“พักสักหน่อยนะ” เขาหยุดการจูบเอาไว้เพียงแค่นั้น ธมกรโอบกอดหญิงสาวจนเธอเหนื่อยอ่อนและหลับลึกไปในห้วงนิทรา พอรู้ตัวอีกทีก็ตื่นขึ้นมาในเวลาเช้าของวันใหม่
“กริ่ง!” เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นหลังจากตีรณาอาบน้ำเสร็จ เธอก็กดรับสายของไลลาทันที
“ว่ายังไงไลลา”
“คุณนาขา คุณนาต้องมาที่บริษัทด่วนนะคะ คือว่าที่ปรึกษา เอ่อ พ่อของคุณนากำลังจะย้ายของของคุณนาออกจากห้องทำงานค่ะ” น้ำเสียงของไลลาฟังดูร้อนรนจนตีรณารีบกดตัดสายและเดินเข้าไปในห้องเสื้อผ้า เธอแต่งตัวออกมาด้วยท่าทางรีบเร่ง จนธมกรที่กำลังจะเดินเข้ามาเรียกเธอไปทานอาหารเช้าก็ขมวดคิ้วมุ่น
“มีอะไรเหรอคุณ”
“
ตอนที่ 39อยากจะหย่ากับฉันอยู่ไหม “พักสักหน่อยนะ” เขาหยุดการจูบเอาไว้เพียงแค่นั้น ธมกรโอบกอดหญิงสาวจนเธอเหนื่อยอ่อนและหลับลึกไปในห้วงนิทรา พอรู้ตัวอีกทีก็ตื่นขึ้นมาในเวลาเช้าของวันใหม่“กริ่ง!” เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นหลังจากตีรณาอาบน้ำเสร็จ เธอก็กดรับสายของไลลาทันที“ว่ายังไงไลลา” “คุณนาขา คุณนาต้องมาที่บริษัทด่วนนะคะ คือว่าที่ปรึกษา เอ่อ พ่อของคุณนากำลังจะย้ายของของคุณนาออกจากห้องทำงานค่ะ” น้ำเสียงของไลลาฟังดูร้อนรนจนตีรณารีบกดตัดสายและเดินเข้าไปในห้องเสื้อผ้า เธอแต่งตัวออกมาด้วยท่าทางรีบเร่ง จนธมกรที่กำลังจะเดินเข้ามาเรียกเธอไปทานอาหารเช้าก็ขมวดคิ้วมุ่น “มีอะไรเหรอคุณ” “
ตอนที่ 38 ตัดขาด “แล้วหลานคิดว่าหลานยังอยากจะหย่ากับเธออยู่ไหม” ธมกรนิ่งไปสักพัก เขาคิดทบทวนเรื่องต่าง ๆ และแล้วชายหนุ่มก็ส่ายหน้าไปมา “ไม่ครับคุณย่าตอนนี้ผมไม่ได้อยากที่จะหย่ากับเธอ เราสองคนหันหน้าคุยกันแล้วก็ตกลงกันว่าจะมีลูกและตอนนี้เราก็กำลังทำอยู่ครับ”“แล้วหลานจะอยู่กับคนที่หลานไม่ได้รักได้เหรอ”“แล้วทำไมคุณย่าไม่คิดก่อนที่จะจับพวกเราแต่งงานล่ะครับ” คำพูดของธมกรทำให้ผู้เป็นย่าสะอึกขึ้นมาทันทีจริงอย่างที่หลานเธอว่า เธอควรที่จะคิดให้รอบคอบเสียก่อนไม่ใช่คิดแค่จะรักษาสัญญากับเพื่อนสนิทของเธอ เธอควรที่จะนึกถึงจิตใจของเด็กทั้งสองว่าการถูกผูกมัดไปชั่วชีวิตโดยที่ไม่ได้รักกันมันคงจะทรมานไม่น้อยและตอนนี้เธอก็รับรู้ถึงผลที่กำลังจะตามมาว่าเธอได้ทำร้ายชีวิตของทั้งสองให้อยู่ในกับดักที่เธอและเพื่อนรักของเธอได้สร้างขึ้น
ตอนที่ 37ปีกกล้าขาแข็งจิตรวิตรีหันมองหน้าหลานสาวที่บัดนี้เธอทั้งร้องไห้ฟูมฟายน้ำตาอาบแก้มจนแทบจะไม่เหลือคราบผู้บริหารสาวอีกแล้ว“เอาล่ะ ใจเย็น ๆ ก่อนมานั่งคุยกันดี ๆ”“ใจเย็นไม่ได้แล้วครับคุณแม่ นี่ขนาดโดนตบจนเลือดกบปากยังไม่รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่ยังเถียงข้าง ๆ คู ๆ อีก ถ้าปากเก่งขนาดนี้ แกก็คงอยู่กับฉันไม่ได้แล้วล่ะยัยนา” สิ้นเสียงของคนเป็นพ่อทำให้ตีรณาเบิกตากว้าง นี่หมายความว่ายังไงพ่อของเธอจะไม่ให้เธออยู่ในตระกูลงั้นเหรอ“คุณพ่อหมายความว่ายังไง”“ต่อไปแกก็ไม่ได้ต้องมาเป็นรองประธานบริษัทอีกแล้ว ฉันจะให้ก้องภพขึ้นนั่งตำแหน่งแทนแก ส่วนแกอยากจะไปไหนก็ไป” ตีรณายิ้มออกมาอย่างขมขื่นพร้อมน้ำตาอาบแก้ม ไม่นึกเลยว่าสิ่งที่ตัวเองเพียรพย่าามมาอยู่หลายต่อหลายปีทำตามคำสั่งของพ่อกับย่าไม่เคยขาดทำทุกอย่างเพื่อที่จะให้พวกท่านรัก แต่นี่มันเกิดอะไรขึ้นสิ่งที่เธอทำมาทุกอย่างมันสูญเปล่างั้นเหรอ
ตอนที่ 36เล่นลิ้น “เห็นไหมครับคุณแม่ยัยนาเนี่ยยิ่งโตยิ่งเป็นเด็กเลี้ยงแกะ โกหกได้ทุกเรื่อง” ผู้เป็นพ่อพูดขึ้นพร้อมจ้องมองผู้เป็นลูกสาวเหมือนกับจะกินเลือดกินเนื้อเหมือนเธอไม่ใช่ลูกสาวของเขาแต่กลับเป็นศัตรูต่างหาก มันคงจะเป็นอย่างนั้น เมื่อลูกสาวได้ครองตำแหน่งรองประธานบริษัททั้งกุมอำนาจการเงินทั้งหมดอยู่ในมือ ส่วนเขาไร้ความสามารถจนถูกลูกสาวแย่งตำแหน่ง “ใช่ค่ะ นาไม่ได้บินไปหาคุณกรแต่ก็ไม่ได้หมายความว่านาไม่ได้ทำตามคำสั่งที่คุณย่าให้ทำนี่คะ คุณย่าอยากได้เหลนนาก็กำลังทำอยู่นี่ไงคะ” “โกหกให้มันน้อย ๆ เถอะนะพี่นะ”“แกหุบปากไปเลยไอ้ภพ” ตีรณาหันไปว่าก้องภพเพราะเธอนั้นหมดความอดทนแล้วจริง ๆ“ว้าย! ตายแล้วทำไมลูกนาถึงเรียกน้องว่าไอล่ะคะ” กนกขวัญยกมือกุมหน้าอกด้วยแ
ตอนที่ 35 ผมไปรู้ความลับมา “ตอนแรกผมก็สูบบุหรี่อยู่ดี ๆ นะครับ แต่พอผมได้ยินเสียงประตูดาดฟ้าเปิดขึ้น ผมก็เลยหันไปมองเจอกับพี่กร พอผมกำลังจะเดินเข้าไปทักแต่ก็เห็นพี่นาเดินตามมาพอดี คุณย่ารู้ไหมครับพี่กรพูดว่าอะไร”“พูดว่าอะไร”“พี่กรบอกว่าพี่กรอยากจะหย่า” สิ้นคำของก้องภพ จิตรวิตรีนั้นใบหน้าบึ้งตึงขึ้นมาทันที เธอจ้องมองสายตาของผู้เป็นหลานชายที่นั่งอยู่ไม่ห่างและส่งยิ้มมาให้เธอ “หลานมั่นใจนะว่าหลานได้ยินแบบนั้นจริง ๆ” “เต็มสองหูเลยครับคุณย่า” ก้องภพยืนขึ้นแล้วทำหน้าเหนื่อยหน่ายใจแทนผู้เป็นย่า“ผมเล่าทุกเรื่องที่รู้ให้คุณย่าฟังหมดแล้วก็แล้วแต่คุณย่าจะตัดสินเลยนะครับว่าผมใส่ร้ายพี่นาหรือเปล่า แต่ถ้าคุณย่าไม่เชื่อผม คุณย่าลองเรียกพี่นามาถามดูสิคร
ตอนที่ 34ปั๊มทายาท “ติ๊ง!” เสียงข้อความดังขึ้นแต่ทั้งสองยังนอนอยู่ใต้ผ้าห่ม “ใครโทรมาคะ” เสียงหวานถามขึ้นด้วยความงัวเงีย “ไม่มีใครโทรมาหรอกข้อความน่ะ” มือหนาเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ของตัวเองที่อยู่ข้างหัวเตียงพร้อมยันศอกนั่งมองดูข้อความที่ผู้เป็นบิดาส่งมา “มีอะไรหรือเปล่าคะ”“พ่อผมบอกว่าให้เราไปทานข้าวกับพวกท่านน่ะ”“ว่ายังไงนะคะ” “เห็นว่าคุณย่าอยากจะเจอคุณกับผม” “มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ”