พอคุณแม่เริ่มชื่นชมน้องชายพี่ชาย ทั้งที่เธอน่ะตื่นคนแรกของบ้านมาช่วยแม่ทุกเช้า ตรึงใจคงต้องน้อยใจเป็นธรรมดา หญิงสาวพยายามลืมหน้าตาน่าเกลียดของเจ้าสัตว์ร้าย ไปจับทัพพีที่ทำจากไม้ในหม้อใบใหญ่ คนข้าวให้เข้ากัน อย่างไม่ลืมหน้าที่ตัวเอง
“ไม่ต้องรอหมอเลี้ยงหรอกแม่ กว่าหมอจะเรียนจบอีกนาน ป๋าเปย์อยู่นี่ปะ ข้าวสุกแล้วก็ตั้งร้านไปเถอะค่ะ”
ควันลอยฉุยจากข้าวมันสีเหลืองส่งกลิ่นหอมน่ารับประทาน หน้าตู้กระจกที่มีไก่ต้มแขวนอยู่ในเวลาแปดโมงตรง ทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วเธอจึงล้วงหยิบเงินจากกระเป๋าสตางค์ในผ้ากันเปื้อนลายสวยส่งให้ “เอ้านี่หมื่นนึงค่าทำขวัญมีดหล่น เดือนนี้ได้ค่าคอมฯ เยอะ หนูไปแล้วนะ”
“ว้ายยตาย! ไปเลยค่ะลูก ขอให้เจริญ ๆ”
“สาธุ” พูดพลางยกมือประนม ปลายหัวแม่โป้งจรดหน้าผาก เมื่อเจ้าของร่างอวบในชุดพร้อมทำงานรีบนับเงิน ก่อนเก็บมันลงกระเป๋าหน้า รูดซิปอย่างระวังให้แน่ใจว่าจะไม่ทำหล่น
รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าสวยหวานใต้เครื่องสำอางอ่อน ลูกสาวได้ให้สินน้ำใจกับแม่แล้วก็เดินออกจากทาวน์โฮมสามชั้นสองคูหา ที่เป็นทั้งบ้านและร้านข้าวมันไก่ บึ่งรถประจำตำแหน่ง ซีวิคสีดำเพื่อตรงไปทำงานอย่างภาคภูมิใจ
--------------------------------------
การจราจรติดขัดในชั่วโมงเร่งด่วนของเมืองกรุงเป็นเรื่องปกติ แต่ในเมื่อทางบริษัทอุตส่าห์ให้รถพนักงานใช้ฟรี ๆ ไม่ต้องลำบากเสียเงินไปออกรถเอง ตรึงใจจึงเผื่อเวลาก่อนไปทำงานหลายชั่วโมง วันไหนเข้างานสิบโมงเช้าเธอจะออกจากบ้านสักเจ็ดโมง วันไหนต้องแวะไปหาลูกค้าแต่เช้า เธอก็ตื่นมันซะตีสี่ เลยไม่เคยตอกบัตรเข้างานสาย
เช้านี้เธอแวะมาร้านกาแฟที่อยู่ถัดไปจากร้านตัดสูทประมาณกิโลฯ กว่า เพื่อตรวจทานเอกสารของลูกค้า สาเหตุที่ไม่นั่งร้านกาแฟหน้าร้านตัวเองคงเป็นเพราะคนรู้จักมาหาเรื่องเม้ามอย ยิ่งเป็นพนักงานด้วยกันแล้ว จะมีเรื่องสนทนากันมากมายไม่จบสิ้น
โดยเฉพาะตอนนี้ ข่าวล่ามาแรงในกรุปไลน์แช็ตยังเป็นเรื่องหนุ่ม ๆ
‘ความสวยและฝีมือทำยอดขายทะลุเป้าค่ะคุณน้อง’
‘แหม... ดูคุณพ่อใหญ่เขามองเข้าสิ มีใครไม่เห็นบ้างคะ?’
‘ไม่รู้ใครมาสั่งกาแฟกินสี่แก้ว พี่ปลาไม่เคยเห็นคนกินกาแฟเข้ม ๆ ตั้งสี่แก้ว’
“เม้าอะไรกันไม่รู้ แต่ละคน” บ่นทั้งรอยยิ้มหยัน ทว่าหญิงสาวก็ภาคภูมิใจ เพราะคอร์สเลเซอร์ขนหน้าแข้ง ยกกระชับหน้าเหนียงไม่เสียเงินฟรี! มือเรียววางโทรศัพท์ที่ยังคงสั่นดัง ซึ่งเธอคงปล่อยให้เขานินทากันต่อไป เพราะไม่ได้สนใจเจ้านายหนุ่มหน้าคมแม้แต่น้อย ใช่ว่าเขาหน้าตาไม่ดี แต่เป็นเพราะเธอไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้ชีกอ! ยิ่งได้ยินมาว่าคนนี้น่ะคาสโนว่าตัวพ่อเปลี่ยนผู้หญิงเป็นเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่เคยมีซ้ำหน้า ควงดารานางแบบสาวคนไหนได้ไม่ถึงอาทิตย์ก็เบื่อ ตัวเธอเองก็ไม่คิดจะจับเจ้านายเพื่อก้าวหน้าในหน้าที่การงานอยู่แล้ว
มือหยิบเอกสารขึ้นมาจากกระเป๋าสะพายหนังใบใหญ่ ตามด้วยเครื่องสี่เหลี่ยมที่มีหน้าปัดบอกตัวเลข วางลงบนโต๊ะกลมสีดำสนิท เมื่อมีเรื่องต้องทำก่อนเข้างานคือตรวจสุขภาพ
‘สวยก่อนตายหรือตายก่อนสวย... ชาตินี้ดาวขอสวยก่อนตายค่ะแม่...’
มุกตลกที่ไม่ขำ ตรึงใจเคยพูดคำนี้กับแม่ที่เอาแต่ร้องไห้หน้าเตียงผู้ป่วย ด้วยความที่เธอมีโรคประจำตัว เข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น ค่ารักษาพยาบาลแต่เล็กจนโตมา ทำให้ครอบครัวของเธอลำบาก
แต่ในเรื่องโชคร้ายยังมีโชคดี เมื่อพี่สาวเป็นแรงบันดาลใจให้ ‘ภีมพล’ ตั้งใจเรียน มีผลการเรียนดีมาตลอดจนสอบเข้าคณะแพทย์ มหาวิทยาลัยชื่อดังได้ ว่าที่คุณหมอยังบอกว่าเรียนจบแล้วจะรักษาพี่สาวเอง พร้อมใช้สิทธิ์นายแพทย์ให้คุ้ม ถึงหนทางจะอีกยาวไกลเพราะน้องเพิ่งเข้าปีหนึ่ง
‘น้ำตาลไม่ขึ้น ความดันโอเค...’
พูดในใจ หญิงสาวกลับมามีรอยยิ้มเพราะข่าวดี ตามองหน้าปัดสีน้ำตาลเทาบอกตัวเลขว่าทุกอย่างปรกติ
อุปกรณ์เพื่อสุขภาพในยุคนี้ เทคโนโลยีไปไกลขนาดว่าเข็มดูดเลือดขนาดจิ๋วแทบไม่ทำให้รู้สึกเจ็บ เวลาเจาะลงบนปลายนิ้วยังไม่ทิ้งรอยแผล แน่นอนว่ามันสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายได้ เพราะต่อให้ผู้ป่วยจะมีสิทธิ์รักษาฟรีหรือแม้แต่บัตรทองสามสิบบาท การลาหยุดงานแต่ละครั้งนั่นหมายถึงเงิน
เสียงลอบถอนหายใจดังผ่านริมฝีปากงามกระจับเคลือบลิปสติกสีอ่อน ด้วยความเหนื่อยล้าอ่อนเพลียจากการทำงาน แต่เธอคิดว่าไหว โกโก้ร้อนรสชาติจืดสนิทไร้น้ำตาลในถ้วยทรงสวยบนโต๊ะนั้นเธอยังจิบมันเพียงเล็กน้อย ก่อนจะใช้เวลาไม่นานกับการสวมที่วัดความดันแบบพกพา สวมเข้าไปในแขน ทว่าฉับพลันกันนั้นเอง เลือดหยดหนึ่งที่ไหลหล่นบนกระดาษ ไม่ได้มาจากเข็มเล็กจิ๋วระดับไมครอน ดันเป็นเจ้าตัวขาแหลมเมื่อเช้า
“กรี๊ด! แมงมุม!”
เสียงหวีดร้องลั่นทำคนมองขวับทั้งร้าน แม้ว่าเธอจะนั่งหลบมุมอยู่บริเวณโซฟาเดี่ยวด้านในสุด ตรึงใจอับอายขายขี้หน้าไม่น้อยเมื่อเธอรบกวนลูกคนคนอื่น
“ขอโทษค่ะ ๆ!” เสียงหวานเลิ่กลั่กยกมือขอโทษ ใบหน้าสดสวยซีดเผือด ยิ่งพอก้มลงมองบนโต๊ะแล้วมันไม่มีอะไร เธอรีบเก็บของทุกอย่างยัดใส่กระเป๋า มือผลักประตูกระจก กระวีกระวาดออกจากร้าน ไปถึงรถยนต์แล้วเธอยังยกปลายนิ้วขึ้นมองอย่างตกใจสงสัย หลังจากที่โดนเจ้าแมงมุมจิ้มนิ้วด้วยขาแหลม ๆ ของมัน ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลย แมงมุมมันโผล่มาจากไหน!
ตรึงใจเพิ่งรู้ตัวว่าโดนหลอก! ทว่าเธอกลับไม่ได้โกรธเขาเลย ตาลอบมองกรามแกร่งของบุรุษรูปงาม แม้หัวคิดถึงความฝันอันมืดมิดน่ากลัว ร่างใหญ่ทะมึนของแมงมุมยักษ์แทบแตกเป็นเสี่ยง เมื่อถูกรุมทำร้ายด้วยอาวุธร้ายกาจสารพัดจะจินตนาการได้ จากฝีมือของชายร่างกำยำที่น่ากลัวเหล่านั้น แต่เขาไม่ยอมพ่ายแพ้ ไม่แพ้ทั้งกับความเจ็บปวดและตัวเธอ เขาสู้พอ ๆ กับเธอ“ไม่ต้องกลัวนะ การแพทย์เดี๋ยวนี้ก้าวไกลกว่าสมัยก่อนเยอะ มีเงินซะอย่าง มีเงินก็ต่อชีวิตได้ ไปหาหมอฉีดยาก็หาย ไม่เหมือนสมัยก่อน คนเกิดง่ายตายง่าย ติดโรคไม่มียารักษา โลกเรามันพัฒนาไปเรื่อย ๆ แหละครับ แต่ถ้าไม่หาย...” ใบหน้าหล่อเหลาแสยะยิ้ม ชำเลืองมองดวงตาแดงก่ำที่เบนหลบไปอย่างเง้างอน “จะฉีดยาซ้ำให้อีกเข็ม...”“ฉีดยาอะไรกัน ดาวขอพี่กอดมาตั้งหลายวันพี่ยังไม่ให้ดาวกอดเลย... มาทำเป็นพูดดี...”“พูดจริงครับ ไม่ได้โกหก พี่เคยโกหกดาวที่ไหน? บอกจะให้ก็ให้ครับ”“ไม่เชื่อค่ะ พี่หลอกดาวอีกแน่นอน” พูดเท่านั้น เธอคงนึกแผนการบางอย่างได้ “หลับตาให้ดาวดูก่อนว่าไม่ได้หลอก ทำให้ดาวได้หรือเปล่า”แน่ล่ะว่าคนรู้ทันคงไม่ทำ ทว่าใบหน้าสดสวยพลันขยับเข้าหาคนที่ปิดปากเธอเอาไว้ด้วยฝ่าม
ต่างคนมองหน้ากันไปมาอย่างสงสัย พวกเขาคงอยากรู้นักว่านรกเป็นยังไง ยังไม่มีใครเข้าใจเรื่องที่เจ้านายพูดเลยสักคำ! แต่เพราะกำลังเป็นห่วงมากกว่า ชายร่างสูงใหญ่กำยำดูซูบผอมลง ขอบตาดำคล้ำเหมือนคนอดหลับอดนอนมาเป็นอาทิตย์ ๆ“นายควรจะกินอะไรบ้างนะครับ เอาแต่นั่งหลับตาตรง พยาบาลตกใจกลัวกันไปทั้งวอร์ดแล้วนาย”“ฉันโทรสั่งข้าวให้บอสหลายมื้อแล้วนะคะ อย่าปล่อยให้อาหารเย็นชืด คุณดาวเธอฟื้นขึ้นมาจะเป็นห่วงบอสนะคะ”“นั่นสิ... เหมือนจะ... ปวดท้อง”ชายหนุ่มเพียงหรี่ตาเท่านั้นเมื่ออาการเจ็บปวดของร่างกายมนุษย์กำเริบ เขายังเห็นว่าลูกน้องเริ่มมีสีหน้าหวาดกลัวตามคุณหมอคุณพยาบาลคงไม่ใช่แค่นั่งอดข้าวอดน้ำไม่พูดจากับใคร ดันมีข่าวลือว่าเห็นแมงมุมแม่ม่ายดำเดินไปเดินมาในห้องผู้ป่วยพิเศษก่อนที่พวกมันจะหายไป ตกดึกยังมีเสียงกรีดร้องโหยหวนยังกับโรงพยาบาลผีสิง ทั้งที่มันไม่เคยมีมาก่อนถึงเป็นเช่นนั้น พันวาแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมแพ้ ไม่มีวัน! ใบหน้าเข้มเครียดเหนื่อยล้าหันไปบอกทั้งสามคน “ขอบคุณทุกคนนะครับ เอาเป็นว่าผมจะดูแลตัวเอง ไม่ต้องห่วง”--------------------------------------‘อดทนนะดาว กลัวแค่ไหนเจ็บแค่ไหนก็ต้องทน... ถ้
โลกสีดำทะมึนมีเพียงแสงสลัวจากเทียนเล่มเล็กที่ใกล้จะมอดดับ ถัดไปจากโต๊ะไม้เก่าข้างเตียงเหล็ก ผนังปูนถูกฉาบด้วยคราบเปรอะเปื้อนปะปนไปกับรอยเลือดเป็นทางยาว เตียงผู้ป่วยรายเรียงติดกันจนสุดทางเดินขนานไปกับหน้าต่าง ข้างนอกนั้นไร้ท้องฟ้าและแสงดาว มันมืดสนิท!กรอกแกรก... ซ่อกแซ่ก...ดวงตาคู่สวยสั่นไหวส่ายมองไปรอบ ๆ ห้องเงียบสงัด คล้ายว่าจะเป็นโรงพยาบาลร้าง ดวงหน้าขาวซีดก้มลงมองผ้าปูเตียงขาดวิ่น ชุดผู้ป่วยเสื้อกางเกงสกปรกแบบผูกข้าง ก่อนขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัย‘ที่นี่ที่ไหน... แล้วนั่น... เสียงอะไร?’ เธอตัดสินใจชะโงกคอหาต้นตอของเสียงจากใต้เตียงด้วยความอยากรู้อยากเห็น กองเลือดเป็นเส้น ๆ ลักษณะคล้ายรอยเล็บใครสักคน ขูดลากไปกับพื้นหินอ่อน เรือนผมสีดำเลื่อนหายไปทำเอาหายใจเข้าออกไม่ทั่วท้อง ทันใดนั้นเอง ปลายนิ้วเหี่ยวย่นเกาะหมับเข้าที่กั้นเตียงเหล็กพาเสียงแหลมเล็กหวีดร้องลั่น“กรี๊ดดดดดดดดด!”ร่างบอบบางกระโจนวิ่งสะเปะสะปะไร้ทิศทาง ไม่รู้เนื้อรู้ตัว พอปะเข้ากับลุงแก่ขาขาดหันมาอ้าปากกรีดร้องจนช่องว่างวงรีนั้นขยายออกกว้างกลายเป็นโพรงสีดำ ก่อนกระเสือกกระสนลนลานกระโดดจากหน้าต่าง เธอแทบสิ้นสติ! ยืนต
พันวาไม่คิดมากกับงานโอน ด้วยความเป็นเจ้านายใจดีสายเปย์อยู่แล้ว นาดีนเองก็ทำงานดีและเขาคงไม่อยากหาเลขานุการคนใหม่ ทุกอย่างจึงกลับมาเป็นเหมือนเดิม เขาออกไปทำธุระประปรัง ทำงานกลับบ้านเช่นทุกวัน แวะไปพูดคุยกับคุณแม่เรื่องสินสอดจนสำเร็จ ขอให้เป็นค่าเทอมของลูกชายคนเล็กก็ยังดี นักศึกษาแพทย์ยังต้องใช้ทุนการศึกษาอีกมากกว่าจะเรียนจบฤกษ์งามยามดีถูกกำหนดเอาไว้แล้ว... เหลือแค่... เจ้าสาวของปีศาจด้วยรู้สึกเคลิบเคลิ้มกับบรรยากาศอบอวลความสุข แม้แต่ว่าที่เจ้าสาวยังไม่ถือสาคำพูดเล็ก ๆ น้อย ๆ รักไม่รักค่อนข้างเป็นเรื่องไร้สาระ รอยยิ้มร่าเริงจึงปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลาในทุกย่างก้าวเดิน ตาสบเข้ากับเจ้าของร่างบางในเดรสกระโปรงสีขาวแขนพอง เธอพยายามปกปิดเรือนร่างผอมบางแทบเห็นกระดูก ผ่านค่ำคืนหวานมาด้วยกัน เขารู้ว่าเธอซูบผอมลงมาก“บอสคะ... คุณดาวเธอ... บอกว่าสบายดีแต่ฉันคิดว่าเธอมองไม่ค่อยเห็นนะคะ เธอบอกว่าเห็นหยากไย่แต่ว่าฉันไม่เห็น ฉันไม่แน่ใจเรื่องนี้แล้วเธอเดินสะดุด เตะนู้นนี่หกล้มจนเท้าบวม...”สีหน้าของคนไกล ๆ ดูแปลกไป จนเขาต้องหรี่ตามองคนที่รีบลุกขึ้นเดินมาหาแต่หันไปถามเลขาฯ“ทำไม... ผมไม่รู้เรื่องนี้?”ซ
ในเมื่อรับปากเอาไว้แล้วก็ต้องทำ หลายค่ำคืนมานี้ตรึงใจจึงงัวเงียตื่นขึ้นมากลางดึก ผลักกายขึ้นคร่อมทับบนเรือนร่างกำยำรุ่มร้อน สบมองนัยน์ตาสีอำพันเปล่งประกายดิบเถื่อนใต้แสงนวลสลัวด้วยอารมณ์ไม่ต่าง ถึงแม้ว่าขาแหลมราวเข็มทั้งแปดจะพลันผลักเธอให้ลงไปอยู่ใต้อาณัติ ครึ่งปีศาจหนุ่มดูดุดันเชื่อมั่นในสัญชาตญาณเหมือนสัตว์ร้ายที่พร้อมฉีกร่างเหยื่อ เธอยังคงโอนอ่อนตามเขาทุกครั้งไปเปรียบดังว่าเขาเป็นลมหายใจ เป็นชีวิตของเธอโดยเต็มใจยินดี ราวกับว่าเธออาจขาดใจตายตรงนี้หากว่าเขาไม่ได้ดูดดื่มกลืนไอสีแดงเข้มไปจากริมฝีปากเพื่อเติมเต็มความหิวกระหาย แม้แต่เขี้ยวที่ยาวพ้นออกมาขบกัดบนผิวกายจนเป็นรอยแดง ดวงตามากมายเบื้องหน้าไม่สามารถทำให้เธอหวั่นกลัวได้อีกไม่ว่ารูปลักษณ์ภายนอกของเขาจะเป็นอย่างไร เธอเชื่อว่าเขายังเป็นพี่พันวาบนเตียงนุ่มนี้จึงกลายเป็นสรวงสวรรค์ หากว่าเขากอดเธอแน่นด้วยกล้ามเนื้อที่เกร็งจัดเธอจะกอดตอบอย่างเดียวกัน ตราบจนได้ยินเสียงคำรามลั่น ร่างกายพร่างพราวด้วยเม็ดเหงื่อหยุดขยับฝังแก่นกายเข้าลึกพร้อมมอบจุมพิตให้เธออีกครั้งแสงสีนวลสาดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างกระทบลงบนใบหน้าหล่อเหลาที่เลื่อนมาพรมจูบบน
ข้อเสนอน่าสนใจขนาดนั้น! พันวาคงยอมเธอทุกอย่าง อย่าว่าแต่ให้กลับร่างปีศาจนั่งปิกนิกในสวนหลังบ้านตัวเองเลย เธอบอกให้ถอดเสื้อผ้าทุกชิ้นออกเพราะไม่อยากให้มันขาด เสียดายเงินเสียดายเสื้อราคาแพง เขาก็ตามใจปลดกระดุมทีละเม็ดด้วยแววตาประกายปรารถนา กองทั้งหมดไว้บนฟูก ยอมนั่งนิ่งมองผ้าผืนยาวสีชมพูแปร๋นสี่เส้นผูกทับกันเป็นโบว์บนขาทั้งหน้าหลัง รอยยิ้มแสนภาคภูมิใจของหญิงสาวที่ส่งเสียงหัวเราะคิกคัก ทึกทักตนว่าเป็นอลิซในวันเดอร์แลนด์! แต่ว่ามันไม่มีแมงมุม ปีศาจภาพลวงตาอย่างเขาจะกลายเป็นกระต่ายยักษ์ได้ด้วยไหมนะ ตอนนี้เธอยังไม่รู้เลยว่าเขาสนใจเธอบ้างหรือเปล่าพันวาไม่สามารถตอบคำถามเหล่านั้น เขาไม่สามารถอ้าปากพูดภาษามนุษย์ในร่างของแมงมุม และต่อให้เขาสื่อสารอย่างแมงมุม เธอก็คงไม่เข้าใจความหมายอยู่ดี ในร่างสัตว์ตอนนี้เป็นไปอย่างธรรมชาติสรีระ แม้แต่ขาขนาดใหญ่ แหลมยาวและคมราวเข็มหมุดทำให้การนั่งเป็นเรื่องยาก แมงมุมยังไม่สามารถเคลื่อนส่วน cephalothorax (หัว) ได้ พวกมันใช้ดวงตารับรู้การเคลื่อนไหว โฟกัสติดตามภาพด้วยกล้ามเนื้อตา เธอจึงแทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าถูกจ้องมองด้วยนัยน์ตาคู่สวยสีอำพันทั้งแปดปีศาจอย่างเขาย
เป็นครั้งแรกที่ลูกน้องไม่เข้าข้าง! เจ้านายพยายามขยิบตาให้นายสารถีผ่านกระจกมองหลัง อัฟซาก็ทำเป็นไม่สนใจ ตั้งหน้าตั้งตาขับรถ ขณะที่หนุ่มอีกคนเริ่มเล่าประสบการณ์ผ่านคนในครอบครัว“ผมได้ยินมาว่าผู้ป่วยเบาหวานไม่ใช่น้ำตาลสูงแล้วจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอย่างเดียวนะครับ... คือ... ป้าผมก็เป็นเบาหวาน...ป้าผมเนี่ย... หิวบ่อย ใจสั่น ตาลาย แกขี้กังวลด้วย พอแกกินน้ำตาลเข้าไปมันก็พอหายจากอาการนี้นะ ดีขึ้น แต่พอแกทำแบบนี้บ่อย ๆ มันยิ่งไม่ดี หมอบอกว่าควรควบคุมให้อยู่ในระดับพอดีครับไม่เหวี่ยง ไม่สูงไปต่ำไป แต่คนแก่ขี้หลงขี้ลืม กินอาหารไม่ตรงเวลา บางทีก็ไม่กินเลย แกฉีดอินซูลินกินยาไม่ถูกเวลา กินผิดกินถูก พอเกิดภาวะน้ำตาลต่ำ แกล้มตึงไปเลย”“แล้วตอนนี้ป้าเป็นยังไงบ้างล่ะ? มาร์คัส ดีขึ้นไหม...”“เผาไปแล้วครับ แกไตวายด้วย วันเดียวไปวัดเลย”“ขอบใจนะ สำหรับคำแนะนำ...” พูดพลันหันไปทางคนตัวเล็กด้วยรอยยิ้ม “ได้ยินไหมครับ ไปวัดจองเมรุเผาเลย”คนฟังถึงกับหน้าซีดเจื่อน ก้มหน้ากำถุงกระดาษยาหลายใบจากโรงพยาบาลเอกชน กระทั่งรถจอดลงหน้าบ้าน ลูกน้องของเขาลงจากรถมาเปิดประตูให้อย่างรู้หน้าที่ เธอเลื่อนมือไปจับกุมมือหนาด้วยสีห
เพราะไม่พอใจคนที่ไม่สนใจกันเลย ร่างสูงในเชิ้ตหล่อเหลาเลยสลัดเสื้อออกโยนลงพื้น กระโดดลงสระว่ายน้ำกลางบ้าน ตูมเดียว! แววตาเร่าร้อนของเหล่าสาวน้อยใหญ่ก็พุ่งตรงมายังเรือนร่างกำยำอันสมบูรณ์แบบ กำลังผุดดำผุดว่ายประหนึ่งเงือกหนุ่ม พอเขาถอดกางเกงแสล็คดำออก เหลือกางเกงชั้นในไว้ตัวหนึ่งให้พอลุ้นระทึก ดำน้ำหายไปแล้วโผล่ขึ้นมาสะบัดศีรษะจนเส้นผมเปียกหมาดยุ่งเหยิง ดูไม่ตั้งใจแต่เจตนายั่ว สาว ๆ เลยมานั่งจิบไวน์รอบสระกันเสียหมด รวมถึงตรึงใจ... เธอดื่มไปหลายแก้ว จนรุ่งเช้ามา อาการปวดศีรษะอาเจียนกลางดึกทำให้เธอสิ้นฤทธิ์ไปพร้อมอาการเมาค้าง เปิดเปลือกตาหนักอึ้งในสีหน้าเหยเก“ตื่นแล้วหรือ? ไงล่ะ ทิ้งพี่พันวาหนีไปเมาคนเดียว” ทั้งน้ำเสียงและแววตาอ่อนโยนผิดเป็นคนละคน ในอ้อมแขนที่กอดกระชับกายสาวไว้ให้อบอุ่นตลอดคืน ตรึงใจเพิ่งรู้สึกตัว หลังเมาแอ๋จนต้องให้คนต้นเรื่องอุ้มขึ้นบ้านมา ยังว่าเขาเป็นพวกขี้อวดกล้ามบ้าง อีตาโรคจิตบ้าง ร้ายที่สุดคงว่าเขาเป็นแมงมุมยักษ์ตัวเท่าฝาบ้าน! ดีที่ไม่มีใครได้ยิน“วันหลังไม่ให้กินแล้วนะ ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจเลย ป่วยขึ้นมาจะทำยังไง? หืม...”“ดาวขอโทษค่ะ ดาวขอนอนก่อนนะคะ ปวดหัว”“ก
“ให้ใครล่ะครับ? ตอนนี้มีคนเดียว” พูดพลางยกแก้วไวน์ขึ้นจรดริมฝีปาก ขณะที่เขากำลังรอจังหวะเหมาะ ๆ พอเธอหันไปอีกทางเหมือนงอนอะไรสักอย่าง โน้มใบหน้าลงปิดริมฝีปากอิ่มงาม มือบีบกรามน้อยให้ยอมอ้าปากรับน้ำองุ่นขมปนหวาน“อร่อยไหมครับ?”“อื้ม... ค่ะ อร่อย” ตรึงใจคงไม่รู้ตัวว่าท่าทางเขินอายหลังได้ลิ้มชิมไวน์องุ่นราคาแพง อาจทำให้หนุ่มเพลย์บอยกลายเป็นแมวเชื่อง ๆ ตัวหนึ่ง เมื่อเขาจ้องลึกลงไปในดวงตาคู่สวยใสโดยไม่ปิดบังความรู้สึก“จิบไวน์มื้อค่ำอาจดีต่อผู้ป่วยเบาหวาน พี่เคยอ่านบทความทางการแพทย์อยู่บ้างนะ ไม่ดื่มเยอะคงไม่เป็นไร”“อ้อ ถ้าอย่างนั้นดาวกินสักแก้วคงไม่เป็นไร”เธอคงอยากคว้าทั้งขวดมากระดกให้หมด แต่เพราะอุณหภูมิในกายสาวพุ่งปรี๊ดปรอทแตกเพียงเพราะแววตาเร่าร้อนตรงหน้า พอเลื่อนมือไปรับแก้วไวน์มา เขาก็คว้าข้อมือเรียวด้วยรอยยิ้มมีเลศนัย ก้มลงบดริมฝีปากเธออีกครั้ง พร้อมส่งผ่านเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หอมหวาน กว่าจะปล่อย คนถูกระรานเลยยกปลายนิ้วขึ้นแตะริมฝีปาก“น่าอายนะ มาจูบดาวต่อหน้าคนเยอะแยะ”“เพื่อนพี่ต่างชาติกับเด็กนอกทั้งนั้นครับ ไม่มีใครถือ พี่อยากจูบดาวพี่ก็จูบ พี่จะทำอะไรกับอาหารมื้อค่ำก็ได้” พูด