ซ่งหยุนหยุนนิ่งและไม่โต้ตอบ เธอเงยหน้าขึ้นแล้วมองเขาครู่หนึ่ง ก่อนจะรู้ว่าตัวว่าเขาหมายถึงอะไร แต่ไม่มีการตอบสนองใด ๆ ผู้ชายคนนี้คงพูดอะไรบางอย่างเพื่อทำให้เธอขายหน้าอีก เธอก้มหน้าลงแล้วตักข้าวคำใหญ่เข้าปาก เพื่อหวังว่าจะกินให้เสร็จเร็ว ๆ เจียงเหยาจิงขมวดคิ้วเมื่อเผชิญกับความเงียบของเธอ “ทำไมต้องกินเร็วขนาดนั้น? ไม่มีใครแย่งคุณหรอก” เขารู้สึกแปลกใจ เมื่อเห็นภาพเธอกินข้าวแบบไม่ห่วงภาพลักษณ์ เขาไม่ได้รู้สึกว่าเธอไม่มีมารยาท แต่กลับรู้สึกว่าน่ารักด้วยซ้ำ มันดูเป็นธรรมชาติมากกว่าผู้หญิงที่ชอบอวดและเสแสร้งเสียอีก ซ่งหยุนหยุนกลืมคำสุดท้ายเสร็จ พลันดื่มน้ำสองแก้วแล้วตอบกลับ “ฉันจะกินเร็วหรือช้า มันก็เรื่องของฉัน คุณจะมาสนใจทำไม?!” อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เธอตกงานเพราะเขา และไม่มีอะไรที่จะต้องกลัวถูกเขาคุกคามอีก ให้มันแตกกันไปเลย! เจียงเหยาจิงค่อย ๆ ยกเปลือกตาขึ้นช้า ๆ พร้อมเผยแววตาเย็นชาที่อยู่ระหว่างคิ้ว “คุณอยากตายนักเหรอไง?” เธอใจกล้าบ้าบิ่นขนาดนั้นเลย? พูดสวนกลับแบบนั้นเลย? ไม่อยากทำงานแล้ว? ซ่งหยุนหยุนมองเขาด้วยสายตาเย็นชา “ฉันรนหาที่ตาย ถ้าคุณฆ่าฉันได้โดยการใช
“คุณอย่าแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องหน่อยเลย กล้าทำก็กล้ารับหน่อยสิ? คุณผิดหวังที่ฉันโดนผู้ชายคนนี้ขืนใจไม่สำเร็จใช่ไหมล่ะ?” เธอกัดฟันกรอดเพื่อระงับอารมณ์ เจียงเหยาจิงสลัดเธอออก “ผมไม่ได้ทำ!” เธอถูกดหวี่ยงอย่างแรงจนเกือบล้ม แต่ดีที่ป้าหวู่รับไว้ทันไว้ “คุณเป็นเมียของผม ตราบใดที่คุณยังมีชีวิตอยู่ ผมจะไม่ยอมให้ผู้ชายคนอื่นมาทำให้คุณด่างพร้อย และผมจะไม่ยอมให้คุณสวมเขาผมอีก!” สีหน้าของเขาบูดบึ้ง “มันเป็นใคร?” ซ่งหยุนหยุนมองเจียงเหยาจิง ตามอุปนิสัยของเขาแล้ว เขาน่าจะเป็นคนทำ จึงไม่จำเป็นต้องปฏิเสธถึงจะถูก นิสัยหยิ่งผยองขนาดนั้นไม่น่าจะเป็นคนที่ปอดแหก?! “พูดสิ มันเป็นใคร?” เจียงเหยาจิงโกรธมาก เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงโกรธมากขนาดนี้ พอรู้ว่าเธอเกือบโดนกระทำแบบนั้น! “คนเมื่อครั้งที่แล้ว...” ก่อนที่ซ่งหยุนหยุนจะพูดจบ เจียงเหยาจิงก็รู้ทันทีว่าเป็นใคร ตอนที่เขาออกมาจากหลานเฉียว เขาเจอกู้ฮ่วย เขาจึงเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทันที! ไม่ว่าก่อนเกิดพายุท้องฟ้าจะมืดครึ้มแค่ไหน แต่สีหน้าของเขายิ่งกว่า เขาเดินออกไปโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ราวกับว่าต้องการเผชิญหน้ากับคนที่ลดค่าซ่ง
กู้ฮ่วยพยักหน้ายอมรับว่าซ่งหยุนหยุนกระตุ้นความสนใจของเขาจริง ๆ เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าชอบซ่งหยุนหยุนตรงไหน บางทีอาจเป็นเพราะเหตุการณ์มันวุ่นวายจึงเข้าไม่ถึง? กล่าวโดยสรุป เขามีประทับใจผู้หญิงที่ทำร้ายเขาครั้งแล้วครั้งเล่า! เจียงเหยาจิงรู้ว่ากู้ฮ่วยยังไม่ได้ล่วงเกินซ่งหยุนหยุน ความโกรธจึงลดลง แต่เมื่อรู้ว่าเขาชอบซ่งหยุนหยุน ความโกรธกลับพุ่งขึ้นอีกครั้ง แย่ยิ่งกว่าเมื่อครู่นี้อีก! “คุณชอบอะไรในตัวเธอ?” เจียงหยาจิงดูไม่ออกจริง ๆ ว่าผู้หญิงคนนั้นมีดีอะไร อะไรในตัวเธอที่ทำให้คนอื่นชอบ? จะมีอะไรอีกนอกจากใจง่าย? “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ผมแค่อยากได้” กู้ฮ่วยพูดโดยไม่ต้องคิด เจียงเหยาจิงขมวดคิ้ว เขารู้สึกเหมือนของของเขาถูกคนอื่นแย่งไป “อยู่ให้ห่างจากเธอซะ!” เสียงกล่าวเตือน กู้ฮ่วยสับสนว่าเกิดอะไรขึ้น? เขากระซิบถาม “คุณเจียง คุณสนใจเธอด้วยหรือเปล่า?” ฮั่วซุนที่กำลังยืนอยู่ข้างหลังก็หันมองไปมองเจียงเหยาจิงด้วย ดูเหมือนพฤติกรรมของเขาจะแปลก ๆ เขาคิดอย่างไรกับซ่งหยุนหยุน? เจียงเหยาจิงตกคอกเสียงจริงจัง “ผมจะไปสนใจผู้หญิงแบบนั้นได้ยังไง?” กู้ฮ่วยเม้มปาก “ทุกคนมีค
เจียงเหยาจิงมองร่างโค้งเว้าของเธอ...สายตาของเขาลึกซึ้งควบคุมไม่ได้ รูม่านตาของเขาสั่นเล็กน้อย ลูกกระเดือกกลิ้งขึ้นลง เขาพยายามควบคุมน้ำเสียง “คุณคิดว่าทำแบบนี้แล้วจะอ่อยผมสำเร็จเหรอ?”จริง ๆ แล้วเขาโดนอ่อยสำเร็จ เขาแน่วแน่กับตัวเองว่าจะไม่คิดอะไรกับผู้หญิงคนนี้ “ฉัน ฉัน ฉันไม่ได้...” ซ่งหยุนหยุนดึงผ้าขนหนูขึ้นมาคลุมตัว “อย่าให้ผมเห็นร่างสกปรกของคุณอีก” พูดจบเขาก็ปิดประตูแล้วเดินออกไป เขารีบเดินไปห้องข้าง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับซ่งหยุนหยุน แต่ร่างกายที่น่าหลงไหลของซ่งหยุนหยุนยังติดตรึงอยู่ในหัวของเขา ราวกับภาพยนตร์ที่เล่นฉากสุดยอดซ้ำแล้วซ้ำอีก เขาไม่สามารถควบคุมสมองตัวเองได้ เขาดึงคอเสื้ออย่างแรง ทั้ง ๆ ที่เห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้รัดคอ แต่เขากลับรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก! ความรู้สึกหงุดหงิดกระสับกระส่ายทำให้เขาโกรธ จึงด่าเบา ๆ “ผู้หญิงบ้า!” เธอมีฝีมืออ่อยผู้ชายจริง ๆ! สิ่งที่ทำให้เขาโกรธก็คือ เขาตกหลุมพรางของเธอเข้าแล้ว! เขาดึงเนกไทออกและปลดกระดุมเสื้อขณะเดินเข้าไปในห้องน้ำ และพยายามสงบสติอารมณ์ด้วยน้ำเย็น นี่เป็นสิ่งที่น่าอับอายที่สุดสำหรับเจียงเหยาจิง เป็น
ซ่งหยุนหยุนตอบ “...ไม่มีค่ะ” เธอกับเจียงเหยาจิงเป็นแค่คู่รักกันในนามเท่านั้น อย่างนั้นก็ถือว่าเธอยังไม่มีแฟน? ครูหลี่ยิ้มพลางเข้ามาจับแขนของซ่งหยุนหยุนอย่างสนิทสนมแล้วพูดว่า “ฉันมีบางเรื่องที่อยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณค่ะ” ครูหลี่เป็นคนดี เขาดูแลเธออย่างดีในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานับตั้งแต่เธอเริ่มทำงาน ตอนนี้เธอมีความสนิทสนมมากขึ้น ทำให้ซ่งหยุนหยุนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เธอค่อย ๆ ยื่นแขนออกมาแล้วพูด “คุณมีอะไรให้ฉันช่วยคะ บอกมาได้เลยค่ะ ถ้าฉันทำได้ ฉันก็จะช่วยเต็มที่ ถ้าฉันทำไม่ได้...ฉันก็คงทำได้แค่ขอโทษเท่านั้นค่ะ” ครูหลี่ลังเลและพูดว่า “สามีของฉันเป็นประธานเภสัชกรรมรุ่ยคัง เขามีทีมที่พัฒนายาต้านมะเร็ง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้ลงทุนไปเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ก็มีความคืบหน้าอยู่บ้าง แต่ยังขาดเงินทุน เขาแค่อยากหาเงินลงทุน แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่อยากลงทุน ตอนนี้มีคนยอมลงทุนด้วย แต่ครั้งล่าสุดที่นัดเจอกันเขากลับไม่มา สามีฉันจึงคิดว่าอีกฝ่ายคงอยากถอนตัว อีกฝ่ายยังโสด แถมหน่วยก้านดี...” “เอ่อ...” ซ่งหยุนหยุนพูดแทรก “ฉันไม่ค่อยเข้าใจค่ะ” เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับเธอ? เธอไม่มีเงินลงทุน
ทันทีที่ร่างอันสง่าของเจียงเหยาจิงก้าวเข้าไปในห้อง ซ่งหยุนหยุนก็ตกตะลึงร่างกายแข็งทื่อไปหมด หวางเหยาชิงยืนขึ้นและทักทายด้วยความเคารพ “คุณเจียง” สายตาของเจียงเหยาจิงมองข้ามใบหน้าของหวางเหยาชิงไปหยุดอยู่ที่ซ่งหยุนหยุน ปกติเธอจะมีใบหน้าที่เรียบง่ายธรรมดา เธอไม่เคยแต่งหน้าเลยตั้งแต่เจอเธอมา การแต่งกายประจำวันของเธอก็ค่อนข้างมิดชิด เขาไม่เคยเห็นเธอสวมสายเดี่ยวเลยแม้แต่น้อย ชุดสีแดงสดทำให้ผิวของเธอดูขาวอมชมพู หวางเหยาชิงสังเกตเห็นว่าซ่งหยุนหยุนนั่งนิ่ง เขาจึงยื่นมือออกไปดึงเธอ “รีบลุกขึ้นทักทายสิครับ นี่คือคุณเจียง” อย่างไรก็ตาม ทันทีที่มือของหวางเหยาชิงสัมผัสกับแขนของซ่งหยุนหยุด สีหน้าของเจียงเหยาจิงพลันมืดครึ้ม ถ้าเขาไม่มีสติ เขาคงรีบวิ่งไปลากซ่งหยุนหยุนออกมา ซ่งหยุนหยุนลุกขึ้นยืน กระโปรงยาวเข้ารูปเผยให้เห็นรูปร่างโค้งเว้าของเธอชัดเจน ดูมีเสน่ห์ขึ้นทันที เจียงเหยาจิงสะบัดขนตา และประกายจากส่วนลึกของดวงตาพลันหายไปทันที ซ่งหยุนหยุนรู้สึกประหม่า ใครจะไปคิดว่าคนที่ต้องเจอคือเจียงเหยาจิง ถ้าเธอรู้ เธอคงไม่มีวันตอบตกลง เธอพูดตะกุกตะกัก “คุณเจียง...” หวางเหยาชิงยิ้มพลางแ
เขาไม่ได้กลับไปที่คฤหาสถ์ในช่วงเวลานี้ เพราะเขาไม่อยากให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีกคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้ก็ยังเข้ามาอยู่ในความคิดของเขา ยังเหมือนเดิม! เมื่อเห็นเธอแต่งตัวเย้ายวนเอาใจผู้ชาย เขาก็อยากบีบคอเธอให้ตาย ถ้าไม่ใช่เขาที่มาวันนี้ เธอจะอวดเสน่ห์ต่อหน้าต่อตาผู้ชายคนอื่นด้วยหรือเปล่า? ยิ่งเขาคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไร เขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้น ความโกรธไม่สามารถควบคุมได้ มันพุ่งตรงเข้าสู่สมองของเขา ทำให้เขาขาดสติ คิดแค่อยากครอบครองผู้หญิงคนนี้! การเคลื่อนไหวเร็วมากจนซ่งหยุนหยุนไม่สังเกตเห็นเจตนาของเขาเลย เมื่อถึงเวลาที่เธอตอบสนอง ริมฝีปากอันอ่อนนุ่มของเธอก็ถูกปิดไว้แล้ว “อืม” เธอพยายามดิ้น แต่ทันทีที่ขยับมือ เขาก็คว้าและตรึงไว้เหนือหัว ยึดแน่นที่พนักเก้าอี้ เจียงเหยาจิงโหดร้ายและรุนแรง ไม่มีแม้แต่ความอ่อนโยน มันเหมือนเป็นการลงโทษมากกว่า! ริมฝีปากของเธอนุ่มและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มันรู้สึกคุ้นมาก เขามีความโลภมากขึ้นเรื่อย ๆ เจ็บ ซ่งหยุนหยุนตัวสั่นไปทั้งตัว รู้สึกเพียงความเจ็บปวด ทนไม่ไหวก็ทำได้แค่ฝืนทนเท่านั้น ไม่กี่นาทีต่อมา เจียงเหยาจิงก็กลับมามีสติ เขาค่อ
ซ่งอวิ้นอวิ้นจะติดต่อสัมพันธ์กับเจียงเย่าจิ่งได้อย่างไรกัน? เมื่อสักครู่นี้ เธอได้ยินเจียงเย่าจิ่งเอ่ยถึงเรื่องหย่า เกิดเรื่องบ้าบออะไรขึ้นกันแน่? เธอขยับเข้ามาใกล้และพยายามหาคำตอบจากบทสนทนาของพวกเขา! ซ่งอวิ้นอวิ้นที่กำลังนั่งอยู่ในรถพลันสิ้นไร้เรี่ยวแรง เธอก้มหน้าลงด้วยความสิ้นหวัง ราวกับเหนื่อยใจเกินกว่าจะกล่าว! นี่เป็นการตัดสินใจที่ยากเย็นที่สุดสำหรับเธอเลยก็ว่าได้ ถ้าเธอจากไป ก็จะเป็นการทำลายความเชื่อใจที่นายท่านเจียงมีให้ ถ้าไม่ใช่เพราะนายท่านเจียงแล้วล่ะก็ จนป่านนี้แม่ของเธอก็น่าจะยังไม่ได้เข้ารับการผ่าตัดหรอก! เรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นบุญคุณสำหรับเธอ ถ้าหากเธอจากไปเช่นนี้ จะดูเนรคุณหรือเปล่า!? เธอรู้สึกหนักใจ "คุณ..." เธอก็พลันเงยหน้าขึ้น "คุณอยากจะหย่ากับฉันไม่ใช่หรือไง? ฉันยอมหย่าให้แล้ว แต่ทำไมจู่ ๆ คุณก็ไม่ยอมเสียอย่างนั้นล่ะ? หรือว่าคุณจะหลงรักฉันเข้าแล้ว?" สีหน้าของเจียงเย่าจิ่งฉายแววลังเลใจขึ้นมา จากนั้นเขาก็ยิ้มเยาะ "ฉันไม่หย่ากับเธอหรอก แต่ฉันจะเก็บเธอไว้ข้างกายแล้วทรมานเธอเล่น ๆ! อย่างเธอน่ะเหรอ? ฝันไปเถอะ!" ซ่งอวิ้นอวิ้นขบริมฝีปาก ผู้ชายคนนี้เ