Share

บทที่ 5

last update Terakhir Diperbarui: 2025-08-29 12:28:34

หลายวันต่อมา

ฉันปรับเปลี่ยนเวลาให้ออกมาทำงานช้าขึ้นจากเดิมเล็กน้อย เพื่อไม่ต้องพบเจอพวกเขาอีก และมันก็ได้ผลอย่างดี ผมหยักศกม้วนมัดยกสูงไว้กลางหัว มีดินสอแท่งยาวเสียบไว้ ร่างบางนั่งหย่องบนเก้าอี้ด้วยท่าประจำตอนทำงาน สายตาจ้องมองไปยังแบบเสื้อผ้าต่าง ๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะ

คิดอะไรไม่ออกเลย ในหัวมีแต่ภาพคนพวกนั้นทำให้คิดไม่หยุด อยากจะกรีดร้อง! ฉันยีหัวตัวเองด้วยความหงุดหงิดและทิ้งตัวนั่งลงในท่าปกติ

ติ้๊ดดด! ติ๊ดดด!

เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ส่วนตัวดังขึ้น ฉันเอื้อมมือไปหยิบก็พบว่าเป็นสายของคุณปู่โทรเข้ามา

ติ๊ด!

"ฮัลโหลลลล ~ " ฉันแหกปากใส่โทรศัพท์เต็มเสียง การรับโทรศัพท์แบบปู่หลานเขาทำกัน

(รู้ทันหรอกน่า ปู่เปิดลำโพง) โดนบ่อยจนหูจะแตก ต้องหาวิธีมาแก้จนได้

"คิดถึงเหรอโทรมาแต่บ่ายเลย"

(จริง ๆ ก็จะโทรแต่เช้าแล้ว แต่คิดว่าคงยังไม่ตื่นเลยไม่อยากโทรไป เพราะยังไงคนตื่นยากมันก็ไม่รับสายหรอก) ปู่พูดอย่างรู้ทัน ก็นาฬิกาปลุกเคลื่อนที่ลิงตัวน้อยก็มาจากคุณปู่ของฉันเอง

"บ่นเป็นคนแก่เลย เดี๋ยวก็แก่หรอกบ่นขนาดนี้" คุณปู่หัวเราะเมื่อได้ยินคำพูดของฉัน

(วันนี้กลับเร็วหน่อยนะ ปู่จะไปหา)

"คิดถึงจริง ๆ ด้วย คนแก่คิดถึงหลานสาวเหรอคะ" รีบกลับแล้วไปลงมือทำอาหารให้คุณปู่ทานดีกว่า นาน ๆ ท่านจะว่างสักที

(ใช่ ๆ ปู่คิดถึงเคทมาก~)

"หลานสาวคนนี้จะโชว์ฝีมือทำอาหารให้คุณปู่ทานเอง"

(ถ้ามันจะยากให้คนอื่นทำเถอะนะ) คุณปู่บ่ายเบี่ยงแบบอ้อมค้อมที่สุดในชีวิตแล้วมั้งเนี่ย พูดขนาดนี้

"ไม่ต้องเขิน เดี๋ยวเคททำให้ทาน เนี่ยเดี๋ยวกลับเลย คุณปู่จะมากี่โมงคะ" พูดใช้ไหล่หนีบโทรศัพท์และเริ่มเก็บของบนโต๊ะทำงาน

(สักหกโมงเย็นนะ เดี๋ยวปู่ไปหา)

"แล้วเจอกันนะคะ"

(โอเค ปู่รักหลานนะ) รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าเมื่อได้ยินคำพูดนั้นของปู่

"หนูก็รักปู่นะคะ"

เมื่อวางสายจากคุณปู่ฉันก็รีบเก็บของและขับรถไปยังซูเปอร์มาร์เก็ตทันที วันนี้ต้องโชว์ฝีมือการทำอาหารในรอบหนึ่งปีซะหน่อย

ณ ห้องครัว

ซู่!!

"กรี๊ด!!"

"คุณเคท!"

ความวุ่นวายเกิดขึ้น ตั้งแต่ฉันเริ่มทำครัว ไฟในกระทะลุกซู่ขึ้นมา เมื่อน้ำจากเนื้อที่ฉันซับออกไม่ดีหยดลงในกระทะ พอซู่ขึ้นมาทีฉันก็แหกปากที พวกเมดก็วิ่งมาดูที

"คุณปู่จะมาแล้ว คงต้องถึงมือพวกเธอแล้วแหละนะ" ในที่สุดฉันก็ยอมแพ้ การทำอาหารนี่ไม่เหมาะกับฉันจริง ๆ

"คุณเคทไปอาบน้ำอีกรอบดีกว่านะคะ น้ำมันกระเด็นโดนตัวหมดแล้ว" เธอเอากระดาษทิชชูมาเช็ดตามแขนของฉัน

"ฝากด้วยนะ"ฉันส่งยิ้มกว้างให้ สุดท้ายก็จบที่พวกเธอเหมือนเดิม

"ค่ะคุณเคท"

แล้วฉันก็รีบเดินไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที อีกครึ่งชั่วโมงคุณปู่น่าจะใกล้มาแล้ว ต้องรีบจัดการตัวเองในไวที่สุด เมื่อถึงเวลาและจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้วก็รีบลงไปรอรับคุณปู่ทันที

"คุณปู่~"

เมื่อออกจากลิฟต์มาก็เจอคุณปู่ยืนอยู่ ฉันส่งเสียงเรียกและวิ่งเข้าไปหาทันที ขาเรียววิ่งเข้าไปหาก็ต้องชะลอความเร็ว เพราะร่างสูงที่ยืนอยู่หลังเสาและคุณกับปู่ของฉัน เจอบ่อยไปนะช่วงนี้

"อ่าว เคทมาแล้วเหรอ" คุณปู่หันมาทักทาย เมื่อเห็นว่าฉันยืนนิ่งไม่ขยับ

"ปู่คุยก่อนก็ได้ค่ะ เดี๋ยวเคทรอ" ฉันไม่อยากเข้าไปร่วมวงสนทนากับเขา เจ้าชายฮาเซล

"เคทอย่าเสียมารยาทกับเจ้าชาย" เมื่อเห็นว่าหลานสาวเริ่มทำตัวออกห่างอีกครั้ง เขาจึงต้องทำให้ทั้งคู่กลับมาเป็นเพื่อนกันให้ได้

"ไม่เป็นไร ถ้าเธออึดอัด" ใช่ ฉันอึดอัด เหมือนจะหายใจไม่ออกเลยล่ะ ถ้าต้องเข้าใกล้พวกเขา

"เคท" ปู่หันมาเรียกชื่อฉันอีกครั้ง ในขณะที่ยังคงยืนนิ่ง

"..." ฉันมองต่ำไปขาของเขา แทนที่จะมองหน้า ฉันรู้ชื่อเจ้าชายก็จริง แต่ถ้าไม่เอ่ยปากเรียกและทำให้คนอื่นรู้ว่าฉันรู้ กฎก็จะไม่มีผล

"หลานคนนี้นิ" ปู่พูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยใจ สายตามองไปยังหลานของตัวเองที่เดินกลับไปรอที่หน้าลิฟต์ตามเดิม

"ผมไม่รบกวนแล้วครับ" เมื่อเห็นการแสดงออกที่ชัดเจนของเธอ ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดในใจ ยังไงเคทก็เป็นคนเดียวที่กล้าทำอะไรแบบนี้ไม่เคยเปลี่ยน ถ้าอยู่นานกว่านี้เขาต้องจัดการเธอแน่

"ขอโทษแทนเคทด้วยครับเจ้าชาย"

"..." เขาส่งยิ้มให้ผู้ชายตรงหน้าและเดินออกไปยังทางประตูทันที ดวงตาคมมองตรงไปยังด้านหน้า มุมปากยกยิ้ม หึ! ไม่ต้องขอโทษเพราะเดี๋ยวเขาจะจัดการดัดนิสัยเธอเอง

"เดี๋ยวเถอะนะเคทเสียมารยาทแบบนี้ได้ยังไง" เมื่อคุณปู่เดินกลับมาหาก็เอ่ยปากดุขึ้นมาทันที ฉันเบะปากใส่แล้วหันหน้ามองไปทางอื่น

"เขาไม่คิดอะไรหรอก ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจอสักหน่อย" แล้วก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทำแบบนี้ด้วย

"เคทนี่แหละนะ ทั้งที่เคยเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กแท้ ๆ"

"ไม่พูดเรื่องนี้แล้วนะ เราขึ้นไปทานอาหารฝีมือเมดของเคทกันดีกว่า" ฉันคล้องแขนคุณปู่ไว้แน่นแล้วซบหัวลงบนไหล่

"ไหนบอกว่าจะโชว์ฝีมือไง"

"โชว์แล้ว ทำได้แค่ล้างผักก็จะแย่" พยายามแล้วนะแต่ไม่เหมาะกับทางนี้จริง ๆ

"ว่าแล้ว" คุณปู่อมยิ้มแล้วเอื้อมมือมายีหัวด้วยความหมั่นไส้ ฉันเอื้อมมือไปกอดเอวคุณปู่ไว้แล้วพาท่านเดินเข้าไปในลิฟต์ เพื่อมุ่งตรงไปยังชั้นห้องของตัวเอง

30นาทีผ่านไป

หลังจากรับประทานอาหารเสร็จฉันก็นั่งฟังคุณปู่เล่าถึงเรื่องการทำงานของท่าน

"เราสามารถเปลี่ยนตระกูลอื่นมาทำได้ไหมคะ" รู้ว่าคำตอบที่ได้จะเป็นยังไงแต่ก็ถามทุกครั้งที่พบเจอกัน

"ไม่ได้" อยากได้ยินคำว่าได้บ้างจัง มีแต่คำว่า ไม่ได้ ไม่ได้ ไม่ได้ เต็มไปหมด

"แล้วถ้าเคทตายก่อนคุณปู่ล่ะ ใครจะมาทำแทน" คำพูดโดยไม่ใช่สมองคิดของฉันทำให้คุณปู่ต้องเอ่ยปากดุ

"อย่าพูดแบบนี้ให้ปู่ได้ยินอีกนะ" เสียงของปู่ทำให้ฉันได้แต่ยิ้มหน้าเจื่อน ๆ แล้วเอาส้อมเขี่ยจานเล่น

"ค่ะ คืนนี้ปู่ค้างกับเคทไหม เคทอยากนอนกอดปู่"

"ไม่ได้ เราโตเป็นสาวแล้วนะจะมานอนกอดอะไร"

"โห~" ฉันกอดอกพิงกับพนักเก้าอี้อย่างขัดใจ จนปู่หัวเราะออกมาไม่ได้เมื่อเห็นการกระทำของหลานสาว

"นี่เคท"

"ขา~"

"ชอบสิ่งที่ทำอยู่ในตอนนี้ไหม" อยู่คุณปู่ก็ถามถึงสิ่งที่ฉันทำเป็นครั้งแรก เพราะที่ผ่านมาท่านพยายามจะให้ฉันเตรียมตัวรับหน้าที่อยู่ตลอดเวลา

"ชอบค่ะ ชอบมาก!"

"ถ้าเราทำในสิ่งที่ชอบ ไม่ว่าจะทำร่วมกับใครเราก็จะยินดีที่จะทำเนอะ"

"ใช่ค่ะ เคทเจอลูกค้าและงานแปลก ๆ มาเยอะ ก็ผ่านมาได้ด้วยดีตลอดนะคะ เขาเรียกมืออาชีพ!" ฉันพูดพร้อมกับยืดอกอย่างภูมิใจ จนคุณปู่อมยิ้มและหัวเราะออกมา

"ฮ่าฮ่า โอเค ๆ คุณดีไซเนอร์คนสวย ต่อจากนี้ช่วยทำงานร่วมกับเชื้อพระวงศ์ให้ที"

"ดะ! อะไรนะ" ฉันหุบยิ้มลงทันทีเมื่อได้ยินคำพูดที่ออกมาจากปากคุณปู่

"ช่วยเข้ามาดูแลทุกเรื่องที่เกี่ยวกับเครื่องแต่งกายให้กับเชื้อพระวงศ์ที"

"ไม่ค่ะ" ฉันปฏิเสธทันทีโดยที่ไม่คิดจะถามว่าเชื้อพระวงศ์พระองค์ไหน

"ทำไมล่ะ"

"เคท...ไม่อยากเข้าไปวุ่นวายกับพวกเขา" สิ่งที่กำลังหนี ตอนนี้กำลังวิ่งเข้ามาหาตัวเองหรือไง

"ไม่ใช่พวกเขา แต่แค่คนคนเดียว"

"คนเดียว" ไม่ใช่ทั้งหมดงั้นเหรอ

"ใช่ แค่คนเดียว" ฉันสบตากับคุณปู่และพยายามใช้หัวสมองอันน้อยนิดคิดตามในสิ่งที่ปู่พูด

"..." แต่...ไม่ว่าจะกี่คนก็ไม่เอา ฉันยังไม่พร้อมจะต้องเข้าไปวุ่นวายกับพวกเขา

"ปู่มีข้อเสนอด้วยนะ" เมื่อเห็นสีหน้าที่ลังเลของฉัน ปู่ก็ยื่นข้อเสนอมาให้ทันที

"งั้นขอฟังข้อเสนอประกอบการตัดสินใจหน่อยค่ะ" ฉันเท้าคางและจ้องมองปู่อย่างตั้งใจฟัง

"ปู่จะไม่จับคู่ให้เคทอีกต่อไป"

"จริงเหรอ" งั้นก็หมายความว่าฉันไม่ต้องการเดทแล้วสิ

"จริง แต่..."

"นั้นไงว่าแล้ว ต้องมีแต่" ฉันทิ้งตัวพิงเก้าอี้และทำหน้าบึ้ง ดีใจเก้อเลย

"แต่ของปู่เนี่ยไม่ใช่เรื่องจับคู่ แค่เคทรับปากว่าจะทำปู่ก็จะไม่หาคู่ให้หลานสาวอีก ส่วนที่ว่าแต่น่ะ" ปู่ไม่โกหกแน่ ทุกอย่างที่พูดจะทำตามคำพูดเสมอ

"แต่อะไรคะ"

"เคทต้องทำให้เขายอมรับ ท่านค่อนข้างจะเป็นคนจุกจิกไปบ้าง"

"อ่อ เรื่องแค่นั้นสบายมากค่ะปู่" ฉันโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ เพราะหนักหนากว่าการจุกจิกก็เคยเจอมาแล้ว เจอมานับไม่ถ้วนจากบรรดาลูกค้าและเซเลบโคตรVIPทั้งหลาย

"งั้นเคทรับปากจะทำแล้วใช่มั้ย" ฉันหันกลับไปจ้องหน้าปู่ที่กำลังรอคำตอบจากฉันเช่นกัน

"ขอคิดก่อนหนึ่งวันค่ะ"

"ไม่ได้ ต้องตอบตอนนี้"

"งั้น...ขอถามว่าเจ้าหญิงคนไหนคะ" ฉันพยายามนึกแล้วนะ แต่นิสัยจุกจิกก็ไม่มีเลยนะหรือเพราะโตขึ้นนิสัยพวกเขาอาจจะมีกลไกแปลก ๆ เพิ่มเข้ามา

"ไหนบอกว่าทำงานกับใครก็ได้ไง"

"ก็ใช่ แต่แค่อยากรู้ ดูแลนี่ก็งานระยะยาวไม่ใช่หรือไงคะ" ภาพลักษณ์ที่ดีแก่ราชวงศ์ ทุกคนจะมีแบรนด์เสื้อผ้าที่ดูแลเป็นการส่วนพระองค์กันทั้งนั้น

"ดีไซเนอร์จะไม่เลือกลูกค้า"

"ก็ใช่ แต่เคทแค่อยากรู้"

"คุณดีไซเนอร์ไหนว่าเป็นมืออาชีพ ทำไมต้องเลือกลูกค้าล่ะ" คุณปู่ยังไม่เลิกพูดแกล้งฉัน

"โอเค ๆ! ไม่อยากรู้แล้วก็ได้ เชอะ!"

"อื้อ! แล้วตกลงจะทำไหม"

"ก็...ได้ค่ะ"

"ดีมากหลานรัก เดี๋ยวเตรียมตัวไว้นะแล้วปู่จะบอก"

"ค่า~" ฉันลากเสียงยาวและยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ เจ้าหญิงทุกคนฉันก็พอสนิทอยู่บ้าง ไม่มีอะไรยากหรอกก็แค่ทำตามความต้องการของพวกเขา
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • พันธะร้ายดีไซน์รัก    บทที่ 161

    "ไอริสชอบให้พ่ออุ้ม" ฮาเซลหันกลับมาส่งยิ้มให้และจูบลงบนหน้าผาก"ต่อให้ลูกไม่ชอบลูกก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ เพราะพ่อจะอุ้มอย่างเดียวเลย" คนติดลูกแบบเขายังจะกล้าพูดว่าลูกชอบให้อุ้ม"แล้วตื่นมาทำไม เคทเหนื่อยมาทั้งวันแล้วนะทำไมไม่นอน" เขาเป็นสามีที่เข้าใจถึงการเลี้ยงลูกได้อย่างดีจริง ๆ"ก็ไม่อยากนอนคนเดียวเ

  • พันธะร้ายดีไซน์รัก    บทที่ 160

    หลายเดือนต่อมาคฤหาสน์หลังใหญ่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเราทั้งคู่ เพียบพร้อมไปด้วยผู้ดูแลมากมาย แต่ต่อให้ทั้งบ้านจะหลังใหญ่โตมากแค่ไหน ฮาเซลก็ไม่เคยห่างจากฉันเลย"ไม่ทำงานได้ไหม" ฮาเซลถามคำนี้กับฉันทุกวัน เพราะฉันเอาแต่วุ่นวายกับคอลเลคชั่นสุดท้ายก่อนจะพักเพื่อเตรียมตัวคลอด"ขอแค่คอลเลคชั่นนี้เอง ฉันตั้งใจทำ

  • พันธะร้ายดีไซน์รัก    บทที่ 159

    ณ สุสานประจำเมืองดอกบลูบอนเน็ทพลิ้วไหวตามแรงลม ดอกไม้แห่งความเศร้า การบอกลา ความเสียใจปนเหงา ความหมายของมันยังลึกซึ้งมากกว่านั้น 'แม้จะเจ็บปวด แต่จะขอจดจำเอาไว้ไม่ลืมเลือน' แม้ความหมายของมันจะเศร้าโศก แต่ความงามของดอกไม้กับชโลมใจของผู้มาเยือนได้อย่างน่าตกตะลึงกระถางดอกฮิกันบานะหรือพลับพลึงสีแดง

  • พันธะร้ายดีไซน์รัก    บทที่ 158

    "ทั้งสองเป็นคู่ที่เหมาะสมกันที่สุด" คำพูดของคิงทำให้ฉันยิ้มกว้างออกมา มือของฮาเซลเอื้อมมากุมมือฉันไว้"แน่อยู่แล้วค่ะ ฮาเซลเขาเฝ้าของเขามาตั้งแต่เด็ก" ฉันรู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาเมื่อได้ยินสิ่งที่ควีนพูดแต่ก่อนที่จะได้คำแซวมากกว่านี้ อาหารก็ถูกยกมาเสิร์ฟ เมื่ออาหารถูกวางลงตรงหน้าฉันก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นเ

  • พันธะร้ายดีไซน์รัก    บทที่ 157

    "จะไปตายไหนก็ไป" พูดจบก็เดินตรงไปทางลิฟต์ทันที โดยคนโดนไล่ก็ยังไม่สำนึก เพราะเขารู้ดีว่าเรื่องแค่นี้ไม่สามารถทำให้มาร์ชินโกรธได้ก็แค่โดนด่าปกติแบบทุก ๆ วัน"ขอบคุณครับบอส" (เคท)"ฮัลโหล ๆ หมุนหน่อย~" เฮเลนพูดใส่โทรศัพท์เมื่อได้ยินคำสั่งของผู้เป็นนาย ชิงช้าขนาดใหญ่กลางสวนสนุกก็เริ่มทำงาน ร่างของหญิ

  • พันธะร้ายดีไซน์รัก    บทที่ 156

    (มาร์ชิน)(หลังจากที่โทมัสให้ของขวัญกับเคท)คอนโดใจกลางเมืองติ้ง!ตึก ตึก ตึก !เสียงฝีเท้าดังไปตามทางเดินตรงยังห้องพักของตัวเอง ร่างสูงกำกุญแจรถในมือแน่น ตอนนี้เขาคิดอยู่อย่างเดียวคือต้องออกไปเมืองนี้ให้เร็วที่สุดแม้ในใจจะอยากย้อนเวลากลับไปแก้ไขสิ่งที่ตัวเองทำผิดพลาด แต่เงินจำนวนมหาศาลที่ไม่ว่ายั

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status