนจะอธิบายให้เด็กสาวฟัง“แต่มันเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่มีประจำเดือนครั้งละมาก ๆ อย่างหนูนะ ช่วงนี้หนูมีกิจกรรมรับน้องที่มหาลัยด้วยไม่ใช่เหรอ อาหมอเห็นว่ามันใส่แล้วคล่องตัวดี แล้วก็สามารถใช้ซ้ำได้อีก ทำความสะอาดก็ง่าย” นายแพทย์หนุ่มพยายามอธิบายอย่างใจเย็น พลางแกะซองพลาสติกแล้วโชว์ให้เธอดูขวัญรวินทร์มองถ้วยซิลิโคนที่อยู่ในมือของธันวาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ“ใส่เข้าไปมันไม่อึดอัดแย่เหรอคะ”“ไม่หรอก...ก่อนที่หนูจะใส่เข้าไป...ก็ต้องพับให้มันเป็นรูปตัวซีแบบนี้เสียก่อน แล้วก็ค่อยๆ สอดเข้าไป” เขาอธิบายอย่างเป็นขั้นเป็
ตอนที่ 10 ผลข้างเคียงธันวาขับรถออกมาจากคฤหาสน์ที่เต็มไปด้วยความอึดอัดและคำพูดเชือดเฉือนจากคุณอรุณรัศมีมารดาของกานต์ชนกแฟนสาว โดยเขาอ้างเหตุผลเรื่องเคสผ่าคลอดฉุกเฉิน ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นเพียงข้ออ้างที่เขาใช้หลบหนีจากความอึดอัดที่ไม่อาจทนอยู่ต่อได้ เสียงโทรศัพท์จากพยาบาลที่โทรมาเตือนเรื่องเคสกลางดึก เป็นเพียงการย้ำเตือนเท่านั้น ไม่ได้มีเคสเร่งด่วนถึงขนาดต้องรีบกลับอย่างที่เขาบอกรถหรูเคลื่อนตัวไปตามท้องถนนที่เริ่มคึกคักขึ้นเรื่อย ๆ ยามค่ำคืน แสงไฟจากป้ายโฆษณาข้างทางสะท้อนเข้ามาในรถเป็นระยะ หัวใจยังคงเต็มไปด้วยความขุ่นมัวจากคำพูดของคุณอรุณรัศมีที่ตอกย้ำถึงความไม่คู่ควรของเขากับลูกสาวของเธอธันวากำพวงมาลัยแน่นขณะรถเคลื่อนไปตามถนนที่เริ่มเงียบสงัดในยามดึก เขายังคงรู้สึกถึงแรงกดดันจากบทสนทนาที่โต๊ะอาหาร แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ดึงเขาออกจากห้วงความคิด ธันวาเหลือบมองหน้าจอ เป็นสายจากวนิดา พยาบาลหน้าห้องตรวจของเขาเอง“สวัสดีค่ะ...หมอธัน...เมื่อสักครู่” เสียงวนิดาฟังดูลังเลในตอนแรก ก่อนจะเอ่ยต่อ“คือดาจะโทรมาสอบถามน่ะค่ะ” ธันวาอมยิ้มเล็กน้อย เขารู้ทันทีว่าวนิดากำลังสงสัยเรื่องอะไร“อ๋อ...







