ดวงดารามาถึงคอนโดสุดหรูราคาห้องละสิบเจ็ดล้านของเมญ่าก่อนเวลาที่เจ้าของห้องบอกสิบนาที ห้องชุดห้องนี้ถือว่าใหญ่มากและเป็นแบบสองชั้น อยู่ในย่านเศรษฐกิจที่ไปมาสะดวก มีรถไฟฟ้าผ่าน มีห้างร้านเดินช็อปปิ้งและร้านอาหารหรู
ครั้งแรกที่ดวงดารามาที่ห้องชุดแห่งนี้ หล่อนไม่ได้ตื่นเต้นกับห้องชุดของเมญ่าเลยสักนิด ตอนไปเรียนต่อที่ประเทศฝรั่งเศส ห้องพักของดวงดาราหรูและแพงกว่านี้ ห้องนี้ถือว่าธรรมดาสำหรับหล่อนมาก
พอมาถึงห้องชุด ดวงดาราเริ่มทำหน้าที่ของตน หล่อนทำความสะอาดห้องเพียงแค่ปัดกวาดเล็กน้อย เนื่องจากจะมีแม่บ้านที่คอนโดเข้ามาทำความสะอาดห้องอาทิตย์ละสองครั้ง หล่อนจะทำเพียงแค่ในห้องนอนของเมญ่าเท่านั้น ซึ่งตอนนี้เจ้าของห้องยังไม่ตื่น หล่อนจึงนำเสื้อผ้าของดาราชื่อดังที่ทางร้านซักรีดของคอนโดนำมาส่งไปแขวนใส่ตู้เสื้อผ้าที่อยู่ในห้องแต่งตัว ซึ่งเชื่อมต่อกับห้องนอน
ขณะที่กำลังแขวนเสื้อผ้าใส่ตู้ หูดวงดาราได้ยินเสียงคุยกันในห้องนอน เสียงหนึ่งเป็นเสียงเมญ่า แต่อีกเสียงเป็นเสียงผู้ชายที่ฟังแล้วไม่ใช่พี่โก้ และที่สำคัญทั้งสองสนทนาด้วยภาษาสากล ทำให้หล่อนรู้ทันทีว่า เมื่อคืนนี้มีคนมานอนร่วมเตียงกับเมญ่า ซึ่งมันไม่ใช่ครั้งแรก และดวงดาราก็ไม่สนใจด้วย หล่อนคิดเสมอว่า ชีวิตใครชีวิตมัน ความสุขของคนเราไม่เหมือนกัน เมื่อไม่สนใจ ดวงดาราเก็บเสื้อผ้าใส่ตู้เสร็จจึงเดินลงมาชั้นล่าง เพื่อเตรียมกาแฟและอาหารมื้อแรกให้เมญ่า
ขณะที่คนที่อยู่ในห้องนอน คนหนึ่งคือเจ้าของห้องที่กึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียง ส่วนอีกคนเป็นบุรุษรูปงามที่เพียบพร้อมไปทุกอย่าง ไม่ว่าจะหน้าตาที่หล่อดุจดังเทพบุตรจากสวรรค์จุติลงมาเกิดในเมืองมนุษย์ นัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลคือเสน่ห์อันเย้ายวนจิตใจสาวๆ ริมฝีปากบางได้รูปจะยิ่งทำให้ใบหน้าเขาเป็นจุดสนใจมากขึ้นยามคลี่ยิ้ม ทว่าเขากลับหวงรอยยิ้ม จนได้รับฉายาว่า เสือยิ้มยาก เขาจึงเป็นที่หมายปองของสาวสวยทั้งในและต่างประเทศ แต่ไม่มีหญิงสาวคนใดมัดหัวใจเขาได้สักคน ด้านการศึกษาเขาจบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศอังกฤษ ฐานะทางการเงินร่ำรวยถึงขั้นมหาเศรษฐีและทางสังคมที่โดดเด่นไม่แพ้กัน เขาลุกขึ้นจากเตียง ไม่สนใจจะปกปิดร่างกายด้วยผ้าขนหนูหรือเสือคลุม ลุกเดินเปลือยกายไปยังห้องน้ำ
“คุณจะกลับโรงแรมหรือคะ ไม่อยู่ต่อที่นี่ล่ะ สะดวกสบายไม่แพ้โรงแรมนะคะ”
เมญ่าถามเอเดน ออซซินี่ เดอมาชีหรือนิคเนมว่า เอ็ดที่เอื้อมมือไปหยิบผ้าขนหนูที่พาดอยู่บนเก้าอี้มาสวมปิดท่อนล่าง
“ใช่ ฉันจะกลับโรงแรม ฉันมีลูกน้องมาด้วย อยู่ที่นี่ไม่สะดวก”
เอเดนตอบเสียงเย็นชา อยากจะตอบไปว่า ที่นี่ไม่มีอะไรดึงดูดให้เขาอยู่ แม้ว่าลีลาสวาทของเมญ่าจะร้อนแรง รับเขาได้ทุกกระบวนท่า ตอบสนองเขาได้ถึงอกถึงใจ แต่มีอยู่อย่างที่เมญ่าขาดไปคือ เสน่ห์
“งั้นเมญ่าไปหาคุณที่โรงแรมนะคะ ไปในฐานะผู้ร่วมทุน เราจะได้รู้จักกันมากขึ้นไงคะ”
เอเดนปรายตามองเมญ่า ลูกสาวศรุต นักธุรกิจที่เขาร่วมลงทุนเทคโอเวอร์โรงแรมห้าดาวบนถนนสุขุมวิท เนรมิตให้ยิ่งใหญ่และหรูหรา รวมทั้งยังร่วมทุนกันสร้างเรือสำราญขนาดใหญ่จุผู้โดยสารและลูกเรือได้ร่วมสองพันห้าร้อยคน แม้ว่าจะไม่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของโลก แต่ก็ไม่น้อยหน้าเรือสำราญลำไหน
เหตุผลที่เอเดนยืนอยู่ในห้องนี้ หนึ่งเพราะถูกใจในความสวยของเมญ่าตามประสาผู้ชาย สองคือไม่อยากมีปัญหากับศรุตที่เขารู้จักผ่านทางบิดา เอเดนไม่เคยเจอเมญ่ามาก่อน ทุกครั้งที่คุยธุรกิจ ศรุตจะบินไปหาเขาที่อิตาลี หรือไม่ก็พูดคุยกันทางโทรศัพท์ เอเดนเดินทางมาเมืองไทยด้วยเหตุผลว่า ต้องมาเซ็นสัญญาหลายอย่างที่จะเป็นประโยชน์กับตนและไม่ให้ตนเสียเปรียบใคร ค่ำวานนี้ศรุตกับครอบครัวไปรับเขาที่สนามบิน และนั่นทำให้เอเดนรู้จักเมญ่าอย่างเป็นทางการ
เมญ่าถึงกับตะลึงเมื่อเห็นผู้ร่วมลงทุนของบิดา อาการน่าเบื่อหน่าย ทำหน้าเซ็งตลอดเวลาที่ถูกลากมารับเอเดนหายเป็นปลิดทิ้ง หล่อนยิ้มหวาน ทำตาพราวระยับใส่เอเดน หลังจากศรุตเลี้ยงอาหารค่ำเขาเสร็จ เขากับเมญ่าก็มาสำเริงสวาทกันที่นี่ เมื่อหล่อนเสนอมา เขาก็สนองเหมือนเช่นเคย พอทุกอย่างจบก็คือจบ แต่ดูเหมือนว่า ครั้งนี้จะไม่จบง่ายๆ
“ตามใจ” เอเดนตอบสั้นๆ ก่อนก้าวเท้าเดินเข้าห้องน้ำ เมญ่ายิ้มกว้าง แก้มร้อนผ่าวเมื่อนึกถึงบทรักบทสวาทของเอเดนที่ยังรู้สึกวูบวาบในกาย หลุบตามองที่นอนที่ยับย่นจากกิจกรรมทางเพศดุเดือดเผ็ดมัน จนหล่อนแทบสำลักความสุข แล้วตอนนี้หล่อนก็ติดใจเอเดนเสียแล้ว
หลังจากอาบน้ำใส่เสื้อผ้าเสร็จ เอเดนได้เดินลงมาชั้นล่างของห้องชุด ความตั้งใจของเขาคือไปโรงแรมที่พัก ทว่ากลิ่นหอมของอาหารที่โชยเข้ามาในจมูก ทำความตั้งใจเปลี่ยนฉับพลัน เท้าใหญ่ก้าวเดินตามกลิ่นอาหารที่เรียกน้ำย่อยเขาได้มากทีเดียว
เอเดนเดินตามกลิ่นอาหารมาถึงห้องครัวเล็กๆ ที่จัดวางอย่างลงตัว เขามองร่างสมส่วนที่กำลังทำอาหารอยู่หน้าเตาไฟฟ้า ร่างสูงใหญ่ยืนกอดอกพิงขอบเคาน์เตอร์บาร์ มองดูแม่ครัวกำลังทำอาหารอย่างคล่องแคล่ว เอเดนเป็นคนไม่ชอบทำอาหาร ไม่เคยเข้าครัว และไม่เคยยืนมองดูใครทำอาหารด้วย แต่ไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไมเขาถึงได้ยืนอยู่ตรงนี้ แทนจะเดินออกไปจากห้อง หรืออาจเป็นเพราะกลิ่นอาหารที่ทำให้กระเพาะร้องหิว ก็อาจมีความเป็นไปได้เป็นเพราะตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ ยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง
แม่ครัวจำเป็นใช้ช้อนตักข้ามต้มปลาขึ้นมาชิม เมื่อรสชาติเป็นที่พอใจ ดวงดาราปิดเตาไฟฟ้า ก่อนจะปิดฝาหม้อรอให้เมญ่ากับชายคนนั้นลงมาก็จะนำไปเสิร์ฟให้ทาน จากนั้นก็หมุนตัวตั้งใจจะไปปอกผลไม้ให้เมญ่า ทว่าก็ต้องชะงักเมื่อเห็นชายรูปร่างสูงใหญ่หน้าตาหล่อเหลา ผิวพรรณดี นัยน์ตาเขาเป็นสีน้ำทะเลดูน่าค้นหาและอุดมไปด้วยเสน่ห์ ดวงตาของเขาช่างคุ้นเหลือเกิน เหมือนใครสักคนแต่นึกไม่ออกว่าเหมือนใคร แล้วยังรู้สึกถึงอัตราการเต้นของหัวใจที่ระส่ำผิดปกติ
chapter 7“สวัสดีครับคุณเอเดน ไม่นึกว่าจะได้เจอคุณเอเดนที่นี่”คำทักทายที่แฟรงค์กับเอกอนันต์ได้ยิน บอกให้รู้ว่า นิพนธ์รู้จักชายแปลกหน้าคนนี้“ผมพักที่นี่ครับ” เอเดนทักกลับ สีหน้าสงสัยเพราะนึกไม่ออกว่าเคยเจอคนทักตอนไหน เมื่อไหร่ “คุณคือ...”“ผมนิพนธ์ไงครับ ผมกับคุณเคยคุยกันผ่านการประชุมทางไลน์เมื่อเดือนก่อน โปรเจคโรงแรมริเวอร์สกายในจังหวัดภูเก็ตไงครับ บริษัทของคุณให้บริษัทของผมออกแบบภายในให้ วันนี้ผมเอางานมาเสนอให้คุณโอลิเวอร์ครับ” นิพนธ์ทวนความทรงจำให้เอเดน“อ๋อครับ จำได้แล้วครับ ขอโทษด้วยที่จำคุณไม่ได้” เอเดนกล่าวคำขอโทษพรอ้มรอยยิ้มบาง“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจครับ” นิพนธ์ตอบกลับ “แล้วไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นครับ”“ไม่มีอะไรครับ ผมเดินไม่ระวังเองเลยชนไทเกอร์ครับ” เอเดนเอ่ยยอมรับผิด เขาไม่โทษเด็ก เพราะเด็กก็คือเด็ก เขาเป็นผู้ใหญ่ต้องมีความระวังมากกว่า“ผมจะแนะนำให้คุณเอเดนรู้จักกับแฟรงค์ ผู้ช่วยผมเองครับ แฟรงค์เป็นคนออกแบบโปรเจคนี้ครับแล้วก็เป็นพ่อของเด็กสองแฝดครับ แฟรงค์ คุณเอเดน เจ้าของหุ้นส่วนใหญ่โรงแรมรีเวอร์สกาย”นิพนธ์แนะนำตัวแฟรงค์กับเอเดนรู้จักกัน ทั้งสองจับมือกันตามธรรมเนียมฝรั่ง
chapter 6แฟรงค์กับเอกอนันต์มารับเตชินท์และเตมีย์ สองแฝดวัยกำลังซนที่โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งใกล้บ้าน ทั้งคู่มีแผนพาสองแฝดไปกินไก่เคเอฟซี แล้วจึงไปร้านหนังสือเพื่อซื้อหนังสือภาษาอังกฤษและหนังสือเสริมทักษะให้สองพี่น้อง ทว่าแฟรงค์ต้องไปหาเจ้านายที่ตอนนี้อยู่โรงแรมแกรนด์มาร์ค โรงแรมชื่อดังบนถนนสุขุมวิท เพื่อนำโปรเจคงานไปให้ เนื่องจากนิพนธ์ทำมือถือตก ส่งผลให้ไม่สามารถโหลดงานในอีเมลได้ นิพนธ์จึงใช้โทรศัพท์ของโรงแรมโทรหาตน เพื่อให้โหลดงานในอีเมลของเขาแทน หากนิพนธ์โหลดงานใส่แฟลช-ไดรฟ์ เรื่องคงไม่ยุ่งจนต้องไว้วานแฟรงค์ “เอกรอแฟรงค์ที่ล็อบบี้นะ แฟรงค์เอางานไปให้พี่แมนก่อน” “อืม ตามสบายเลย” เอกอนันต์เข้าใจงานของแฟรงค์“พ่อแฟรงค์ไปไหนฮะลุงเอก” เตชินท์ถาม“ไปทำงานครับ หาเงินมาให้เสือกับสิงห์กินขนมและได้เรียนหนังสือไงครับ” เอกอนันต์ตอบ “เสือกับสิงห์อย่าซนนะลูก เดี๋ยวพวกลุงๆ ป้าๆ จะดุเอา”“ฮะลุงเอก”สองแฝดขานรับพร้อมกัน นั่งเล่นบนโซฟา ความที่อยู่ในวัยซน การนั่งเฉยๆ ระหว่างรอนานเกินสิบนาทีเป็นเรื่องที่ยาก เตชินท์กับเตมีย์เริ่มลุกขึ้นยืน โดยยืนเล่นตรงนั้นก่อน แล้วค่อยๆ ขยับมาเล
chapter 5เอเดนมองหน้าแม่ครัวสาวที่จัดว่าสวย แต่เป็นความสวยในระดับล่าง เพราะส่วนใหญ่ผู้หญิงที่เขาพบเจอจะเป็นความสวย ความงดงามระดับพรีเมี่ยม ไม่ดารา นักแสดงก็นางแบบ หรือไม่ก็นางงาม หรือถ้าไม่ใช่อาชีพที่กล่าวมา ความสวยก็จะมีมากกว่าหญิงสาวตรงหน้าที่ไม่มีความโดดเด่นอะไรมากนัก แต่ทำไมถึงชวนมองมากกว่าหญิงสาวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเขาก็ไม่รู้ โดยเฉพาะเวลานี้ หล่อนกำลังส่งยิ้มให้เขา ช่างเป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสดใส ความสวยระดับล่างยกระดับขึ้นมาทันใด“เมญ่าล่ะคะ” ดวงดาราทักชายแปลกหน้าด้วยภาษาสากล จากรูปลักษณ์ภายนอกบอกให้หล่อนรู้ว่า เขาไม่ใช่คนไทย“อาบน้ำอยู่มั้ง” เอเดนตอบ ก่อนถามกลับ “สำเนียงใช้ได้นี่ เมญ่าสอนเหรอ”ดวงดาราไม่ตอบ แต่ส่งยิ้มให้“คุณจะรับกาแฟไหมคะ”“กลิ่นอาหารที่เธอทำหอมดี มันเรียกว่าอะไร” เขาถามถึงอาหารที่ทำให้ตัวเองหิว“ข้าวต้มปลาค่ะ คุณกินได้ไหมคะ ถ้ากินได้ฉันจะตักให้”“เอาสิ หิวจนแสบท้องแล้ว” เอเดนไม่ปฏิเสธ “คุณนั่งเลยค่ะ ฉันจะตักให้กิน” เอเดนทำตามที่สาวแปลกหน้าที่รู้สึกว่ามีความคุ้นเคยบอก มองดูดวงดาราตักอาหารใส่ชามและนำมาวางตรงหน้าตน ก่อนจะนำถ้วยเล็กๆ ที่มีพริก
chapter 4ดวงดารามาถึงคอนโดสุดหรูราคาห้องละสิบเจ็ดล้านของเมญ่าก่อนเวลาที่เจ้าของห้องบอกสิบนาที ห้องชุดห้องนี้ถือว่าใหญ่มากและเป็นแบบสองชั้น อยู่ในย่านเศรษฐกิจที่ไปมาสะดวก มีรถไฟฟ้าผ่าน มีห้างร้านเดินช็อปปิ้งและร้านอาหารหรูครั้งแรกที่ดวงดารามาที่ห้องชุดแห่งนี้ หล่อนไม่ได้ตื่นเต้นกับห้องชุดของเมญ่าเลยสักนิด ตอนไปเรียนต่อที่ประเทศฝรั่งเศส ห้องพักของดวงดาราหรูและแพงกว่านี้ ห้องนี้ถือว่าธรรมดาสำหรับหล่อนมากพอมาถึงห้องชุด ดวงดาราเริ่มทำหน้าที่ของตน หล่อนทำความสะอาดห้องเพียงแค่ปัดกวาดเล็กน้อย เนื่องจากจะมีแม่บ้านที่คอนโดเข้ามาทำความสะอาดห้องอาทิตย์ละสองครั้ง หล่อนจะทำเพียงแค่ในห้องนอนของเมญ่าเท่านั้น ซึ่งตอนนี้เจ้าของห้องยังไม่ตื่น หล่อนจึงนำเสื้อผ้าของดาราชื่อดังที่ทางร้านซักรีดของคอนโดนำมาส่งไปแขวนใส่ตู้เสื้อผ้าที่อยู่ในห้องแต่งตัว ซึ่งเชื่อมต่อกับห้องนอนขณะที่กำลังแขวนเสื้อผ้าใส่ตู้ หูดวงดาราได้ยินเสียงคุยกันในห้องนอน เสียงหนึ่งเป็นเสียงเมญ่า แต่อีกเสียงเป็นเสียงผู้ชายที่ฟังแล้วไม่ใช่พี่โก้ และที่สำคัญทั้งสองสนทนาด้วยภาษาสากล ทำให้หล่อนรู้ทันทีว่า เมื่อคืนนี้มีคนมานอนร่วมเตียงกับเมญ่า
chapter 3 “เธอเป็นอะไรหรือเปล่า” คนที่ถามคือเจ้าของรถยนต์หรูที่ก้าวลงมาจากรถ วิ่งมาหาดวงดาราพร้อมกับพี่โก้ ผู้จัดการส่วนตัว “มันทำอะไรเธอไหม” โก้ถามอีกคน ดวงดาราเอาแต่ร้องไห้ ส่ายหน้าเป็นคำตอบ โก้จึงเข้าไปช่วยพยุงให้ลุกขึ้นยืน “โชคดีนะที่ฉันกับเมญ่ามาทัน ไม่งั้นเธอแย่แน่ๆ เลย” “นั่นสิ ทางนี้ยิ่งเปลี่ยวๆ อยู่ด้วย ฉันว่า เราไปขึ้นรถกันเถอะ ยืนอยู่อย่างนี้ไม่ปลอดภัย” เมญ่า ดาราและนางแบบชื่อดังบอก “บ้านเธออยู่ไหน ฉันจะไปส่ง” โก้เงยหน้ามองเมญ่า เขาแปลกใจกับความใจดีของเด็กในสังกัด ที่เขารู้นิสัยดีว่าเป็นอย่างไร เมญ่าไม่เคยช่วยเหลือใครถ้าไม่ได้ประโยชน์ “เธอจะไปส่งผู้หญิงคนนี้ที่บ้านจริงเหรอ” โก้ถามอย่างไม่แน่ใจ “ก็จริงน่ะสิ ปล่อยไว้อย่างนี้เดี๋ยวได้ถูกลากไปทำมิดีมิร้ายอีกหรอก คราวนี้ใครจะช่วยล่ะ” เมญ่าตอบกลับ “ขึ้นรถเถอะพี่โก้ เมญ่าไม่อยากอยู่ตรงนี้นาน” ว่าแล้วทั้งสามก็รีบเดินกลับไปที่รถ ก่อนที่เมญ่าจะบึ่งรถออกจากซอยเปลี่ยวทันที ถ้าไม่ติดว่า บ้านที่หล่อนมาถ่ายทำละครอยู่ในซอยนี้ เมญ่าไม่มีทางนำพาตัวเองมายังสถานที่น่ากลัว
chapter 2 5 ปีต่อมาเสียงทะเลาะวิวาทดังออกมาจากบ้านไม้ชั้นเดียวกลางชุมชนเล้าเป็ด แม้ว่าเสียงที่ทุกคนได้ยินจะเป็นที่ชินชา แต่สำหรับบ้านใกล้เรือนเคียงคือความรำคาญอย่างหนึ่ง ที่แม้ว่าหลายบ้านจะตักเตือนบ้านต้นเสียงให้ลดเสียงและการโต้เถียงภายในครอบครัวลงบ้าง ทว่าก็ไม่เป็นผล ชาตรีเจ้าของบ้านด่ากลับด้วยถ้อยคำหยาบคาย ผสมโรงกับละมุดคนเป็นเมียที่ช่วยสามีด่าชาวบ้านจนเป็นที่ระอา ไม่มีใครอยากยุ่งเกี่ยว บ้านที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดน่าจะเป็นบ้านข้างเคียงทั้งซ้ายและขวา ไม่ว่าจะยามเช้า สาย บ่ายเย็นรวมถึงรอบดึกก็ต้องได้ยินเสียงภาษาดอกไม้ของสองผัวเมียที่ด่ากันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร ยิ่งตอนคนเป็นสามีเมา ไม่ได้มีแค่เสียง แต่มีการตบตีกันด้วย ตามด้วยเสียงปาข้าวของแตกกระจาย “รำคาญสองผัวเมียคู่นี้จริงๆ ทะเลาะกันได้ทุกวัน สมองฉันคิดอะไรไม่ออกก็เพราะบ้านหลังนี้นี่แหละ วางเพลิงดีไหมเนี่ย”เอกอนันต์ยืนริมหน้าต่าง มองไปยังข้างบ้านที่มีเสียงทะเลาะดังข้ามบ้านมากระทบกับหู ทำให้เขาเสียสมาธิในการทำงานไม่น้อย “แจ้งตำรวจดีไหม ให้มาจัดการซะหน่อย จะได้ลดการทะเลาะลงบ้าง” แฟร